หัวใจและไกปืน ตอนที่ 4
ตอนเช้า จันทร์แจ่มนั่งป้อนข้าวบดินทร์อยู่ที่โรงพยาบาล
“พ่อไม่เห็นมาซะที”
“พ่อเขาไปหาเงินมารักษาหนูไง”
บดินทร์พยักหน้า เคี้ยวข้าวตุ้ยๆ แล้วก็เอนหลังพิงเบาะ
“กินอีกหน่อยดิ เพิ่งกินไปได้สองคำเอง”
“มันจะ อ็อค อ้วก”
“อ่ะๆๆ ดีๆ ดีๆ ไม่กินก็ไม่กิน น้ำหน่อย”
จันทร์แจ่มประคองไม่อยากให้อาเจียน พยาบาลเดินเข้ามาในห้องอย่างเกรงใจ
”เจ้าของไข้ เชิญติดต่อฝ่ายบัญชีด้วยนะคะ”
จันทร์แจ่มหนักใจ พอจะรู้ว่าเรื่องอะไร เธอยิ้มปลอบใจบดินทร์ว่าไม่เป็นไร
บริเวณหลังบ้านเฮียตง ราเชนทร์นอนโทรมอยู่ภายในกรงหมาขนาดใหญ่ ข้างๆ กัน มีกรงหมาขนาดเดียวกัน มีหมาใหญ่ถูกขังอยู่อีก 2-3 กรง เล็กขาวเดินมาปลุก
“พี่เชนทร์ พี่ พี่เชนทร์ ตื่นเหอะ”
ราเชนทร์ตื่นขึ้นมา
“เราไม่มีอะไรกันนะพี่นะ พี่ เราก็พวกเดียวกัน นายสั่งให้กัด ฉันก็กัด ฉันเห่าเตือนพี่แล้ว พี่ไม่หนี ฉันก็ต้องฟัด ทำไงได้ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวสักนิด”
ราเชนทร์มองหน้าเล็กขาว
“ฉันเคารพพี่นะ เตี่ยยังไม่ตื่น กินข้าวก่อนนะพี่”
เล็กขาวเอากะละมังข้าวที่ถือมาด้วย แง้มประตูเอาถาดข้าวยัดใส่ช่องอาหาร เป็นข้าวคลุก ไม่ต่างจากข้าวหมา
“รองท้องก่อนพี่ ช้อนหาไม่เจอจริงๆ”
เล็กขาวทำทีพูดสุภาพเห็นอกเห็นใจแล้วเดินจากไป ราเชนทร์รู้ว่าเล็กขาวหมิ่นเขาแน่ๆ เขาหยิบกะละมังข้าวหมาขึ้นมาดู แล้วก็นึกถึงคำพูดของจันทร์แจ่ม
“ไม่ต้องห่วง ยังไงพ่อเขาก็ไม่เป็นไรหรอก”
เวลาเดียวกันนั้น จันทร์แจ่มอยู่ที่โรงพยาบาลกับบดินทร์ เธอพยายามพูดปลอบเด็กน้อย
“พ่อเชนทร์เขาเก่งจะตายไป ใช่มั้ย”
บดินทร์พยักหน้า “พ่อตัวใหญ่ด้วย”
“ถูก ไม่ว่าจะยังไง พ่อเขาเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว ยังไงพ่อเขาก็ไม่ยอมตายแน่ๆ พ่อเขาต้องมีแรง มีแรงเพื่อที่จะกลับมาหาลูกของเขา กลับมาหาไอ้หนูไง”
ราเชนทร์นิ่ง สงบใจ คิดถึงลูก ห่วงลูกจนน้ำตารื้น
สารวัตรเชลียงดูกล้องวงจรปิดจากร้านสะดวกซื้อในวันเกิดเหตุอยู่กับจ่าสมาน เขาเห็นเฮียตงถูกลากออกไปจากร้านโดยชายสวมหมวกคลุมหน้า
“วันนั้นเฮียตงอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ ด้วย”
“ไอ้คนที่มาลากไปนี่มันใคร”
“ก็คงพวกมือปืนที่ติดตาม”
“ไอ้เฮียนี่ก็ช่างนะ ทิ้งลูกสาวลิ่วเลย”
“รึว่า ไม่ใช่ลูกแท้ๆ”
“สารวัตรรู้”
สารวัตรเชลียงส่ายหน้า “เฮียตงมันเก็บเด็กมาเลี้ยงบานเลย ทำไมจะเป็นผู้หญิงไม่ได้”
“สวยๆ อย่างนั้น ไปอยู่กะไอ้พ่อเลี้ยงเลวๆ ได้ไง”
“อาจจะไม่อยากอยู่ก็ได้นะ”
สารวัตรเชลียงคาดเดาอย่างใช้ความคิด
เฮียตงนั่งประกอบปืนอยู่ โดยมีเล็กขาวอยู่ด้วย
“แล้วที่ผมทำงานให้เตี่ยมาสิบปี ตอนที่มันทิ้งเตี่ยไปล่ะ”
เฮียตงหยิบกล่องกำมะหยี่สีดำจากลิ้นชัก ยื่นวางตรงหน้า
