นางแค้น ตอนที่4
จ่ายอด จ่าโอ เปิดประตูห้องเข้ามาหาบุลิน กับ กานดา
จ่ายอดบอก “จัดว่าเด็ด เผ็ดสิบโลไปเลย ถึงขนาดจ้างคนมาสาดน้ำกรดใส่หน้าตัวเองได้ แบบนี้ ไม่โดนของ ก็ต้องคุณไสยแล้วล่ะครับ”
“อย่ามางมงายแถวนี้ดีกว่าน่าจ่า แบบนี้มันเป็นเรื่องของสัน...เอ๊ย นิสัย ต้องจับมาดัดนิสัยซะให้เข็ด” จ่าโอบอก
“งั้นก็ปิดจ็อบ ไปรับตัวมาเลยจ่า” หมวดกานดาบอก
“เดี๋ยว กานดา ซินดี้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แล้วก็ไบโพล่าร์”
“ฮึ ซึมเศร้า ไบโพล่าร์ จริงอ่ะ พี่หมวด”
“ ใช่ พี่คุยกับหมอมาแล้ว เพราะป่วย ซินดี้เลยทำอะไรแปลกๆ แบบนี้ เพื่อเรียกร้อง
ความสนใจก็ได้”
“แล้วทีนี้ จะยังไงต่อล่ะครับ หมวด” จ่ายอดถาม
“ ให้เขาออกจากโรงพยาบาล อาการดีขึ้นซะก่อน ผมจะสอบปากคำซินดี้เอง”
ณ ห้องพิเศษ โรงพยาบาล บุลินเปิดประตูเข้ามาปุ๊บ ได้ยินเสียงซินดี้เรียกขึ้นจากมุมหนึ่ง
“นี่ มานี่หน่อย”
บุลินก้าวเข้าไป เห็นซินดี้ยืนหันหลังให้ ซิปติดอยู่กลางหลัง
ซินดี้นึกว่าเป็นตั้งโอ๋ “ซิปติด รูดให้หน่อยสิ”
บุลินชะงัก
“ไม่ได้ยินหรือไง”
บุลินตัดสินใจเดินเข้าไปรูดซิปชุดขึ้นให้
“ก็แค่นี้”
ซินดี้หันกลับมาหา เห็นบุลินแล้วชะงัก
ทั้งสองมองสบตากัน ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
แล้วบุลินเป็นฝ่ายหลบตาหันหลังกลับจะไป
ซินดี้คว้าแขนบุลินหันกลับมา แล้วเขย่งตัวขึ้น จุ๊บแก้มบุลินเบาๆ
บุลินอึ้งไปเลย
“ขอบคุณ!”
ซินดี้ยิ้มให้อย่างรู้สึกว่าบุลินชอบตัวเอง บุลินตายไปเลย
ตั้งโอ๋เปิดประตูห้องเข้ามา
“ตั้งโอ๋รับยามาแล้วนะคะพี่ซินดี้ ...จะไปกันหรือยัง”
ซินดี้กับบุลิน ชะงักหันมอง
“อ้าว หมวด นี่มาทำอะไรที่นี่”
“ฉันมีเรื่องคดีที่ต้องคุยกับลูกพี่เธอน่ะสิ”
“ไว้วันหลังก็แล้วกันนะ หมวด”
ซินดี้จะไป บุลินยกมือขวาง “เดี๋ยว”
“ฉันเพิ่งออกจากโรงพยาบาลนะ อยากพักผ่อน”
“ผมมีเรื่องสำคัญต้องคุยกับคุณ”
“จะให้ฉันขอบคุณหมวดอีกสักทีมั้ย”
บุลินอึ้ง
“ฉันแค่ล้อเล่น ไม่ต้องหน้าแดงก็ได้”
ซินดี้หัวเราะ แล้วเดินออกไปกับตั้งโอ๋
“ตั้งโอ๋ ถือของให้ฉันด้วย”
บุลินอึกอักจะตาม แต่ซินดี้ไม่สนใจ
“ซินดี้ มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ ซินดี้ เดี๋ยวก่อน”
บนดาดฟ้าที่พัก … อพาร์ทเม้นท์เพลินพิมาน
ซินดี้ในชุดว่ายน้ำ นอนอยู่ริมสระ ตั้งโอ๋เทครีมกันแดดใส่มือ แล้วทาหลังให้
“ตั้งแต่เกิดเรื่องบ้าๆ เข้าโรงพยาบาล มีวันนี้แหละที่ฉันสบายใจ”
“งั้นก็แสดงว่าต้องมีเรื่องราวดีๆน่ะสิ อะไรอ่ะ พี่ซินดี้”
ภาพซินดี้จุ๊บแก้มบุลินผ่านเข้ามา นางแอบอมยิ้ม
“ช่างเถอะ ไม่ต้องสนใจหรอก”
ตั้งโอ๋ทาครีม ไล่มาจนถึงที่รอยสักผีเสื้อตรงบั้นเอว
“พี่ซินดี้สักรูปผีเสื้อด้วยหรือคะ เก๋จังเลยค่ะ”
ซินดี้ยิ้ม
“มันไม่ได้เก๋อย่างเดียว มันคือความรัก ฉันกับเขามีผีเสื้อแบบนี้คนละตัว”
“ พี่ซินดี้มีแฟนตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย ใครกัน ตั้งโอ๋ไม่เห็นเคยเจอเลย”
“บอกไป แกก็ไม่รู้จักหรอก เอาเป็นว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดแล้วก็รักฉันมากที่สุดก็แล้วกัน”
“ หวานเว่อร์ อ่ะ”
“ไม่ต้องมาอิจฉาให้เสียเวลาเลย นังตั้งโอ๋” ซิ้นดี้ลุกขึ้นนั่งเปิดกระเป๋าใบเล็กหยิบลิปสติกตราผีเสื้อออกมาให้ตั้งโอ๋ “อะ นี่ตัวอย่างลิปสติกที่ฉันสั่งทำเป็นพิเศษ ไปรับให้ฉันทีนะ นางทาสของฉัน”
ตั้งโอ๋รับหลอดลิปสติกไปจากซินดี้
“ อ่อ มิน่าล่ะ พี่ซินดี้สั่งทำเป็นพิเศษนี่เอง ถึงไม่เหมือนใคร”
“ของพื้นๆ แบบคนอื่นทาแล้วก็แพ้ ปากบวม ฉันถึงต้องสั่งทำพิเศษไงล่ะ”
“รีบไปได้แล้ว”
“ ค่ะ ตั้งโอ๋จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ”
มดแดงซื้อถุงกับข้าวเดินเมาท์มากับโกกิ ไปที่หน้าลิฟต์
เมื่อลิฟต์เปิดออก ภาวัชที่เดินมาข้างหลัง รีบแซงเข้าลิฟต์ไปก่อน
มดแดงยิ้มแย้ม
“อุ๊ย คุณภาวัช กลับจากสิงคโปร์แล้วหรือคะ” แล้วรอยยิ้มก็เจื่อนลง เมื่อเห็นสายตาภาวัชที่มองเหยียด
ภาวัชรีบกดปิดลิฟต์ ไม่ยอมให้สองสาวขึ้นด้วย
“ขอโทษนะ ฉันรีบ”
มดแดงถึงกับสะอึกด้วยความหมั่นไส้
“ ถุย ดูมันทำสิ ทำเป็นรังเกียจสาวประเภท 2 แต่เงินที่มันถลุงอยู่ทุกวันนี้ ไม่ได้มาจากกลิ่นเหงื่อสาปถุงน่องที่นางโชว์อย่างฉันใส่เต้นยิกๆ อยู่ทุกคืนๆเหรอ”
“ ช่างเถอะเจ๊ ถ้าคุณภาวัชสนใจนางโชว์ขึ้นมาเมื่อไร คุณแพรวาคงอกแตกตาย ไป เราเดินขึ้นบันไดก็ได้ จะได้เบิร์นไขมันด้วย”
“ย่ะ แม่นางฟ้าโกกิ”
มดแดงประชดโกกิ แล้วเดินขึ้นบันไดไป
ซินดี้นอนเล่นรีแล็กซ์อยู่บนเบาะยางในสระน้ำ
ภาวัชแอบถ่ายคลิปซินดี้อยู่อย่างหื่นกระหาย ภาพในมือถือ ไล้ไปตามแขน ขาของซินดี้
ณ มุมบันได โกกิใส่เสื้อคลุมชุดว่ายน้ำ กำลังเดินขึ้นมา แล้วต้องชะงัก มองเห็นภาวัช กำลังถ่ายซินดี้อยู่
“ โอ๊ะ โอ้ว นี่คุณภาวัชตัวจริงใช่มั้ย หึ ทำเป็นแอ๊บ ที่แท้ก็อยากกินชะนีเฉาะแล้ว”
โกกิมองซินดี้ที่อยู่ในสระน้ำอีกครั้งอย่างเกลียดชัง....
“ สวยเลือกได้จังเลยนะคะ พี่ซินดี้เบอร์หนึ่ง !”
ต่อมา ... โกกิหน้านิ่ง เดินมาที่ริมดาดฟ้าโรงละคร พลางนึกถึงคำพูดของซินดี้
“ฉันว่าชุดนี้ของเธอมันเหมือนชุดเก่าของฉันเด่ะเลยนะ การก็อปปี้ความสำเร็จของคนอื่น นอกจากจะไม่ได้เป็นที่หนึ่งแล้ว ยังทำให้สะดุดล้มโครมใหญ่ได้เลยนะ”
โกกิยืนอยู่ริมดาดฟ้าพอดี ในมือถือจรวดกระดาษอันนึงอยู่
“มันถึงเวลาที่พี่ซินดี้คนเก่ง จะสะดุดขาตัวเองล้มลงบ้างแล้ว”
โกกิยื่นจรวดกระดาษออกไป แล้วค่อยปล่อยให้จรวดร่อนลงไป ที่ลานข้างล่าง
จรวดกระดาษค่อยๆ ตกลงมาที่พื้น อ้วนกวาดพื้นอยู่ หยิบดู นางโชว์อื่นๆเข้าไปถาม
“อะไรอ่ะ อ้วน ....ไหนดูสิ”
นางโชว์คนหนึ่งฉวยจรวดกระดาษมาคลี่อ่าน แล้วต้องชะงักเมื่อคลี่ออกดู
“ ว้าย... อกอีปุกแตก แย่แล้ว มาดูกันเร็ว !” นางโชว์ตะโกนบอก
นางโชว์อื่นกรูเข้าไปดูด้วยกัน ท่ามกลางแผ่นใบปลิวที่ร่วงลงมาอีกเต็มไปหมดทุกคนฮือฮา หยิบขึ้นมาอ่านกัน
ผ่านเวลา ... ตั้งโอ๋ซ้อนมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เข้ามาจอดหน้าโรงละคร ไม่มีใครอยู่เลย
“เอ๊ะ .. ทำไมวันนี้เงียบจัง”
ตั้งโอ๋ก้าวเท้าเข้ามา แล้วเหยียบเข้ากับใบปลิวที่ตกอยู่เกลื่อนพื้น ตั๋งโอ๋หยิบขึ้นมาอ่าน เห็นเป็นก็อปปี้ รูปบัตรผู้ป่วยโรงพยาบาลของซินดี้ พร้อมข้อความด้านล่าง
“ผู้ใดพบบุคคลในภาพช่วยติดต่อกลับคุณหมอด่วน เนื่องจากยารักษาโรคประสาทที่กินอยู่ หมดอายุ !”
