หัวใจและไกปืนตอนที่ 12
เฮียตงรับโทรศัพท์ของเล็กขาว
“ไงเล็กขาว ... ไม่เลวพาตัวมาได้จริงๆตำรวจเฝ้าเยอะขนาดนั้น เก็บไว้ล่อไอ้เชนทร์ที่โรงหนังนั่งแหล่ะเตี่ยกำลังจะไปขอดูหน้ามันหน่อย”
หมวยโทรหาสารวัตรเชลียงส่งข่าวเรื่องเล็กขาวจับตัวจันทร์แจ่มและชนายุสไป
"ครับ ... คุณหมวย"
“คุณอยู่ไหนตอนนี้”
“โรงพยาบาลคุณมีอะไร”
“ชั้นได้ยินเตี่ยคุยโทรศัพท์กับเล็กขาว ...ว่าเค้ากำลังไปที่โรงหนังกัน แต่ชั้นไม่แน่ใจว่าเล็กขาวจับตัวเด็กชนายุสหรือแจ๋มไป.... คุณไปดูหน่อยก็ดีนะ ... น่าจะเรื่องใหญ่”
“แล้วนี่คุณอยู่ไหน... คุณไปกับเตี่ยคุณด้วยมั้ย”
“เปล่าชั้นอยู่บ้าน... เตี่ยกำลังออกไป”
“ขอบคุณมากครับที่ส่งข่าวผมจะไปเดี๋ยวนี้”
“ระวังตัวด้วยนะคะ”
ราเชนทร์เดินเข้ามาในโรงหนังที่ดูเงียบร้างเกือบมืดสนิทราเชนทร์เดินเข้ามาอยู่กลางโรงหนัง
จอหนังติดขึ้นมา เขามองตามไปที่จอเห็นเล็กขาวที่เอาผ้าคลุมคนตัวเล็กเอาผ้าขึ้นไฟสาดมาเห็นแต่เงาทาบบนผ้าเล็กขาวคลุมผ้าเด็กเลือดสาดมาโดนผ้า
ราเชนทร์ช็อกไปแล้วเล็กขาว ก็เปิดผ้าโผล่หน้ามาใกล้กล้องแสยะยิ้มหัวเราะสะใจจอดับลงราเชนทร์ตะลึง ไฟสปอต์ไลท์ติดขึ้นเห็นนิ้ววางอยู่บนแท่นราเชนทร์เดินเข้าไปดูใกล้ๆราเชนทร์จะร้องไห้ แล้วเห็นคนเดินเข้ามาด้านหลังแล้วเห็นเป็นเล็กขาวเฮียตง
“ไม่ทันแล้วล่ะพี่เชนทร์... เหลือแต่นิ้วให้ไว้ดูต่างหน้านะคร๊าบ”
“ไอ้เล็ก...มึงทำเด็กทำไมกูอยู่นี่!!”
“ผมรู้พี่ต้องมา... แต่มันสายไปแล้วพี่... เด็กนั่นไปหาพ่อมันแล้ว”
ราเชนทร์หมดความอดทนเดินดุดันเข้าใส่เล็กขาวแต่ลูกน้องเฮียตงเข้ามาล้อมไว้ประมาณ 6-7คนหลังจากสู้กันอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายลูกน้องแพ้ราบคาบ
เฮียตงและลูกน้องร่วมยี่สิบคนยืนอยู่มุมสูง
เล็กขาวบอก “พอ”
สารวัตรเชลียงนำกำลังตำรวจมาจอดใกล้โรงหนังเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบเฉพาะกิจซะเป็นส่วนใหญ่
เล็กขาวเดินเข้ามาหาราเชนทร์ลูกน้องเฮียตงที่เหลือชักปืนออกมาเล็งไปที่ราเชนทร์
ราเชนทร์ชักปืนออกมาจ่อไปที่เล็กขาวเฮียตงมองอย่างไม่แยแส
“ตัวตัวกับกูดีกว่าไอ้เล็ก”ราเชนทร์บอก
“ใจเย็นดิพี่ ... อย่าโมโหผมมีของขวัญชิ้นพิเศษจะปลอบใจพี่นะ”
สปอต์ไลท์อีกดวงติดส่องไปที่จันทร์แจ่มที่ถูกมัดปากห้อยหัวอยู่ ราเชนทร์ตกใจกับไพ่ที่เหนือกว่าของเล็กขาว
“แจ๋ม”
“ถูกใจมั้ยพี่ของขวัญ ... แต่ยังเอาไปไม่ได้นะต้องตกลงกันก่อน”
“ตกลงอะไร”
จันทร์แจ่มโดนมัดแขวนลอยอยู่โดยเล็กขาวดึงเชือกอีกฝั่งหนึ่งเอาไว้
“ ที่เราพี่น้องชาวซุ้มเฮียตงมาพร้อมหน้ากันวันนี้เราจะได้รู้กันว่า ใครจะเป็นหนึ่งเดียวที่จะได้ใช้ไกทองและคนคนนั้นก็ต้องเป็นเล็กขาวไกทองเท่านั้น”
“มึงก็เป็นไปดิ”
“มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกพี่ ... แค่พูดอ่ะ... แต่มันต้องทำด้วย”
“ยังไง??”