“น้อยใจ”
เล็กขาวมอง ยังไม่รู้ว่ากล่องอะไร
“คนจะน้อยใจ ก็มีอยู่สองกรณี ไม่รัก ก็ อิจฉา”
“ผมทำงานให้เตี่ยถวายหัวขนาดนี้”
“เปิดดูสิ”
เล็กขาวเปิดกล่องกำมะหยี่สีดำออกมา เป็นปืนมีไกทองสลักลายเป็นสีทองงดงาม เล็กขาวตาวาว
“ไกทอง ไม่ได้มีไว้ให้ราเชนทร์คนเดียวซะเมื่อไหร่”
“ผม เทียบชั้นพี่เชนทร์ได้เเล้วใช่มั้ยเตี่ย”
“ให้ทาย”
เล็กขาวพึงพอใจกับปืนไกทองที่เพิ่งได้รับมา
“ขอบคุณครับเตี่ย ขอบคุณ”
หมวยเดินเข้ามา
“ไงจ๊ะ ลูกสาวเตี่ย”
“พี่เชนทร์อยู่ไหน”
“เป็นห่วงเหรอครับ”
“อยากดูน้ำหน้าคนหายหัวไปซะหน่อย”
“อย่าไปอะไรมันเลย เตี่ยว่าจะให้งานมันทำอีกครั้ง”
เล็กขาวเลื่อนลำกล้องปืน ชะงัก
“เขาอยู่ไหน”
เล็กขาวยิ้มๆ “อาบน้ำอาบท่าอยู่หลังบ้าน”
หมวยเดินจ้ำๆ ออกไปทันที
“อาบน้ำ หลังบ้าน” เฮียตงสงสัย
“ผมกลัวมันซ่อนอาวุธมาทำร้ายเตี่ย” เล็กขาวรีบแก้ตัว
สายยางฉีดน้ำกำลังฉีดใส่ราเชนทร์ซึ่งใส่เสื้อยืนเอามือท้าวผนังอยู่ หมาตัวใหญ่สองสามตัว ถูกจับอาบน้ำในสภาพเหมือนๆ กัน หมาสะบัดขนเปียกถูกล่ามอยู่ ลูกน้องโยนฟองน้ำก้อนใหญ่ฟองฟ่อดใส่ราเชนทร์
“เฮียเล็กเขาสั่งผมมา โทษนะ พี่เชนทร์”
ราเชนทร์พยักหน้า กัดฟัน กัดกรามข่มอารมณ์ หมวยเดินเข้ามา
“ทำไมทำกันอย่างนี้”
“คุณหมวย” ลูกน้องตกใจ
“คนนะ ไม่ใช่หมา”
“เฮียเล็กเขากลัวพี่เชนทร์หมกอาวุธมารึเปล่า ก่อนเข้าไปเจอเสี่ย”
หมวยมองราเชนทร์ ตัวเปียกน้ำ มัดกล้ามสะท้อนแดดเป็นมันเลื่อม ราเชนทร์ก้มหน้านิ่ง ไม่มองใครทั้งสิ้น ข่มอารมณ์
“งั้น ฉันค้นเอง”
หมวยหยิบฟองน้ำขึ้นมา ขัดหลังถูตัวผ่านมัดกล้ามเนื้อให้ราเชนทร์ เธอมองพิจารณาใบหน้า ใบหูซอกคอใกล้แสนใกล้ ฟองน้ำไล้ลูบไปตามกล้ามท้องราเชนทร์ ลูกน้องมองกลืนน้ำลาย หมวยแอบหย่อนโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋าเสื้อของราเชนทร์
จันทร์แจ่มล้างแก้วอยู่ในอ่างล้างหน้าในห้องน้ำของโรงพยาบาล บดินทร์นอนหลับอยู่บนเตียง สารวัตรเชลียงเปิดประตูเข้ามา มองหา เห็นจันทร์แจ่มออกมาจากห้องน้ำ
“อยู่นี่จริงๆ ด้วย”
“ไม่มีใครให้ยิงเหรอ วันนี้”
สารวัตรเชลียงยิ้มๆ “คนสุดท้ายที่พูดกับผมแบบนี้ โดนหอมแก้มช้ำเลยนะ”
“พูดแบบนี้ มันคุกคามทางเพศชัดๆ”
สารวัตรเชลียงหัวเราะ หันมองบดินทร์
“พ่อไม่มาเลย”
“ไม่รู้ไปไหน โทรไปก็ไม่ติด”
“นี่โดนไปเท่าไหร่เเล้วเนี่ย ค่าหมอ”
“ไอ้ที่โดนไปแล้วน่ะ ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ไอ้ที่กำลังจะตามมานี่สิ”
สารวัตรเชลียงมองดูบิลเรียกเก็บ
“โอ้โฮ”
จันทร์แจ่มพยักหน้า “ใช่ โอ้โฮ”
“ฟอกไตนี่มันระยะยาวเลยนะ เฮ้อ เด็กเอ๋ย เเล้วนี่พ่อเขาทำงานอะไร จะหาตังค์ที่ไหนมาได้ต่อเนื่อง”
“เขาก็คงมีทางของเขาอ่ะแหละ”
