xs
xsm
sm
md
lg

หัวใจและไกปืน ตอนที่ 5

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หัวใจและไกปืน ตอนที่ 5

ราเชนทร์สีหน้าเคร่งเครียด เมื่อฟังหมอพูดถึงอาการของลูกชาย

“อาการของลูกคุณ ร้ายแรงกว่าที่ประเมินเอาไว้มาก”
บดินทร์อยู่ในห้องไอ.ซี.ยู. ไม่ได้สติ หน้าซูบซีดมีเครื่องช่วยหายใจเสียบอยู่
“จากที่เคยคิดว่า ล้างไตเพื่อประทังอาการไปก่อนคงจะไม่ทัน เด็กต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนไตโดยเร็ว เพราะไตของแกเกือบจะใช้การอะไรไม่ได้แล้ว”
“ไตผมได้มั้ย”
จันทร์แจ่มมองหน้าราเชนทร์ สะอื้นหนัก หมอถอนใจ ส่ายหน้า
“เนื้อเยื่อของคุณซึ่งมีอายุขนาดนี้ กับของเด็กมันต่างกันเกินไปครับ”

ราเชนทร์เครียดมาก เขากลับมาที่บ้านเช่า งัดไม้กระดานพื้นบ้าน ข้างใต้มีลังห่อด้วยพลาสติกกันน้ำอย่างดี เขารีบร้อนแกะพลาสติกออก มีกล่องไม้เก่าๆ ด้านในเป็นปืนกระบอกคุ้นเคย ไกที่ยิง เป็นไกทองลายเดียวกับของเล็กขาว เสียงพูดคุยระหว่างหมอกับเขา ยังคงดังก้องในหู
“เพื่อลูกผม ไม่มีอะไรยากหรอกครับ”
“คงต้องรอไตผู้บริจาค ที่เข้ากับเด็กได้”
“แล้วค่ารักษาต้องใช้เงินอีกเยอะมั้ยครับ”
“ค่าใช้จ่ายที่จะตามมา น่าจะมากกว่านี้อีกหลายเท่าครับ”
“เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา”

ราเชนทร์มาที่ซุ้มเฮียตง นึกถึงคำพูดที่คุยกับจันทร์แจ่มก่อนหน้านี้
“ไอ้หนูต้องไม่ตาย”
“แจ๋มขอโทษ แจ๋มช่วยพี่ไม่ได้เลย”
“แจ๋มช่วยพี่มามากแล้ว”
“พี่ยังไม่ได้บอกแจ๋มเลยว่าพี่จะไปหาเงินมาจากไหน”
“แจ๋มไม่ต้องรู้หรอก”
ราเชนทร์เดินมาหยุดที่หน้าบ้านเฮียตง เดินเข้าไปอย่างมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว เล็กขาวเดินออกมาขวางไว้ มองปืนไกทองที่เอวราเชนทร์
“เตี่ยอยู่ไหน”
“ขอปืนก่อน”
“เล็ก พี่รีบ อย่าเยอะ”
“ผมไม่รีบ”

เล็กขาวเอาปืนตัวเองวางลงตรงหน้าให้เห็นว่าไกทองเหมือนกัน ราเชนทร์ไม่สนใจ มองไปชั้นบนจะเดินขึ้นไป เล็กขาวขวางไว้ เอาปืนขึ้นส่อง ราเชนทร์ตบปืนเล็กขาว จะชักปืนตัวเองออกมาขู่ แต่เล็กขาวปัดปืนของราเชนทร์กลิ้งไปตามพื้น ทั้งสองต่างจะไปคว้าปืนของตน ทั้งคู่ต่างคว้าปืนได้ หันมาจ่อใส่หน้ากัน เฮียตงตวาดลงมา
“พอ กัดกันยังกะหมา”
ทั้งสองหอบใส่กัน เล็กขาวยิ้มพอใจตัวเอง
“ฉันเอาปืนจ่อหน้าพี่เฉยเลย ครั้งที่เท่าไหร่เเล้ว สอง”
ราเชนทร์กัดกรามแน่น “ไม่มีครั้งที่สามหรอก”
ราเชนทร์โยนแม็กกาซีนปืนของเล็กขาวคืนให้ เล็กขาวหน้าเสีย แล้วราเชนทร์ก็ส่งปืนของตัวเองให้กับเฮียตง
“กินข้าวหม้อเดียวกันแท้ๆ ว่ามา”
“ผมขอเบิกเงินส่วนที่เหลือก่อน”
“ใช้เงินเก่งนะเนี่ย เราอ่ะ งานยังไม่เริ่มเลย” เล็กขาวแหย่
ราเชนทร์ไม่มองเล็กขาว “ผมลงมือได้เลย”
“พร้อมเหรอ”
ราเชนทร์พยักหน้า
“ให้เล็กขาว ชี้เป้านะ”
“ไม่ต้อง เอาที่อยู่มา ผมมีรูปแล้ว”
“หารถให้เอาป่ะ” เล็กขาวถาม
ราเชนทร์มองแต่เฮียตง “ทั้งหมดผมจัดการเอง เตี่ยเตรียมตังค์ส่วนที่เหลือไว้ให้ผมเลยละกัน เสร็จงานโอนมา ไม่งั้น ผมมาเอาเอง”
“ได้ ตามนั้น”
“อย่าช้านะ”
“ไม่ได้ยิงคนมานานโข เกิดร้อนวิชาอะไรขึ้นมาตอนนี้”
ราเชนทร์ไม่พูดอะไร มองหมาใหญ่สองตัว ที่ยังคงกินข้าวอยู่ในกะละมัง ขู่กันไปมาเบาๆ
“ฮื่อ”

เล็กขาวทำเสียงหมา แต่ตายิ้ม ขู่ล้อเล่นใส่ราเชนทร์ เฮียตงเอาปืนที่ริบมาวางคืนให้ตรงหน้าราเชนทร์

