เกมพยาบาท ตอนที่ 13
วันใหม่ ฉัตรชบากำลังจะออกไปทำงานตามปกติ อำภากับฉกาจเห็นเข้าก็ทัก
"ชบาจะไปทำงานเหรอลูก"
"ค่ะคุณพ่อ"
อำภาท่าทางอึกอัก กลัวลูกท้อง
"แม่ว่าหนูไปหาหมอหน่อยดีมั้ยลูก"
ฉัตรชบาฝืนยิ้ม
"คุณแม่กลัวชบาท้องอย่างที่พี่เกษพูดเหรอคะ"
ฉกาจปรามอำภา
"นี่คุณ ลูกบอกแล้วว่าไม่มีอะไรๆ ก็ยังจะพูดให้ลูกไม่สบายใจอีก"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณพ่อ ชบาเข้าใจคุณแม่ค่ะ"
ฉัตรชบาหยิบถุงยาออกมาจากกระเป๋าส่งให้อำภาดู
"เมื่อคืนนี้ชบาไปหาหมอมาแล้วค่ะคุณแม่ ชบาแค่เป็นโรคกระเพาะ ไม่ได้ท้องจริงๆ ค่ะ"
อำภารับยาไปดู
"ไม่ได้หลอกแม่แน่นะ"
"แน่ค่ะ"
อำภากับฉกาจมีสีหน้าโล่งอก
"ค่อยหายห่วงหน่อย ถ้าชบาท้องขึ้นมาจริงๆ แม่ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ไหนจะตาศรุตอีก ถ้าชบาท้องขึ้นมาจริงๆ ไม่รู้เค้าจะว่ายังไง"
ฉัตรชบาหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย ที่อำภาพูดเหมือนห่วงแต่หน้าตาชื่อเสียงตัวเอง
ฉกาจมองฉัตรชบาอย่างเข้าใจ แล้วช่วยพูดตัดบทให้
"ไปทำงานเถอะลูก"
"ค่ะ"
อำภาส่งถุงยาคืนให้ฉัตรชบา
"กินยาให้ครบตามที่หมอสั่งนะลูก จะได้หายเร็วๆ แล้วเดี๋ยวแม่จะลองไปคุยกับพ่อแม่ตาศรุตดู เผื่อว่าจะได้จัดการเรื่องตบแต่งของลูกกับตาศรุตไปให้เรียบร้อย แม่จะได้หมดห่วงซะที"
ฉกาจค้าน
"เราเป็นฝ่ายหญิงนะคุณ จะไปออกปากพูดเรื่องนี้กับเค้าก่อนได้ยังไง น่าเกลียดตายเลย"
"ฉันมีวิธีพูดไม่ให้น่าเกลียดน่าคุณ"
"ชบายังไม่คิดเรื่องแต่งงานหรอกค่ะคุณแม่"
"ไม่คิดไม่ได้แล้วลูก แต่งๆ ไปนั่นแหละดีแล้ว จะได้มีคนดูแล เกิดวันดีคืนดีนายอัคคีมันมาจับตัวลูกไปอีกจะทำยังไง"
ฉัตรชบานิ่งเงียบ เถียงไม่ออก พร้อมกับมีสีหน้าคิดหนักว่าจะหาทางเลี่ยงการแต่งงานกับศรุตยังไงดี
ที่บริษัท
ฉัตรชนกกำลังสั่งงานจิดาภาอยู่ จิดาภานั่งเหม่อลอย ไม่ได้จดงานที่ฉัตรชนกสั่งซักอย่าง
"คุณจิช่วยนัดประชุมแผนกการตลาดพรุ่งนี้ตอนบ่ายสองนะครับ แล้วก็แจ้งแผนกอินทีเรียดีไซน์ให้ส่งแบบที่ผมสั่งให้แก้มาให้ผมภายในวันนี้ด้วย"
ฉัตรชนกเห็นจิดาภาเหม่อลอย ก็ชะงักไป
"คุณจิครับ"
จิดาภาใจลอย ไม่ได้ยินที่ฉัตรชนกเรียก
ฉัตรชนกเสียงดังขึ้นอีก "คุณจิครับ... คุณจิ!"
จิดาภาสะดุ้งตกใจ
"คะ...ขอโทษค่ะ เมื่อกี๊คุณฉัตรสั่งงานอะไรบ้างนะคะ ช่วยพูดอีกทีนะคะ" จิดาภาตั้งท่าจะจด
ฉัตรชนกไม่ตำหนิ แต่กลับเป็นห่วงด้วยซ้ำ
"คุณจิมีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า ผมเห็นคุณเศร้าๆ เหม่อๆ ตั้งแต่เช้าแล้ว คุณตาบวมๆ เหมือนร้องไห้มาด้วย"
จิดาภาก้มหน้าหลบตา
"เปล่าค่ะ"
"อย่าปิดผมเลยครับ ถือว่าผมถามในฐานะเพื่อนก็แล้วกัน คุณมีปัญหาอะไรก็บอกผมได้นะ ผมพร้อมจะช่วยคุณทุกอย่าง"
จิดาภาตัดสินใจบอกเพราะอยากมีที่ระบายความในใจเหมือนกัน
"ฉันมีปัญหาส่วนตัวนิดหน่อยค่ะ"
"ร้องไห้จนตาบวมขนาดนี้ คงไม่ใช่แค่นิดหน่อยแล้วมั้งครับ" ฉัตรชนกลองเดาดู "หรือว่าคุณมีปัญหากับแฟน"
จิดาภาชะงักไปเหมือนโดนจี้จุด
"ค่ะ"
ฉัตรชนกถามด้วยความเป็นห่วง และนึกโกรธที่ผู้ชายคนนั้นทำร้ายจิตใจจิดาภา
"เค้าทำอะไรคุณเหรอครับ"
"เค้าทำผิดในเรื่องที่ฉันรับไม่ได้ แล้วฉันก็บอกเลิกเค้าไปแล้วด้วยค่ะ
ฉัตรชนกฟังแล้วอึ้ง ใจหนึ่งก็ดีใจที่จิดาภาไม่มีพันธะกับใครแล้ว แต่อีกใจก็สงสารจิดาภา
"เค้าทำผิดร้ายแรงถึงขั้นอภัยให้กันไม่ได้เลยเหรอครับ"
"ช่างเถอะค่ะ เรื่องของฉันกับเค้ามันจบไปแล้ว เราอย่าไปพูดถึงมันอีกเลยค่ะ"
จิดาภาปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วพูดเปลี่ยนเรื่องไป
"ฉันแจ้งแผนกบุคคลให้ประกาศรับสมัครเลขาใหม่ให้คุณแล้วนะคะ คิดว่าภายในวันสองวันนี้น่าจะคัดคนมาให้คุณสัมภาษณ์ได้ค่ะ"
"คุณทำเหมือนอยากไปจากที่นี่เร็วๆ อย่างนั้นแหละ"