จันทร์แจ่มมองออกไปนอกหน้าต่าง หงุดหงิด งอนๆ ที่ราเชนทร์ไม่ติดต่อมา
ราเชนทร์นั่งอยู่ตรงหน้าเฮียตง เฮียตงหันไปสั่งเล็กขาว
“อ่ะ ไอ้เล็ก ไหว้ขอโทษพี่เขาซะ”
เล็กขาวมองหน้าเฮียตง ราเชนทร์ เฉยๆ
“ไม่ต้องหรอกเตี่ย”
เล็กขาวกัดฟัน
“ไม่ได้สิพี่ ผมเป็นเด็ก ทำผิดก็ต้องขอโทษ”
เล็กขาวล้วงปืนที่เอวออกมาวาง ลูบผ่านไกทองของตน แล้วยกมือไหว้ราเชนทร์
“เลิกแล้วต่อกันนะพี่”
ราเชนทร์มองปืนเฉยๆ แล้วมองเฮียตง เฮียตงเริ่มคุยงาน
“อ่ะๆๆๆ มาเรื่องงาน เราน่ะแน่ใจนะ”
“ครับ เรื่องแรก ผมขอเบิกเงินงานที่แล้วก่อน”
“ได้ ร้อนมาเลยสิท่า อืม ไม่มีปัญหา”
“รวมถึงขอล่วงหน้างานต่อไปด้วย”
เฮียตงหันไปพูดกับหมวย
“คนรถรออยู่นะลูก”
หมวยนั่งนิ่งไม่ขยับ ราเชนทร์ชำเลืองมองสบตาแล้วพยักหน้าให้หมวยออกไปทางอื่น หมวยลุกเดินจากไป
“ดีจัง เตี่ยพูดไม่ฟัง ผู้ชายพยักหน้าทีเดียว ปรู๊ดเลย” เล็กขาวเปรย
“เล็ก”
เฮียตงปราม แต่ก็ไม่ค่อยพอใจอยู่เหมือนกัน เขาวางซองลงตรงหน้า ราเชนทร์หยิบออกมาดู เป็นรูปเฉลิมเกียรติ
“นักธุรกิจนำเข้าส่งออก ทำชิปปิ้งทั่วไป จะส่งอะไรก็ช่างมัน ไม่รู้ไปเหยียบตีนใครเข้า งานนี้ไม่น่ายาก ท่าทางเป็นคนไม่มีแบ็ค ไม่มีพวก เหมือนยิงหมาตัวหนึ่ง จริงๆ ไม่ต้องถึงมือเชนทร์ก็ได้ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ งานแรก เอาหมูๆ ไปก่อน”
“เตี่ยลืมเรื่องน้องชายมันป่ะ” เล็กขาวหมายถึงชาญชัย
“ไม่มีอะไร น้องคนละแม่ เพิ่งกลับจากนอก ถ้าเรื่องมากยิงทิ้งแถมๆ ไปอีกคน”
เฮียตงเดินคุยออกมาส่งราเชนทร์
“งานนี้ไม่มีการเปลี่ยนเป้ากลางอากาศใช่มั้ยครับเตี่ย”
เฮียตงชะงัก ก่อนยิ้มๆ “อะไรที่มันแล้วมาก็ให้มันแล้วๆ ไป”
ราเชนทร์ชำเลืองมองเล็กขาว
“ผมขอทำงานคนเดียว”
“ตามนั้น”
เล็กขาวยิ้ม ส่ายหน้า เฮียตงล้วงเงินออกมาให้ปึกหนึ่ง
”เอาไปก่อน ของงานที่แล้ว วันลงมือ รับที่เหลือ โอเค”
ราเชนทร์ถอนใจ พยักหน้า รับเงินมา
“ให้ผมไปส่งมั้ยพี่”
ราเชนทร์ส่ายหน้า “ไปแล้วไม่ได้กลับ อย่าลำบากเลย”
เล็กขาวหุบยิ้ม มองราเชนทร์เดินออกไป
“ตามไปดูมันหน่อย ว่ามันจะเอาเงินไปทำอะไร”
“ครับ เตี่ย”
“ระวังด้วย เอ็งยังอีกไกล”
เล็กขาวเคือง “อีกไกล กว่าจะตามทันเหรอเตี่ย”
เฮียตงยิ้ม “ไปได้อีกไกล”
เล็กขาวรู้สึกดีขึ้น เฮียตงแอบส่ายหน้าปลงสังเวช
จันทร์แจ่มอยู่ในบ้านเช่า เวลากลางคืน
เธอมองหูฟังของหมออันเดิมของเธอ แล้วเอาแนบหูที่ดับของเธอ ไม่มีเสียงอะไรเลย แต่พอเอาข้างเดิมเเนบเปลี่ยนหู เธอก็ได้ยินเสียงหัวใจตัวเอง จันทร์แจ่มถอนใจ วางหูฟังลงกับโต๊ะ แล้วก็ได้ยินเสียงก่อกแก่ก เธอนิ่งฟัง เอาผ้าขนหนูคลุมบ่าตัวเอง เดินมาตามเสียง มองหาไม่เห็นใคร จะเลี้ยวกลับไปทางเดิมก็เห็นราเชนทร์ยืนรออยู่แล้ว ถือหูฟังหมอของเธออยู่ด้วย
“อุ้ย พี่เชนทร์ มาเงียบๆ”
