นางแค้น ตอนที่10
กะเพราใช้กิ๊บดำสองอันไขลูกบิดประตูจนสำเร็จ
"เปิดได้แล้วค่ะ"
"รีบเข้าไปดูกันเถอะ"
ทั้งสองคนต่างรีบเดินเข้าห้องมดแดงไป
ตั้งโอ๋กับกะเพราเข้ามาในห้องมดแดงมองดูรอบๆ
" ช่วยกันค้นนะพี่ บางทีเราอาจจะเจออะไรอีกก็ได้"
"คุณตั้งโอ๋สงสัยว่าเจ๊มดแดงจะเป็นฆาตกรหรือคะ"
ตั้งโอ๋จุ๊ปาก "ชู่ว ... เบาๆสิ มันก็มีสิทธิ์ทั้งเป็นได้ แล้วก็ไม่ได้ เราถึงต้องมาค้นดูไง " ตั้งโอ๋พยักหน้าให้ "ลงมือเถอะ"
ใครบางคนกําลังเดินขึ้นบันไดมา ลึกลับ ตื่นเต้น
ตั้งโอ๋กับกะเพราช่วยกันรื้อค้นห้องมดแดงอย่างขะมักเขม้น
เงาที่ผนังเดินใกล้เข้ามาที่หน้าห้อง
ตั้งโอ๋เปิดตู้ ดูไม่มีอะไรแล้วก้มลงไปดูที่พื้นใต้ตู้ เห็นกระเป๋าเดินทางใบหนึ่ง ตั้งโอ๋ลากออกมาดู
ตั้งโอ๋เปิดกระเป๋าออก เห็นมงกุฎมิสควีนพาราไดซ์ของซินดี้อยู่ในนั้น
" ฮึ มงกุฎมิสควีนพาราไดซ์ !!"
กะเพราหันมามอง อึ้ง
ตั้งโอ๋หยิบขึ้นมาดู
ประตูห้องเปิดออก แอ้ด
ตั้งโอ๋กับกะเพราตกใจ หันไปมองนึกว่ามดแดงเข้ามา กลายเป็นโกกิเข้ามาแทน!!!
"ทำอะไรกันน่ะ" โกกิถาม
ตั้งโอ๋กับกะเพราโล่งอก
"โธ่ คุณโกกิเองหรือคะ ใจหายใจควํ่าหมด"
" นี่พวกแกมาค้นห้องเจ๊มดแดงทำไม หรือว่าจะ ขะ...(จะตะโกนว่าขโมย)"
ตั้งโอ๋รีบวิ่งไป ปิดปากโกกิ "อย่าร้องนะ เธอเองก็เข้าห้องคนอื่นยามวิกาล ทำไม"
โกกิดึงมือตั้งโอ๋ออก
"ฉันจะมาซื้อบะหมี่สำเร็จรูปจากอีเจ๊ ไม่ได้มาขโมยย่ะ"
กะเพราบอก " พวกเราก็ไม่ได้เป็นขโมยเหมือนกันค่ะ แค่เราสงสัยอะไรบางอย่าง"
กะเพราหลิ่วตาไปที่มงกุฎ
โกกิมองตาม
"มงกุฎมิสควีนพาราไดซ์ของพี่ซินดี้!!! มันมาอยู่ในห้องเจ๊มดแดงได้ไง"
มดแดงเพิ่งกลับเข้ามา ยืนที่ประตูพูดขึ้น
มดแดงตกใจเหมือนกัน
"ฉันไม่รู้"
ตั้งโอ๋และทุกคนหันมองเป็นตาเดียว
โกกิบอก "เจ๊อย่ามาโกหก เจ๊อิจฉาที่พี่ซินดี้สวยกว่า ดังกว่า ใช่มั้ย เจ๊เลยฆ่าพี่ซินดี้"
"มะ ไม่จริง"
"กะเพราว่าให้ตำรวจเป็นคนสอบสวนดีกว่าค่ะ คุณตั้งโอ๋ค่ะ โทร.เลย"
มดแดงเห็นท่าไม่ดีรีบวิ่งหนีออกไปเลย ทุกคนโวยวายวิ่งตาม
" เจ๊มดแดง หนีไปแล้ว" โกกิบอก
"ตามไปเร็ว" กะเพราว่า
ตั้งโอ๋ถือมงกุฎมิสควีนพาราไดซ์วิ่งตามลงไปด้วย
มดแดงวิ่งหนีลงบันไดไป
ทุกคนวิ่งตามลงไปเป็นหางว่าว
มดแดงวิ่งหนีออกไปจากอพาร์ทเม้นท์
ทั้งหมดตามออกหน้ารั้ว พอดีรถบุลินขับเข้ามาเสียก่อน
บุลินกับกานดาเปิดประตูรถลงมา
"เกิดอะไรขึ้น" บุลินถาม
ตั้งโอ๋ชูมงกุฎให้ดู
"พวกเราเจอมงกุฎพี่ซินดี้ในห้องเจ๊มดแดง"
บุลินเห็นมงกุฏแล้วอึ้ง
"หมวดรีบตามไปเถอะค่ะ ยายเจ๊พึ่งหนีไปเมื่อกี้"
"กานดาจัดการทางนี้ ผมจะตามไปเอง"
บุลินรีบวิ่งตามมดแดงไป
มดแดงวิ่งเข้าไปในที่เก็บของเก่ารกๆ
บุลินวิ่งตามเข้ามามองหา
"มดแดง ออกมาเถอะคุณหนีไม่พ้นหรอก"
มดแดงไม่สนใจ เดินลุยหนีไปเรื่อยๆ แล้วเข้าไปซ่อนอยู่ที่มุมหนึ่ง
บุลินตามเข้ามาหา
มดแดงมองลุ้นว่าจะเห็นมั้ย
บุลินสอดส่องมองหาแล้วหาไม่เจอ จึงเดินเลยออกไป
มดแดงโล่งแต่แล้วมือถือมดแดงกลับดังขึ้น มดแดงหน้าเสีย
บุลินหันขวับไปตามเสียงแล้วชักปืนออกมาเล็งตามสัญชาตญาณ
มดแดงตกใจรีบลุกขึ้นชูมือยอมแพ้
" อย่ายิง ฉันยอมแล้วฉันไม่หนีแล้ว"
จ่ายอดจ่าโอเข้ามา ทั้งสองเข้าไปจับกุมมดแดง
บุลินสั่งขึ้น
" พาตัวไปโรงพัก ผมจะสอบปากคำเอง"
บุลินสอบปากคำมดแดงอยู่
" ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้เรื่อง ฉันไม่รู้จริงๆว่าไอ้มงกุฎบ้าบอนั้นเข้าไปอยู่ในห้อง
ฉันได้ยังไง"
" เจ๊คิดว่ามีคนใส่ร้ายอย่างนั้นหรือ"
"ใช่แล้วหมวด มันต้องมีคนคิดกลั่นแกล้งฉันแน่ๆ หึ อย่าให้รู้นะว่าเป็นใคร แม่จะเหยียบให้ดิ้น ยิงให้ตายเป็นผี..." แล้วมดแดงก็หน้าเสีย นึกถึงซินดี้ขึ้นมา "ฮือ ฮือ ฮืออ ผีซินดี้ ต้องเป็นมันแน่ๆเลย หมวด" มดแดงจับแขนบุลินเขย่า "ผีอีซินดี้แน่ๆ มันอยากให้ฉันติดคุก มันใส่ความฉัน"
" ถ้าเจ๊เชื่อว่าผีซินดี้กลั่นแกล้งเจ๊ ซินดี้จะกลั่นแกล้งเจ๊แบบนี้ทำไม"
"ฉันจะไปรู้เหรอ ฉันไม่ใช่ผี"