ฉัตรชนกพูดแบบน้อยใจอย่างไม่รู้ตัว
"ให้ฉันลาออกซะตั้งแต่ตอนนี้ ดีกว่ารอให้คุณไล่ฉันออกนะคะ"
จิดาภาพูดเป็นนัยๆ เพราะถ้าฉัตรชนกรู้ว่าตนเป็นแฟนกับอัคคีและเข้ามาทำงานที่นี่เพื่อสืบความลับเรื่องการตายของวรรณิศา ฉัตรชนกก็คงจะโกรธจนไล่ตนออกแน่นอน
ในขณะเดียวกัน ฉัตรชนกก็มีสีหน้าไม่เข้าใจในสิ่งที่จิดาภาพูด
จิดาภาเดินออกจากห้องทำงานฉัตร สีหน้าซึมๆ
โทรศัพท์มือถือของจิดาภาดังขึ้น จิดาภาดูที่หน้าจอเห็นเป็นชื่อของอัคคี จิดาภากดตัดสายทิ้งทันทีเชิดหน้าทำเข้มแข็ง บอกตัวเองว่าจะไม่เสียใจเรื่องอัคคีอีกแล้ว
อัคคีวางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ สีหน้าผิดหวังที่จิดาภาไม่ยอมรับโทรศัพท์ตน
"คุณจะไม่ยอมคุยกับผมจริงๆ เหรอคุณจิ"
อดุลย์เอาแบบแปลนที่ดินมาให้อัคคีดู อัคคีตัดความกังวลเรื่องส่วนตัวทิ้ง หันมาตั้งใจคุยงานกับอดุลย์
"ที่ดินที่แกให้ฉันไปกว้านซื้อมันมีอยู่ทั้งหมดสามแปลงใหญ่" อดุลย์ชี้ให้ดู "แปลงนี้เป็นของคุณนายกิมฮวย ฉันให้นายหน้าเจรจาซื้อขายเรียบร้อย เหลือแค่เซ็นสัญญาซื้อขายก็เรียบร้อย" ชี้อีกแปลงที่อยู่ด้านข้าง "ส่วนแปลงนี้ เป็นของคุณหญิงวิยะดารัตน์ คุณหญิงเป็นคนใจบุญ ให้ชาวบ้านเช่าที่อยู่ในราคาถูกๆ ถ้าคุณหญิงขายที่ชาวบ้านก็จะเดือดร้อน ฉันคิดว่าคุณหญิงคงไม่ยอมขาย"
อัคคีชี้ที่แปลงตรงกลาง "แล้วแปลงตรงกลางนี่ล่ะ"
"ตรงนี้เป็นที่ตั้งบ่อนคาสิโนขนาดใหญ่ของเสี่ยเป้า ฉันว่าเสี่ยเป้าก็คงไม่ยอมขายให้แกง่ายๆ เหมือนกัน"
อัคคีไม่ยอม
"ฉันจะไปเจรจากับคุณหญิงแล้วก็เสี่ยเป้าด้วยตัวเอง แกหาทางนัดให้ฉันด้วยก็แล้วกัน"
"กับคุณหญิงวิยะดารัตน์น่ะไม่เท่าไหร่ แต่แกจะเสี่ยงไปยุ่งกับนักเลงอย่างเสี่ยเป้าทำไม เราไปหาที่ดินทำเลอื่นก็ได้"
"ไม่ได้! ที่ตรงนี้มันอยู่ตรงข้ามกับโปรเจ็คใหม่ของไอ้ฉัตรชนก ฉันจะสู้กับมันแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ถ้าฉันย้ายไปทำที่อื่นก็เท่ากับฉันเปิดทางให้ธุรกิจของมันได้เติบโตโดยที่ไม่มีคู่แข่งน่ะสิ"
อัคคีบอกอย่างไม่ยอมแพ้ อดุลย์ได้แต่แอบถอนใจด้วยความหนักใจ ที่อัคคีอาฆาตแค้นฉัตรชนกไม่เลิก
ฉัตรชบานั่งทำงานอยู่ในห้อง พัฒนะเดินเข้ามาแบบถือวิสาสะ ไม่มีการเคาะประตูก่อน
ฉัตรชบาแปลกใจปนตกใจเล็กน้อย
"คุณพัฒนะ มาได้ยังไงคะ"
พัฒนะเข้ามานั่ง
"ก็เมื่อคืนนี้เรายังคุยกันไม่จบเลยนี่ครับ"
ฉัตรชบาปั้นยิ้มไป
"คุณพัฒนะจะยอมบอกฉันแล้วใช่มั้ยคะว่าคืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกับวรรณิศากันแน่" ฉัตรชบาตั้งท่ารอฟัง แต่พัฒนะมองนาฬิกาที่ข้อมือ "นี่ก็ห้าโมงกว่าแล้ว ผมว่าคุณน่าจะเลิกงานได้แล้วนะครับ แล้วเราก็ออกไปหาร้านบรรยากาศดีๆ นั่งคุยกันดีกว่า"
ฉัตรชบาชั่งใจนิดหนึ่ง แต่ก็ตอบตกลงเพราะอยากรู้เรื่องวรรวณิศา
ฉัตรชบายิ้ม
"ก็ดีเหมือนกันค่ะ รอฉันเก็บของแป๊บนึงนะคะ"
ฉัตรชบาเก็บของ พัฒนะแอบยิ้มร้ายอย่างมีแผนการในใจ
ฉัตรชบากับพัฒนะเดินออกมาจากห้อง พัฒนะฉวยโอกาสโอบเอวฉัตรชบา
"คุณชบาไปรถผมนะครับ เราจะได้นั่งคุยกันไปในรถด้วย"
ฉัตรชบาเบี่ยงตัวออกแบบเนียนๆ แต่ไม่โวยวาย
"ก็ได้ค่ะ แต่คุณพัฒนะไปรอฉันที่รถก่อนนะคะ ฉันขอไปคุยงานกับพี่ฉัตรแป๊บนึง เสร็จแล้วจะรีบตามไปค่ะ"
พัฒนะยิ้มเจ้าชู้
"อย่านานนะครับ"
พัฒนะเดินออกไป
ฉัตรชบาทำหน้าคิดหนักว่าจะรับมือกับพัฒนะไหวมั้ย
ฉัตรชบาเดินเข้ามาหาจิดาภาที่โต๊ะ ขณะนั้น จิดาภากำลังจัดเอกสารให้ฉัตรชนกอยู่
"พี่ฉัตรกลับหรือยังคะ"
"ยังค่ะ แต่อีกซักครู่คุณฉัตรต้องรีบออกไปพบลูกค้าคนสำคัญข้างนอกค่ะ ถ้าเจรจาสำเร็จ บริษัทเราก็จะได้ร่วมทุนทำโปรเจ็กต์ใหญ่กับบริษัทต่างชาติค่ะ"
ฉัตรชบาได้ยินว่าฉัตรชนกจะออกไปคุยงานสำคัญก็ไม่อยากทำให้เสียงาน ฉัตรชบาครุ่นคิดสีหน้ากังวลใจ