“พี่ขอโทษ พี่ไม่รู้ว่าเเจ๋มจะมีแขกรึเปล่า”
จันทร์แจ่มแอบค้อน ดึงหูฟังกลับมา
“สารวัตรน่ะเหรอ”
ราเชนทร์นิ่งไป
“เขาไม่ได้อะไรกะแจ๋มนักหนาหรอก พี่เป็นไงมั่ง”
ราเชนทร์เอาเงินวางลงตรงหน้าหญิงสาว
“แสนนึง แจ๋มเอาติดตัวไว้ก่อน พี่ขอติดตัวไว้ห้าพัน”
“อู้ว์”
จันทร์แจ่มรีบเอาผ้าขนหนูที่คลุมบ่ามาคลุมเงินทันทีกลัวคนเห็น
“พี่ เงินตั้งขนาดนี้ ไปเอามาจากไหน”
ราเชนทร์มองหญิงสาวที่เปิดบ่าเปลือย จันทร์แจ่มอึกอัก เขินๆ
“พี่”
“ยืมนายจ้างมา”
“ไม่จริงอ่ะ เขาจะไว้ใจอะไรพี่ขนาดนี้”
“รู้จักกันมานานแล้ว เคยมีบุญคุณกันมา”
“พี่จะให้ฉันเซ็นรับอะไรไว้มั้ย”
“ไม่ต้อง”
“พี่จะมาไว้ใจอะไรแจ๋มขนาดนี้”
ราเชนทร์ยิ้ม “รู้จักกันมานานแล้ว เคยมีบุญคุณกันมา”
จันทร์แจ่มตีเเขนชายหนุ่ม “โอเค ตามใจ เข้าใจแล้ว”
ราเชนทร์มองหญิงสาว ทั้งคู่เงียบไป
“กินอะไรมารึยัง”
ราเชนทร์พยักหน้า “พี่ขอตัวก่อนดีกว่า”
“พี่ จะค้างที่นี่ก็ได้นะ กลับบ้านไปก็ไม่มีใคร”
“อย่าเลย ขอบคุณมากนะแจ๋ม”
“พี่ บ้านที่ไม่มีใครเปิดไฟรอน่ะ มันเหงานะพี่”
ราเชนทร์เงยหน้ามองไฟที่บ้านจันทร์แจ่มรอบๆ
“แต่บ้านที่เปิดไฟรอแล้วไม่มีใครให้กลับมา มันเหงากว่านะ”
ทั้งสองสบตากัน
เฮียตงนั่งเปิดหนังสือพวกวับๆ แวมๆ แล้วก็มองขึ้นไปชั้นบน ก่อนเดินขึ้นบันไดไปเคาะประตูหน้าห้องเบาๆ
“หมวย หมวย หมวย”
เฮียตงบิดลูกบิดประตู แต่ประตูล็อค เขาเอาลูกกุญแจที่เตรียมมา ไขประตูเข้าไป
“หมวย หมวย”
เฮียตงเปิดประตูเข้ามาในห้อง มองไปรอบๆ แล้วก็เห็นผ้าปูที่นอนเรียบตึง ผ้าห่มพับเรียบร้อย เขามองไปที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ก็ว่างเปล่า ไมมีเครื่องสำอาง เดินจ้ำๆ ไปเปิดตู้เสื้อผ้าดู เหลือแต่ไม้แขวนเสื้อ ไม่มีเสื้อผ้าอยู่เลย มีแต่จดหมายเล็กๆ ทิ้งไว้ว่า “ไม่ต้องห่วง” แต่ไม่ได้บอกว่าอยู่ที่ไหน
“หมวย”
ตอนเช้า
หมวยนั่งมองตัวเองอยู่หน้ากระจกภายในคอนโดฯแห่งหนึ่ง มองโทรศัพท์มือถือของตัวเอง มีสัญญาณโทรเข้า หน้าจอขึ้นโชว์รูปเฮียตง เธอมองแล้วก็ไม่รับ เหม่อมองออกไปด้านนอก คิดถึงใครบางคน
เวลาเดียวกันนั้น ราเชนทร์นอนอยู่กับพื้นข้างเก้าอี้ภายในห้องเช่าของจันทร์แจ่ม เขาห่มเสื้อของหญิงสาวอยู่ จันทร์แจ่มเดินเข้ามานั่งมองหน้าราเชนทร์ใกล้ๆ แล้วอมยิ้ม ราเชนทร์รู้สึกตัวกระตุกตื่นขึ้น มองเสื้อหญิงสาวที่เขาห่มอยู่ จันทร์แจ่มหัวเราะร่วน
“อย่าคิดมาก ผ้าห่มไม่มี แจ๋มเลยเอาเสื้อมาคลุมให้กลัวจะปอดบวมตาย”
ราเชนทร์พยักหน้ารับรู้ จันทร์แจ่มยิ้มบอก
“ขอบคุณนะ ที่อุตส่าห์อยู่เป็นเพื่อนกัน”
“จะออกไปหาไอ้หนูพร้อมกันเลยมั้ย”
“ไปสิ”
โทรศัพท์มือถือของราเชนทร์ดังขึ้น เขาประหลาดใจเห็นโทรศัพท์อยู่ในเสื้อแจ็กเก็ตตัวเอง
“ไหนบอกไม่ชอบพกมือถือ”