ชนายุสยื่นแขนที่มีรอยเขียนด้วยปากกาคล้ายรอยสักมาหยิบปืนของเล่น
เด็กน้อยถือปืนย่องๆ ไปตามด้านหลังโซฟา เฉลิมเกียรติเดินกลับมาจากทำงานพร้อมกับชาญชัย ชนายุสเอาปืนยิงใส่ชาญชัย
“ปังๆ”
ชาญชัยทำเป็นล้มลง แล้วหัวเราะ
“โอ่ย อาทำอะไรผิด”
เฉลิมเกียรติดุลูกชาย “เล่นอะไรอ่ะลูก แล้วนี่ ไปเอาปากกาอะไรมาเขียนแขนเล่นอีกแล้ว”
“สักมา”
“ไปเอาตัวอย่างมาจากไหนเนี่ย”
ชาญชัยยิ้ม “เด็กอ่ะพี่ ไม่ดูโทรทัศน์ก็เล่นเกมมั้ง”
วิภาเดินถือน้ำมาให้ “ยังไม่ไปเช็ดออกอีก แม่บอกแล้วไง ไม่ให้เขียน”
เฉลิมเกียรติอ่อนใจ “เลิกให้ลูกเล่นเน็ตซะทีล่ะมั้ง”
“ไม่เอานะลูก ไปจำอะไรมาก็ไม่รู้”
ชนายุสยิ้ม
“มีอะไรกินมั่งอ่ะวันนี้” เฉลิมเกียรติเดินไปกับวิภา
“ยังไม่เสร็จเลย กลับซะเร็ว จะเอาโล่ห์สามีดีเด่นเหรอ” วิภาพูดล้อเล่น
ชาญชัยมองเฉลิมเกียรติ วิภา ชนายุสเดินตามกันไป ชนายุสหันหลังกลับมามองอา ยิ้มให้ ชาญชัยทำนิ้วเป็นปืน จะยิงเฉลิมเกียรติจากด้านหลัง ชนายุสหัวเราะ เอาปืนในมือยิงใส่ชาญชัยเสียก่อน ชาญชัยยิ้ม กุมอกตัวเองล้มลงอีกครั้ง ชนายุสหัวเราะร่วน วิภาบ่น
“หัวเราะอะไรนัก มา ไปเลย ขัดออกให้หมดเลย”
วิภาดึงลูกออกไป

ราเชนทร์นอนก่ายหน้าผากหลับอยู่ภายในคอนโดฯของหมวย เสียงหมาเห่าเเว่วมาไกลๆ ราเชนทร์ยังคงหลับอยู่ด้วยความอ่อนเพลีย เขาฝันร้ายกระสับกระส่ายเหงื่อแตก ได้ยินเสียงไขกุญแจก่อกแก่ก ลืมตาคว้าปืนที่เอว ลุกขึ้นนั่งระวังตัว มองไปที่ประตู เห็นหมวยถือของผลักประตูเข้ามา บ่นอุบ
“ซวยจริงๆ เจอข้างห้องเลี้ยงหมา ไหนว่าห้ามเลี้ยงสัตว์ หิวยัง”
ราเชนทร์นิ่งคิด ส่ายหน้า

เสียงหมาข้างถนนเห่าคนแปลกหน้า จันทร์แจ่มเดินนำสารวัตรเชลียงซึ่งเดินบ่นตามหลังมาในชุดนอกเครื่องแบบ มาแถวห้องเช่า
“จะเห่าอะไรนัก แล้วนี่มันใช่เรื่องของตัวมั้ยเนี่ย เฮ้อ”
“ก็บอกแล้ว ว่าไม่ต้องตามมาก็ไม่เชื่อ”
“ทำไมไม่ให้พ่อเขาจัดการเอง เรื่องของลูกตนเเท้ๆ”
“วิ่งหาเงินขาขวิดตายไปแล้วมั้ง”
“เจ้าตัวอยู่บ้านป่ะ”
“ไม่รู้ มือถือก็ไม่เปิด”
“มาเอาอะไรมั่งเนี่ย”
“ของเล่นกับผ้าห่ม เด็กมันติดของมัน ทำไงได้”
สารวัตรเชลียงมองรอบด้าน เป็นห่วง
“ทำไมแจ๋ม”
“แจ๋มมันเป็นคนแบบนี้แหละ”
จันทร์แจ่มเดินล้วงกุญแจนำไปบ้านราเชนทร์ เสียงหมายังคงเห่าต่อเนื่องอยู่ จันทร์แจ่มเปิดประตูเดินนำสารวัตรเชลียงเข้ามาภายในบ้านเช่าราเชนทร์ ไม่มีใครอยู่ สารวัตรเชลียงไม่ถอดรองเท้ารอยรองเท้าเปื้อนโคลนเห็นชัด
“เข้าบ้านคนอื่น หัดถอดรองเท้ามั่งดิ”

สารวัตรเชลียงเดินสำรวจในห้องราเชนทร์
ขณะที่จันทร์แจ่มรื้อหาผ้าขนหนูในตระกร้ากับตุ๊กตาเด็กเล่นสองสามชิ้น
“ผืนไหนนะ น่าจะผืนนี้”
สารวัตรเชลียงมองพื้นกระดานที่ราเชนทร์งัดเอาปืนไป เขาก้มลงสำรวจ หันมองจันทร์แจ่ม
“สภาพยังกะผ้าขี้ริ้ว”
“ไม่เคยเป็นเด็กรึไง ทั้งกัด ทั้งดึง ทั้งดม รักจะตาย แล้วนั่นไปเหยียบท่าไหนพื้นทะลุเลย”
“รอยเหมือนโดนงัด เหมือนซ่อนอะไรไว้”
“ทองคำแท่งมั้ง พื้นคงผุ ไป เดี๋ยวมืด”
สารวัตรเชลียงมองกาแฟกระป๋องที่มีหลอดเสียบคาอยู่ หลอดพับหักครึ่งทิ่มปลายที่ดูดลงไปในกระป๋อง
“อือ นี่ฟังอยู่เปล่าเนี่ย”
“นี่ บ้านที่เขาอยู่ไม่มีรูปสักใบเลยเหรอ”
จันทร์แจ่มหยิบรูปบดินทร์ที่เหน็บอยู่ตรงกระจกมาให้
“นี่ไง”
“รูปตัวพ่อสิ หน้าตายังไง”
“หล่อสู้สารวัตรไม่ได้หรอก”
“อย่าล้อสิ อยากปฎิเสธนะ แต่หลักฐานมันฟ้อง”
จันทร์แจ่มค้อน เดินออกจากบ้านไป สารวัตรเชลียงมองห้องโดยรอบ หลอดที่เสียบคากล่องนมอยู่ก็ถูกพับหักครึ่งทิ่มปลายหลอดลงไปในกล่องนมเช่นกัน