"คุณชบามีอะไรหรือเปล่าคะ ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย"
ฉัตรชบาคิดๆ แล้วก็ตัดสินใจบอก
"พอดีฉันต้องออกไปข้างนอกกับคุณพัฒนะน่ะค่ะ ฉันมีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับคุณวรรณิศาที่ต้องถามเค้าให้รู้เรื่อง แต่ฉันไม่ค่อยไว้ใจเค้าเท่าไหร่ เลยว่าจะมาบอกให้พี่ฉัตรช่วยแอบตามไปเป็นเพื่อนหน่อย"
"ถ้างั้นเดี๋ยวฉันไปบอกคุณฉัตรให้ค่ะ เผื่อจะเลื่อนนัดลูกค้าได้"
จิดาภาจะเข้าไปบอกฉัตรชนก ฉัตรชบาห้ามไว้
"อย่าเลยค่ะคุณจิ ฉันไม่อยากให้พี่ฉัตรเสียงานใหญ่"
จิดาภาเป็นห่วง
"คุณชบาเลื่อนนัดคุณพัฒนะออกไปก่อนดีมั้ยคะ"
"ไม่ค่ะ ฉันไม่อยากเสียโอกาส ไหนๆ เค้าก็อุตส่าห์มาหาฉันถึงที่นี่แล้ว"
ฉัตรชนกเดินคุยโทรศัพท์ออกมาจากห้องทำงานท่าทางเร่งรีบ
"ครับ...ผมกำลังจะออกไปเดี๋ยวนี้ล่ะคับ" หลังวางสายแล้วหันมาถามจิดาภา "เอกสารพร้อมมั้ยครับคุณจิ"
"พร้อมแล้วค่ะ"
"งั้นก็รีบไปเถอะครับ ชบามาหาพี่เหรอ มีอะไรหรือเปล่า"
"ไม่มีอะไรค่ะ พี่ฉัตรรีบไปพบลูกค้าเถอะค่ะ เดี๋ยวสาย"
"แล้วเจอกันที่บ้านนะ ไปกันเถอะครับคุณจิ"
ฉัตรชนกเดินนำออกไปก่อน
"คุณจิอย่าบอกพี่ฉัตรนะคะว่าฉันจะไปกับคุณพัฒนะ"
"ค่ะ คุณชบาระวังตัวด้วยนะคะ"
จิดาภาคว้าเอกสารแล้วรีบตามฉัตรชนกไป แต่ก็ยังไม่วายหันกลับมามองฉัตรชบาด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง
ฉัตรชบายิ้มให้จิดาภา แล้วทำหน้ามั่นใจประมาณว่าตนดูแลตัวเองได้ จิดาภาไม่ต้องเป็นห่วง
เกษณีย์หลบมุมคุยโทรศัพท์อยู่มุมหนึ่งในบ้าน
"จัดการนังฉัตรชบาเรียบร้อยมั้ยคุณพัฒนะ"
พัฒนะนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ในรถ ระหว่างที่นั่งรอฉัตรชบา
"ไม่มีปัญหา คืนนี้ฉัตรชบาไม่รอดมือผมแน่"
พัฒนะเห็นฉัตรชนกกับจิดาภาเดินมาขึ้นรถด้วยกัน แล้วฉัตรชนกก็ขับรถออกไป
"ผมว่าวันนี้สามีคุณคงกลับบ้านดึกแน่ๆ"
เกษณีย์คุยมือถือ...ชักสีหน้าไม่พอใจ "ทำไม"
"ผมเห็นเค้าควงผู้หญิงขึ้นรถออกไปด้วยกัน"
เกษณีย์ปรี๊ด
"นังผู้หญิงคนนั้นมันเป็นใคร"
พัฒนะคุยมือถือ
"คุณจิดาภา ว่าแต่คุณฉัตรชนกรู้จักกับคุณจิดาภาได้ยังไง"
"มันเป็นเลขาใหม่ของคุณฉัตรชนก คุณรู้จักมันด้วยเหรอ"
"รู้จัก แต่ผมแปลกใจว่าคุณจิเธอมาเป็นเลขาคุณฉัตรชนกได้ยังไง ในเมื่อเธอเป็นถึง..." พัฒนะยังพูดไม่จบ...จะบอกว่าเป็นเจ้าของไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ แล้วก็เป็นแฟนอัคคีด้วย
ฉัตรชบาเคาะกระจกรถพัฒนะ พัฒนะตกใจ
" แค่นี้ก่อนนะ คุณฉัตรชบามาแล้ว"
"เดี๋ยวก่อนคุณพัฒนะ"
แต่ไม่ทันแล้ว พัฒนะวางสายไปแล้ว
"ตกลงนังจิดาภามันเป็นอะไร?"
เกษณีย์มีสีหน้าติดใจสงสัย
พัฒนะเอื้อมมือมาเปิดประตูรถให้ ฉัตรชบาเข้ามานั่งในรถ
พัฒนะยิ้มกรุ้มกริ่ม
"ไปร้านไหนกันดีครับ"
ฉัตรชบาแกล้งยิ้มหว่านเสน่ห์ไป
"แล้วแต่คุณสิคะ"
พัฒนะขับรถออกไป พร้อมกับแอบยิ้มร้ายประมาณว่าคืนนี้ฉัตรชบาเสร็จแน่ ในขณะที่ฉัตรชบาก็มั่นใจว่าตนจะรับมือกับพัฒนะได้แน่นอน
ต่อเนื่องมา โถงบ้านฉัตรชนก เกษณีย์คุยมือถือกับฉัตรชนก
" คุณฉัตร เลิกงานแล้วคุณจะพานังจิดาภาไปไหน"
ฉัตรชนกกำลังขับรถอยู่ จิดาภานั่งอยู่ข้างๆ
ฉัตรชนกคุยมือถือ...น้ำเสียงเย็นชา
"ไปทำงาน ผมมีคุยงานด่วนกับลูกค้า"
"ไม่ต้องเอางานมาอ้าง ไปทำงานตอนนี้ก็คงจะมีแต่งานบนเตียงเท่านั้นล่ะ"
"หยุดคิดอะไรต่ำๆ แบบนี้กับคุณจิได้แล้วนะคุณเกษ คุณอย่าคิดว่าคนอื่นเค้าจะเป็นเหมือนคุณสิ"
ฉัตรชนกกดตัดสายทิ้ง สีหน้าโกรธและอึดอัดใจมาก
"ฉันทำให้คุณมีปัญหากับคุณเกษหรือเปล่าคะ"
"ไม่เกี่ยวกับคุณหรอกครับ"
จิดาภามีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อยที่เป็นต้นเหตุให้ฉัตรชนกกับเกษณีย์มีปัญหากัน
เกษณีย์โกรธมาก
"นังจิดาภา ถ้าแกคิดจะแย่งผัวฉัน แกไม่ได้ตายดีเหมือนนังวรรณิศาแน่!"
