xs
xsm
sm
md
lg

นางแค้น ตอนที่ 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นางแค้น ตอนที่3

ซินดี้เหงื่อแตกสะดุ้งลุกขึ้นมาร้องกรี๊ดไม่ลืมหูลืมตา

ป้ามี่โพกผมวิ่งเข้ามาเขย่าตัว
“ซินดี้เป็นอะไรซินดี้ร้องเสียลั่นเลย”
ซินดี้ค่อยๆลืมตามองป้ามี่ที่เข้ามา
“มันไปไหนแล้วมันหายไปไหนแล้ว” ซินดี้น้ำเสียงตื่นตระหนก
มดแดงถาม“ใครเธอพูดถึงใคร”
“ไอ้หรั่งป้าไอ้หรั่งมันมาหลอกฉัน”

ครู่ต่อมา ที่มุมโต๊ะอาหาร ในห้องซินดี้ป้ามี่ยื่นแก้วนมอุ่นๆให้ซินดี้ที่นั่งเอ๋อๆอยู่
“อะกินซะจะได้นอนหลับสนิท”
“ฉันเห็นไอ้หรั่งจริงๆนะป้าเนื้อตัวมันเต็มไปด้วยเลือด ...แล้วมันก็ไม่ใช่แค่นั้นบางวันฉันก็เห็นตัวเองเป็นผีไปฆ่าคน ...ป้า ...ฉันกลัว” ซินดี้สะอื้น
“โอ้ยไม่จริงหรอกผีเผอมีที่ไหนมีจริงกันล่ะซินดี้ป้าว่าเธอเครียดมากเกินไปมากกว่าถึงได้เห็นโน่นเห็นนั่น ... อะเพื่อความสบายใจ” ป้ามี่ถอดสร้อยจากคอตัวเองออกมาให้ซินดี้ “ใส่สร้อยพระนี่ไว้พระจะได้คุ้มครองซินดี้”
“พระจะคุ้มครองคนอย่างฉันจริงๆเหรอป้า”
“คุ้มสิพระน่ะกันผีได้นะแต่ถ้าจะกันคนน่ะแกต้องใช้ไอ้นี่” ป้ามี่ชี้ที่หัวสมองตัวเอง“จำไว้...สวยอย่างเดียวไม่พอต้องมีสมองด้วยแกจะได้ไม่ไปยุ่งกับคนเลวๆอย่างไอ้หรั่งอีกเข้าใจมั้ย”
ซินดี้มอง จับมือป้ามี่อย่างซึ้งใจ
“ป้าขอบใจมากนะป้าฉันไม่มีใครเลยในชีวิตถ้าไม่ได้ป้าฉันคงแย่แน่ๆ”
ซินดี้มองป้ามี่อย่างซึ้งใจป้ามี่มองตอบยิ้มอ่อน

ในห้องนั่งเล่น บ้านแพรวา เช้าสายวันใหม่
ภาวัชกำลังสไลด์ไอแพดดูภาพซินดี้จากแฟนเพจภาวัชมองด้วยความกรุ้มกริ่ม
แพรวาในชุดทำงานเดินเข้ามา
“ทำอะไรอยู่คะ”
ภาวัชสะดุ้งเฮือกแล้วรีบปิดภาพไป
“อ่อก็อ่านข่าวการตลาดนิดหน่อยน่ะครับ” ภาวัชลุกขึ้น “ผมไปส่งนะครับ”

ต่อมา รถของภาวัชแล่นเข้ามาจอดหน้าโรงละครภาวัชลงมาเปิดประตูให้แพรวาอย่างเอาใจ
แพรวาลงจากรถ
“ขอบคุณนะคะ”
ภาวัชจุ๊บแก้มแพรวาเบาๆทำหวานแพรวาหน้าชื่น
ทิพย์ในชุดขาวถือกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กๆเดินออกมาเห็นเข้าพอดีชะงัก
แพรวาเหลือบมามองเห็น
“ทิพย์”
ภาวัชหันไปสบตากับทิพย์แว่บหนึ่งแต่เนียนเหมือนไม่มีอะไร
“นี่จะไปวัดอีกแล้วเหรอ”
“ค่ะทิพย์ตั้งใจจะไปปฏิบัติธรรมทุกๆวันหยุดของทิพย์เลยค่ะ”
ทิพย์ยกมือไหว้แพรวากับภาวัชอย่างเรียบร้อยแล้วเดินออกไปเลย
ภาวัชมองตามทิพย์แล้วพูดขึ้น
“หลานสาวคุณคนนี้อีกนิดเดียวก็จะเป็นแม่ชีแล้วนะ”
“ก็เพราะยายทิพย์เป็นสาวทึนทึกใฝ่แต่ทางธรรมแบบนี้ไงฉันถึงได้ไว้ใจว่าจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่จะมาทำงานกับคุณโดยไม่ต้องเป็นเมียคุณ”
แพรวายิ้มเบาๆแล้วเดินเข้าโรงละครไปภาวัชมองตามมีอะไรในใจที่แพรวาไม่มีทางจะรู้

มดแดงโกกิเข้าไปดูในห้องแต่งตัวใหม่ของซินดี้ด้วยความอิจฉา
มดแดงบอก
“โอ้ยฉ่าสะมิหลาสงขลาปัตตานีแฟนตาซีภูเก็ตอ่ะห้องแต่งตัวส่วนตัวเฟอร์ใหม่ทั้งชุดไหนจะทีวีเครื่องเสียงครบเซ็ทบุญบารมีนางยิ่งใหญ่ไพศาลเหลือเกิ๊น” มดแดงถามโกกิ “เป็นไงยะนังตัวสำรองโกกิหล่อนไม่คิดจะหาทางกำจัดมันบ้างหรือไงจะทนเป็นเบอร์สองอีกกี่ปียะ”
ซินดี้พิงขอบประตูฟังอยู่
“ขอบใจนะสำหรับคำแนะนำ” ซินดี้ว่า
“ไม่เป็นไรจ่ะยินดี”
มดแดงเหลียวหันกลับไปเจอซินดี้ยืนทะมึนทึงอยู่
“อ๊ายยานแม่ซินดี้!”
ซินดี้หยิบของใกล้มือเขวี้ยงใส่ทุกคนวิ่งหนีกระเจิงออกไป
“นึกว่าจะหนีพ้นเหรอ”
ซินดี้จะตามแต่เสียงมือถือซินดี้ดังขึ้น
“ฮัลโหลป้ามี่” ซินดี้ฟังแล้วตกใจ“อะไรนะได้ๆฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
ซินดี้รีบเดินออกไป

ด้านหลังโรงละครป้ามี่โดนลูกน้องเสี่ยหยก 2 คนตบตีร้องโอดโอยซินดี้ออกมาเห็นร้องตกใจ
“ป้ามี่!” ซินดี้รีบวิ่งเข้าไปห้าม “หยุดนะหยุดเดี๋ยวนี้”
“ซินดี้ฮือๆ”
“พวกแกถอยไปเดี๋ยวนี้เลยนะไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจให้มาจับพวกแก”
ป้ามี่กังวลหวาดกลัว
“ไม่ได้นะซินดี้ป้าเคยเป็นหนี้เสี่ยหยก 5แสนพูดตรงๆป้าไม่มีปัญญาหาเงินให้มันแล้วขืนแจ้งความไปเสี่ยมันจัดชุดใหญ่ให้ป้าแน่ๆ”
ลูกน้อง1 ถาม “ยังจะคุยกันอีกนานไหม ...เสี่ยบอกว่าถ้าวันนี้ไม่จ่ายมึงเจอเผานั่งยาง”
ป้ามี่ร้องโฮเขย่าแขนซินดี้ขอร้อง
“ฮืออซินดี้ป้ายังไม่อยากตายช่วยป้าด้วย”
ซินดี้มองป้ามี่อย่างเห็นใจแล้วพูดขึ้น
“เจ้านายแกอยู่ไหนฉันจะไปเคลียร์เอง”
ป้ามี่ตะลึงซินดี้ดูจริงจัง

ตั้งโอ๋วิ่งออกมองหาซินดี้เห็นรถตู้คันหนึ่งแล่นผ่านหน้าไปซินดี้นั่งคู่กับป้ามี่
“พี่ซินดี้กับป้ามี่ไปไหนกันน่ะ”
เข้มขับมอเตอร์ไซค์เข้ามาเทียบข้างหน้าพร้อมยื่นถุงพวงมาลัยให้
“ตั้งโอ๋แกลืมพวงมาลัยไหว้ศาลพระภูมิแน่ะ”
“เอาไว้ก่อนเข้มตอนนี้ตามรถตู้คันโน้นไปเร็ว”

ตั้งโอ๋โดดไปซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เข้มรีบขับตามรถตู้ออกไป