หมวยเอาอาหารออกจากเตาไมโครเวฟเดินมาวางตรงหน้าราเชนทร์ซึ่งดูดน้ำจากหลอด แล้วก็พับหักหลอดทิ่มปลายลงไปในขวด
“ทำไมต้องทำงั้นด้วย”
“หือ ทำอะไร”
“พับปลายหลอดทิ่มลงไปอ่ะดิ”
“เคยมือ แมลงวันมันชอบตอมปากหลอด ไปดูดซ้ำขาแมลงวันสกปรก”
หมวยดึงขวดน้ำมา ดูดหลอดเดียวกับราเชนทร์ แล้วส่งคืนให้
“แล้วงี้สกปรกมั้ย”
ราเชนทร์รับขวดมา หักปลายหลอดพับทิ่มลงไปในขวดเหมือนเดิม ไม่ตอบอะไร
“ตกลง เตี่ยเขาถามอะไรเรื่องหมวยมั่งรึเปล่า”
ราเชนทร์ส่ายหน้า “เขาคงไม่อยากให้พี่รู้เรื่องอะไรเท่าไหร่หรอก”
“เบอร์ใหม่หมวยเขาไม่รู้นะ พี่ไม่ต้องไปบอก หมวยอยู่ที่ไหนก็อย่าให้เขารู้”
“เตี่ยเขาไม่ปล่อยให้หมวยหายไปเฉยๆ หรอก”
“ก็ไม่ได้คิดจะซ่อนอะไร แค่ไม่อยากให้รู้ ถ้าเจอก็เจอ เขาจะมาทำอะไรหมวย”
“ระวังตัวหน่อยก็แล้วกัน พี่มาส่งข่าวแค่นี้แหละ”
ราเชนทร์ทำท่าเหมือนจะกลับ
“กินข้าวด้วยกันก่อนสิ เดี๋ยวไปไหนต่อเนี่ย”
ราเชนทร์ไม่ตอบอะไร แล้วไปที่ลานจอดรถของคอนโดฯ สตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ แต่ไม่ติด
“เบาๆ ใจเย็นๆ น้ำมันหมดหรือเปล่า”
ราเชนทร์เซ็งๆ ดูนาฬิกา
“ขึ้นรถไป เดี๋ยวไปส่งให้”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องดีกว่า”
“หมวยเด็กเจ็ดเดือนนะ ธรรมชาติยังห้ามหมวยไม่ได้เลย พี่คิดว่าหมวยจะฟังพี่เหรอ”
“พี่ไปแท็กซี่ก็ได้”
“สัญญา ไปส่งเฉยๆ แล้วแยกกัน ไม่กวนชีวิตส่วนตัวพี่หรอก”
ราเชนทร์ถอนใจ เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถของหมวย

เฮียตงมองรูปหมวยในกรอบรูป แล้วก็ทุบแตก ก่อนหันมาบอกกับเล็กขาว
“ตามหามาให้ได้ ว่าหมวยหลบไปอยู่ที่ไหน”
“หนีตามพี่เชนทร์ไปเปล่า”
เฮียตงตวัดหางตามอง “เชนทร์มันมีดีอะไร”
“ไม่มี ผมแค่เห็นสองคนนั่น มันมองกันแปลกๆ เตี่ยว่ามั้ย”
“ไอ้เชนทร์ มันไม่กล้ากินบนเรือนขี้บนหลังคาหรอก”
“เตี่ย พี่เชนทร์มันขี้บ่อย เป็นนกท้องเสียเลย ตรงไหนมันก็ขี้ มันเคยขี้รดหน้าเตี่ยมาแล้วครั้งหนึ่ง ทำไมคราวนี้ มันจะขี้รดหัวใจเตี่ยไม่ได้”
“ไอ้เล็ก”
“ครับ”
“เอ็งบอกว่า ไอ้เชนทร์มันจะร้อนเงิน จะเอาไปทำอะไรนะ”
“รักษาลูก”
“ไปพาลูกมันมารักษาที่นี่ที ไป”

เล็กขาวมองเฮียตง ไม่แน่ใจว่าพูดจริงหรือไม่

กลางคืน รถของสารวัตรเชลียงแล่นเข้ามาจอดภายในลานจอดรถของโรงพยาบาล
จันทร์แจ่มหันมาบอก
“ขอบคุณมากนะ พาสารวัตรเสียเวลาย้อนไปย้อนมา”
“ไม่เป็นไร” สารวัตรปลดเข็มขัดนิรภัย จันทร์แจ่มแปลกใจ
“จะลงไปทำไม”
“เสร็จงานแล้วไล่ส่งเลย”
“เปล่า ก็เดี๋ยวจะเสียเวลา ไม่มีอะไรแล้ว”
“เลี้ยงกาแฟสักแก้วก็ยังดี”
“อ่ะๆๆๆ ไป ไป งั้นก็ฝากด้วย”
จันทร์แจ่มเอาสัมภาระวางบนตักสารวัตรเชลียง แล้วลงเดินลิ่วไป สารวัตรหนุ่มยิ้มอ่อนใจ

กลางคืน ราเชนทร์เดินมาตามทางเดินในโรงพยาบาล หมวยเดินตามเคียงกันมา มองโน่นมองนี่
พร้อมถือขวดน้ำดูดมาด้วย เธอยื่นขวดน้ำให้ราเชนทร์ ราเชนทร์ส่ายหน้า
“รังเกียจ”
ราเชนทร์รับขวดน้ำมาดูดหลอดเดียวกันกับหมวยแล้วก็พับหลอดหักลงเหน็บปากขวด หมวยยิ้มพอใจ
“ลูกป่วย”
ราเชนทร์พยักหน้า “ขอบใจนะ”
“รู้ ไม่ต้องไล่ ลงมาเข้าห้องน้ำ”
“พี่ขอตัวนะ”
“พี่ต้องกลับมาฆ่าคนอีกเพราะเหตุนี้ใช่มั้ย”
ราเชนทร์ถอนใจ ส่ายหน้า
“มันเป็นผลจากที่พี่ฆ่าคนอื่นต่างหาก”
หมวยมองชายหนุ่มเดินจากไป ราเชนทร์หันกลับมา
“กรรมมันมีจริงนะ เชื่อพี่”
ราเชนทร์เดินดุ่มจากไป