ฉกาจเดินผ่านมาได้ยินพอดี ฉกาจมีสีหน้าติดใจสงสัยคำพูดของเกษณีย์
ในร้านอาหารหรู ตอนกลางคืน
ฉัตรชบากับพัฒนะนั่งคุยกันอยู่ที่มุมหนึ่ง
พนักงานเปิดขวดไวน์แล้วรินไวน์ใส่แก้วให้พัฒนะกับฉัตรชบา
พัฒนะยกแก้วไวน์ขึ้นมารอชนแก้วกับฉัตรชบา ฉัตรชบาท่าทางลังเลใจไม่กล้าดื่ม
"คุณฉัตรชบาไม่ยอมดื่ม แสดงว่าคุณไม่ไว้ใจผมเหรอครับ"
"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ"
พัฒนะแกล้งพูดขำๆ
"ไม่ต้องกลัวว่าผมจะวางยาคุณหรอกครับ คุณก็เห็นว่าไวน์นี่เพิ่งเปิดขวดเมื่อกี๊นี้เอง แล้วผมก็ดื่มไวน์ขวดเดียวกับคุณ ผมคงไม่วางยาตัวเองหรอกมั้งครับ"
พัฒนะจิบไวน์โชว์ฉัตรชบา แล้วยกแก้วค้างรอให้ฉัตรชบาชนแก้ว
ฉัตรชบายกแก้วไวน์ขึ้นมาชนแก้ว แล้วจิบไปนิดหน่อย
พัฒนะยิ้มพอใจ แล้วหันไปโบกมือบอกพนักงานให้พนักงานออกไปก่อน พนักงานเดินออกไป
ฉัตรชบาหลอกถาม
"เรามาคุยเรื่องวรรณิศากันต่อดีกว่าค่ะ"
พัฒนะหลอกล่อ
"อย่าเพิ่งใจร้อนครับ ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล ผมมีเวลาให้คุณทั้งคืนแน่นอนไม่ต้องห่วง"
พัฒนะบอกอย่างมีเลศนัย ฉัตรชบาเริ่มใจคอไม่ดี
ฉัตรชนกและจิดาภาคุยงานกับลูกค้าอยู่ในห้องประชุม
"ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ต้องนัดคุณฉัตรชนกมาคุยงานกันกะทันแบบนี้ พอดีพรุ่งนี้ผมต้องบินไปสำนักงานใหญ่ที่อเมริกา อีกหลายวันกว่าจะกลับ"
"ผมเข้าใจครับ"
จิดาภานั่งกระสับกระส่ายไม่มีสมาธิในการประชุมเพราะเป็นห่วงฉัตรชบา
"รอบนี้ผมจะนำเสนอบริษัทคุณฉัตรกับบิ๊กบอสที่โน่นด้วยนะครับ ไม่แน่นะ ผมกลับมาคราวนี้เราอาจจะได้ร่วมงานโปรเจ็กต์ใหญ่ด้วยกัน"
ฉัตรชนกยิ้มอย่างมีความหวังว่าจะได้งานใหญ่
จิดาภาเป็นห่วงฉัตรชบามากจนทนไม่ไหวแล้ว
"คุณฉัตรคะ ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำซักครู่นะคะ"
จิดาภาถือโทรศัพท์รีบเดินออกไปโดยไม่รอฟังคำตอบจากฉัตรชนก
ฉัตรชนกสงสัยว่าจิดาภาเป็นอะไร วันนี้ท่าทางแปลกๆ
จิดาภายืนหลบมุมออกมากดโทรศัพท์โทรหาฉัตรชบาที่หน้าห้องประชุม
ฉัตรชบานั่งรับประทานอาหารอยู่ เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น
ฉัตรชบาหยิบออกมาดูชื่อที่หน้าจอ เห็นว่าเป็นชื่อจิดาภา
ฉัตรชบาบอกพัฒนะ
"ขอตัวซักครู่นะคะ"
ฉัตรชบาถือโทรศัพท์เดินออกไปจากโต๊ะ พอเดินห่างออกไป พัฒนะก็แอบหยอดยานอนหลับใส่แก้วไวน์ของฉัตรชบาทันที
พัฒนะยิ้มร้าย ประมาณว่าฉัตรชบาไม่รอดแน่คืนนี้
ฉัตรชบาออกมารับโทรศัพท์ที่มุมหนึ่งของร้านอาหาร
"มีอะไรเหรอคะคุณจิ"
จิดาภาหลบมุมคุยโทรศัพท์อยู่ที่หน้าห้องประชุมบริษัทลูกค้า
"คุณชบาเป็นยังไงบ้างคะ คุณพัฒนะได้ทำอะไรคุณหรือเปล่า"
ฉัตรชบาคุยมือถือ
"เค้ายังไม่ได้ทำอะไรฉันหรอกค่ะ คุณจิห้ามบอกพี่ฉัตรเด็ดขาดเลยนะคะ"
"ค่ะ ฉันจะไม่บอกคุณฉัตรหรอกค่ะ แต่คุณชบาต้องระวังตัวให้มากๆ นะคะ ตอนนี้คุณชบาอยู่ที่ร้านไหนคะ"
ฉัตรชบาบอกชื่อร้าน "ตอนนี้ฉันปลอดภัยดีค่ะ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง"
ฉัตรชบากดวางสายแล้วเดินกลับเข้าไปด้านใน
จิดาภาไม่ไว้ใจพัฒนะ กลัวจะคิดไม่ซื่อ จิดาภาครุ่นคิดหาทางช่วยฉัตรชบา
ฉัตรชบาเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ พัฒนะรินไวน์เติมให้
"สีหน้าคุณดูเครียดๆ ดื่มไวน์อีกซักหน่อยนะครับ เผื่อจะทำให้รู้สึกสนุกขึ้น"
ฉัตรชบาหยิบแก้วไวน์ขึ้นมามองอย่างพิจารณา ไม่ไว้ใจพัฒนะ ไม่รู้ว่าช่วงที่ตนลุกออกจากโต๊ะไป พัฒนะแอบวางยาหรือเปล่า ฉัตรชบาคิดๆ แล้วก็แกล้งทำแก้วไวน์หลุดมือ แก้วตกพื้นแตกกระจาย
ฉัตรชบาแกล้งทำเป็นวี๊ดว้ายตกใจ
พัฒนะแอบทำหน้าผิดหวังที่เสียแผน
พัฒนะหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมือเช็ดเสื้อฉัตรชบาที่เลอะไวน์ และฉวยโอกาสถูกเนื้อต้องตัวไปด้วย
ฉัตรชบาถอยห่างออกจากพัฒนะอย่างระวังตัว จังหวะนั้นพนักงานก็เข้ามาเก็บกวาด แล้วเอาแก้วใบใหม่มาวางให้ฉัตรชบา พนักงานจัดการกับเศษแก้วเสร็จแล้วก็ออกไป
"สงสัยฉันคงจะเมาแล้วล่ะค่ะ เลยมือไม้อ่อนทำแก้วหลุดมือ"
"คุณฉัตรชบานี่คออ่อนจังเลยนะครับ จิบไวน์ไปแค่นิดเดียวก็เมาซะแล้ว"
"คืนนี้ฉันคงดื่มได้แค่น้ำเปล่า คงดื่มไวน์ไม่ไหวแล้ว"
ฉัตรชบายกแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มไปอึกใหญ่
พัฒนะแอบยิ้มร้าย
เพราะตอนที่พัฒนะหยอดยานอนหลับใส่แก้วไวน์เสร็จ ก็หยอดยานอนหลับใส่แก้วน้ำเปล่าของฉัตรชบาเอาไว้ด้วย
"คุณฉัตรชบาอยากรู้อะไรเกี่ยวกับคุณวรรณิศเหรอครับ"
"ฉันอยากรู้ว่าคืนงานเลี้ยงที่บ้านฉัน คุณพัฒนะหลบมุมคุยอะไรกับวรรณิศา แล้วหลังจากนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คุณตามวรรณิศาออกไปจากงาน แล้ววรรณิศาถูกข่มขืนได้ยังไง"
พัฒนะแกล้งพูดขำๆ
"โอ้โห...คุณใส่ผมเป็นชุดอย่างนี้ จะให้ผมตอบคำถามไหนก่อนดีล่ะครับ"
ฉัตรชบาเริ่มมีอาการมึนๆ เธอสะบัดหน้าเบาๆ ไล่อาการมึนงง พูดติดๆ ขัดๆ
"คำถามแรกก่อนก็ได้ค่ะ"
พัฒนะเห็นอาการของฉัตรชบาก็รู้ว่ายาเริ่มออกฤทธิ์แล้ว
พัฒนะเล่าไปอย่างใจเย็น
"คุณวรรณิศาถูกคุณแม่คุณกีดกันไม่ให้คบกับคุณฉัตรชนก ในงานเลี้ยงที่บ้านคุณคืนนั้น คุณวรรณิศาก็ถูกคุณแม่คุณต่อว่าจนเสียใจ แอบไปนั่งร้องไห้คนเดียวในมุมมืด ผมสงสารก็เลยไปปลอบใจตามประสาเพื่อนก็เท่านั้นเองครับ"
"แล้วหลังจากนั้นล่ะคะ..."
