"ช่อง 3" เปิดตัวละครชุด "แม่ของแผ่นดิน"
"อาโป-ยิหวา-โบ๊ท-เม-มาสุ-มายด์" แสดงนำ
สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ร่วมกับ 3 ผู้จัด ผลิตละครต้อนรับวันแม่ "เพราะแม่คือแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่" กับละครคุณภาพในละครชุด “แม่ของแผ่นดิน” ละครเทิดพระเกียรติพระคุณอันยิ่งใหญ่ของ แม่หลวงแห่งปวงชนชาวไทย ในชื่อว่า "ประทีปรักแห่งใจ, แสงเทียน, ร้อยป่าไว้ด้วยรัก"
เปิดตัวด้วยการเดินแบบประกอบเพลง “คำรักคำแรก” โดย "อาโป ณัฐวิญญ์, ยิหวา ปรียากานต์, โบ๊ท ธารา, เม นิศาชล, มาสุ จรรยางค์ดีกุล, มายด์ ฑาริกา, จินตหรา สุขพัฒน์, น้ำหนึ่ง, บอล วิทวัส, โบนัส นภสร, ซีเจมส์ ธรรมวิทย์, ต้อม พัทธนันท์(รชนีกร), อองตวน ปินโต, ดวงตา ตุงคะมณี, นัน สุนันทา, บอม กันตพัฒน์"
บรรยากาศโดยรอบของลานน้ำพุ เซ็นทรัลเวสต์เกต มีนิทรรศการผ้าไทย จากศูนย์ศิลปาชีพ, การแสดงโขน, "ต้นรักแม่" ต้นไม้ไว้ให้แฟนๆ ร่วมถ่ายทอดความรู้สึกถึงคุณแม่ บอกรักแม่ให้เต็มต้น
"หนึ่ง ณรงค์วิทย์" นักแต่งเพลง
"เพลงประกอบ มี 3 เวอร์ชั่น เรื่องแรก ประทีปรักแห่งใจ เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ เลยดีไซน์เพลงให้ยิ่งใหญ่ด้วยออเคสตร้า ชวน น้ำมนต์ ธีรนัยน์ ณ หนองคาย มาร้อง เนื่องจากต้องการคนที่มีความรู้สึกเป็นลูกและขณะนี้เขาก็เป็นแม่
เรื่องที่สอง แสงเทียน ติดต่อน้องๆ วง S2S ศิลปินนักร้องจากสมาคมคนตาบอด เพราะความหมายของคือแสงเทียนคือแสงสว่างมาร้อง แล้วน้องๆ ก็ร้องดีมาก ตอนอัดเสียงผมทึ่งมาก ดีใจมาก ขอมอบเพลงแสงเทียนนี้ไว้ให้น้องๆ เอาไปร้องเป็นเพลงประจำตัวประจำวงได้เลยนะครับ
เรื่องที่สาม ร้อยป่าไว้ด้วยรัก เกี่ยวกับทหาร, ป่าไม้ เราก็อยากได้ทหารจริงๆ ตัวจริงที่ร้องเพลงได้ เลือกหาอยู่นานหลายคน สุดท้ายเป็นเพลงที่เราได้ยินทุกวัน ก็เลยติดต่อ จ่าสิบเอกพงศธร พอจิต ให้เขามาร้อง ซึ่งการเลือกนักร้องแต่ละเวอร์ชั่นนั้นมีความหมายหมด เป็นโปรเจ็กท์ที่มีความสุขมาก
อยากจะฝากเพลง คำรักคำแรก ไว้ด้วยนะครับ เป็นเพลงที่มีความหมายที่ดี พูดถึงแม่ ทุกคนก็มีแม่ อยากจะมอบเพลงนี้ให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นวันแม่วันไหน หรือทุกวัน เราร้องให้แม่ทุกวันได้"