ห้องสวีทในโรงแรมแห่งหนึ่งที่พัทยา
ซินดี้เขียนเช็คเสร็จพอดีแล้ววางให้เสี่ยตรงหน้า
“เช็ค 5 แสนเสี่ยเอาไปขึ้นเงินได้เลย”
เสี่ยหยกหยิบเช็คไปดูแล้วเหลือบมองซินดี้อย่างกริ่ม
“อืมมใจป้ำไม่เบานะคนสวย ....ถามจริงเถอะนังมี่มันเป็นอะไรกับลื้อ”
“ป้ามี่เป็นเพื่อนฉันเพื่อนไม่มีวันทิ้งเพื่อนอยู่แล้ว … กลับกันเถอะป้า”
ซินดี้ขยับจะไปเสี่ยพูดขึ้น
“เดี๋ยวก่อนสิอั๊วว่าเช็คลื้อเบิกเงินไม่ได้แล้วว่ะ”
เสี่ยหยกพูดพลางฉีกเช็คเป็นชิ้นๆโยนทิ้ง
“เสี่ยทำแบบนี้หมายความว่าไง”
“บอกตรงๆอั๊วไม่ได้อยากได้เงินอั๊วอยากได้ลื้อ”
ซินดี้ทำเออออ
“แหมน่าจะบอกตั้งแต่แรกจะได้ไม่ต้องเซ็นเช็คให้เมื่อย”
“ฮ่าฮ่าฮ่าลื้อคิดถูกแล้วแค่คืนเดียวอั๊วยกหนี้ให้หมดเลย”
“หึหึหึอุบาทว์ฉันไม่ได้ขายตัว” ซินดี้ปาแก้วน้าใส่เสี่ยแบบไม่ให้ตั้งตัว
เสี่ยหลบซินดี้รีบดึงมือป้ามี่หนี
ลูกน้องกรูเข้าไปจะจับตัวซินดี้ป้ามี่ทำเป็นปกป้อง
“อย่านะอย่ามายุ่งกับซินดี้” ป้ามี่โดนต่อย“โอ้ย”
ลูกน้องอีกคนเข้ามาช่วยกันดึงลากป้ามี่ออกไปซินดี้ร้องเสียงหลงแต่โดนลูกน้องอีกคนล็อคตัวไว้
“ป้ามี่ !! ป้ามี่!! ปล่อยป้ามี่นะ”
ซินดี้ร้องลั่นสายตาเป็นห่วงป้ามี่มาก

ป้ามี่ที่โดนลูกน้องเสี่ยดึงลากออกมาจากห้องมาตามทางเดินในโรงแรมร้องโวยวายจะเป็นจะตายออกมาที่มุมหนึ่ง
“ปล่อยฉันปล่อยสิฉันจะไปช่วยซินดี้”
หรั่งตบมือเดินเข้ามาหาหน้าตายิ้มแย้ม
“สุดยอดการแสดงของคุณป้ามี่นี่ระดับออสการ์”
ป้ามี่สะบัดมือจากลูกน้องทั้งสองคนท่าทางไม่ได้เป็นอะไรเลย
“ไม่ต้องจับกูแล้วปิดจ็อบแล้วโว้ยยฮ่าฮ่าฮ่า” ป้ามี่เดินมาไฮไฟว์กับหรั่ง “สำเร็จ
นังซินดี้มันโง่จริงๆฮ่าฮ่าฮ่า”
“ไปอย่างนี้มันต้องฉลอง”
หรั่งคว้าคอป้ามี่โอบเดินร้องเพลงกันออกไปอย่างมีความสุข

ประตูลิฟต์ บริเวณล็อบบี้โรงแรมเปิดออก ป้ามี่กับหรั่งเดินหน้าบานออกมา
ตั้งโอ๋กับเข้มเดินมาจากอีกมุมหยุดชะงักมองป้ามี่กับหรั่งอย่างแปลกใจ
“อ้าวนั่นทำไมป้ามี่มากับนายหรั่งแล้วพี่ซินดี้ล่ะไปไหน”

เสี่ยหยกผลักซินดี้ลงไปกับโซฟาแล้วขึ้นคร่อมจะปล้ำ
“ไอ้สถุน!!! ออกไป”
ซินดี้เอาเล็บข่วนหน้าเสี่ยแคว่ก!
เสี่ยโมโหต่อยเข้าหน้าซินดี้ 2 หมัดจนซินดี้กระเด็นฟุบคว่ำไปกับเตียง
“อย่ามาฤทธิ์มากกับกู”
เสี่ยกระชากเสื้อซินดี้จนขาดแคว่กเห็นเกาะอกด้านใน
ซินดี้กรีดร้อง “อย่า”

ตั้งโอ๋กับเข้มผลักประตูห้องพักห้องหนึ่งเข้าไปแล้วนึกว่าจะเจอซินดี้แต่ว่าไม่มีใครในห้อง
“พี่ซินดี้ .....ไม่ใช่ห้องนี้!”
“โทร.ไปหาดิวะถามเลยว่านายทาสของแกอยู่ไหน”
“พี่ซินดี้เปิดมือถือเสียที่ไหนล่ะโอ้ยทำไงดีเนี่ยฉันใจไม่ดีแล้วอ่ะ”
ตั้งโอ๋กังวลใจ

เสี่ยหยกซุกไซ้อยู่บนแผ่นหลังซินดี้ขยะแขยงแต่ฝืนใจแกล้งทำเป็นพึงพอใจ
“เสี่ยขาซินดี้ยอมแล้ว”
ซินดี้หันไปมองอ้อนแล้วผลักเสี่ยลงไปซินดี้ขึ้นคร่อมเสี่ยลูบไล้
“ซินดี้จะทำให้เสี่ยมีความสุขเองค่ะ”
ซินดี้ยั่วยวนก้มลงไปซุกไซ้ข้างหูเสี่ยแต่มือเอื้อมไปหยิบโคมไฟหัวเตียงขึ้นมาฟาดศีรษะเสี่ยเต็มแรง
“โอ้ย”
ซินดี้ถีบหน้าเสี่ยไปอีกทีจนเสี่ยล้มกลิ้งเค้เก้
“ไอ้เสี่ยชาติชั่วไปตายซะเถอะ!”
ซินดี้รีบวิ่งหนีออกจากห้องไป
“อีซินดี้มึงโดนแน่!”

ซินดี้วิ่งหนีออกมาจากห้องเสี่ยหยกตามออกมาแล้วตรงเข้าไปจะต่อยซินดี้
เข้มกับตั้งโอ๋ออกมาจากลิฟต์เข้มหันไปเห็นพอดี
“พี่ซินดี้!”
ทั้งสองรีบวิ่งเข้าไปที่ซินดี้กับเสี่ย
“อย่านะพี่ฉันเป็นตำรวจนะ”
“หมวดบุลินรู้จักมั้ยเรียกมาทั้งโรงพักเลยก็ได้นะ” เข้มบอก
เสี่ยหยกเห็นท่าไม่ดีรีบถอย “เฮ้ยไปเว้ยฝากไว้ก่อนเถอะ”
ตั้งโอ๋กับเข้มรีบเข้าไปดูซินดี้ที่มีร่องรอยฟกช้าที่แก้มเล็กน้อยอ่อนล้ายืนพิงกำแพงไว้
“พี่ซินดี้มันเกิดอะไรขึ้นแล้วพี่เป็นยังไงบ้าง”
“ไม่เป็นไร” ซินดี้นึกขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง “ป้ามี่ล่ะเห็นป้ามี่มั้ย”
“อ๋อนั่นสิฉันก็ว่าจะถามอยู่เหมือนกันพี่ซินดี้ออกมากับป้ามี่ไม่ใช่เหรอแล้วทำไมป้ามี่ถึงได้ออกไปกับนายหรั่ง”
ซินดี้แทบไม่เชื่อหูตัวชาวาบเข้ามาเขย่าตัวตั้งโอ๋ถามหน้าตื่น
“อะไรนะแกว่าอะไรป้ามี่ออกไปกับใครแกไม่ได้ตาฝาดแน่นะ”
ตั้งโอ๋งงๆ
“ไม่ฝาดหรอกพี่ตั้งโอ๋กับเข้มเห็นด้วยกัน...ป้ามี่ออกไปกับนายหรั่งจริงๆ”
ซินดี้อึ้งที่สุดในสามโลกรู้แล้วว่าตัวเองโดนป้ามี่กับหรั่งร่วมมือกันหลอก

เป็นไปได้ยังไง !?
หรั่งโดนซินดี้แทงตาเหลือกเลือดทะลัก
ป้ามี่เอาหูแนบหัวใจหรั่งแล้วพูดขึ้น
“ไอ้หรั่งตายแล้ว”

ซินดี้เจ็บเมื่อรู้ว่าโดนต้มจนเปื่อย
“ป้ามี่...ไอ้หรั่ง”
ซินดี้มองออกไปแค้นสุดๆ
เสียงเพลงเจ็บปวดซึ่งเป็นเพลงประจำตัวของซินดี้ดัง .... แววตาของนางเต้นระริกด้วยความโกรธ

ในโรงละคร ...
เสียงเพลงยังดังต่อเนื่องมา
แสงไฟฟอลโล่ส่องลงมาจับซินดี้ในชุดแดงนางเงยหน้าขึ้นมาร้องเพลงเจ็บกร้าวแค้นใจเจ็บปวด
เหล่าแดนเซอร์ออกมาเต้นประกอบพอประมาณบรรยากาศโทนมืดมนหมองหม่นสวมหน้ากากราวกับจะบอกถึงความไม่จริงใจหน้าอย่างหนึ่งลับหลังอีกอย่างหนึ่ง