ฉัตรชบาจะถามต่อ แต่ถามไม่ไหว เริ่มมีอาการโงนเงน
ฉัตรชบามองที่แก้วน้ำเปล่าที่เพิ่งดื่มเข้าไป ก็รู้ตัวว่าถูกวางยาแน่ๆ
อัคคีนั่งดูแบบแปลนอาคารใหม่ที่จะก่อสร้างอยู่ อดุลย์เดินเข้ามาหา
"ฉันนัดคุณหญิงวิยะดารัตน์ได้แล้วนะ คุณหญิงให้แกไปพบในงานการกุศล วันมะรืนนี้"
"แล้วเสี่ยเป้าล่ะ"
"ยังติดต่อไม่ได้"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันเข้าไปหาเค้าที่บ่อนเลยก็ได้"
อดุลย์ไม่ค่อยอยากให้อัคคีเข้าไป
"เอางั้นเลยเหรอ"
"เออสิวะ แกจะกลัวอะไร"
เสียงโทรศัพท์มือถือของอัคคีดังขึ้น อัคคีหยิบมาดูที่หน้าจอเห็นว่าเป็นชื่อจิดาภาก็ยิ้มดีใจ คิดว่าจิดาภาหายโกรธแล้ว
" คุณจิ หายโกรธผมแล้วใช่มั้ยครับ"
จิดาภาแอบคุยมือถืออยู่หน้าห้องประชุมบริษัทลูกค้า
จิดาภาคุยมือถือ
"เรื่องของเราเอาไว้คุยกันทีหลังเถอะค่ะ ตอนนี้ฉันอยากให้คุณช่วยตามไปดูคุณฉัตรชบาหน่อย ฉันกลัวว่าเธอจะพลาดท่าเสียทีคุณพัฒนะน่ะค่ะ"
อัคคีมีท่าทางเป็นห่วงฉัตรชบามาก
"พัฒนะมันจะทำอะไรฉัตรชบา แล้วตอนนี้ฉัตรชบาอยู่ที่ไหน"
อดุลย์ฟังอัคคีคุยอย่างสนใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัตรชบา
จิดาภามีสหน้าซึมลงที่เห็นอัคคีเป็นห่วงฉัตรชบามากขนาดนี้
จิดาภาบอกชื่อร้าน
"โอเคครับ ผมจะรีบตามไปหาฉัตรชบาเดี๋ยวนี้เลย"
อัคคีวางสายแล้วรีบร้อนออกจากห้องไป
"เฮ้ย อัคคีจะไปไหน แล้วเกิดอะไรขึ้นกับคุณฉัตรชบาเหรอ"
อดุลย์วิ่งตามอัคคีออกไป
ภายในร้านอาหาร
ฉัตรชบามีอาการมึนมาก นั่งโงนเงนไปมาจนแทบจะทรงตัวไม่ได้ พัฒนะเข้ามาประคอง
"ท่าทางคุณชบาจะนั่งไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวผมพาไปหาที่นอนพักนะครับ"
พัฒนะวางเงินค่าอาหารไว้บนโต๊ะ แล้วประคองฉัตรชบาให้ลุกขึ้น แล้วพาเดินออกไป
ฉัตรชบาพยายามฝืนตัวไว้ แต่ไม่มีแรงขัดขืน
พนักงานยืนมองพัฒนะกับฉัตรชบาอยู่ห่างๆ แบบสงสัยว่าพัฒนะคิดไม่ซื่อกับฉัตรชบาหรือเปล่า แต่ไม่กล้าเข้าไปยุ่ง
พัฒนะประคองฉัตรชบาให้เข้าไปนั่งในรถ แล้วรีบวิ่งอ้อมไปนั่งตรงที่นั่งคนขับ
พัฒนะเข้ามาในรถ ฉัตรชบาเปิดประตูออกไป พยายามจะลงจากรถแบบมึนๆ แต่ถูกพัฒนะดึงตัวกลับมา
พัฒนะล็อครถ แล้วขับพาฉัตรชบาออกไป
อัคคีขับรถเข้ามาตามถนนหน้าร้านอาหาร อดุลย์นั่งมาด้วย เขาขับรถสวนกับรถของพัฒนะ โดยที่อัคคีไม่เห็น
ในรถของพัฒนะ ฉัตรชบาหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋า แล้วพยายามจะกดโทร.ออก แต่พัฒนะแย่งมือถือไปกดปิดเครื่อง แล้วโยนไปที่เบาะหลังรถ
"ผมอยู่ของผมเฉยๆ แต่คุณเป็นคนที่เดินเข้ามายั่วผมก่อนนะครับคุณฉัตรชบา จะมาหาว่าผมร้ายไม่ได้"
พัฒนะยื่นมือมาลูบหน้าลูบแก้ม ฉัตรชบาปัดออกอย่างรังเกียจ
"คืนนั้นคุณก็วางยาวรรณิศาเหมือนที่ทำกับฉันใช่มั้ย"
"ถ้าบอกว่าใช่แล้วคุณจะทำอะไรผมได้ ขนาดตำรวจยังทำอะไรผมไม่ได้เลย"
พัฒนะยิ้มร้าย ฉัตรชบาเจ็บใจปนกลัวที่พลาดท่าเสียทีให้พัฒนะ
อัคคีกับอดุลย์วิ่งเข้ามาในร้านอาหาร อัคคีกวาดตามองหา และเข้าไปถามพนักงาน
"เห็นผู้หญิงกับผู้ชายคู่นึงมากินข้าวที่นี่มั้ย"
"วันนี้มีลูกค้ามาเป็นคู่ตั้งหลายคู่ครับ คุณถามแบบนี้ผมตอบไม่ถูกหรอก"
อัคคีร้อนใจ
"แล้วมีคู่ไหนที่ท่าทางแปลกๆ เหมือนผู้หญิงจะถูกหลอก ถูกมอมเหล้ามอมยาอะไรแบบนี้มั่งมั้ย"
พนักงานคิดนิดหนึ่งแล้วบอก
"มีครับ ดูเหมือนผู้หญิงจะเมา แล้วผู้ชายก็ประคองออกไป แต่ผมก็ไม่แน่ใจหรอกนะครับว่าจะเป็นคนที่คุณถามถึงหรือเปล่า" พนักงานคิดๆ แล้วก็บอก "ถ้าจำไม่ผิดผู้หญิงจะชื่อชบาๆ หรืออะไรนี่แหละครับ"
"ใช่จริงๆ ด้วย"
อัคคีรีบวิ่งออกไปจากร้าน อดุลย์รีบตามไป
อัคคีขับรถออกมาตามหาฉัตรชบาท่าทางร้อนใจเป็นห่วงมาก อดุลย์นั่งมาด้วย
"ช่วยคิดหน่อยสิว่าพัฒนะมันจะพาฉัตรชบาไปไหน"
"แกลองโทร.หาคุณฉัตรชบาสิ"
"ฉันไม่มีเบอร์ฉัตรชบา"
"เดี๋ยวฉันโทร.ถามคุณจิให้"
อัคคีส่งโทรศัพท์ให้
"เอาโทรศัพท์ฉันไปโทร."
