นางแค้น ตอนที่7
ชัยแทงลงมาแต่ต้อมหลบทันชัยแทงลงไปโดนหมอนอิงทะลุนุ่นกระจาย
ต้อมร้อง“ช่วยด้วยๆ”
เข้มวิ่งออกมาจากห้อง
“พี่ต้อม!”
เข้มพุ่งเข้าไปกระชากไหล่ชัยมาต่อยชัยไม่สะทกสะท้านเปลี่ยนเป้าหมายมาเล่นงานเข้มแทน
ชัยไล่แทงเข้มเข้มหลบเลี่ยงไปมาหยิบตุ๊กตาหมีมาบังชัยแทงทะลุตุ๊กตาจนมีดโผล่ไปอีกด้าน
เข้มร้องจ๊ากแล้วสะดุดล้มตึงลงไป
ชัยเข้าไปจะแทงเข้ม
ต้อมวิ่งเข้ามาเอาไม้ตียุงฟาดชัยชัยหันไปต่อยหน้าต้อมเปรี้ยงต้อมล้มลงไปสลบทันที
ชัยย่างสามขุมเข้ามาที่เข้มเข้มกระเถิบถอยหนีพร้อมต่อรองไปด้วย
“ใจเย็นพี่พี่อยากได้อะไรพี่เอาไปเลยสร้อยแหวนนาฬิกาเงินสดผมยกให้เลยเดี๋ยวช่วยแพคของให้ด้วยก็ได้นะพี่”
ชัยไม่ฟังเสียงเงื้อมีดขึ้นจะแทง
“อ๊าก”
กานดาเข้ามากระโดดถีบชัยกระเด็นออกไป
“หลบไป”
กานดาตะโกนให้เข้มหลบแล้วหันไปสู้กับชัยที่พุ่งเข้ามาจะแทง
กานดาหลบหลีกแล้วจับแขนชัยบิดจนมีดหล่นแล้วจับชัยทุ่มลงกับพื้นลีลาเท่สวยงาม
เข้มมองบทบู๊ของกานดาอย่างชื่นชมปลื้มมาก
ชัยล้มลงไปหน้ากระแทกพื้นตัวกระตุกขึ้นมาเหมือนมนต์เสื่อมแล้วสลบไปทันที
ตำรวจลากตัวชัยที่ยังสะลึมสะลือขึ้นรถตำรวจออกไป
ต้อมยืนเอาผ้าเย็นประคบตาอยู่กับเข้มและหมวดกานดา
“ขอบคุณหมวดมากนะครับที่หมวดมาช่วยทันเวลาพี่จะไปตักแกงสายบัวต้นตำรับออริจินอลมาให้นะ”
ต้อมหายเข้าบ้านไปกานดามองตามต้อมไปเข้มตาหวานเหล่มองกานดาอยู่
“ไม่เป็นไรคะพี่ต้อมไม่ต้องลำบาก” เมื่อหันมาทางเข้มพอดี “มีไรทำหน้าโรคจิตใส่ฉันทำไม”
“หมวดรู้ได้ไงว่าขโมยจะขึ้นบ้านผมหมวดคิดถึงผมใช่มั้ยล่ะถึงกับตามมาหา”
กานดาหมั่นไส้จับเข้มทุ่มลงกับพื้นทันทีเข้มร้องเจ็บ
“ฉันไม่เคยคิดจะใช้แฟนร่วมกับยายตั้งโอ๋หรอกนะ” กานดาหยิบกระเป๋าตังค์เข้มออกมาโยนไปให้ “เอ้านายทำกระเป๋าตังค์ตกที่โรงพักฉันเลยเอามาคืนให้หรอกเว้ย”
จังหวะนั้น บุลินขับรถเข้ามาจอดพอดี
บุลินลงมา
“เป็นไงบ้างมีใครบาดเจ็บหรือเปล่า”
เข้มลุกขึ้นมา “อู้ยจะมีใครล่ะนอกจากผมเจอหมวดกานดาซ้อมเอาซ้อมเอาอยู่นี่”
กานดาทำท่าจะต่อยเข้มอีกเข้มหลบๆ
“แล้วตั้งโอ๋ล่ะ” บุลินมองๆหา “เป็นอะไรมั้ย”
ตั้งโอ๋กระหืดกระหอบวิ่งเข้ามาพอดี
“เข้ม .... พี่ต้อมโทร.บอกฉันแล้วโล่งอกไปทีไม่มีใครเป็นไร”
แล้วตั้งโอ๋มองเห็นบุลินก็ชะงักกึกเปลี่ยนอารมณ์เป็นปึ่งขึ้นมาทันที
“ตั้งโอ๋ ....หายไปไหนมานี่หมวดเขาถามหาอยู่เลย” เข้มบอก
ตั้งโอ๋คอแข็งหน้าเชิดขึ้นมา
“พอดีรับจ๊อบเป็นนักสร้างสถานการณ์น่ะเลยมาช้าไปหน่อย”
ตั้งโอ๋สบตาบุลินแล้วเมินใส่เดินปึงเข้าบ้านไปเลย
กานดามองตามย่างงงๆ “นี่แฟนเธอเขากินยาอะไรผิดป่ะพูดไรไม่เห็นรู้เรื่อง”
เข้มมองบุลินสลับตั้งโอ๋เก็ทบางอย่าง
“นั่นสิฮะไม่รู้นางไปกัดกับแมวที่ไหนมา”
บุลินรู้ว่าตั้งโอ๋ประชดทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
ในห้องนอน ตั้งโอ๋เช็ดเครื่องสำอางบนหน้า อย่างซึมๆเศร้าๆถอนใจเฮือกแล้วเสร็จพอดี
เข้มเปิดประตูห้องเข้ามา
ตั้งโอ๋เหลือบมอง “กลับกันหมดแล้วเหรอ”
“ก็...กลับอ่ะนะแต่ใจบางคนนี่สิไม่รู้แล่นตามเขาไปด้วยหรือเปล่า”
“แกพูดถึงใคร”
“ก็ ...แกกับหมวดบุลินทะเลาะกันอีกแล้วเหรอ”
“เออก็ใช่นะสิอีตาหมวดนั่นไม่ช่วยฉันยังไม่พอยังด่าสาดเสียเทเสียหึต่อไปนี้นะ...ฉันจะสู้ด้วยตัวเองฉันจะไม่สนอีตาหมวดนั่นอีกแล้ว”
“อะโกรธเกินเหตุแบบนี้มีพิรุธนะแกชอบหมวดเหรอ”
ตั้งโอ๋มองดุยกหวีแปรงจะปา “ไอ้เข้ม!”