ซินดี้หยิบมีดออกมาจากข้างหลังทำท่าชูสูงขึ้นเหมือนจะแทงใครสักคน

แสงไฟสาดเห็นมือจับมีดที่ชูขึ้นสูง
ก่อนที่จะจ้วงลงมาที่ท้องตัวเองแล้วเซไปมาวนทั่วเวทีก่อนจะซบลงกับพื้นพร้อมเปิดเพลงลิปซิงค์ประกอบไปด้วย
มดแดงที่ยืนลุ้นอยู่อย่างตื่นเต้นแต่พอช่วงเซมดแดงก็เดินออกมาโวยให้หยุด
“พอๆ ..หยุดเดี๋ยวนี้เลย”
ไฟสว่างเพลงหยุดเห็นว่าเป็นโกกิที่ไม่ได้แต่งหน้ากำลังซ้อมอยู่บนเวทีมีนางโชว์อื่นๆยืนดู
“โอ๊ยตายนี่หล่อนคิดว่ากำลังเซิ้งหาหอยหลอดกันเหรอย่ะถึงได้สะว่อนไปทั่วเวทีแล้วหล่อนกาลังจะฆ่าตัวตายนะยะไม่ใช่ฝึกเบ่งลมออกลูกแล้วเสลดพันคอโอ้ยแอคติ้งไม่ผ่านอย่างแรง”
โกกิกำมือโกรธไม่ชอบให้ใครมาเรียกเป็นตัวสำรองสะบัดหน้าลงเวทีบ่นกะปอดกะแปดไป
“แค่มาคุมแทนทาตัวพองยิ่งกว่าคางคกอุ๊ย!”
มัวแต่หันไปด่าเลยชนกับแพรวากับทิพย์ที่เดินเข้ามา
โกกิยกมือไว้ชดช้อย“ขอประทานโทษค่ะคุณแพรวาโกกิไม่ทันดูมัวแต่คิดถึงท่าเพลงใหม่ที่ซ้อมมันดูไม่ค่อยลงตัวไม่เห็นเหมือนตอนป้ามี่ซ้อมให้เลย”
โกกิชม้ายตาดูไปทางเจ๊มดแดงฟ้องแพรวากลายๆ
“อ้าวทำไมถึงเป็นมดแดง? ก็ฉันให้ป้ามี่เป็นคนคุมซ้อมนี่แล้วป้ามี่อยู่ไหน”

ที่สะพานเดิม ...
ป้ามี่หันหน้าไปทางแม่น้าสูดลมหายใจลึกมีความสุข
หรั่งมายืนข้างๆพร้อมมีดด้ามหนึ่ง
“แผนของป้าเด็ดจริงๆ”
หรั่งเอามีดด้ามนั้นแทงป้ามี่
ป้ามี่โดนแทงเจ็บปวดร้องลั่น
“โอ้ยแกฆ่าฉันเหรอ”
แล้วหรั่งดึงมีดออกมาเห็นว่ามีดเหลือแต่ด้าม ตัวมีดมันหดเข้าไปด้านใน
ทั้งสองมองหน้ากันแล้วหัวเราะลั่นชอบใจที่ได้กลั่นแกล้งซินดี้อำกัน
หรั่งนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา

ด้ามมีดที่เสียบเข้าหน้าอกหรั่งตอนนั้นแท้จริง มีดมันหดเข้าไปในด้ามได้
มีดเสียบไปที่หน้าอกหรั่งหรั่งแอบเจาะถุงเลือดที่ถูกซ่อนเอาไว้จนแตก

ทั้งสองยังหัวเราะชอบใจต่อเนื่อง
“นังซินดี้มันโง่นะที่นึกว่าฉันตายจริงๆ”
ป้ามี่ยื่นเงินปึกหนึ่งให้หรั่งหรั่งรับเงินไปนับดู
“อะนี่ส่วนแบ่งของแก” ป้ามี่ชูอีกปึกของตัวเอง “แล้วนี่ของฉัน”
สองคนหัวเราะกันอย่างสนุกสนานแล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเด็กหัวเราะดังคลอมาด้วย
ป้ามี่กับหรั่งหยุดหันไปดูเห็นเด็กยืนหัวเราะอยู่ถือลูกโป่งถึงกับสะดุ้งแล้วก็ตั้งสติได้มองหน้ากัน
“แกมาหัวเราะอะไรกับฉันด้วยย่ะพ่อแม่ไม่สั่งสอนเหรอ”
เด็กยื่นกระดาษให้
ป้ามี่กับหรั่งเอามา ต่างมุงดู แกะกระดาษออกแต่ไม่เห็นอะไรเงยหน้าขึ้นต่อว่าเด็ก
“อะไรของแกเอากระดาษอะไรมาให้ฉันไม่เห็นมีอะไรเลย” ป้ามี่บอก
“ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย”
พอป้ามี่กับหรั่งเงยหน้ามองเด็กเด็กยกขวดสเปรย์ขึ้นมาฉีดใส่หน้าทั้งสองคนทันที!
ละอองยาสลบแบบพ่นพ่นใส่หน้าป้ามี่กับหรั่งเต็มๆทั้งสองล้มลงสลบไป

ตั้งโอ๋ถือถุงข้าวต้มขึ้นมา เคาะหน้าห้องซินดี้
"พี่ซินดี้ๆตั้งโอ๋ซื้อข้าวต้มปลาร้อนๆมาฝากค่ะ"
ไม่มีเสียงตอบรับ ตั้งโอ๋เลยเคาะอีกที
"พี่ซินดี้ๆ"
แม่บ้านกำลังขึ้นมากวาดทางเดินหน้าห้อง
"คุณซินดี้ไม่อยู่หรอกค่ะ ออกไปตั้งแต่เช้ามืดแล้ว"
"ออกไป ไปไหน"
แม่บ้านส่ายหน้า ตั้งโอ๋สงสัย

บริเวณทะเลเปลี่ยว ...
หรั่งกับป้ามี่ฟื้นจากสลบ ปรากฏว่าถูกมัดตรึงแขนขากับหลักที่ตอกบนทราย ในลักษณะที่นอนไปกับพื้นทราย ริมหาดคลื่นซัดขึ้นมาโดนหน้าหรั่งบ้าง ป้ามี่บ้าง ทั้งคู่เริ่มสำลักน้ำ จึงรู้สึกตัว
ป้ามี่ร้องเสียงดัง "ปล่อยฉันนะใคร.. ใครกล้าทำแบบนี้"
ซินดี้เดินก้าวเท้าเข้ามา ป้ามี่เงยขึ้นดู
"ฉันเอง ...อีแก่นรก ไอ้ฝรั่งรกโลก"
ป้ามี่กับหรั่งสะดุ้ง รู้ทันทีว่าซินดี้เป็นคนจ้างเด็กมา
"นี่แก ....แกเป็นคนจ้างไอ้เด็กเวรนั่นมาใช่มั้ย"
ซินดี้ไม่ตอบ กลับควักแส้ออกมาหวดลงไปไม่ยั้ง
หรั่งกับป้ามี่ร้องกรี๊ดเจ็บปวด
"หึหึ เจ็บด้วยเหรอฉันคิดว่าหนังหนาๆเลวๆของพวกแกจะหวดไม่เจ็บเสียอีก"
"ฉันไม่ได้อยากทำเลยนะซินดี้ ฉันรักเธอนะ"
ซินดี้ตวัดแส้ใส่อีกทันทีที่พูดจบ
"ไม่ต้องมาตอแหล ...อีกไม่ถึงชั่วโมงน้ำก็จะขึ้นมาถึง ตอนนั้นในจมูกของแกสองคนก็จะเต็มไปด้วยน้ำทะเลแล้วก็ขาดอากาศหายใจตายไปอย่างช้าๆฮะๆๆ"
"อีโรคจิต"
ซินดี้หัวเราะชอบใจ
ป้ามี่กับหรั่งร้องขอความช่วยเหลือสำลักน้ำทะเลที่สาดเข้ามาจะเป็นจะตาย!

ตั้งโอ๋เดินลงมาหน้าตึกมองหาซินดี้
"ไปไหนของเค้านะ"
ตั้งโอ๋นึกๆอะไรขึ้นมาได้แล้วหยิบมือถือขึ้นมาดู

คืนนั้น ในโรงแรม คืนวันที่ซินดี้โดนเสี่ยหยกพยายามจะปล้ำ และหลังจากเหตุการณ์นั้น ตั้งโอ๋พานางกลับห้อง และขณะที่ซินดี้หลับอยู่บนเตียงด้วยความอ่อนเพลีย ตั้งโอ๋มองด้วยความสงสารกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตั้งท่าจะปิดไฟ กลับบ้าน แต่ชะงักเมื่อเห็นโทรศัทพ์ซินดี้วางอยู่บนหัวเตียง ตั้งโอ๋คิดนิดหนึ่งก่อนตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ซินดี้ขึ้นมา
"ขอโทษนะพี่ตั้งโอ๋แค่อยากหาตัวพี่ให้ง่ายขึ้นเท่านั้น เผื่อพี่เป็นอะไรขึ้นมา"
ตั้งโอ๋เข้าหน้าจอ กดแอพ Find friends .

ตั้งโอ๋กดเข้าแอพ find friend ทันที และโชว์ตำแหน่งแห่งที่ซินดี้อยู่ !

