ดาวย้อมแสง ตอนที่ 2
เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารัก ในวัย 12 ขวบ
ลลิลมองหน้ายู่ยี่ ยู่ยี่สงสารเด็กผู้หญิงผู้เป็นหลานที่อยู่ตรงหน้า ในใจแสนจะเจ็บปวด แต่ก็อดสงสารเธอไม่ได้
เด็กหญิงร้องไห้หนักมาก
"พ่อแม่หนูตายแล้ว...ฮือๆๆ"
ลลิลนั่งเหม่ออยู่ในร้านกาแฟ นึกถึงสมัยที่เธออายุ 12 ขวบ
ภายในห้องรับแขก บ้านของยู่ยี่ กระเป๋าเดินทางใบใหญ่วางอยู่ข้างๆ ตัว ลลิลในวัยเด็ก ยู่ยี่เดินเข้ามาหา
ลลิลร้องไห้
"ทำไมลินต้องไปด้วย ลินไม่อยากไป ลินคิดถึงเพื่อน คิดถึง คุณพ่อคุณแม่"
"ลินต้องไป ลินต้องไปเรียนหนังสือ ฉันหาโรงเรียนดีๆ ให้เรียน เรื่องค่าใช้จ่ายฉันจะออกให้ทุกสิ่งอย่าง มีอะไรก็บอกคุณป้าโซเฟียนะ คุณป้าโซเฟียจะเป็นคนที่ดูแลลินเป็นอย่างดี พอลินเรียนจบแล้ว ค่อยกลับมาทำงานกับฉันนะ"
ลินร้องไห้ไม่หยุด แต่ก็ต้องจำใจเดินจากไป
ยู่ยี่อดกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้ แต่ก็หันหลังให้ลลิล เพราะเธอคิดว่าเธอคงไม่สามารถเลี้ยงลลิลได้ดี มีโซเฟียเพื่อนรักสมัยเรียนที่ย้ายถิ่นฐานไปแต่งงานกับสามีชาวอเมริกา และไม่มีลูก ยู่ยี่คิดว่าโซเฟียคงเลี้ยงดูลลิลเป็นอย่างดี เรียนจบเมื่อไหร่ค่อยส่งตัวกลับมาอยู่เมืองไทย
ลลิลในปัจจุบันได้แต่ถอนหายใจ เพราะชีวิตที่อเมริกานั้น แม้จะหรูหรา เพราะเธอมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมาก ยู่ยี่ก็ส่งเงินไปให้ใช้ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่โน่น แต่เธอไม่เคยได้กลับมาเมืองไทยเลย เป็นเวลาเกือบสิบปี
แล้วจู่ๆ ลลิลก็นึกถึง อนุวัตร นายแบบหนุ่มรูปหล่อที่เข้ามาในชีวิตเธอหลังกลับจากอเมริกาได้เพียงปีเดียว เพราะลลิลกลับมาเป็นนางแบบอินเตอร์ที่ยู่ยี่จัดแจงหาเวทีแคทวอล์กเปิดตัวดีไซเนอร์และสไลลิต์อิมพอร์ตจากอเมริกา
เก้าอี้นั่งข้างสวนหย่อม อนุวัตรจับมือลลิลขึ้นจูบ
"ลิน เราเป็นแฟนกันนะ"
ลลิลได้แต่ยิ้ม นั่นคือคำตอบว่าใช่
"ต่อไปนี้ผมจะดูแลคุณ และจะคอยปกป้องคุณ ผมรักคุณนะ ลิน"
พูดเสร็จอนุวัตรก็ดึงตัวลลิลเข้ามากอด
ในร้านกาแฟ ลลิลนึกถึงความหลัง ก่อนจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยอ่อน แม้จะไม่ใช่เป็นความรักครั้งแรก แต่อนุวัตร ก็เป็นผู้ชายคนแรกที่เธอยอมพลีกายและทุ่มเทความรักให้หมดใจ
ลลิลจะลุกขึ้นจากโต๊ะ และกำลังจะเดินออกจากร้าน เจอซอนย่า กับ มินตรา เดินสวนเข้ามาพอดี
"อ้าว...ลิน...มากินกาแฟเหรอ...ช่วงนี้ดูหน้าเธอเศร้าๆ นะ"
ลลิลทำเป็นไม่สนใจ แล้วเดินสวนออกไป
"คนอะไรไม่มีมารยาท พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย สงสัยคงไม่ได้รับการสั่งสอน" ซอนย่าว่า
มินตราเชียร์สนับสนุน
"ใช่...ทำไมไม่มีมารยาทแบบนี้นะ ซอนย่า...สั่งสอนนังลลิลมันซะหน่อยสิ"
ลลิลเดินกลับมาแล้วพูดตอกใส่หน้าซอนย่า
"เรื่องพูดด้วยหรือไม่พูดด้วยเนี่ย...คงไม่เกี่ยวกับว่าได้รับการสั่งสอนหรือไม่ได้รับการสั่งสอนมาหรอกนะ เพราะสำหรับบางคนแม้จะได้รับการศึกษาที่ดี พ่อแม่สั่งสอนมาดี แต่กิริยามารยาทหรือสันดานก็อาจจะต่ำกว่าคนที่ไม่มีการศึกษาก็เป็นได้"
"นี่เธอว่าใคร" ซอนย่าถาม
"ชั้นว่า...มันว่าเธอนะ...ซอนย่า"
"อยากรับป่ะล่ะ"
"นี่มันจะมากไปแล้วน" ซอนย่าทำท่าจะตบ
"เอาเลยแก...ตบมันเลย"
"ก็เอาสิ...!!! ถ้าคนไฮโซอย่างเธอกำลังจะใช้สันดานต่ำๆ เพื่อตัดสินปัญหาแล้วล่ะก็คนอย่างฉันก็อาจจะลดตัวไปทำสันดานต่ำๆ อย่างเธอบ้างก็ได้นะ ฉันกำลังเซ็งอยู่พอดี" ลลิลว่า
ซอนย่าเห็นท่าทางลลิลจะเอาจริงก็เลยถอย
"ฉันก็คงไม่ลดตัวไปทำสันดานต่ำๆ ไพร่ๆ อย่างที่เธอพูดหรอกนะ"
"อ้าว...ทำไมล่ะแก...ตบมันเลยสิ"
"ไม่ดีกว่า ไม่อยากตบให้เสียมือ เดี๋ยววัตรก็จะมารับชั้นไปช้อปปิ้งแล้วล่ะ ส่วนเธอ...กลับบ้านไปได้ละ มาเดินตามอยู่ได้"
ซอนย่าเดินไป โดยไม่สนใจ มินตรา
"อ้าว...เป็นคนชวนมาแท้ๆ ทำไมมาไล่กลับล่ะยะ"
ลลิลได้แต่ถอนหายใจ คิดว่าจะได้พะบู๊กับซอนย่าจริงๆ ซะแล้ว
วันใหม่ ณ สตูดิโอแห่งหนึ่ง คนคนในสตูดิโอต่างเซ็ตฉากพร้อมที่จะถ่ายแบบให้กับลลิล โดยมี ยู่ยี่ คอยกำกับอยู่ข้างๆ
ลลิลนั่งให้นาเดียกับแอนนานั่งแต่งหน้าทำผมอยู่ นพรุจเดินเข้ามาหายู่ยี่
"สวัสดีครับ"
"มาแล้วหรอเรา เตรียมความพร้อมมาหรือยัง" ยู่ยี่บอก
"งั้นก็ดี เดี๋ยวรอนางแบบแต่งหน้าอีกแปปเดี๋ยวก็จะเสร็จแล้ว"
"ครับ"
จากนั้น ดาด้า ก็เดินออกมา
"ผอ. คะ ลินแต่งตัวเสร็จแล้วค่ะ"
"งั้นก็ดีเลย เราจะได้เริ่มทำงานกัน"
"ค่ะ ผอ."