เข้มยกมือห้าม
“วางอาวุธลงซะไม่ถามก็ได้ฉันไปเอง”
เข้มถอยๆไปทางประตูตั้งโอ๋มองจิกทำท่าจะขว้างอีกเข้มวิ่งจู๊ดออกไปเลย
“ไอ้เพื่อนอกตัญญูพูดให้อารมณ์เสียทำไมไม่รู้นอนดีกว่า”
ตั้งโอ๋โยนแปรงทิ้งแล้วล้มตัวนอนลงบนเตียงปิดโคมไฟแล้วหลับตาลง
ทุกอย่างเงียบกริบแล้วตั้งโอ๋ลืมตาขึ้นปัง! กรอกตาไปมาประมาณว่าเช็กว่ามีอะไรไหมพอทุกอย่างไม่มีอะไรแล้วตั้งโอ๋หลับตาลงอย่างสบายใจ
พระจันทร์สีหม่นยามดึก
ตั้งโอ๋ยังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง
มีอะไรบางอย่างตกลงมาแปะที่หน้าผากตั้งโอ๋ตั้งโอ๋รู้สึกตัวลืมตาขึ้นมองแต่มองไม่ชัดเพราะอยู่บนหน้าผากตั้งโอ๋ค่อยๆเอื้อมมือขึ้นไปหยิบสิ่งนั้นขึ้นดู
มันเป็น "ขา" ของแมวดวงใจ
ตั้งโอ๋ถือขาแมวกรี๊ดลั่น
แล้วขาแมวในมือตั้งโอ๋ก็ลอยหวืดไปหาซินดี้ที่นั่งอยู่ปลายเตียง นางกำลังเย็บขาแมวให้ติดกับตัวอยู่ด้วยเข็มกับด้าย
ซินดี้จ้วงเข็มทะลุเนื้อเย็บอย่างรวดเร็ว
เข็มจิ้มลงไปในเนื้อแมวจนเลือดกระเซ็นมาโดนหน้าตั้งโอ๋
แล้วซินดี้หันมาแสยะยิ้มให้ตั้งโอ๋หัวเราะเสียงเย็นยะเยือก
คราวนี้ตั้งโอ๋กรีดร้องออกมาสุดเสียงกลัวสุดขีด
บ่ายวันใหม่ เข้มขี่มอเตอร์ไซค์มาส่งตั้งโอ๋เธอถอดหมวกกันน็อคคืนให้เข้ม
ตั้งโอ๋ท่าทางเพลียๆไม่ได้นอน“ขอบใจเข้ม”
“ฉันเห็นแกนั่งดูซีรีส์เกาหลีจนเช้าทำไมต้องหักโหมขนาดนั้นด้วย”
ตั้งโอ๋หาวหวอด
“เออมันเป็นทางเดียวที่ฉันจะไม่เห็นผะ...”
เข้มมองลุ้นว่าจะพูดอะไร “ผะฮึผะอะไร”
ตั้งโอ๋นึกขึ้นมาแก้ตัว “ผะ ..ผึ้งไง” ตั้งโอ๋โบกมือบัดๆ“ผึ้งมาจากไหนเนี่ย”
ตั้งโอ๋วิ่งตื๋อเข้าโรงละครไป
“เฮ้ยตั้งใจทำงานดีๆล่ะอย่าแอบหลับจนเสียงานนะเว้ย”
โอ๋เข้ามาตรงแถวบอร์ดประกาศแล้วหาวขึ้นมาอีกตั้งโอ๋ตบๆแก้มตัวเองเรียกสติ
“หลับไม่ได้นะตั้งโอ๋เดี๋ยวผีพี่ซินดี้มาหลอกอีก”
ใบประกาศหลุดจากบอร์ดลงมาที่หน้าตั้งโอ๋เลยหยิบขึ้นมาอ่าน
“ประกาศรับสมัครพนักงานทำความสะอาดเพศชายอายุ 25 ปีขึ้นไปการศึกษา....” ตั้งโอ๋เงยหน้าขึ้นมาบ่นเบาๆ “นี่มันตำแหน่งของน้าอ้วนนี่เฮ้อคิดแล้วเศร้าจริงๆน้าอ้วนไม่น่าเลย”
ตั้งโอ๋ถอนใจแล้วเข้าไปที่บอร์ดพยายามจะดึงหมุดที่ปักแต่หมุดตัวที่ว่างอยู่สูงเกินเอื้อม
มือภาวัชเข้ามาจับหมุด
ตั้งโอ๋ชะงักอึ้งเงยหน้าขึ้นมองเห็นภาวัชซ้อนอยู่ข้างหลังตัวเองจึงดูเหมือนเขาโอบอยู่
“คุณภาวัช!”
“มาสิฉันติดให้” ภาวัชดึงกระดาษไปติดหมุด
ตั้งโอ๋รู้สึกอึดอัด
ภาวัชติดกระดาษไปแล้วพูดไปด้วย
“เธอใช้นํ้าหอมอะไรทำไมไม่เหมือนพวกสาวประเภทสองในนี้ใช้เลย”
“เปล่าค่ะ ..มะไม่ได้ใช้”
“อ่อธรรมชาติ....” ภาวัชก้มมามองใกล้ “เธอนี่เหมือนผู้หญิงจริงๆเลยนะ”
ตั้งโอ๋อึ้งรู้สึกไม่ปลอดภัยรีบมุดแขนภาวัชออกมาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้…
“แหะแหะขอบคุณคุณภาวัชมากเลยค่ะที่ช่วย”
“ด้วยความยินดีจ้ะนี่เธอพึ่งมาทำงานเหรอทำไมฉันไม่คุ้นหน้าเลย”
“ตั้งโอ๋เป็นช่างแต่งหน้าค่ะคงไม่โดดเด่นเท่านางโชว์ที่ออกไปแสดงคุณภาวัชจะคุ้นหน้ามากกว่า”
“แต่นับจากวันนี้ไปเธอโดดเด่นพอที่ฉันจะจำได้ไม่ลืมแล้วนะ”
ภาวัชยิ้มให้อย่างโปรยเสน่ห์จ่อเป็นเป้าหมายต่อไป…
ภาวัชเดินออกไป
ตั้งโอ๋มองตามภาวัชทำท่ากึ๋ยๆ
“แหวะพูดมาได้ไงเนี่ยขนลุก”
ป้ามี่เดินออกจากห้องแต่งตัวมาพอดีเห็นตั้งโอ๋ด่าขึ้น
“แม่นางหอยหลอดอนามัยหล่อนจะเอ้อระเหยอีกนานมั้ยโชว์จะเริ่มแล้วนะยะ”
“ค่าไปแล้วค่า”
ตั้งโอ๋รีบวิ่งเข้าไปในห้องแต่งตัว
ต่อมา บนเวทีการแสดง
การแสดงโชว์ของเจ๊มดแดงช่วงหนึ่ง
ตั้งโอ๋นั่งสัปหงกอยู่แล้วสะดุ้งตื่นเอง
“หลับไม่ได้นะตั้งโอ๋ตื่นๆหลับไม่ได้” เธอตบๆแก้มตัวเอง“เดี๋ยวหลับแล้วพี่ซินดี้มาเข้าฝันอีกแน่ๆ”
ซินดี้หน้าสวยในชุดแดงลอยละลิ่วเคลื่อนตัวแบบเท้าไม่แตะพื้นมาตามทางสวยๆแต่หลอนมาก
โกกิเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวเรียกใช้ตั้งโอ๋
“นี่หล่อนหารองเท้าให้ฉันด้วยฉันจะไปเปลี่ยนชุดก่อน”
โกกิเดินลิ่วไปตรงมุมเปลี่ยนเสื้อผ้าตั้งโอ๋มองตามรับคำแบบเอือมๆนางเหมือนกัน
“ค่าคุณโกกิ!”
ซินดี้หน้าสวยลอยละลิ่วสวยหลอนมาอีกมุมแววตาร้ายมุ่งมั่นจะทำการอะไรบางอย่าง
ตั้งโอ๋เลือกหยิบรองเท้าออกมาวางเตรียมให้โกกิใส่ขึ้นโชว์
วิญญาณซินดี้พุ่งทะลุผนังเข้ามา
ตั้งโอ๋หันมองเห็นตะลึงรองเท้าร่วง
ซินดี้พุ่งเข้ามาสิงร่างตั้งโอ๋ทันที
ตั้งโอ๋ตัวกระตุกขึ้นมาทีหนึ่งแล้วสีหน้าแววตาเปลี่ยนเป็นซินดี้!!