ประทีปรักแห่งใจ
"แหม่ม ธิติมา สังขพิทักษ์" ผู้จัด
"เรื่องราวน่ารักๆ พระเอกนางเอกพ่อแง่แม่งอน นักแสดงทั้งสามเรื่องต้องมีเวลาไปเรียนรู้ทำภารกิจต่างๆ อย่างเรื่องของแหม่มก็เกี่ยวกับการทอผ้า จะต้องรู้ขั้นตอนทั้งหมด เปรียบเสมือนประหนึ่งว่าทำได้จริงเลย จะฉายวันที่ 16 สิงหาคมนี้แล้วนะคะ อยากให้ทุกท่านติดตามชมด้วยความสนุกสนาน"
อาโป ณัฐวิญญ์
"รู้สึกเป็นเกียรติ เป็นเรื่องราวที่เป็นพระราชกรณียกิจของพระราชินี เป็นความภาคภูมิใจที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ ผมชอบของไทยอยู่แล้ว ชอบทานอาหารไทย ชอบสมุนไพรไทย ชอบทุกอย่าง พอรู้ว่าผ้าไหมเป็นของไทย และทุกๆ กรรมวิธีทำจากมือ ผมก็เลยรักมากขึ้น บวกกับเป็นเป็นสิ่งที่เราควรอนุรักษ์ไว้ด้วย ก็ภาคภูมิใจ ดีใจครับ"
ยิหวา ปรียากานต์
"เป็นประสบการณ์ใหม่า ถ้าอยู่กับบ้านก็คงไม่ได้ทำ เรื่องนี้ได้ทำอะไรในสิ่งที่ไม่เคยทำ ขี่ควายเอย ได้จับปลาไหล ตอนเข้าซีนกับพี่แหม่ม สงสารพี่แหม่ม แล้วก็สงสารตัวเองด้วย เพราะว่าการถ่ายทำค่อนข้างยากนิดหนึ่ง แต่พอผลงานออกมา กำลังจะออนแอร์ ก็ดีใจที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งร่วมเล่นละครเรื่องนี้ค่ะ ที่แน่นอนคือได้เห็นคุณค่าของผ้าไหม จะไม่ต่อราคาอีกแล้วค่ะ เพราะว่าลำบากมากกว่าจะได้แต่ละเส้น โอ้โห.แค่นิดเดียวก็เป็นปีแล้วค่ะ แล้วกว่าจะได้ผืนหนึ่งที่เราห่มที่เราใส่กัน"
จินตหรา สุขพัฒน์
"เล่นเป็นแม่ เป็นคนต่างจังหวัดมาอยู่กรุงเทพฯ เป็นแม่ที่ไม่ดี ได้ดีแล้วลืมกำพืดเป็นดาราดังแต่งงานมีลูกใช้ชีวิตจับจด วันหนึ่งสามีล้มละลายต้องหนีเจ้าหนี้ไปบ้านเกิด ไม่เคยทำอะไรเลย หนีการทอผ้า ทำนา พี่สาวก็สั่งให้ทำ ลูกสาวถูกผู้ชายท้าไว้ เธอทอผ้าไม่เป็นหรอก เราเห็นลูกเราก็ได้กำลังใจจากลูก สองคนแม่ลูกก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน แข่งขันทอผ้าให้กับสมเด็จฯด้วย ที่ผ่านมาไม่เคยดูแลลูกไม่เคยลำบาก ก็ปรับตัวได้ด้วยความรักของแม่"
แสงเทียน
"หนุ่ม กฤษณ์ ศุกระมงคล" ผู้จัด