" แล้วเป็นไปได้ไหม ซินดี้กําลังจะใบ้ให้เรารู้ว่าคนที่ฆ่าเธอ ก็คือเจ๊"
" บ้าแล้วหมวด ฉันไม่ใช่ฆาตกร จะให้ฉันสาบานเจ็ดวัดเจ็ดวาก็ได้ ฉันไม่ใช่คนฆ่า
อีซินดี้"
กานดาวิ่งเข้ามาพร้อมเอกสารในมือ
"พี่หมวด ฉันเช็คดูมงกุฎมิสควีนพาราไดซ์แล้วนะ"
" พบอะไรไหม"
กานดายื่นกระดาษให้บุลินดูประกอบ
"ปรากฏว่าเพชรทั้งหมดเป็นของปลอม"
มดแดงหัวเราะชอบใจ
"ฮ่าฮ่าฮ่า นังซินดี้นังนางงามมงกุฎเก๊ น่าสมเพชจริงๆ ฮึ ฉันจะบอกให้นะหมวด ถ้ามันเป็นเพชรจริงเนี่ยมันน่าหน่อย แต่ของเก๊ๆ แบบนี้ คนอย่างเจ๊มดแดงไม่ขโมยมาให้รกห้องหรอก"
" เงียบๆหน่อยน่าเจ๊" บุลินถามกานดา "พบอะไรอีกมั้ย"
กานดาชี้ที่เอกสาร
"นี่พี่หมวด มันมีชื่อย่อของสปอนเซอร์รายใหญ่สลักติดไว้ด้วย"
บุลินดูเอกสารอ่านชื่อกรรมการ
" นายสุทิน หาญสุข"
บุลินเงยหน้าขึ้นนึกแว่บภาพตอนที่ซินดี้พูดกับบุลิน
"มงกุฎมิสควีนพาราไดซ์"
" มงกุฎมิสควีนพาราไดซ์ ทำไม มันเกี่ยวข้องกับฆาตกรเหรอ"
ซินดี้ไม่ตอบ
แล้วอยู่ๆ เสียงก็ดังขึ้นมารอบทิศ
บุลินปวดหัวแทบจะแตก ร้องลั่น แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองร่วงลงไปในโพรงมืดดำกลางอากาศ
" อ๊าก"
ระหว่างนั้นมีเสียงซินดี้หัวเราะดังแทรกขึ้นมา
"หาให้เจอ บุลิน หาให้เจอ"
บุลินพึมพำ พร้อมมองดูที่รูปมงกุฎในกระดาษ
" หาให้เจอ หาให้เจอ"
บุลินฉุกคิดขึ้นมา
"หรือว่าจะเป็นหมอนี่"
"อะไรนะพี่หมวด"
บุลินลุกขึ้นหยิบเสื้อแจ็กเก็ตขึ้นมา เตรียมออกไปข้างนอก
" ไปกานดา ไม่มีเวลาแล้ว"
"เฮ้ย... ไปไหนอ่ะ รอด้วย"
กานดาวิ่งตามบุลินไป มดแดงร้องถาม
" อ้าว... ไปไหนกันหมด แล้วฉันล่ะ จะให้ฉันทำยังไง งง"
คืนนี้เป็นคืนก่อนวันพระ พระจันทร์เกือบเต็มดวงบนฟากฟ้า
บุลินและกานดา กระโดดลงจากกําแพงเข้ามาในรั้วบ้านที่ดูมีฐานะหลังหนึ่ง บรรยากาศเงียบสงัด
บุลินจะเดินนำ กานดาดึงแขน
"พี่หมวด ไม่มีหมายค้นนะ"
" ขืนรอหมาย ก็ไม่ทันพวกฆาตกรพอดี"
บุลินเดินไปเลย กานดามองตามพึมพำขึ้น
"เฮ้ย... พี่หมวดจะใจร้อนไปไหน แน่ใจได้ไงว่านายนี่เป็นฆาตกร"
กานดาร้องถาม
บุลินจับลูกบิดประตู ไม่ได้ล็อก เปิดประตูด้านหลังย่องเข้าไปในบ้านได้
บรรยากาศชั้นล่าง มืดๆ เห็นเป็นเพียงเงาตะคุ่มๆ ในบ้านดูหลอน วังเวง
แล้วทั้งสองย่องเข้ามาที่มุมหนึ่ง กานดากวาดสายตาสอดส่องจนสายตาไปปะทะกับดวงตาคู่หนึ่ง
ในความมืดที่เป็นประกายวาวขึ้นมา
กานดาสะดุ้งแล้วตั้งสติ สะกิดให้บุลินดูสายตาคู่นั้นก็ยังจ้องนิ่งอยู่
บุลินชักปืนออกมาในทางเตรียมพร้อมแล้วพยักหน้าให้กานดาเข้าไปลุยกัน
กานดาพยักหน้ารับแล้วหยิบมือถือออกมาเตรียมพร้อม
ทั้งสองก้าวเข้าไป บุลินยกปืนส่อง กานดาฉายไฟมือถือไป
หมาตัวเล็กๆโดนแขวนหลังคอกับตะขอที่แขวนหมวก ลิ้นห้อยจุกปาก พุงโดนกรีดไส้ไหล
กานดาร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ สยองขวัญ
บุลินตะลึงไปด้วย แล้วหันขึ้นไปมองที่ชั้นบน ได้ยินเสียงจากทีวีแว่วดังลงมา
บุลินกับกานดารีบวิ่งขึ้นบันไดไปชั้นบน
บุลินแยกไปดูที่ห้องนํ้า เมื่อเปิดเข้าไปแล้ว ไม่เห็นอะไร มองที่เตียงไม่มีใครนอน
ทันใดนั้นเสียงกานดาร้องเรียกดังลั่นเข้ามา
"พี่หมวด"
บุลินวิ่งออกไป
ห้องดูทีวี ซึ่งเป็นห้องที่แยกมาจากห้องนอน
กานดายืนดูอะไรบางอย่างอยู่ด้วยความสยดสยอง
บุลินก้าวเข้ามาด้านหลังโซฟา เห็นศีรษะสุทินโผล่พ้นขอบโซฟาแพลมๆที่พื้นมีเลือดหยดติ๋งๆลงพื้น
บุลินก้าวเข้าไปยืนข้างกานดา เห็นภาพสุดสยองของสุทินที่ตายตาค้าง เปลือยท่อนบน ส่วนท่อนล่าง
มีผ้าปูที่นอนสีขาวที่เปื้อนเลือดแดงฉาน ที่ปากของสุทินคาบแผ่นซีดีแผ่นหนึ่ง
ไว้ด้วยและที่พื้นเห็นมีดเปื้อนเลือดปักอยู่บนชามข้าวหมาที่มีเศษเนื้อโดนสับเละอยู่ในนั้น
บุลินมองอย่างอึ้งไม่อยากเชื่อสายตา
ต่อมา รถตำรวจเข้ามามาจอด เปิดไฟหวอ วิบวับ นายตำรวจจับกลุ่มกันคุยงานอยู่
รถเก็บศพ เตรียมขนอุปกรณ์กันขะมักเขม้น
บุลินยืนคุยกับเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่อ่านรายงานให้ฟัง ด้านหลังบุลินมีเจ้าหน้าที่ถ่ายรูปศพ พิสูจน์รอยนิ้วมืออยู่วุ่นวาย