ราเชนทร์หยิบโทรศัพท์มาดู จันทร์แจ่มมองดูหน้าจอเห็นเป็นหน้าหมวย
“ใคร”
ราเชนทร์อึกอัก “เจ้าหนี้”
จันทร์แจ่มมีอาการนิดๆ “ไม่เห็นบอกว่าเป็นผู้หญิง”
“พี่” ราเชนทร์ชี้โทรศัพท์ว่าต้องรับ
“เอาดิ๊” จันทร์แจ่มพยักหน้า แต่ยังนั่งจ้องอยู่
ราเชนทร์อึดอัด“ครับ”
หมวยขับรถอยู่คุยโทรศัพท์ไปด้วย
“เป็นไงมั่ง”
“อือ โอเค”
ราเชนทร์มองจันทร์แจ่มที่ทำเป็นเฉไฉแต่เงี่ยหูฟัง
“ออกมาเจอกันหน่อยได้มั้ย”
“อือ” ราเชนทร์จะปฏิเสธ
“ฉันอุตส่าห์ช่วยนะ”
“เอ่อ”
“อยู่กับใครรึเปล่า สะดวกคุยมั้ย”
ราเชนทร์มองจันทร์แจ่ม หญิงสาวทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“มีเรื่องอยากปรึกษา”
“กี่โมง ที่ไหน อือ อือ สวัสดี”
หมวยกดโทรศัพท์มือถือปิด แล้วขับรถต่อไป ราเชนทร์กดปิดโทรศัพท์ ทำอะไรไม่ถูก จันทร์แจ่มทำเป็นถามผ่านๆ
“เจ้าหนี้โทรมาทวงตังค์งี้”
“เปล่า เขาห่วงเงินว่าอยู่ดีมั้ย”
“เหรอ บทสนทนามันไม่น่านะ อือๆ เอ่อๆ อ่าๆ”
ราเชนทร์เฉไฉเปลี่ยนเรื่อง “ไปเยี่ยมไอ้หนูกันเหอะ”
จันทร์แจ่มดึงโทรศัพท์มา
“เดี๋ยว เมมเบอร์แจ๋มเอาไว้มั่ง”
จันทร์แจ่มกดๆ โทรศัพท์แล้วก็ถ่ายรูปตัวเองแลบลิ้นที่หน้าจอ แล้วกดเข้าเบอร์มือถือตัวเองก่อนเอาโทรศัพท์ยัดคืนให้ราเชนทร์
“หายกัน”
“หายกันอะไร”
ราเชนทร์อ่อนใจ ไม่อยากเถียงด้วย ลุกเดินไป จันทร์แจ่มมองตาม แอบหวงนิดๆ
เล็กขาวนั่งพิจารณามองไกปืนทองกระบอกที่อยู่ในมือ เขายกปืนเล็งไปที่รูปของเฉลิมเกียรติที่แปะอยู่ข้างฝาบ้าน มีรูปของชาญชัยอยู่ด้วย เล็กขาวยกขวดน้ำจะดื่ม แต่น้ำหมดขวด
เขาลุกขึ้นไปเปิดตู้เย็นกระดกขวดน้ำดื่ม แล้วก็หยิบขวดโหลนิ้วโป้งขึ้นมาดู ยิ้มอยู่คนเดียว จำนวนนิ้วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
พยาบาลดูแลเช็คอาการให้บดินทร์ พร้อมจดรายละเอียด
สารวัตรเชลียงเปิดประตูเข้ามา ถามพยาบาล
“รายนี้ เจ้าของไข้มาเยี่ยมไปรึยัง”
“วันนี้ยังไม่เห็นมีใครมาเลยนะคะ”
พยาบาลถือแฟ้มเดินออกไป สารวัตรเชลียงเดินเตร่ๆ รออยู่ในห้อง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะโทรออก จันทร์แจ่มเดินมาจนถึงหน้าประตูห้อง เสียงโทรศัพท์สั่นอยู่ในกระเป๋าสะพายของเธอ เธอก้มๆ ควานหา ราเชนทร์เดินมาด้วย เขามองผ่านกระจกหน้าประตู เห็นสารวัตรเชลียงอยู่ด้านใน เขามองลูกอย่างเป็นห่วง แล้วก็ถอยหลังหายไป จันทร์แจ่มไม่ทันเห็นล้วงหาโทรศัพท์จนเจอ
“ฮัลโหล”
เสียงสารวัตรเชลียงตอบกลับ “อยู่ไหนเนี่ย”
“ก็มาเฝ้าน้อง อ้าว”
จันทร์แจ่มผลักประตูเข้าไป
“ไม่รู้ว่าวันนี้จะมามั้ย”
“มานานแล้วรึยัง”
“แป๊บนึง”
จันทร์แจ่มหันไปด้านหลังจะแนะนำ
“รู้จักกันซะ นี่”
จันทร์แจ่มมองหาไม่เห็นราเชนทร์
“อะไร ใคร”
จันทร์แจ่มชะโงกโผล่ออกมาดูตามทางเดินสุดตาไม่เห็นใคร