ลลิลเดินออกมาทำให้นพรุจที่ยืนอยู่ถึงกับตาค้างในความสวยของลลิล และไม่คิดว่าจะเป็นคนเดียวกับที่เคยเห็นวันนั้น
นพรุจเดินเข้าไปหาลลิลเพื่อทักทาย
"อ้าวคุณนั่นเอง"
"ไม่อ่ะ ฉันไม่รู้จัก"
ลลิลมองหน้านพรุจ ก่อนที่เดินไปโดยไม่สนใจ
นพรุจทำหน้าเสีย
"ใช่คนเดียวกันหรือเปล่านะ แต่น่าจะใช่นะ"
ยู่ยี่ที่ยืนดูอยู่บอกให้ทุกคนทำงาน
"ถ้าทุกคนพร้อมแล้วก็เริ่มถ่ายกันได้เลย"
นพรุจ ตัวใจถ่ายรูปลลิลออกมาอย่างสุดฝีมือ ลลิลเองก็โพสท่าอย่างมืออาชีพ
ดาด้า คอยเปลี่ยนชุดให้ลลิล นาเดียกับแอนนาก็คอยดูแลหน้าผมมิให้ขาดตกบกพร่อง
ยู่ยี่คอยดูนพรุจอยู่ และยิ่งรู้สึกชอบนพรุจมากขึ้น
หลังจากถ่ายเสร็จ ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปพัก
ดาด้า เอาน้ำไปให้ลลิลกิน
"ลิน....กินน้ำก่อนเถอะ"
"ขอบใจนะดาด้า"
"ช่างภาพใหม่นี่ก็หล่อเหมือนกันเน๊อะ ยิ่งตอนทำงานยิ่งหล่อเป็นทวีคูณเลยนะแก"
"ไม่รู้สิ ฉันไม่ได้สนใจ"
ส้ม เอาน้ำมาให้ยู่ยี่
"ทำไมวันนี้ ผอ.ลงมาคุมงานเองล่ะคะ"
"ขอบใจจ้ะก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศนะ" แท้จริงแล้ว ยู่ยี่อยากมาดูนพรุจทำงานมากกว่า
จากนั้น ยู่ยี่ก็เอาน้ำที่ส้มเอาให้ ไปให้นพรุจ
"นพรุจ กินน้ำก่อนนะ"
"ขอบคุณมากครับ ผอ."
ส้มงงกับการกระทำของยู่ยี่ ด้าน นพรุจ ยิ้มให้ ยู่ยี่รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
"ขอบพระคุณ ผอ. มากเลยนะครับที่ให้โอกาสเด็กบ้านนอกอย่างผม"
"ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจ เธอมาปรึกษาฉันได้ตลอดเวลาเลยนะ"
"ครับ ผอ."
ตอนเย็น นพรุจกำลังเก็บของเพื่อที่จะกลับบ้าน ระหว่างทางเดินที่จะออกจากออฟฟิศ เขาก็เห็นลลิล นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะจึงแอบดู
ลลิลกำลังทำงานอย่างตั้งใจ
"ดูยังไงก็เป็นคนเดียวกับที่เราเจอวันนั้น แล้วทำไมเขาไม่ทักทายเรานะ หรือว่าเขาจำเราไม่ได้"
ขณะที่ลลิลกำลังทำงาน ดินสอเกิดหัก ลลิลจึงเอาคัตเตอร์มาเหลาดินสอ แล้วบังเอิญโดนคัตเตอร์บาดมือ
นพรุจ เห็น ลลิล โดนมีดบาดจึงรีบเข้าไปช่วย
"เป็นอะไรมากไหมครับคุณ" เขาพูดพร้อมกับเอากระดาษทูชชู่มาซับเลือด
"ฉันไม่เป็นไร"
พูดเสร็จ ลลิล ก็เดินออกไป โดยไม่สนใจนพรุจ
"นี่เราทำอะไรให้คุณลลิลไม่พอใจหรือเปล่าเนี่ย"
นพรุจ เดินตามลลิลไป
ภายในบริษัท เวลาต่อมา ลลินพยายามที่จะทายาที่มือ แต่เพราะเธอไม่ถนัดมือซ้ายเลยทำไม่ค่อยได้
นพรุจยืมมองดูลลิล
"ให้ผมช่วยทายาให้ไหมครับ"
"ไม่ต้องฉันทำคนเดียวได้"
ลลิลพยายามแปะเทปยาที่มือแต่ทำไม่ถนัด
นพรุจที่ยืนดูอยู่จึงอดไม่ได้ที่จะเข้ามาช่วย
"มานี่ครับผมช่วย"
นพรุจดึงมือลลิลมา แต่ลลินกับชักมือกลับ
"ฉันบอกว่าไม่เป็นไรไง"
"ก็ผมเห็นคุณติดพลาสเตอร์ไม่ได้สักทีผมเลยอยากช่วย"
นพรุจดึงมือลลิลมาอีกครั้งโดยจับมืออีกฝ่ายไว้แน่น จากนั้นก็ค่อยๆทายาแล้วติดพลาสเตอร์ให้
"เสร็จแล้วครับ"
"ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้อง"
ลลิลเดินออกไป
บรรยากาศกรุงเทพฯ ตอนเช้าวันใหม่
ยู่ยี่ นั่งดูแบบเสื้อผ้าใหม่ๆที่กำลังมาแรงในขณะนี้ จากนั้นก็ได้ยินเสียงเคาะประตู
"เข้ามาได้"
ลลิลเดินเข้ามาพร้อมกับแบบเสื้อผ้าที่ออกแบบมา
"นี่คือแบบเสื้อผ้าชุดเจ้าหญิงทั้งสองแบบ สองสไตล์"
ยู่ยี่ ค่อยๆตรวจดูอย่างละเอียด
"ฉันว่า ฉันอยากให้ชุดเจ้าหญิงทั้งสองตัวนี้เป็นแบบลูกไม้สไตล์โรมัน"
"ได้ค่ะ เดี๋ยวลินจะไปแก้ให้"
"ทำเสร็จแล้วเอามาให้ฉันดูด้วยละ เออแล้วนิ้วไปโดนอะไรมาละ"
"มีดบาดนิดหน่อยค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นขอตัวก่อนนะคะ"
ยู่ยี่พูดด้วยความห่วงใย
"ลิน กินยาแก้อักเสบด้วยนะ เดี๋ยวแผลติดเชื้อจะลำบาก"
"ขอบคุณค่ะ"
ยู่ยี่มองดูลลิลเดินออกจากห้องไป จากนั้นก็ค่อยๆเปิดลิ้นชักแล้วเอารูปที่ตัวเองถ่ายกับอรรถภูมิขึ้นมาดู
นึกย้อนไปในอดีต สมัยที่เรียนมหาวิทยาลัย ภายในอาคารเรียน ยู่ยี่กำลังจะเดินเข้าห้องเรียน
มีนักศึกษาชาย 2 คนมองมาที่ยู่ยี่
นักศึกษา1 บอก "เฮ้ยมึงดูไอตุ๊ดนั้นดิ หน้าตาแม่งโคตรทุเรศเลยว่ะ"
นักศึกษา2 บอก "เออ...ว่ะ...เห็นหน้าแล้วโคตรหมั่นไส้เลยล่ะ"
"งั้นเข้าไปแกล้งมันเล่นดีกว่า"
พูดจบนักศึกษา 2 คน นั้นก็เดินเข้ามาหายู่ยี่
นักศึกษา1 บอก "สวัสดีน้องสาว เอ๊ะ!!!ไม่ใช่น้องสาวสินี่มันน้องตุ๊ดนี่นา"
ยู่ยี่ กลัวผู้ชายสองคนนั้นจนพูดอะไรไม่ออก แต่ก็พยายามที่จะเดินหนี แต่ 2 คน นั้นขวางทางเอาไว้
"จะรีบไปไหนล่ะจ๊ะน้องตุ๊ด อยู่คุยกับพวกพี่ก่อนสิจ้ะ พวกพี่อยากรู้ว่าเป็นผู้ชายดีๆ ทำไมไม่ชอบ อยากเป็นตุ๊ดให้เสียสถาบันผู้ชายทำไมวะ"
ยู่ยี่กลัวผู้ชาย 2 คน นั้นจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนร้องไห้
อรรถภูมิเดินผ่านมาพอดี เลยแกล้งเข้าไปถาม
"เอ่อ...มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่าครับ"
อรรถภูมิเห็นยู่ยี่ร้องไห้
นักศึกษา1 ถาม "ใครมีปัญหาอะไร หรือว่าเอ็งอยากมี"
นักศึกษา2 บอก "มายุ่งเรื่องของรุ่นพี่ทำไม...หรือว่าอยากจะไฟว์"
"ผมไม่อยากมีปัญหากับรุ่นพี่หรอกครับ แต่รุ่นพี่แกล้งน้องปีหนึ่งแบบนี้ผมว่ามันก็ไม่ถูกนะครับ"
"แล้วมึงมีปัญหาอะไรวะ" นักศึกษา2 พูดพลางกระชากคอเสื้ออรรถภูมิ
อรรถภูมิมองไปทางยู่ยี่
"เธอๆ อย่าไปยุ่งกับเขาเลย" ยู่ยี่บอก
"แล้วเธอเป็นอะไรหรือป่าว"
ยู่ยี่ตอบว่าไม่ แล้วได้แต่ยืนร้องไห้เพราะความกลัว
อรรถภูมิหันไปตอบรุ่นพี่ว่า
"ผมไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับพี่ ปล่อยน้องเค้าไปเถอะครับ" ก่อนหันไปพูดกับ ยู่ยี่ "เธอ....วิ่ง!"