เจ้าหน้าที่1 รายงาน
"จากการสันนิษฐานเบื้องต้นนะครับ ...ในห้องไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ไม่พบรอยนิ้วมือแฝงของบุคคลอื่น คาดว่าผู้ตายน่าจะฆ่าสุนัขแล้วฆ่าตัวตายด้วยการเฉือนอวัยวะเพศตัวเองเอามาสับจนเละแล้วช็อกตายจากการเสียเลือดมากเกินไปครับ"
บุลินอึ้งๆแล้วพูดขึ้น
" ช่วยเช็คประวัติสุขภาพทั้งหมดของผู้ตายให้ด้วยนะครับ"
บุลินเหลือบมองเห็น กานดาถือแผ่นดิสต์ ที่ใส่ในถุงซิปล็อก เดินผ่านมา
บุลินเรียก "กานดา เรียบร้อยมั้ย"
"ครับผม ทุกอย่างเป็นไปตามที่พี่สั่ง เดี๋ยวฉันเอาแผ่นดิสต์ไปเก็บก่อนนะพี่"
" เดี๋ยวก่อน" บุลินดึงแผ่นไปดู "แปลก นายสุทินจะคาบแผ่นดิสต์ไว้ทำไม"
"ก็ไว้กันเจ็บไงพี่"
" แต่ไม่เห็นมีรอยฟันเลยไม่ใช่เหรอ ลักษณะเหมือนยัดเข้าปากไว้เฉยๆ ....พี่ว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างแล้วล่ะ"
บุลินถือแผ่นดิสต์เดินหลุดออกไปทางหนึ่ง
บุลินเอาแผ่นใส่ในโน้ตบุ๊ค
กานดาตามเข้ามาดูด้วย
"ไหน ฉันดูด้วย"
ภาพบนจอปรากฏขึ้น มันเป็นเหตุการณ์ที่ล่วงมาแล้วถึง 5 ปี
ป้ามี่เปิดประตูห้องโรงแรมเข้าไปข้างในแล้วตกใจที่เห็นสุทิน ถ่ายวิดีโอ
" ว้าย ตาเถรหก ตกใจหมดเลยอ่ะพี่สุทิน นี่เล่นกล้องแต่วันเลยนะ เตรียมเป็นพระเอกหนังเอวีล่ะซี้ ฮิฮิฮิ"
" ไหนล่ะของหวานของฉัน"
" แหม ห่อมาให้แล้วล่ะค่ารออยู่ข้างล่าง" ป้ามี่แบมือขอตังค์ "ตามกฎกติกามารยาท มี่ขอค่าส่งของ 50 เปอร์เซ็นต์ก่อนนะคะ ป๋า"
แล้วภาพในจอล้มเป็นไข่กบ เสียงซ่าดังขึ้น
บุลินกับกานดาอึ้ง
"ป้ามี่ เป็นแม่เล้า!"
บุลินรีบกดฟอร์เวิร์ดไปหาภาพ
" มันต้องยังไม่จบแค่นี้แน่"
ในจอนั้นแล้วกลายเป็นเหตุการณ์ในคืนวันนั้น เมื่อ5 ปีก่อน
ซินดี้ใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้ามาในห้อง มองไปรอบๆแล้วไปชะโงกดูวิวอย่างแฮปปี้
"โห สวยจัง ป้ามี่น่ารักมากเลย อุตส่าห์เปลี่ยนห้องเก็บตัวให้เราด้วย"
สุทินเดินออกมาจากอีกห้องหนึ่ง พร้อมอุปกรณ์แส้และกุญแจมือ
ซินดี้หันไปเห็นตกใจ
"นี่คุณเข้ามาในห้องชั้นได้ยังไง ฉันจะแจ้งรีเซฟชั่น"
ซินดี้จะไปที่โทรศัพท์ สุทินขยับมาขวางหน้า
"ไม่เอาน่า ป้ามี่ไม่ได้บอกหนูเหรอว่า หนูต้องทำอะไรบ้าง "
"หมายความว่าไง"
" ก็หมายความว่าป้ามี่ขายหนูให้ฉันแล้วนะสิ"
"อะไรนะ"
" ถือว่าเราวิน วิน นะซินดี้ ฉันเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ของการประกวด ฉันชี้นิ้วสั่งให้ใครได้ตำแหน่งก็ได้ทั้งนั้นเลยนะ คืนนี้ฉันได้ตัวเธอ แล้วพรุ่งนี้เธอก็เอาตำแหน่งมิสควีนพาราไดซ์ไป"
สุทินยกมือขึ้นไล้แขนซินดี้
ซินดี้สะบัดหนีรังเกียจ "ฮึย ทุเรศ ฉันไม่นึกเลยว่าป้ามี่มันจะทำกับฉันได้ขนาดนี้ ฉันจะไปเอาเงินจากมันมาคืน"
ซินดี้คว้ากระเป๋าถือจะเดินออกจากห้อง
สุทินตามไปกระชากไหล่ซินดี้มา
"อย่าเรื่องมากได้ไหม คืนนี้กูต้องได้มึง"
"ชาติหน้าเถอะมึง"
ซินดี้ถีบเปรี้ยง สุทินผงะไปแล้ววิ่งตามเข้าไป
สุทินกระชากซินดี้มาต่อยท้อง จนจุกตัวงอล้มลงไปอยู่แทบเท้าสุทิน
"โอ้ย ฮือฮือ"
" มึงรู้ตัวซะบ้างนะว่ามึงมันชั้นตํ่า ไม่มีค่าอะไรเลย ที่กูลดตัวมาเอามึงแล้วยังแถมเงินแถมตำแหน่งให้นี่ กูใจดีแค่ไหนแล้ว"
"กูไม่เคยต้องการความใจดีของมึง ได้ยินมั้ย ถึงกูจะจนกูก็เป็นคนเท่ามึง"
สุทินเตะเปรี้ยง ซินดี้ล้มควํ่า
"ท่าทางมึงจะไม่มีการศึกษา เดี๋ยวคืนนี้กูจะสอนมึงเองว่า คนอย่างมึงเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากเป็นทาสกามของกู"
สุทินกระชากซินดี้แรง
"แอร๊ย..."
เตียงในห้องนอนโรงแรม ซินดี้โดนล็อกกุญแจมือตรึงไว้ทั้งสองแขนสองขา ดูโหดๆ สะเทือนใจ
สุทินถือกล้องวิดีโอมือหนึ่ง อีกมือเอาแส้ฟาดไม่ปรานี หน้าตาโรคจิต
ซินดี้กรีดร้อง น่าสงสาร
สุทินฟาดจนหนำใจ กระโดดขึ้นคร่อม ก้มลงไปปลํ้า หัวเราะหื่น
ซินดี้กรีดร้อง
"อย่า ช่วยด้วยยยย แอร๊ย..."