“ติดผู้หญิงชัวร์”
“ใครเหรอ ที่จะให้รู้จัก”
“ไม่มีอ่ะ พูดไปเรื่อยเปื่อย ไอ้หนูตื่นยัง”
“หลับอยู่ พึมพำพ่อๆ อะไรก็ไม่รู้”
จันทร์แจ่มเดินเข้าไปในห้องพักฟื้น สารวัตรเชลียงมองตามทางที่จันทร์แจ่มมองก็ไม่เห็นใคร ราเชนทร์เเอบอยู่ในมุมที่สารวัตรเชลียงไม่เห็น เขารู้สึกขมขื่นอยากเจอลูก
“นี่พ่อเขาไม่ห่วงลูกเขามั่งรึไง ไม่เห็นเลย”
สารวัตรเชลียงเดินพูดเข้าไปด้านในห้อง ราเชนทร์ตัดใจเดินจากไป
ราเชนทร์ดูนาฬิกาแล้วส่ายหน้า ถอนใจเดินเตร่ๆ เข้ามาทางสวนสนุก ทรุดตัวลงนั่งรอเวลา มองไปรอบๆ แล้วก็สะดุดตากับเด็กชายรุ่นเดียวกับลูกชายของเขา เดินอยู่คนเดียว มองหาใครอยู่รอบด้าน ราเชนทร์เดินไปนั่งข้างๆ
“มากะใคร”
ชนายุสมองราเชนทร์ แล้วเมิน
“ไปหายามมั้ย ให้ประกาศตามพ่อแม่ เรามากะใคร”
ชนายุสหันมองราเชนทร์อีกครั้ง
“กลัวมั้ยเนี่ย
ราเชนทร์รูดแขนเสื้อเปิดรอยสักให้ดู
“ไป กลับไปหาผู้ใหญ่”
“แม่ไม่ให้คุยกับคนแปลกหน้า”
“แล้วหน้ายังไง แม่ถึงจะให้คุยด้วย”
ชนายุสมองแขนที่มีรอยสัก “เขียนทำไมเนี่ย ลบออกมั้ย”
“แม่ไปไหน”
ชนายุสมองชะเง้อหา แล้วก็ส่ายหน้า “เดี๋ยวก็เจอ”
“แล้วไม่กลัวเหรอ”
ชนายุสส่ายหน้า “แม่รักเรา เดี๋ยวแม่ก็หาเจอเอง”
ราเชนทร์อ่อนใจ “ดีเหมือนกัน”
ชนายุสเดินเตร่ๆ ไปทางปืนยิงเอาตุ๊กตา แล้วถามราเชนทร์
“ยิงปืนเป็นมั้ย”
ราเชนทร์พยักหน้า
“สอนหน่อยดิ๊”
“แล้วบอกยิงเป็น มานี่”
ราเชนทร์รับกระบอกปืนมายิงๆๆ อย่างเเม่นยำ ชนายุสตื่นตาตื่นใจ มองลำแขนที่มีรอยสัก มือใหญ่ที่กำปืน เขาชี้ให้ดูเป้า ราเชนทร์ยิงได้ตามที่ชี้ ชนายุสชอบใจมาก
เวลาต่อมา ชนายุสนั่งกินไอศกรีมอยู่กับราเชนทร์ ในมือมีตุ๊กตาอยู่สองตัว
“ไหนบอกไม่คุยกะคนแปลกหน้า”
ชนายุสชูตุ๊กตา “ขอบคุณนะ อ่ะ แบ่งกันคนละตัว”
“ให้เหรอ”
“อือ”
“เอาอีกมั้ย”
ชนายุสพยักหน้า ราเชนทร์ลุกขึ้นไปที่หน้าตู้ไอศกรีม มองไปรอบๆ เห็นตำรวจ เห็นยามเดินจ้ำๆ มองหา วิภาเดินมาด้วย ราเชนทร์มองไปทางชนายุส แล้วก็เห็นวิภาชี้ไปทางเด็กชาย ตำรวจเดินไปด้วย ราเชนทร์จึงรีบหนีออกจากร้านไอศกรีมไป
“ลูก ทำไมมาอยู่ตรงนี้ ไปเอาตุ๊กตาใครมา”
ชนายุสมองชะเง้อหาราเชนทร์ แต่ไม่เห็นแล้ว วิภามองถ้วยไอศกรีมอีกถ้วยบนโต๊ะ
“นี่ลูกกินไอติมกะใคร”
ชนายุสยกนิ้วชี้ขึ้นนิ้วเดียว วิภาไม่อยากซักไซ้อะไร ดีใจที่เจอลูก กอดลูกอย่างรักใคร่ห่วงใย
ราเชนทร์แอบมองอยู่ไกลๆ ยิ้มนิดๆ ตั้งแต่เห็นชนายุสยกนิ้วว่ากินคนเดียว
รถของหมวยแล่นมาเข้าจอดรถภายในห้าง
เธอดูนาฬิกาแล้วรีบจ้ำๆ ไปทันที ราเชนทร์ซุ่มมองอยู่ เห็นว่าหมวยมาคนเดียว หมวยเดินเข้ามาเห็นราเชนทร์ โผเข้ากอดด้วยความคิดถึง
“มากับใคร”
“จะให้มากับใครล่ะ”
“มีเรื่องอะไร”
“แหม พี่เชนทร์ จะรีบร้อนไปไหน”
หมวยมองหน้าราเชนทร์ ยิ้มดีใจที่ได้เจอ