อรรถภูมิสะบัดมือรุ่นพี่ออก แล้วจับมือยู่ยี่แล้ววิ่งหนีรุ่นพี่สองคนนั้น
ภายในอาคารเรียน รุ่นพี่สองคนนั้นเดินตามมาหาเรื่อง อรรถภูมิ และ ยู่ยี่
นักศึกษา1ถาม"มึงจะหนีไปไหน"
"ดูท่าแล้วมันคงอยากจะมีเรื่องว่ะ"
"งั้นก็รับน้องแม่งตรงนี้เลย"
อรรถภูมิเห็นท่าไม่ดีจึงให้ยู่ยี่มายืนข้างหลังตนเอง
"เธอยืนอยู่ข้างหลังฉันนะ"
ยู่ยี่ พยักหน้าตอบรับ
จากนั้น อรรถภูมิ และ รุ่นพี่สองคนนั้นก็มีเรื่องชกต่อยกัน
อรรถถูมิ เสียท่ารุ่นพี่สองคนนั้นจึงถูกต่อยอยู่ฝ่ายเดียว
นักศึกษา1ถาม "มึงคิดว่ามึงเป็นฮีโร่เหรอไง"
พูดจบก็ต่อยอรรถภูมิแบบไม่ยั้ง
ยู่ยี่ เห็นว่าอรรถภูมิกำลังแย่ จึงรีบเข้าไปช่วย อรรถภูมิ แบบกล้าๆกลัวๆ
ไม่นานก็มีอาจารย์เดินผ่านมา
นักศึกษา1โพล่ง "เฮ้ย...อาจารย์มาว่ะ"
"งั้นไปกันเถอะ"
หลังจากรุ่นพี่สองคนนั้นจากไป ยู่ยี่ก็รีบไปดูอรรถภูมิ
"เธอเป็นอะไรหรือเปล่า"
อรรถภูมิยิ้มให้ยู่ยี่ ยู่ยี่รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกที่เห็นเขายิ้มให้
"แค่นี้เองไกลหัวใจ ฉันไม่เป็นอะไรหรอกว่าแต่เธอชื่ออะไรล่ะ เราชื่ออรรถภูมินะ เรียก อรรถเฉยๆ ก็ได้"
"เราชื่อ ยู่ยี่"
"แหม...ชื่อเหมือนนางแบบเลยนะ โอเค. ว่าแต่เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม"
"ไม่เป็นไร ขอบคุณนะที่เข้ามาช่วย"
"เรื่องแค่นี้เองสบายมาก งั้นฉันไปเรียนก่อนนะสายแล้ว"
พูดจบ อรรถภูมิ ก็เดินจากไป
ยู่ยี่มองอรรถภูมิจนลับสายตา และรู้ทันทีว่าตนเองชอบอรรถภูมิตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น
คืนนั้น ในห้องทำงาน ลลิลกำลังแก้แบบชุดที่ยู่ยี่สั่ง
ยู่ยี่กำลังจะกลับบ้านก็เดินมาเห็นลลิล จึงหยุดมองหลานของตัวเอง
ลลิล รู้สึกตัวว่ามีคนมองจึงหันไปดูและเห็นยูยี่
"ลินยังไม่กลับบ้านอีกหรอ"
"ยังค่ะ ผอ. กะว่าจะแก้แบบชุดนี้ให้เสร็จก่อนค่ะ"
"ฉันว่าเธอควรกลับได้แล้วนะเพราะนี่มันก็ดึกมากแล้ว"
"ใกล้จะเสร็จละ เดี๋ยวก็จะกลับละค่ะ"
"ฉันบอกให้เธอกลับได้แล้ว ไว้ทำต่อพรุ่งนี้ก็ได้ พักผ่อนซะบ้างนะลิน ไม่ใช่ทำแต่งาน จนลืมดูแลตัวเอง ช่วงนี้ลินดูผอมไปนะ"
ลลิลมองหน้ายู่ยี่อย่างแปลกใจ
ยู่ยี่ทำเป็นเฉไฉ
แล้วกลับบ้านดึกๆ เนี่ยมันอันตรายรู้มั้ย ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วย อันตรายรอบด้าน"
พูดจบยู่ยี่ก็เดินจากไป
ลลิล มองยู่ยี่เดินจากไปและแปลกใจในคำพูดที่เหมือนจะห่วงใยตนเองออกมา
คืนเดียวกัน ซอนย่านั่งดื่มไวน์พร้อมกับอ่านนิตยสารแฟชั่น ไม่นานก็ได้ยินเสียงเคาะประตู
ซอนย่าเดินไปเปิดประตู ก็เจอกับอนุวัตร
"ทำไมมาดึกจัง รู้ไหมว่านี่มันกี่โมงแล้ว"
"อย่างอนสิจ๊ะที่รัก วันนี้ผมมีข่าวดีมากบอกคุณนะ"
"ข่าวดีอะไรของคุณ"
"ก็เมื่อช่วงเย็นคุณซินดี้ โทรมาบอกว่านิตยสาร Show Magazine กำลังจะหานางแบบขึ้นปกในเดือนหน้า แล้วลูกค้าที่ผมรู้จักเค้าอยากได้คุณขึ้นปกพอดี ผมเลยไปล็อบบี้ไว้ให้คุณเรียบร้อยแล้ว"
"นิตยสาร Show Magazineเหรอ ก็ดีเหมือนกันนะ อยากเจอยัยลลิลอยู่พอดีอยากจะไปเยาะเย้ยมันซะหน่อย ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉัน"
"ผมช่วยคุณขนาดนี้คุณก็น่าจะให้รางวัลผมนะ"
"แล้วคุณอยากได้อะไรล่ะคะ"
"นั่นก็เป็นสิ่งที่คุณรู้อยู่แล้วนะว่าผมต้องการอะไร"
อนุวัตร มองหน้าซอนย่าแล้วค่อยๆปลดกระดุมเสื้อซอนย่าที่ละเม็ด ก่อนที่จะโน้มตัวลงไปที่เตียงนอน
คืนเดียวกัน มินตราพยายามโทรหาอนุวัตร แต่ไม่รับสาย
"ทำไมไม่รับสายเนี่ย...ไลน์ไปก็ไม่อ่าน ไม่ตอบ โอ๊ย...!"