ตั้งโอ๋ตกใจเป็นห่วงซินดี้
“แย่แล้ว พี่ซินดี้!”
ตั้งโอ๋เก็บใบปลิวให้ที่หล่นอยู่ให้หมด ยัดใส่กระเป๋า แล้วรีบวิ่งเข้าไป
ตั้งโอ๋วิ่งเข้ามาเจอนางโชว์จับกลุ่ม 2 คนบ้าง 3 คนบ้างซุบซิบคุยกันที่ประตู ตั๋งโอ๋ ชะงักไปนิดรีบขยำใบปลิวในมือ เดินหลบหน้า แล้วเปิดประตูเข้าไป
ตั้งโอ๋เข้ามาในห้องแต่งหน้าของซินดี้
“พี่ซินดี้!”
ซินดี้กำลังเอาสาลีเช็ดทำความสะอาดหน้า แต่มือสั่นนิดๆ
“เธอมาสายนะ ไปล้างมือก่อนค่อยมาแต่งหน้าให้ฉัน”
“ เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน พี่เห็นนี่หรือยัง” ตั้งโอ๋ยื่นใบปลิวให้ดู “เห็นมันตกอยู่ตรงหน้าโรงละคร ต้องมีใครสักคนคิดจะแกล้งพี่แน่นอน”
“แกคิดว่าใครล่ะ นังตั้งโอ๋ ใครที่รู้ว่าฉันเป็นบ้า”
ซินดี้ปัดเครื่องสำอางหล่นโครม ตาวาวด้วยความโกรธ ตั้งโอ๋ รู้แล้วว่าซินดี้โกรธ รีบถอยหนี
“ในนี้มีแต่แกคนเดียวเท่านั้นที่รู้ ใบปลิวพวกนี้มันจะเป็นฝีมือใครได้ นอกจากแก”
“แต่ตั้งโอ๋ไม่ได้ทำนะ แล้วก็ไม่ได้บอกใครด้วย ... พี่ซินดี้ตั้งสติก่อน
“นังตอแหล แกก็เหมือนทุกคนที่หักหลังความไว้ใจของฉัน”
ซินดี้หยิบแก้วน้ำขึ้นมา ขว้างให้แตก ก่อนจะหยิบเศษแก้วออกมา
ตั้งโอ๋เห็นท่าไม่ดี วิ่งหนีไปเปิดประตู แต่ซินดี้ตามไปกระชากผมไว้ทัน
ซินดี้ผลักตั้งโอ๋ล้มลง แล้วก็ขึ้นไปคร่อมไว้ ก่อนจะยกเศษแก้วขึ้นมา
“ทุกครั้งที่แกส่องกระจก แกจะได้เห็นความอัปลักษณ์ที่อยู่ในใจแก นังตั้งโอ๋”
ตั้งโอ๋กรี๊ดลั่น ซินดี้กำลังกดเศษแก้วไปที่หน้าตั้งโอ๋
“ไม่…” ตั้งโอ๋ตะโกนร้องลั่น
มือผู้ชายมาจับมือซินดี้ไว้แน่น ซินดี้เงยดู เห็นแพรวาร้องสั่ง ทิพย์อยู่ข้างๆ
“ดึงซินดี้ออกมา”
“ปล่อย ๆ ฉัน ฉันจะสั่งสอนมัน”
คนงานชายสองคนช่วยกันจับซินดี้ไว้ ซินดี้ดิ้นรน
โกกิ มดแดง นางโชว์อื่นๆ กรูเข้ามาดู มดแดงเข้ามาประคองตั้งโอ๋ให้ลุกขึ้น ตั๋งโอ๋ ขวัญเสีย
“เห็นหรือยังค่ะ คุณแพรวาคนดี ๆ ที่ไหนจะทำแบบนี้ นอกจากคนประสาท!” มดแดงบอก
“อุ๊ยตายแล้ว นี่เราอยู่ร่วมกับคนบ้าเหรอเนี่ย ถ้าคนดูรู้ ใครจะมาดูโชว์ของเราล่ะ” โกกิบอก
ซินดี้กรี๊ดใส่
“แอร๊ย ... พวกแกแกล้งฉัน ฉันไม่ได้บ้า ไม่ได้บ้า”
แพรวาเด็ดขาด “ซินดี้! หยุด” พร้อมสั่งคนงาน “เอาตัวออกไป”
คนงานดึงตัวซินดี้ที่ร้องโวยวายออกไป
แพรวาสั่งทุกคน “ทุกคนกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง ยังไงคืนนี้ก็ต้องมีโชว์”
แพรวากับทิพย์ตามออกไป โกกิแอบยิ้มอย่างสะใจ
ซินดี้ถูกพาเข้ามาในห้อง ซินดี้จะออกไป แต่คนงานชายเดินเข้ามาบังไว้ แพรวาตามมาคุย
“คุณแพรวา อย่าทำกับฉันอย่างนี้ ถ้าไม่มีฉัน ใครจะมาดูโชว์ของคุณ!”
“ ซินดี้! เรื่องนี้มันมีผลกระทบกับชื่อเสียงของเพลินพิมาน ถ้าเธอบอกว่าเธอโดนแกล้ง งั้นเธอก็คุมสติหน่อย แล้วฉันจะหาทางช่วยเธอ”
ซินดี้อึ้งไปเหมือนกันเมื่อเจอลูกนี้ของแพรวา แพรวาเดินออกมาข้างนอก ทิ้งซินดี้ไว้
ซินดี้เริ่มหมดแรง ทรุดนั่งลง แล้วร้องหาดวงใจ ...
“ดวงใจ .. แกอยู่ไหน รู้มั้ย ว่าฉันจะสู้กับคนพวกนั้นไม่ไหวแล้วนะ … จริงซิ ฉันต้องมีสติ .... ฉันต้องไม่แพ้พวกมัน ฉันจะต้องไม่โวยวาย ยา...”
ซินดี้รีบคลานไปที่โต๊ะ เห็นขวดยาระงับประสาทวางอยู่ ซินดี้รีบหยิบยาเอามากิน
ซินดี้เปลี่ยนใส่ เชิ้ตขาวตัวโคล่งๆตัวเดียว นอนซบอยู่ที่โซฟา เหมือนสงบสติได้แล้ว แต่กลับเด้ง
ตัวขึ้นมา แล้วก็เริ่มร้อน เหงื่อออก ซินดี้เช็ดเหงื่อ ที่ไหลออกมา ก่อนจะพาตัวเองไปห้องน้ำ
ในห้องน้ำ ซินดี้เอาฝักบัวราดตัว ให้หายร้อน ทั้งชุดที่ใส่อยู่
ประตูห้องซินดี้ถูกเปิดออก เท้าผู้ชายค่อยๆก้าวเข้าไป ... เขาคือ ภาวัช
ซินดี้เนื้อตัวร้อนรุ่ม ทุรนทรายประคองตัวเองแทบไม่ไหวจากยาที่ตัวเองกินเข้าไป ทีเดิน โซเซออกมาจากห้องน้ำ
ภาวัชยืนมองซินดี้ที่อยู่ในชุกเปียกน้ำแนบเนื้อ ตาเป็นมัน
“เข้ามาในห้องฉันทำไม”
ซินดี้จะเข้าไปไล่ แต่เซ ภาวัชเข้าไปพยุง
“ร้อนมากขนาดนี้ ให้ผมช่วยดีกว่านะ”
ภาวัชเข้าไปจูบซินดี้ ซินดี้ขืนๆ เบี่ยงๆตอนแรก พอภาวัชรุกหนัก ซินดี้ค่อยโอนอ่อนไปตามฤทธิ์ยา ทั้งสองจูบกันนัวราวกับหิวกระหาย ภาวัชผลักซินดี้ลงไปบนโซฟา ลีลาเร้าร่อน ซินดี้กอดก่าย จนมือปัดโดนกรอบรูปของซินดี้ หล่นลงมาแตกร้าว …
ประตูห้องที่แง้มอยู่ เลนส์จากกล้องโทรศัพท์ สอดระหว่างช่องว่างประตู ถ่ายทั้งหมดไว้
เช้าตรู่ วันใหม่ ในห้องซินดี้ที่อพาร์เม้นท์เพลินพิมาน
ซินดี้ นอนอยู่บนเตียง ก่อนจะสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่ามีมือภาวัชนอนกอดตัวเองอยู่ ซินดี้มองออกไป
เห็นเสื้อผ้าชุดเมื่อคืนกองอยู่เรี่ยราด ซินดี้ค่อย ๆ ได้สติ คิดได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน รีบลุกออกไป หยิบชุดมาใส่ลวกๆ แล้วเข้ามาถีบภาวัชจนตกเตียง
“ไอ้นรก”
“พูดอะไรหยาบคายอย่างนั้นล่ะ เมื่อคืนเห็นร้องแต่ ผัวๆๆ”
“ไอ้ทุเรศ แกข่มขืนฉัน ฉันจะแจ้งตำรวจจับแก”
“ ข้อหาอะไร ฮะ กะเทยอย่างแก เจอใครก็คันไปทั่ว ฉันช่วยเกาให้แก ก็ดีแค่ไหนแล้ว”
ซินดี้โกรธจัด พุ่งเข้าไปตบภาวัช ภาวัชตบซินดี้กลับไป 2-3 ทีจนเลือดซิบที่มุมปาก ต่อยท้องจนซินดี้ตัวงอ
“เล่นกับกูเหรอ อีซินดี้ เอาอีกมั้ย” ภาวัชตามเข้าไปกระชากผมซินดี้ขึ้นขู่ “จำไว้นะ ถ้ามึงปากโป้งบอกเรื่องนี้กับใคร โดยเฉพาะคุณแพรวา มึงจะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แน่ แม้แต่แมวของมึงก็เหมือนกัน”
“ไม่นะ .. อย่า ยุ่งกับดวงใจ”
ภาวัชไม่ตอบ แต่หัวเราะ หึๆ ใส่
ภาวัชฉวยเสื้อแล้วออกจากห้องไปเลย ซินดี้นอนกองอยู่กับพื้น น้ำตาไหลด้วยความเจ็บแค้นใจ กัดฟันลุกขึ้น
“ดวงใจ!”
ซินดี้วิ่งไปหาดวงใจ ... ภายในห้อง มุมนั้น มุมนี้ แต่ไม่เจอ
“ดวงใจ อยู่ไหน ดวงใจออกมาหาพี่สิ ดวงใจ!”