ตั้งโอ๋ขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาจากอพาร์ทเม้นท์ออกมาแล้วเกือบชนคนที่เดินมาพอดี
ตั้งโอ๋ขอโทษขอโพยแล้วรีบออกไป
หมวดบุลินที่ซุ่มอยู่ในรถดูอยู่อย่างสงสัย
"ยายนั่นจะรีบไปไหน"

ซินดี้ยังคงหวดแส้ลงน้ำเล่นดูจิตนิดๆ น้ำกระเด็นโดนป้ามี่กับหรั่ง สองคนดูหมดแรง
หรั่งตะโกน "ช่วยด้วยใครอยู่แถวนี่ช่วยด้วย"
ซินดี้เย้ย "โธ่ .. ผัวจ๋า ..เสียงแห้งนะเอาะ งั้นกินน้ำเสียจะได้มีแรงเรียกคนมาช่วย"
ซินดี้เอาน้ำทะเลกรอกเข้าปาก หรั่งสำลักน้ำ
"อีบ้าโรคจิต มิน่าล่ะถึงไม่มีใครรักแกซักคน!"
เหมือนจี้ใจดำ ซินดี้ปฎิเสธเสียงแข็งทันที
"ฉันไม่ได้ต้องการให้ใครมารัก"
"หึๆฉันพูดถูกใช่มั้ย ฉันรู้จักแกมากี่ปี ไม่เห็นแกมีพ่อมีแม่"
ซินดี้เดือดหยิบทรายขึ้นมาถมปิดหน้าป้ามี่
"ฉันบอกให้แกหยุดหยุดๆ หยุดพูด"
ป้ามี่พยายามส่ายหน้าหนี ซินดี้ก็ยิ่งขนทรายเอามาทับ
ป้ามี่ดิ้นๆจนเริ่มอ่อนแรงไปเรื่อยๆ
ตั้งโอ๋วิ่งเข้ามาดึงซินดี้ออกไปอย่างแรง รีบคุ้ยทรายออกจากหน้าป้ามี่ให้หายใจได้
"พี่ซินดี้อย่า ! ทำแบบนี้เดี๋ยวป้ามี่ก็ตายหรอก" เธอพูดพลาง มือก็ช่วยแก้เชือกไป
"ช่างหัวมันซิ แกก็รู้ไม่ใช่เหรอว่า มัน 2 คนทำกับฉันยังไง"
"แต่มันจะทำให้พี่กลายเป็นฆาตกรนะ แล้วพี่ก็จะติดคุก"
ซินดี้เริ่มได้สติ ชะงักนิดหนึ่ง ตั้งโอ๋รีบพูดกล่อมต่อ
"อนาคตของพี่ก็จะหมด ไม่สามารถไปเล่นโชว์ที่ไหนได้อีก พี่จะเอาตำแหน่งนางโชว์อันดับ1 ไปแลกกับคนเลวๆ 2 คนนี่ทำไม"
ซินดี้นิ่ง
หรั่งฉวยจังหวะที่ซินดี้กับตั้งโอ๋คุยกันรีบแกะเชือกออก แล้วหยิบขอนไม้ผุๆขึ้นมาทำท่าจะตีซินดี้เต็มแรง
บุลินวิ่งเข้ามาเห็นเข้าพอดี รีบร้องบอก
"ซินดี้ระวัง!"
ซินดี้ตกใจ

ตั้งโอ๋รีบวิ่งเข้าไปผลักซินดี้ออก
หรั่งฟาดไม้เข้ามา โดนข้างขมับตั้งโอ๋จนทรุดร่วงลงไปสลบเหมือด
ซินดี้ร้องเสียงหลงอย่างเป็นห่วง "ตั้งโอ๋!"
บุลินรีบวิ่งเข้าไปจะจับตัวหรั่ง
"ตั้งโอ๋เลือดเต็มเลย"
พอซินดี้ตะโกนขึ้นว่าตั้งโอ๋มีเลือดออก บุลินเลยชะงักหันกลับไปดูตั้งโอ๋
"ตั้งโอ๋!"
ซินดี้เขย่าตัวตั้งโอ๋ กลัวตั้งโอ๋จะเป็นอะไร น้ำตาซึม แต่วาจายังก้าวร้าวเหมือนเดิม
"ตั้งโอ๋อย่าตายนะ ตั้งโอ๋แกเป็นทาสฉัน ฉันสั่งไม่ให้แกตาย"
บุลินมองหน้าซินดี้ที่เป็นห่วงตั้งโอ๋แล้วอึ้ง ไม่นึกว่าซินดี้จะมีมุมนี้

ต่อมา ... เข้มวิ่งเข้ามามองหาตั้งโอ๋ บุรุษพยาบาลเข็นวิลแชร์ที่ตั้งโอ๋นั่งอยู่ออกมาจากห้องทาแผล สภาพตั้งโอ๋ติดผ้าพันแผลที่ขมับ เพราะโดนตีที่บริเวณหัว
"ตั้งโอ๋! นี่แกอยู่ครบนะ ต้องเฉือน ต้องผ่าตัดตอนอะไรหรือเปล่า"
"ตอนแกสิไอ้เข้ม ฉันแค่หัวแตกเท่านั้นแหละ"

บ่ายต่อเนื่องมา ณ สถานีตำรวจภูธร เมืองพัทยา ที่โต๊ะสอบสวน
ป้ามี่เอาเรื่องซินดี้ กำลังฟ้องจ่าโอที่นั่งทำสำนวนให้
"ดูมันทำฉันสิจ่า" ป้ามี่ชี้รอยช้ำตามตัว "นี่ๆๆเห็นมั้ยฉันเจ็บไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัวฉัน ไม่ยอมจริงๆด้วยนะจ่า จ่าต้องจับอีนังโรคจิตนี่ไปดัดสันดานในคุกให้ฉันด้วย"
ซินดี้นั่งเชิด ไม่สะทกสะท้านอยู่เก้าอี้ถัดไป ทำเป็นพูดขึ้นลอยๆด่าป้ามี่
"หมาขี้เรื้อนแถวนี้เห่าเสียงดังจังเลยนะ สงสัยจะโดนน้ำทะเลกรอกปากมา"
"อีซินดี้มึงว่ากูเป็นหมาเหรอ"
ป้ามี่โผเข้ามาจะตบซินดี้
เสียงบุลินดังเข้ามา ป้ามี่สะดุ้ง รีบเปลี่ยนท่าที
บุลินเดินเข้ามา
"นี่ยังตกลงกันไม่ได้อีกเหรอ ให้จ่าทำสำนวนฟ้องทั้งคู่เลยมั้ย"
"มะไม่มีอะไรแล้วค่ะ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดฉันไม่แจ้งความแล้วล่ะ"
บุลินหันมองซินดี้ "แล้วคุณล่ะ"
"ไม่แจ้ง ไม่ใช่เพราะมันไม่ผิด แต่เพราะฉันไม่เคยเชื่อว่ากฎหมายจะทำอะไรคนเลวๆอย่างมันได้อย่างสาสม เสียเวลาเปล่าๆ"
ซินดี้มองเย้ยบุลินแล้วเดินออกไป บุลินอึ้ง มองตาม

ตั้งโอ๋กับเข้มกำลังเดินเข้ามาที่โรงพัก เจอกับซินดี้ที่เดินสวนออกมาพอดี บุลินตามหลังซินดี้ออกมาด้วย
"พี่ซินดี้พี่ปลอดภัยดีนะ ไม่ได้เจ็บตรงไหนใช่มั้ย"
"ดูสารรูปตัวเองก่อนมั้ย หัวแตกเย็บไปกี่เข็ม ยังมาวุ่นวายที่นี่ทำไม"
ซินดี้เดินออกไป บุลินตามซินดี้ไปอีก

บริเวณลานจอดรถ บุลินตามมาขวางหน้า
"นี่คุณ ..."
"เอ๊ะจะตามมายุ่งอะไรอีก น่าราคาญพอๆกับนังตั้งโอ๋เลย"
"แต่คนที่น่าสมเพชที่สุดน่าจะเป็นคุณ!"
"นี่ฉันไปทำอะไรให้คุณ มาด่าฉันทำไม"
"มันไม่ใช่เรื่องของผมหรอก แต่ผมทนเห็นคุณทำอะไรแย่ๆใส่ตั้งโอ๋แบบนั้นไม่ได้"
"อ่อแฟนคลับนังตั้งโอ๋อีกคนแล้วเหรอ ฮึ ชอบแบบแอ๊บแบ๊วก็ไม่บอก"
บุลินเหลืออดดึงซินดี้เข้ามาเขย่าอย่างแรง
"ทำไม อยากให้คนอื่นเกลียดนักเหรอ ถึงได้ทำตัวหยาบคาย ก้าวร้าว เอาแต่ใจแบบนี้"
"ฉันเป็นฉันแบบนี้ คุณจะเกลียด จะชอบมันก็เป็นปัญหาของคุณ ไม่ใช่ปัญหาของฉัน"
"แล้วทำไมตอนที่ตั้งโอ๋สลบ คุณถึงร้อง ขอให้ตั้งโอ๋ปลอดภัยล่ะ"
ซินดี้อึ้งพูดไม่ออก
"จริงๆแล้ว ในใจลึกๆคุณก็แคร์ คุณก็ห่วง ทำไมไม่พูดดีๆทำดีๆกับเขาล่ะ"
"ไม่ต้องมาสอนฉัน"
"ผมไม่ได้สอน ผมแค่ไม่เข้าใจว่า ทำไมคุณถึงได้ชอบทำอะไรที่มันตรงข้ามกับความรู้สึกของตัวเองนัก"