มินตราอารมณ์เสีย เลยจิบเหล้าปลอบใจ
วันใหม่ ทุกคนกำลังประชุมกันอย่างเคร่งเครียด
"อาทิตย์หน้าเราจะมีการถ่ายปกนะ"
"แต่เรายังหานางแบบของเดือนหน้าไม่ได้เลยนะคะ" ลลิลบอก
"เรื่องนั้นเธอไม่ต้องห่วงคุณซินดี้เสนอมาแล้ว"
ดาด้าถาม "พี่ซินดี้เสนอใครหรอคะ"
"ดิฉันเสนอคุณซอนย่าค่ะ"
ดาด้าตกใจ เสียงสูง "ซอนย่า..."
"มีอะไรหรือเปล่า" ยู่ยี่ถาม
"ไม่มีอะไรคะ ผอ. แต่สงสัยว่าทำไมต้องเป็นคนนี้ยัยคนนี้ทำงานยากจะตาย"
ซินดี้บอก
"ที่ดิฉันเลือกคุณซอนย่าก็เพราะว่าตอนนี้เธอเป็นนางแบบที่กำลังมาแรง และเป็นที่ต้องการของตลาดค่ะ และลูกค้าโฆษณาของเราก็ชอบเธอมาก อยากให้เธอมาขึ้นปกค่ะ"
"ก็ดีนะ เพราะซอนย่าก็ยังขายได้อยู่ ขึ้นปกทีไร หนังสือเกลี้ยงแผงทุกที เพียงแต่เราเปลี่ยนคอนเซ็ปท์ให้แปลกตานิดหน่อยก็ได้ละ สรุปว่าเป็นซอนย่าละกัน ดาด้าประสานงานต่อได้เลย" ยู่ยี่ว่า
"ได้ค่ะ ผอ."
"ส่วนนาเดียกับแอนนาระวังเรื่องการแต่งหน้าทำผมให้ซอนย่าด้วยนะ เดี๋ยวถูกนางวีนเหวี่ยงอีก"
นาเดีย/แอนนา ตอบพร้อมกัน "ได้ค่ะ ผอ."
"แล้วช่างภาพล่ะคะ ซอนย่าค่อนข้างเรื่องมากกับช่างภาพไม่ใช่หรือคะ"
"นางเรื่องมากทุกสิ่งอย่างแหละ" ดาด้าว่า
"ช่างภาพงานนี้คือ นพรุจ"
ทุกคนในที่ประชุมต่างงงว่า ทำไมยู่ยี่ถึงเลือกใช้นพรุจ ทั้งที่เป็นช่างภาพมือใหม่ !?
"แต่ นพรุจ เขายังเป็นช่างภาพใหม่อยู่นะคะ ฉันคิดว่าเขายังมีประสบการณ์ไม่มากพอที่จะรับมือกับซอนย่าได้" ลลิลว่า
"ก็เพราะว่าเขาเป็นมือใหม่และไม่มีประสบการณ์ไง ฉันถึงเลือกเขาให้ทำงานนี้ ฉันเชื่อว่าเขาจะตั้งใจสุดๆ ทุกอย่างคือการเรียนรู้ ถ้าเราไม่กล้าที่จะก้าว หรือกล้าที่จะทำ เราก็จะไม่มีวันรู้ว่าเค้าทำได้หรือเปล่า ฉันจึงให้โอกาสเค้าได้ทำงานนี้ จำไว้นะ สิ่งที่มีค่าที่สุดของคนเราคือการได้รับโอกาส จำวันที่พวกเธอมาทำงานแรกๆ กันได้มั้ย ก็ยังไม่เก่ง ค่อยๆ ฝึกค่อยๆ เรียนรู้ แล้วนพรุจเค้าก็มีความตั้งใจสูง ฉันดูคนไม่ผิดหรอก เชื่อสิ!"
"แล้วถ้าเกิดข้อผิดพลาดล่ะคะ"
"ฉันตัดสินใจแล้ว"
"แต่ว่า"
ยู่ยี่รีบพูดตัดบท
"ถ้ามีอะไรผิดพลาดฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเอง เธอพอใจไหม"
ทุกคนในห้องประชุมต่างเงียบเพราะไม่มีใครกล้าแย้งยู่ยี่
"งั้นวันนี้พอแค่นี้แหละ"
ยู่ยี่ เดินอ่านเอกสารข้อมูลลูกค้าอยู่ภายในห้องทำงาน นพรุจ เข้ามาหายู่ยี่
"ผอ. เรียกผมมามีธุระอะไรหรือเปล่าครับ"
"เธอรู้ใช่ไหมว่าอีกสองอาทิตย์เราจะมีการถ่ายแบบปกกัน"
"ทราบครับ"
"แล้วรู้รึเปล่าว่างานนี้ใครเป็นช่างภาพ"
"อันนี้ผมไม่ทราบครับ ใครเป็นช่างภาพหรอครับ"
"เธอไง"
นพรุจอึ้งกับคำตอบเพราะไม่คิดว่าตนเองจะได้รับหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้
"ผมได้ถ่ายงานเซ็ตนี้หรือครับ"
"ใช่ เธอพร้อมหรือเปล่าล่ะ"
"คิดว่าน่าจะพร้อมครับ"
"อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ"
นพรุจ ดีใจมากจึงเข้าไปจับมือยู่ยี่แบบลืมตัว
"ขอบคุณนะครับที่ให้โอกาสผม"
นพรุจมองหน้ายู่ยี่ด้วยความดีใจที่ช่วยเติมความฝันในตนเอง
ยู่ยี่ มองนพรุจด้วยความรักแบบหญิงชาย
"งั้นผมขอตัวไปเตรียมการก่อนนะครับ"
ยู่ยี่นั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว
ในอดีต ... ที่มหาวิทยาลัย ยู่ยี่ถือของและเอกสารมาเต็มมือ ทำให้ของหล่น อรรถภูมิเข้ามาช่วยเก็บของ โดนมือยู่ยี่โดยบังเอิญ
"เอามา...เราช่วยถือ"
"ขอบคุณนะ"
"ขอบคุณเรื่องอะไรแค่ช่วยถือของเอง"
"ก็เรื่องที่เธอช่วยฉันเมื่อวันก่อนไง"
"อ๋อ...ขอบคุณอะไรหลายๆ รอบ เอาของไปให้อาจารย์เสร็จเราไปกินข้าวกันไหม"
ยู่ยี่ตกใจที่อรรถภูมิชวนไปกินข้าว
"เอาสิ ให้ฉันเป็นคนเลี้ยงนะ"
"ได้ ไม่มีปัญหา"
ยู่ยี่ และ อรรถภูมิ นั่งกินข้าวด้วยกันในโรงอาหาร
ยู่ยี่ มองอรรถภูมกินข้าว
"อร่อยเน๊อะ" อรรถภูมิว่า พลางกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย ยู่ยี่ได้แต่มองแล้วยิ้ม
อรรถภูมิ มองยู่ยี่
"อ้าว,,,แล้วทำไมเธอไม่กินละ"
"กินสิ แต่ฉันยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่"
"กินน้อยแบบนี้จะมีแรงได้ยังไง ตัวเล็กแค่นี้จะไปสู้ใครเขาได้"
พูดเสร็จอรรถภูมิก็ตักอาหารให้กับยู่ยี่ ทำให้เธอคิดเอาเองว่าอรรถภูมิชอบตนเอง
"กินเยอะๆ สิ จะได้อ้วนๆ"
ยู่ยี่พยักหน้าตอบรับ
อรรถภูมิก้มหน้ากินข้าวต่อ
ยู่ยี่มองอรรถภูมิกินข้าวอย่างมีความสุข
รุ่งขึ้น ทุกคนช่วยกันเซ็ตฉากกันอย่างตั้งใจ ลลิลมองหานางแบบ
"ดาด้า นางมาหรือยัง" ลลิลถาม
"ยังเลยแก เลทประจำ"
สักพัก ซอนย่า ก็เดินเข้ามาในสตูดิโอ
ดาด้าบอก "นั่นไง....นางมาโน่นแล้ว"
ลลิลพูดประชด
"อ้าว...เร่งทำงานกันหน่อยเร็ว นางแบบมาแล้ว พี่นาเดีย แอนนา เริ่มบรรเลงได้เลยค่ะ"
ซอนย่าเซย์ไฮกับทุกคน
"สวัสดีค่า...ทุกคน ขอโทษด้วยนะคะ พอดีเมื่อคืนซอนย่านอนดึกไปหน่อยอ่ะคะ ก็เลยเพลียๆ
"เลทแค่สองชม.เองไม่เป็นไรค่ะ แต่รีบหน่อยก็ดีนะคะ เดี๋ยวงานเสร็จไม่ทันส่งโรงพิมพ์"
"ได้จ้ะลิน ต้องขอโทษจริงๆ นะพอดี วัตร เขากวนเราดึกมากเลย เหนื๊อย...เหนื่อย...แหม...เธอก็รู้ซูเปอร์โมเดลอย่างฉัน ทำงานแบบมืออาชีพอยู่แล้ว"
"ไม่รักเวลาแบบนี้ เค้าไม่เรียกว่า มืออาชีพ หรอก" ลลิลว่า
ดาด้า เห็นสถานการณ์ไม่ดีจึงเข้ามาห้ามลลิล
"ลิน ช่วยไปดูชุดทางโน้นหน่อยสิว่าโอเค.มั้ย"
"เดี๋ยวนะดาด้า ฉันขอดูงานตรงนี้แปปนึง"
ลลิลเดินไปที่เก้าอี้แล้วกำลังจะนั่ง แต่ก็ถูกซอนย่าแอบเตะขาเก้าอี้ทำให้ลลิลล้มลงกับพื้น
"อุ๊ยส์ ขอโทษนะลิน เราไม่ได้ตั้งใจอ่ะ"
ซอนย่าพูดเสร็จ ก็เดินไปแต่งหน้า นพรุจที่ยืนอยู่บริเวณนั้นจึงรีบเข้ามาช่วย
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณลิน"
นพรุจกับลลิลมองหน้ากัน แต่พอลลิลตั้งสติได้ก็สะบัดนพรุจออกไป และลุกขึ้นยืนเอง
"ฉันไม่เป็นไร ไปเตรียมงานของนายเถอะ"
"แต่ว่า..."