ซินดี้หาในห้องไม่เจอ ตัดสินใจวิ่งออกไปจากห้อง
ซินดี้ ซมซานออกมาตามหาดวงใจ ตามทางเดิน ที่อื่นๆ
“ดวงใจ ๆๆ”
ซินดี้เดินหาไปเรื่อย ๆ จนเจอหยดเลือดที่เชิงบันไดมุมหนึ่ง
ซินดี้ใจหาย รีบตามหยดเลือดขึ้นไปตามบันไดเรื่อย ๆ แล้วก็ต้องช็อก เมื่อเห็นขาดวงใจถูกทิ้งไว้ที่พื้น!!!
“ไม่นะ” .
และพอเงยไป ก็เห็นดวงใจถูกแขวนคอไว้กับราวบันได เลือดอาบ
ซินดี้ตาเบิกโพลง
เวลาเดียวกัน ... ตั้งโอ๋เดินถือถุงโจ๊กมา เจอยาม
“มาแต่เช้าเชียวนะ”
“ เอาโจ๊กมาให้พี่ซินดี้น่ะจ้า ตั้งโอ๋เป็นห่วงแก”
แล้วตั้งโอ๋ก็ได้ยินเสียงซินดี้กรีดร้อง อย่างโหยหวนและเสียงดัง
ตั้งโอ๋ รีบวิ่งขึ้นไป
ตั้งโอ๋วิ่งเข้ามา เห็นซินดี้เสียใจมาก ร้องโฮๆอยู่ ในมือกอดขาดวงใจไว้แนบอก
พอตั้งโอ๋เงยหน้าขึ้นมอง ถึงเห็นว่าดวงใจถูกแขวนคอติดกับราวบันได
“ฮือ ๆๆ ไม่ ๆ ไม่จริง ดวงใจ ดวงใจของพี่ ฮือ ๆ ๆๆๆ”
ตั้งโอ๋วิ่งเข้าไปกอดซินดี้เอาไว้
“พี่ซินดี้....”
ตั้งโอ๋เป็นคนทำหลุมศพให้ดวงใจ เธอฝังไว้ที่กลางสวนใต้ต้นไม้ใหญ่ ซินดี้หมดอาลัยตายอยาก น้ำตาไหล ได้แต่มอง
ตั้งโอ๋มองซินดี้ที่น้ำตาไหลมาไม่ขาดสาย แล้วก็สงสาร
ตั้งโอ๋ยื่นดอกไม้ให้
“เอาวางให้ดวงใจซิค่ะ เป็นครั้งสุดท้าย”
ซินดี้ยังนั่งเฉย จนตั้งโอ๋ต้องยื่นใส่ในมือ
“ดวงใจ.. ไม่มีหนูแล้วพี่จะทำยังไง”
“ใครกันนะ ใจร้ายทำกับดวงใจแบบนี้ได้ พี่รู้มั้ย”
“ไอ้พวกคนเลวไง มันเกลียดฉัน มันเกลียดดวงใจ”
“ ใครค่ะ พี่รู้เหรอว่าใครทำ”
ซินดี้อึ้งๆ ในหัวซินดี้เห็นหน้าทุกคนที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ภาวัช ป้ามี่ โกกิ มดแดง แพรวา ทิพย์ ตั้งโอ๋ บุลิน …
ซินดี้ส่ายหน้าเอามือกุมหัว แบบเริ่มจะประสาทแดก
“ไม่ ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้”
ตั้งโอ๋เพิ่งสังเกต รอยแดงจ้ำๆที่แขน
“พี่ซินดี้ ทำไมเนื้อตัวพี่เป็นแบบนั้น เกิดอะไรขึ้น”
“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน แกก็เหมือนพวกมันทั้งหมดนั้นแหละ ฉันเกลียด เกลียดทุกคน”
ซินดี้ผลักตั้งโอ๋อย่างแรงจนไปกระแทกกับต้นไม้แถวนั้น
ซินดี้วิ่งออกไปเลย ตั้งโอ๋วิ่งตามไป
“พี่ซินดี้ อย่าไป”
ซินดี้วิ่งออกมา วิ่งข้ามถนนไปทันทีไม่มองอะไร
“พี่ซินดี้ !ระวัง”
ตั้งโอ๋วิ่งตามออกมา ร้องอย่างเป็นห่วง ซินดี้วิ่งเตลิดออกไปไม่สน รถมอเตอร์ไซค์ต้องเลี้ยวหลบเอง
ตั้งโอ๋รีบวิ่งตาม แต่ต้องตกใจ เมื่อเจอเสียงแตรบีบยาวใส่
ตั้งโอ๋หันไปดู ก็ปรากฏว่ารถยนต์มาถึงตัวเสียแล้ว ตั้งโอ๋ตาเหลือกกระโดดหลบจนล้มคะมำไป หัวเข่าแตก “โอ้ย”
บุลินแล่นรถเข้ามาจอด เปิดประตูรถลงมาหา
“ตั้งโอ๋ เป็นอะไรหรือเปล่า”
“เข่าแตกนิดหน่อย ไม่เป็นไร” ตั้งโบอกพลางจับแขน “หมวดรีบตามพี่ซินดี้ไปเร็ว อย่าให้พี่ซินดี้
เป็นอะไรนะ”
“ฉันกำลังจะไปหาซินดี้พอดี เกิดอะไรขึ้น”
“แมวพี่ซินดี้ตาย พี่ซินดี้เสียใจมาก จนเตลิดเปิดเปิงไปไหนแล้วก็ไม่รู้ หมวดตามพี่ซินดี้กลับมาให้ได้ อย่าให้พี่ซินดี้เป็นอะไรนะ”
บุลินอึ้ง
ซินดี้เดินสภาพเป็นศพ ไปตามถนนแห่งหนึ่ง แววตาเจ็บปวด เลื่อนลอย
ผีชุดแดงปรากฏตัวขึ้น เดินเข้ามาหัวเราะเยาะซินดี้
ซินดี้เหลียวไปทางไหน ก็เห็นผีชุดแดง หัวเราะเยาะ จนซินดี้ประสาท ตวาดออกไป
“อย่ามาหัวเราะเยาะฉัน ไปให้พ้นนะ นังผีร้าย”
ชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นมองงง เพราะ เห็นซินดี้พูดคนเดียว
ผีชุดแดงพุ่งเข้ามาหาซินดี้
ซินดี้สู้บีบคอผีชุดแดง แล้วเขย่าตวาดใส่
“ฉันไม่ยอมตายง่ายๆ หรอก ฉันยังเหลือเภาอยู่ ได้ยินไหม ฉันยังมีเภาอยู่กับฉัน”
ซินดี้ที่บีบคอผีชุดแดงอยู่นั้น กลายเป็นซินดี้กำลังบีบคอผู้ชายคนหนึ่งอยู่
ผู้ชายผลักซินดี้ล้มลงไปกับพื้น
“อีบ้า”
ซินดี้นึกขึ้นมาได้
“เภา! เภาของซินดี้”
ซินดี้มีความหวัง ลุกขึ้นวิ่งออกไป
ต่อมา ... ที่คอนโดเภา
ซินดี้เดินออกจากลิฟต์ชั้นบน ออกมาอย่างมีความหวัง
ภาพเหตุการณ์ความรักระหว่างนางกับเภาผ่านเข้ามา
ภาพที่เภาคุกเข่าลงมาตรงหน้า แล้วยกมือไปจับมือซินดี้ดึงไว้ไม่ให้เช็ดน้าตา
“อยู่กับผมไม่ต้องเข้มแข็ง ไม่ต้องเก่ง ไม่ต้องเป็นอะไรทั้งนั้น นอกจากเป็นตัวของคุณจริงๆ ....ร้องเถอะ ถ้าอยากร้อง ...บ่าผมมีไว้ซับน้ำตาคุณอยู่แล้ว”
ซินดี้น้าตารื้น วิ่งเข้าไปที่ห้องของเภาอย่างมีความหวังล้นปรี่ว่าจะได้รับการปลอบประโลมจากเภา
ซินดี้ร้องมาตามทาง
“เภา เภา เภาช่วยซินดี้ด้วย”
ซินดี้เข้ามาที่หน้าห้องเภา กำลังจะจับประตู แล้วเห็นรองเท้าผู้หญิงคู่หนึ่งวางอยู่หน้าห้อง
ซินดี้ใจหายวาบเพราะรู้ว่าไม่ใช่รองเท้าตัวเอง ซินดี้หยิบรองเท้าคู่นั้นขึ้นมา มือไม้สั่น
ซินดี้เห็นประตูที่แง้มอยู่ แบบไม่ได้ตั้งใจ ...ตัดสินใจเดินเข้าไปในห้อง
ซินดี้ถือรองเท้าคู่นั้นเข้ามาในห้องด้วย
เสียงเภากับโกกิคุยกันงุงงิงๆ หัวร่อต่อกระซิก ดังแว่วๆ มา
ซินดี้มองเข้าไปที่ห้องนอน เห็น โกกิกับเภากำลังมีสัมพันธ์กันอยู่
ซินดี้ยืนนิ่ง ตะลึง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นโกกิ โกกิเงยหน้าขึ้นมาดู แกล้งทำเป็นตกใจ
“ ว๊าย พี่ซินดี้ นี่พี่เข้ามาได้ยังไงกันคะ”
เภาเองก็ตกใจ
“ซินดี้ ไหนว่าวันนี้ไม่มา”
ซินดี้นิ่งไม่ตอบ แต่เดินเข้ามาด้วยความแค้น แล้วฟาด ๆ ๆๆไปไม่ยั้ง
โ“เภา ช่วยโกกิด้วย อย่าค่ะพี่ซินดี้ โกกิ กลัวแล้ว”
เภารีบนุ่งผ้าแล้วรีบ เข้ามาดึงซินดี้ออก ผลักไปเซติดกำแพง
“หยุดนะ ซินดี้ ถ้ากล้าทำอะไรโกกิอีก เจ็บตัวแน่”
ซินดี้มองแค้น แสบหัวใจมาก
“กล้าเอากับมัน แล้วยังกล้าออกรับแทนมันอีกเหรอ ไอ้ชาติหมาเภา”
“พี่ซินดี้ละก็ อย่าพูดแบบนั้นซิคะ ด่าผัวแบบนั้นมันไม่ดีนะคะ ยังไงเค้าก็เป็นผัวเราสองคน โกกิดีใจนะคะ ที่เราสองคนได้ใช้ของร่วมกัน..สมเป็นพี่น้องกันจริง ๆ”
ซินดี้ตัวเย็นวาบ คิดถึงสิ่งที่โกกิเคยพูดในอดีตที่โกกิเอาลิปติกซินดี้มาใช้ …
“โกกิเห็นพี่ซินดี้ประกวดปีแรกไงค่ะ พอโกกิได้ตำแหน่งที่หนึ่งปุ๊บ โกกิก็มาสมัครเป็นนางโชว์ที่นี่ตามแบบพี่ซินดี้เป๊ะ เห็นมั้ยคะ พี่ซินดี้กับโกกิมีอะไรเหมือนกันตั้งหลายอย่าง มันคงไม่แปลกอะไรมั้ง...ถ้าเราจะใช้ลิปสติก..แท่ง..เดียวกันบ้าง!”
