ละครซีรีส์ "หมอผี" ตอนที่ 19 "จุดจบ"
10 วันก่อนหน้า
บริเวณป่าช้าศพไร้ญาติ บรรยากาศตอนกลางคืนดูน่าหวาดกลัว หลุมศพเป็นแนวยาวปราศจากการดูแล นกกลางคืนบินลงมาเกาะที่หลุมศพหลุมหนึ่ง
ดินบริเวณหลุมศพเคลื่อนไหว ....นกตกใจบินหายไป
ที่หลุมศพ...มีเสียงเคลื่อนไหวจากใต้ดิน มือของศพนั้นแหวกดินขึ้นมา...ซากศพของผู้ชายโผล่ขึ้นมาจากหลุมศพ...ผีดิบเดินออกไปจากป่าช้า
ผีดิบเดินผ่านออกไป อีกหลายหลุมศพที่ผีดิบได้ลุกขึ้นออกไปแล้ว
คืนนั้น ตำรวจเฝ้าบ้านอาจารย์วิเศษ
ทุกคนกำลังห่วงใยในสิ่งที่เกิดขึ้นกับอาจารย์วิเศษ
"พวกคุณไม่ต้องกังวลเกินไปหรอกน่า"
เศกบอก
"จะไม่ให้พวกเราเป็นห่วงได้ยังไงครับอาจารย์ ยาสั่งของไอ้คำรณมันร้ายกาจ ....มันสั่งได้ขนาดนี้"
ดารการเดินถือของว่างมาเสิร์ฟให้ทุกคน
"จะร้ายกาจแค่ไหน ทุกอย่างในโลกมันก็ต้องมีจุดอ่อน เพียงแต่เรายังหามันไม่เจอเท่านั้นเอง
พรุ่งนี้ผมจะลองอีกครั้ง"
"พอเถอะคะ ...ดาทนไม่ไหวจริงๆ ที่ต้องเห็นคุณเจ็บปวดแบบนั้น"
"คุณจะให้ผมยอมแพ้มันอย่างนั้นเหรอ ไม่มีวันซะหรอก.... ถ้าผมมัวแต่กลัวตายยอมอยู่แต่ในบ้านแบบนี้"
คำรณมันคงได้ใจ
มหาเนิร์ดคิดอะไรขึ้นมาได้
"เอ๊ะ... ถ้าอาจารย์ตาย วิญญาณก็ไม่อยู่ในร่าง เงื่อนไขของยาสั่งที่จะทำร้ายอาจารย์ก็ไม่น่าจะได้ผลนะครับ"
ทุกคนคิดตามที่ได้ยินมหาเนิรด์พูด
"หมายความว่าไงนะ มหาเนิร์ด"
เธอกำลังจะให้อาจารย์ตายยังงั้นเหรอ... เพี้ยนจริงๆเลย
"ไม่ใช่ให้ตายจริงๆแบบนั้นครับ ผมหมายถึงการถอดจิต การวิปัสสนาขั้นสูง จนสามารถแยกกายละเอียดออกจากกายหยาบได้...ถ้าทำได้แบบนั้น ผมคิดว่าขอบเขตของยาสั่ง ก็จะทำอันตรายอาจารย์ไม่ได้ครับ"
"ข้อนั้นผมก็พอทราบนะ... แต่ผมบอกตรงๆเลยนะว่า ผมทำไม่ได้จริง มันไม่มีสมาธิเลย จิตใจมันวุ่นวายไม่พร้อมที่จะทำวิปัสสนาชั้นสูงขนาดนั้นได้เลย"
อาคมตัดสินใจพูดสิ่งที่คิดไว้
"ผมพอจะมีวิธีครับ มันอาจจะฟังดูประหลาดไปหน่อย แต่ผมเชื่อว่ามันมีโอกาสที่จะสำเร็จ
แต่ ... มันก็....เสี่ยงมากอยู่"
"วิธีอะไรอาคม คุณบอกมาเถอะ จะเสี่ยงแค่ไหน ผมยินดีทดลอง"
"ฉีดยาเข้าหัวใจให้หัวใจหยุดเต้นชั่วคราวเหมือนคนตาย แล้วก็ฉีดยากระตุ้นให้กลับมาเต้นใหม่อีกครั้ง" อาคมบอก
"ซีไม่เห็นด้วยกับวิธีโกงความตายแบบนั้น มันเสี่ยงมากไป ถ้าพลาด... นั่นหมายถึง.... ลองหาวิธีอื่นจะดีกว่า"
"ใช่...ดาก็ไม่ยอมหรอก แค่ฟังก็รู้ว่าเสี่ยงมาก"
เศกบอก
"ระหว่างพวกเราหาวิธีจัดการกับยาสั่งของไอ้คำรณ ผมกับมหาเนิร์ดจะหาอุปกรณ์ป้องกัน
พลังชั่วร้ายที่จะเล็ดลอดเข้ามาในบ้านนี้ก่อนดีกว่า"
"พี่เศกคิกว่าแค่ตำรวจที่เฝ้าอยู่ไม่พอเหรอ" มหาเนิร์ดบอก
"ขอบใจมากนะ ทุกคนที่ต้องมาลำบากเพื่อผมแบบนี้"
ดารการปลอบใจวิเศษ....ทุกคนมองวิเศษด้วยความห่วงใย
บรรยากาศซอยเปลี่ยวยามค่ำคืน ....อึ่งชายโรงงานวัยกลางคนท่าทางเป็นคนพื้นที่ เพิ่งเลิกงานกะดึก เขารีบเดินกลับบ้าน ....ทันใดนั้นเขาก็เห็นคนท่าทางแปลกๆ ไม่สวมเสื้อ นั่งยองๆ อยู่ที่ใต้เสาไฟฟ้า อึ่งเพ่งสายตามองด้วยความสงสัย เพราะเหมือนคนแปลกหน้ากำลังก้มกินอะไรบางอย่างด้วยความหิวโหย ส่งเสียงแจ็บๆ ....อึ่งเดินเข้าไปใกล้ๆ
"ทำอะไรวะ"
ชายแปลกหน้าไม่ได้ยินเสียง ยังหยิบของจากพื้นขึ้นมากิน
"กูถามว่าทำอะไรอยู่ ไม่ได้ยินหรือไงวะ"
ชายแปลกหน้าค่อยๆหันมามอง....อึ่งต้องตกใจสุดขีดเมื่อเห็นคนแปลกหน้า กำลังกินเครื่องในจากศพมนุษย์
"เฮ้ย"
อึ่งรีบวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต....ผีดิบ1 มองอึ่งวิ่งหนีแล้วหันกลับไปกินเครื่องในจากศพต่อ
ดารการนอนหลับอยู่บนเตียง ที่มุมหนึ่งของห้องจะถูกจัดเป็นที่นั่งสมาธิของอาจารย์วิเศษ ซึ่งมีพระพุทธรูป แจกันดอกไม้ กระถางธูป เทียน และอุปกรณ์อื่นๆที่จำเป็น
วิเศษนั่งสมาธิอยู่ เหมือนจิตจะออกจากร่าง แต่ออกไม่สำเร็จ....วิเศษพยายาม ดวงหน้าคำรณมาหลอกหลอน
วิเศษยังนั่งนิ่ง....สุดท้ายเห็นผีดิบฆ่าคน....อาจารย์วิเศษสะดุ้งลืมตาขึ้น เหงื่อออกเต็มหน้า
"ปัจจุบัน"
พ.ต.ท.ศักดา เดินดูภาพคดีประหลาดซึ่งเหยื่อจะถูกแยกร่างจนเป็นชิ้นอยู่ในห้องประชุมซึ่งจะมีผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาการร่วมอยู่ด้วย บนโต๊ะมีหนังสือพิมพ์หลายฉบับ หลายวันที่พาดหัวข่าวเรื่องมนุษย์กินคน
ผู้บัญชาการบอก
"ศักดา... คดีสะเทือนขวัญแบบนี้เกิดขึ้นเป็นสิบๆคดีแล้วนะ ไม่น่าจะใช่เรื่องปกติแล้ว"
รองผู้บัญชาการบอก
"ฆาตกรต่อเนื่องกินศพเหยื่อที่เสียชีวิตอย่างเหี้ยมโหดแบบนี้ เราต้องรีบจัดการโดยด่วน ผมไม่อยากให้พวกสื่อโจมตีว่า พวกเราไร้ฝีมือ"