บุลินปิดคอมลงอย่างทนดูไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
กานดาหน้าเจื่อนส่ายหน้าไปมา นึกไม่ถึง
"สลดหดหู่จริงๆ ฉันนึกไม่ถึงเลยป้ามี่จะเลือดเย็นแล้วเห็นแก่ตัวแบบนี้ ไม่เห็นเหมือนกับที่ป้ามี่เล่าให้เราฟังในห้องสอบสวนเลยว่า โดนซินดี้ข่มเหงรังแกตลอดเวลา"
" เธอก็รู้นี่....ไม่มีใครเปิดปากพูดถึงตัวเองในแง่ไม่ดีหรอก ตอนนี้ฉันหมดข้อสงสัยแล้วว่าทำไมซินดี้ถึงได้ทำอะไรเลวร้ายกับป้ามี่ได้ขนาดนั้น"
"ซินดี้เล่นงานป้ามี่แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน จนมาพีคที่เรื่องขู่ฆ่า ทำให้ป้ามี่กลัวลาออกจากงาน ป้ามี่ก็เลยแค้นหนัก จนต้องกลับมาฆ่าซินดี้ แล้วอำพรางคดีว่าเป็นการฆ่าตัวตาย"
บุลินหันมามองหน้ากานดา
"เธอคิดอย่างนั้นเหรอ" บุลินถาม
"แหงล่ะพี่หมวด ฉันสอบนางโชว์ทุกคนแล้ว ทุกคนยืนยันเป็นเสียงเดียวว่า ป้ามี่กับซินดี้เนี่ย เขาประกาศตัวเป็นศัตรูกันเปิดเผยเลย มันก็มีความเป็นไปได้สูงที่ป้ามี่จะเป็นคนฆ่าซินดี้"
บุลินคิดแล้วตัดสินใจ
" ตกลง พรุ่งนี้เราจะเรียกป้ามี่เข้ามาให้การอีกครั้ง พร้อมหลักฐานพยานพวกนี้ ป้ามี่ต้องคายความจริงออกมาแน่"
เช้าวันใหม่ กะเพรากําลังถูพื้นอยู่หน้าห้องซินดี้อย่างแข็งขัน
แม่บ้านสาวประเภทสอง 2 คน ถืออุปกรณ์ทำความสะอาดเข้ามา
สาว1 บอก "อุ้ยตาย พี่กะเพรามาทำงานแต่เช้าเลยเนอะ"
สาว2 บอก " นั่นสิ ขยั๊นขยันอ่ะ"
"ขอบใจจ้าที่ชม กะเพรารักโรงละครนี้จ้า ทุกคนที่นี่ นิสัยดี๊ดี"
" น่ารักกที่สุดอะ ไปทำงานล่ะนะ" สาว 1 บอก
สาว1 สาว2 เดินผ่านกะเพรา เปิดประตูห้องซินดี้เข้าไป
กะเพราหันมากําลังจะถูต่อ แล้วได้ยินเสียงสองสาว กรี๊ดลั่น
กะเพราสะดุ้งตกใจ ทิ้งไม้ถูพื้นเข้าไปดู
ในห้องซินดี้ สองสาวกรี๊ดสนั่นหวั่นไหวที่เห็นภาพป้ามี่ตายอย่างสยอง
กะเพราวิ่งเข้ามามอง ตาเบิกโพลง ตะลึง ช็อก
เห็นป้ามี่ใส่ชุดนางโชว์โดนแขวนแบบห้อยหัวลงมา เลือดท่วม ที่หัวมีเศษกระจกปัก เต็มหัวเป็นหนามแหลมเหมือนมงกุฎ
ฝ่ายบุลินกับกานดาเดินคุยกันออกมาที่หน้าบ้านสุทิน เตรียมจะกลับ
" สว่างคาตาเลยวันนี้"
"พี่หมวดนี่สุดยอดไปเลย ให้เราตามเรื่องมงกุฎมิสควีนพาราไดซ์จนเจอหลักฐานชิ้นเป้ง ว่าแต่ว่าพี่หมวดไปรู้เรื่องมงกุฎนี่ได้ยังไงหรือแบบเล่นของ มีใครมาดลใจ งั้นเหรอ"
บุลินอึ้ง ตอบไม่ถูก
เสียงมือถือของกานดาดังขึ้นพอดี บุลินเลยเปลี่ยนเรื่องไป
"รับโทรศัพท์สิ"
กานดากดรับสาย
"ว่าไงจ่ายอด" กานดาหยุดฟังแล้วตะลึง "อะไรนะ ได้ จะเข้าไปเดี๋ยวนี้"
กานดาวางสายลง แล้วเงยหน้าพูดกับบุลิน สีหน้าไม่ค่อยดี
"พี่หมวด พรุ่งนี้ป้ามี่มาให้การกับเราไม่ได้แล้ว"
" ทำไม ป้ามี่หนีไปหรือไง"
กานดาส่ายหน้า "ป้ามี่ไม่ใช่ฆาตกรอย่างที่เราสงสัย ป้ามี่ตายแล้ว!"
บุลินอึ้ง ตะลึง
ต่อมา กะเพรา กับแม่บ้านยืนจับกลุ่มกันอยู่แถวหน้าประตูห้องซินดี้
ตำรวจเอาเทปสีเหลืองกันไว้
ตั้งโอ๋ โกกิ มดแดง วิ่งเข้ามาจะเข้าไปข้างในห้อง แต่เจอ จ่ายอด จ่าโอ กันเอาไว้
ทุกคนเรียก " ป้ามี่ๆ"
จ่าโอบอก "เดี๋ยวๆเข้าไม่ได้นะ ตำรวจทำงานอยู่"
"ถอยออกไปก่อนครับ" จ่ายอดบอก
ตำรวจแผนกเปลหาม หามศพป้ามี่คลุมผ้าขาวออกมาจากห้อง
ทุกคนร้องเสียงลั่นเศร้าสะเทือนใจ
" ป้ามี่ ฮือ..."