“พี่วางปืนแล้วเดินมาหาผมช้าๆ”
ราเชนทร์มองหน้าเล็กขาวขยับเชือกให้เหมือนจะหลุดลงมาเสียงจันทร์แจ่มร้องดัง
สายสืบที่ปลอมเป็นคนขายล๊อตเตอรี่เข้ามารายงานสารวัตร
“เอาเลขอะดีครับ.... จะออกแล้วครับ 20 รอบนอกบนล่างน่าจะถูก”
สารวัตรเชลียงมองหน้า
“วันนี้หวยออกเร็วนะ ตั้งเวลาตรงกันหรือยัง อีกยี่สิบนาทีหวยออก”
สารวัตรเชลียงพยักหน้า รับรู้เข้าใจถึงโค๊ดที่สายสืบรายงาน
ฝ่ายชาญชัยเดินมาถึงหน้าห้องวิภา ซึ่งมีตำรวจเฝ้าอยู่ ชาญชัยยิ้มสุภาพ
“ไปยืดเสื้นยืดสายก่อนเถอะครับคุณตำรวจ เหนื่อยมาทั้งวันและข้างล่างมีร้านกาแฟดูใช้ได้เลยเดี๋ยวผมดูพี่วิภาเอง”
ตำรวจยิ้มง่วงๆ
“ก็ดีเหมือนกันครับขอบคุณครับ”
ชาญชัยเข้าห้องไป วิภาหลับอยู่ ชาญชัยลงนั่งหยิบอะไรบางอย่างออกมา สีหน้าจริงจัง
วิภาตื่นขึ้น ยังสะลึมสะลือฟูมฟายหาชนายุส
“ชนายุสอยู่ไหนลูก ชาญชัยเจอชนายุสมั้ย”
ชาญชัยเงียบ
“ทางตำรวจก็กำลังติดตามอยู่คงใกล้จะเจอแล้วละครับ พี่ต้องเข้มแข็งนะครับ ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นนะครับพี่”
ชาญชัยกอดวิภา วิภาสงบ หลับลง ชาญชัยชักเข็มฉีดยาออกมาจากตัว
ภายในโรงหนัง ราเชนทร์มองกัดฟัน วางปืนเดินเข้าไปเล็กขาว อย่างช้าๆ
“พอแล้ว พี่อย่าเดินเข้ามาใกล้ผมกลัว.... แล้วคุกเข่าลงช้าๆ"
เล็กขาวหันไปพูดกับจันทร์แจ่ม
"กี่ปีแล้วนะที่น้องแจ๋มควรจะเป็นหมอ ... นี่งัย ราเชนทร์ไกทอง ผู้ยิ่งใหญ่ ยิงได้แม้กระทั่งผู้หญิงท้อง แต่ยิงผู้หญิงท้องก็ได้น้องแจ๋มเป็นเมีย" ราเชนทร์ขยับตัวเข้าอีกที "อย่านะๆ ไม่งั้นน้องแจ๋มของพี่กลายเป็นลูกโป่งน้ำแตกโพล๊ะเลยนะ ”
“จะเอางัย”
“พี่ต้องเลือกแล้วหล่ะ เหมือนตอนที่พี่ต้องเลือกระหว่างคนท้องกับน้องแจ๋ม”
แล้วเล็กขาวก็โยนมีดคารัมบิตให้
ราเชนทร์มองหน้าเล็กขาว รีรอ
เล็กขาวปล่อยเชือกจันทรแจ่มให้หล่นลงมาอีกนิดนึง
“อ๊ะ.. อ๊ะอย่านะพี่... ต่อไปนี้จะไม่มีราเชนทร์ไกทอง.. เพราะพี่ต้องตัดนิ้วชี้นิ้วเพชรฆาตของพี่เอง.. พี่เลือกเอาระหว่างหัวใจหรือไกปืน”
ราเชนทร์มองหน้าเล็กขาวแบบตาไม่กระพริบตัดสินใจ แล้วเอามีดคารัมบิตหั่นฉับเข้าที่นิ้วชี้ซ้ายของตัวเอง