ศักดาบอก
"ผมต้องใช้เวลาอีกระยะครับท่าน คดีนี้ลี้ลับกว่าที่คดีปกติทั่วไป ตอนนี้ผมได้หลักฐานที่เป็นรอยแผลเป็นด้านหลังของฆาตกร ที่พยานได้แจ้งไว้"
ภาพสเก็ตซ์รูปแผลเป็นประหลาดที่ได้จากพยานที่แจ้งในรายละเอียดนี้คือ อึ่ง
"คดีแบบนี้ทำไมคุณไม่ให้ทีมหมอผีช่วย... ตอนนี้ทีมหมอผีทำอะไรกันอยู่ งบประมาณที่ใช้กับงานวิจัยก็มากมาย แล้วทำไมยังแก้ปัญหาไม่ได้ ...เรื่องนี้ผมจะตอบเบื้องบนยังไง"
"ผมจะรีบจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดครับ"
สีหน้าของศักดาเต็มไปด้วยความเครียด
ศักดาออกมาจากห้องหัวหน้า สีหน้าเคร่งเครียด หมวดทวีพร้อม ทส.คนอื่นๆรออยู่หน้าห้อง
"หมวดทวี คุณไปกับผม"
"ไปไหนครับ หัวหน้า"
"คดีพวกนี้เราเอาไม่อยู่แล้ว ต้องไปให้ไอ้วิเศษมันช่วย"
"เอ้อ แต่ว่า อาจารย์วิเศษแกกำลังไม่สบายอยู่ไม่ใช่เหรอครับ"
"อั้วคิดวิธีอื่นไม่ออก ....งานนี้ศึกหนัก มัวมาเกรงใจไม่ได้แล้ววะ เออ ลื้อโทร.บอกอาคมว่าให้ตามไปพบด้วยนะ"
"ได้ครับ หัวหน้า"
หมวดทวีมองตามหัวหน้าที่เร่งร้อนเดินออกไป
ที่ชุดรับแขกบนชั้นสองหน้าห้องทำงานของอาจารย์วิเศษ พ.ต.ท.ศักดา อาคม หมวดทวี นั่งรออยู่
ดารการถือน้าดื่มขึ้นมาเสิร์ฟ แปลกใจที่ไม่เห็นวิเศษนั่งอยู่...ดารการหันไปหาอาคม
"อาจารย์ไปไหนละคะ"
"เข้าไปหยิบของในห้องครับ" อาคมบอก
"ช่วงนี้มีอะไรผิดปกติบ้างมั้ยครับ"
"ไม่มีคะ...น่าจะเพราะเรามีตำรวจอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง"
"แล้วนี่หนูเจนไม่อยู่เหรอ"
"วันนี้ไปมหาวิทยาลัยค่ะ แต่กว่าจะยอมทิ้งพ่อไปได้ ดาต้องพูดอยู่นานเลย"
อาคมบอก
"แกเป็นห่วงอาจารย์มากครับ"
อาจารย์วิเศษเดินถือหนังสือใส่เหรียญโบราณออกมา พร้อมกระดาษสเก็ตลายบนหลังผีดิบ
อาจารย์นั่งลงมองหน้าทุกคน ก่อนที่วางกระดาษสเก็ตลงบนโต๊ะ...อ.วิเศษเปิดสมุดและหยิบเหรียญออกมาวางข้างๆกระดาษสเก็ต ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองอย่างสงสัย
"นี่เป็นเหรียญที่สกัดจากก้อนเหล็กไหล ถูกสร้างขึ้นพร้อมคัมภีร์โบราณที่คำรณมีอยู่ มีความเชื่อกันว่าหากของสองสิ่งนี้อยู่ด้วยกัน ผู้ถือครองไว้สามารถปลุกคนตายให้ฟื้นชีพและควบคุมพวกมันได้"
"แสดงว่านี่เป็นเหรียญที่คำรณต้องการ" อาคมบอก
วิเศษมองหน้าดารการก่อนตอบอาคม
"ใช่...ผมเชื่อว่าคำรณต้องทำทุกวิถีทางที่จะเอามันไปให้ได้"
ศักดาถาม
"มันจะเป็นไปได้ยังไงครับ ในเมื่อคำรณยังไม่ได้เหรียญนี้ไป"
"พวกคุณลองดูลายบนเหรียญกับลายสเก็ตที่พยานเห็นบนตัวปีศาจพวกนั้นก่อนซิ"
ศักดาหยิบเหรียญมาเทียบกับลายสเก็ต...แปลกใจที่ลายคล้ายกันมาก...ศักดาส่งให้อาคมดู
"แสดงว่ามันไม่ต้องมีเหรียญ มันก็ปลุกคนตายให้ฟื้นได้" ศักดาบอก
"จากหลักฐาน...ใช่ แต่อั้วว่ามันยังควบคุมผีที่มันปลุกมันไม่ได้"
"ทำไมลื้อคิดอย่างนั้น"
"ก็จากที่มันเข้าหาดา หรือบุกมาที่นี่ไง และถ้าคนอย่างคำรณควบคุมผีดิบได้แล้วละก็ ลื้อกับลูกน้องคงต้องมีงานเยอะกว่านี้ทีเดียว"
"ทำไมเราไม่ทำลายเหรียญโบราณนี้ล่ะครับ" หมวดทวีถาม
"ผมก็เคยคิด แต่มันจะเป็นการทำลายสมดุลย์"
อาคมงง
"สมดุลย์"
"ถ้าเกิดมีใครใช้คัมภีร์ปลุกผีร้ายขึ้นมาได้สำเร็จ วิธีที่จะส่งพวกมันกลับไปก็คือเหรียญนี้แหละ"
"จะทำอะไรก็ต้องรีบกันแล้ว เพราะตอนนี้คนหวาดกลัวไปทั่ว นายก็ลงมาไล่บี้หนักเลย"
"อั้วขอเวลาหาวิธีจัดการกับพวกมันหน่อยนะ แต่ที่ต้องทำก่อนลาดับแรกคือตามหาตัวคำรณ"
ดารการบอก
"นี่เราจะทำลายเหรียญก็ไม่ได้ จะเก็บไว้ก็เป็นอันตราย เพราะคำรณคงต้องหาทุกวิธีมาเอามันไปแน่ๆ"
"เราต้องไม่ให้คำรณเอาเหรียญไปได้" อาคมบอก
ภายในสำนักงานหมอผี เศกหยิบแปลนพิมพ์เขียวออกมากางให้มหาเนิร์ดดู และบนโต๊ะยังมีเครื่องมือ “ค่ายกลไฟฟ้า” ที่สร้างเกือบเสร็จแล้วหลายๆตัว....มหาเนิร์ดมองด้วยความสงสัย เศกจึงอธิบายให้ฟัง
"อันนี้เป็นแบบสิ่งประดิษฐ์ใหม่ เราจะขอเรียกมันว่าค่ายกลไฟฟ้า เครื่องมืออันนี้...สามารถดักพลังงานคลื่นความถี่เฉพาะ หรือพลังงานของวิญญาณได้ มันจะส่งเสียงเตือนเมื่อมีวิญญาณเดินผ่าน"
"พี่เศกทำได้ถึงขนาดนั้นเลยเหรอ... ขี้โม้หรือเปล่า"
"ไม่ได้โม้เว้ย...เศกซะอย่าง เคยเห็นสิ่งประดิษฐ์ของเศกอันไหนบ้างที่ใช้ไม่ได้"
"เราลองกันเลยมั้ยพี่"
"ยังๆๆๆ... ต้องรออะไหล่ที่พี่สั่งซื้อจากเพื่อนๆ ชมรม Paranomal ที่ฮาร์วาร์ดก่อน...เห็นว่าจะมาถึงวันนี้"
"บางครั้งผมก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมผมไม่รวยอย่างพี่บ้าง"
"มหาเนิร์ด...คนรวยบางคนก็ไม่ได้มีมันสมองเป็นเลิศอย่างพวกเรานะ"