จันทร์แจ่มยืนอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำของโรงพยาบาล มองตัวเองแล้วถอนหายใจเหนื่อยหน่าย อึดใจหนึ่งหมวยก็เดินออกมาจากห้องส้วม ล้างมือยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจกข้างๆ มีเรื่องให้ไม่สบายใจอยู่เหมือนกัน สองสาวยืนนิ่งมองตัวเอง แล้วก็ชำเลืองมองกัน จันทร์แจ่มทักทายเก้ๆ กังๆ
“สวัสดีค่ะ”
หมวยพยักหน้าให้ ต่างคนต่างนิ่งคิด
“เราเคยเจอกันมาก่อนมั้ย”
“นั่นน่ะสิ ไม่น่านะ”
“เจอกันที่เมืองนอกรึเปล่า”
“อ๋อ ถ้างั้นชัวร์ เราไม่เคยเจอกันหรอกค่ะ ทางนี้ไปไกลสุดก็ปทุมธานี”
“หน้าคุ้นมากเลยนะคะ”
“เหมือนกัน หน้าเราคงโหล ขอตัวก่อนนะคะ”
“ตามสบายค่ะ”
จันทร์แจ่มเดินหายเข้าไปด้านหลังประตูห้องส้วม หมวยยังคงครุ่นคิด แล้วก็พยายามไม่ใส่ใจ หยิบลิปสติกขึ้นมาเติมปากแดงจัด พอเติมหน้าเสร็จ จันทร์แจ่มออกมาจากห้องส้วมล้างมืออีกที หมวยเทลูกอมใส่มือตัวเองใส่ปาก ยิ้มให้จันทร์แจ่ม
“หน่อยมั้ยคะ”
จันทร์แจ่มตาโต “หนูมีกลิ่นปาก”
หมวยหัวเราะ “เปล่าๆๆ แค่อยากมีน้ำใจ เผื่อจะไปโพสต์ชื่นชมในเฟซบุ้ค”
“ไม่ต้องห่วง มีคนฟอลโล่อยู่สองคน เป็นเจ้าหนี้ทั้งคู่”
จันทร์แจ่มยิ้มขำ พูดเล่นๆ แล้วแบมือ หมวยเทลูกอมให้ ลูกอมออกมา 4-5 เม็ด
“อุ๊ย”
“ไม่เป็นไร กินเอาอิ่มเลยดีกว่า”
จันทร์แจ่มยิ้ม เทใส่ปากหมดทั้ง 4-5 เม็ดนั้น
“เผ็ดนะ”
“นั่นน่ะสิ”
จันทร์แจ่มจะบ้วนทิ้งก็เกรงใจ เธอค่อยๆ แลบลิ้นออกมา ยิ้มๆ หมวยเห็นจันทร์แจ่มแลบลิ้น นึกถึงภาพที่เธอเห็นหน้าจอโทรศัพท์ของราเชนทร์ตอนโทรเข้ามา หมวยตาโต แววตาเปลี่ยนไปทันที ไว้ตัว ก้าวร้าว สร้างเกาะ จันทร์แจ่มยังขำตัวเองที่อมลูกอมจนเผ็ด
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ชื่อแจ๋มค่ะ”
“เช่นกันค่ะ ชื่อหมวย เป็นเมียพี่ราเชนทร์ค่ะ”
รอยยิ้มจันทร์แจ่มหายไปทันที หมวยกอดอกเอียงคอมอง จันทร์แจ่มจำหมวยได้ในนาทีนั้นเอง เธออึ้งไป ทำอะไรไม่ถูก หมวยเก็บเครื่องสำอางลงกระเป๋า
“ถ้าจะตบกันเรื่องผู้ชาย ไว้วันหลังนะ เห็นแก่ลูกพี่เชนทร์ที่ป่วยอยู่”
“พี่เชนทร์พาเธอมาทำไม”
“พามาให้ลูกไหว้น่ะสิ คิดมากน่า”