ดาด้าเข้ามาช่วยประคองลลิล
"เป็นอะไรหรือเปล่าลิน ดูสิกางเกงเธอเปื้อนหมดเลย"
"ไม่เป็นไรหรอกแ"
"นังนี่มันร้ายจริงๆ นี่ถ้าลูกค้าไม่เควสมาล่ะก็ ฉันจะไม่ทำงานนี้เลยนะ"
จากนั้นทั้งสองก็เดินไป นพรุจ มองลลิลด้วยความเป็นห่วง
นาเดียนั่งแต่งหน้าให้ซอนย่า โดยมีแอนนากำลังเซ็ทผมให้ มินตราเดินเข้ามาพอดี
"ซอนย่า ชั้นขอโทษนะ มาสายไปหน่อย"
"เธอก็สายเป็นประจำอยู่แล้วนี่...ชั้นไม่แคร์หรอก ยังไงเธอก็ต้องมา"
มินตรา กัดฟันกรอด..เพราะยังต้องพึ่งซอนย่าเรื่องงาน และเงินเดือนที่ซอนย่าจ้างมาเป็นเพื่อน
"เสร็จละค่ะ คุณซอนย่า"
แอนนาบอก "อีกแปปนึงนะคะ อีกนิดเดียวค่ะ"
"ขอกระจกหน่อยสิ"
ซอนย่ามองตัวเองในกระจก แล้วก็ร้องกรี๊ดดๆๆๆๆ หวังจะป่วนงานลลิล
"นี่มันอะไร ทำไมแต่งหน้าฉันออกมาแบบนี้"
"เป็นอะไรซอนย่า!"
ซอนย่าขยิบตาให้มินตรา ประมาณว่ารู้กัน
"โอ๊ย...อะไรเนี่ย...ทำไมแต่งหน้าซอนย่าเป็นแบบนี้ ไม่สวยเลย โนมากๆ ดูสิ"
นาเดียถาม "ทำไมหรือคะคุณซอนย่า ฉันแต่งหน้าเป็นอย่างไร"
"มีอะไรหรอพี่นาเดีย เกิดอะไรขึ้น" ดาด้าถาม
"ก็ดูสิ....ทำไมเฉดแก้มฉันแบบนี้ มันทำให้ดูอ้วนมากๆ แล้วสีปากแบบเนี้ย...ฉันเกลียดที่สุด"
"เธอแต่งหน้าประสาอะไร ดูสิ เธอก็น่ารู้นะว่า ซอนย่าไม่ชอบปากสีนี้...ใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้น นักข่าวเขายังรู้เลย" มินตราบอก
ซอนย่าเริ่มเอาชิชชู่เช็ดปากตัวเอง ลลิลได้ยินเสียงเดินเข้ามาดู
"อย่าเรื่องมากนักเลย เธอมาเลทสองชม. ทีมงานต้องนั่งรอเธอแต่งหน้าอีกชม.กว่าๆ ป่านนี้ยังไม่ได้เริ่มถ่ายงานเลย แล้วเมื่อไหร่จะเสร็จ อีกอย่างนี่ก็เป็นคอนเซ็ปท์ที่ลูกค้าอยากได้"
"แต่ฉันไม่อยากชอบฉันจะไปล้างหน้า"
"ไป...ซอนย่า...ชั้นพาไปเอง ล้างออกให้หมดเลยนะ แล้วค่อยแต่งใหม่ ถ้าเสียเวลา ก็ต้องเสียล่ะ...งานนี้"
"เธอไม่มีสิทธิ์เลือกนะ เธอต้องทำงานตามออเดอร์ลูกค้า ส่วน มินตรา มีหน้าที่เป็นแค่คนติดตาม ไม่ต้องพูดอะไรมาก"
"ทำไม...ชั้นจะพูดไม่ได้ ในเมื่อ ซอนย่า ไม่ชอบ!"
"ใช่...แล้วชั้นก็ไม่ชอบสีปากแบบนี้ที่สุด มันไม่เหมาะกับฉัน"
นพรุจเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด จึงเข้ามาช่วยพูดเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้น
"เอ่อ...คุณซอนย่าครับ ตามคอนเซ็ปท์ที่คุยกัน ลูกค้าอยากให้คุณพรีเซ็นต์สีปากแบบนี้นะครับ อีกอย่างหนึ่งผมอยากจะบอกว่า สีปากสีนี้เหมาะกับคุณมากๆ ดูเฉี่ยว เปรี้ยว แต่แฝงไปด้วยความนุ่มนวล ไม่เชื่อลองให้ผมถ่ายรูปคุณดูสิครับ จะได้เห็นว่าคุณสวยแค่ไหน"
"นี่ช่างภาพใหม่หรือคะ ซอนย่าไม่เคยเห็น แต่พูดแบบนี้ซอนย่าก็ขอดูฝีมือของคุณหน่อยละกันนะคะ"
"ซอนย่า...จะดีเหรอ"
"เอาน่า...ถือว่าลองงานช่างภาพใหม่ก็แล้วกัน"
ซอนย่าชอบใจที่นพรุจชมตัวเองว่าสวย
"โอเคค่ะ งั้นพี่นาเดียก็ทาปากสีนี้ให้ซอนย่าใหม่ละกันนะคะ"
นาเดียพูดแบบละล่ำ ละลัก "ได้ค่ะ"
ในสตูดิโอ ทุกคนตั้งใจทำงาน
นพรุจพยายามถ่ายภาพออกมาให้ดีที่สุด โดยมีซอนย่าเป็นแบบโพสท่าให้
ลลิลเองก็เอาใจช่วยนพรุจอยู่เหมือนกัน
นพรุจเปิดภาพที่ตัวเองถ่ายให้ซอนย่า แล้วเรียกซอนย่ามาดู
"คุณซอนย่าครับ ลองมาดูภาพสิครับ"
ซอนย่าเดินเข้ามาดูภาพตัวเองที่คอมพ์แล้วก็เห็นว่ารูปที่ถ่ายนั้นสวยจริงๆ
"สวยจริงๆ ด้วย คุณ...เอ่อ..."