มหาเนิร์ดมองแปลนพิมพ์เขียวอย่างพึงพอใจ
ตอนกลางคืน บริเวณทางเข้าหมู่บ้านซึ่งมีป้อมยามตั้งอยู่
ภายในมียามเฝ้าอยู่หนึ่งคน...ดึกแล้วปริมาณรถเข้าออกจึงแทบไม่มี...ยามเดินออกมาจากป้อมบิดขี้เกียจ อ้าปากหาว....ยามเดินกลับเข้าไปนั่งงีบในป้อม...ยามหลับ...ไฟเสาเหนือป้อมดับลง ผีดิบ1 ผีดิบ2 เดินออกมาจากมุมหนึ่ง ผีดิบทั้งสองเดินไปที่ป้อมและบุกเข้าไปในป้อม
รถคันหนึ่งวิ่งเข้ามาในหมู่บ้าน...ณรงค์คนขับรถมองเห็นสิ่งผิดปกติในตู้ยาม ณรงค์เห็นเหมือนมีคนสองคนนั่งทำอะไรกันอยู่ที่พื้น เมื่อขับรถมาถึงป้อม ณรงค์เปิดกระจกดู ณรงค์เห็นภาพที่ชวนสยดสยองที่สุด ....ผีดิบตัวหนึ่งกำลังกัดแทะท่อนแขน อีกตัวหนึ่งกาลังล้วงควักศพอยู่ ณรงค์เห็นลายด้านหลังของผีดิบ ร้องโวยวายและรีบขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว.....
เวลาเดียวกัน เศกกำลังประกอบอุปกรณ์ชิ้นสุดท้ายเข้าที่ ข้างๆจะมีกล่องพัสดุที่ส่งมาจากฮาร์วาร์ดถูกเปิดอยู่ มหาเนิร์ดนั่งหลับอยู่ใกล้ๆ....เมื่อประกอบชิ้นสุดท้ายเสร็จเศกก็ปลุกมหาเนิร์ด ด้วยการสาดน้ำในแก้วใส่หน้า มหาเนิร์ดสะดุ้งตื่น
"เล่นอะไรพี่เศก กำลังหลับสบาย"
"ตื่นได้แล้ว...พร้อมทดลองแล้ว"
มหาเนิร์ดได้ยินว่าของพร้อมทดลองก็กระปรี่กระเปร่าขึ้นทันที...ลุกขึ้นขยับแข็งขา...
เศกกับมหาเนิร์ดช่วยกันขยับของ ทั้งสองช่วยกันติดตั้งเครื่องกลไฟฟ้า แล้วถอยออกมายืนดูเครื่องกลที่ติดตั้งเสร็จ เศกสีหน้าปลาบปลื้ม มหาเนิร์ดงงๆ...เศกเปิดสวิทซ์ที่รีโมทบังคับ...เศกหยิบแว่นให้มหาเนิร์ด
"เอ๊า มหาเนิร์ดลองสวมแว่นตานี้ดู"
มหาเนิร์ดสวมแว่นและมองเห็น…. แสงเลเซอร์สีฟ้าไขว้ไปมาตามตำแหน่งที่ติดตั้งเครื่อง
"โอว สุดยอดเลยพี่เศก"
เศกหยิบแท็บเล็ตขึ้นมา
"คราวนี้โหลดแอพของมัน เราอยู่ที่ไหนก็จะรู้ได้ว่าเครื่องทำงาน"
"แล้วเราจะรู้ได้ยังไงละพี่ว่าเครื่องมันทางานได้ดี มีประสิทธิภาพ"
เศกก้มลงหยิบเครื่องดูดพลังงานขึ้นมา
"โคตรฉลาดเลยพี่...ผมยังนึกไม่ถึงเลย"
เศกหิ้วเครื่องไปยืนอยู่อีกทาง พร้อมจะปล่อยพลังงานที่กักไว้ออกมา
"มหาคอยดูที่เครื่องไว้นะว่ามีเสียง และมีไฟขึ้นหรือเปล่า"
"พร้อมแล้วพี่"
เศกกดปุ่ม...มหาเนิร์ดสวมแว่นมองแสงสีฟ้าสลับกับมองจอแท็บเล็ต ควันของวิญญาณออกจากเครื่องดูดพลังงาน พุ่งผ่านแสงเลเซอร์ App ในแท็บเล็ตส่งเสียงร้องและมีไฟกระพริบขึ้น...มหาเนิร์ดดีใจ ไชโยโห่ร้อง
"สำเร็จแล้วพี่เศก...สำเร็จแล้ว....พี่เศกเก่งจริงๆ"
เศกสีหน้าภูมิใจ...รีบกดปุ่มดูดพลังงานกลับ พลังงานถูกดูดกลับ
หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตอนกลางคืน ชาวบ้าน มุงดูศพ พลางส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงฆาตกรใจอำมหิต เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันไม่ให้ชาวบ้านเข้ามาใกล้กับศพ
ชาวบ้าน 1 บอก
"โหดผิดมนุษย์มนาขนาดนี้ ถ้าตำรวจยังจับตัวไม่ได้ ฉันคงไม่กล้าออกจากบ้านแล้วล่ะ"
พ.ต.ท.ศักดา มองสำรวจซากศพยาม สีหน้าหนักใจมากกับคดีพิศดารนี้... เจ้าหน้าที่กู้ภัยเอาผ้าขาวมาปิดบังร่างไว้ หมวดทวีพาณรงค์เข้ามาหา ณรงค์ไม่กล้าเดินเข้ามาใกล้ศพในป้อมยาม
หมวดทวีบอก
"คนนี้แหล่ะครับ ที่เป็นคนเจอและโทร.แจ้งตำรวจ"
พ.ต.ท.ศักดาขอลายสเก็ตจากหมวดทวีส่งให้ณรงค์ดู
"ลองนึกดูให้ดีซิว่าด้านหลังของฆาตกรมีรอยคล้ายๆแบบนี้มั้ย"
ณรงค์บอก
"ผม...ผมไม่ทันสังเกตครับ"
ศักดายื่นกระดาษสเก็ตให้ณรงค์...ณรงค์รับมา
"ค่อยๆนึก...ช้าๆ"
ณรงค์คิดถึงตั้งแต่ขับรถเข้ามาและเห็นสิ่งผิดปกติที่ป้อมยาม.....เห็นด้านหลังมีรอย
ภายในรถ... ศักดาเครียดมากถึงกับบ่นไม่พอใจ
"นี่มันอะไรกันวะคดีเก่ายังไม่คืบหน้า นี่มันมาเกิดเรื่องใหม่อีก"
หมวดทวีบอก
"ไอ้คำรณ มันต้องการให้พวกเราหัวปั่นแน่ๆ"
"อั้วจะปล่อยให้มันทำสำเร็จไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นต้องมีคนตายอีกเยอะ แถมทีมหมอผีอาจจะถูกปิดลงก็ได้"
"ถ้าไม่มีทีมหมอผี ไอ้พวกผีร้ายนั้นมันก็จะคุมทุกอย่างได้ง่ายๆ ตามที่มันต้องการนะสิครับ"
"อั้วถึงได้ร้อนใจแบบนี้ไงเล่า"
ทั้งสองครุ่นคิดหาทางแก้ไขสถานการณ์
ต่อมา ผีดิบทั้งสี่ตัวเดินกลับเข้ามาที่แฟลตร้างต่างทิศ ต่างทางกัน...ทั้งสี่เดินขึ้นบันไดไปชั้นบน
ผีดิบทั้งสี่ตัวเดินขึ้นบันไดมาชั้นบน...พวกมันเดินไปที่ห้องหนึ่ง...เป็นห้องที่คำรณพักอยู่ ผีดิบออกันอยู่หน้าประตู พวกมันไม่สามารถเข้าไปในห้องได้...คำรณยืนหันหลังเหม่อมองไปข้างนอก เสียงผีดิบส่งเสียงที่หน้าประตู คำรณหันกลับไปมอง สีหน้าไม่พอใจ....