หมวยเดินออกจากห้องน้ำไป จันทร์แจ่มมึน ทำอะไรไม่ถูก

ราเชนทร์ยืนกดลิฟท์รอขึ้นอยู่
สารวัตรเชลียงเดินเข้ามาหยุดยืนรอถือของพะรุงพะรัง ราเชนทร์เห็นก็ตาโตยืนคอเเข็ง สารวัตรเชลียงเพิ่งเห็น
“เอ้า มาส่งอวัยวะเหรอ”
“หือ”
สารวัตรเชลียงทำท่าจับพวงมาลัยรถ
“วันก่อนบอก มาส่งไต”
“อ๋อ เอ่อ ใช่ครับ”
“ส่งของบริจาค ได้บุญดีนะ”
“ผมทำบาปมาเยอะ”
ราเชนทร์ยืนรอลิฟท์อย่างเก็บอาการ
“โรงพยาบาล ลิฟท์ช้าหน่อย กลัวคนไข้หัวใจวาย”
สารวัตรเชลียงพูดเล่นๆ ราเชนทร์พยักหน้า อึดอัด
“มาเยี่ยมไข้ลูกศิษย์คนรู้จักกันน่ะ”
ราเชนทร์พยักหน้า จะเดินหนีไป
“ผมเดินขึ้นดีกว่า”
“อุ่ย ไม่ต้อง ลิฟท์มาแล้ว”
สารวัตรเชลียงจับมือราเชนทร์ไว้ ราเชนทร์กระตุกกึก สะบัด แต่พยายามเก็บพิรุธ สารวัตรเชลียงชะงักนิดหนึ่ง สงสัย
“ขอโทษครับ”
ราเชนทร์ฝืนยิ้มให้ “ผมบ้าจี้ครับ”
ทั้งสองนิ่ง ไม่มองหน้ากัน เสียงลิฟท์ดังเตือนทำลายความเงียบ ราเชนทร์ก้าวเข้าไปในลิฟท์ สารวัตรเชลียงยืนนิ่งอยู่ด้านนอก
“เอาเลยครับ ผมรอขึ้นไปพร้อมเพื่อน”
“ครับ”
“โชคดีครับ”
ราเชนทร์พยักหน้า ประตูลิฟท์กำลังจะปิดลง สารวัตรเชลียงมองสแกนหัวจรดเท้า เเล้วก็สะดุดตรงขวดน้ำในมือราเชนทร์ที่ถือมาจากหมวย เพราะมีหลอดพับอยู่ ประตูลิฟท์กำลังจะปิดลง สารวัตรเชลียงโผเข้าไปที่ลิฟท์ แต่ประตูลิฟท์ปิดลงไปเสียก่อน เขาจึงรีบวิ่งหาบันไดหนีไฟ
ราเชนทร์ยืนงุ่นง่านเดินวนไปมา หาทางออกอยู่ภายในลิฟท์ ว่าจะเอาอย่างไรดี ภาพสุดท้ายที่เห็นเมื่อสักครู่เหมือนสารวัตรเชลียงเอะใจอะไรบางอย่าง พยายามตามเข้ามาในลิฟท์ ขณะที่สารวัตรเชลียงวิ่งขึ้นบันไดหนีไฟ เขาตบๆ ด้ามปืนที่อยู่ตรงเอว
“มีพิรุธ มีพิรุธ”
ราเชนทร์ถอนหายใจเดินวนไปมา หยิบปืนไกทองขึ้นมา เช็คดูความพร้อมแม้ว่าจะไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม
สารวัตรเชลียงวิ่งขึ้นบันไดหนีไฟมา ผลักประตู วิ่งไปตามทางอย่างรีบเร่ง ตรงไปยังลิฟท์ กดปุ่มรัวๆดักทันที ราเชนทร์กำลังงุ่นง่านอยู่ภายในลิฟท์ ตัดสินใจไม่ถูกจะทำอย่างไรดี แล้วสัญญาณประตูลิฟท์ก็ดังขึ้น บุรุษพยาบาลเข็นรถคนไข้เข้ามาในลิฟท์ ใส่แว่นก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ ราเชนทร์คิดแผนทันที
สารวัตรเชลียงกดปุ่มลิฟท์รัวๆ อยู่ด้านหน้าลิฟท์ พอเห็นว่าไม่ทัน ไม่มีตัวไหนเปิด เขาก็วิ่งต่อไปทันที แล้วชนเข้ากับบุรุษพยาบาลที่เดินมีผ้าคลุมหัวปิดหน้ามา มีคนไข้ด้วยหนึ่งคน
“เห็นผู้ชาย ท่าทางเหมือนมาเยี่ยมไข้ออกจากลิฟท์ มาชั้นนี้มั่งมั้ย”
ราเชนทร์ในชุดบุรุษพยาบาลกับแว่นตา พยักหน้า แล้วชี้มือไปตามทางที่ทอดยาว ทำมือเลี้ยวไปด้วย
“ขอบคุณครับ”
สารวัตรเชลียงวิ่งสวนออกไปทันที ราเชนทร์รีบถอดหมวกคลุม ถอดหน้ากากออก สารวัตรเชลียงวิ่งทะเล่อทะล่า มองซ้ายมองขวาสุดทาง ไม่เห็นใคร เเล้วก็เพิ่งนึกได้ ลำดับเหตุการณ์ เมื่อเห็นขวดน้ำที่มีหลอดหักพับวางสอดอยู่ข้างรถเข็น
“มันต้องมีอะไรแน่ๆ มีแน่ๆ”

สารวัตรเชลียงหงุดหงิด หอบเหนื่อย

หมวยมาที่ลานจอดรถ เปิดประตูรถเข้ามานั่ง
หมวยสะอื้นร้องไห้ออกมาอย่างจริงจัง อัดอั้นตันใจกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป พยายามสูดลมหายใจให้ตัวเองหยุดร้อง แต่ก็ทำไม่ได้ ราเชนทร์เดินจ้ำๆ ตรงไปยังรถหมวยที่เห็นจอดอยู่ เคาะกระจก
“ยังไม่กลับอีก”
หมวยหันมา
“หมวย เป็นอะไร ใครทำอะไร”
หมวยส่ายหน้า ล็อครถ ราเชนทร์จะเปิดก็ไม่ทัน เธอสตาร์ทรถออกไปทันที
“หมวยๆ ๆ”
ราเชนทร์ยืนงง

จันทร์แจ่มเดินซึม ตรงไปยังห้องพักฟื้น พอเปิดประตูห้องเข้าไป เห็นพยาบาลใส่หน้ากากปิดหน้า กำลังอุ้มบดินทร์ออกจากเตียง ใส่รถเข็น
“เด็กเป็นอะไรเหรอคะ”
พยาบาลชะงัก จันทร์แจ่มเดินเข้ามาดูบดินทร์ที่อยู่บนเตียงรถเข็น
“อาการกำเริบเหรอคะ”
เล็กขาวซึ่งปลอมตัวเป็นพยาบาล ผละจากเด็ก จับจันทร์แจ่มกดกับข้างฝา เอามือปิดปาก แล้วเอาหูฟังที่ตัวเองคล้องคอปลอมตัวอยู่ใส่กับหูหญิงสาว แล้วเอาแนบกับอกตัวเองทันที จันทร์แจ่มอึกอัก อู้อี้ตกใจ เธอยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เล็กขาวยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูเบาๆ
“เป็นยังไงมั่ง หัวใจลูกพี่”
จันทร์แจ่มตาโต ภาพเมื่อสิบปีก่อนแว่บเข้ามา ประโยคเดิมกับที่เล็กขาวเคยพูด เธอออกแรงดิ้นหนักขึ้น เล็กขาวตีเข่าจนจันทร์แจ่มทรุดลงไป หญิงสาวคว้าวิกของเล็กขาวติดมือลงไปกองด้วย เล็กขาวดึงวิกกลับมาสวมอย่างเดิม สารวัตรเชลียงเปิดประตูเข้ามา
“อะไร”
เล็กขาวหันกลับมา เข็นเตียงรถเข็นที่มีบดินทร์อยู่ใส่สารวัตรเชลียงทันที สารวัตรเชลียงจะคว้าปืน แต่ต้องจับเตียงเอาไว้ไม่ให้ล้ม เล็กขาวพุ่งข้ามเตียงมาโดดใส่สารวัตรเชลียง ทั้งคู่ต่อสู้กัน ปืนหล่นไปทางหนึ่ง ทั้งคู่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน สารวัตรเชลียงเอามือค้ำหน้าเล็กขาว นิ้วโป้งของสารวัตรดันผ้าปิดปากของเล็กขาวเลิกขึ้น
“โอ้ย”
เล็กขาวกัดนิ้วโป้งสารวัตรเชลียงไม่ยอมปล่อย สารวัตรต่อยไม่ยั้งจนเล็กขาวต้องยอมคายปาก สารวัตรเชลียงนั่งกุมนิ้วตัวเอง เล็กขาวผลักเตียงรถเข็นบดินทร์คว่ำ สารวัตรเชลียงโผเข้าไปรับร่างบดินทร์เอาไว้ เล็กขาววิ่งหนีออกไป สารวัตรเป็นห่วงเด็ก ดันเตียงรถเข็นตั้ง แล้ววิ่งตามออกไป แต่ไม่เห็นเล็กขาวแล้ว แต่พอมองผ่านช่องที่อยู่ไกลออกไป ก็เห็นเล็กขาววิ่งควบไปในชุดนางพยาบาล สารวัตรเชลียงออกวิ่งตาม จับปืนเล็ง แต่ยิงไม่ได้ เพราะมีพยาบาลเข็นเตียงคนไข้อื่นผ่านมา
“เฮ้ย หยุด”
เล็กขาววิ่งไปพลางส่งเสียงหัวเราะเฮฮาสนุกคะนอง สารวัตรเชลียงวิ่งตามมาแต่ไกล พยายามจะส่องปืนหาจังหวะยิง แต่ก็ทำไม่ได้ เขาวิ่งตามไปที่สนามหน้าโรงพยาบาล แต่ไม่มีวี่เเววเล็กขาวเลย พลันได้ยินเสียงหัวเราะดังก้องมา พร้อมทั้งเสียงสตาร์ทมอเตอร์ไซค์
“ฮ่ะๆๆๆ ฮ้าๆ วู้ๆๆ”
เล็กขาวขับมอเตอร์ไซค์ผ่านไป สารวัตรเชลียงยกปืนส่องตามแล้วก็เปลี่ยนใจไม่ยิง