เล็กขาวตกใจ ไม่คิดว่าคนอย่างราเชนทร์ไกทองจะยอมทำขนาดนี้เพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียว
เล็กขาวหยิบไกปืนเข้ามาส่องที่หน้า
“.. หะหะฮ่ามือปืนผู้ยิ่งใหญ่ไม่เหลือนิ้วไว้เหนี่ยวไกปืนแล้วโว้ย ต่อไปนี้จะมีแต่ เล็กขาวไกทอง เท่านั้น”
มือของชาญชัยถือเข็มฉีดยาที่กำลังจะฉีดเข้าไปที่สายน้ำเกลือ เสียงวิภาพูดออกมา
“ชนายุส... ลูก... ชนายุส”
ชาญชัยตกใจชะงัก แล้ววิภาก็เพ้อต่อ
“พี่จะไปตามเค้าเอง พี่ไม่เหลือใครแล้ว ลูกพี่อยู่ไหน”
ชาญชัยเข้ามาที่เตียงปลอบ วิภากอดชาญชัยเหมือนเป็นที่พึ่งสุดท้าย ปล่อยโฮ ชาญชัยปลอบกอดกันกลมแบบคนดีสุดๆ
“ยังงัยผมก็ต้องตามหาหลานมาให้พี่ให้ได้ พี่ไม่ต้องห่วงนะครับ ตอนนี้ผมก็ให้พรรคพวกออกตามหาอยู่ครับ”
วิภาหลับสงบลง ชาญชัยเดินกลับไปฉีดยาที่ขวดน้ำเกลือ
พอดีกับเสียงประตูเปิดออกมา ชาญชัยยังไม่ไม่ได้ฉีดสลิงเข็มเข้าที่ขวด
ตำรวจบอก
“คุณชาญชัยครับ... ผมซื้อกาแฟมาฝากครับ”
ชาญชัยตกใจ ชักหน้าเกือบไม่ถูก รับกาแฟขอบคุณแบบขอไปที
“ขอบคุณครับ”
ชาญชัยรับแก้วกาแฟแล้วเดินออกไป
มือซ้ายของราเชทร์ใช้การไม่ได้แล้ว เจ็บปวด ได้แต่มองเล็กขาวอย่างแค้น จันทร์แจ่มมองตกใจกับคำพูดของเล็กขาว
“แจ๋มไม่เกี่ยว”
“ตอนนี้เกี่ยวแล้วพี่” เล็กขาวบอก
ราเชนทร์ค่อยลุกขึ้นมา
“เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าเอาปืนจ่อหน้า”
เป็นจังหวะเดียวกันที่ราเชนทร์เอามือพันผ้าเรียบร้อยแล้ว เล็กขาวเผลอ ราเชนทร์เอามีดคารัมบิตพุ่งเข้าปักเข้าที่อกเล็กขาว
“โอ๊ย”
เชือกหลุดออกจากมือเล็กขาว ราเชนทร์รับไว้ได้ น้ำหนักของจันทร์แจ่มกระชากราเชนทร์
เชือกฝั่งจันทร์แจ่มกระตุก เธอดิ่งลง ระหว่างนั้นราเชนทร์เอื้อมไปคว้าปืนของตัวเองที่วางไว้บนเบาะได้
แล้วลอยสูงขึ้นกลางอากาศสวนกับจันทร์แจ่มที่เชือกเหวี่ยงสวนกัน ทั้งคู่สบตากันในช่วงเวลาเดียวกันเล็กขาวลุกขึ้นเล็งปืนใส่ราเชนทร์ ราเชนทร์กำลังเหวี่ยงตัวผ่านจันทร์แจ่มมา ยกมือขวาขึ้นยิงถูกนิ้วหัวแม่โป้งเล็กขาวขาดกระเด็น เล็กขาวกุมมือตัวเองร้องลั่นทั้งเจ็บทั้งแค้น
“โอ๊ย...ไอ้เชนทร์...”