คำรณเดินเข้ามาหา ผีดิบถอยห่างออกไป เหมือนไม่สามารถอยู่ใกล้คำรณ
"พวกมึงนี่ใช้ไม่ได้จริงๆ ไหนล่ะลูกตาเหยื่อที่ข้าต้องการ ดีแต่ตะกละตะกลามกินไม่เลือก
ข้าปลุกพวกเอ็งขึ้นมา ให้ทำงานให้ ไม่ใช่มาสนุกกันอย่างเดียว ตอนมีชีวิตอยู่พวกมึงคงโง่ดักดานแน่ๆ
สมองน้อยนิดถึงได้ตายกันง่ายๆ"
ผีดิบรับฟัง แต่ก็เหมือนไม่เข้าใจ
"ที่ข้าพูดไปนี่พวกเอ็ง เข้าใจบ้างมั๊ยวะ ข้าจะให้โอกาสพวกเอ็งแก้ตัวอีกครั้ง ถ้ายังไม่ได้เรื่องได้ราวอีกล่ะก็ ข้าจะส่งพวกเอ็งกลับลงไปอยู่ในหลุมเหมือนเดิม"
คำรณกลับเข้ามาในห้อง...หยิบถุงผ้ากำมะหยี่เล็กๆ แล้วหยิบของข้างในออกมา มันคือสร้อยคอจี้รูปดวงตา.....แววตาของคำรณเป็นประกาย
รถอาคมแล่นเข้ามาจอดหน้าประตูบ้านอาจารย์วิเศษ เศกนั่งหน้าคู่มากับอาคม เบาะหลังรัตติกาลนั่งมากับมหาเนิร์ด...รถตำรวจพร้อมตำรวจสองนายนั่งเฝ้าหน้าบ้านอยู่...อาคมโบกมือทักตำรวจ
มหาเนิร์ดกระซิบรัตติกาล
"พวกนี้คือตำรวจที่ท่านรองศักดาส่งมาเหรอพี่ซี"
"ใช่แล้ว"
"ค่อยอุ่นใจหน่อย"
เศกบอก
"แต่ยังไว้ใจไม่ได้หรอกนะ คำรณมันธรรมดาซะที่ไหน"
ประตูไฟฟ้าเปิด...อาคมขับรถเข้าไปข้างใน มีตำรวจอีกหนึ่งนายเดินตรวจรอบๆอยู่
เศกและมหาเนิร์ดช่วยกันติดตั้งอุปกรณ์ค่ายกลไฟฟ้าตรงบันไดทางเดินขึ้นชั้นสอง และติดบริเวณทางเข้าห้องทำงานของอาจารย์วิเศษ.... วิเศษยืนมองด้วยความสนใจ
หลังจากนั้น ทั้งหมดกำลังนั่งปรึกษากันเรื่องอาจารย์วิเศษ
ดารการบอก
"เรื่องผีดิบที่ออกอาละวาดนั่น ฝีมือคำรณแน่นอน"
"มันคงต้องการยั่วยุให้ อ.วิเศษเสียสติ" อาคมบอก
"แต่ซีว่ามันคงต้องการอะไรบางอย่างมากกว่านั้น ซีวิเคาระห์จากจุดเกิดเหตุ ...สันนิษฐานว่าพวกผีดิบพวกนั้น มันอาละวาดแบบเจาะจงสถานที่ ...มันมีแบบแผน คำรณอาจมีแผนอะไรซ่อนไว้ ที่เรายังไม่รู้แน่ๆ"
"ดาก็สังหรณ์ใจแบบนั้นเหมือนกัน คนอย่างคำรณ ไม่ทำอะไรที่ไร้เหตุผลแน่ๆ"
"แล้วนี่อาจารย์ทำอะไรอยู่ครับ" อาคมถาม
"ก็พยายามสงบจิต ฝึกวิปัสสนา แต่ก็ฝึกได้ครั้งละไม่นาน แกบอกว่ามักจะถูกคำรณใช้มายามาหลอกหลอน รบกวนสมาธิ"
"หรือว่า เราคงหมดหนทางแล้วจริงๆ" รัตติกาลว่า
"ไม่นะ ผมยังเชื่อว่า ...." อาคมว่า
"อย่าเลยอาคม วิธีฉีดยาให้อาจารย์ตายแล้วกระตุ้นให้ฟื้นมันอันตรายเกินไป ....เราลืมวิธีนั้นไปเถอะ"
ดารการเห็นด้วยกับรัตติกาล
บริเวณชั้น 2 บ้านอาจารย์วิเศษ เศกกับมหาเนิร์ดติดตั้งเสร็จ...มหาเนิร์ดเอากล่องรับสัญญาณมาให้อาจารย์วิเศษ
เศกบอก
"ผมจะเปิดให้เครื่องทำงานยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยครับ ถ้ามีพลังงาน หรือวิญญาณเคลื่อนผ่านเครื่องนี้จะส่งเสียงดังและไฟจะกระพริบด้วยครับ"
"เครื่องนี้เชื่อถือได้ร้อยเปอร์เซ็นเลยครับ ผมกับพี่เศกลองทดสอบกันมาแล้วครับ" มหาเนิร์ดยืนยัน
"แล้วทางผมก็ยังสามารถรับสัญญาณได้แบบเดียวกับอาจารย์ด้วยครับ"
มหาเนิร์ดบอก
"สามสี่วันผมจะมาเปลี่ยนแบตให้ครับ"
"ต้องขอบคุณเศกกับมหามากเลยนะ"วิเศษบอก
"อาจารย์อย่าพูดแบบนั้นซิครับ"
"ใช่ ยังไงพวกผมก็ไม่มีทางทิ้งอาจารย์หรอกครับ พวกเราร่วมหัวจมท้ายด้วยกันมาตลอด" เศกว่า
อาจารย์เดินมาตบไหล่เศกกับมหาเนิร์ด
"เครื่องยังเหลือหลายตัว เดี๋ยวผมจะติดรอบๆบ้านด้วยครับ" เศกบอก
อาจารย์วิเศษพยักหน้าแบบยอมจำนน
เจนในชุดนักศึกษาถือหนังสือจะเดินไปห้องสมุด.... ฝ้ายรุ่นพี่ของเจน สวมชุดไปรเวทเดินผ่านมาพอดี เธอยิ้มทักทายเจน
"เจน...เป็นไง ไม่เจอกันเลยนะ"