บ้านเช่าของราเชนทร์ยามค่ำคืนเงียบกริบอยู่ในความมืด ชายหนุ่มซุ่มมองบ้านตัวเองอย่างระเเวดระวัง ก่อนเดินเข้าไป เขาสะดุดตากับรอยรองเท้าเปื้อนโคลนของสารวัตรเชลียงที่ไม่ได้ถอดรองเท้า ราเชนทร์มองสงสัยระวังตัว เขามองขวดน้ำ กระป๋อง แก้วน้ำ ที่มีหลอดหักพับคาอยู่ แล้วก็นึกได้ถึงตอนที่ประตูลิฟท์กำลังจะปิด สารวัตรเชลียงเห็นขวดน้ำในมือเขาที่มีหลอดหักพับอยู่ ราเชนทร์ตบหน้าผากตัวเองเบาๆ เซ็งๆ ที่เลินเล่อ
ราเชนทร์เดินมาที่ร่องรอยงัดที่เคยซ่อนปืน เขาหยิบไม้ที่สารวัตรเชลียงหยิบออกมาวางไว้ ไม่สบายใจ

สารวัตรเชลียงทรุดตัวลงนั่งบริเวณโถงของโรงพยาบาล เอาน้ำเเข็งประคบให้จันทร์แจ่มซึ่งนั่งเจ็บอยู่
“มันเรื่องอะไรกัน”
“แจ๋มเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“มันไม่พูดอะไรกับคุณเลยเหรอ”
จันทร์แจ่มถึงกับสะดุ้ง สิ่งที่เล็กขาวในชุดนางพยาบาลกระซิบเธอกับประโยคเดิม
“เปล่าค่ะ”
“ทำไมพ่อของเด็กนั่นต้องโกหกผม”
“สารวัตรพูดเรื่องอะไร”
“ผมว่า ผมเจอพ่อไอ้หนูนะ แต่ไม่เข้าใจ ทำไมเขาไม่บอกว่าเป็นพ่อ โกหกว่าขับรถมาส่งไต”
“สารวัตรรู้ได้ไง ว่าเป็นเขา”
“ผมเห็นขวดน้ำ หลอดพับในมือที่เขาถืออยู่น่ะสิ”
“กะอีแค่หลอดพับคาขวด ใครๆ ก็ทำได้ ไม่ใช่พ่อเด็กหรอก อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาโยงสิ”
“เรื่องส่วนตัวอะไร”
“สารวัตรไม่พอใจ ที่แจ๋มสนิทสนมกับเขา”
สารวัตรเชลียงอึ้งไป เหมือนจะยอมรับ
“ทำไมที่บ้านไม่มีรูปสักใบ”
“คนเราไม่ชอบถ่ายรูปกันได้นี่ ไม่มีกล้อง ไม่มีเพื่อน เดี๋ยวนี้ถ่ายรูปใครเขาปริ๊นท์ออกมาเก็บไว้ดูกันมั่ง”
“ร่องไม้ที่บ้านเขา มันไม่ใช่รอยเหยียบหัก มันเหมือนถูกทำไว้เพื่อซ่อนบางอย่าง”
สารวัตรเชลียงดูดน้ำจากขวดอย่างใช้ความคิด เขาพับหลอดหักครึ่งแล้วทิ่มปลายลงไปในขวด
“เราควรจะสนใจคนที่มันมาทำร้ายไอ้หนูมากกว่านะ” จันทร์แจ่มบอก
สารวัตรเชลียงพยายามลำดับเหตุการณ์
“ผมว่า มันต้องมีอะไรเกี่ยวกัน”
จันทร์แจ่มขวัญเสีย ไม่สบายใจ จ่าสมานเดินเข้ามาสมทบ
“บัตรประชาชนคนเป็นพ่อไม่ได้ถ่ายสำเนาไว้”
จ่าสมานมองหน้าจันทร์แจ่ม
“ลงชื่อเป็นเจ้าของไข้เอง”
สารวัตรเชลียงมองหน้าจันทร์แจ่ม
“เอ้า แล้วจะให้ทำไง เขาทำบัตรหาย ยังไม่ได้ทำใหม่”
“คนอะไร ไม่มีร่องรอย อย่างกับไม่มีตัวตน คุณไม่แปลกใจมั่งเหรอ”
จันทร์แจ่มครุ่นคิด แล้วก็ส่ายหน้าหลอกตัวเอง
“อย่าหลอกตัวเองเลยน่า ใบเกิดเด็กนั่น ผมเดาว่า คุณก็ไม่เคยเห็น”
“ใบเกิดสารวัตร แจ๋มก็ไม่เคยเห็น ใบเกิดจ่าก็ไม่เคยเห็น สารวัตรเคยขอดูใบเกิดแจ๋มมั้ยล่ะ”
“เท่าที่รู้ ตอนนี้ พ่อของเด็กนั่นไม่เคยทิ้งร่องรอยไว้ให้ใครเห็นหน้าเลย”
สารวัตรเชลียงครุ่นคิด มองไปรอบๆ แล้วไปหยุดที่กล้องวงจรปิด เขามองหน้าจันทร์แจ่มทันที