ตั้งโอ๋แสยะยิ้มออกมาอย่างกวนอารมณ์
ฝ่ายโกกิสาละวนเปลี่ยนชุดอยู่ร้องเรียกตั้งโอ๋ให้มาช่วยรูดซิปให้
“นังตั้งโอ๋นี่ทำอะไรอยู่มารูดซิปให้ฉันหน่อยสิยะ”
ตั้งโอ๋กระชากม่านออกเสียงดังพรึ่บ! ดูหน้าสะพรึงมาก
โกกิสะดุ้งแต่ยังไม่ทันหันหน้ามา
“ว้ายตกใจหมดนี่ฉันยังพูดไม่ทันขาดคำเลยนะโผล่มาแล้วสาระแนจริงๆ”
ตั้งโอ๋จ้องเอาเรื่องมองเขม็ง
“นี่แล้วยืนเซ่ออยู่ทำไมรูดซิปสิ”
ตั้งโอ๋ยังยืนเฉยอยู่ไม่หือไม่อือ
โกกิหันมาหาจะต่อว่า
“หูแตกเหรอ”
ตั้งโอ๋ปล่อยหมัดผัวะ! เข้าหน้าโกกิล้มลงไปสลบทันที
ตั้งโอ๋แสยะยิ้มชอบใจยกเท้าขึ้นไปเหยียบหน้าโกกิอีกทีอย่างสะใจ
เวลาผ่านเล็กน้อยทีมงานเรียกหาโกกิให้มาเตรียมตัวออกไปแสดง
“โกกิมาเตรียมตัวครับ”
แล้วทีมงานก้มลงดูคิวไม่ทันมองหน้าว่าเป็นโกกิหรือใครเห็นแต่ชุดโกกิผ่านหน้าไปแว่บๆ
ตั้งโอ๋ในชุดโกกิเดินเข้ามายืนข้างม่านเตรียมออกแสดงมาดนิ่งลึกลับ
แพรวากับทิพย์ยืนดูการแสดงอยู่กับเจ้าหน้าที่ควบคุมเทคนิค
“ต่อไปเป็นโชว์ของโกกิค่ะ” ทิพย์บอก
แพรวามองรับรู้
“โอเคคิวมา”
เพลงการแสดงของโกกิซึ่งเป็นเพลงเดิมของซินดี้เริ่มขึ้น
ไฟฟอลโล่ไปจับตั้งโอ๋ที่ค่อยๆหันมาหาคนดู
ทุกคนเห็นเป็นหน้าตั้งโอ๋!!! ที่ดูเปรี้ยวเซ็กซี่ขึ้น
แพรวากับทิพย์ที่มองอยู่ตะลึง
“ไม่ใช่นั่นไม่ใช่โกกิ!” ทิพย์บอก
“ตั้งโอ๋!” แพรวาว่า
มดแดงดึงป้ามี่เข้ามาดูตรงหลืบข้างเวทีนางโชว์อื่นกรูมาดูด้วย
“ป้าเร็วนังตั้งโอ๋เห็นมั้ย”
“ว้ายยยอกอีแขกแตกแน่คุณแม่ขามันขึ้นไปทำอะไรของมัน!”
เสียงเพลงของซินดี้ยังดังอยู่
ตั้งโอ๋หมุนตัวอย่างสวยงามสะบัดผมแล้วโพสท่าเท้าสะเอวอย่างเซ็กซี่
ภาวัชที่ยืนอยู่มุมหนึ่งในโรงละครมองตั้งโอ๋ตาเป็นมันปิ๊งปลื้มขึ้นมา
ฝ่ายแพรวาทิพย์ว้าวุ่นคิดแก้ไขสถานการณ์
“แย่แล้วค่ะตั้งโอ๋ลิปตามใจชอบไม่ตรงสคริปเลยค่ะทำไงดีค่ะคุณแพร”
แพรวานิ่งคิดนิดนึง
“เข้าช่วงดนตรีเฟดทุกอย่างลงเอาตัวตั้งโอ๋เข้ามา”
“ครับ”
พนักงานเตรียมเฟดเพลงกับเสียงพร้อมกันแต่ต้องตะลึงหน้าตื่นบอก
“ไฟเฟดไม่ได้คับคุณแพร”
“อะไรนะ”
เสียงเพลงเงียบลงไปไฟยังสว่างอยู่
ตั้งโอ๋หยุดยืนนิ่งแล้วประกาศออกไปต่อสาธารณะ
“ฉันคือซินดี้ฉันไม่ได้ฆ่าตัวตาย”
ป้ามี่มดแดงแพรวาทิพย์ภาวัชต่างตะลึงตาค้างตกใจพูดไม่ออก
ตั้งโอ๋พูดจบแล้วก็ล้มลงไปสลบคาเวที
ตั้งโอ๋นอนอยู่บนเตียงของห้องพิเศษในโรงพยาบาล ค่อยๆรู้สึกตัว
สายตาตั้งโอ๋มองรอบๆค่อยๆรับรู้ว่าที่ไหนตั้งโอ๋เห็นพยาบาลยืนหันหลังจัดของอยู่ข้างเตียงอีกฝั่งตั้งโอ๋พยายามเรียกด้วยเสียงแหบแห้งกระแอมไปพลาง
“คุณพยาบาลคุณพยาบาลค่ะขอนํ้าฉันหน่อยได้มั้ยค่ะ”
พยาบาลยืนหันหลัง เทนํ้าจากเหยือกใส่แก้ว
ตั้งโอ๋หลับตาลงอีกครั้งระหว่างรอ
พอได้ยินเสียงแก้วกระทบถาดดังใกล้ตัว
ตั้งโอ๋ได้ยินเสียงก็ลืมตาแต่ต้องตกใจสุดขีดเมื่อเห็นหน้าพยาบาลชัดๆพร้อมแก้วนํ้าที่ถืออยู่
ตั้งโอ๋ช็อกตะลึงตาค้างเมื่อเห็นหน้าสวยๆของซินดี้
“พี่ซินดี้!”
ซินดี้แสยะยิ้ม
“นํ้าไงแกหิวนํ้ามากใช่มั้ย”
ซินดี้จับหัวตั้งโอ๋กรอกนํ้าใส่ปากไม่หยุดตั้งโอ๋พยายามส่ายหน้าหนี
“ช่วยด้วย .. ช่วยด้วยใครก็ได้ช่วยด้วย”
พยาบาลจริงเปิดประตูเดินเข้ามา
ตั้งโอ๋ดีใจมากรีบเรียก
“คุณพยาบาล !”