เล็กขวากัดฟัดอย่างเคียดแค้นฉีกชายเสื้อส่วนหนึ่งมาพันมือห้ามเลือดไว้
เล็กขาวหันไปสั่งลูกน้อง “ยิงมัน!! ”
กลุ่มลูกน้องไม่มีใครยิงราเชนทร์ ทุกคนยืนดูนิ่งๆ
เฮียตงยิ้มรู้จักถึงฝีมือของราเชนทร์ดีอยู่แล้ว
ราเชนทร์พาจันทร์แจ่มลงมาที่พื้นได้แล้วทั้งคู่มองหน้ากัน
ราเชนทร์เอาผ้าที่มัดปากออก
หน่วยสวาทค่อยๆเข้าจับกุมลูกน้องเฮียตงทีละคนอย่างเงียบๆ
เริ่มจากด้านหน้าห้องขายตั๋ว, มุมบันได และตามมุมต่างๆ สารวัตรเชลียงตามอยู่ด้านหลังค่อยๆ คืบเข้าไปใกล้
ทางด้านเฮียตงยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดจากมุมสูงแล้วเดินลงมา
เฮียตงเดินข้ามหัวเล็กขาวแบบเหมือนไม่เห็นหัวเล็กขาวเลย
“ว่างัย ราเชนทร์ไกทอง ลูกรัก …. ไม่มีใครสำคัญสำหรับเตี่ยเท่าราเชนทร์ไกทอง กลับมาอยู่กับเตี่ยนะลูกรัก”
เล็กขาวได้ยินคำที่เตี่ยพูด ถึงกับสะอึกกับคำพูดของเฮียตง
“เตี่ย”
“ไม่เสียแรงที่เตี่ยสอนมากับมือไว้ใจสมกับที่เป็นลูกรักของเตี่ยเป็นลูกชายคนเดียวของเตี่ย”
เล็กขาวคลานเข้าไปหาเฮียตงกอดเข่า กอดขา กอดไปหมดทุกส่วนทั้งรักทั้งแค้น แต่เเฮียตงก็ยังไม่หยุดพูดด้วยความแค้นกับความเสียใจ
“เตี่ย…แล้วผมหล่ะ"
“โถไอ้เด็กน้อย.. มึงยังเด็กอยู่ ไอ้เด็กกระจอกยังอีกไกล มึงไปไม่ถึงหรอกคำว่าไกทอง" เฮียตงหันไปพูดกับราเชนทร์ "ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในชีวิตเตี่ยไม่เคยมีใครอยู่ในสายตา ไม่เคยมีใครที่เตี่ยจะรักและไว้วางใจในฝีมือได้มากเท่ากับราเชนทร์ไกทองคนนี้คนเดียว ลูกรัก”
“เตี่ย… ทำไมพูดแบบนี้ ผมรักเตี่ยเหมือนพ่อแท้ๆ เตี่ยอย่าพูดอะไรออกมาอีกเลย … ผมรู้ว่าเตี่ยกำลังโกรธ .. หยุดพูดเถอะ เตี่ยผมทำทุกอย่างเพื่อเตี่ยนะ เตี่ยรู้มั้ยขนาดเตี่ยไม่ได้สั่ง ผมสั่งมันเองว่าให้มันยิงคนท้องตั้งแต่มันไม่ยอมยิงจนมันยอมยิง ทำไมเตี่ยไม่รักผมไม่ไว้ใจผม"
เล็กขาวพูดไปร้องไห้ไป เล็กขาวใช้มีดคารัมบิตแทงเฮียตงตาย เฮียตงล้มทั้งยืน
"เตี่ย…เคยมีสักครั้งนึงมั้ย ที่เตี่ยคิดจะรักผม ผมยอมไม่ได้ที่เตี่ยจะไม่รัก ผมทำทุกอย่างเพื่อให้เตี่ยรักผมบ้าง”
เล็กขาว ได้แต่กอดเตี่ยแน่นแล้วพูดว่า
“ผมรักเตี่ย”
สารวัตรเชลียงตรวจค้นตามห้องต่างๆในโรงหนัง
แล้วก็เจอศพของวินัย ซึ่งเป็นคนรูปร่างแคระ
ในตอนแรกตกใจในสัดส่วนคิดว่าเป็นชนายุส หลังจากนั้นเชลียงมองลงไปเห็นราเชนทร์
กับจันทร์แจ่มอยู่ด้านล่าง จึงสั่งให้หน่วยสวาทลงไปจับ
ราเชนทร์แกะผ้ามัดปาก แกะเชือกที่มัดแขนไว้ พอจันทร์แจ่มหลุดออกจากพันธนาการทั้งหมด