“ดูซิ คราวนี้ แจ๋มจะแก้ตัวแทนมันว่าไง”

สารวัตรเชลียง จ่าสมานนั่งอึ้งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์
จันทร์แจ่มเองก็นั่งดูอยู่ด้วย ภาพในจอคอมพิวเตอร์ เป็นมุมที่สารวัตรเชลียงยืนพูดคุยบังราเชนทร์หมดทั้งตัว เหมือนสารวัตรเชลียงยืนคุยอยู่คนเดียว จอภาพอื่นๆ ที่ราเชนทร์เดิน ก็มีโน่นนี่บังมองไม่เห็น
“ไหนอ่ะไม่เห็นมีสักจอ พ่อไอ้ตัวเล็ก”
สารวัตรเชลียงตบหัวตัวเองที่เลินเล่อยืนบังราเชนทร์
“แกแน่มาก”
“ผมว่ามันรู้มุมกล้อง” จ่าสมานบอก
“จะเหลือเหรอ”
“สารวัตรต่างหากที่รู้มุมกล้อง เด่นหราอยู่คนเดียว”
สารวัตรเชลียงนึกได้ “ในลิฟท์ กล้องในลิฟท์ ตัวที่ขึ้นไป”
รปภ.ส่ายหน้า “ถอดซ่อม”
สารวัตรเชลียงทุบมือตัวเอง
“มันรู้ มันเห็น มันเล็งไว้แล้วถึงรอขึ้นตัวนี้ มันมาเยี่ยมลูกหลายที”
“เป็นตุเป็นตะ คนที่คุณเจอ ไม่ใช่พ่อของไอ้ตัวเล็กหรอก”
“พามาเจอผมที กล้ามั้ยล่ะ”
“ไม่เกี่ยวกับเเจ๋ม ไม่รับปาก คุยกันเองดิ”
“โทรตามผมนะ ถ้าเจอ”
จันทร์แจ่มพยักหน้า “ถ้าเจอจะบอกให้ แต่ไม่รับปากนะ”
จ่าสมานมองนิ้วโป้งที่มีรอยกัดซึมเลือดอยู่
“ทำแผลซะหน่อยมั้ยสารวัตร”
สารวัตรเชลียงส่ายหน้า “นิดหน่อย ดีนะไม่ขาด ผมว่ามันมีอะไรเกี่ยวพันกันทั้งหมดแน่ๆ”
จันทร์แจ่มนั่งนิ่ง ไม่สบายใจ ประโยคที่เล็กขาวกระซิบเธอยังดังก้อง
“เป็นไงมั่ง หัวใจลูกพี่”

ตอนเช้า จันทร์แจ่มสะดุ้งตื่น เสียงของเล็กขาวยังคงดังก้องอยู่ แล้วเธอก็ต้องตกใจ เมื่อมีมือมาปิดปากไว้ไม่ให้ร้อง พอจันทร์แจ่มเห็นเป็นราเชนทร์เธอก็ค่อยสงบลง ราเชนทร์พยักหน้าให้เงียบ เขาเดินไปดูนอกหน้าต่าง แล้วก็เบาใจลง
“เมื่อวานเเจ๋มพาใครไปบ้านพี่รึเปล่า”
จันทร์แจ่มน้อยใจ เสียใจ
“เมื่อวานพี่พาใครไปเยี่ยมลูกรึเปล่า”
“ทำไมเหรอ”
“พี่รู้มั้ย เกิดอะไรขึ้นมั่ง เเจ๋มไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรอีกต่อไปแล้ว”
“บอกพี่ซิ ว่ามันเรื่องอะไรกัน”
“แจ๋มเจอผู้หญิงของพี่ โรงพยาบาล”
“เขาไปส่งพี่หาลูก”
“เขาบอกว่าเขาเป็นเมียพี่”
ราเชนทร์ทรุดตัวลงนั่ง เหนื่อยล้า
“มันไม่ใช่จริงๆ แจ๋ม”
จันทร์แจ่มมองราเชนทร์ เห็นเขาเหนื่อยล้าหมดแรง เธอก็ค่อยคลายความน้อยใจ
“เเล้วเมื่อวานได้ไปดูลูกรึเปล่า”
“ไป แต่ไม่เจอแจ๋ม”
“ไม่โกหกนะ”
“จริง”
“อาจจะสวนกัน แจ๋มมาเอาของที่บ้านพี่ให้ไอ้ตัวเล็ก”
“ซึ่งมากับ”
“สารวัตรเชลียง”
ราเชนทร์เอนหลังพิง ถอนใจเพราะคาดเดาไว้แล้ว
“เขาแค่ไปส่งแจ๋มเหมือนกัน เหมือนหมวยไปส่งพี่น่ะแหละ”
“แล้วไงอีก”
“มีคนมาทำร้ายไอ้หนู”
“หา เอาดีๆ”
“แจ๋มก็ไม่รู้ว่ามันต้องการอะไร มันจะมาพาไอ้หนูไป”
“แล้วไอ้หนูเป็นไงมั่ง”
“สารวัตรเชลียงเขาช่วยไว้ได้ ตอนนี้ส่งคนเฝ้าแล้ว”
“มัน มันทำอะไรมั่ง มันทำอะไรมั่ง”
“มัน มัน มันเอาหูฟังให้เเจ๋มสวม แล้วก็ถามว่าเป็นยังไงมั่ง หัวใจลูกพี่”