มดแดงบอก
"ป้า กลับมาก่อน ทำไมป้าทิ้งหนูไปแบบนี้"
แพรวา ภาวัช ทิพย์ เดินออกมาจากห้องแต่งตัว
ตั้งโอ๋รีบวิ่งไปหา
" คุณแพร....ป้ามี่โดนฆ่าหรือคะ"
แพรวาพยักหน้าเบาๆ
ภาวัชขัดขึ้นอย่างเป็นห่วงแพรวา
"อย่าเพิ่งถามอะไรคุณแพรตอนนี้เลยนะ ตั้งโอ๋ แค่เข้าไปดูศพป้ามี่เมื่อกี้ คุณแพรก็จะเป็นลมแล้ว"
" มันอำมหิตเหลือเกิน.... แพรสงสารป้ามี่ ไม่น่ามาตายแบบนี้เลย"
แพรวาจะร้องไห้จริงๆ
บุลิน กับ กานดา เข้ามา
ตั้งโอ๋บอก "หมวด ....ป้ามี่ตายไปอีกคนแล้ว"
บุลินพยักหน้ารับ
"ฉันได้รับรายงานแล้ว"
บุลินเดินเข้ามาพูดกับทุกคน
" มีใครพอจะให้เบาะแสอะไรมั้ยครับ ป้ามี่มีศัตรูที่ไหนบ้าง"
โกกิบอก
"ก็พี่ซินดี้ไงคะ ...ตอนพี่ซินดี้ยังไม่ตาย ป้ามี่กับพี่ซินดี้กัดกัน เอ๊ย มีปากเสียงกันบ่อยจะตาย"
"แต่หมวดคงไม่คิดว่าวิญญานซินดี้จะลุกขึ้นมาฆ่าป้ามี่หรอกนะคะ" ทิพย์ว่า
มดแดงชี้ไปที่ตั้งโอ๋ "แต่ฉันคิด....คิดว่าเป็นมัน"
ตั้งโอ๋ตกใจ
มดแดงพุ่งเข้าไปจับตัว ตั้งโอ๋เขย่า แล้วผลักกระเด็น
"แกฆ่าป้ามี่ใช่มั้ย นังทาสผี"
ตั้งโอ๋ล้ม "ว้าย"
กะเพรา แม่บ้าน รีบช่วยกันดึงตัวมดแดง ล็อกไม่ให้ทำร้ายตั้งโอ๋
"อย่าคะ อย่ามีเรื่องกัน"
" ปล่อยฉัน ฉันจะฆ่ามัน มันฆ่าป้ามี่"
" เจ๊บ้าไปแล้วเหรอ เจ๊มดแดง ฉันไม่ได้ทำ"
" แกไม่ต้องมาตีหน้าซื่อ แกโกรธป้ามี่ที่ไปวีนแกที่บ้านจนพี่แกเข้าโรงพยาบาลใช่มั้ย ... หมวดจับมันเลย มันนี่แหละที่ฆ่าป้ามี่"
ตั้งโอ๋มองสบตาบุลิน เครียด
ตั้งโอ๋นั่งอยู่ที่โต๊ะบุลิน บุลินเข้ามายื่นกาแฟให้
" อะ ดื่มซักแก้วจะได้รู้สึกดีขึ้น"
" ฉันไม่ได้ฆ่าป้ามี่นะ"
" ฉันรู้แล้วล่ะ"
" อะไรนะหมวด" ตั้งโอ๋ลุกขึ้นมองบุลินตะลึง "นี่หมวดเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไร หมวดไปกินเห็ดเมาที่ไหนมาหรือเปล่า"
" นี่เธอ ..จะเพ้อเจ้ออะไรอีก"
" แล้วทำไมหมวดถึงเชื่อที่ฉันพูดง่ายนัก หรือว่าหมวดรู้แล้วว่าเป็นฝีมือพี่ซินดี้"
บุลินอึ้งไปนิด แล้วตอบขึ้นตรงข้ามกับที่ตัวเองรู้สึก
" เหลวไหล ป้ามี่เสียชีวิตเวลาประมาณเที่ยงคืน มันตรงกับเวลาที่ฉันเจอเธอหน้าอพาร์ทเม้นท์แล้วเธอจะไปฆ่าป้ามี่ได้ยังไง"
" หมวดอย่ามาแถ หมวดรู้ดีพอๆกับฉันใช่มั้ยว่า มันเป็นฝีมือพี่ซินดี้"
"เลิกพูดถึงชื่อนี้เสียทีเถอะ จะกลัวอะไรนักหนากับคนที่ตายไปแล้ว"
" หมวด ..."
" ผีก็เหมือนพวกเจ้าพ่อมาเฟีย อำนาจเถื่อนพวกนั้นนั่นแหละ ยิ่งกลัวมันยิ่งกระทืบ ยิ่งทำให้มันมีอำนาจ เพราะฉะนั้นเธอต้องเข้มแข็ง อย่าอ่อนแอ อย่าปล่อยให้มันครอบงำจิตใจเธอได้ เข้าใจมั้ย"
บุลินหันเดินออกไปเลย
ตั้งโอ๋มองตามงงๆ ไม่สบายใจ
ผ่านเวลา .... ท้องฟ้ากลางวัน กลายเป็น กลางคืน
บุลินเดินขึ้นบันไดตึก ออกมาที่ระเบียงดาดฟ้ามองออกไปบนท้องฟ้าพูดขึ้นมาอย่างรู้สึกผิด
" ขอโทษนะป้ามี่ ที่ผมช่วยชีวิตป้าไว้ไม่ได้ มันเป็นความผิดของผมเองที่จับฆาตกรตัวจริงไม่ได้"
ซินดี้ชุดแดง เคลื่อนตัวออกมาจากผนังด้านหนึ่งที่แยกออกจากกัน พลิ้วๆ สวยๆ ดุๆ มาหยุดตรงหน้าบุลิน
บุลินมองอึ้ง
"เสียใจมากเลยเหรอ ที่คนเลวๆ อย่างนังป้ามี่ตาย"
" คุณหลอกให้ผมไปหามงกุฎ ทั้งๆที่จริงมันไม่เกี่ยวกับฆาตกรตัวจริงเลยใช่มั้ย"
"ฉันไม่ได้บอกเลยว่ามันเกี่ยว คุณเข้าใจของคุณเอง" ซินดี้หัวเราะ "ในที่สุด คุณก็ได้เห็นแล้วใช่มั้ยว่า ธาตุแท้ของคนที่ชอบทำเป็นมีนํ้าใจอย่างนังป้ามี่มันซ่อนความอำมหิตไว้ยังไง....มันสมควรตายแล้ว"
" ถูก ป้ามี่ผิดที่เอาคุณไปขายแบบนั้น แต่ถึงป้ามี่จะชั่วแค่ไหนคุณไม่มีสิทธิ์ตั้งศาลเตี้ยพิพากษาเขาแบบนี้"
"ฉันทำตามที่เราตกลงกันไว้ต่างหาก ถ้าไม่อยากให้ใครตายก็รีบหาฆาตกรตัวจริง ให้ได้สิ"
" ฆ่าคนเป็นบาปหนัก คุณไม่กลัวตกนรกหมกไหม้บ้างเลยหรือไง"
"ไม่ต้องมาเทศนาธรรมะให้ฉัน"
" เปล่า ผมจะสาปแช่งคุณต่างหาก ....ถ้าคุณยังไม่หยุดก็ขอให้ไปตกนรกในขุมที่ลึก
ที่สุด อย่าได้ผุดได้เกิดอีกเลย"
ซินดี้โกรธฟาดมือออกไป
บุลินกระเด็นตัวลอยไปชนกําแพงด้านหลัง สลบเมือดไปทันที
ในห้องนอนบุลิน
ซินดี้จับบุลินนอนลงบนเตียง แล้วจ้องหน้า ยกมือจะลูบใบหน้าแต่กลับชะงักลดมือลง
พูดออกมาอย่างเจ็บปวด น้อยใจ