แท้จริงแล้ว โกกิกับเภาลักลอบกันมานานแล้ว
ซินดี้แววตาไหวระริก รู้แล้วว่าโดนหลอก สวมเขามานานแล้ว
“แก แกได้กับมันมานานแล้ว ใช่มั้ย”
“ โธ่ๆ เพิ่งนึกได้เหรอค่ะ แต่มันก็ช่วยไม่ได้นะ ก็พี่อยากโง่เอง..เสียทั้งตัว เสียทั้งเงิน น่าสงสารที่สุด ..” โกกิแกล้งทำมือเป็นโทรศัทพ์ “ฮัลโหล นี่แม่เองนะจ๊ะ แม่ไม่สบายเกิดอาการคันกระทันหัน มาหาแม่ทูนหัวโกกิเร็วๆซิจ๊ะ เภาจ๋า”
“แกหลอกฉัน พวกแกรวมหัวกันหลอกฉัน”
“ แกสิมาแย่งผัวฉัน เภาเค้าเป็นผัวฉันก่อนแกเสียอีก”
“ไม่จริง!”
“อย่าหลอกตัวเองอีกเลย!! ฉันยอมให้แกใช้ผัวร่วมกับฉันก็ดีเท่าไหร่แล้ว อ้อ แล้วก็รู้ไว้ด้วยนะ เภาเค้าเป็นคนขอร้องไม่ให้ฉันบอกแก ก็เพราะกลัวว่าแกจะหาเรื่องแกล้งฉันให้ออกจากเพลินพิมาน เห็นหรือยังว่าเภาเค้ารักฉันแค่ไหน”
ซินดี้ทนไม่ไหว หวีดร้องออกมาแล้วเข้าไปตบโกกิ
ซินดี้กระโจนไปตบโกกิ แต่คราวนี้โกกิตบกลับ ซินดี้เลยสู้ ตบกันมั่วไปหมด
เภาเข้าไปลากซินดี้ออกมา
“หยุดนะซินดี้ หยุดบ้าได้แล้ว”
ซินดี้เลยหันไปตีตบเภาแทน
“ไอ้เภา ไอ้แมงดา”
เภาเลยจัดการตบซินดี้กลับไป
“ด่าอีกสิ พ่อจะตบให้ฟันร่วง”
“แกเอาเงินฉันไปกี่ล้านแล้ว เอาคืนมา เอามา”
“แกโง่เอามาให้ฉันเอง แล้วจะมาเรียกร้องอะไร”
“ไอ้แมงดาจากนรก ฉันขอสาปแช่งแกไม่ให้ตายดี”
เภาเข้าไปต่อยซินดี้ อีกสองสามหมัด จนซินดี้น่วม แล้วโกกิรีบเข้ามาดึงเภา
“ พอก่อนพี่เภา เดี๋ยวมันตายคาห้อง เป็นเสนียดเปล่าๆ”
เภาถึงได้ยอมยั้งมือ
“ไป โกกิไปเรียกยาม ลากอีบ้านี่ออกไปที”
ซินดี้โดนยามผลักออกมาทิ้งไว้หน้าคอนโดฯ ล้มลงกับพื้น โกกิเกาะเภายืนดู
“ถ้าอีกระเทยนี่เข้ามาในคอนโดฯอีก เรียกตำรวจจับได้เลย”
เภาสั่งยามเสร็จแล้วเดินออกไป โกกิโยนรองเท้าใส่ซินดี้
ซินดี้มองตามด้วยความแค้น ร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ กับความโง่ของตัวเอง ชีวิตนี้ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
ต่อมา แพรวาเดินเข้ามาในห้องทำงาน ทิพย์ถือกระเป๋าให้แพรวา ตามหลังเข้ามาด้วย
แพรวาเห็นซองสีน้ำตาลจ่าหน้าซองถึง "คุณแพรวา" วางบนโต๊ะ เธอหยิบซองขึ้นมาดู แล้วงง
“อะไรน่ะ ใครส่งมา”
“ทิพย์ก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เห็นแม่บ้านบอกว่า มีคนมาวางไว้หน้าออฟฟิศ ทิพย์เลยเอาเข้ามาไว้ให้คุณแพรวานี่ล่ะค่ะ”
แพรวาเลยเปิดซองออกมาดู ถึงกับช็อก หน้าถอดสี ตะลึงสุดๆ
มันเป็นภาพ ภาวัชกับซินดี้บนเตียง ภาพส่วนใหญ่ถูกคัดให้ดูเหมือนซินดี้เป็นคนรุกภาวัช
แพรวามือไม้สั่น รูปถ่ายหลุดจากมือ
ทิพย์หันมาเห็นตกใจ
“คุณแพรวา! อะไรคะ”
แพรวาไม่ตอบ ตัวสั่นด้วยความโกรธ เจ็บปวดมาก
ทิพย์เข้ามา แล้วเห็นรูปอีกคน ช็อค ! ตาตั้ง
“คุณพระช่วย!! คุณภาวัช ..ซินดี้!”
แพรวาเจ็บปวด แค้นใจสุดบรรยาย
ภาวัชกำลังนอนอาบแดดอยู่ริมสระน้ำบนดาดฟ้าอย่างสบายใจ มีความสุข ดื่มน้ำเกลือแร่จากขวดแก้วไปด้วย
แพรวาถือมีดโกนด้ามยาว ตรงเข้าไปที่ภาวัช
แพรวาเงื้อมือขึ้น เตรียมจะแทงลงไปที่ภาวัช
ภาวัชพลิกตัวหันมาเห็น ทันเวลาฉิวเฉียด รีบกลิ้งหลบไปได้ทัน
“คุณแพร นี่มันเรื่องอะไรกัน”
แพรวาไม่ฟังเสียง ตามเข้ามาเหวี่ยงมีดโกนใส่อีก
ภาวัชหยิบผ้าขนหนูมารับได้ทัน
แพรวาเลยกรีดผ้าขนหนูจนขาดแคว่กสองท่อน แล้วภาวัชก็เสียหลัก หงายหลังล้มลงไป นอนกับพื้น
แพรวาเอามีดโกนจี้ลงที่คอภาวัช ภาวัชร้องตกใจกลัว ขวัญเสีย
“ อ๊าก”
“ร้องทำไม ไอ้ผู้ชายมักมาก ตัณหากลับ”
“คุณพูดเรื่องอะไร ผมไม่รู้เรื่อง”
แพรวากดมีดโกนลงไปอีก ภาวัชตาเหลือก หวาดกลัว
“อย่า”
“สารภาพมา คุณไปนอนกับซินดี้มาแล้วใช่มั้ย”
“ครับ ...ผม....ผิดไปแล้วคุณแพร ผมผิดไปแล้ว”
แพรวายิ่งเดือดหนัก “ไอ้สำส่อน!”
แพรวาทำท่าจะปาดคอภาวัช ทิพย์ตกใจ รีบวิ่งเข้ามากระชากแขนแพรวา ห้าม
“คุณแพร อย่าคะ ฆ่าคนมันเป็นบาปนะคะ”
“แล้วจะให้ฉันเก็บผัวชั่วๆแบบนี้ไว้ให้มันนอกใจฉันอย่างนั้นเหรอ”
“แล้วฆ่าคุณภาวัชแล้วคุณแพรจะได้อะไรคะ นอกจากความเสียใจ แล้วก็ติดคุก”
แพรวาอึ้ง แววตาสั่นระริก เริ่มลังเล อ่อนลง
“ให้อภัยคุณภาวัชสักครั้งเถอะนะคะ อย่างน้อยเขาก็เป็นผู้ชายที่คุณรักไม่ใช่เหรอคะ”
แพรวาอึ้ง ภาวัชทำเป็นดราม่า พูดขึ้น
“ ช่างเถอะทิพย์ ผมมันชั่วมันเลวจริงๆ ผมจะชดใช้ด้วยชีวิตผมเอง”
ภาวัชเข้าไปคว้าขวดน้ำเกลือแร่ขึ้นมา ทำท่าจะฟาดหัวตัวเอง
แพรวาทิ้งมีดโกนพุ่งเข้าไปห้ามภาวัช
“อย่านะ ภาวัช อย่าทำอะไรโง่ๆ อย่างนั้นนะ”
“คุณเกลียดผมไม่ใช่เหรอ ผมสมควรตาย”
“ ไม่ ถ้าคุณตาย ฉันคงขาดใจ”
“ คุณแพร!”
ภาวัชทิ้งขวดแก้วแล้ว เข้าไปกอดกับแพรวา ต่างคนต่างกอดกัน ร้องไห้
ทิพย์มองด้วยความสะเทือนใจ ตื้นตัน
เย็นวันเดียวกัน
ซินดี้เดินเหม่อลอยไปตามทางถนนเมืองพัทยา เหมือนร่างที่ไร้วิญญาณ ซินดี้นึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา
“ฉันจะแจ้งตารวจจับแก แกมันหน้าตัวเมีย ฉวยโอกาสข่มขืนฉัน”
“ข้อหาอะไร กระเทยอย่างแก เจอใครก็คันไปทั่ว ฉันช่วยเกาให้แก ก็ดีแค่ไหนแล้ว”
ดวงใจโดนแขวนคอ
เภารีบนุ่งผ้าแล้วรีบเข้ามาดึงซินดี้ออก ผลักไปเซติดกำแพง
“หยุดนะ ซินดี้ ถ้ากล้าทำอะไรโกกิอีก เจ็บตัวแน่”
ซินดี้ เดินน้ำตาไหลพราก พรั่งพรูเป็นเม็ดฝน ไปตามทาง มาสคาร่าเลอะเทอะ ต่อหน้าผู้คน กลางถนน ทุกคนมองเหลียวหลัง แต่ซินดี้ไม่แคร์
ซินดี้เข้ามายืนที่ริมหาด มองออกไปท้องทะเลกว้างไกลเวิ้งว้าง เหงา เศร้า เจ็บปวด รวดร้าว
ซินดี้ทรุดไปกองกับพื้นทราย เอามือทุบหน้าอกตัวเองแบบเจ็บหัวใจมากๆ แล้วทนไม่ไหว น้ำตาไหลออกมา สะอื้นโฮ ตะโกนก้องฟ้าออกไป
“ทำไม ทาไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมไม่มีใครรักฉันเลย....ไม่มีเลย!”