พยาบาล 1 เดินเข้ามาเหมือนได้ยินแต่กลายเป็นว่าเดินเข้ามาเขียนชาร์ทที่อยู่ปลายเตียง
“คุณพยาบาลได้ยินฉันมั้ย! ช่วยด้วย”
ซินดี้หัวเราะชอบใจ
“ฮะๆๆๆร้องซิร้องให้ตายก็ไม่มีใครได้ยินแกหรอก”
พยาบาลเหลือบมองตั้งโอ๋เห็นตั้งโอ๋นอนนิ่งหลับเป็นปกติมีแค่เปลือกตาที่กระดุกกระดิกเหมือนกลอกตาไปมาขณะหลับไม่มีซินดี้สภาพตั้งโอ๋เหมือนโดนผีอำขยับแขนขาไม่ได้
พยาบาล1เดินออกไป
ตั้งโอ๋ร้องโวยวายลั่นเรียกพยาบาลแต่พยาบาลไม่ได้ยิน
“คุณพยาบาลอย่าเพิ่งไปช่วยฉันด้วยปลุกฉันที”
ตั้งโอ๋พยายามจะลุกขึ้นเรียกแต่พยาบาล 1 ไปเสียแล้วตั้งโอ๋พยายามดิ้นหนีแต่แขนขาขยับไม่ได้ซินดี้หัวเราะเยาะ
ตั้งโอ๋ตัดสินใจรวบรวมสติถามซินดี้
“พี่ซินดี้พี่ทำแบบนี้กับฉันทำไมพี่ต้องการอะไร”
“ฉันต้องถามแกมากกว่านังตั้งโอ๋แกคิดว่าแกจะหยุดการล้างแค้นของฉันได้เหรอคนพวกนั้นมันสมควรตาย ! มันทุกคนสมควรตาย”
ตั้งโอ๋นิ่งคิดหาวิธีหยุดซินดี้
“เพราะมีคนฆ่าพี่พี่ไม่ได้ฆ่าตัวตายใช่มั้ย”
ซินดี้ชะงัก
“งั้นน้าอ้วนเป็นคนฆ่าพี่เหรอพี่ถึงฆ่าน้าอ้วน”
ซินดี้เจ็บปวด
“มันฆ่าดวงใจ”
“น้าอ้วนฆ่าดวงใจพี่ถึงกับลงโทษถึงตายเชียวเหรอ”
ซินดี้จ้องตั้งโอ๋แบบสะกดจิต
ตั้งโอ๋มีอาการเหมือนโดนเชือกรัดคอดึงตัวขึ้นไปในอากาศตั้งโอ๋ลอยสูงขึ้นเหมือนโดนแขวนคอหายใจไม่ออก
“อ๊อก”
ซินดี้ตะคอกใส่
“จะเป็นคนหรือสัตว์!! มันก็ไม่มีสิทธิ์พรากชีวิตใครทั้งนั้นมันทำกับดวงใจอย่างโหดร้ายทารุณมันสมควรตายแล้ว!”
ตั้งโอ๋หายใจไม่ออกแรง พยายามดิ้นกลางอากาศ “อ๊อก ....ช่วย...ด้วย”
“กลัวตายด้วยเหรอฮ่าฮ่าฮ่านึกหรือว่าแกจะรอดแกจะว่าอะไรมั้ยถ้าฉันจะฆ่าแกด้วยตั้งโอ๋”
ซินดี้จ้องแรงอีกเหมือนบีบรัดคอตั้งโอ๋แน่นขึ้น
ตั้งโอ๋ตาเหลือกเหมือนจะหยุดหายใจแล้วแต่ทันใดนั้นซินดี้จ้องคลายสะกดปล่อยตัวตั้งโอ๋ตกลงมาบนเตียงเหมือนเดิมตั้งโอ๋หายใจหอบนํ้าหูนํ้าตาไหล
“ฉันยังไม่ฆ่าแกตอนนี้หรอกเพราะแกยังมีประโยชน์กับฉัน”
“พี่หมายความว่าไงพี่จะทำอะไรฉัน”
ซินดี้เปลี่ยนเป็นยิ้ม
“แต่ละชีวิตที่ฉันฆ่า!!! มันยิ่งทำให้ฉันมีพลังยิ่งฆ่ามากเท่าไรฉันก็จะมีพลังอำนาจเพิ่มสูงขึ้นเท่านั้นแต่ในช่วงที่พลังของฉันยังไม่สมบูรณ์ฉันก็จะใช้ร่างของแกแทนไงล่ะนังโง่!”
“ไม่นะอย่ามายุ่งกับฉันฉันไม่ยอมเป็นเครื่องมือของพี่หรอก”
“โถกลัวพี่ซินดี้มากเลยเหรอ” ซินดี้ลูบหัวตั้งโอ๋เหมือนเอ็นดูก่อนจะกระชากจนหน้าหงาย
“มันสายไปแล้วแกเคยกินเลือดของฉัน”
ภาพที่ตั้งโอ๋กินเลือดซินดี้ผ่านเข้ามา
“แล้วฉันก็เคยกินเลือดของแกมันทำให้เราสองคนโยงใยกันอย่างเหนียวแน่น”
ตั้งโอ๋มือเกี่ยวเข็มกลัดแล้วเลือดหยดลงที่ชุดซินดี้
“แกต้องเป็นทาสฉันไปจนชั่วชีวิตนังตั้งโอ๋! ฮะๆๆ”
ซินดี้หัวเราะเยาะอย่างสะใจทันใดนั้น... ซินดี้หน้าสวยกลายเป็นหน้าผี
ตั้งโอ๋กรี๊ดลั่นด้วยความกลัวดังก้องไปทั้งห้อง
วันใหม่ ตอนกลางวัน ที่เรือนแม่ชี ซึ่งเคยเลี้ยงบุลินมาแต่เด็ก เนื่องจากเขาเป็นเด็กกำพร้า
บุลินกราบแม่ชีกานดานั่งอยู่ข้างๆ
“ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุเพิ่งจะมีโอกาสมากราบคุณน้าแม่ชีคุณน้าสบายดีนะครับ”
แม่ชีบอก "สบายดีจ้า ไม่ได้เจ็บไข้อะไร บุลินหายดีแล้วหรือลูก"
"ครับ โชคดีที่ผมได้การรักษาที่ดี ตอนนี้ก็กลับมาทำงานได้แล้วครับ"
"โลกนี้ไม่มีคำว่าบังเอิญหรอกนะบุลิน ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นล้วนแล้วแต่มีเหตุและปัจจัยทั้งนั้น บุลินเคยได้สร้างอกุศลกรรมจึงมีเคราะห์แล้วก็รอดมาได้ เพราะกุศลกรรมที่เคยทำไว้นั่นแหละ"
"แล้วอย่างนี้แปลว่าพี่หมวดบุลินพ้นเคราะห์หรือยังคะคุณแม่ชี ไม่มีอะไรหนักอีกแล้วใช่มั้ยคะ" กานดาถาม
แม่ชีมองหน้าบุลินแล้วเกิดภาพนิมิตขึ้น
บุลินนั่งกุมศีรษะกับพื้นแบบปวดหัวมาก
ผีซินดี้ก้าวเข้ามายืนข้างหลังบุลิน จ้องมองจะกินเลือดกินเนื้อ
แม่ชีตอบอย่างรู้กรรมบุลิน แต่ไม่พูดตรงๆ
"คุณน้า....นิ่งไปเลยนะคะ ตกลงว่าเป็นไงบ้างคะ"
"เจริญสติอยู่ในธรรม ตั้งตัวอยู่บนความไม่ประมาท ยึดมั่นในคุณความดี แล้วความดีนั้นจะเป็นเกราะกันภัยให้บุลินเอง ภูตผีปีศาจเคราะห์กรรมอันใด ก็จะทำอันตรายไม่ได้"
"ครับคุณน้า ผมจะน้อมนำคำสอนของคุณน้าไปปฏิบัติครับ"
บุลินขับรถมากับกานดาที่นั่งข้างๆ
"ก่อนกลับคุณน้าแม่ชีให้พระอะไรอ่ะ พี่หมวด"
"อ่อ หลวงพ่อเหล็กไหลน่ะ ท่านบอกว่าให้ห้อยบูชาติดตัว"
"งั้นก็ต้องใส่กรอบก่อนสิ มะ เดี๋ยวไปทำให้เอง"
กานดาแบมือออก
บุลินล้วงหยิบพระจากกระเป๋าเสื้อส่งให้ กานดากํา รับพระไว้
"ขอบใจ ฝากด้วยนะ" บุลินพูด แต่ไม่ได้มองหน้ากานดา
เสียงซินดี้หัวเราะเย็นๆดังขึ้น
ริมฝีปากกานดา พูดเป็นเสียงซินดี้ ดูหลอน
"หึ หึ หึ คิดว่าพระจะช่วยได้เหรอ"
บุลินตกใจ หันไปมองทางกานดาที่กลายเป็นหน้าซินดี้
"ความดีก็เหมือนกัน มันไม่เคยช่วยอะไรได้เลย นอกจากเป็นเครื่องมือหลอกคนโง่ให้ตกเป็นเหยื่อคนชั่ว!"