"คุณเสียใจที่คนอื่นตาย แต่กับฉันคุณกลับสาปแช่งไม่ให้ผุดให้เกิด คุณทำให้ฉันเจ็บเหมือนตายเป็นครั้งที่สอง....บุลิน..คุณคงลืมทุกอย่างไปหมดแล้ว ต่างกับฉัน ที่ทุกอย่างยังฝังลึกในหัวใจ ทุกความรักและทุกความแค้น ฉันยังจำได้ไม่มีวันลืม"
ซินดี้นึกไปถึงอดีต
ซินดี้ยกนิ้วก้อยขึ้นมา
"สัญญานะ บุลิน ....พรุ่งนี้คุณต้องมาดูโชว์ของฉัน แล้วฉันจะแจ้งความกับคุณ"
" ตกลง ผมสัญญา"
ซินดี้ยิ่งเจ็บใจ ผิดหวัง เสียใจหนัก
"คนโกหก....ในที่สุดคุณก็ไม่มา คุณก็เหมือนกับคนอื่น ไม่เคยจริงใจ ไม่เคยรักษาสัญญา"
ซินดี้นํ้าตาคลอขึ้นมา แล้วพยายามกรอกตาไม่ให้ไหล
ซินดี้ยืนเหม่ออยู่ที่มุมหนึ่งเห็นบุลินยังนอนหลับอยู่บนเตียง
ซินดี้แววตาไหวระริกด้วยความเจ็บปวดจากอดีตที่นึกถึง
"ในวันที่ฉันตาย ฉันถึงได้รู้ว่า คนที่ทำร้ายเราได้อย่างเจ็บปวดที่สุดไม่ใช่คนที่เราเกลียด แต่เป็นคนที่เรารัก"
บุลินลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี มองเห็นซินดี้ยืนอยู่
ซินดี้พูดต่อ ...อารมณ์เปลี่ยนเป็นแค้นขึ้นมาด้วย
"ยิ่งรักมาก ก็ยิ่งแค้นมาก"
บุลินรีบหยิบปืนที่หัวเตียงขึ้นมา เล็งไปที่ซินดี้ยืนอยู่....ยิงปังออกไป
กระสุนแหวกอากาศออกไป
ซินดี้หันกลับมาใช้ปากรับกระสุน แล้วถุยลงพื้นอย่างเซ็กซี่ มองท้าทายใส่บุลิน
"คนดีเขาไม่ยิงคนข้างหลังหรอกมั้ง"
"คุณไม่ใช่คน"
"งั้นเหรอ!! ถ้าไม่ใช่พวกเดียวกันก็ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล ทำอะไรกับเขาก็ได้ใช่มั้ย"
ซินดี้เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วแบบวูบไปถึงตัวบุลินทันทีแล้วบีบคอ
" ผมไม่ต้องการให้ใครตายเพราะคุณอีกแล้ว"
บุลินเจ็บหายใจไม่ออก
"แล้วที่ฉันต้องตายเพราะคุณล่ะ คุณจะชดใช้ให้ฉันมั้ย"
บุลินยืนอยู่ตรงลิ้นชักที่เก็บพระพอดี บุลินดึงลิ้นชักควานมือไปหาหยิบพระออกมา
ซินดี้บีบคอบุลินแน่นขึ้นอีก
"ฉันอุตส่าห์เชื่อใจคุณ หวังว่าคุณจะไม่เหมือนคนอื่น แต่คุณกลับทำให้ฉันผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า..บุลิน...ฉันคิดว่าฉันควรจะเปลี่ยนแผนให้คุณตายไปซะเดี๋ยวนี้เลย"
ซินดี้บีบคอบุลินแน่นขึ้นไปอีกจนแทบจะหายใจไม่ออก ...
บุลินกําพระขึ้นมา โดนไหล่ซินดี้เข้าพอดี
แขนซินดี้เป็นรอยไหม้ควันฟุ้งขึ้นมา
ซินดี้ร้องกรี๊ด เจ็บปวด ปล่อยมือจากบุลิน แล้วร่างถอยกระเด็นออกไปเหมือนโดนผลักอย่างแรง
"โอ้ย"
ซินดี้ร้องโหยหวนแล้วร่างหายวับไปทันที บุลินอึ้ง แล้วมองพระในมืออย่างทึ่ง
ซินดี้ลอยละลิ่วมาตกอยู่มุมหนึ่ง ลุกขึ้นมาเปิดมือที่กุมตรงแผลออกมอง
แผลไหม้นั้นค่อยสมานเป็นเนื้อเดียวดั่งเดิม
ซินดี้มองเข้าไปที่ตัวบ้านบุลิน พูดขึ้นอย่างแค้นใจมีแผนต่อไป
"บุลิน อย่านึกว่าคุณจะรอดพ้น ...เตรียมรับบทลงโทษของฉันไว้ให้ดี"
โรงละคร กลางคืน วันใหม่ ตั้งโอ๋ก้าวเข้ามาช้าๆ ในมือลากอะไรบางอย่างไปกับพื้น หน้าตานิ่ง ไร้อารมณ์ ความรู้สึก
มุมหนึ่งในห้องซินดี้ ตั้งโอ๋หยิบมีดอีโต้ออกมาดูคมมีดแล้วฟันฉับลงไปบนอะไรสักอย่าง
แล้วเลือดจากสิ่งนั้นก็กระฉูดใส่หน้าตั้งโอ๋ เลอะเลือดเต็มหน้า
เช้าวันใหม่ มดแดงเดินเข้ามาแถวหน้าห้องซินดี้ มีกะเพราถือกล่องใส่ของตามหลังมาด้วย
" เอ้า เดินให้มันเร็วๆ หน่อยสิยะ แล้วถือให้มันดีๆ ด้วย ของฉันไม่ใช่ชิ้นบาทสองบาทนะยะราคาเป็นหมื่นทั้งนั้น"
โกกิตามหลังเข้ามาเอาเรื่อง
" นี่ เจ๊มดแดงเรื่องอะไรมาใช้กะเพราขนของเจ๊แบบนี้ กะเพราไม่ใช่ลูกจ้างเจ๊นะ
จะมากดขี่กันแบบนี้ไม่ได้"
" อุ้ยตาย นี่หล่อนกลายเป็นนักเรียกร้องสิทธิกะเทยขั้นตํ่าไปตั้งแต่เมื่อไรยะ"
" ใครจะดูถูกกะเทยก็ไม่เท่ากะเทยด้วยกันเหยียบยํ่ากันเองหรอก ... กะเพราวางของ แล้วถ้ามันมาจิกใช้อีก ก็บอกไปเลยว่าไม่ใช่ขี้ข้าของมัน"
" อู้ย ลำไยมาก มาตบเรียกสติสักทีเถอะ"
มดแดงตบผัวะ โกกิหลบแล้วเข่าเข้าชายโครงมดแดงจนกระเด็นหวือไปล้มที่มุมหนึ่ง
" ว้าย"
"คุณโกกิ คุณมดแดง ขอร้องล่ะคะ อย่ามีเรื่องกันเลยนะคะ"
" ไม่ต้องเลย มึงต้องเจอกู" มดแดงยกมือขึ้นจะชี้หน้า แล้วเหวอ เห็นว่าที่มือมีเลือดเปื้อนอยู่เต็ม "อ๊าย..." มดแดงก้มลงมองที่พื้นเห็นเลือดนองอยู่เต็ม "เลือด" มดแดงลุกขึ้นเต้น ตกใจกลัว "อ๊าย..."