ทางด้านบุลินเที่ยวเข้าไปสอบถามชาวบ้าน ถามหาซินดี้แต่ไม่เจอ
อีกมุมหนึ่ง กานดา จ่ายอด จ่าโอ วิ่งมารวมกันแล้ว บุลินตามเข้ามา
“เจอมั้ย”
“ไม่เจอดิ พี่หมวด”
จ่าโอบอก “ผมวอไปบอกทุกหน่วยแล้ว แต่ยังไม่ได้ข่าวเลยครับ”
“นี่เราก็แทบจะพลิกพัทยาหาแล้วนะ หมวด หาไม่เจออย่างนี้ อีก3วันบังสุกุลแน่” จ่ายอดบอก
“เฮ้ย ปากเสียไปป่ะ ไปแช่งเขาได้ไง” จ่าโอบอก
“ ผมก็พูดไปตามประสบการณ์ที่ผ่านมา”
บุลินมองไปที่พนักงานขนของกำลังขนรูปวาดทะเลผ่านหน้าไป
บุลินนึกขึ้นมาได้ว่า อาจจะเป็นที่ทะเลที่ซินดี้เคยจับป้ามี่ไป
บุลินรีบบอกทุกคนแล้ววิ่งออกไป
“ ทุกคนแยกย้ายกันหาต่อไป ใครเจอแล้วส่งข่าวด้วย”
บุลินรีบวิ่งออกไป กานดาร้องตาม
“อ้าวนั่น พี่หมวดจะไปไหน”
ซินดี้นั่งร้องไห้ตาลอยอยู่ที่ริมทะเล
ผีชุดแดง เดินเข้ามาอย่างหลอนๆ แล้วมาหยุดตรงหน้า
“ฉันไม่ควรอยู่ต่อไป แล้วใช่มั้ย”
ผีชุดแดงแสยะยิ้มให้ซินดี้ แล้วหันไปทางทะเล ซินดี้ลุกขึ้นยืนแล้วก้าวเท้าตามไป
บุลินวิ่งเข้ามา ตะโกนเรียกหาซินดี้
“ ซินดี้ๆๆ”
บุลินมองไปไม่เจอใคร วิ่งไปทางหนึ่ง
ฟ้ามืด ริมทะเล ซินดี้ค่อยๆเดินลุยน้ำ ตามหลังผีชุดแดงออกไป เรื่อยๆ จนซินดี้เกือบจะจมน้ำอยู่แล้ว
ชายหาดบุลินวิ่งเข้ามา แล้วมองเห็น ซินดี้ที่กำลังลุยน้ำไประดับอกแล้ว
“ ซินดี้!”
บุลินรีบวิ่งลุยน้ำลงไป ร้องเรียกอีก
ซินดี้ไม่ได้ยิน แล้วพอคลื่นสาดตัวซินดี้ก็หายบุ๋มลงไปใต้น้ำทันที
บุลินตะลึง รีบว่ายน้ำเข้าไปหาซินดี้ มองหาตะโกนเรียก
“ซินดี้ ๆๆ”
แล้วบุลินตัดสินใจ ดำน้ำลงไป
ซินดี้จมลงไปในทะเล ดิ่งลงไป หลับตาลง เหมือนจะตายแล้ว
บุลินดำน้ามองหา ด้วยความระทึกจะเป็นจะตาย
บุลินมองเห็นร่างซินดี้ที่จมอยู่ บุลินรีบว่ายเข้าไปหา แล้วดึงตัวซินดี้หันกลับมา เขย่าๆ ตบแก้มซินดี้ให้ตื่น แต่ซินดี้ไม่รู้สึกตัวเลย
บุลินตัดสินใจ ดึงหน้าซินดี้เข้ามา แล้วเม้าท์ทูเม้าท์ ให้อากาศหายใจ
ซินดี้ค่อยลืมตาขึ้น เห็นบุลินตรงหน้า ตะลึง ทั้งสองสบตากัน แว่บหนึ่ง แล้วหลับตาลงอีกครั้ง
บุลินกับซินดี้ เม้าท์ทูเม้าท์
คืนเดียวกัน
ตั้งโอ๋นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง
เท้าซินดี้ที่เปียกน้ำ ค่อยๆ ก้าวเข้าไปหาตั้งโอ๋ที่หลับอยู่
ตั้งโอ๋พลิกตัวไปทางหนึ่ง แล้วลืมตาขึ้นแต่ไม่เห็นอะไร ตั้งโอ๋รู้สึกแปลกๆ ลุกขึ้นมองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นอะไร ตั้งโอ๋ค่อยนอนลงไปอีกครั้ง แล้วถอนใจแบบไม่น่ามีอะไรแล้ว นอนลงแล้วหันตะแคงไปอีกทางอย่างไม่ได้ตั้งใจ แล้วตั้งโอ๋เห็นซินดี้ตัวเปียก หน้าซีด นอนอยู่ข้าง ๆ
ตั้งโอ๋กริ๊ดสุดเสียง
ตั้งโอ๋สะดุ้งตื่นขึ้นมา ร้องกรี๊ดเสียงดัง
เข้มวิ่งเข้ามา เปิดไฟ ผัวะ !
“ตั้งโอ๋!”
ตั้งโอ๋ ค่อยๆลืมตามองเข้ม … เหวอ!!
ต่อมาที่ห้องโถง เข้มยื่นแก้วนมอุ่นๆ ให้ตั้งโอ๋ทาน
“เอ้า ดื่มซะ จะได้ไม่ฝันร้ายอีก”
ตั้งโอ๋รับไป “แต่มันเหมือนจริงมากเลยนะ เข้ม ฉันเห็นพี่ซินดี้เป็นผีจริงๆ”
“เพ้อเจ้อน่า แกอยู่ในยุคดิจิตอลแล้วนะ จะมาเชื่อโชคลางอะไรแบบนี้”
เสียงมือถือตั้งโอ๋ดังขึ้น ตั้งโอ๋กดรับสาย
“ฮัลโหล หมวด … อะไรนะ! ค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
ตั้งโอ๋วางสายลง แล้วหันมองเข้ม
“เข้ม พี่ซินดี้ จมน้ำ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล”
ในอดีต ... ซินดี้ตอนวัยรุ่นหัวเกรียน กำลังถือปืน ฝึกเดินสวนสนามอยู่ มีพ่อคุมฝึก
แต่ซินดี้เดินตูดบิด กระตุ้งกระติ้ง พ่อตะโกนด่า
“เดินให้มันแข็งแรง หนักแน่นหน่อยสิ ไอ้ศิ ลูกตำรวจต้องเข้มแข็ง อย่าเอ๊าะแอ๊ะ อย่าบิดตูด”
พ่อตบไหล่ซินดี้ผัวะ ! จน ซินดี้ล้มลงไป หัวเข่าแตก
ซินดี้ร้องไห้ พ่อด่าอีก
“อะไร หกล้มแค่นี้ ร้องไห้ทำไม เป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”
“หนูเจ็บ ฮือ ....หนูไม่อยากเป็นผู้ชาย”
“อย่ามาพูดแบบนี้ หุบปาก”
ซินดี้ยิ่งพูดดังขึ้น “หนูไม่อยากเป็นผู้ชาย ไม่อยากเป็น!”
พ่อโมโหถอดเข็มขัดออกมา ฟาดใส่ซินดี้ไม่ยั้ง ฟาดไปพูดไป
“เอาสิ พูดอีกสิ แกเป็นลูกฉัน แกต้องเป็นผู้ชาย ลูกฉันต้องเป็นผู้ชาย”
ซินดี้หวาดกลัว ยกมือป้อง แต่โดนพ่อเอาเข็มขัดฟาดไม่นับ ร้องไห้น้ำตานอง
ซินดี้นอนละเมอในห้องคนไข้
“พ่อจ๋า อย่าตีหนู พ่อจ๋า สงสารหนูเถอะ พ่อจ๋า พ่อจ๋า”
ซินดี้ไขว่คว้าออกไป เหมือนจะจับมือพ่อ
บุลินสงสาร ยื่นมือไปจับมือซินดี้
ซินดี้จับมือบุลินกำไว้ แล้วน้ำตาไหล ทั้งๆที่หลับอยู่
“พ่อจ๋า พ่อไม่รักหนูเหรอ”
บุลินมองซินดี้อึ้ง รู้สึกสะเทือนใจขึ้นมา สักครู่หนึ่ง
“พี่ซินดี้”
เสียงตั้งโอ๋ดังเข้ามา บุลินค่อยดึงมือซินดี้ออก วาง ตั้งโอ๋ผลักประตูเข้ามากับเข้ม
“ พี่ซินดี้ โอ้ย แม่เจ้า ตามหาอยู่ทั้งวัน หมวดไปเจออยู่ที่ไหนอ่ะ”
“เขาเดินลุยลงทะเล”
“คุณพระช่วย”
“นี่เท่ากับว่า จะฆ่าตัวตายอย่างนั้นหรือครับ”
บุลินพยักหน้ารับ แล้วพูดต่อ
“พ่อแม่ซินดี้เขาอยู่ไหน มีญาติพี่น้องไหม”
“เท่าที่ฉันรู้ พี่ซินดี้อยู่ตัวคนเดียว ไม่เห็นเคยพูดถึงพ่อแม่ หรือญาติพี่น้องที่ไหนเลย
คณะเพลินพิมานนี่แหละที่เป็นบ้านของพี่ซินดี้”
“ ชีวิตครอบครัวคงไม่อบอุ่นเท่าไรสินะ ซินดี้ถึงได้เป็นแบบนี้”
“งั้นหมวดก็คงมีปัญหากับทางบ้านสินะ เพราะฉันก็ไม่เห็นหมวดมีญาติพี่น้องที่ไหนเหมือนกัน”
“เธอนี่จริงๆ เลยนะ แตะลูกพี่หน่อยไม่ได้ โก่งคอปกป้องทันที”
“แน่นอน เพราะถ้าหมวดไม่มองคนแค่เปลือก หมวดจะรู้ว่า พี่ซินดี้ของฉันเป็นคนดี”
บุลินอึ้ง
ภายในห้องเอนกประสงค์ มดแดงขายของให้นางโชว์ทั้งหลาย
“มาดู มาดู เจ๊มดแดงจัดของดีราคาถูก มาให้น้องๆ หนูๆ ลูกเจี๊ยบหัดแต๊บ ได้เลือกซื้อหาแล้วนะคะ ครีมหน้าเด้งก็มา ครีมกันส้นเท้าด้าน เจ๊ก็ขายนะคะ”
นางโชว์1 ถาม “แล้วครีมกันยานแม่กินหัวล่ะ เจ๊ มีขายหรือเปล่า”
มดแดงปัดมือ “อู้ย คุณน้องขา ท่าทางคุณน้องจะตกข่าวแล้วนะคะ”
โกกิที่กำลังส่องกระจกอยู่ ทำตาใสถามขึ้น
“ข่าวอะไรอ่ะ เจ๊ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“เอ้า ข่าวยานแม่ซินดี้ฆ่าตัวตายน่ะสิ ตอนนี้เลยโดนจับรักษาโรคบ้าที่โรงบาล”
นางโชว์ทั้งหลายฮือฮา
“คุณพระ ร้ายแรงอย่างนั้นเลยเหรอ เจ๊ น่าสงสารพี่ซินดี้จังเลยเนอะ”
“อุ้ย สมน้ำหน้าสิไม่ว่า ให้มันบ้าไปอย่างนั้นแหละดี มันจะได้เป็นโอกาสทองของคุณน้องโกกิ จะได้เลื่อนตำแหน่งจากตัวสำรอง ขึ้นมาเป็นซุปตาร์เบอร์หนึ่งซะที”
“อุ๊ย ไม่เอา อย่าพูดอย่างนั้นสิ เบอร์หนึ่งอะไร โกกิไม่อาจเอื้อมหรอก”
วันใหม่ แพรวาเดินออกมากับทิพย์ หลังจากไหว้พระแล้ว
“ขอบใจมากนะทิพย์ ที่พาฉันมาไหว้พระ สวดมนต์ ฉันรู้สึกสงบ แล้วก็มีสติขึ้นมาก ฉันอยากอโหสิกรรมให้กับทุกคน”
แพรวานิ่งคิดอะไรบางอย่าง ...