เธอตบเข้าที่หน้าของราเชนทร์ฉาดใหญ่
“นี่สำหรับสิ่งที่ปกปิดแจ๋มมาตลอด”
แล้วเธอก็คว้าเอาใบหน้าของราเชนทร์มาจูบอย่างดูดดื่ม
“ส่วนนี่ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่ทำเพื่อแจ๋ม”
ตำรวจกรูกันเข้ามายึดพื้นที่ไว้ได้ ลูกน้องเฮียตงแตกกระจายวิ่งหนีบ้าง โดนจับบ้าง ดูโกลาหล
ราเชนทร์กับจันทร์แจ่มกอดกันสงบนิ่ง
ด้านเล็กขาวหายตัวไปแล้ว
ตำรวจส่วนหนึ่งคืบเข้ามาล้อมราเชนทร์ ทุกคนหยุด
สารวัตรเชลียงเดินเข้าไปจ่อปืนใกล้ราเชนทร์ที่คลายกอดจันทร์แจ่ม เขาหันมองสารวัตร เดินเข้าหา ยื่นปืนให้เชลียง
ทุกคนที่ล้อมอยู่ขยับระวัง เชลียงยกมือปราม ราเชนทร์ส่งปืนให้ ลูกน้องเดินเข้ามาจะจับ
เชลียงห้าม
“ไม่ต้อง”
สารวัตรเชลียงพูดกับราเชนทร์
“พร้อมแล้วก็ไป”
“จะจากกันไปแบบนี้เหรอ” จันทร์แจ่มถาม
ราเชนทร์มองหน้าสารวัตรเชลียงนิ่ง สารวัตรเชลียงมองหน้าราเชนทร์แล้วมองที่นาฬิกา
“ผมให้เวลาคุณห้านาที”
สารวัตรเชลียงให้โอกาสราเชนทร์สั่งเสียกับคนรัก
“ทำไมต้องเป็นแจ๋มที่รู้เป็นคนสุดท้าย มีอะไรอีกมั้ยเกี่ยวกับพี่ ที่แจ๋มยังไม่รู้…”
ราเชนทร์มองหน้าเธอ
“นายราเชนทร์หรือชื่อจริง กุลยศ อภัยเดชเป็นมือปืนฆ่าคน เพราะความโกรธ เกลียดคนเลวพวกนั้นมันคิดว่ามันกำหนดชีวิตคนได้แค่ไกปืน" ราเชนทร์แค่นหัวเราะ "กรรม… มันคิดผิดก็แค่ไกปืนมันไม่เคยกำหนดชีวิตคนที่มันรักให้อยู่กับมันได้เลยแม้แต่คนเดียว”
ภาพต่างๆในอดีต ผ่านแทรกเข้ามา "แม้แต่ตอนนี้”
จันทร์แจ่มเงียบ พูดอะไรไม่ออก ราเชนทร์หมดแรงที่จะพูด ทันใดนั้นก็มีเสียงลอยมา
“น้า!!!”
ราเชนทร์มองตามเสียงชนายุสกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงมาจากด้านบน
“น้าเชนทร์ น้ามาช่วยผมเหรอ”
ราเชนทร์ไม่พูดอะไรวิ่งเข้าไปกอดชนายุส
ผละจากชนายุสไป ราเชนทร์เดินเข้าไปหามอบตัวกับสารวัตรเชลียง
“ที่ไม่เคยบอกแต่แรกเพราะถ้าแจ๋มรู้แจ๋มจะดีใจมั้ย”
เธอเงียบไม่ตอบ
“อีกนานแค่ไหนเราจะได้เจอกัน”
ราเชนทร์พูดแบบยิ้มๆ
“วันที่เห็นแสงสว่างวันที่หัวใจไร้ซึ่งไกปืนเราคงได้ยืนอยู่ด้วยกัน”
บริเวณหน้าประตูทางเข้าศาล
ราเชนทร์อยู่ในชุดนักโทษตีตรวนที่ขา กำลังเดินเข้าประตู เจอกับสารวัตรเชลียงที่ยืนอยู่
“ก่อนที่ทุกอย่างจะถูกตัดสิน ผมขอถามคุณอย่างลูกผู้ชาย ... คุณเป็นคนฆ่าพ่อของเด็กนั่นหรือเปล่า”
ราเชนทร์สบตาสารวัตรอย่างจริงจัง
“ผมไม่ได้ทำ”
“แต่คุณอยู่ในบ้านนั้น”
ราเชนทร์พยักหน้า
“แล้วทำไมถึงไม่ยิง”
“ผมคิดถึงลูก”
“ถ้างั้นใคร?”