ราเชนทร์ตะลึง

เล็กขาวเดินกร่างอยู่ริมถนน หยิบของกินไม่เกรงใจใคร
ลูกน้องเดินตาม 3-4 คน เขาเดินเลี้ยวเข้าไปในร้านขายของร้านหนึ่ง พยักหน้าสั่งให้ลูกน้อยเข้าไปหาเจ้าของร้าน
“เจ๊ สิ้นเดือนแล้ว”
“เล็ก ลื้อทำเเบบนี้ เตี่ยลื้อรู้เปล่า” เจ้าของร้านถาม
“ก็ไปฟ้องสิ กล้ามั้ย”
“อั๊วไม่เคยคิดนะว่าลื้อจะเป็นเเบบนี้ แต่ตอนลื้อเดินตามอาเชนทร์นะ”
“เฮ้ย เชนทร์ไหน” เล็กขาวเข้าไปตบหน้าเจ้าของร้าน
“พี่เอง”
ราเชนทร์เพิ่งเดินเข้ามา ชี้หน้าลูกน้องของเล็กขาวทุกคนนิ่งเหมือนโดนสะกด
“พี่เชนทร์”
ราเชนทร์ต่อยเล็กขาวจนเซไป ลูกน้องจะเข้าไปช่วย แค่เพียงราเชนทร์สะบัดหน้าหันมอง พวกนั้นก็ยืนนิ่ง ราเชนทร์ดึงปืนออกมาจากมือเล็กขาว แล้วต่อยซ้ำจนเล็กขาวเลือดออกทั้งจมูกทั้งปาก เล็กขาวหัวเราะออกมา
“แกล้งเด็กนะเราเนี่ย”
“ไอ้เล็ก อย่ายุ่งกับเด็กอีก”
ราเชนทร์เทกระสุนออกจากปืน แล้วโยนคืนให้
“เฮ้ย ยืนนิ่งเป็นสากกะเบือเลย”
เล็กขาวต่อว่าลูกน้อง ลูกน้องก้มหน้า ไม่กล้าสบตาราเชนทร์
“เก็บอาการหน่อยพี่ พี่พูดเรื่องอะไร”
ราเชนทร์ชี้หน้า จะเดินออกไป เเล้วก็กราดเข้าไปเอาปืนตัวเองกรอกใส่ปากเล็กขาว เล็กขาวกลืนน้ำลาย
“พี่ว่าฉันกลัวมั้ย”
เล็กขาวค่อยๆ จับมือราเชนทร์อีกข้างมาจับชีพจรที่มือตัวเอง เสียงหัวใจเต้น ดังเป็นจังหวะเนิบๆ ราเชนทร์เครียดเขม็ง
“พี่สอนฉันมาดี ปืนกรอกปากหัวใจยังนิ่งมาก นี่ถ้ามือไม่มีเหงื่อตกนะ ราเชนทร์ไกทองชัดๆ” เล็กขาวเช็ดมือกับเสื้อตัวเอง
“บอกเตี่ย พรุ่งนี้ เตรียมเงินไว้ด้วย”
ราเชนทร์เอาปืนออกจากหน้าเล็กขาว เจ้าของร้านมองราเชนทร์ แล้วก็หยิบขนมส่งให้ ราเชนทร์จ้ำๆออกจากร้านไป เล็กขาวโดนต่อยหน้าเลือดอาบ มองอย่างขุ่นเคือง

เล็กขาวกลับมาที่บ้านเฮียตง เฮียตงเดินเข้ามา ระหว่างที่หมอกำลังเย็บด้านหลังหัวเล็กขาวที่ล้มกระแทกพื้นจากการโดนต่อย
“ลูกมันตัวนิดเดียว เอ็งยังจับมาไม่ได้ จะไปสู้อะไรพ่อมัน”
เล็กขาวเสียหน้า “ตำรวจมันโผล่มาได้ไงก็ไม่รู้ ดึกๆ ดื่นๆ”
“มันรู้เปล่า ว่าเตี่ยสั่งเอ็ง”
เล็กขาวส่ายหน้า “มันคิดว่าผมทำเพราะต้องการเอาชนะมัน ไม่เกี่ยวกับเตี่ย”
“มันบอกจะลงมือเมื่อไหร่นะ”
“พรุ่งนี้ ให้เตี่ยเตรียมตังค์ไว้ให้มันด้วย”
“พรุ่งนี้ งานด่วนแบบนี้มันทำคนเดียวไม่ได้หรอก อย่างน้อยก็ต้องมีคนหารถหารา คอยขับหาทางหนีทีไล่ให้มัน”
“ใครเขาจะไปเอาด้วยกะมัน”
“มี คนที่มันไว้ใจมากซะด้วย”
เล็กขาวอยากรู้ว่าเป็นใคร
“มันไปสนิทกันมาจากในคุก ไอ้นี่ไม่ธรรมดา ถ้ามันลงมือช่วยราเชนทร์ เตี่ยกลัวว่า แผนที่เราวางไว้ดัดหลังราเชนทร์ มันจะไม่สำเร็จ”

ราเชนทร์นัดพบกับมิ่ง เพื่อให้หาของให้
“เป็นไง สบายดี”
“เหมือนเดิมพี่ พี่มีอะไรหรือเปล่านัดผมมา”
“พี่มีเรื่องให้ช่วยหน่อย”
มิ่งกระตือรือร้น “ว่ามาเลยพี่เชนทร์ ขอให้พี่บอก ไอ้มิ่งคนนี้ถึงไหนถึงกัน”
“ขอบใจมากไอ้น้อง พี่อยากได้มอไซค์สักคันหนึ่ง”
“พี่กลับมาทำงานแล้วใช่มั้ย”
ราเชนทร์พยักหน้าเศร้าๆ
“แล้วนี่เอ็ง ไปหาลุงแหลมบ้างมั้ย”
“ยังเลยพี่ แกยังเคืองๆ ผมอยู่ ไว้รอให้ใจเย็นลง ว่าจะไปหาแกอยู่”
“อืม ดีแล้ว เราก็มีกันอยู่แค่นี้ ผ่านเรื่องร้ายๆ มาเยอะกว่านี้”
“ครับพี่ ผมน่ะไม่มีอะไร รักแกเหมือนเดิม”
“เออๆ พี่ไปก่อนนะ ช่วงนี้มีหลายเรื่อง”
“ครับพี่ ได้รถแล้วจะติดต่อไปนะ”

ทั้งสองแยกกันไปคนละทาง

อ่านต่อตอนที่ 6
กำลังโหลดความคิดเห็น