"สวัสดีค่ะพี่ฝ้าย วันนี้มาทำอะไรเหรอค่ะ ของพี่ปิดไปแล้วนี่"
"พี่มาส่งงานให้อาจารย์ พี่ได้ยินว่าอาจารย์วิเศษไม่ค่อยสบาย...หยุดสอนทั้งเทอมเหรอW
"ค่ะ"
"ไม่สบาย เป็นอะไรมากหรือเปล่า"
"เอ่อ คือ...ก็ไม่มากคะ"
ฝ้ายสังเกตเห็นเจนไม่ค่อยอยากตอบเรื่องอาการป่วยของพ่อ
"อืม สู้ๆ นะเจน มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกนะ"
เจนพยักหน้าให้ฝ้าย
"งั้นพี่ไปก่อน ไว้เจอกันนะ"
ฝ้ายเดินจากไป... เจนเดินยังห้องสมุด
ฝ้ายเดินเข้ามาเข้าห้องน้ำ บรรยากาศวังเวง ไม่มีใครอยู่ ฝ้ายรู้สึกขนลุกอย่างประหลาด
ฝ้ายล้างมืออยู่หน้ากระจก เธอสังเกตเห็นเงาในกระจกดูผิดสังเกต เธอจ้องมองใบหน้าของตัวเอง
ทันใดนั้น เธอก็เห็นเงาที่สะท้อนกระจกของตัวเองกลับกลายเป็นคำรณยืนอยู่แทนที่ ทำให้เธอตกใจและหมดสติไป
เจนนั่งค้นคว้าอ่านหนังสืออยู่ในห้องสมุด บนโต๊ะมีหนังสือเกี่ยวกับเรื่องการแก้สิ่งลี้ลับมีอาถรรพ์วางอยู่หลายเล่ม.... มีใครแอบมองเจนอยู่ เจนหันไปมองด้านหลังแต่ไม่มีใคร จึงกลับมาอ่านหนังสือต่อ.....มีมือ เอื้อมมาแตะที่ไหล่ของเจน ....เจนสะดุ้ง เธอหันมามองเห็นเป็นฝ้ายรุ่นพี่ของเธอยืนยิ้มให้
"พี่ฝ้าย … เจนตกใจหมดเลย"
"แหม่ ขวัญอ่อนจริงน้องพี่คนนี้"
"พี่ฝ้าย มีอะไรหรือเปล่าค่ะ"
ฝ้ายหยิบสร้อยคอจี้ดวงตาออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้เจน
"พี่เพิ่งนึกได้ว่ามีอะไรจะให้"
ฝ้ายชูสร้อยรูปดวงตาให้เจนดู
"นี่อะไรเหรอค่ะ"
"คิดเสียว่าเป็นของขวัญจากพี่ก็แล้วกันนะ สร้อยเส้นนี้เป็นเครื่องรางประจำตัวพี่... สวมมันแล้วพี่เชื่อว่ามันจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น"
"โอ้ย ของมีค่าแบบนี้ เจนรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ"
"อย่าปฏิเสธน้ำใจพี่ซิ ....มาพี่จะใส่ให้ ใส่แล้วห้ามถอดนะ ถ้าจะถอดก็ต่อเมื่อเจนคิดว่าทุกอย่างดีขึ้นแล้ว"
เจนยกมือไหว้ขอบคุณฝ้าย
"ขอบคุณค่ะพี่ฝ้าย พี่ฝ้ายดีกับเจนตลอดเลย"
"พี่ขอแค่อย่างเดียวอย่าถอดสร้อยเส้นนี้ ใส่ติดตัวไว้จนกว่าพ่อของเจนจะหายแล้วกัน"
เจนพยักหน้า
"ค่ะ.... รับทราบ"
สร้อยคอจี้ดวงตาอยู่ที่คอของเจน....ที่มุมหนึ่งคำรณแอบยืนมองอยู่ห่างๆ เขายิ้มพึงพอใจในแผนการ
เจนเดินกลับบ้าน เธอสวมสร้อยคอจี้ดวงตา เจนเดินผ่านร้านขายเครื่องดื่มของมหาวิทยาลัย
คนขายกำลังเล่นกับสุนัขอยู่ เจนเดินเข้าไปทักแบบสนิทสนม
"ว่าไงจ๊ะอั๋งเปา"
สุนัขจ้องมองเจน กระดิกหางให้....แต่ทันทีที่สุนัขจ้องไปที่สร้อย ก็แยกเขี้ยวขู่ และเห่าใส่เจนแปลกใจ...
เจ้าของร้านบอก
"อั๋งเปา! … เป็นบ้าอะไรเนี่ย....ทำเป็นจำไม่ได้"
"ไม่เป็นไรค่ะ...วันนี้คงอารมณ์ไม่ดี หนูไปก่อนดีกว่า"
สุนัขยังคงเห่าจนเจ้าของร้านต้องยกมือทำท่าเหมือนจะตีมัน เจนรีบเดินออกไป
ต่อมา รถของศักดาขับเข้ามาจอดภายในบ้านอาจารย์วิเศษ ตำรวจที่เฝ้าทำความเคารพ ศักดากับทวีลงจากรถจะเห็นเศกกับมหาเนิร์ดกำลังติดตั้งเครื่องกลไฟฟ้าอยู่รอบๆบ้าน ศักดาและทวีเดินเข้าไปในบ้าน
ชั้น 2 บ้านอาจารย์วิเศษ แผนที่กรุงเทพขนาดใหญ่ถูกศักดากางลงกลางโต๊ะ มีอาจารย์วิเศษนั่งอยู่ข้างๆ รัตติกาลนั่งใกล้ดารการ...อาคมกับหมวดทวียืนอยู่....ในแผนที่จะมีกากบาทเป็นจุดไว้ประมาณ12 จุด ซึ่งจะอยู่ใกล้ๆกัน....ศักดาเอาปากกาขีดรอบจุดทั้ง 12 จุดในแผนที่
"ศพที่ถูกกัดกิน ถูกควักไส้ควักพุงหายไปภายในเวลาไม่ถึงสองอาทิตย์ อยู่บริเวณรอบๆนี้...