"ก็เพราะคนที่จริงใจที่สุดก็คือคนที่เจ็บปวดที่สุดไงล่ะ"

บุลินอึ้ง ซินดี้ผลักบุลินออกไปทันที พรั่งพรูความในใจเจ็บปวดมาแล้วนักต่อนัก ไม่ว่าจะเพื่อนหรือผัว

"ฉันไม่ยอมเป็นคนโง่ให้ใครมากระทืบหัวใจฉันเล่นอีกแล้ว พอกันที!"
ซินดี้หันเดินหนีออกไปเลย บุลินได้แต่มองตามไป

อาทิตย์ตกดินแล้ว ที่มุมประจำ ริมชายหาด
ซินดี้นั่งยองๆเหม่อมองทะเลยามค่ำที่มืดมิด เวิ้งว้างเ หมือนชีวิตตัวเองที่หาฝั่งไม่เจอ น้ำตาไหล
เภาเดินเข้ามายืนตรงหน้าซินดี้
"ร้องไห้ทำไม เจ้าหญิงของผม"
ซินดี้รีบเช็ดน้ำตา " เปล่า ซินดี้ไม่ได้เป็นอะไร"
เภาคุกเข่าลงมาตรงหน้า แล้วยกมือไปจับมือซินดี้ดึงไว้ไม่ให้เช็ดน้ำตา
"อยู่กับผมไม่ต้องเข้มแข็ง ไม่ต้องเก่ง ไม่ต้องเป็นอะไรทั้งนั้น นอกจากเป็นตัวของคุณจริงๆ ....ร้องเถอะถ้าอยากร้อง ...บ่าผมมีไว้ซับน้ำตาคุณอยู่แล้ว"
ซินดี้ปล่อยโฮโผเข้าไปกอดเภาร้องไห้
" ฮือ ฮือ ฮือ ....เภา"
"ไม่ต้องไปสนใจว่าใครจะพูดยังไงหรอกนะซินดี้ สิ่งที่คุณคิด สิ่งที่คุณพูดและสิ่งที่คุณเป็นต่างหากที่ทาให้ผมรัก"
"มีแต่คุณคุณคนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจซินดี้ อย่าทิ้งซินดี้ไปไหนนะเภา"
เภากอดซินดี้ ลูบผมเบาๆ ยิ้มอบอุ่น

ร้าน Tattoo แห่งหนึ่ง
ซินดี้นอนตะแคงข้างหันหน้าไปหาเภาที่นอนอยู่อีกเตียงตะแคงข้างจ้องหน้าซินดี้เช่นกัน
ช่างสักรูปผีเสื้อที่บั้นเอวของซินดี้
ช่างสักรูปผีเสื้อที่บั้นเอวเภาเช่นกัน
ทั้งสองมองจ้องหน้ากันสุดรัก ลึกซึ้ง ผูกพัน

ภายในคอนโดฯ เภา คืนเดียวกัน ในห้อง เภาเปลือยครึ่งบน เห็นรอยสักผีเสื้อเดินมาหาซินดี้ ยกมือขึ้นไล้แก้มแล้วค่อยปลดเสื้อซินดี้ออก เห็นรอยสักผีเสื้อที่บั้นเอวเช่นกัน
เภาคว้าเอวซินดี้เข้ามาแล้วก้มลงจูบ ทั้งคู่นัวเนียกัน
แผ่นหลังผีเสื้อของซินดี้ โดนเภากอดรัด
"ผมสัญญาซินดี้ ผมจะอยู่กับคุณไม่ว่าทุกข์หรือสุข เราจะเป็นเหมือนผีเสื้อสองตัวนี้ที่โบยบินฝ่าคลื่นชีวิตไปด้วยความรัก ความรักของเราจะชนะทุกสิ่ง...แล้วเราจะรักกันตลอดไป"

คืนวันใหม่ ... บนเวที
เพลงประจำตัวป้ามี่แสดง ดังขึ้น ป้ามี่ออกไปโชว์
ซินดี้ยืนดูอยู่หลังเวทียิ้มอย่างเยือกเย็น เดินออกไปทางหนึ่ง
ป้ามี่ยังแสดงอยู่บนเวที
ที่ด้านหลังเวทีในมุมหนึ่ง ซินดี้ถือมีดอันเล็กๆค่อยๆตัดเชือกที่โยงฉาก
ฉากค่อยๆล้มเอนลงมา คนดูกรี๊ด
ป้ามี่หันไปเห็นแล้วหลบทัน ป้ามี่ร้องกรี๊ดแล้วยืนใจสั่น

แพรวากับทิพย์ที่ยืนคุมอยู่ที่ห้องควบคุมรีบสั่ง
"ปิดม่านเลย รีบปิดม่านซิ"
ม่านเวทีรูดปิดทันที

ป้ามี่ยืนตัวสั่น อีกนิดเดียวฉากก็จะล้มมาทับ มดแดงรีบวิ่งเข้ามาดู
"โอ๊ยตายแล้ว นี่ถ้าป้าขยับไม่ทันอีกนิดเดียว ป้าได้แบนติดฉากแน่ๆ"
ป้ามี่ได้แต่พยักหน้า ยังพูดอะไรไม่ออก แต่พอหันเหลือบหันไปมองก็เห็นซินดี้ยืนอยู่ในเงามืด ยิ้มเยาะเย็นๆ
ป้ามี่ใจหายวาบ รู้สึกสังหรณ์ใจ

ป้ามี่เดินเข้ามาพักในห้องแต่งตัว ยังตกใจอยู่
เสียงประตูปิดปัง ! ป้ามี่สะดุ้งปรากฏว่าไม่มีใคร แต่มาเจอซินดี้อยู่ในกระจก ป้ามี่สะดุ้ง แต่ข่มความกลัวไว้ มองไปรอบๆปรากฏว่าไม่มีใครอยู่เลย
"แกเข้ามาทำอะไรในนี้"
ซินดี้ไม่ตอบ แต่ดูไปรอบๆ
"แหมในนี้คับแคบจังเลยนะ อากาศหายใจยังไม่มี เอ๊ะถ้าเกิดไฟไหม้ขึ้นแล้วประตูเกิดล็อคขึ้นมาแล้ว ป้าติดอยู่ในนี้มันจะเป็นยังไงนะ"
"แกพูดบ้าอะไรนังซินดี้ ฉันไม่กลัวแกหรอกนะ ไม่ต้องมาขู่ฉัน"
"ขู่อะไรกัน ฝ่ายฉากก็ยืนยันว่าเช็คฉากดีแล้วก่อนแสดง แต่เอ๊ะทำไมฉากมันถึงได้ล้มครืนลงมาพอเหมาะพอดีตอนป้าแสดงขนาดนั้นก็ไม่รู้นะ"
ป้ามี่กลัวลนลาน
"ฝีมือแก... เป็นฝีมือแกใช่มั้ย"
"แกกับฉันคงอยู่ที่เดียวกันไม่ได้แล้ว ก็ไปคิดดูเอาเองนะ อุบัติเหตุมันสามารถเกิดได้อีกหลายครั้ง แต่น่าเสียดายที่แกมีแค่ชีวิตเดียว"
ซินดี้หยิบมีดสั้นที่ใช้ตัดเชือกออกมาวางปังลงบนโต๊ะ แล้วเดินออกไป ทิ้งให้ป้ามี่ตัวสั่นด้วยความกลัว

วันใหม่ ที่โรงละคร
แพรวาเรียกประชุมนางโชว์ทุกคนอยู่
"สำหรับเรื่องสุดท้ายที่ฉันจะพูดในการประชุมวันนี้ก็คือเรื่องป้ามี่ ....ทำไมอยู่ๆ ป้ามี่ถึงรีบร้อนมาลาออก บอกว่าจะกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัด มีใครรู้มั้ยว่าป้ามี่เป็นอะไร"
แพรวาไล่มองทีละคน แต่ละคนส่ายหน้า มีแต่ซินดี้ที่ยืนอยู่ข้างๆแพรวาที่สีหน้าสบายๆ ยิ้มเยาะอยู่ในที
"กลับไปแช่ฟอร์มาลีน... กันเน่าละมั้ง" ซินดี้พูดแถมหัวเราะหึหึอีก
ทุกคนชะงักหมด หยุดมองซินดี้เป็นตาเดียว
ซินดี้บอกกับแพรวา
"แยกย้ายเถอะค่ะ อย่าไปสนใจยายแก่ไร้ประโยชน์อย่างนั้นเลยค่ะคุณแพรวา ... ไป ตั้งโอ๋ ไปช่วยฉันจัดห้องใหม่ดีกว่า"
ซินดี้หันเดินออกมา ตั้งโอ๋ตาม แล้วซินดี้เข้าไปเหยียบชายกระโปรงของโกกิที่กำลังแยกย้ายออกไปเช่นกัน
โกกิเกือบจะล้มเพราะโดนเหยียบชายกระโปรง " ว้าย"
โกกิหันไปมองเห็นซินดี้ยิ้มโชว์เหนืออยู่
ซินดี้ ก้าวเข้ามาใกล้โกกิ มองหน้า
"ฉันว่าชุดนี้ของเธอมันเหมือนชุดเก่าของฉันเด่ะเลยนะ" การก๊อปปี้ความสำเร็จของคนอื่นนอกจากจะไม่ได้เป็นที่หนึ่งแล้วยังทำให้สะดุดล้มโครมใหญ่ได้เลยนะ"