"ผมชื่อ นพรุจ ครับ เรียก นพ เฉยๆ ก็ได้ครับ"
มินตรารีบสอด
"สวัสดีค่ะ คุณนพ ชั้นชื่อ มินตรา เป็นเพื่อนสนิทของ ซอนย่า ค่ะ"
ซอนย่าเคืองที่มินตราเข้ามาแทรก
"เอ่อ...มินจ้ะ...อยู่เฉยๆ มะ คุณนพคะ รูปสวยจริงๆ นะคะ ซอนย่าไม่เคยเห็นรูปตัวเองสวยแบบนี้มาก่อนเลย"
ซอนย่าแอบมองนพรุจ แต่อนุวัตรเดินเข้ามาพอดี
"เสร็จหรือยังครับ"
ลลิลกับดาด้าแอบถอนใจที่เรื่องราวผ่านไปได้ด้วยดี ลลิลแอบขอบคุณนพรุจอยู่ในใจ
นพรุจเอาภาพที่ถ่ายมามานั่งดูกับลลิลพร้อมกับยู่ยี่
ลลิลค่อยๆ ดูภาพก่อนที่จะหัวเสีย
"ก็ดูสวยดีนะ แต่คอมโพสบางภาพยังไม่ค่อยโอเค."
นพรุจ รู้ตัวเองว่าฝีมือการถ่ายภาพยังไม่ถึงขั้น
"ขอโทษครับคุณลลิล"
"ขอโทษแล้วมันจะทำให้ภาพสวยขึ้นมาหรือไง"
"แต่ผมก็พยายามทำสุดฝีมือแล้วนะครับ"
ลลิลหันหน้าไปหายู่ยี่และแกล้งพูดเหมือนไม่พอใจ
"เห็นไหมคะ ลินบอกแล้วว่าฝีมือเข้ายังไม่ถึงขั้น"
ยู่ยี่มองรูปภาพที่นพรุจถ่ายมา
"ก็โอเค,แล้วนะ"
"แต่ลินว่ายังไม่ค่อยโอเค.สักเท่าไหร่"
"นี่มันเป็นการถ่ายครั้งแรกของนพรุจ และเขาสามารถถ่ายได้ขนาดนี้ฉันถือว่าโอเค.นะ เหมือนกับตอนที่เธอออกแบบเสื้อผ้าครั้งแรกไง เธอคิดว่าเสื้อผ้าเหล่านั้นเป็นยังไงบ้างล่ะ หรือตอนที่เธอทำงานสไตลิสต์ ครั้งแรกมันก็มีข้อบกพร่องใช่มั้ยลิน...เธอต้องเปิดใจบ้างนะ อย่ามัวแต่อคติ"
นพรุจเห็นทั้งสองคนกำลังเถียงกันจึงรู้สึกไม่ดี
"อย่าเถียงกันเพราะผมเลยครับ ครั้งต่อไปผมจะทำให้ดีขึ้นกว่านี้ครับ"
ลลิลไม่สนใจคำพูดของนพรุจ
"งั้นก็ชื่นชมกันไปละกันนะคะ ผอ. ลินขอตัวก่อน"
พูดจบลลิลก็เดินออกจากห้องไป
นพรุจรู้สึกไม่ดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ยู่ยี่มองนพรุจก็รู้สึกสงสาร
กลางคืน นพรุจเดินขึ้นมาบนดาดฟ้าของบริษัท
เขายังรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเสียความมั่นใจในการเป็นช่างภาพ
ยู่ยี่เดินตามมา รู้สึกสงสารจึงพยามปลอบใจ
"เธออย่าคิดมากเลย"
"ผมคงเป็นช่างภาพที่ไม่ได้เรื่องจริงๆแหละครับ"
"อย่าโทษตัวอย่างอย่างนั้นสิ งานที่เธอทำไม่ใช่ว่าจะไม่ดีทั้งหมด มันก็โอเค. เพียงแต่ว่าบางภาพที่ลินเค้าพูดอาจจะไม่ถูกใจเค้าไง เราไม่สามารถทำให้คนถูกใจงานเราได้ทุกคนหรอก เพราะต่างคนต่างจิตต่างใจ"
"ผอ.อุตส่าห์ไว้ใจผมให้เป็นช่างภาพในครั้งนี้ แต่ผมกลับทำมันพัง แถมยังทำให้คุณลลิลไม่พอใจอีก"
"อย่าไปสนใจเค้าเลย ลินก็เป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เด็กแล้วล่ะไม่มีอะไรหรอก"
"แต่ว่า"
"เชื่อฉันสิ เออ...ฉันถามอะไรเธอหน่อยสิ"
"ครับ ผอ."
"เธอยังฝันที่อยากจะเป็นช่างภาพที่เก่งและยอมรับอยู่ไหม"
"ครับ"
"อย่างงั้นเธอก็ห้ามยอมแพ้ และพยายามในสิ่งที่เธอฝันต่อไป ทำให้ทุกคนเห็นว่าเธอทำได้ โดยเฉพาะ...ลิน"
นพรุจสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วถอนหายใจออกมาและมองไปข้างหน้า
"ขอบคุณนะครับ ผอ. ผมจะพยายามครับ"
ยู่ยี่ ยิ้มให้กำลังใจนพรุจ นพรุจเองก็ยิ้มเพื่อเป็นการขอบคุณยู่ยี่ พร้อมบอกกับตัวเองว่าจะพิสูจน์ความสามารถให้ลลิลเห็นให้ได้
วันใหม่ ซึ่งเป็นวันถ่ายแบบในสวนธรรมชาติ นพรุจกำลังถ่ายแบบให้ซอนย่า โดยมีลลิลเป็นสไตลิสต์
ไม่นาน ดาด้า ก็เดินเข้ามาหาลลิล
"เกิดเรื่องแล้ว...ลิน"
"เกิดเรื่องอะไรขึ้น....ดาด้า"
"ก็นายแบบที่เราจ้างมาเกิดป่วยกะทันหันนะสิ นอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาลเลยล่ะ แล้วนี่ก็เป็นงาน Adverที่ลูกค้าอยากได้พร้อมกับปกด้วย ทำไงดีเนี่ย...ตามสัญญาแล้ว โฆษณาตัวนี้ต้องมีนายแบบประกบคู่ซะด้วย"
"ใจเย็นๆ ขอฉันคิดแปปนึง"
ลลิลกับดาด้า จึงช่วยกันคิดหาทางออก ลลิลเหลือบไปเห็นนพรุจ
"ไม่เป็นไรเดี๋ยวเรื่องนี้ฉันหาทางแก้เอง เธอไปเตรียมแต่งหน้าให้ซอนย่าถ่ายเซ็ตต่อไปเถอะ"
"ได้ๆ ไม่มีปัญหา"
ลลิลเดินเข้าไปหานพรุจ ที่กำลังทำความสะอาดกล้องอยู่
"ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย"
"คุณลลิลมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมหรอครับ"
"คือว่า..."