ในห้องคนไข้
ซินดี้ยืนเหม่ออยู่ที่ระเบียง เสียงประตูเปิดดังขึ้น ซินดี้นึกว่าตั้งโอ๋ที่เข้ามาวุ่นวายอีก
“ออกไปซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าใครทั้งนั้น”
แพรวาเข้ามายืนอยู่ตรงประตูระเบียง
“แม้กระทั่งฉัน หรือ ซินดี้”
ซินดี้หันไปเห็นแพรวา นึกไม่ถึงว่าแพรวาจะกล้ามาพบ
“คุณแพรวา”
“ ซินดี้ ...ฉันรู้เรื่องเธอกับภาวัชแล้ว!”
ทั้งสองจ้องหน้ากันเหมือนแม่เสือสองตัวเผชิญหน้ากัน
ซินดี้เดินเข้ามาพูดกับแพรวาที่นั่งสงบนิ่งบนโซฟาในห้อง
“มัวอมพะนำอยู่ทำไมคะ คุณแพรวา ถ้าจะมาตบฉัน ที่ฉันนอนกับผัวคุณก็ตบเลยสิ แต่บอกซะก่อนนะ ว่ามือฉันไม่ได้ซุกหีบอยู่ ใครตบมาฉันก็ตบกลับเหมือนกัน”
“เธอเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้มาตบเธอ”
ซินดี้อึ้ง
“ฉันยอมรับ ตอนแรกที่รู้เรื่องฉันโกรธมาก ฉันไม่นึกว่าภาวัชจะทำแบบนั้นกับเธอ”
ซินดี้หัวเราะขื่น
“เงิบไปเลยสิ อุตส่าห์ตั้งกฎห้ามชะนีมาทำงานในคณะ แต่ท้ายที่สุด ผัวสุดที่รักของคุณ ก็มานอนกับฉัน” นางยื่นหน้าเข้าไปพูดยั่วให้โกรธ “แค้นมากเลยใช่มั้ย เป็นชะนีแท้ๆ แต่กลับโดนผู้หญิงเฉาะแล้วอย่างฉันสวมเขาให้”
แพรวาแววตาไหวระริก แต่เฉือนกลับมานิ่มๆ
“จะชะนีแท้หรือเทียม ถ้าถูกผัวทรยศ มันก็เจ็บไม่ต่างกันหรอก... จริงมั้ย”
ถึงตาซินดี้โดนตอกกลับ อึ้ง เพราะโดนเภาทรยศเช่นกัน
“ฉันจะถามเธอแค่คำเดียว ....เธอเต็มใจ หรือว่า ...”
ซินดี้สวนตอบขึ้นมาอย่างเจ็บปวด “เขาข่มขืนฉัน เขาเอายาให้ฉันกินแน่ๆ”
“ฉันนึกอยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ เธอเป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรี ไม่มีทางยอมใช้ผัวร่วมกับคนอื่นหรอก”
“แล้วคุณจะมาพูดทำไมอีก ฉันไม่กลับไปทำงานที่เพลินพิมานแล้ว คุณไม่ต้องห่วงหรอก”
“ฉันอยากบอกเธอว่า ฉันเสียใจ ที่ผัวฉันทำแบบนั้นกับเธอ ....ฉันเสียใจมาก ที่เขาทำกับคนที่ฉันรักเหมือนน้องแบบนี้ ฉันขอโทษ ซินดี้”
แพรวาตารื้นน้ำตา แล้วสะอื้นออกมา ซินดี้ยิ่งอึ้งนึกไม่ถึง ว่าแพรวาจะยอมขอโทษ
“ฉันรู้ สิ่งที่ภาวัชทามันเกินอภัย เธอจะไม่ยอมรับคำขอโทษของฉันก็ได้ แต่กลับไปที่เพลินพิมานเถอะนะ เพลินพิมานต้องการเธอ นะ ซินดี้”
แพรวาจับมือซินดี้ขอร้อง ซินดี้อึ้ง ลังเล
“เธอรักการแสดงไม่ใช่เหรอ เธอจะทิ้งคนดู ทิ้งเวทีไปได้ยังไง”
“โชว์ของฉัน”
“ ใช่ โชว์ของเธอที่ใครๆ ก็ยกนิ้วให้ว่าเลิศที่สุด กลับไปเถอะนะ แล้วฉันจะออกค่ารักษาพยาบาล ค่าทำขวัญให้เธอทุกอย่าง แล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องภาวัชนะ ฉันส่งเขาไปดัดสันดานกับญาติฉันที่เมืองจีนแล้ว เธอไม่ต้องเห็นหน้าเขาอีกต่อไป”
กลางคืนต่อมา ในระหว่างที่ซินดี้เดินไปเดินมาในห้อง คลั่ง ด้วย นึกถึงคำพูดแพรวา ทั้งโกรธ แค้น คับข้องใจ ยังไม่หายไป แต่ต้องอภัยให้ภาวัช งั้นเหรอ? ทำให้ซินดี้ปวดหัวขึ้นมา ไม่รู้จะจัดการกับอารมณ์ตัวเองยังไง
เธอวิ่งเข้าไปที่ห้องน้า แล้วหยิบแปรงสีฟันออกมาหักให้ มีปลายแหลม แล้วทรุดนั่งลง กำลังจะเอาแปรงหัก ทิ่มข้อมือตัวเอง
ประตูห้องเปิดออก บุลินเข้ามาเห็นพอดี ตกใจ
“ซินดี้”
บุลินรีบเข้ามาแย่งดึงแปรงหัก ปาทิ้งไป
“ทำบ้าอะไร”
“ฉันไม่อยากอยู่ในโลกนี้อีกแล้ว ฉันอยากตายเป็นผี แล้วมาฆ่าพวกมันทุกคน”
“พูดอะไรของคุณ”
“ฉันไม่ต้องการคำขอโทษ ได้ยินมั้ย ฉันอยากฆ่าคนที่มันย่ำยี ทำร้ายฉัน ฉันจะฆ่ามันไม่ให้เหลือ”
“ ทำอย่างนั้นไม่ได้ บ้านเมืองมีกฎหมาย”
“แต่ผีทำได้ ฉันยอมตาย แล้วมาฆ่าพวกมันไง ฉันต้องแก้แค้น เข้าใจมั้ย”
“เพ้อเจ้อไปใหญ่แล้ว”
“ฉันอยากตาย ฉันอยากตาย”
บุลินเห็นซินดี้พูดไม่รู้เรื่อง บุลินเลยหยิบเหยือกน้ำมาสาดใส่หน้าซินดี้
ซินดี้ร้องกรี๊ด
“ เลิกบ้าได้หรือยัง อยู่กับความเป็นจริงบ้าง”
ซินดี้ซึมไปนิด แล้วร้องไห้กระซิกเป็นเด็กๆ ขึ้นมา
“ฮือ... ฉัน...ฉันไม่อยากอยู่แล้วนี่ โลกนี้ไม่เห็นมีอะไรดีเลย”
บุลินมองสงสารแล้วตัดสินใจ ฉุดมือซินดี้ออกไป
“มานี่ ไป”
บุลินดึงซินดี้ออกไป
บุลินจูงมือซินดี้วิ่งไปตามทาง
ซินดี้แอบมองหน้าบุลิน มองในมุมที่ไม่ได้มองมาก่อน หัวใจฟูขึ้น
บุลินจูงซินดี้เดินมาที่หน้าแผนกเด็กอ่อนในโรงพยาบาล
ซินดี้เห็นเด็กแล้วอี๋
“นี่คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม ฉันเกลียดเด็ก”
ซินดี้หันจะเดินหนี บุลินดึงแขนไว้
“เดี๋ยวก่อนสิ”
“อะไรอีก ...คนอยากตาย ยังจะพามาดูอะไรงี่เง่า ไร้สาระ”
บุลินชี้หน้า
“หุบปาก ผมว่าคุณนั่นแหละที่ปัญญาอ่อน ไร้สาระ อุตส่าห์ได้เกิดมาเป็นคนแล้ว ยังไม่รู้จักใช้ชีวิตให้คุ้มค่า”
ซินดี้เห็นบุลินจริงจัง อึ้งไปบ้าง
“คุณมองดูสิ ชีวิตเล็กๆ ข้างหน้าคุณ ถึงเขาจะยังไม่รู้เรื่องราว ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ พูดบอกใคร อะไรก็ไม่ได้ แต่ก็ไม่มีเด็กคนไหนยอมหยุดหายใจง่ายๆ ทุกคนต้องพยายามสู้ เพื่อให้ชีวิตอยู่รอดทั้งนั้น แล้วคุณเป็นผู้ใหญ่แล้ว จะยอมแพ้เด็กไร้เดียงสาพวกนี้น่ะเหรอ”
ซินดี้อึ้งหนัก พูดไม่ออก แต่เบี่ยงหน้าหนีออกไปอีกทาง
“คุณไม่เข้าใจ ไม่มีทางเข้าใจปัญหาของฉันหรอก”
บุลินตามเข้าไปยืนตรงหน้า
“ผมเป็นลูกกำพร้า ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีญาติพี่น้องสักคน ...ผมโตมาได้ก็เพราะวัด น้าแม่ชีเป็นคนเลี้ยงผม ผมต้องตื่นแต่เช้าไปรับบาตรกับหลวงตา แล้วถึงไปเรียนหนังสือ ถ้าผมอยากจะได้อะไรก็ต้องไปทำงานเก็บเงินเอาเอง ผมรับจ้างเขาจิปาถะตั้งแต่ล้างถ้วยล้างจาน เด็กปั๊ม เด็กเสิร์ฟ พนักงานขายของ จนผมส่งตัวเองเรียนจบตำรวจได้ คุณคิดว่าชีวิตผมง่ายเหรอ หรือคุณคิดว่ามีแต่ชีวิตคุณเท่านั้นที่มีปัญหา”
ซินดี้สะเทือนใจเหมือนกัน แต่ยังถือดีไม่ยอมแพ้
“ใช่สิ ฉันมันงี่เง่า เจ้าปัญหา ไม่เก่งเหมือนคุณนี่”
ซินดี้ผลักบุลินออก แล้ววิ่งหนีออกไปอีก
“ซินดี้”
ซินดี้วิ่งเข้ามามุมหนึ่งของโรงพยาบาล เท้าขอบระเบียง ทำท่าเหมือนชั่งใจว่าจะปีนออกไปดีมั้ย
บุลินตามเข้ามาอีก
“ ซินดี้ การตายมันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น มันเป็นการหนีปัญหามากว่านะ”
“แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไง ฉันเกลียดพวกมัน” นางจิ้มหัวใจตัวเอง “ฉันเจ็บที่ตรงนี้”
ซินดี้สะอื้นโฮ แล้วทรุดลงไปกับพื้น
บุลินตามเข้ามายืนตรงหน้าซินดี้ พูดขึ้น