"ซินดี้!"
ซินดี้ค่อยยกมือข้างที่กำพระขึ้นมาเห็นมีควันออกมาจากมือแล้วพอซินดี้แบมือออกให้บุลินดูก็เห็นว่า มือซินดี้ไหม้เป็นรูโบ๋พร้อมๆกับพระที่ละลายไปกับมือ
บุลินมองตะลึง
"ต่อให้พระทำให้ฉันมอดไหม้ ฉันก็ไม่หยุดแก้แค้น ฉันจะฆ่าให้หมดทุกคน!!! ฮ่าฮ่าฮ่า"
ซินดี้หัวเราะอย่างหลอน
บุลินตกใจตื่นขึ้นมา อึ้งๆนึกถึงพระรีบลุกเดินไปดึงลิ้นชักในห้องออกมา หยิบกล่องพระออกมาดูเห็นว่า พระยังอยู่ปกติ
"พระยังอยู่" เขาส่ายหน้าไม่ได้เรื่อง "ฝันเพ้อเจ้อ"
บุลินเก็บพระแล้วกลับไปนอนต่อ
บุลินหลับตาพลิกตัวแล้วเจอซินดี้นอนตะแคงจ้องหน้าอยู่ข้างๆ
ซินดี้จ้องหน้าบุลินที่หลับอยู่นิ่งลึกซึ้ง ซินดี้ค่อยพูดขึ้น
"คุณลืมฉันไปแล้วเหรอ บุลิน ฉันไม่ยอมหรอกนะ ....ฉันจะทำให้คุณจำได้เองว่า เราเคยรู้จักกันแบบไหน"
ซินดี้จ้องหน้าบุลินใกล้มีแผนอะไรบางอย่าง
ต้อมกับเข้มถือปิ่นโตมาที่หน้าห้องพิเศษในโรงพยาบาล วันใหม่
ต้อมบอก "ใจร้ายที่สุด เพิ่งจะโทร.บอกเนี่ยนะว่าตั้งโอ๋เข้าโรงพยาบาล"
"ห้องนี้พี่ อ่ะน่า อย่างน้อยเค้าก็ดูแลตั้งโอ๋มันอย่างดีให้นอนห้องพิเศษเชียวนะ"
ต้อมพยักหน้าเห็นด้วย
"อืมตั้งโอ๋มันเป็นเด็กดี แถมยังอดทน เค้าก็คงมีเมตตามันอยู่แหละ อย่ามัวพูดเลยเดี๋ยวซุปจะเย็นหมด"
ต้อมผลักประตูเข้าไป
"ตั้งโอ๋! ..อ้าว? .... ตั้งโอ๋หายไปไหนล่ะเข้ม"
ต้อมมองไปเห็นเตียงว่างเปล่า ทั้งสองมองหน้ากันอย่างเป็นห่วง
ในโรงพักเวลาต่อมา
เข้มถลาเข้าไปหาบุลินพร้อมจะมีเรื่อง เพราะเข้มมาแจ้งความว่า คนหาย ! แต่บุลินคิดว่า ตั้งโอ๋น่าจะเรียกร้องความสนใจมากกว่า
"คุณพูดแบบนี้ได้ไงผู้หมวด ไหนพูดใหม่อีกทีซิ"
"ครับผมบอกว่าตั้งโอ๋ไม่ได้หายไปไหนหรอก ก็แค่เรียกร้องความสนใจเท่านั้นเอง"
พูดจบเข้มก็ต่อยหน้าบุลินทันทีอย่างไม่ตั้งตัว กานดาเข้ามาห้าม
"พอแล้ว หยุดนะ ไม่งั้นฉันจะจับนายที่ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่"
ต้อมบอก "เข้มเรามาขอให้ตำรวจช่วยนะ ไม่ใช่มาหาเรื่องเค้า"
"พี่ต้อมก็ได้ยินไม่ใช่เหรอ ตำรวจปากหมาแบบนี้ มันสมควรเอาหมาออกจากปากมั้ย"
"โอ้โฮจะแรงไปถึงไหนเนี่ย ฉันรู้ว่านายเป็นห่วงตั้งโอ๋ แต่วาจาสุภาพกว่านี้จะดีกว่า" กานดาบอก
"ผมพูดได้แค่นี้แหละ ไอ้ที่ว่าตำรวจพึ่งได้ แต่มันเป็นแค่คำสวยๆไว้สร้างภาพใช่มั้ย"
บุลินยกมือยอมแพ้
"เอาล่ะ ก่อนที่นายจะดราม่ามากกว่านี้ ฉันขอยอมแพ้ ..แล้วฉันก็จะไม่ยุ่งเรื่องนี้อีก"
บุลินหันไปหากานดา
"กานดาเดี๋ยวเธอรับคดีนี้ไปก็แล้วกัน พี่มีคดีอื่นต้องทำ! ไปจ่า"
บุลินหันไปหาจ่าโอแล้วก็เดินนำลงไป
"เดี๋ยวซิพี่หมวด!"