"มีอะไรหรือเปล่าครับ"
"คือนายแบบวันนี้ของเราเกิดป่วยกะทันหัน ไม่สามารถมาถ่ายแบบให้เราได้ ฉันจึงอยากให้นายช่วยมาเป็นแบบให้หน่อย"
นพรุจแถบไม่เชื่อหูตัวเอง "ผมเนี่ยนะ"
"ใช่ เพราะเราหาใครไม่ทันแล้วจริงๆ ถือว่าฉันขอร้องแล้วกัน เพราะนายหุ่นไล่เลี่ยกับนายแบบที่ลูกค้าต้องการ"
"แล้วใครจะเป็นช่างภาพล่ะ"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้ผู้ช่วยถ่ายแทน นายก็เตรียมอุปกรณ์หรือคอมโพสให้พร้อมละกัน"
"ถ้าคุณลลิลขอร้องผมขนาดนี้ทำไมจะไม่ได้ละครับ"
ลลิลดีใจมาก "ขอบใจนายมากนะ"
นพรุจยิ้มให้ลลิล ทำให้ลลิลรู้สึกถึงความจริงใจที่นพรุจส่งมาให้
"ผมถามอะไรคุณหน่อยได้ไหมคุณลลิล"
"ว่ามาสิ"
"ทำไมก่อนหน้านี้คุณต้องทำตัวเย็นชากับผมด้วยครับ ทำเหมือนไม่เคยเจอผมมาก่อน"
"ไม่รู้สิ คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ค่อยได้ บางทีต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง คนบางคนรักกันมาหลายปี ยังหักหลังกันได้ ฉันก็ต้องมีกำแพงไว้ป้องกันตัวฉันบ้างก็เท่านั้นเอง"
ระหว่างนั้นซอนย่าที่แต่งหน้าเสร็จแล้วก็เดินเข้ามาได้ยินสิ่งที่นพรุจพูดพอดี
"ผมเข้าใจ แต่คุณไม่ต้องกลัวผมนะครับ ผมจะไม่มีวันหลักหลังคุณ แต่ก่อนผมแค่น้อยใจว่าคุณลลิลทำไมต้องทำเย็นชากับผมด้วย แต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วครับ งั้นผมจะช่วยคุณลลิลทุกอย่างเท่าที่คุณจะสั่งผมเลยนะครับ"
"ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก แต่ก็ขอบคุณนายมากนะ"
"ไม่เป็นไรครับ ถ้าคุณลลิลมีอะไรให้ผมช่วยก็บอกมาได้เลยนะครับ ขอแค่คุณลลิลอย่าเย็นชากับผมเหมือนที่ผ่านมาก็พอ" นพรุจทำน้ำเสียงอ้อนวอน
ทั้งคู่มองหน้ากัน นพรุจยิ้มให้ลลิลด้วยสายตาที่อบอุ่น
ลลิลหวั่นไหว และรู้สึกดีอย่าบอกไม่ถูกเหมือนกัน
ซอนย่าที่กำลังแอบมองอยู่นั้น จึงคิดแผนอะไรได้ออกมา
"มินตรา ฉันว่าหัวหน้ากับลูกน้องคู่นี้แปลกๆ นะ"
"ชั้นก็ว่าแปลก" มินตรามองหน้าซอนย่า "เธอมีแผนอะไรใจหรือเปล่า"
ซอนย่าไม่ตอบ
"เสร็จฉันล่ะนางลลิลแบบนี้สนุกแน่!"
นพรุจยอมถ่ายแบบตามที่ลลิลขอ โดยมีผู้ช่วยมาทำหน้าที่ช่างภาพแทน
ลลิลสอนนพรุจแอ็คท่าถ่ายแบบคู่กับซอนย่า
ลลิลรู้สึกสนุกกับงานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คอยสอนนพรุจโพสท่าต่างๆ
ทุกคนถ่ายงานกันอย่างสนุกสนานมีเพียง ซอนย่า กับ มินตรา ที่คอยแอบสังเกตพฤติกรรมของลลิลกับนพรุจ
ขณะที่พักเบรก ซอนย่าชวนนาเดียกับแอนนาเม้าท์เรื่องลลิลกับนพรุจ
"พี่นาเดียคะ ซอนย่าว่าหัวหน้าของพี่น่าจะเป็นสมภารกินไก่วัดแล้วล่ะค่ะ" ซอนย่าบอก
"คงไม่มั้งคะคุณซอนย่าคุณลินแกกว่าคุณนพตั้งสามปีแน่ะ"
"ทำไมละคะ แหม...ผู้หญิงยุคใหม่เค้าชอบกิน เอ๊ย...ชอบคบผู้ชายอายุน้อยกว่าทั้งนั้น คุมง่ายดี"
"จริงของเธอนะซอนย่า ดูๆ ไปแล้วมันก็มีอะไรแปลกๆ อยู่น้า" มินตราบอก
แอนนาบอก
"แต่ก็ว่าไม่ได้นะพี่นาเดีย แอนนาสังเกตว่าวันนี้พี่ลลิลดูสดชื่น ร่าเริงผิดปกติ"
"เห็นมั้ย...เธอก็คิดเหมือนกันใช่มั้ย"
"นี่...นังแอนนา นั่นหัวหน้าแกนะยะ" นาเดียหันไปพูดกับซอนย่า "คุณลินเค้าก็อารมณ์ดีแบบนี้แหละ แต่แค่ช่วงเวลางานก็จะจริงจังก็แค่นั้นเอง"
ดาด้า เดินเข้ามาสมทบ
"ไม่จริงหรอกมั้งคะคุณซอนย่า"
"ไม่เชื่อ!!!เธอก็ลองคิดดูสิว่าทำไมอยู่ๆช่างภาพมือใหม่คนนั้นถึงได้มาเป็นนายแบบ ทั้งๆที่นายแบบคนอื่นมีตั้งเยอะแยะ"
มินตราสนับสนุน "จริงด้ว"
"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ พอดีนายแบบตามโมเดลลิ่งต่างๆ ไม่ว่าง ที่มีอยู่ก็ไม่ตรงคอนเซ็ปท์ของลูกค้า"
ซอนย่าทำเบะปาก แต่ก็ไม่วายไซโคเข้าไปอีก
"ฉันมาถ่ายแบบให้ show magazine ก็หลายรอบนะ ทำงานกับลลิลก็หลายหน ไม่เคยเห็น ลลิลดูมีความสุขหรือสดชื่นเท่าครั้งนี้มาก่อนเลย"
"นั่นสิ ตั้งแต่รู้จัก ลลิล มา ชั้นก็เพิ่งเห็นว่านางอารมณ์ดี สดใส ก็วันนี้ หรือว่า...."
แอนนาบอก "แต่จะว่าไป คุณนพ ก็หล่อน้า...หุ่นงี้เป๊ะมาก อยากเห็นซิกแพคกล้ามโตๆ ข้างในจัง ฮื้อฮือ...น่ากินมากๆ" แอนนาทำท่าเพ้อฝัน
"เพ้อมากไปละนังแอนนา ไปตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองซะนะยะ" นาเดียบอก
"แหม...หรือว่าไม่จริง!"