รัศมีไม่เกิน 10 กิโลเมตรนี้"
ทุกคนมองหน้าศักดา เหมือนอยากฟังต่อ
"เราวางกำลัง หาสายข่าว หวังว่าจะได้เบาะแสอะไรบ้าง แต่ทุกอย่างคว้าน้าเหลว...เหมือนไอ้พวกนี้
มันก่อเหตุแล้วก็หายตัวไป" ศักดาบอก
วิเศษบอก
"มันเป็นการกระทำของพวกเวทย์มนตร์"
"อั้วไม่สนว่ามันเป็นผีหรือเป็นคนบ้า ตำรวจไม่สามารถให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้อีกแล้ว"
"เราต้องเข้าถึงตัวคำรณให้ได้เร็วที่สุด" อาคมบอก
"เราแจกจ่ายรูปภาพคำรณไปทั่วแล้ว แต่ไม่มีข่าวคราวอะไรใหม่ๆเลย"
ศักดามองหน้าดารการเหมือนจะถามว่าคำรณติดต่อมาหรือเปล่า
"ไม่ค่ะ เค้าไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย"
รัตติกาลบอก
"เราลองมาคิดดูกันมั้ยคะว่าถ้าคำรณเป็นคนควบคุมปีศาจพวกนี้ หลังจากที่ก่อเหตุแล้วพวกมันก็ต้องกลับไปหาคนสั่งการมัน เราอาจต้องเปลี่ยนเป้าหมายจากตามหาคำรณเป็นตามพวกผีดิบแทน"
"ไม่ยิ่งยากขึ้นเหรอ"
"ผมขอข้อมูลของเหยื่อทั้งหมดด้วยนะครับ" อาคมบอก
ภายในห้องประชุม สำนักงานหมอผี ตอนกลางวัน
แผนที่กรุงเทพขนาดใหญ่ถูกกางบนโต๊ะประชุม บนจอทีวีเป็นภาพย่านที่เกิดเหตุร้าย แฟ้มคดีทั้ง 12 แฟ้มถูกรื้ออ่านอย่างละเอียด....มหาเนิร์ดนั่งค้นคว้าข้อมูลอยู่ที่โต๊ะทำงาน อาคมกับเศกนั่งอ่านรายงานอย่างเหนื่อยล้า....รัตติกาลเดินถือน้ำดื่มเข้ามาให้ทั้งสองคน
"หาความเกี่ยวข้องกันของเหตุการณ์ทั้งหมดไม่ได้เลย"
เศกบอก
"ดูเหมือนว่าพวกผีดิบมันไม่มีรูปแบบในการฆ่า หรือการเลือกกินเลยนะ"
"ถ้าคำรณเป็นคนควบคุมพวกมัน เราก็น่าจะมองเห็นอะไรบ้าง" รัตติกาลบอก
"หรือเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคำรณ"
อาคมบอก
"แต่อาจารย์ดูมั่นใจมากเลยนะซี...ถ้าคำรณควบคุมหรือสั่งการพวกผีดิบให้ออกฆ่า
ระยะทางในการสั่งการมันควรจะประมาณไหน"
เศกอยากรู้คำตอบเหมือนที่อาคมอยากรู้...รัตติกาลขำในคำถามของอาคม
"คำรณไม่ได้ใช้รีโมท หรือโทรศัพท์ควบคุมพวกมันนะจะได้ต้องมาคำนึงถึงทิศทางหรือระยะทาง
จิตที่แข็งกล้าสามารถส่งถึงกันได้ไม่ว่าจะห่างไกลกันแค่ไหน"
มหาเนิร์ดหันมาและตะโกนบอก
"ผมว่าผมเจออะไรบ้างอย่างแล้วนะ"
ทั้งสามคนมีสีหน้าดีใจ รีบลุกออกมาหามหาเนิร์ดที่โต๊ะ
"ลองดูจุดที่เกิดเหตุตั้งแต่แรกจนถึงเมื่อวานนี้นะครับ"
มหาเนิร์ดเปิดหน้าจอเป็นแผนที่กรุงเทพผ่าน google earth ….จะเห็นตัวเลขขึ้นตามสถานที่เกิดเหตุ 1-13....พอหมายเลขขึ้นครบทั้งสามคนที่รุมล้อมอยู่ก็ยังไม่เห็นว่าจะมีอะไรสังเกตได้เลย
เศกขยับปากจะต่อว่า แต่มหาเนิร์ดห้ามไว้ทัน
"ทีนี้เราลองลากจุดจากที่เกิดเหตุที่ 1 ไปถึงที่สุดท้าย เราก็จะได้เป็นภาพแบบนี้"
ระหว่างที่มหาเนิร์ดพูด ในจอก็จะเห็นเส้นถูกลากจากจุดที่ 1 ไปจุดที่ 13....ทุกคนยังไม่เข้าใจว่า
มันคืออะไร....แต่รัตติกาลเริ่มพอจะเข้าใจขึ้นบ้าง...รัตติกาลหยิบกระดาษสเก็ตรูปรอยแผลที่อยู่
ด้านหลังผีดิบขึ้นมาดูอย่างตื่นเต้น....รัตติกาลเอากระดาษทาบกับหน้าจอคอมพิวเตอร์...
"ถ้าอย่างนั้นเราก็พอคาดการณ์ถึงสถานที่ที่พวกมันจะออกฆ่าคนได้แล้ว" รัตติกาลบอก
อาคมกับเศกเข้าใจในสิ่งที่มหาเนิร์ดค้นพบแล้ว...อาคมตบไหล่มหาเนิร์ด ส่วนเศกจับมหาเนิร์ดลุกขึ้นแล้วสวมกอดเต็มเหนี่ยว
"ต้องให้มันได้อย่างนี้สิวะ...มหาเนิร์ดจอมอัจฉริยะ" เศกบอก
เจนเดินเข้ามาในบ้าน ดารการกำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่ เจนเดินเข้าไปหอมแก้มแม่
เจนยังสวมสร้อยคอรูปดวงตา
"วันนี้ทำอะไรทานคะ...กลิ่นหอมจัง"
"ก็ของชอบของพ่อกับของเรานั้นแหละ"
"เสร็จหรือยังคะ เจนจะได้ช่วยยกขึ้นไปข้างบน"
"หิวมาละซิท่า"
"นิดหน่อยคะ"
ดารการกับเจนช่วยกันยกสำรับอาหารขึ้นมาไว้ที่หน้าห้องทำงานอาจารย์วิเศษ เจนเห็นเครื่องกลไฟฟ้าติดตั้งอยู่ เจนสงสัยว่ามันคืออะไร....อ.วิเศษนั่งอ่านหนังสือวิปัสสนาอยู่...ดารการกับเจนยกอาหารวางที่โต๊ะ
"นั้นอะไรหรือคะพ่อ...เจนเห็นติดอยู่ทั่วบ้าน"
"เครื่องมือตรวจจับพลังงานน่ะลูก พวกพี่ๆเค้าห่วง กลัวว่าคำรณจะเข้ามาทำร้ายพ่อ
ก็เลยติดมันไว้คอยส่งเสียงเตือน"
"เรามีตำรวจอยู่กับเราตั้งสามคนแล้ว ไอ้คำรณยังจะกล้าเข้ามาอีกหรือคะ"
"ถ้าเป็นคำรณตัวเป็นๆ พวกเราก็ไม่กลัวหรอกลูก แต่พวกพี่ๆเค้ากลัวว่ามันจะมาในรูปแบบอื่นมากกว่า"
วิเศษมองอาหารและต้องการพูดตัดบทออกจากคำรณ
"นี่มันเยอะไปหรือเปล่าเนี่ย อยู่กันแค่สามคนเองนะ"
"กินไม่หมดก็เข้าตู้เย็นก็ได้ค่ะ"
"ของชอบอย่างนี้ไม่หมดได้ยังไง...มาลูกกินกันดีกว่า"
วิเศษตักอาหารทาน...เจนตักกับข้าวขึ้นมา เธอเห็นหนอนยั๊วเยี้ยปนอยู่ เธอตกใจปล่อยช้อนล่วงหล่นพื้น
"เจนเป็นอะไรไปลูก"
เจนเพ่งมองที่กับข้าวอีกครั้ง ไม่เห็นมีหนอน...เป็นอาหารปกติ
เจนพูดกลบเกลื่อน
"เปล่าค่ะ...เจนคงหิวจนมือไม้สั่น"
ผ่านเวลา....อาจารย์วิเศษตักอาหารให้ดารการ ทั้งสองกินอย่างอร่อย...เจนกินแบบผอืดผะอม
ดารการผิดสังเกต
"เป็นอะไรหรือเปล่าลูก"
"หนูรู้สึกมึนหัว อยากอาเจียน...ขอตัวก่อนนะคะ"
เจนรีบวิ่งเข้าห้องไป....อาจารย์วิเศษและดารการมองเจนด้วยความเป็นห่วง
เจนวิ่งเข้ามาในห้องน้ำ อาเจียนลงบนพื้น เห็นเศษผมร่วงหล่นลงมาจากปากของเจน
เจนรู้สึกทรมานในช่องท้องมาก....ยังคงก้มหน้าอาเจียนเอาเศษผมออกมา
แฟลตร้างตอนกลางคืน
คำรณนั่งบริกรรมคาถาท่ามกลางเครื่องบูชาต่างๆ...