อดุลย์กดโทรศัพท์หาจิดาภา
" คุณจิช่วยส่งเบอร์คุณฉัตรชบามาที่ไลน์อัคคีหน่อยสิครับ ... อย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้เลยครับ รีบส่งเบอร์คุณฉัตรชบามาก่อน"
อดุลย์กดวางสาย เสียงไลน์ดังขึ้น อดุลย์กดดูเบอร์ฉัตรชบาที่จิดาภาส่งมาให้ แล้วโทร.หาฉัตรชบา
อดุลย์รอสายอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันมาบอกอัคคี
"คุณฉัตรชบาปิดเครื่อง"
อัคคียิ่งร้อนใจ
"แล้วจะมาปิดเครื่องอะไรตอนนี้เนี่ย"
อัคคีขับรถไปมองหารถของพัฒนะไปแต่ก็ไม่เห็น
อดุลย์นึกได้
"ฉันนึกออกแล้วอัคคี ถ้าพัฒนะมันคิดจะทำมิดีมิร้ายคุณฉัตรชบาจริง มันต้องพาคุณฉัตรชบาเข้าโรงแรมแน่ๆ"
"โรงแรมมีเป็นร้อย แล้วมันจะพาฉัตรชบาไปโรงแรมไหนล่ะ"
"แกตรงไปนะ แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยข้างหน้า มันจะมีโรงแรมม่านรูดอยู่ในซอย ฉันว่าพัฒนะต้องพาคุณฉัตรชบาไปที่นั่นแน่ๆ"
อัคคีขับรถไปตามทางที่อดุลย์บอก
พัฒนะขับรถพาฉัตรชบาเลี้ยวเข้าไปในโรงแรมม่านรูด
ฉัตรชบาตกใจ พยายามจะดิ้นรนหนี แต่ไม่ค่อยมีแรง ท่าทางมึนๆ เหมือนจะหมดสติเพราะฤทธิ์ยา
พัฒนะขับรถเข้ามาจอดในช่องที่ว่างอยู่แค่ช่องเดียว พนักงานรีบวิ่งเข้ามารูดม่านปิดให้ทันที พัฒนะบังคับประคองฉัตรชบาลงจากรถ พนักงานตามเข้ามาเปิดประตูให้ แล้วออกไป
ฉัตรชบาร้องเรียกพนักงาน
"ช่วยฉันด้วย ฉันถูกเค้ามอมยา ช่วยฉันด้วย"
พนักงานมองฉัตรชบาท่าทางลังเลๆ ว่าจะช่วยดีมั้ย
พัฒนะควักเงินให้พนักงานพันนึงแล้วโบกมือไล่ให้ออกไป
พนักงานได้เงินก็รีบออกไปทันที
พัฒนะประคองฉัตรชบาเข้าไปในห้อง
ฉัตรชบาพยายามขัดขืนแต่สู้แรงไม่ไหว
"ปล่อยฉัน อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันขอร้อง"
"ทั้งสวยทั้งรวยอย่างนี้ใครปล่อยไปก็โง่แล้ว"
พัฒนะจะหอมแก้ม ฉัตรชบาเบี่ยงหน้าหนีสุดชีวิต
อัคคีขับรถมาถึงหน้าโรงแรมม่านรูดที่พัฒนะเลี้ยวเข้าไปเมื่อกี๊นี้ อดุลย์รีบชี้บอกให้อัคคีเข้าไป
"โรงแรมข้างหน้านั่น"
อัคคีรีบเลี้ยวรถเข้าไปในโรงแรม
อดุลย์มองไปรอบๆ
"เต็มทุกห้องอย่างนี้ แล้วคุณฉัตรชบาอยู่ห้องไหนวะเนี่ย"
พนักงานวิ่งเข้ามาที่รถของอัคคี อดุลย์เปิดกระจก พนักงานมองเข้าไปในรถเห็นว่าเป็นผู้ชายมากันสองคนก็ทำหน้าปูเลี่ยนๆ ประมาณว่าสองคนนี้คงจะมาทำอะไรกัน
"ห้องเต็มหมดแล้วครับ คุณสองคนคงต้องไปใช้บริการที่อื่นแล้วล่ะครับ"
อัคคีด่าพนักงาน
"ไอ้บ้า! ฉันไม่ได้จะมาทำอะไรอย่างนั้นโว้ย"
พนักงานจ๋อย
อัคคีลงจากรถ แล้ววิ่งไปเปิดม่านดูเกือบทุกห้อง พร้อมกับตะโกนเรียกฉัตรชบาไปด้วย อดุลย์ตามอัคคีไป
"ฉัตรชบา! ฉัตรชบาคุณอยู่ในนี้หรือเปล่า ฉัตรชบา ตอบผมสิ ฉัตรชบา!"
พนักงานวิ่งมาห้ามอัคคี
"นี่คุณ อย่าเสียงดังรบกวนแขกสิ"
พนักงานจะลากอัคคีออกไป แต่ก็ถูกอัคคีเหวี่ยงกระเด็นลงไปนอนกองกับพื้น
อัคคีวิ่งไปเปิดม่านดูเกือบทุกห้อง พร้อมตะโกนเรียกฉัตรชบาไม่หยุด อดุลย์ตามไปช่วยหาด้วย
ภายในห้อง พัฒนะยืนมองฉัตรชบาที่นอนไร้เรี่ยวแรงอยู่บนเตียงด้วยสายตาหื่นกระหาย
ฉัตรชบามองพัฒนะด้วยความกลัว ยันตัวลุกขึ้น จะหนี แต่ถูกพัฒนะผลักให้นอนลงไปอีก
"อย่ายุ่งกับฉัน" เธอตะโกน แต่ไม่ค่อยมีเสียง "ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย"
"อย่าร้องให้เหนื่อยเปล่าเลย ไม่มีใครได้ยินคุณหรอก"
พัฒนะปลดกระดุมเสื้อฉัตรชบาออกทีละเม็ดอย่างใจเย็น
ฉัตรชบารวบรวมกำลังถีบพัฒนะกระเด็นไปกองที่พื้น แล้วจะวิ่งหนี
พัฒนะเจ็บใจ
"ฤทธิ์มากนักนะ"
พัฒนะกระชากตัวฉัตรชบากลับมา ฉัตรชบาคว้าของแข็งใกล้มือจะฟาดหัวพัฒนะ แต่พัฒนะรับไว้ได้ทัน
อัคคีวิ่งมาเปิดม่านห้องของพัฒนะ แต่ไม่รู้ว่านี่เป็นรถของพัฒนะ อดุลย์ตามเข้ามา
"หรือไอ้พัฒนะมันจะไม่ได้พาฉัตรชบามาที่นี่"
"งั้นเราลองไปหาที่อื่นดูดีกว่า"
อัคคีกับอดุลย์กำลังจะวิ่งออกไป
ทันใดนั้น ฉัตรชบาก็เปิดประตูออกมาจากห้อง
"ช่วยฉันด้วย!"
อัคคีกับอดุลย์ชะงัก หันกลับมา
"ฉัตรชบา!"