กานดางงที่จู่ๆก็มาโยนกัน เข้มมองทางกานดาทำนองว่าไงจะช่วยมั้ย
"โอเคว่ามา ขอรายละเอียดอีกที นายพบตั้งโอ๋ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่"
บุลินแล่นรถไปตามถนนเลียบชายหาด
จ่าโอถาม "หมวดจะไม่ไปตามตั้งโอ๋จริงๆหรือครับ"
"แล้วผมต้องตามทำไม"
"ผมได้ข่าวว่าตั้งโอ๋ขึ้นไปประกาศบนเวทีการแสดงว่า ซินดี้ไม่ได้ฆ่าตัวตาย แล้วก็หมดสติไปผมว่าน่าเป็นห่วงนะครับ ท่าทางจิตใจจะไม่ปกติเท่าไร อาจจะหนีไปทำอะไรที่ทำร้ายตัวเองก็ได้"
บุลินอึ้งไปนิดนึง เป็นห่วงเหมือนกันแล้วเปลี่ยนใจ
"ใครจะฆ่าตัวตายง่ายๆไม่มีเหตุผล"
"แสดงว่าหมวดไม่เชื่อที่ตั้งโอ๋พูดเลยใช่มั้ยครับ"
"ดีมันจบไปแล้ว นี่จ่าถ้ายายตั้งโอ๋อยากจะรื้อขึ้นมาใหม่จริงๆ ก็ต้องหาหลักฐานมาค้านหรือไม่ก็พาซินดี้มาบอกผมเลย"
"โฮ ... หมวดเล่นแรงนะเนี่ย คนตายไปแล้วจะมาชี้ตัวคนร้ายได้ยังไงล่ะครับ"
บุลินมองไปหน้ารถ มีผู้หญิงชาวบ้านกระโดดมาหน้ารถอย่างกะทันหัน
บุลินตกใจเหยียบเบรคทันที จ่าโอถึงกับหัวทิ่ม เห็นว่ารถไม่ได้โดนตัว
ผู้หญิงสบตากับบุลินอยู่ชั่วขณะแล้วก็ล้มลงหน้ารถ
บุลินกับจ่าโอรีบลงไปดู เห็นผู้หญิงชาวบ้านนอนสลบ
"คุณๆเป็นไง"
"เอ๊ะ เมื่อกี้ผมว่าหมวดก็เบรคทัน รถยังไม่ได้โดนตัวเลยนะครับ ทำไมถึงสลบได้"
ผู้หญิงลืมตาปังขึ้นทันที ตาแข็งเพราะโดนซินดี้สะกดจิต
"คนจมนํ้า"
ผู้หญิงลุกขึ้นมานั่ง ชี้มือไปทางทะเล บุลินมองตามแล้วผู้หญิงสลบไปอีกรอบ หลังพูดจบ
"จ่าตามรถพยาบาลที ผมไปดูเอง"
บุลินส่งผู้หญิงให้จ่าดูแล แล้วรีบออกไป
บุลินวิ่งออกมา มองหาที่ริมทะเลอยู่พักนึงก่อนจะเห็นหลังผู้หญิงคนหนึ่งเดินลุยนํ้าลงเรื่อยๆไป ระดับนํ้าถึงหน้าอกแล้ว
บุลินรีบเรียก
"คุณๆอย่าทำแบบนั้นกลับมา"
ผู้หญิงคนนั้นเดินลุยลงไปจนนํ้าถึงคอแล้วก็จมหายไปทันทีต่อหน้าบุลิน
บุลินรีบวิ่งลุยลงไปในทะเลก่อนจะพุ่งตัวดำลงไป
บุลินดำลงไป มองหาว่า ผู้หญิงคนนั้นอยู่ไหน จนเจอตัว บุลินรีบคว้าตัวพลิกมาเห็นว่าเป็นตั้งโอ๋บุลินตะลึง ตั้งโอ๋โนซินดี้สิงอยู่ ลืมตาปึงขึ้นมาทันที
ตั้งโอ๋โดนซินดี้สิงอยู่ ดึงบุลินมาจูบปาก เหตุการณ์นั้น เหมือนกับตอนซินดี้จมนํ้า บุลิน แว่บภาพในอดีตเข้ามาในหัว
บุลินดึงซินดี้มาเม้าท์ทูเม้าท์
ตั้งโอ๋กลายเป็นซินดี้ บุลินถึงกับตกใจ ทะลึ่งพรวดขึ้นมาเหนือนํ้า ทั้งสองคนโผล่ขึ้นมาเหนือนํ้าหน้ายังอยู่นระยะประชิดกันมาก
ซินดี้ถาม "จำฉันได้แล้วใช่มั้ย"
บุลินตะลึงรู้ทันทีว่า เป็นซินดี้จริงๆ
"ซินดี้!"
ซินดี้ยิ้มเยาะเบาๆใส่หน้าบุลิน แล้วหน้ากลายเป็นตั้งโอ๋ สลบไปอีกครั้ง
บุลินรีบประคองไม่ให้จมไปอีก
บุลินวางตั้งโอ๋บนชายหาด
แล้วรีบจับชีพจรตั้งโอ๋ดู แล้วตีแก้มตั้งโอ๋ให้รู้สึกตัว
บุลินก้มลงเรียกใกล้ๆอย่างเป็นห่วง “ตั้งโอ๋ๆฟื้นซิ”
ตั้งโอ๋รู้สึกตัว ตาสบตากันอยู่สักครู่ บุลินก็สบตาตั้งโอ๋ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตัวเองรู้สึกยังไง ก่อนจะดึงสติตัวเองกลับมา ได้ถอยห่างคุมสติได้กลับมานิ่งเหมือนเดิม
“ฟื้นแล้วเหรอ”
ตั้งโอ๋ยังงงอยู่
“ฉัน .. ฟื้นแล้ว? ฉันมาทำอะไรที่นี่”
“ฉันต้องถามเธอมากกว่า เธอเดินลงไปในทะเลจงใจจะฆ่าตัวตายเหมือน…” บุลินชะงักเพราะจำได้ เลยเงียบไปไม่พูดชื่อออกมา “ดีที่ฉันลงไปช่วยทัน เธอทำแบบนั้นทำไม”
“ฉันเปล่า..ฉัน..ฉัน...” ตั้งโอ๋พยายามนึกแล้ว จู่ๆภาพที่ตั้งโอ๋ดึงบุลินเข้ามาจูบเมื่อกี้ก็แว่บขึ้นมา ตั้งโอ๋อดไม่ได้ที่จับริมฝีปาก “ ฉัน... จูบ...หมวด”
ทั้งตั้งโอ๋และบุลินต่างคนต่างอึ้ง ทำหน้าไม่ถูก
“ไม่ .. ไม่ใช่ฉัน.... ฉันบังคับตัวเองไม่ได้”
“ซินดี้! ซินดี้ใช่มั้ยที่บังคับเธอให้ทำอย่างที่เค้าต้องการ”
ตั้งโอ๋ทั้งอึ้ง..ทั้งดีใจแล้วก็แปลกใจในขณะเดียวกัน “หมวด...หมวดรู้ได้ยังไง”
บุลินก็อึ้งบอกตั้งโอ๋ไม่ได้เหมือนกันเพราะมันเป็นความรู้สึกและยังไม่อยากยอมรับเท่าไร
“จะยังไงก็ช่างเถอะ เอาเป็นว่าฉันรู้ก็แล้วกัน”
“ฉัน...ฉันขอโทษนะ”
“ขอโทษทำไม”
“ก็ที่ฉันจูบหมวดไง”
บุลินมองตาตั้งโอ๋ที่ทำตาซื่อใส่ แล้วบุลินเขินเองทำเป็นว่าใส่แล้วหนี
“ยายบ้า”
บุลินลุกเดินหนี
“หมวดเป็นอะไร เดี๋ยวสิ”
ตั้งโอ๋ตามจับแขน พอบุลินหันมา ตั้งโอ๋จึงค่อยปล่อย
“คือฉัน...เออ ...ฉันก็รู้นะว่ามันไม่ใช่ตัวฉัน แต่เป็นพี่ซินดี้ แต่ฉันว่าฉันก็ควรจะขอ....”