"เป็นเรื่องดราม่า เกี่ยวกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งเกกมะเหรกเกเร แล้ววันหนึ่งได้มารำโขน แล้วก็เรียนรำเป็นเรื่องเป็นราว สุดท้ายได้รำโขน เมื่อ 4-5 ปีที่แล้วได้ไปดูโขนพระราชทาน ตอนแรกคิดว่าโขนเป็นอะไรที่น่าเบื่อ จะต้องเชยแน่ๆ พอเป็นโขนพระราชทานขึ้นมา ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป นั่งดูแล้วอึ้ง ทึ่ง มหัศจรรย์ เป็นอะไรที่แปลกแล้วดูง่าย ก็เลยรู้จักตรงนั้นมา พอได้บทประพันธ์เรื่องแสงเทียนมาก็เลยอยากทำเรื่องนี้
พระเอกนางเอกเรื่องนี้จริงๆ คนจะรำโขนต้องฝึกตั้งแต่เด็ก พอเราได้น้องสองคนมาก็มาฝึก ก็เลยต้องฝึกฝนเยอะมาก เป็นเด็กคนอื่นคงลาโรงไปแล้วครับ ด้วยสรีระคนเล่นเป็นยักษ์ก็เลยต้องมีสรีระใหญ่ เพื่อแบ่งเบาภาระผู้จัดก็เลยได้คนเป็นหนึ่ง ไม่เป็นหนึ่ง จะได้ช่วยกันได้ เรื่องของเราจะต่อจากเรื่องประทีปรักแห่งใจ อยากจะบอกว่าโขนหรือศิลปวัฒนธรรมไทยสวยงามมากๆ ครับ"
โบ๊ท ธารา
"ตอนที่รู้ว่าต้องไปเรียนรำโขนนึกว่าเล่นเป็นลิง เป็นหนุมาน สรุปเป็นยักษ์ ต้องไปเรียนรำโขน ยากมากครับ ต้องมาฝึกความอดทน ฝึกให้ร่างกายจำ แล้วก็ฝึกร่างกายแต่ละส่วน"
เม นิศาชล
"น้ำตาไหลไม่รู้ตัว ด้วยความกดดันแล้วก็อะไรหลายๆ อย่าง อยากให้ออกมาดี ออกมาถูกต้อง ช่วงเวลาที่ไปซ้อมรำเราก็ทำงานไปด้วยซึ่งแบ่งเวลายาก ถึงเวลาซ้อมก็เต็มที่มากๆ อยากให้ผลงานออกมาดีๆ คุณครูก็ตามไปดูด้วย แล้วก็กดดันในฉากๆ หนึ่งที่ต้องถ่าย เราต้องคีพตัวละครเอาไว้แล้วก็ต้องสวมบทบาทในเรื่องนางสีดาไว้ด้วย ทุกท่วงท่าแต่ละทำนองมีความหมายหมด มันก็ยิ่งสร้างความกดดัน เกรงใจคนอื่นด้วย พองานออกมาดีมากค่ะ"
ต้อม พัทธนันท์ (รชนีกร)
"เล่นเป็นแม่พิมพ์ของชาติ พระเอกโบ๊ทอยู่ในครอบครัวมีปัญหา เริ่มติดยา เริ่มขโมยของ เราก็เริ่มปลูกฝังให้เขาหันมาสนใจศิลปวัฒนธรรมไทย ใช้ความอ่อนโยนกับชีวิตเขา เอาชนะความไม่ดี ก็ยากนะ ต้องเคี่ยวเข็ญเขาให้มีความมุมานะ การรำไทย คนสมัยก่อนเห็นว่าเป็นการเต้นกินรำกิน เราก็ต้องทำให้เขาเห็นความสำคัญ ตอนนี้สูญหายไปแล้ว ภูมิใจมากที่ได้มาเล่นละครเรื่องนี้ ตอนติดต่อมา ไม่คิดอะไรเลย รับทันที เอาล่ะ ได้ใช้ความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาเสียที แล้วน้องๆ ทุกคนก็เก่งมากค่ะ ถึงแม้เราไม่ได้เป็นครูจริงๆ ที่สอน แต่พอเวลาเห็นน้องขึ้นไปรำบนเวทีก็ปลื้มปริ่มน้ำตาไหลขึ้นมาเอง"