พัฒนะตามมากระชากตัวฉัตรชบากลับเข้าไปในห้อง
อัคคีกับอดุลย์ตามเข้าไปช่วยฉัตรชบาในห้อง
อัคคีตามเข้ามาดึงฉัตรชบาออกจากพัฒนะมาไว้ในอ้อมอกของตน แล้วถีบพัฒนะกระเด็นไป
ฉัตรชบาเงยหน้าขึ้นมาเห็นว่าอัคคีเป็นคนมาช่วยตนก็โล่งอกปนดีใจ อดุลย์ยืนดูเชิงอยู่ห่างๆ
พัฒนะลุกขึ้นมาได้ก็พุ่งตัวเข้าหาอัคคีด้วยความเจ็บแค้น
"ไอ้อัคคี แกจะมาแส่อะไรกับเรื่องของฉันวะ"
พัฒนะจะต่อยอัคคี อัคคีผลักฉัตรชบาไปให้อดุลย์ช่วยดูแล แล้วโยกตัวหลบพัฒนะ แล้วต่อยสวนอย่างแรงที่ท้องพัฒนะ ตามด้วยหมัดเสยปลายคางไปอีกหนึ่งที พัฒนะมึนๆ เซล้มลงกระแทกพื้น
อัคคีตามไปกระชากคอเสื้อพัฒนะขึ้นมา แล้วต่อยรัวๆ ด้วยความความโกรธแค้นที่พัฒนะบังอาจคิดล่วงเกินฉัตรชบา พัฒนะสู้ไม่ไหว คอพับคออ่อนสลบสติไปแล้วแต่อัคคีก็ยังไม่หยุดต่อย
อดุลย์จับฉัตรชบาให้นั่งลงที่พื้น แล้วรีบเข้าไปดึงมือห้ามอัคคี
"พอแล้วอัคคี เดี๋ยวมันก็ตายกันพอดี"
อัคคีผละจากพัฒนะเข้าไปหาฉัตรชบาอย่างเป็นห่วง
"คุณเป็นยังไงบ้าง"
ฉัตรชบาท่าทางมึนๆ กลัวๆ ใกล้หมดสติเต็มที
"นายอัคคี ช่วยฉันด้วย"
อัคคีกอดปลอบ
"ผมมาช่วยคุณแล้ว ผมอยู่ตรงนี้แล้ว คุณไม่เป็นไรแล้วนะ"
ฉัตรชบาหมดสติไปในอ้อมกอดของอัคคี
อัคคีตกใจ "ฉัตรชบา!"
"คุณฉัตรชบาคงหมดสติไปเพราะฤทธิ์ยานอนหลับของพัฒนะน่ะ ไม่เป็นไรมากหรอก แกพาคุณฉัตรชบากลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง"
อัคคีอุ้มฉัตรชบาออกไป
รถอัคคีแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปเปิดประตูรถด้านที่นั่งข้างคนขับแล้วอุ้มฉัตรชบาที่นอนไม่ได้สติอยู่เข้าไปในบ้าน
อัคคีอุ้มฉัตรชบาที่หมดสติอยู่มาวางลงบนเตียงอย่างเบามือ แล้วโทร.บอกจิดาภา
" คุณจิ ฉัตรชบาปลอดภัยแล้วนะครับ คุณไม่ต้องเป็นห่วง"
อัคคีกดวางสายแล้วหันมาดูสภาพของฉัตรชบาก็โกรธพัฒนะมาก
อัคคีไอ้พัฒนะ!!!
ต่อมา คืนนั้น พัฒนะถูกอดุลย์โยนลงมานอนกองอยู่กับพื้นที่หน้าผับ พัฒนะถูกจับแก้ผ้าเหลือแต่บ๊อกเซอร์ตัวเดียว และถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้ด้วย หน้าตาของพัฒนะมีรอยฟกช้ำจากการถูกซ้อมเต็มไปหมด
"ฉันส่งแค่นี้นะ คลานเข้าไปข้างในเองก็แล้วกัน แล้วอย่าคิดทำร้ายคุณฉัตรชบาอย่างวันนี้อีก ไม่งั้นอัคคีเอาแกตายแน่"
"ฉันจะทำอะไรกับฉัตรชบาแล้วมันเกี่ยวอะไรกับอัคคีด้วย!"
"ถ้าไม่อยากมีปัญหากับอัคคีก็อย่ายุ่งกับคุณฉัตรชบาอีกก็แล้วกัน"
อดุลย์เดินออกไป
ลูกค้าที่เดินผ่านไปผ่านมา ต่างพากันมองพัฒนะแล้วยิ้มเยาะขำๆ ซุบซิบกัน จนพัฒนะอาย
"มองอะไรกัน!"
พนักงานของพัฒนะยืนมองอยู่ห่างๆ ไม่กล้าเข้ามาช่วย
พัฒนะด่าพนักงาน
"รีบมาช่วยแก้มัดให้กูสิวะ ยืนมองอยู่ได้"
พนักงานของพัฒนะรีบเข้ามาช่วยแก้มัดให้พัฒนะ
พัฒนะอาฆาต
"กูต้องแก้แค้นพวกมึงให้ได้"
พัฒนะบอกอย่างอาฆาตแค้น
อัคคีเอาเสื้อผ้าของตัวเองมาเปลี่ยนให้ฉัตรชบา เสร็จแล้วก็เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้า เช็ดแขนให้ฉัตรชบาอย่างอ่อนโยน ฉัตรชบาละเมอสะดุ้งตกใจกลัว กอดแขนอัคคีไว้แน่น
"อัคคี ช่วยฉันด้วย"
อัคคีอึ้งไปอย่างคาดไม่ถึงว่าฉัตรชบาจะละเมอเรียกให้ตนช่วย
อัคคีแตะที่มือฉัตรชบาเป็นเชิงปลอบใจให้หายกลัว แต่ฉัตรชบาก็ยังกอดแขนอัคคีไว้แน่นไม่ยอมปล่อย อัคคีนั่งไม่ถนัด เลยตัดสินใจนอนลงข้างๆ ฉัตรชบา
อัคคีมองหน้าฉัตรชบาในระยะประชิดอย่างพิจารณาแล้วอดใจไม่ไหวจูบหน้าผากฉัตรชบาไปทีนึง
ฉัตรชบากอดอัคคีไว้ทั้งที่ไม่ได้สติอยู่ อัคคีกอดปลอบใจฉัตรชบาไป
บ้านอัคคี เช้าวันใหม่
ในห้องนอนของอัคคี ฉัตรชบานอนซุกอยู่ในอกของอัคคี อัคคีกอดฉัตรชบาไว้ ทั้งคู่ยังหลับอยู่
ฉัตรชบาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาก่อน พอเห็นว่าตนนอนอยู่กับอัคคีก็ตกใจเล็กน้อย แต่แล้วก็เปลี่ยนท่าทีเป็นสงบนิ่ง ฉัตรชบานอนมองหน้าอัคคีที่หลับอยู่ด้วยแววตาซาบซึ้งใจ
"ขอบคุณนะที่ตามไปช่วยฉัน"
ทันใดนั้น อัคคีก็กระชับกอดฉัตรชบาเข้ามาแนบอกแน่นขึ้น แล้วพูดทั้งที่ยังหลับตาอยู่
"ใครจะปล่อยให้เมียตัวเองถูกผู้ชายอื่นรังแกล่ะ"
ฉัตรชบากตกใจ ผลักอัคคีออก แล้วเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันที
"นาย!"