บุลินขัด
“เลิกพูดเรื่องจงจูบนี่เสียทีได้ไหม..ไม่เห็นมันจะมีสาระตรงไหน”
“มีสิ ถ้าฉันไม่จูบหมวด หมวดก็คงไม่รู้ว่าวิญญาณพี่ซินดี้มีจริงๆ คราวนี้หมวดเชื่อฉันได้หรือยังว่าพี่ซินดี้กลับมาแก้แค้น พี่ซินดี้ต้องการเอาชีวิตทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ตัวหมวดเอง”
บุลินอึ้งสบตากับตั้งโอ๋กับความจริงที่เป็นเงาดำทะมึนอยู่ข้างหน้า
เข้มกับกานดาพาต้อมเข้ามานอนที่โซฟา
“พี่ต้อมพักก่อนเถอะ เดี๋ยวเรื่องตั้งโอ๋ผมกับหมวดตามต่อเอง”
“ใช่พี่หน้าซีดมาก รอฟังข่าวอยู่ที่บ้านนี่แหละ”
ต้อมพยักหน้ารับ
“ขอยาดมหน่อย”
เข้มกับกานดาคว้ายาดมที่วางอยู่บนโต๊ะพร้อมกันกลายเป็นกานดาจับมือเข้ม สองคนรีบปล่อยมือแล้ว ก็ผงะกันทั้งคู่
“เอ่อ .... ฉันไปเอานํ้ามาให้ดื่มดีกว่า” กานดาแอบเขินรู้สึกแปลกๆ
กานดาหมุนตัวไปอีกทาง แอบเขินอย่างไม่เข้าใจตัวเอง พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นตั้งโอ๋ยืนเป็นลูกหมาตกนํ้าอยู่ที่ประตู
“ตั้งโอ๋! กลับมา.. “
กานดาตั้งท่าจะถามต่อ แต่เข้มพุ่งมาจากข้างหลังแซงกานดาเข้าไปกอดตั้งโอ๋ ซึ่งดูซึมๆมีอะไรในใจ
“ตั้งโอ๋หายไปไหนมา รู้มั้ยว่าทุกคนเป็นห่วงมาก”
“เรื่องมันยาวเอาเป็นว่าฉันปลอดภัย”
เข้มขยี้หัวตั้งโอ๋
“ไอ้บ้าเอ๋ย ทำเอาตกใจกันไปหมด”
กานดาภาพมองเข้มที่สนิทสนมกับตั้งโอ๋แล้วใจเต้นสับสนขึ้นมาอีก
ตั้งโอ๋เดินเข้ามากอดต้อมทักทาย
“ตั้งโอ๋ปลอดภัยก็ดีแล้ว”
เข้มเดินตามมาเห็นกานดายืนอึ้งๆอยู่
“เป็นไรหมวดทำหน้ายังกับแมวโดนทิ้ง”
“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน นายไปดูแลตั้งโอ๋เถอะ ฉันจะกลับโรงพัก”
กานดาพุ่งออกจากบ้านไป เข้มมองตามงง
“อะไรของหมวดเนี่ย อยู่ๆมาเหวี่ยงใส่ผมทำไมคับ”
ต่อมา กานดาเดินขึ้นมาบนโรงพัก ถอนใจเฮือก
“เป็นบ้าอะไรวะ ไปเหวี่ยงเขาทำไม”
กานดามองไปหาบุลิน
“พี่หมวดกลับมาหรือยัง”
มุมกาแฟ บุลินยืนถือแก้วกาแฟ แต่ใจลอยคิดถึง เรื่องที่ผ่านมา ตอนจูบกับซินดี้, ตอนจูบกับตั้งโอ๋ และคำพูดตั้งโอ๋ที่พูดที่ริมทะเล
“ถ้าฉันไม่จูบหมวด หมวดก็คงไม่รู้ว่า วิญญาณพี่ซินดี้มีจริงๆ คราวนี้หมวดเชื่อฉันได้หรือยัง ว่าพี่ซินดี้กลับมาแก้แค้น พี่ซินดี้ต้องการเอาชีวิตทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ตัวหมวดเอง”
กานดาเข้ามาพูดใกล้ๆ
“พี่หมวดๆ”
บุลินยังไม่ได้ยินจนกานดาต้องตบไหล่
“พี่หมวด”
บุลินเพิ่งรู้สึกตัว
“มีอะไร”
กานดาชะโงกหน้าเข้าไปดู “พี่หมวดนั้นแหละคิดอะไรอยู่ มายืนถือแก้วกาแฟเปล่า ทำไม”
“ก็ .. พี่คิดเรื่องคดีนะ” บุลินว่า
“คดีไหน”
บุลินยังไม่ทันพูดอะไรต่อ จ่ายอดหน้าตาตื่นเข้ามา
“หมวดครับหมวดได้เรื่องแล้วครับ”
“เรื่องอะไร!”
จ่ายอดยื่นโทรศัทพ์ชัย ซึ่งเป็นขโมยที่ขึ้นบ้านตั้งโอ๋ ออกมา
หน้าจอจากโน้ตบุ๊คเชื่อมต่อกับมือถือของชัย เป็นคลิปแอบถ่าย
ในอดีตเมื่อ 3 เดือนก่อน ในห้องเก็บของรกๆ ด้านหลังอพาร์ทเม้นท์เพลินพิมาน ตอนกลางคืน
คืนนั้น อ้วนจับดวงใจกดลงกับพื้น ท่าทีโมโห มืออีกข้างถือมีดอีโต้
“มึงกล้าข่วนกูเหรออีแมวนรก มึงรู้มั้ยว่ามึงเล่นกับใครฮะ ข้างนี้ใช่มั้ย ที่มึงข่วนกูข้างนี้ใช่มั้ย”
อ้วนยกอีโต้ขึ้นแล้วสับๆลงไปที่ขาแมวข้างหนึ่งพร้อมเสียงแมวร้องลั่น ขาแมวกระเด็นออกมา
แล้วอ้วนก็จัดการหยิบเชือกที่ตกอยู่ข้างๆมารัดคอแมวดวงใจจนขาดใจตาย
ในคลิปแบบกดเรคคอร์ด เป็นภาพอ้วนเล่นกับกล้องชูขาแมวอยู่ข้างๆเป็นศพดวงใจที่ตัวเองแขวนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แล้วโยนขาแมวลงบนพื้น
ชัยเข้ามายืนข้างๆอ้วนแบบถ่ายเซลฟี่กับศพดวงใจกันสนุก
จ่ายอดดึงสายต่อโน้ตบุ๊กกับมือถือออก หน้าจอดับ
กานดาถึงกับพ่นลมระบายความอึดอัด
“ใจหมาเอ๊ย... ใจอำมหิตกันจริงๆ ไหนจ่าว่านายอ้วนเป็นคนเรียบร้อย อ่อนน้อมไม่ใช่เหรอทำไมสันดานที่แท้จริงมันถึงได้หน้ามือหลังเท้าอย่างนี้ล่ะ”
จ่ายอดเกาหัวแกรกๆ
“งงครับงง ผมเห็นแล้วก็ไปไม่เป็นเลยเหมือนกัน อย่างว่าคนเราเห็นแค่หน้าตาไม่รู้หรอกว่าจิตใจเป็นยังไง โรคจิตหรือเปล่า แบบที่หมวดบุลินว่าไว้ไม่มีผิด”
บุลินถามขึ้น
“จ่าได้คลิปนี้มาจากไหน”
“ในมือถือของนายชัย หัวขโมยที่ขึ้นบ้านคุณตั้งโอ๋ไงครับ”
“อะไรนะ!”
“ผมเช็คมือถือนายชัยเลยได้รู้ว่า นายชัยเป็นเพื่อนกับนายอ้วนน่ะครับ”
บุลินอึ้งไปเลย “ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆมันบังเอิญไปมั้ย”
“มันไม่มีเรื่องบังเอิญในโลกนี้แบบที่คุณน้าแม่ชีบอกพี่หมวดไง นี่สวรรค์คงส่งหลักฐานมาให้เราได้รู้ว่า นายอ้วนเป็นคนฆ่าแมวของซินดี้จริงๆแล้วก็เป็นคนเอาศพแมวไปแขวน....เดี๋ยวนะ ยังมีบังเอิญอีกอย่างที่ไม่น่าเชื่อกว่านั้น การตายของนายอ้วนมันก็เหมือนกับการตายของเจ้าแมวตัวนี้เด๊ะเลย!”
“ที่ๆนายอ้วนตายก็เป็นที่เดียวกับแมวดวงใจโดนแขวนคอด้วยครับ”
“เฮ้ย ใช่จริงๆด้วย ลักษณะการโดนแขวนก็เหมือนกัน...โอ้ย... ขนลุก นี่มันเหมือนที่ตั้งโอ๋บอกไว้ไม่มีผิดเลยนี่”
จ่ายอดถึงกับสะดุ้ง กานดาถึงกับมองหน้ากับบุลิน แต่ยังไม่มีใครพูดอะไร
จ่าโอก็เปิดประตูห้องผั้วะเข้ามาหน้าตาตื่น
“หมวดเกิดเรื่องไม่น่าเชื่อแล้วครับ !”