ซินดี้ยิ้มเยาะแล้วเดินออกไป ตั้งโอ๋ตาม โกกิมองตามซินดี้แบบแค้นฝังหุ่น

ซินดี้เดินออกมาตามทาง มีตั้งโอ๋ติดตาม

อีกมุมหนึ่ง โกกิอย่างแค้นเข้ามาทุบตู้ดับเพลิงแล้วหยิบขวานออกมา เดินออกไปอย่างอาฆาต
ซินดี้กับตั้งโอ๋กำลังเดินไป โกกิถือขวานตามหลังเข้ามา ตะโกนเรียก
"อีซินดี้"
ซินดี้กับตั้งโอ๋หันไป
โกกิวิ่งเข้ามา เอาขวานจะจามหัวซินดี้
ซินดี้เอามือจับไว้ได้ ไม่เป็นอะไรเลย
โกกิตะลึง ซินดี้ดึงขวานไปถือไว้เอง
ซินดี้ยิ้มเย้ยแล้วหน้าเปลี่ยนเป็นหน้าผีชุดแดง
"มึงอยากตายแบบไหน"
โกกิกรี๊ด หันหลังจะวิ่งหนี
ซินดี้ฟันฉับ ร่างโกกิขาดเป็น 2 ท่อน ล้มไปบนพื้น
ตั้งโอ๋เห็นเหตุการณ์หลับหูหลับตากรี๊ดสนั่น

ซินดี้สะดุ้งตื่นขึ้นมา หน้าตาตื่น ที่แท้ ... ฝันไป ...

มุมหนึ่งในห้อง ซินดี้พูดโทรศัพท์มือถือกับเภา นางอยากให้เภามารับไปอยู่ด้วย
"เภา.. ซินดี้ไม่อยากอยู่คนเดียว เภามารับซินดี้" นางยังพูดไม่จบ
ภายในห้องที่คอนโดฯ เภาพูดขึ้น
"ซินดี้ คือผมคงไปไหนไม่ได้ แม่ผมเข้าไอซียู ผมกลุ้มมาก ผมต้องหาเงินให้ได้สองแสน แม่ถึงจะได้ผ่าตัด!"
"สองแสนเหรอ !! เภาไม่ต้องหาที่ไหนหรอก เดี๋ยวซินดี้จะรีบโอนไปให้เลย ไม่ต้องห่วงนะ ดูแลคุณแม่คุณให้ดีๆนะคะ"
ซินดี้กดปิดมือถือแล้วทรุดลงนั่งกับโต๊ะ ดวงใจกระโดดเข้ามาหา
ซินดี้เอามือลูบดวงใจเบาๆ
"เภาเขาไม่ว่าง ....เราก็ต้องอยู่เองให้ได้ใช่มั้ยดวงใจ"
ซินดี้มองออกไปที่หน้าต่างอย่างเหงาๆเศร้าๆ

วันใหม่ ณ สนามหน้าบ้าน บ้านตั้งโอ๋
เธอนั่งแต่งหน้าให้เข้มอยู่ พร้อมคุยไปด้วย จนเกือบเสร็จแล้ว
"ยายซินดี้นั่นนิสัยเสียสุดๆ พูดแล้วยังปรี๊ดไม่หาย นี่แกทนยายนั่นไปได้ยังไง"
"มันเป็นเกราะข้างนอกของเขา เพราะเขาคงโดนทำร้ายมามาก จริงๆแล้วพี่ซินดี้
เป็นคนตรงๆไม่เสแสร้ง มีน้ำใจ"
"ตรงไหน"
"นิ่งๆหน่อยได้ไหมยะ ฉันจะซ้อมเทรนด์แต่งหน้าใหม่"
"อะเอาเข้าไป เอาให้สวยนะคะคุณเพื่อน" เข้มเล่นบทสาวเต็มที่ ทั้งมือทั้งไม้ไปหมด "ตั้งโอ๋น่ารักที่สุดม๊วบๆ ... ไม่ต้องห่วงค่ะ คุณพี่จัดเต็มให้เลย"
สองคนแต่งหน้ากันไป เข้มใส่จริตอย่างสนุกสนาน
ที่รั้วประตู บุลินกับกานดาเดินเข้ามาเห็นทั้งสองถึงกับสะดุ้ง
เข้มชม้อยชม้ายตาหยิบกระจกเพื่อเช็คว่าสวยมั้ย ส่องไปเห็นกานดาอยู่ในกระจก เลยหน้าเหวอ
เข้มตกใจแทบตกเก้าอี้รีบหันไปดู ตั้งโอ๋ลุกขึ้นมองเห็นกานดาบุลิน
เข้มโพล่ง "หมวดกานดา!"
"หมวดบุลิน!" ตั้งโอ๋ว่า

ในห้องรับแขก หมวดกานดามองเข้ามามองเข้มใกล้ๆ เข้มขยับตัวออกห่าง
สองผู้หมวดมองหน้ากัน
บุลินถาม "คุณสองคนอยู่บ้านเดียวกัน ผมเข้าใจถูกใช่มั้ย"
ตั้งโอ๋-เข้มรับคำ "ใช่"
"งั้นที่ว่าเป็นเพื่อนกัน ก็เพื่อนแบบว่าเพื่อนสนิท ตัวติดกันแบบนี้นี่เอง แหมสมัยนี้แล้ว คบกันก็บอกมาตรงๆไม่เห็นต้องอายเลยเนอะ พี่หมวดเนอะ"
เข้มจะปฏิเสธ "เฮ้ยหมวดเราสองคนไม่ได้ .. "
ตั้งโอ๋เหยียบเท้าพรืดไป
"แกเหยียบเท้าฉัน ... " เข้มบอกต่อ "หมวดเข้าใจผิดแล้ว เราสองคนไม่ได้คบกันนะฮะ โอ๊ย..." ตั้งโอ๋เหยียบแรงขึ้นอีก "ตั้งโอ๋แกเหยียบเท้าฉันอีกแล้วนะ"
ตั้งโอ๋จับมือเข้มบีบมือส่งซิกด้วย "ใช่เพราะยังไงความจริงก็ต้องเป็นความจริง ถ้าแกอายฉันพูดเอง" ตั้งโอ๋บอกทั้งคู่ " เราสองคนเป็นแฟนกันจริงๆค่ะ"
เข้มตาเหลือก ตั้งโอ๋จิกมือเข้มไม่ให้พูดไรอีก

ต่อมา ... ตั้งโอ๋เป่าลมโล่งอกที่เอาตัวรอดมาได้ เปิดตู้เย็นหยิบน้ำเทใส่แก้วจะให้แขก แล้วสะดุ้งที่บุลินมายืนข้างหลัง
"ทำไมถึงไม่ยอมแจ้งความเรื่องที่โดนนายหรั่งทำร้าย"
ตั้งโอ๋ตกใจถึงกับทำน้ำหก รีบหันไปเอาผ้าเช็ดน้ำ แอบบ่นเบาๆ งึมงำ
"แจ้งก็รู้นะซิว่าฉันเป็นผู้หญิง"
"อะไรนะ"
ตั้งโอ๋สะดุ้งอีก เมื่อบุลินเดินเข้ามาใกล้อีก คอยจับผิดเพราะสังเกตอยู่ ตั้งโอ๋ตกใจทำน้ำหก
"เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไร!"
"ฉัน ฉัน..พูดว่าแจ้งก็มีเรื่องนะซิ ใครจะอยากมีเรื่องกับคนอย่างไอ้หรั่งล่ะหมวด"
"มีเหตุผล 2 อย่างที่คุณควรรู้ไว้ .... หนึ่งมันเป็นเรื่องไม่ถูกต้องเพราะมันเป็นคดีอาญา สอง ..ถ้าคุณแจ้งความมันจะช่วยให้ทางตำรวจสอบขยายผลไปสู่คดีอื่นของนายหรั่งได้ เพราะฉะนั้นโปรดให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วยนะครับ"
ตั้งโอ๋อึ้งพูดไม่ออก