“ซินดี้ ลุกขึ้นมาสู้กับปัญหา แล้วก็คนที่ทำร้ายคุณ คุณไม่ใช่คนขี้แพ้ไม่ใช่เหรอ”
ซินดี้เงยหน้ามองบุลินอึ้ง น้ำตายังคลอ
“ขอให้คุณแจ้งความเท่านั้น แล้วผมจะใช้กฎหมายจัดการกับทุกคนที่ทำร้ายคุณ”
“คุณพูดจริงเหรอ กฎหมายจะจัดการพวกมันได้จริงๆ เหรอ”
“ เชื่อผมสักครั้งไหมล่ะ” บุลินยื่นมือออกไป “ลุกขึ้นมาสิ ซินดี้ ผมจะช่วยคุณ”
บุลินส่งสายตาที่มุ่งมั่นจริงใจ ว่าจะช่วยจริงๆ
ซินดี้มองบุลินเหมือนที่พึ่งสุดท้าย ลังเล ไม่รู้จะเชื่อใจอีกดีมั้ย แต่ด้วยความรู้สึกที่ดีๆ จากบุลินทำให้ซินดี้ตัดสินใจ ยื่นมือออกไปจับมือกับบุลิน บุลินดึงซินดี้ให้ลุกขึ้นมา ทั้งสองมองหน้าใกล้
“ตกลง บุลิน ฉันจะเชื่อคุณ”
ซินดี้โผเข้าไปกอดบุลินเหมือนเป็นที่พึ่งสุดท้าย ที่จะยึดถือ ตื้นตันใจ
บุลินยิ้มออกมานิดนึง ตบหลังซินดี้เบาๆ เหมือนปลอบเด็ก
บุลินเดินมาส่งซินดี้ที่หน้าห้องคนไข้
“คุณไปพักผ่อนเถอะ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ ผมจะมารับคุณไปแจ้งความ อ้อ ว่าแต่คุณพอจะบอกก่อนได้ไหม คุณมีเรื่องกับใคร ใครทำร้ายคุณ”
ซินดี้ส่ายหน้า
“คุณจะให้ ซินดี้ เพลินพิมาน แจ้งความในชุดคนไข้อย่างนี้น่ะเหรอ ไม่แกรนด์เลยอ่ะ”
“แล้วไอ้แกรนด์ของคุณนี่มันขนาดไหน”
“สัญญากับฉันนะ บุลิน คืนพรุ่งนี้ เวลาสองทุ่ม คุณจะต้องไปดูโชว์ของฉัน แล้วหลังจากฉันแสดงเสร็จ ฉันจะแจ้งความกับคุณกลางเวที ฉันบอกให้หมดว่าใครทำอะไรกับฉันบ้าง”
“กลางเวทีเลยเหรอ”
“ใช่ ...แต่ถ้าคืนพรุ่งนี้คุณไม่มา คุณก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องแจ้งความกับฉันอีก” ซินดี้ยกนิ้วก้อยขึ้นมา “สัญญานะ บุลิน ....พรุ่งนี้คุณต้องมาดูโชว์ของฉัน แล้วฉันจะแจ้งความกับคุณ”
“ ตกลง ผมสัญญา”
บุลินเกี่ยวก้อยสัญญากับซินดี้ ซินดี้ยิ้มมีความหวังขึ้นมา
ในห้องคนไข้
ซินดี้นอนลงบนเตียง อมยิ้ม ยกมือข้างที่บุลินจับขึ้นมาแนบหน้าตัวเอง หลับตา อมยิ้มไปอย่างมีความสุข
เย็นวันใหม่ โกกิถือชุดของซินดี้เดินออกมาจากห้อง แล้วเจอกับตั้งโอ๋ที่หน้าห้อง
“เดี๋ยวๆ นี่เธอทำอะไร”
“ตาบอดหรือไง ฉันก็จะเอาชุดไปใส่น่ะสิ”
“ไม่ได้ นี่มันชุดของพี่ซินดี้”
โกกิผลักตั้งโอ๋กระเด็น แล้วถือชุดไว้
“แกอย่ามายุ่งดีกว่า ยานแม่ของแกมันโดนเขี่ยทิ้งไปแล้วล่ะ”
ซินดี้หมดความง่อย เดินเข้าห้องมาอย่างสง่างาม
“ไปเอาข่าวมาจากไหน เมื่อวานคุณแพรวายังไปตามฉันกลับมาทางานอยู่เลย”
โกกิตะลึง หน้าถอดสี
ตั้งโอ๋ดีใจ
“พี่ซินดี้ พี่ซินดี้กลับมาแล้ว”
“ แก ...” โกกิ นึกได้ เปลี่ยนเป็นเรียกพี่ “พี่ซินดี้ หายป่วยแล้วเหรอคะ”
“ถึงจะป่วยหรือไม่ป่วยแกก็ไม่มีสิทธิ์มา"ขโมย" ของของฉันอยู่แล้ว ตั้งโอ๋ ไปเอามา”
ตั้งโอ๋เข้าไปหยิบชุดคืนจากโกกิ
โกกิยังไม่หยุดทำปากเก่ง
“อุ้ยตาย ขอโทษจริงๆ ค่ะที่เข้าใจผิด โกกิว่า มันก็จริงอย่างที่พี่ซินดี้ว่าไว้เลยเนอะ ข้าวของบางอย่าง มันมีเจ้าของอยู่แล้ว เพียงแต่กระเทยตกกระป๋องบางตัว มันชอบมโนทึกทักไปเอง”
ซินดี้ตบเปรี้ยง โกกิกระเด็นออกไป ซินดี้ยังไม่หนำใจ ไปหยิบถังน้ำถูพื้นที่วางอยู่แถวนั้นขึ้นมาเทราดโกกิ แล้วเอาถังน้ำครอบศีรษะโกกิไว้ โกกิกรี๊ดโรงแตก
เจ๊มดแดง นางโชว์อื่นๆ กรูเข้ามาดูกันอย่างต่างตกตะลึง
“ว้าย ตายห่าน นังยานแม่มันกลับมาอาละวาดอีกแล้ว”
ซินดี้พูดกับโกกิ
“กลับไปฟ้องผัวแกได้เลยนะ บอกมันด้วยว่า ฉันรอเช็คบิลอยู่” จากนั้นหันกลับมาหาหมู่มวล สะดุ้งกันเป็นทิวแถว “พวกแกก็เหมือนกัน ใครทำอะไรไว้ เจอฉันแน่!”
ซินดี้สะบัดเดินเข้าห้องแต่งตัวไป ตั้งโอ๋ตาม
ซินดี้เดินเข้ามาในห้องเข้าไปดูเงาตัวเองในกระจก ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตั้งโอ๋ตามเข้ามาหา
“พี่ซินดี้....นี่พี่อารมณ์ไหนอ่ะ มาถึงก็วีนซะขนาดนี้ หายซึมเศร้าแล้วเหรอ”
ซินดี้พูดเบาๆ “ฉันสบายดี สบายมากด้วย”
“ไม่ด่าแฮ่ะ ท่าทางวันนี้อารมณ์ดีจริงๆ ด้วย งั้น มาเริ่มแต่งหน้าเลยนะคะ”
“ไม่ต้อง ฉันจะแต่งเอง ...คืนนี้ฉันมีคนพิเศษมาดู”
“คนพิเศษ?”
“ถ้าคืนนี้เขามาตามสัญญา....ฉันจะยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง ฉันจะเดินหน้าไปหาเขา แล้วเขาจะเป็นความรักครั้งสุดท้ายในชีวิตฉัน”
ตั้งโอ๋อึ้งๆ “โห ความรักครั้งสุดท้าย ฟังแล้วขนลุกจัง ตั้งโอ๋อยากรู้แล้วสิ ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร”
ภายในห้องนอน บุลินกำลังใส่เสื้อผ้า แต่งตัวจะไปดูโชว์ ตามที่สัญญากับซินดี้ไว้ แล้วเปิดลิ้นชักหยิบตั๋วละครออกมาดูแล้วเก็บเข้ากระเป๋า กำลังจะไป กานดาพรวดพราดเข้ามาหา
“พี่หมวด”
“เฮ้ย เข้ามาทำไม”
“งานเข้าแล้วสิ ไปเร็วพี่หมวด”
“เฮ้ย นี่ฉันออกเวรแล้วนะ”
“แต่นี่มันคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ แทงกันไส้ทะลักกันเลยนะพี่ ไปเลยไป พี่หมวดน่ะมือโปรสุดของโรงพักแล้วนะ”
กานดาดึงแขนบุลินออกไปเลย
ในห้องแต่งตัวซินดี้ แพรวาเข้ามากอดซินดี้อย่างดีใจ ยินดี ทิพย์ตามมาด้วย
“ ซินดี้ ฉันดีใจจริงๆที่เธอกลับมา”
ซินดี้ยิ้มกึมๆ
“ฉันไม่เคยต้องการอะไร นอกจากให้เรากลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม” แพรวาจับไม้จับมือ “ ขอบใจมากๆ .... ทิพย์ เดี๋ยวไปหยิบเครื่องเพชรที่ฉันเตรียมไว้รับขวัญซินดี้ด้วยนะ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณแพรวา ขอแค่คุณแพรวาอยู่ดูโชว์ของฉันในคืนนี้ให้จบก็แล้วกัน แล้วคุณก็จะรู้เองว่าฉันต้องการอะไร”
ซินดี้ยิ้มมีเลศนัย แพรวาอึ้ง งง ไม่รู้วัตถุประสงค์ของซินดี้
บริเวณหน้าห้องทางเดิน อ้วนกำลังแกะดึงกล้องวงจรปิดอยู่
ตั้งโอ๋ถือแก้วกาแฟเดินเข้ามา มองเห็นเข้า ถามขึ้น
“ทำอะไรน่ะ น้าอ้วน มีอะไรให้ช่วยมั้ย”
“ไม่เป็นไรครับ ...กล้องวงจรปิดมันเสียแน่ะครับ ผมเองก็ไม่มีปัญญาแก้ คงต้องโทร. ตามช่างบริษัทให้เขามาซ่อมพรุ่งนี้”
เสียงซินดี้ลอยออกมาจากห้องแต่งตัว
“มัวทำอะไรอยู่ กาแฟดำของฉันได้หรือยัง”
“ ค่ะๆ พี่ซินดี้ ตั้งโอ๋จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ”
ตั้งโอ๋รีบวิ่งเข้าไปในห้อง
บริเวณเกิดเหตุ ณ บ้านชาวบ้านหลังหนึ่ง ตอนกลางคืน
บุลินกับกานดาถือปืนย่องเข้ามาหน้าบ้าน เสียงหญิงร้องให้ช่วย โหยหวนลอยออกมาจากบ้าน
“ ฮือๆๆ โอ้ย อย่าแทง โอ้ย ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
บุลินกับกานดา หน้าเครียด แล้วบุลินถีบประตูบ้านเข้าไป
“วางอาวุธ เดี๋ยวนี้!”