“ถ้าผมรู้ สารวัตรคงไม่เห็นมันหายใจแล้ว”
พูดจบสารวัตรเชลียงก็ลุกออกไปจากห้อง
ที่ศาล ณ ห้องพิจารณาคดี วิภาให้ปากคำ
“เท่าที่รู้เค้าไม่เคยมีศัตรูกับใครที่ไหน เป็นคนจิตใจดี รักครอบครัว รักลูกน้อง วันนั้นดิชั้นกลับดึก ยังคุยโทรศัพท์กันอยู่ว่า เค้าจะเอาลูกเข้านอนเอง …นั่นคือประโยคสุดท้ายที่เราคุยกัน”
ชาญชัยบอก
“คืนนั้นผมไม่สบายทานยาแล้วนอนเลยครับ เลยไม่ได้เห็นเหตุการณ์ ไม่ได้ยินอะไรเลยครับ”
สารวัตรเชลียงบอก
“ผมได้ยินเสียงปืนก็เลยบุกเข้าไป สิ่งที่ผมพบเมื่อผมเข้าไปถึงก็คือ นายราเชนทร์ยิงปืนเข้าไปในบ้านโดยจูงใครสักคนออกไปในความมืด แต่ก็พอจะรู้ได้ว่ามีเด็กผู้ชายคนนึงที่ซ้อนมอเตอร์ไซด์หนีไปกับเค้าด้วย”
เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานบอก
“ตอนแรกเราเข้าใจว่าเป็นปลอกกระสุนคนละขนาด แต่ปรากฏว่าเป็นความเข้าใจผิดของพิสูจน์หลักฐานเราพบว่า ปลอกกระสุนขนาด 9มม. บวกพิเศษหรือบวกพีแม็กนั่มซึ่งบาดแผลจากรอยกระสุนมีความรุนแรงใกล้เคียง 11 มม.ตามที่เราคาดการณ์ไว้”
ชนายุสบอก
“ผมจำได้ครับว่าเป็นอาชาญชัยยิงครับ มันก็มืดครับ แต่ผมก็เห็นว่าอาชาญชัย”
อัยการฝั่งโจกย์ซักถามราเชนทร์
ราเชนทร์ตอบ “วันนั้นผมตั้งใจเข้าไปเพื่อยิงเฉลิมเกียรติ แต่ผมไม่ได้ยิง”
อัยการฝั่งโจกย์ซัก
“คุณไม่ได้ยิงเพราะอะไร”
“ผมคิดถึงลูกที่ป่วย”
“แล้วสุดท้ายคุณได้ใช้ปืนยิงในห้องผู้ตายหรือไม่”
“ยิง”
“ยิงใคร”
“ผมไม่รู้”
“คุณบอกไม่รู้แล้วคุณยิงทำไม”
“เพราะว่ามีมือปืนอีกคนในห้องนั้น”
“คุณก็เลยยิงสู้มัน?”
“เปล่าครับ ผมแค่อยากช่วยเด็ก”
“แล้วคุณช่วยเด็กยังไง”
“ผมยิงสู้กับมือปืนคนนั้นแล้วพาเด็กหนีไปด้วย
“คุณกำลังจะให้ผมเชื่อว่าเข้าไปในบ้านเพื่อลอบสังหารนายเฉลิมเกียรติ แต่แล้วคุณก็เปลี่ยนใจเพราะคิดถึงลูก จึงให้ไปยิงต่อสู้กับมือปืนที่ยิงนายเฉลิมเกียรติ แล้วพาเด็กชายชนายุสหนีออกจากบ้านไปแต่จากหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุเราพบแต่กระสุนขนาด 9พีแม็กนั่มซึ่งเป็นขนาดอาวุธปืนที่คุณใช้ใช่หรือไม่”
“ครับ”
“หมดคำครับ”
ชาญชัยยิ้ม
จันทร์แจ่มทั้งเครียดและเศร้า
“ขอพักการพิจารณาคดี”
เชลียงยืนฟังอยู่นอกศาล มือถือหน้ากากของชนายุส
บริเวณหน้าห้องนั่งรอก่อนเข้าไปในศาล
แม่ลูกเดินคุยกัน สารวัตรเชลียงนั่งดักรออยู่
“แม่ครับ... น้าคนนั้นเค้าจะติดคุกมั้ยครับ”
“ถ้าน้าเค้าทำผิดจริง เค้าก็ต้องรับโทษที่เค้าก่อไว้น่ะลูก”
“ผมไม่อยากให้น้าเค้าติดคุกครับ... น้าเค้าเป็นคนดี”
“แต่เค้าฆ่าป๋านะลูก”
“ไม่ครับ .. น้าเค้าไม่ได้ทำ น้าเค้าช่วยผม”
“ไม่เอาน่าลูก ถ้าเค้าไม่ได้ทำแล้วใครจะทำเค้าอยู่ในบ้านเรานะลูก”
สารวัตรเชลียงลุกขึ้นพูด
“อันนี้ของเราใช่มั้ย จ่าสมานเค้าเก็บไว้ให้ “
สารวัตรยื่นหน้ากาก
"ขอบคุณครับ อันนี้เป็นแว่นวิเศษครับ"
"วิเศษยังไง“
"วันที่ป๋าโดนยิง ป๋าให้เป็นของขวัญครับ มันเป็นแว่นแห่งความทรงจำ แค่กดปุ่มนี้ครับ"
ชนายุสยกหน้ากากขึ้นมากด เชลียงทำหน้าคิดๆ
ศาลอ่านคำพิพากษา
“………………….จากการสอบปากคำพยานแวดล้อมทั้งหมด พร้อมหลักฐานในที่เกิดเหตุจึงมีคำสั่งให้นายกุลยศ อภัยเดช..."