จันทร์แจ่มกับสารวัตรเชลียงนั่งคุยกันอยู่ที่โรงพยาบาล ขณะรอเรียกชำระเงิน
“แล้วแจ๋มก็ต้องมานั่งเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้เนี่ยนะ”
“ก็มันนิดหน่อยเอง”
“แจ๋มทำเหมือนเป็นลูกตัวเองเลยอ่ะ”
“อย่าบอกใครนะ แจ๋มรับอุ้มบุญแล้วพ่อแม่มันไม่จ่ายตังค์”
“ไม่ตลกอ่ะ” สารวัตรเชลียงมองนาฬิกา
“สารวัตรกลับไปทำงานเหอะ ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนเเจ๋มหรอก”
“กะว่าจะได้ออกไปกินข้าวด้วยกันสักมื้อ”
“วันหลังแจ๋มเลี้ยงเอง”
สารวัตรเชลียงตัดใจ “ผมต้องไปเข้าเวรเเล้ว”
“ครับผม”
จันทร์แจ่มทำมือตะเบ๊ะ สารวัตรเชลียงแตะหลังมือหญิงสาว จันทร์แจ่มยิ้ม ดึงออกเบาๆ สารวัตรเชลียงลุกเดินออกไป เสียงเรียกหมายเลขของจันทร์แจ่ม เธอเดินไปช่องจ่ายยา
“เด็กชายบดินทร์ นะคะ”
“เท่าไหร่คะ”
เจ้าหน้าที่ยื่นใบเสร็จให้ “ตามนั้นเลยค่ะ”
จันทร์แจ่มดูตัวเลขแล้วก็พยักหน้าหนักใจ
“บัตรเครดิตหรือเงินสดคะ”
“เงินสดค่ะ”
หมวยนั่งคุยกับราเชนทร์อยู่ในรถของเธอ
“เตี่ยคุยกับเล็ก ว่าพี่เชนทร์จะกลับมาทำงาน”
“อย่ารู้เลย”
“หมวยออกมาอยู่ข้างนอกแล้วนะ”
“ทำไมล่ะ”
หมวยนิ่งมองเศร้าๆ ไม่ตอบ ราเชนทร์อึ้งไป
“ระวังตัวด้วยแล้วกัน”
หมวยกุมหลังมือราเชนทร์
“ใครควรจะต้องระวังตัวมากกว่ากันแน่”
“หมวย เราเป็นพี่น้องกันนะ”
“เหรอ”
“ยังไง เตี่ย ก็”
หมวยยิ้มหยัน “จริงเหรอ”
ราเชนทร์นิ่งมองหมวย หญิงสาวเอ่ยถาม
“มีแฟนใหม่แล้วยัง”
ราเชนทร์นิ่งเงียบไป เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาแปลกใจ มองดูหน้าจอเห็นเป็นรูปจันทร์แจ่มแลบลิ้น หมวยตวัดหางตามอง เห็นรูปจันทร์แจ่ม ราเชนทร์กดรับด้วยความเกรงใจหมวย
“ว่ามา”
“ว่ามาอะไรล่ะ อยู่ไหนเนี่ย”
“ทำงาน”
“หายเลยนะ ไม่รู้ มาเฝ้าลูกตัวเองด้วย เค้ามีธุระ”
“อือ”
“อืออะไร อยู่กะใครแน่ๆ”
หมวยดึงโทรศัพท์มาจากราเชนทร์
“ฉันเป็นเมียเขา เธอมีธุระอะไร”
จันทร์แจ่มตาโต ตะลึง ราเชนทร์เองก็คาดไม่ถึง
“หมวย”
“หมวย หมวย อ๋อ ชื่อหมวยเหรอ” จันทร์แจ่มถามผ่านโทรศัพท์
“ค่ะ”
“ขอสายพี่เชนทร์หน่อย”
หมวยยื่นโทรศัพท์คืนให้ราเชนทร์
“ฮัลโหล”
“แจ๋มจะไม่ทนแล้วนะ”
“มันไม่ใช่”
หมวยยิ้ม เสียงดังใส่โทรศัพท์
“ใช่”
“พี่เชนทร์ แค่นี้นะ”
“แจ๋ม”
จันทร์แจ่มวางสาย แทบหมดแรง ทำอะไรไม่ถูก ขณะที่ราเชนทร์อ่อนใจ มองหมวย
“หมวย ทำไมเล่นแบบนี้”
“ใครบอกหมวยเล่น พี่หนีหมวยไม่พ้นหรอก”
ราเชนทร์ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี หมวยถอนใจ
“งานที่พี่รับจากเตี่ยมาคราวนี้ ถ้ายกเลิกได้ ก็เลิกเหอะ”
ราเชนทร์เอะใจ “หมวยรู้อะไรมาเหรอ”
“เตี่ยไม่เคยยกโทษให้กับคนที่ลงจากหลังเสือ พี่ก็รู้นี่ เล็กขาวที่อยากขึ้นมาแทนพี่”