ภายในห้องนอนเจน ไฟในห้องปิดมืด
เจนนอนหลับอยู่บนเตียง....ประตูห้องนอนเจนเปิดออก ไฟสว่างขึ้น อาจารย์วิเศษกับดารการค่อยๆเดินเข้ามามองเจนที่เตียง วิเศษหยิบรีโมทแอร์มาปรับ ดารการเอามือจับหน้าผากหาไข้...ทั้งสองเดินออก...ปิดไฟ ปิดประตู
บรรยากาศกลางดึก ซอยเปลี่ยวร้างผู้คน....รถอาคมค่อยๆขับผ่านอย่างช้าๆ รัตติกาลนั่งมาด้วย ทั้งสองมองหาผีดิบ
รัตติกาลถาม
"นายว่าวันนี้เราจะเจอฆาตกรมั้ย"
"มีซอยนี้กับซอยคู่ขนานอีกด้าน...ไม่รู้ว่ามันจะโผล่ด้านไหน"
"เงียบดีจริงๆนะ"
เศกจอดรถอยู่ข้างซอยเปลี่ยว...มหาเนิร์ดมองกล้องส่องทางไกลลึกเข้าไปในซอย แท็บเล็ตที่มี
แอพของเครื่องกลไฟฟ้าเปิดค้างหน้าจออยู่....
มหาเนิร์ดบอก
"ข้างหน้าไม่มีการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตเลยพี่เศก"
"เดี๋ยวลองขับเข้าไปดูด้านในดีกว่า"
เศกขับรถเข้าไปในซอยลึก
คำรณนั่งขัดสมาธิอยู่ในห้อง ในดวงตาของคำรณ เห็นเป็นภาพห้องนอนของเจน บ้านอาจารย์วิเศษ ผ่านสร้อยคอจี้ดวงตา....คำรณยิ้มอย่างชั่วร้ายที่แผนการใกล้สำเร็จแล้ว
บรรยากาศกลางดึก คนในบ้านหลับกันหมดแล้ว....เจน นอนหลับอยู่บนเตียง สักพักเธอก็ลืมตาขึ้นมา ดวงตาของเธอไร้แวว เจนลุกขึ้นมานั่ง แล้วหันไปมองรอบๆ อย่างน่ากลัว.....สร้อยคอจี้ดวงตา ส่งประกายแวววาว
อาคมขับรถอย่างช้าๆ...มอเตอร์ไซด์ที่ขับโดยหญิงสาวขับสวนกับรถอาคมเข้าไปในซอย...ทั้งรัตติกาลและอาคมเอ๊ะใจจึงกลับรถและขับตามรถมอเตอร์ไซด์เข้าไปในซอย
มอเตอร์ไซด์หญิงสาวขับเข้ามา...ผีดิบ 2 โผล่ออกมาขวางอย่างกระทันหัน หญิงสาวตกใจหักหลบ....มอเตอร์ไซด์เสียหลักตกข้างทาง ผีดิบเดินไปที่หญิงสาวที่บาดเจ็บจากมอเตอร์ไซด์ล้ม
ผีดิบก้มลงไปหาหญิงสาวที่ตกใจสุดขีด...ผีดิบกางนิ้วเห็นเล็บยาวจ้วงเข้าไปที่ท้องของหญิงสาวที่พยายามดันตัวหนี....แสงไฟจากรถของอาคมแล่นเข้ามาอย่างเร็ว...รถเบรกเสียงดัง...ผีดิบหันมาทางรถอาคม....ทั้งอาคมและรัตติกาลมองเห็นหน้ามันอย่างถนัด ในขณะที่กำลังลงจากรถ ผีดิบหันกลับไปสนใจเหยื่อ...
อาคมเหนี่ยวไกปืนไปยังร่างผีดิบ....ลูกปืนเข้าที่กลางหลัง ผีดิบผงะไปเพราะแรงกระสุน มันหันกลับมาและลุกขึ้นเดินมาทางอาคม...อาคมดึงรัตติกาลที่ตกใจในเหตุการณ์ให้มาหลบด้านหลัง
"หลบมาข้างหลังผมก่อน"
อาคมเล็งปืนไปที่ผีดิบและตัดสินใจยิงออกไป....ลูกปืนเข้ากลางอกของมัน แต่ผีดิบก็ยังเดินเข้ามาใกล้ขึ้น อาคมตัดสินใจยิงไปที่กลางหน้าผากอีกครั้ง....ผีดิบผงะหงายหลังล้มลง...อาคมยังจ้องปืนไปที่ผีดิบ อาคมหันไปหารัตติกาล
"คุณไปดูเหยื่อสิว่าเป็นยังไงบ้าง"
รัตติกาลวิ่งอ้อมไปดูเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ข้างทาง...อาคมเดินเข้าไปสำรวจผีดิบใกล้ๆ
"อาคมๆ ผู้หญิงบาดเจ็บสาหัส"
อาคมวิ่งไปที่ผู้หญิงและรีบกดโทรศัพท์ไปที่ 191...
"มีเหตุด่วนครับ... ผู้หญิงถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส กลางซอย.......ต้องการรถพยาบาลโดยด่วนครับ"
อาคมกับรัตติกาลอยู่กับหญิงสาวที่บาดเจ็บ...ผีดิบ2 ลุกขึ้นเดินออกไป
เศกขับรถตรวจไปอย่างช้าๆ มีมหาเนิร์ดนั่งมองอยู่อีกด้าน
"คืนนี้คงเหลวแล้วละ...โทรถามทางอาคมซิว่าจะกลับหรือยัง"
มหาเนิร์ดหยิบโทรศัพท์จะยกขึ้นมาโทร...สัญญาณไม่ว่าง...
มหาเนิร์ดบอก
"สัญญาณไม่ว่าง...น่าจะติดสายใครอยู่"
"ขับไปดูดีกว่า"
เศกเลี้ยวรถเข้าไปในซอยที่เชื่อมถึงกัน เมื่อรถยังเลี้ยวไม่พ้นก็ชนเข้ากับผีดิบ 2 อย่างแรง
ทั้งเศกและมหาเนิร์ดตกใจ...ทั้งสองหันมามองหน้ากัน โพล่งพร้อมกัน
"ผีดิบ"
เศกหันไปหยิบเครื่องยิงปืนไฟฟ้า ทั้งสองลงจากรถเดินไปดูด้านหน้าเพื่อหาผีดิบที่ถูกชน แต่ไม่พบอะไรเลย....