ทั้งหมดเดินเข้ามาดูภาพในกล้องวงจรปิด
จ่าโอบอก “ผมเจอผู้ต้องหาอยู่ที่มุมตึก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงยังอยู่ที่โรงพัก ทั้งๆที่ได้รับการประกันตัวไปแล้ว ดูกล้องวงจรปิดนี่สิฮะ”
ชัยในเทปกล้องวงจรปิดบันทึกไว้
ชัยเหมือนโดนต้อนเข้ามาที่มุมตึก ชัยหวาดกลัวสุดขีด
ชัยพยายามจับมือตัวเองอีกข้างไม่ให้ยกขึ้นแต่ก็ห้ามไม่ได้
ในที่สุดก็เอามือควักลูกตาตัวเองทั้งสองข้าง
ชัยนอนกรีดร้องอย่างเจ็บปวด จับตาปิดหน้าทั้งสองข้างด้วยความเจ็บปวด เลือดไหลออกมาท่วมตัว
บุลิน กานดา จ่าโอ จ่ายอดวิ่งเข้ามาที่เกิดเหตุ เห็นว่า เจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตกําลังวุ่นวายพาตัวชัยขึ้นเปลหามออกไป กานดาขยับหลบให้ แต่เจอบุลินจับตัวไว้
“ระวัง!”
กานตามองลงไปเห็นลูกตากระเด็นหลุดจากมือชัยมาอยู่ปลายเท้าเกือบเหยียบ
จ่าโอกับจ่ายอดถึงกับสะดุ้งตกใจ
บุลินเองก็อึ้งเหมือนกัน
เจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตหยิบตาที่กระเด็นมาข้างหนึ่งใส่ถังแช่นํ้าแข็ง กานดาทำใจแข็งทำต่อ บุลินมองไปรอบๆเผื่อเจอหลักฐานอื่น
กานดาถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่จับต้นชนปลายไม่ถูก “มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย”
จ่าโอบอก “ไม่ทราบสาเหตุเหมือนกันครับว่าทำไมผู้ต้องหาถึงควักลูกตาตัวเองแบบนี้”
“โอเค ... งั้นเดี๋ยวฉันไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่แถวนี้เผื่อจะเห็นอะไร”
“ผมกับจ่าโอจะตามไปที่โรงพยาบาลนะครับ” จ่ายอดบอก
“ดี ผมขอเก็บหลักฐานแถวนี้เพิ่มหน่อย”
กานดากับจ่าโอ จ่ายอดออกไป กานดาเดินไปคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแถวนั้น
บุลินมองไปรอบๆ บุลินควักโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บหลักฐาน
เสียงหัวเราะซินดี้ค่อยๆแว่วๆดังมานิดหนึ่ง … หึหึ
บุลินชะงัก เสียงหัวเราะเงียบ
บุลินเลยก้มลงพิจารณาหยดเลือดที่นองอยู่ที่พื้นเอามือแตะดู
เสียงหัวเราะซินดี้ดังขึ้นเรื่อยๆทันที คราวนี้ดังยาว
ทั้งบริเวณนั้นกลายเป็นเหลือบุลินเพียงคนดียว
รอบตัวบุลินมีแต่เสียงหัวเราะของซินดี้ที่ดังอยู่ พอบุลินมองหาก็ไม่มีใคร ... แต่รู้ว่าเป็นซินดี้
กานดาเอื้อมมือมาแตะไหล่บุลินจากด้านหลัง บุลินสะดุ้งสุดตัว ตกใจเหมือนกัน แต่พอหันกลับมาก็เป็นกานดา สภาพบริเวณนั้นกลายเป็นปกติมีเจ้าหน้าที่อยู่
“ฉันเองพี่หมวด...แปลก เจ้าหน้าที่แถวนี้ไม่มีใครเห็นเลยว่า นายชัยอยู่แถวนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” กานดาสังเกตเห็นสีหน้าบุลิน แล้วถาม “มีอะไรเหรอพี่หมวดหรือว่าพี่ได้หลักฐานเพิ่ม”
“พี่ขอไปคุยกับสารวัตรก่อน เรียกทุกคนมาประชุมด้วย”
บุลินออกไป กานดามองตาม สงสัยว่าเรื่องอะไร
บนเวทีเป็นการแสดงโชว์ของ “ป้ามี่”
บรรยากาศในห้องแต่งตัว นางโชว์เดินกันขวักไขว่เตรียมขึ้นแสดง
โกกิใส่เสื้อคลุม หยิบกระเป๋าใบเล็กแบบใส่ของไปห้องนํ้าเดินผ่านมาทางโต๊ะแต่งหน้าของมดแดงชะงัก ดูซ้ายขวาเห็นไม่มีคน ก็ชะโงกมองเข้าไปล้วงเอามาสคาร่าแท่งหนึ่งในกระเป๋ามดแดงมาปัดๆขนตาแล้วยัดใส่กระเป๋าตัวเองแล้วเดินออกไป …
โกกิเดินเลี้ยวออกมาจากมุม สะพายกระเป๋า พูดมือถือออกมาด้วย เดินเรื่อยๆตามทางเดิน
“อ่อ จ๊ะเภา โกกิกําลังจะไปโอนเงินให้พอดี ไม่ต้องห่วงหรอกน่า”
โกกิฟังเภาพูด ... แล้วว่า “เรื่องนังตั้งโอ๋น่ะเหรอ โกกิมั่นใจว่านังตั้งโอ๋มันต้องแกล้งโกกิแน่ๆ โกกิไม่เชื่อหรอกว่า ผีนังซินดี้มันจะทำอะไรโกกิได้....ก็ดูสิ ตอนมันยังเป็นคน มันก็เป็นได้แค่นางบำเรอของเภา เป็นตัวสำรองของโกกิ นับประสาอะไรกับตอนมันเป็นผีมันไม่มีนํ้ายาอะไรหรอก”
โกกิเดินผ่านประตูบานนึงแล้วประตูปิดปังทันที
โกกิหันไปมอง เมื่อไม่เห็นมีอะไรก็ยักไหล่เดินต่อ
“แค่นี้ก่อนนะเภา เดี๋ยวนังตั้งโอ๋มาเมื่อไร โกกิจะจัดชุดใหญ่ให้มันคลานกลับบ้านไม่เป็นเลยคอยดู”
ผีซินดี้ผ่านแว่บมาข้างหน้าโกกิแล้วหายไป
โกกิชะงักกึกถามขึ้น “ใคร ใครน่ะ”
หน้าต่างประตูทุกบานทั้งฟลอร์เหมือนถูกอะไรกระแทกอย่างแรงพร้อมๆกัน ..ตึ้งๆๆ ..ตึ้งๆๆตึ้งๆๆ ..ตึ้งๆๆ โกกิเริ่มใจคอไม่ดี
ไฟทางเดินดับลงทีละดวง..ทีละดวงไล่เข้ามาหาโกกิ ฟรึ่บๆๆๆ
พลังบางอย่างพุ่งออกมาจากความมืดเข้ากระแทกโกกิจนล้มลงไป
“อ๊าย...”
เท้าที่โผล่พ้นชุดแดงของซินดี้ก้าวออกมาจากเงามืดนั้น
โกกิจ้องมองสีหน้าตกใจ
“อีซินดี้!”
ซินดี้แสยะยิ้มให้โกกิ เป็นยิ้มที่สยองแล้วเดินไล่เข้ามาหา
โกกิรีบกระเถิบหนี
“อย่านะอย่าเข้ามาอ๊าย...”
อ่านต่อตอนที่ 8