อัคคีลุกขึ้น
อัคคีทำเป็นหาว บิดขี้เกียจ
"ยังเช้าอยู่เลยจะรีบตื่นไปไหน มาๆ มานอนต่อ"
อัคคีจะดึงตัวฉัตรชบาให้นอนลง ฉัตรชบาไม่ยอม
"ฉันจะกลับบ้าน" ฉัตรชบาจะลุกหนี
อัคคีดึงแขนฉัตรชบากลับมา ฉัตรชบาเสียหลักล้มลงไปซบอกอัคคี อัคคีฉวยโอกาสกอดไว้
ฉัตรชบาดิ้น
"ปล่อยฉัน"
อัคคีกอดล็อคตัวฉัตรชบาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย น้ำเสียงนุ่มนวลกว่าที่เคย
"คุยกันดีๆ ซักครั้งได้มั้ย"
"ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย"
"แต่ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ"
"เรื่องอะไร"
"คุณก็รู้ว่าพัฒนะมันไว้ใจไม่ได้ แล้วคุณจะไปยุ่งกับมันทำไม"
"ฉันไปถามเค้าเรื่องวรรณิศา ฉันรู้สึกว่าเค้าต้องรู้เห็นเกี่ยวกับการตายของน้องสาวนายแน่ๆ"
อัคคีเป็นห่วง
"คุณจะเอาตัวเองไปเสี่ยงเพื่ออะไร"
"เพื่อล้างมลทินให้พี่ฉัตร ฉันจะต้องหาทางพิสูจน์ให้นายเห็นให้ได้ว่าพี่ฉัตรไม่ได้เป็นคนทำร้ายน้องสาวนาย"
อัคคีมองหน้าฉัตรชบานิ่งงัน ลึกๆ ในใจแอบคิดว่าถ้าฉัตรชบาไม่ใช่น้องสาวฉัตรชนกก็คงจะดี
ฉัตรชบาสะบัดตัวออก
"ปล่อยฉัน ฉันจะกลับบ้าน" ฉัตรชบาเพิ่งสังเกตเห็นเสื้อผ้าตัวเอง "นี่นายเปลี่ยนชุดให้ฉันเหรอ"ฉัตรชบากอดอกแบบอายๆ
"จะอายอะไร ทำอย่างกับผมไม่เคยเห็นอย่างนั้นแหละ"
ฉัตรชบาทั้งโกรธทั้งอาย จนอยากจะกรี๊ดใส่หน้าอัคคี
อดุลย์หิ้วกระเป๋าถือของฉัตรชบาเดินมาทางหน้าห้องนอนอัคคี
ทันใดนั้น ฉัตรชบาก็เปิดประตูห้องนอนอัคคีออกมา อัคคีตามหลังฉัตรชบาออกมาติดๆ
"คุณฉัตรชบา"
ฉัตรชบาตกใจ กลัวอดุลย์เข้าใจผิด
"คุณอดุลย์ อย่าเข้าใจผิดนะคะ มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะคะ"
"ผมยังไม่ได้คิดอะไรเลยครับ" แม้ว่าปากบอกว่าไม่ แต่สีหน้าเหมือนคิดไปไกลแล้ว
ฉัตรชบาปั้นหน้าไม่ถูกรีบเดินหนีออกไป
อดุลย์รีบเรียกไว้
"เดี๋ยวก่อนครับคุณฉัตรชบา"
ฉัตรชบาหันกลับมา
"มีอะไรคะ"
อดุลย์ส่งกระเป๋าคืน
"ผมเก็บกระเป๋ากับมือถือของคุณมาจากในรถของนายพัฒนะ กำลังจะเอามาให้อัคคีเอาไปคืนคุณอยู่พอดี ไม่คิดเลยว่าจะเจอคุณอยู่กับอัคคีที่นี่"
ฉัตรชบารีบดึงกระเป๋าคืนไป
"ขอบคุณค่ะ"
ฉัตรชบาเดินเร็วๆ ออกไป
อดุลย์ถามอัคคี
"ตกลงแกกับคุณฉัตรชบานี่มันยังไงกันแน่"
"ฉันไปส่งฉัตรชบาก่อน กลับมาค่อยคุยกัน"
อัคคีรีบเดินตามฉัตรชบาไป
อดุลย์มองตามอัคคี สีหน้าติดใจสงสัยว่าอัคคีกำลังคิดอะไรกับฉัตรชบาอยู่หรือเปล่า
อัคคีขับรถมาส่งฉัตรชบา กำลังจะถึงหน้าบ้านอยู่แล้ว แต่ฉัตรชบาก็รีบบอกให้อัคคีจอดรถ
"จอดๆๆ"
อัคคีจอดรถเข้าข้างทาง
"มีอะไร"
"รถพี่ฉัตร"
ฉัตรชบามองไปที่หน้าบ้าน เห็นว่าฉัตรชนกกำลังขับรถออกมา ฉัตรชนกเลี้ยงรถมาทางรถของอัคคี
ฉัตรชบาเลื่อนตัวลงไปนั่งที่พื้นรถ หลบฉัตรชนก อัคคีมองไปทางรถของฉัตรชนก ฉัตรชบาดึงตัวอัคคีให้โน้มลงมาทางตนเพื่อหลบฉัตรชนก
"หลบสิ เดี๋ยวพี่ฉัตรก็เห็นหรอก"
"เห็นก็เห็นสิ ไม่เห็นเป็นไรเลย"
อัคคีมองสบตาฉัตรชบาที่ใบหน้าอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบนิ่งๆ อยู่ครู่หนึ่ง ฉัตรชบาเองก็มองสบตาอัคคีนิ่งไปเหมือนกัน...ความรู้สึกหวั่นไหวคล้ายๆ จะเป็นความรักกำลังเกิดขึ้นในใจของทั้งคู่
ฉัตรชบาได้สติผลักอัคคีออกห่างจากตัว
"นายไม่เป็น แต่ฉันเป็น ถ้าพี่ฉัตรรู้ว่าฉันไปนอนกับนายมา ... ฉันหมายถึงไปนอนที่บ้านนายมา พี่ฉัตรต้องถามแน่ว่าเกิดอะไรขึ้น"
ในรถของฉัตรชนก ฉัตรชนกมองรถของอัคคีจากกระจกมองข้าง แล้วทำหน้าสงสัยนิดหนึ่ง แต่แล้วก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ขับรถต่อไป
"คุณหายไปทั้งคืนแบบนี้ ที่บ้านคุณจะไม่สงสัยเหรอว่าคุณหายไปไหนมา"
"คงไม่มีใครรู้หรอก เพราะบางวันฉันก็กลับบ้านดึก ไม่เจอใครอยู่แล้ว"
"แล้วคุณจะไม่บอกพี่ชายคุณเหรอว่าพัฒนะมันคิดจะทำเลวๆ กับคุณ"
"ไม่ ฉันไม่อยากให้พี่ฉัตรมีเรื่องกับนายพัฒนะ แค่มีเรื่องกับนายคนเดียว พี่ฉัตรก็ไม่ค่อยจะปลอดภัยอยู่แล้ว"
อัคคีเป็นห่วง แต่ก็ทำเป็นเสียงแข็งๆ กลบเกลื่อนความรู้สึกตัวเองไป
"ถึงขนาดนี้แล้วยังจะห่วงไอ้ฉัตรชนกมากกว่าตัวเองอยู่อีก"
"ไม่ให้ฉันห่วงพี่ชายตัวเอง แล้วจะให้ฉันเป็นห่วงนายหรือไง"
"ต่อไปก็ระวังตัวให้มากกว่านี้หน่อยก็แล้วกัน พัฒนะมันคงไม่ยอมปล่อยคุณไปง่ายๆ แน่"
ฉัตรชบาลึกๆ คือเป็นห่วงเหมือนกัน แต่ก็ปั้นหน้าพูดเหมือนไม่สนใจ
"ห่วงตัวเองก่อนเถอะ ฉันว่านายพัฒนะต้องตามมาแก้แค้นนายแน่"
ฉัตรชบาลงจากรถไป
อัคคีมองส่งฉัตรชบาจนฉัตรชบาเข้าบ้านเรียบร้อย พูดกับตัวเองเบาๆ
"ถ้าคุณไม่ใช่น้องสาวไอ้ฉัตรชนกก็คงจะดี"
อัคคีเริ่มรักฉัตรชบาแล้ว แต่ติดตรงที่ฉัตรชบาเป็นน้องสาวของศัตรู เลยทำใจยอมรับความรู้สึกตัวเองไม่ได้
อ่านต่อตอนที่ 14