กะเพราตาไวมองตามทางเลือดที่หยดต่อๆ ไป เข้าไปที่ประตูห้องซินดี้
กะเพรารีบเข้าไปเปิดประตูเข้าไปในห้องซินดี้ มองเห็นอะไรบางอย่างตกตะลึง ตาเหลือกขึ้นมา
"คุณพระช่วย"
กะเพราเห็นตั้งโอ๋สลบจมอยู่กับกองเลือดหมู ในมือข้างหนึ่งถืออีโต้เปื้อนเลือดอยู่ และสภาพหัวหมูกับศพหมูที่โดนแล่ไม่มีชิ้นดี
โกกิกับมดแดงตามเข้ามาดู ตะลึง กรี๊ดลั่น
โต๊ะทำงานของบุลิน ที่โรงพัก
บุลินเทพระที่ใส่กรอบและสร้อยพร้อมแล้วออกมาจากซองพลาสติก
กานดาเดินผ่านมา เห็นเข้าพอดี
"ฮึ นั่นพระที่คุณน้าแม่ชีให้พี่หรือเปล่า"
" ใช่"
"อยู่ๆ นึกไงเนี่ยถึงเอาพระมาห้อย หรือว่าพี่หมวดเจอผี!"
บุลินอึ้งไปเหมือนกัน แต่ยังไม่ทันตอบอะไร
เสียงไลน์เด้งขึ้นมา บุลินเลยหยิบมือถือมาเปิดดู
" ไลน์จากหมาป่า"
"ฮึ ว่าไงพี่ หมาป่าส่งข่าวมาว่าไง"
" ที่โรงละครเกิดเรื่อง!"
"อีกแล้วเหรอ!"
ภาวัชกับแพรวากําลังยืนดูสภาพห้องที่เลอะเทอะด้วยเลือดและซากหมู ด้วยความสะอิดสะเอียนแพรวาถึงกับซบภาวัชไม่มอง กะเพรา โกกิ มดแดง ยืนอยู่ข้างๆ
มดแดงบอก "ดูฝีมือนังตั้งโอ๋สิคะ นับวันยิ่งแอ๊บนอมอลขึ้นทุกที"
" มันก่อเรื่องแล้วก็ต้องส่งตัวไปโรงพยาบาลทุกครั้ง นังตั้งโอ๋มันต้องโรคจิตแน่ๆ" โกกิบอก
" น่าสะอิดสะเอียนที่สุด รีบๆล้างให้สะอาดอย่าให้มีกลิ่นคาวเลือดเด็ดขาด เพราะคุณแพรวาไม่ชอบ" ภาวัชบอก
บุลินกับกานดาเข้ามาพอดี
"ไม่ได้ค่ะ คุณจะทำลายหลักฐานไม่ได้" กานดาบอก
" ที่นี่มันคณะคาบาเร่ต์ของผมกับเมียนะครับ คุณมีสิทธิ์อะไร"
แพรวาปราม "คุณภาวัช"
ภาวัชบอกกับบุลิน
"นี่มันแค่เรื่องคนเอาหมูมาชำแหละเล่น ไม่ได้ฆ่าคนตายเสียหน่อย" ภาวัชมองไปที่พวกโกกิกะเพรา มดแดง "ใครแจ้งความ"
ทุกคนรีบปฏิเสธ "เปล่านะคะ"
โกกิบอก "พวกหนูไม่รู้เรื่องนะคะ"
บุลินหลอกไป ไม่ให้รู้ว่ามีสายในคณะ
" ไม่มีใครแจ้งไปหรอกครับ ผมกับกานดาต้องมาหาหลักฐานในคดีป้ามี่เพิ่มเติมอยู่แล้ว" บุลินมองไปที่พวกมดแดง ถามขึ้น "แล้วทั้งหมดนี่ฝีมือใคร"
" ก็จะใครล่ะ ถ้าไม่ใช่ยายตั้งโอ๋ตัวตั้งตัวตีรื้อคดีซินดี้น่ะสิ" ภาวัชบอก
" ตั้งโอ๋!"
ภาวัชเดินเข้ามาตรงหน้าบุลิน
"ผมสังเกตมาหลายทีแล้ว ตั้งโอ๋มีส่วนวุ่นวายกับทุกคดี แต่คุณก็ปล่อยปะละเลยไม่เห็นตั้งข้อหาอะไรเลยแบบนี้มันแปลว่าอะไร ...หรือเคยไปสืบสวนกันบนเตียงกันมาแล้วเลยหมดข้อสงสัย!"
บุลินโกรธแต่สะกดใจไว้
" ผมว่าคุณอย่าเอามาตรฐานส่วนตัวของคุณมาใช้กับคนอื่นเลยนะครับ มันทั้งตํ่าแล้วก็โสโครก"
ภาวัชกําหมัดต่อยบุลิน บุลินหลบแล้วพลิกจับแขนภาวัชบิดเตะขาจนภาวัชทรุดไปกับพื้น
" คุณจะดูถูกอะไรก็ได้ แต่อย่าหมิ่นเกียรติของเจ้าหน้าที่"
แพรวาเข้ามาช่วยพูด
"หมวดบุลินคะ อย่าถือสาภาวัชเลยนะคะ เขาไม่ได้ตั้งใจหรอก"
" สำหรับครั้งนี้ผมจะยกให้ก็ได้ แต่ครั้งต่อไปคุณจะไม่โชคดีแบบนี้อีก"
บุลินจ้องเอาเรื่อง
ภาวัชทิ้งตัวลงที่โซฟายังหัวเสียอยู่
" คุณแพรไปขอร้องมันทำไม ผมล่ะหมั่นไส้ไอ้ตำรวจขี้เก๊กนี่ชะมัด"
" นี่ยังจะพูดอีก ดีนะที่หมวดบุลินเขาไม่เอาเรื่องคุณ คุณไปหาเรื่องเขาทำไม"
" ก็ผมเครียดนี่ครับ วันๆที่นี่มีแต่เรื่องเพี้ยนๆแล้วยังมีคนตายเพิ่มขึ้นอีก จะไม่ให้ผมประสาทเสียได้ยังไงล่ะ ... ไหนยายทิพย์อยู่ไหน ไปเอาไวน์มาหน่อยสิ"
"ทิพย์เขาลาไปปฏิบัติธรรมค่ะ เดี๋ยวแพรไปจัดการให้เอง"
แพรวาทำท่าจะเดินออกไป ภาวัชคว้าตัวแพรวาไว้เสียก่อน
"คุณแพร ผมจะทนเรื่องบ้าๆ บอๆที่นี่ไม่ไหวแล้วนะ ผมว่าเราขายคณะนางโชว์นี่ไปซะเถอะ แล้วเราไปซื้อบ้านอยู่เมืองนอกใช้ชีวิตสบายๆ ด้วยกันดีกว่านะ"
แพรวาอึ้งแล้วค่อยพูดขึ้น
" แพรทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกค่ะภาวัช พนักงานที่นี่เป็นร้อยชีวิตถ้าเลิกโชว์ไป เขาจะอยู่กันยังไง"
ภาวัชเซ็งปล่อยมือออกจากแพรวา
" คุณก็ห่วงแต่พวกนางโชว์นี่แหละ"
" ภาวัชมีเหตุผลหน่อยสิคะ"
เสียงมือถือภาวัชดังขึ้น ภาวัชกดรับสาย
" ฮัลโหล ...มิสเตอร์วาตานาเบะมาถึงแล้วเหรอ ได้ ....เดี๋ยวเจอกันที่เดิมนะ โอเค"
ภาวัชวางสายไปแล้วหันบอกแพรวา
" ผมต้องออกไปพบมิสเตอร์วาตานาเบะแล้ว เชิญคุณพะเน้าพะนอเอาใจพวกนางโชว์ของคุณตามสบาย"
ภาวัชเดินออกไป แพรวามองตาม กลุ้มใจ
" โธ่ ภาวัช"
ภาวัชเดินเข้ามาที่หน้าห้องในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง พร้อมพูดมือถือมาด้วย
" มิสเตอร์วาตานาเบะหรือครับ ผมมาถึงแล้วนะ เซ็งเป็นบ้า พูดกี่ทีกี่ที ยายแก่นั่น
ก็ไม่ยอมขายคณะนางโชว์ห่วยแตกนี่เสียที" ภาวัชมาหยุดอยู่หน้าประตูห้อง "อยู่หน้าห้องแล้วนะ มาเปิดประตูให้ผัวหน่อยสิ"
ประตูห้องพักเปิดออกมา ภาวัชยิ้มกริ่มได้เจอชู้รัก
มียื่นมือออกมาโอบรอบคอ ภาวัชโน้มหน้าเข้าไปหาแล้วหายเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว หน้าห้องมีร่มสีขาวคันหนึ่งวางพาดไว้ ...