ซอนย่ามองทุกคนเม้าท์ถึงลลิลกับนพรุจอย่างเมามันส์และยิ้มออกมาอย่างมีเลสนัย
ดาด้าเองอยากจะเถียงว่าไม่เป็นความจริง แต่ก็ไม่กล้าที่จะฟังธง เลยได้แต่นั่งเงียบๆ
"คนที่จะตอบเรื่องนี้ได้ดีที่สุดเห็นทีจะเป็นเธอสินะ...ลิน"
คืนนั้น ลลิลกับดาด้า นั่งอยู่ในร้านอาหาร ดาด้า มองหน้าเพื่อนเพราะมีคำถามมากมายที่จะถาม
"แกชวนฉันออกมาข้างนอกมีธุระอะไรเนี่ย"
"ก็ฉันมีเรื่องอยากจะถามนะสิ"
"ไหนว่ามาสิ ทำไมแกดูลุกลี้ลุกลนจัง มีอะไรจะถามก็รีบถามมา"
"วันนี้ นังซอนย่าเอาแกกับนพรุจไปเม้าท์ว่า แกน่ะ จะเป็นสมภารกินไก่วัด"
"อะไรสมภารกินไก่วัด ฉันไม่เข้าใจ"
"ฉันถามแกจริงๆนะ แกคิดอะไรกับนพหรือเปล่า"
ลลิลนึกถึงตอนที่นพรุจยิ้มให้ตนเอง และตอนที่นพรุจทำแผลให้ และครั้งแรกที่เจอนพรุจที่ริมแม่น้ำ
"ลิน...ลิน...ลินว่าไง"
ดาด้าเรียกชื่อลลิลเสียงดัง
"ยัยลิน"
ลลิลรู้สึกตัว
"ว่าไง"
"ฉันว่าแกแปลกๆ ไปนะ สรุปแกชอบนพหรอ"
"ป่าว.." ลลิลเสียงสูง "จะบ้าเหรอ ฉันไม่ชอบเด็กแล้วยัยนั่นก็ชอบเม้าท์ฉันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว นี่อย่าบอกนะว่าแกก็เชื่ออย่างที่ยัยนั่นเม้าท์"
"นั่นน่ะสิ!!!ฉันก็ว่าอยู่"
ลลิลคิดถึงนพรุจ
บรรยากาศกรุงเทพฯตอนเช้า
ทุกคนมีการนั่งประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง ยู่ยี่จึงเปิดประเด็นขึ้นมา
"ปีนี้หนังสือของเราจะมีโปรเจ็กต์ใหญ่ นั่นคือการจัดประกวดเพื่อเฟ้นหางนางแบบคนใหม่มาประดับวงการ"
"ก็ดีเหมือนกันนะคะ เราจะได้ PR หนังสือไปในตัวด้วย ลูกค้าเราชอบ Activity เยอะๆ ค่ะ" ซินดี้บอก
"จริงด้วยครับ" สมฃายบอก
"แล้วเราจะเริ่มมีการประกวดเมื่อไหร่ละคะ"
ยู่ยี่บอก"เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ โดยการประกวดครั้งนี้เราจะใช้ธีมว่า สวย ใส ไม่ไร้สมองลินเป็นแม่งานให้หน่อยนะ"
"ค่ะ"
"เป็นชื่อธีมที่เลิศมากคะ ผอ"
"ส้ม เตรียมตารางเวลานัดให้ฉันด้วย"
"ได้ค่ะ ผอ."
"ใครมีอะไรจะถามอีกไหม"
"งั้นซินดี้ทำแพ็คขายโฆษณาลูกค้าเลยนะคะ ผอ."
"ได้จ้ะ งั้นวันนี้พอแค่นี้แล้วกัน"
คืนนั้น ใบเฟิร์น นั่งรอ นพรุจ อยู่ที่ร้านอาหาร ไม่นาน... นพรุจ ก็เดินเข้ามาหา
"โทษทีแกที่มาช้ารถมันติดว่ะ"
"ตั้งแต่ได้เป็นช่างภาพมือหนึ่งเนี่ย...ไม่เห็นหน้าเลยนะ"
"ช่วงนี้งานมันยุ่งวะ เออ...แต่วันนี้ฉันมีข่าวดีมาบอกแกด้วยนะ"
"ข่าวดีอะไรหรอ"
"นิตยสารที่ฉันทำงานอยู่กำลังจะมีการประกวดนางแบบ แกลองไปประกวดสิ แกต้องได้แน่ๆ"
"แกก็พูดเกินไป"
"จริงๆรูปร่างหน้าตาแกก็โอ..อยู่นะ เข้ารอบได้สบาย ส่วนความฉลาดไม่ต้องห่วง เพอร์เฟ็ค"
"เว่อร์ไปละแกแต่ฉันก็จะลองไปสมัครดู เผื่อได้เป็นนางแบบกะเค้าบ้าง"
"แล้วแฟนแกที่อยู่ต่างประเทศละเป็นไงบ้าง"
"เดี๋ยวอีกสองเดือนแฟนฉันก็กลับเมืองไทยละ"
"ฉันก็จะได้เห็นหน้าเพื่อนเขยแล้วสินะ"
ใบเฟิร์นที่มีความหวังกับการจะได้เป็นนางแบบ
นพรุจเดินไปส่งใบเฟิร์นที่รถ
"อืมม์ ให้ฉันไปส่งแกก่อนมั้ย"
"ไม่เป็นไร"
"งั้นแกก็กลับบ้านดีๆ ละกัน"
ใบเฟิร์นขับรถออกไป
ขณะที่นพรุจกำลังจะเดินกลับบ้านก็บังเอิญไปเห็น ลลิล กำลังเดินอยู่
"นั่นมันคุณลลิลนี่น่า"
นพรุจ ก็เดินก็เข้าไปหาลลิล
ขณะที่ นพรุจ กำลังเดินเข้าไป ลลิลก็เห็นอนุวัตรเข้าถึงตัวลลิลก่อน
"ผู้ชายคนนั้นเป็นใครหว่า"
นพรุจ ยืนดูทั้งสองคน
"ไม่เจอกันนานเลยนะ...ลิน"
"ทำไมต้องเจอ"
"ผมคิดถึงคุณจัง"
"คุณเก็บคำพูดนั้นไว้ใช้กับแฟนคุณเถอะ"
"ลิน...ผมไม่เคยลืมคุณเลยนะ คิดถึงคุณทุกวัน"
อนุวัตรยืนคุยกับลลิล ซอนย่าเข้ามาเห็นพอดี
"ทำอะไรกันอยู่คะ....วัตร...อย่าบอกนะว่า...จะกลับมากินของเก่า ซอนย่าไม่ยอมด้วย"
"ผมเจอลินโดยบังเอิญน่ะ"
"บังเอิญหรือตั้งใจกันแน่คะ..วัตร...ของแบบนี้มันก็ว่าไม่ได้นะคะ วัวเคยข้า ม้าเคยขี่ เผื่อใครบางคนอยากจะกินของเก่าขึ้นมา มันก็หน้ามืดได้ทั้งนั้นแหละค่ะ"
"ก็ไม่แน่นะ โบราณเค้าว่ายิ่งเก่า มันก็ยิ่งมีค่า ดีกว่าของใหม่ที่ไร้ราคา แม้คุณค่าก็ยังไม่มี"
"นางลลิล แต่เอ..แล้วเด็กใหม่เธอไปไหนซะล่ะ เอาไว้ใช้แก้ขัดก็คงพอได้นะ แม่สมภารกินไก่วัด"
"อะไรกัน...ซอนย่า...สมภารกินไก่วัดอะไร" อนุวัตรถาม
"ก็แม่สมภาร สไตลิสชื่อดังของ show magazineน่ะสิคะ...วัตร...กำลังจะเคลมลูกน้องของตัวเอง ดีกรีเป็นช่างภาพไฟแรงหน้าใหม่ของ show magazine ด้วยนะคะ"
"ก็ไม่แน่ สมภารอย่างฉันยังกินไก่สดๆ มีไก่ตัวใหม่ๆ มาให้กิน ดีกว่าบางคนที่ต้องไปคว้าของเก่าของคนอื่นมากินน่ะ"
ซอนย่าทำท่าจะตบ
"นี่นังลลิลแก"
แต่อนุวัตรห้ามไว้
"พอเถอะ...ซอนย่า คนมองใหญ่แล้ว"
"ก็ช่างเขาสิคะ เขาจะได้รู้ว่า แม่สไตลิสต์คนเก่งเนี่ย..เป็นพวกหัวขโมย"
คนที่เดินอยู่แถวนั้นมองดูว่ามีเรื่องอะไรกัน และเริ่มซุบซิบ อนุวัตรเริ่มอายที่มีคนมอง
"ฉันน่ะเหรอ...หัวขโมย ฉันก็เดินมาเฉยๆ ของฉัน คนของเธอนั่นแหละเดินเข้ามาหาฉันเอง"
"อย่าบอกนะว่าเธอเดินมาคนเดียว"
ซอนย่าดักทางไว้จนลลิลพูดไม่ออก
"ว่ายังไงละ"
ลลิลเงียบ... เสียงนพรุจแว่วมาแต่ไกล
"คุณลลิลมากับผมครับ"
จากนั้น นพรุจ ก็ค่อยๆเดินเข้ามา ซอนย่า ลลิล อนุวัตร ต่างมองไปที่นพรุจเป็นตาเดียว
"ขอโทษนะครับคุณลลิล ที่ทำให้รอนานเราไปกันเถอะครับ"
พูดจบนพรุจก็ดึงมือลลิลออกไปจากตรงนั้น
อ่านต่อตอนที่ 3