ฝ่ายเข้มใส่ผ้าขนหนูตัวเดียวเดินออกมาจากห้องน้ำ หลังจากล้างเครื่องสำอาง และอาบน้ำอาบท่าเสร็จ เขาเช็ดหน้าดูว่ายังมีเครื่องสำอางอีกหรือเปล่า แล้วก็ต้องตกใจ รีบเอามือปิดผ้าขนหนู เมื่อเห็นว่า กานดาอยู่ในห้อง
"เฮ้ยหมวดเข้ามาในห้องผมทำไมเนี่ย"
กานดาสบายๆไม่ได้เขินไม่อย่างไร "เฮ้ยไม่ต้องอายน่า เขมิกา"
"อะไรนะ ใคร ใคร เขมิกา"
"ก็เธอไง เขมิกา ฉันคิดว่าใจจริงเธอคงอยากชื่อเขมิกามากกว่าเข้มใช่มั้ยล่ะ"
"หมวดนี่ไม่เชื่อใช่มั้ยว่า ผมเป็นผู้ชาย"
กานดามองผ่านหลังเข้มไป ตาโต รีบวิ่งไปหยิบตะกร้านิตติ้งไหมพรมที่เข้มถักผ้าพันคอวางไว้
"ว้าว...เชื่อแล้วค่ะคุณเข้ม ว่าคุณเป็นผู้ชายทั้งแท่งนะฮ้า ผู้ชายที่ไหนกันถึงได้ถักผ้าพันคอไหมพรมแบบนี้"
เข้มอึ้งไปอีก เดินไปคว้าไหมพรมจากกานดา
"ผมเรียนโทนิเทศศาสตร์ ผมไว้ถักแก้เครียดเวลาทำธีสิสน่ะ"
"เขมิกา นายไม่ต้องเขินหรอกน่าที่ฉันรู้ว่านายเป็นเกย์ ฉันน่ะใจกว้างพอนะแล้วก็โตพอที่จะรู้ว่าคนสมัยนี้มันตัดสินเพศจากอวัยวะ" กานดาก้มลงมองต่ำ "ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดไม่ได้" กานดาจับไหล่เข้มทั้ง 2 ข้าง จ้องหน้า พูดกันระยะประชิด "แต่ที่สำคัญคือ นายจะต้องเป็นคนดีและคบคนดี ไอ้หรั่งน่ะมันพัวพันอยู่หลายคดี นายต้องเตือนแฟนนายให้รู้ไว้ และให้ความร่วมมือกับตำรวจนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเข้าใจนะ"
เข้มพยักหน้า กานดาดึงเข้มเข้ามากอดแล้วตบหลัง กานดาไม่ได้คิดอะไรทำไปแบบแมนๆ
เข้มแปลกๆตัวแข็ง แต่สักพักเผลอด้วยสัญชาตญาณผู้ชาย... เริ่มเคลิ้ม แต่แล้วต้องจามออกมาอย่างแรง กานดาไม่รู้เรื่องว่า ตัวเองหัวเหม็น

บนโต๊ะกินข้าว บุลินหยิบกระดาษขาวออกมาวาง แบมือ
"เอามา"
"อะไร"
"บัตรประชาชนไง" บุลินพยักเพยิดไปที่ตั้งโอ๋ที่ถือบัตรซ่อนไว้ข้างหลังตัวเอง
ตั้งโอ๋ส่ายหน้า "ไม่ ไม่ให้"
ตั้งโอ๋รีบหนี บุลินตามมาต้อน ตั้งโอ๋เห็นจวนตัวเลยรีบเอาบัตรหย่อนใส่ไปหน้าอก บุลินจะตามเข้าไปหยิบ
ตั้งโอ๋รีบปิดหน้าอก "อ๊ายอย่านะ"
บุลินชะงัก เพิ่งคิดได้
"ถ้าหมวดจับ ฉันจะร้องให้คนช่วยจริงๆ หมวดจะลวนลานฉันเหรอ"
บุลินก้มมองตามที่ตั้งโอ๋พูด พอนึกได้ก็รีบเงยหน้ามาทำให้หัวโขกกัน
"โอ๊ย" ตั้งโอ๋ร้อง
กลายเป็นเหมือนตั้งโอ๋เกือบซบอยู่กับอกบุลิน ตั้งโอ๋ชักรู้สึกแปลกๆเขิน
กานดาวิ่งเข้ามากับเข้ม ทั้งสองรีบผละจากกัน
"พี่หมวด ! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว ซินดี้โดนสาดน้ำกรด"

ทั้งบุลินและตั้งโอ๋ ต่างตกใจ

บริเวณมุมจอดรถที่โรงละคร
จ่ายอดกับจ่าโอกำลังดูที่เกิดเหตุ มีขวดบรรจุน้ำกรดหล่นอยู่ที่พื้นพวกนางโชว์และ มดแดง โกกิจับกลุ่มดูเหตุการณ์อยู่ถัดออกไป
บุลิน กานดา ตั้งโอ๋ เข้มวิ่งเข้ามา
"จ่ายอด จ่าโอ"
จ่ายอดรายงาน
"อ่อหมวด ผมกับจ่าโอตรวจดูหลักฐานแล้ว ...คนร้ายใช้กรดกำมะถันสำหรับใส่แบตตารี่น่ะครับ"

จ่าโอรายงาน
"เหตุเกิดเมื่อ 1ชั่วโมงก่อนหน้านี้...โดยคุณซินดี้เดินทางมาที่โรงละครด้วยรถยนต์ ขณะออกมาจากรถ ก็ได้มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งใส่หมวกกันน๊อคปิดบังใบหน้า ขับเข้ามาสาดน้ำกรดใส่ แล้วขับหนีไปอย่างรวดเร็ว"

ตั้งโอ๋รีบถามอย่างเป็นห่วง
"แล้วพี่ซินดี้ล่ะ พี่ซินดี้เป็นอะไรหรือเปล่า"
เสียงซินดี้ดังเข้ามา
"ฉันยังไม่ตายง่ายๆหรอก"
ทุกคนหันไปมองซินดี้เป็นตาเดียว ซินดี้เดินเข้ามาหาบุลิน ต่อว่าทันที
"ไหนล่ะคนร้ายจับได้หรือยัง"
กานดาบอก "คุณ ...ให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงานก่อน"
"แล้วคนร้ายมันต้องให้เวลาคุณด้วยมั้ย ถ้ามันย้อนกลับมาทำร้ายฉันอีกรอบจะทำไง"
"ถ้าคุณต้องการเจ้าหน้าที่คอยคุ้มกัน ผมจะจัดการให้"

"ฉันต้องการความยุติธรรม แต่น้ำหน้าอย่างคุณ ฉันไม่คิดว่าจะทำอะไรได้"
"พี่ซินดี้แรงไปมั้ย" ตั้งโอ๋ว่า
"ไม่ต้องมายุ่ง ถ้าพูดแค่นี้รับไม่ได้ก็อย่าเป็นตำรวจดีกว่า"
"ผมว่าคุณควรจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับตำรวจจะดีกว่านะครับ คดีของคุณจะได้คืบหน้า"
"นี่คุณหาว่าฉันไร้สาระเหรอ"
"คุณเคยมีปัญหาหรือทะเลาะวิวาทกับใครบ้าง"
มดแดงแทรกทันที
"โอ้ย ศัตรูนังซินดี้น่ะเอานิ้วมือนิ้วเท้ามานับรวมกันยังไม่พอเลยค่า"
โกกิย้ำ "พี่ซินดี้อย่าโกรธโกกินะ โกกิต้องให้ข้อมูลจริงๆกับตำรวจ ... คือที่โรงละครเนี่ยใครๆเขาก็เกลียดขี้หน้าพี่ซินดี้กันทั้งนั้นแหละค่ะ"
"นังตัวสำรอง ขี้อิจฉา เดี๋ยวแม่จะตบให้แอ๊บแตกเลยนี่"
ซินดี้ตรงเข้าไปหาโกกิกำลังจะตบแล้วชะงักหน้าตื่น
ซินดี้เห็นผีชุดแดงค่อยๆเดินเข้ามาข้างหลังโกกิแล้วจับหัวโกกิหักคอจนหมุนได้รอบ
ผีชุดแดงแสยะยิ้มน่ากลัว นางมองตะลึงแล้วกรี๊ดออกมาด้วยความหวาดกลัว
ทุกคนมองงงว่าเกิดอะไรขึ้น
"พี่ซินดี้เป็นอะไร"
กรี๊ดสุดท้ายแล้วหมดสติไป ทุกคนตกใจ ตั้งโอ๋กับกานดาช่วยกันประคองตัว
"พี่ซินดี้"

ห้องคนไข้ในโรงพยาบาล
ซินดี้หลับอยู่บนเตียง ตั้งโอ๋ยื่นหน้ามาดูด้วยความเป็นห่วง
"พี่ซินดี้ .... เวลาพี่หลับไม่ทำหน้าเหวี่ยงหน้าวีนพี่ก็ดูเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆที่ไม่มีพิษ
มีภัยอะไรเลยนะ น่าสงสารด้วยซ้ำ" แล้วนึกได้ "เอ.. อีตาหมวดนั่นหายไปไหนอีกแล้ว"
ตั้งโอ๋มองออกไปว่าบุลินไปไหน