ห้องคนไข้ในโรงพยาบาล ตั้งโอ๋นอนอยู่บนเตียง ลืมตาขึ้นมาเห็นต้อมในชุดคนไข้นั่งอยู่บนรถเข็น กําลังปาดไอแพดดูรูปซินดี้อยู่
ตั้งโอ๋ตื่นขึ้นมาเห็นต้อม ตกใจ
"พี่ต้อม พี่ไม่สบายอยู่นะ พี่มาเฝ้าตั้งโอ๋ทำไม"
"ที่แกเข้านอนโรงพยาบาลครั้งนี้ก็เพราะ..." ต้อมยกไอแพดที่เปิดหน้าซินดี้ขึ้นมา "ฝีมือผีร้ายตัวนี้ใช่มั้ย"
"พี่ซินดี้"
"ฉันไม่เชื่อหรอกว่าน้องของฉันจะลุกขึ้นมาทำอะไรน่าสยดสยองอย่างนั้น ที่แกเอาหมูทั้งตัวมาแล่ได้เพราะมันสิงร่างของแกใช่มั้ย"
" ตั้งโอ๋ก็ไม่รู้เหมือนกัน ตั้งโอ๋ไม่รู้สึกตัวเลย... แต่พี่ต้อมเชื่อแล้วใช่มั้ยว่าตั้งโอ๋ไม่ได้บ้า หรือเป็นโรคหลายบุคลิกอะไรอย่างนั้น"
ต้อมเข็นรถเข้ามาใกล้ตั้งโอ๋ แล้วจับมือน้องกุมไว้
"พี่ขอโทษที่เคยเข้าใจผิด ...นับจากนี้ไปพี่จะไม่ยอมให้วิญญาณร้ายมารังแกน้องของพี่อีก"
ตั้งโอ๋มองต้อมซึ้งใจ
กานดากําลังเดินเข้ามาในโรงพยาบาล เข้มถือถุงผลไม้วิ่งตามหลังมาเบียดกันตรงประตูเกือบชน
"ขอโทษครับ ขอโทษ ... อ้าว หมวด"
ทั้งสองยืนในลิฟต์ ต่างคนต่างทำเป็นไม่มองกัน แต่แอบชำเลืองกันไปมา
แล้วทั้งสองคนหันมาถามพร้อมกัน
" นายมาเยี่ยมตั้งโอ๋เหรอ / คุณมาเยี่ยมตั้งโอ๋เหรอ"
ทั้งสองชะงักไปหนึ่งจังหวะ แล้วเข้มขำๆออกมา
"ใจตรงกันเป๊ะเลยนะ สรุปว่าหมวดกับผมต่างก็มาเยี่ยมตั้งโอ๋เหมือนกัน"
"แต่สถานะไม่เหมือนกัน ....นายมาในฐานะแฟน ส่วนฉันเป็นตำรวจมาสืบคดี" กานดาบอก
เข้มมองสบตากานดาอึ้ง กานดาเหลือบมองถุงผลไม้ที่เข้มถือ
"ตั้งโอ๋โชคดีนะ ที่มีนายคอยดูแลเอาใจใส่ตลอด ช่างเป็นคู่รักเพศเดียวกันที่น่าอิจฉา..จริงๆ"
ลิฟต์เปิดออก กานดากําลังจะเดินออกจากลิฟต์ไป
เข้มคว้ามือกานดาไว้ดึงหันมาหามองจริงจัง
"ผมไม่ได้เป็นเกย์ ผมชอบคุณ"
เข้มยื่นหน้าเข้าไปใกล้กําลังจะจูบแตะปาก
ทว่าเหตุการณ์จริง เป็นว่า กานดายืนตรงประตูลิฟต์ ปาลูกอมมาใส่เหม่งเข้ม
"โอ้ย"
"นี่นายจะไปเยี่ยมคนป่วยมั้ย เหม่อบ้าอะไร ไร้สาระ"
กานดาหันเดินฉิวออกไปเลย เข้มได้แต่เงอะงะ อึกอักแล้วรีบตามกานดาออกไป
"แค่นี้ทำไมพูดไม่ได้วะ....เฮ้อ ไปแล้วคับ"
ในโรงพัก ตอนกลางคืน บุลินกําลังล้างมืออยู่ เหลือบตามองในกระจก เห็นซินดี้ยืนถมึงทึงอยู่ข้างหลัง
บุลินหันขวับไปมองข้างหลังไม่มีอะไร เมื่อมองไปรอบๆ เห็นว่าทุกอย่างปกติ
บุลินเลยเดินไปที่ตู้กระดาษเช็ดมือ แล้วดึงกระดาษออกมา แต่ปรากฏว่าสิ่งที่ดึงออกมานั้นกลับกลายเป็นหนังมนุษย์ที่โดนถลกแล้ว มีเลือดติดกรัง ดูน่ากลัวมาก
บุลินตะลึง แต่เก็บอาการ ตวาดออกมา
"เลิกเล่นตลกกับผมเสียที แน่จริงก็ออกมาเลย"
เสียงซินดี้หัวเราะดังขึ้น บรรยากาศในห้องนํ้ากลายเป็นบรรยากาศมาคุ มืดทึมลง ควันดรายไอซ์พวยพุ่ง น่ากลัว หลอนขึ้นมา
บุลินมองหาต้นเสียง
" หึ หึ หึ"
บุลินหันหน้าไปทางหนึ่ง ซินดี้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพอดี
ทั้งคู่หน้าใกล้กัน บุลินชะงักมอง ตะลึง
อ่านต่อตอนที่ 11