“มอบตัวซะ ไอ้ฆาตกร!” กานดาบอก
ชาย1 กำกรรไกรตัดผ้า หันมามอง บุลิน กานดา งง ! ข้างๆมีหญิงร้องไห้ และตุ๊กตาหมีที่โดนชาย 1จ้วงแทงท้องทะลุ นุ่นกระจายอยู่ แท้จริงแล้ว ผัวเมียทะเลาะกัน ทำลายข้าวของ
บุลิน กับกานดาเงิบ
บุลินกับกานดาเดินออกมาจากบ้าน กานดาจ๋อย
“โอ้ย ปวดจิต แค่ผัวเมียทะเลาะกัน ที่ไส้ทะลักนี่ก็ ตุ๊กตาหมีเองเหรอ”
“ ทีหลังก็เช็คข่าวให้มันดีๆ บุ่มบ่ามมาอย่างนี้ เกิดชาวบ้านเขาฟ้องกลับขึ้นมาล่ะยุ่ง”
“โทษที พี่หมวด...เดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าวต้มเป็ดเจ้าอร่อยเป็นการขอโทษ มะ ไปกัน”
“ ไม่เป็นไร พี่มีธุระ” บุลินดูนาฬิกาเห็นจวนเวลา “เฮ้ย จะสองทุ่มแล้ว”
บุลินรีบวิ่งออกไป กานดางง
“พี่หมวด จะรีบไปไหน เดี๋ยวรอก่อนซี้”
ซินดี้ในชุดเสื้อคลุม มายืนชะเง้อมองริมม่านเวที แถวแรก ช่วงกลาง ที่นั่งซึ่งจองไว้ให้บุลิน เธอเห็นทุกคนนั่งเต็มหมด ยกเว้นที่ของบุลินที่ว่างอยู่
ซินดี้ซึม มองลุ้น ภาวนาให้ บุลินมา
“คุณต้องมา...คุณต้องไม่ผิดสัญญานะ บุลิน”
บุลินรีบขับรถมาตามทาง ดูเวลาเหลืออีก 10นาที
บุลินเร่งความเร็วรถขึ้นอีก
ซินดี้ยังชะเง้อมองดู บุลินอยู่ อย่างใจจดใจจ่อ แต่ก็ยังไม่เห็นมา
ตั้งโอ๋กับทีมงาน1วิ่งเข้ามาหาซินดี้
“พี่ซินดี้มาอยู่นี่เอง ไปเปลี่ยนชุดได้แล้วนะคะ โชว์จะเริ่มแล้ว”
ซินดี้ยังไม่ยอมไป “ฉันรู้แล้วน่า”
ทีมงาน1 บอก “ต้องไปแล้วนะพี่ ไม่มีเวลาแล้ว”
ทีมงาน1 ดึงแขนซินดี้ ซินดี้สะบัดแรง จนต่างหูร่วง กระจาย
ซินดี้ตกใจ
ทางด้านบุลินขับรถมาด้วยความเร็วสูง แล้วมีรถข้างหน้าขวางอยู่ บุลินตัดสินใจแซงขึ้นไป จนพ้น
แต่แล้วมีรถบรรทุกเลี้ยวออกมาจากทางแยก กระชั้นชิด
บุลินเบรกไม่ทัน หักพวงมาลัยหลบ บุลินร้องตกใจ
“อ๊าก”
รถพุ่งลงไปข้างทาง
บุลินศีรษะกระแทกพวงมาลัยอย่างแรง เลือดอาบหน้า หมดสติไปทันที
ซินดี้นั่งอยู่ที่หน้าโต๊ะแต่งหน้า สวย เศร้า อึมครึม นางนั่งนิ่ง มีเสียงสัญญานมือถือ ดังออกมา ...บ่งบอกว่าโทรติด แต่ไม่มีใครรับสาย จนเครื่องตัดเข้าระบบอัตโนมัติ
เสียงบุลิน “สวัสดีครับ กรุณาฝากข้อความหลังสัญญาณครับ”
ซินดี้ ผิดหวัง ที่บุลินสัญญาว่าจะมาดูโชว์ แต่ก็ไม่มา แล้วซินดี้กดตัดสายไป
ซินดี้นึกถึงบุลินเคยพูดไว้
“ขอให้คุณแจ้งความเท่านั้น แล้วผมจะใช้กฎหมายจัดการกับทุกคนที่ทำร้ายคุณ”
“คุณพูดจริงเหรอ กฎหมายจะจัดการพวกมันได้จริงๆ เหรอ”
“ เชื่อผมสักครั้งไหมล่ะ ลุกขึ้นมาสิ ซินดี้ ผมจะช่วยคุณ”
ซินดี้ยิ่งนึกยิ่งเจ็บปวด
ซินดี้ยกนิ้วก้อยขึ้นมา
“สัญญานะ บุลิน ....พรุ่งนี้คุณต้องมาดูโชว์ของฉัน แล้วฉันจะแจ้งความกับคุณ”
“ตกลง ผมสัญญา”
ซินดี้ยิ่งเจ็บใจ ผิดหวัง เสียใจหนัก
“คนโกหก....ในที่สุดคุณก็ไม่มา คุณก็เหมือนกับคนอื่น ไม่เคยจริงใจ ไม่เคยรักษาสัญญา”
ซินดี้น้ำตาคลอขึ้นมา แล้วพยายามกรอกตาไม่ให้ไหล
ซินดี้เดินไปตามทางเดิน เสียงความคิดซินดี้ดังขึ้นมา ภายใต้ใบหน้านิ่งเฉย แต่แววตาปวดร้าวลึกกับชีวิต
“ฉันเหนื่อยล้ากับความหลอกลวง หัวใจของฉันมันแหลกสลายเกินกว่าจะเดินไปตามทางที่คนอื่นบอกอีกแล้ว ต่อไปนี้ฉันจะไม่มีใคร ฉันจะไม่เชื่อใครทั้งนั้น ฉันจะไม่กลัวนรก ฉันจะไม่กลัวสวรรค์ ฉันจะไม่กลัวบาปกรรม ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้หัวใจหายแค้น”
บนเวที ไฮดรอลิกเลื่อนขึ้นมา ซินดี้ยืนอย่างสง่า แสงไฟฟอลโล่จับที่ซินดี้ ยิ่งจับให้เธอโดดเด่น
เพลงประจำตัวซินดี้ ที่นางลิปซิงค์ไปอย่างอินในอารมณ์เพลง ที่ตรงกับชีวิตของตัวเอง ..ที่มีแต่ความเจ็บปวดไม่สมหวัง ไม่มีใครสนใจที่จะฟังเสียงแห่งความเสียใจ...
เสียงเพลงดังคลอมา แพรวากับทิพย์ยืนมองซินดี้ที่ลิปซิงค์อยู่บนห้องคอนโทรล
ทิพย์บอก “ในที่สุดทุกอย่างก็จบลงด้วยดี ดูสิคะ ซินดี้โชว์ได้เยี่ยมน่าประทับใจมากๆเลยนะคะ”
“ นั่นสิ ฉันว่าคืนนี้ ซินดี้โชว์อย่างถอดหัวใจเล่นเลยล่ะ... ฉันชักอยากรู้แล้วสิ ที่ซินดี้เขาบอกให้ฉันตั้งใจดูโชว์คืนนี้ให้ดี มันคืออะไร ซินดี้มีอะไรเซอร์ไพรส์งั้นเหรอ”
แพรวามองออกไปอย่างอยากรู้
เพลงยังดังต่อเนื่องมา
ซินดี้ลิปซิงค์ สีหน้า แววตา มาเต็ม สะเทือนใจ
ที่นั่งคนดูในมุมหนึ่ง ซินดี้เห็น ป้ามี่ มดแดง นั่งดูเธออยู่อย่างเย้ยหยัน ดูถูก
อีกมุม โกกิ ยืนมองซินดี้อย่างจิกกระหยิ่ม
อีกมุม แพรวา ภาวัช ทิพย์ จ้องมองซินดี้ ยิ้ม... แต่แววตาไม่ใช่
เภากับหรั่ง ยืนมองที่มุมเสาอย่างกระหยิ่มเป็นต่อ โชว์เหนือ
ตั้งโอ๋ กอดอกมองซินดี้ ส่ายหน้าอย่างสมเพช
บุลินเดินลงบันได มาถึงชานพักตรงหนึ่ง มองสบตากับซินดี้ยิ้มเหมือนผู้มีชัย แล้วทุกคนที่เหลือเดินตามบุลินเข้ามารวมกลุ่ม มองไปที่ซินดี้ยิ้มเย้ย สะใจ
ซินดี้ลิปซิงค์ไป ใจปวดร้าว น้ำตาคลอออกมา ทั้งเจ็บทั้งแค้น
โอ๋เข้าไปเก็บของในห้องแต่งตัว แล้วเห็นจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง
ตั้งโอ๋สงสัย หยิบขึ้นมาไล่สายตาอ่านตัวหนังสือ แล้วต้องตาลุก เพราะเป็นจดหมายลาตายของซินดี้!
ตั้งโอ๋หันมองมาอีกทาง ก็เห็นขวดน้ำยาล้างห้องน้ำวางซุกอยู่มุมหนึ่งในห้อง
ตั้งโอ๋ตาเหลือก ทิ้งจดหมายกับพื้น แล้วรีบวิ่งออกไป
“ พี่ซินดี้”
หน้ากากผีเสื้อที่ติดในห้องดูน่ากลัว …
ซินดี้เริ่มรู้สึกผะอืดผะอม ปวดแสบปวดร้อนขึ้นมาตลอดลำคอ ซินดี้ปล่อยไมโครโฟนลงกับพื้น
น้ำลายฟูมปาก ชักตาตั้ง เดินเซไป เซมา จะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่
คนดูฮือฮา ลุกขึ้นมาดู
ตั้งโอ๋วิ่งออกมาจากข้างเวทีร้องเรียกลั่น แต่มันสายไปเสียแล้ว
“ พี่ซินดี้”
แพรวา ทิพย์หน้าตาตื่น ร้องเสียงหลงอย่างตกใจ เป็นห่วง
“ซินดี้!”
พวก มดแดง โกกิ นางโชว์ทั้งหลายต่างวิ่งออกมาดูกันสลอน ตื่นตะลึงมองสยดสยอง
ซินดี้ตัวกระตุก ทุรนทุราย แล้วล้มลงไปกับพื้น ปัง!!!
ซินดี้มองทุกคนอย่างอาฆาต ก่อนขาดใจตายไป ทั้งตาไม่หลับ
อ่านต่อตอนที่ 5