ทนายจำเลยบอก "ขออนุญาตปรึกษาศาล ขอเบิกหลักฐานชิ้นใหม่"
"ศาลอนุญาต ให้ใช้หลักฐานชิ้นใหม่ตามคำร้องของทนายจำเลย"
ที่จอเปิดโปรเจ็ตเตอร์ฉายภาพเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุเห็นเป็นภาพชาญชัยยิงอย่างชัดเจน
ชาญชัยเริ่มคลุ้มคลั่ง กระโดด ผลักดิ้นรนต่อสู้ขัดขืน
สารวัตรเชลียงขยับเข้ามาใกล้ขึ้น
ชาญชัยผลักเจ้าหน้าที่กระแทกกับตำรวจ ชาญชัยแย่งปืนตำรวจที่เข้ามา
ชาญชัยเล็งปืนไปที่ชนายุส ราเชนทร์พุ่งเข้ามาขวางรับกระสุนแทนชนายุส กระสุนเข้าที่ท้องของราเชนทร์ เขาเซเล็กน้อย แต่ยังคงปกป้องชนายุสไว้อยู่
ชาญชัยกำลังจะยิงซ้ำนัดที่ที่สอง กระสุนพุงออกไป สารวัตรเชลียงเข้ามาขวางไว้ พร้อมชักปืนยิงสวนไปที่ชาญชัย สารวัตรเชลียงล้มทั้งยืน … และเฮือกสุดท้ายก่อนจะสลบไป
ราเชนทร์ดึงปืนจากข้อเท้าสารวัตรเชลียงมายิงด้วยมือขวาแลกกันกับนัดสุดท้ายของชาญชัย
เสียงปืนดัง..ปัง!! กระสุนปืนเข้าที่หน้าอกราเชนทร์ล้มทั้งยืนทันที ชาญชัยล้มตึงด้วยเช่นกัน
ระหว่างราเชนทร์กำลังจะล้มลงภาพเหตุการณ์ทั้งหมดก็ไล่เรียงเข้ามาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น
ภาพที่แม่พ่อตาย, ฆ่าโจรตาย, ผู้หญิงท้องตาย เฮียตงตาย
ร่างของราเชนทร์ล้มกระแทกพื้น เลือดออกนองพื้น
คติเตือนใจ ... “มนุษย์มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ตอนนี้กำลังใช้กรรมนั้นอยู่”
หมวยอยู่ที่บ้านคนเดียว หน้านิ่งๆ ทำความเคารพรูปเตี่ยอยู่ที่บ้าน เหงาๆ
“คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะเป็นหรือเลือกที่จะไปได้… เราอยู่กันครบแล้วนะเตี่ย”
วิภาพาชนายุสมาที่วัด เอาพวงมาลัยมาไหว้ที่รูปพ่อ
“น้าเค้าเป็นคนดี น้าไม่เคยฆ่าใคร น้าไม่ได้ฆ่าป๋า น้าช่วยชีวิตผมจริงๆนะครับป๋า”
ผ่านเวลา ... สารวัตรเชลียงเดินสวนกับนายตำรวจใหญ่ท่านหนึ่งที่สำนักงานแห่งหนึ่ง
นายตำรวจใหญ่เดินเข้ามานั่งแล้วพูดกับสารวัตรเชลียง
“เรื่องการลาออกของคุณ ผมเห็นแล้วนะ แต่ผมยังไม่อนุมัติ… ตำรวจดีๆ อย่างคุณควรจะอยู่คอยปกป้องประชาชน”
“ครับ… พ่อผมท่านเป็นจ่าแก่ๆคนนึง ท่านเคยสอนผมไว้ว่าการเป็นตำรวจไม่ยาก แต่เป็นตำรวจที่ดีเป็นเรื่องไม่ง่าย ตอนนี้ผมไม่แน่ใจนักว่าผมเป็นตำรวจที่ดีหรือเปล่า”
“แต่สิ่งที่คุณทำอยู่มันคือหน้าที่หน้าที่ที่ต้องปกป้องประชาชน ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม .. จะประนีประนอมหรือแข็งกร้าว สถานการณ์จะเป็นตัวกำหนดเราเอง สิ่งที่ตำรวจต้องการมากที่สุดคือ
ความมุ่งมั่นความตั้งใจที่จะปกป้องประชาชนปกป้องแผ่นดินนี้ ด้วยจิตและวิญญาณต่างหากล่ะ ….. ผมให้เวลาคุณไปคิดดูอีกที คุณจะลาไปพักผ่อนให้โล่งๆซักพักก่อนก็ได้นะ ผมให้คุณลาพักได้เท่าที่คุณต้องการ”