บุลินคุยกับหมออยู่ สีหน้ามีความกังวลระดับหนึ่งที่รู้อาการซินดี้ หมอขอตัวออกไป
"ครับ คุณหมอ ขอบคุณมากครับ"
หมอเดินออกไป ตั้งโอ๋เข้ามาพอดี
"หมอว่ายังไงบ้างอ่ะ"
"หมอบอกว่า ซินดี้เป็นโรคซึมเศร้า แล้วก็ไบโพล่าร์"
"ไบโพล่าร์เหรอ ...ฉันเคยได้ยินมาว่าเป็นเพราะเคมีในสมองบกพร่อง คนเป็นไพโบล่าร์เลยมีอารมณ์สองขั้วที่แปรปรวนไปมา...จากคนที่ซึมเศร้าอยู่ๆก็จะเปลี่ยนเป็นฉุนเฉียว ไฮเปอร์หรืออาจจะมีทัศนคติที่ไม่ดี บางทีก็นำไปสู่อาการคลุ้มคลั่งก็ได้ใช่มั้ย"
"ก็ใช่ ถ้าควบคุมตัวเองไม่ได้ก็อาจจะถึงขั้นทำร้ายตัวเอง ทำร้ายคนอื่นหรือว่าลุกลามไปจนถึงฆ่าตัวตาย"
"โธ่พี่ซินดี้ ที่พี่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายก็เพราะพี่ซินดี้ไม่สบายนี่เอง"
"แต่มันรักษาได้นะ ถ้าซินดี้มารับการรักษากับหมอเฉพาะทาง"
ทิพย์กับโกกิเดินหน้าตื่นเข้ามากัน
"ฉันพึ่งไปส่งคุณแพรวากับคุณภาวัชขึ้นเครื่องไปสิงคโปร์ คุณแพรวาเป็นห่วงมาก สั่งให้ฉันมาคอยดูแล ซินดี้ซินดี้เป็นยังไงบ้าง"
ตั้งโอ๋บอก "ยังหลับอยู่ในห้องแน่ะค่ะ"
"โกกิไม่สบายใจเลย โกกิไม่ได้ตั้งใจทำให้พี่ซินดี้เป็นลมเลยนะคะ สาบานให้ก็ได้ค่ะ"
"อย่าพึ่งพูดอะไรเลยเข้าไปดูกันเถอะ"

โกกิกับทิพย์รีบเดินนำไปที่ห้องคนไข้ บุลิน ตั้งโอ๋เดินตาม

ทิพย์เปิดประตูเข้ามาในห้องคนไข้

ในห้องว่างเปล่า ซินดี้หายไปจากเตียง
"อ้าว ไหนว่านอนอยู่ไหนห้องไง" โกกิว่า
ตั้งโอ๋ บุลินตามเข้ามา
"ฮึ เมื่อกี้ยังหลับอยู่เลยแล้วนี่หายไปไหน"
"ผมจะลองไปดูข้างนอกนะครับ"
บุลินรีบเดินออกไป
"เดี๋ยวสิหมวด"
บุลินไปแล้วหันพูดกับทุกคน
"เราไปช่วยกันตามดีกว่า"
ทุกคนเอออวยแล้วออกจากห้องไปตามหาซินดี้กัน

ทิพย์ ตั้งโอ๋ โกกิวิ่งมาด้วยกันแล้วแยกย้ายไป โกกิกับทิพย์ไปด้วยกัน
ส่วนตั้งโอ๋วิ่งมาอีกทาง

บนดาดฟ้าโรงพยาบาล
ซินดี้ยืนเหม่ออยู่ริมระเบียง ตั้งโอ๋วิ่งเข้ามาเห็นเข้านึกว่าซินดี้จะฆ่าตัวตาย
"พี่ซินดี้อย่านะ อย่าทำอะไรโง่ๆนะ"
ตั้งโอ๋เข้ามาฉุดดึง ซินดี้พยายามสะบัดแต่ตั้งโอ๋ไม่ปล่อย
"พูดบ้าอะไรของแก"
"พี่อย่าฆ่าตัวตายเลยนะ โรคของพี่รักษาหายได้ เชื่อตั้งโอ๋เถอะ"
"บ้า ฉันไม่ได้มาฆ่าตัวตาย ฉันแค่ไม่อยากอยู่ในห้อง"
"โธ่อย่างนั้นเองหรอกเหรอ ตั้งโอ๋ใจหายหมด"
"แต่เมื่อกี้แกว่าอะไรฉันเป็นโรคอะไร"
โกกิเข้ามาเห็นแล้วชะงักแอบฟังที่มุมหนึ่ง
ตั้งโอ๋อึกอักไม่กล้าบอก "เออ...ก็"
"อย่ามาทาอ้ำอึ้ง บอกมาเดี๋ยวนี้ฉันเป็นอะไร"
"คือหมอบอกว่าพี่เป็นซึมเศร้าแล้วก็ไบโพล่าร์"
ซินดี้อึ้ง
"แต่พี่ไม่ต้องกลัวนะ หมอบอกว่ามันรักษาได้"
ซินดี้กลับกระชากตัวตั้งโอ๋เข้ามาถามเสียงเข้ม
"แกบอกเรื่องนี้กับใครที่เพลินพิมานหรือยัง"
"ยังจ้ะ ยังไม่มีใครรู้"
"งั้นแกต้องบอกทุกคนว่าฉันแค่เป็นลม ห้ามบอกว่าฉันเป็นโรคนี้กับทุกคนที่เพลินพิมานไม่อย่างนั้นแกตกงานอีกรอบแน่"
ตั้งโอ๋อึ้งกลืนน้ำลายเอื๊อก ตื่นกลัว
โกกิอมยิ้มมีแผนร้ายในใจขึ้นมา

ที่สถานีตำรวจ กานดาชี้ให้บุลินดูในคอมพิวเตอร์ที่เป็นคลิปตอนซินดี้โดนสาดน้ำกรด
"ภาพจากกล้องวงจรปิดตอนที่ซินดี้โดนสาดน้ำกรดค่ะ แต่คนร้ายใช้ทะเบียนปลอม แล้วก็ใส่หมวดกันน็อคปิดบังใบหน้า"
"ยังไงก็ต้องสืบให้ได้ว่าเป็นใคร" หมวดบุลินมองๆในจอคอม "ซูมที่รองเท้าสิ"
"ค่ะ"
กานดาซูมเข้าไปที่รองเท้าของคนร้าย เห็นเป็นรองเท้า safety แบบที่ช่างใส่กัน ลักษณะเป็นbootsครึ่งแข้ง
"นี่เป็นรองเท้าเซฟตี้แบบที่พวกช่างในโรงงานใส่กันนะ"
จ่ายอดกับจ่าโอคุมตัวผู้ต้องการหา 2 คน แต่งตัวแบบช่างโรงงานชุดหมีแล้วใส่รองเท้าแบบเดียวกับผู้ร้ายเข้ามา
จ่ายอดบอก "เฮ้ย จะต่อยกันไปถึงไหน จะเอาอีกสักข้อหามั้ย"
บุลินมองไปเห็นรองเท้าแบบเดียวกันรีบวิ่งเข้าไปดึงตัวชายคนหนึ่งมาดู ถาม
" น้อง น้องทำงานที่ไหน"
" โรงงานผลิตแบตตารี่รถยนต์ครับ"
บุลินตบไหล่ "ขอบใจมาก"
บุลินวิ่งออกไป กานดาร้องตาม
"พี่หมวดรอด้วย"
กานดาวิ่งตามบุลินออกไป

บุลินกับกานดาเดินเข้ามาในโรงงานแบตตารี่
"พี่หมวดโรงงานตั้งกว้างจะเจอมั้ย"
"ลักษณะคนร้าย" บุลินถาม
"ชายผิวคล้ำ ผอมสูงประมาณ 175"
คนงานที่ใส่รองเท้าเซฟตี้แบบเดียวกันเดินผ่านไปเป็นหมู่ บุลินมองตาม
หัวหน้าคนงานเดินเข้ามาหา
"สวัสดีครับมาพบใครครับ"
บุลินหยิบตราตำรวจออกมาแสดง
"พวกเราเป็นตำรวจ"
คนร้ายในชุดคนงานที่เดินผ่านไปเหลียวมามอง
บุลินหันสบตาเห็นพอดี รู้สึกมีพิรุธ
คนร้ายรีบวิ่งหนี บุลินกับกานดารีบวิ่งตาม

คนร้ายหนีเข้ามา บุลินกับกานดาตามหลังเข้ามาในตัวตึกแล้วเห็นว่าในห้องมืด
ฉับพลันแสงไฟจากรถแทรกเตอร์ขนาดเล็กก็สว่างจ้าใส่หน้าบุลินกับกานดาจนมองไม่เห็น พร้อมๆกับคนร้ายกดสวิทต์เทเศษเหล็กจากแทรกเตอร์ลงมา
บุลินกับกานดากระโดดหลบแทบไม่ทัน
บุลินตั้งตัวได้ก่อนรีบวิ่งไปหาคนร้ายที่ปีนรถลงมาจะหนี
บุลินบู๊เตะต่อยกับคนร้ายจนหมอบ ล็อคคอคนร้าย กรรโชกถาม กานดาตามเข้ามาฟังด้วย
"ใครใช้ให้แกไปสาดน้ำกรด"
คนร้ายไม่ตอบ
บุลินล็อคคอแน่น "จะตอบมั้ย!"
คนร้ายเจ็บ "โอ้ย...ซินดี้ครับ"
"อะไรนะ"
กานดาถาม "อย่าโกหก!! ใครจ้างแก"
"จริงๆครับผู้หญิงที่ชื่อซินดี้นั่นแหละที่จ้างผม!"
บุลินกับกานดายิ่งอึ้ง นึกไม่ถึง

"ซินดี้!! ซินดี้จ้างให้คนเอาน้ำกรดไปสาดหน้าตัวเอง"

อ่านต่อตอนที่ 4
กำลังโหลดความคิดเห็น