คืนนั้น เจนถูกครอบงำจากฤทธิ์ของสร้อยคอจี้ดวงตา
เจนออกมาจากห้อง ดวงตาของเจนเป็นสีดำไร้แวว เจนเดินไปเปิดประตูห้องทำงานอาจารย์วิเศษ เดินผ่านเครื่องกลดักพลังงานเข้าไปในห้องทำงาน....
วิเศษยังคงนั่งภาวนาอยู่ตำแหน่งเดิม ดารการนอนหลับอยู่บนเตียง
เจนกำลังรื้อค้นหาเหรียญโบราณตามที่ต่างๆ ข้าวของกระจัดกระจายเต็มห้องทำงานของอาจารย์วิเศษ
อาจารย์วิเศษยังคงนั่งภาวนาอยู่ตาแหน่งเดิม สร้อยคอรูปดวงตาจะค่อยๆกลายเป็นหน้าเจน ร้องให้พ่อช่วย....อาจารย์วิเศษลืมตาขึ้น
"เจน"
อาจารย์วิเศษวิ่งออกจากห้องไป...ดารการงังเงียตื่นขึ้นมองตามอาจารย์วิเศษไป
อาจารย์วิ่งเข้ามา เปิดประตูเข้าไปในห้องร้องเรียกลูกสาว... วิเศษเปิดไฟ...ไม่พบใคร เปิดดูในห้องน้ำและวิ่งออกมานอกห้อง เป็นช่วงที่ดารการมาถึงพอดี
"เกิดอะไรขึ้นคะ...ลูกเป็นอะไร"
ดารการเข้าไปดูในห้อง
"เจนๆ เจน...อยู่ไหนลูก"
ดารการเริ่มหน้าเสีย....อาจารย์วิเศษเข้าไปดูในห้องทำงาน เห็นข้าวของกระจัดกระจาย...ดารการตามเข้ามา...เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วยิ่งตกใจมากขึ้น
"แล้วตอนนี้ลูกเราไปอยู่ที่ไหน"
อาจารย์วิเศษดึงดารการเข้ามากอด
คำรณยืนจ้องเจนที่ถูกมัดนั่งอยู่ในห้องร้าง...เจนยังอยู่ในการสะกดจากคำรณอยู่ คำรณเดินไปกระชากจี้สร้อยคอหลุดออกมา....เจนค่อยๆรู้สึกตัว..เมื่อเห็นว่าตัวเองถูกมัดอยู่และมีคำรณยืนจ้องอยู่....เจนตกใจกลัว....แต่ความกลัวก็ค่อยๆหายไปเป็นความกล้า...
"แก แก จะทำอะไร"
"ฉันไม่ทำอะไรหนูหรอก เรื่องที่มันเกิดขึ้นก็เพราะพ่อของหนูมันดื้อ"
"พ่อไปทำอะไรให้แก แกถึงได้คิดร้ายกับพ่อขนาดนี้"
"ก็พ่อหนูมีของที่ฉันต้องการ ถ้าพ่อหนูยอมดีๆ ก็ไม่ต้องมาเดือดร้อนกันไปหมดแบบนี้"
คำรณสัมผัสใบหน้าเจน เจนพยายามหลบแต่ไม่สามารถทำได้
"หนูน่ะหน้าเหมือนแม่มากนะ หนูรู้มั๊ยถ้าฉันเป็นอมตะเมื่อไหร่นะ ฉันจะมอบสิ่งที่วิเศษที่สุดให้หนูกับแม่ มันจะมากกว่าที่เคยได้รับจากพ่อของหนูซะอีก"
"ไม่มีใครต้องการมันหรอก เพราะจิตใจแกมันชั่วร้ายแบบนี้ไง แม่ถึงไม่รักแก คอยดูนะ... อีกไม่นานพ่อและพี่ๆทีมหมอผีจะมาช่วย แกจะถูกจับเข้าคุก"
คำรณหัวเราะสะใจ
"ไอ้พวกกระจอกพวกนั้นเหรอ จะมาทำอะไรฉันได้ ลำพังพ่อหนูจะเดินออกจากบ้านยังทำไม่ได้เลย
แล้วประสาอะไรจะมาสู้กับฉัน"
"คอยดูเถอะ พ่อฉันจะจับแกเข้าคุก ไอ้คนชั่ว"
คำรณไม่แยแสใดๆ เขายิ้มอย่างผู้กุมชัยชนะ
ฝ่ายวิเศษนั่งปลอบดารการที่เป็นห่วงลูกสาวอย่างมาก...ศักดาและทีมหมอผีนั่งอยู่รายรอบ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด....
"อั้วขอสรุปให้เข้าใจตรงกันอย่างนี้ก่อนนะ พวกเรารู้ตำแหน่งที่พวกผีดิบจะออกฆ่าเหยื่อ
ซึ่งนั้นก็จะทาให้ตามไปถึงไอ้คำรณได้"
มหาเนิร์ดบอก
"ผมคิดว่าที่ซ่อนตัวมันก็ไม่น่าจะไกลจากบริเวณนั้นครับ"
"แล้วการที่มันสะกดจิตให้หนูเจนขโมยเหรียญให้มันพอหาเหรียญไม่พบ มันก็เอาตัวหนูเจนไป"
วิเศษบอก
"มันต้องเอาไปเป็นตัวประกัน บังคับให้อั้วเอาเหรียญให้แน่ๆ"
"ทำให้เราเชื่อว่าเจนยังต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน" รัตติกาลบอก
ดารการถาม
"ทำไมถึงไม่มีใครเห็นตอนที่เจนออกจากบ้าน"
"ตำรวจที่อยู่เวรก็ไม่ได้หลับ...แต่ก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติเลยครับ" อาคมบอก
"เครื่องมือที่เราเอามาติดตั้งก็จ้องจะจับแต่พลังงานแปลกๆ ไอ้คำรณดันมาใช้ร่างเจน...ทำให้เครื่องจับไม่ได้"
วิเศษครุ่นคิดหนัก จนในที่สุด
"ผมตัดสินใจแล้ว หนทางเดียวที่จะยับยั้ง คำรณได้ อาคม … ผมจะใช้วิธีของคุณ"
"ไม่นะคะคุณ"
"เราไม่มีทางอื่นแล้วล่ะ ...อย่าลืมว่าลูกอยู่กับไอ้คำรณนะ เฮียช่วยอาคมเตรียมอุปกรณ์ให้หน่อยนะครับ"
"เอ็งแน่ใจแล้วเหรอวะ ไอ้หมอผี"
"ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว เฮีย"
"แต่นั่นมันหมายถึงชีวิตเลยนะคะ อาจารย์"
"เราเป็นนักวิทยาศาตร์ ....ทั้งชีวิตเราอุทิศให้กับการค้นคว้าหาคำตอบใหม่ๆให้โลกใบนี้
กับการลองผิดลองถูกเป็นเรื่องปกติ ถ้าผิดพลาดก็ถือว่าเป็นการทดลองที่ล้มเหลวก็แล้วกัน เจนกำลังตกอยู่ในอันตราย ผมตัดสินใจแล้ว ผมคงไม่เปลี่ยนใจ"
ทุกคนเครียดอย่างเห็นได้ชัด
อ่านต่อตอนที่ 20