สารวัตรเชลียงขับรถมากับจันทร์แจ่มมองดูถนนสวยสุดลูกหูลูกตา ระหว่างไปไร่ในฝันม รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นยิ้มละมุนของทั้งคู่
“พร้อมแล้วหรือยังครับสำหรับงานใหม่”
“ก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ค่ะ”
“พอไปถึงที่ไร่คุณก็จะดีขึ้นเองแหล่ะ”
ต่อมา ... รถจอดหน้าทางเข้าไร่
สารวัตรเชลียงบอกลาจันทร์แจ่ม
“ผมไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนเราจะได้เจอกันอีก แต่ขออวยพรให้คุณมีความสุขก็แล้วกัน”
สารวัตรเชลียงยื่นซองให้เธอ
“อะไรคะ”
“เอาเป็นว่าผมอนุญาตให้คุณเปิดดูได้ระหว่างทาง แล้วคุณก็เอาไปให้เจ้าของเค้าด้วย โชคดีครับ”
“ขอบคุณสารวัตรมากนะคะ สำหรับทุกสิ่งที่สารวัตรทำให้แจ๋มมาตลอด”
จันทร์แจ่มเดินเข้าไปในไร่
รถหมวยขับออกมาจากทางไร่จอดสวนกับจันทร์แจ่มที่เข้าไร่ไป
หมวยจอดทักสารวัตรเชลียงที่มองตามจันทร์แจ่ม
“มีไรให้ช่วยมั้ยคะสารวัตร”
สารวัตรมองแล้วนึกขึ้นได้
“พอดีรถผมเสีย ผมขอติดรถไปด้วยได้มั้ยครับ”
“ก็ไปดิ”
ระหว่างสารวัตรเดินผ่านหน้ารถหมวย ก่อนเปิดประตูเข้ารถ ถามหมวย
“รถคุณคุ้นๆนะ เคยขับชนใครมาก่อนมั้ย”
ระหว่างทางที่จันทร์แจ่มเดินเข้าไปไร่ก็เปิดซองที่สารวัตรให้ออกดู เป็นบัตรประชาชน
ของราเชนทร์ ขณะที่เขายืนหันหลังอยู๋ไกลๆ
เธอมองเห็นด้านหลังรู้ทันทีว่าเป็นราเชนทร์ แล้วเธอก็เดินเข้าไปด้วยความดีใจ แต่ขณะเดียวกันก็โกรธจะร้องไห้
“ทำไมทำแบบนี้ คิดว่ามันสนุกนักรึไง ปล่อยให้คนเค้าเสียใจอยู่ได้เป็นเดือนๆ รู้มั้ยว่า มันแย่แค่ไหน ไม่แคร์ไม่ห่วงกันเลยใช่มั้ย ทำไมต้องเป็นแจ๋มที่รู้คนสุดท้ายทุกที”
ราเชนทร์เงียบ
“ที่พูดนี่ไม่สนใจเลยใช่มั้ย”
ราเชนทร์หันกลับมา... ทว่ากลายเป็นคนอื่นไม่ใช่เขา ผู้นั้นเดินออกไป
จันทร์แจ่มตกใจ ตาค้าง
“แล้วทำไมไม่ใช่พี่”
เธอยืนร้องไห้ตรงนั้นเลย
แล้วก็มีเสียงหนึ่งลอยมาจากด้านหลัง
“แล้วถ้าแจ๋มรู้แต่แรกแจ๋มจะดีใจมั้ย”
เธอหันกลับมากอดราเชนทร์ แล้วชนายุสก็วิ่งเข้ามา
“พี่แจ๋ม…. มาอยู่กับเราที่นี่หรือเปล่า”
จันทร์แจ่มมองหน้าราเชนทร์อมยิ้มแบบเขินๆงอนๆ
“ไม่ล่ะจะกลับแล้ว”
“เอ้า… ค้างที่นี่เหอะกลับบ้านไปก็ไม่มีใครนะ”
“อย่าเลย… ขอบคุณมากค่ะ”
“แจ๋มบ้านที่ไม่มีใคร เปิดไฟรอมันเหงานะ”
จันทร์แจ่มมองหน้าราเชนทร์
“แต่บ้านที่เปิดไฟรอแล้วไม่มีใครกลับมามันเหงายิ่งกว่านะ”
ทั้งสองคนเดินอยู่ที่วิวสวยๆ พระอาทิตย์กำลังตก
สองคนเดินเข้ามา ราเชนทร์ถือปืนไกทองมาด้วย
“พี่ยังจะใช้มันอีกหรอ”
ราเชนทร์มองหน้าจันทร์แจ่ม
“หัวใจหรือไกปืน”
แล้วราเชนทร์ก็ขว้างปืนทิ้งไป
โปรดติดตาม "หัวใจและไกปืน" ซีซั่น 2 เร็วๆนี้