ราเชนทร์หนักใจ เดินออกไป หมวยโทรศัพท์เข้ามือถือเขาหลายครั้ง ชายหนุ่มไม่อยากคุยด้วย เลยปิดโทรศัพท์
จันทร์แจ่มเดินน้อยใจ น้ำตาคลอ ปาดน้ำตาป้อยๆ มาตามทาง ไม่อยากให้ใครเห็น
เธอเชิดหน้า ฝืนน้ำตาเอาไว้เดินต่อไปยังห้องพักฟื้น บดินทร์สั่นเป็นเจ้าเข้าไม่ได้สติอยู่บนเตียง จันทร์แจ่มเปิดประตูเข้ามา ตกใจมาก วิ่งเข้ามาหา กอดบดินทร์ไว้ไม่ให้ดิ้น แล้วตะโกนเรียกพยาบาล
“พยาบาล พยาบาลคะ หมอ หมอ ช่วยด้วย ช่วยด้วย หมอ”
ที่บ้านเฉลิมเกียรติ รถของวิภาแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านหรูหราร่ำรวย คนใช้ลงมาช่วยขนของ
“ลูก มาช่วยขนของก่อน”
ชนายุสถือตุ๊กตาที่ราเชนทร์ให้มาด้วย
“ผมเป็นเด็ก”
“เป็นเด็กแหละตัวดีเลย ก่อเรื่องวันนี้ จะฟ้องคุณพ่อ”
ชนายุสไม่ฟังที่แม่เรียก วิ่งขึ้นห้องไปเลย วิภาส่ายหัวยิ้มกับลูกคนนี้
กลางคืน ชนายุสนอนอยู่บนเตียงกับตุ๊กตาตัวที่ได้มาจากราเชนทร์ วิภาห่มผ้าให้ลูก
“ไปเอามาจากไหนก็ไม่บอก”
“ชู่ว์”
ชนายุสทำมือไม่ให้พูด แล้วก็หลับตาลงกรนเสียงดัง วิภายิ้มๆ
“เจ้าเล่ห์”
วิภาเดินออกจากห้องนอนไป คล้อยหลังแม่ ชนายุสก็ลุกขึ้นนั่งมองตุ๊กตา แล้วเดินไปหยิบปากกาเมจิกมาเขียนที่ท้องแขนตัวเองเป็นลวดลายเลียนแบบรอยสักเต็มแขนไปหมด ชนายุสมองแขนตัวเองที่เขียนลายพร้อย ยืนอยู่หน้ากระจก เด็กน้อยทำท่ายิงปืนใส่ตัวเองที่หน้ากระจก แล้วยิ้มกับตุ๊กตาที่วางอยู่ในห้อง
หมอพยายามยื้อชีวิต ดูอาการบดินทร์กันอยู่ บดินทร์นอน มีท่อเสียบปากลงคอไปไม่ได้สติ กราฟเต้น เสียงหัวใจดังห่างๆ แผ่วๆ อ่อนแรง
จันทร์แจ่มร้องไห้จนตาบวม เดินวนอยู่หน้าห้องผ่าตัด เธอพยายามกดโทรศัพท์มือถือซ้ำไปมา
เอาแนบหู มีเพียงเสียงรอดมาจากโทรศัพท์มาให้รู้ว่ามีการปิดโทรศัพท์ จันทร์แจ่มเดินวนกระวนกระวายใจ ทำอะไรไม่ถูก ทรุดตัวลงนั่ง ปิดหน้าร้องไห้อยู่ตามลำพัง
“ไอ้หนู อย่าเป็นอะไรนะลูก”
ราเชนทร์ถือตุ๊กตาที่ชนายุสให้มา ตั้งใจว่าจะเอาไปให้บดินทร์ เขาอมยิ้มอย่างอุ่นหัวใจ มุมหนึ่งของทางเดิน เล็กขาวตามซุ่มดูอยู่ห่างๆ
ภายในห้องผ่าตัด บดินทร์นอนนิ่ง หมอพยาบาลดูอาการอยู่ เช็ดเหงื่อเคร่งเครียด ขณะนั้น ราเชนทร์เปิดประตูเข้าไปในห้องพักฟื้น ไม่เห็นบดินทร์ เห็นเเต่เตียงว่างเปล่า ราเชนทร์อึ้ง เดินออกมาถามพยาบาลที่เดินเข้าเวรผ่านมา แล้วก็รีบวิ่งไปตามที่พยาบาลชี้ทันที จันทร์แจ่มนั่งฟุบปิดหน้าร้องไห้อยู่ตามลำพัง ราเชนทร์วิ่งเข้ามา
“แจ๋ม”
“ไอ้หนู”
ราเชนทร์ตกใจ วิ่งเข้ามากอดจันทร์แจ่มซึ่งเหมือนจะล้มลงหมดแรง หญิงสาวสะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดชายหนุ่ม
“ไอ้หนู ไอ้หนูเป็นไงมั่ง”
จันทร์แจ่มสะอื้น ส่ายหน้าพูดอะไรไม่ออก เล็กขาวซุ่มมองอยู่ จำจันทร์แจ่มได้
อ่านต่อตอนที่ 5