ร้อยป่าไว้ด้วยรัก
"คิง สมจริง ศรีสุภาพ" ผู้จัด
"เรื่องนี้เล่าถึงทหารที่อยู่ในป่าต้นน้ำ ดูแลโครงการพระราชดำริ คือโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ เป็นที่รวมของชาวเขา ดูแลชาวเขา เพื่อดูแลต้นน้ำ ตรงรอยต่อของป่า พระเอกเป็นน้องมาสุ เป็นทหารที่รักชาติ ส่วนน้องมายด์เป็นไฮโซ มาตามหาแม่นมแล้วมาเจอกับมาสุ ขอฝากละครเรื่องร้อยป่าไว้ด้วยรักด้วยนะครับ ขอเน้นเลยนะครับ ละครทั้งสามเรื่องเป็นละครที่ดูสนุก ครบรส มีทุกรสชาติ"
มาสุ จรรยางค์ดีกุล
"ตอนแรกๆ ก็หนักใจครับ เพราะว่าต้องมารับบทเป็นทหาร แล้วต้องทำให้คนดูเชื่อว่าเราเป็นผู้พันจริงๆ ยากมากเลย ได้ไปสัมผัสชีวิตการเป็นทหารจริงๆ มันลำบากมาก นี่เราแค่ถ่ายละคร แล้วพี่ๆ ตัวจริงจะขนาดไหน ส่วนร่างกายก็ต้องฟิตมากขึ้นด้วย อยากฝากเรื่องการให้ความสำคัญกับผืนป่า ถ้าสังเกตดูตอนนี้ผืนป่าก็สูญเสียไปหมดแล้ว อยากจะเชิญชวนให้อนุรักษ์ป่าไม้กันครับ"
มายด์ ฑาริกา
"รับบทเป็นลูกคุณหนูไฮโซ ตีกับคุณแม่ตลอดเวลา มีทัศนคติที่ต่างกันกับคุณแม่ ทำให้เราหนีออกจากบ้าน มาหาครอบครัวที่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็กๆ มาหาแม่นม ทำให้ได้มาเจอกับพระเอก อุปสรรคคือเหงื่อออกเยอะ ตื่นเต้นด้วย เราถ่ายในสถานที่เป็นป่า อากาศค่อนข้างจะอบนิดหนึ่ง แล้วก็อากาศร้อนด้วยค่ะ"
ดวงตา ตุงคะมณี
"เรื่องนี้ไม่ได้เป็นแม่ เป็นแม่นม เป็นคุณป้าที่เกษียณแล้ว บ้านนางเอกรวยมาก มีลูกก็มาให้เราช่วยเลื้ยงหน่อย เราก็ไปช่วยเลี้ยง ก็เกิดความสนิทสนมมากขึ้น วันหนึ่งเรารู้สึกว่าเราพอแล้วกับชีวิตที่นี่ ก็กลับมาอยู่บ้านนอก ไปหาความสุขที่แท้จริง มีความสุขกับธรรมชาติ ธรรมชาติจรรโลงจิตใจเรา ในยามบั้นปลายชีวิต เราก็เอาความรู้ที่เราได้จากในเมืองไปสอนคน สอนชาวบ้านแถวนั้น ให้เขามีอาชีพที่เลี้ยงตัวเองได้ มีวิถีชีวิตอย่างพอเพียง ไม่ยึดติดวัตถุ
แล้ววันหนึ่งนางเอกก็วิ่งมาหาจากที่ไม่ได้เจอกันนาน ร้องไห้มา ทะเลาะกับแม่ น่าจะมีปัญหามากเพราะบ้านนี้พ่อแม่ทะเลาะกันตลอดเวลา พ่อไปมีเมียน้อย เมียน้อยคือเพื่อนเขา เราก็ปลอบประโลมกันไป เขาหักดิบหัวชนฝาจะไม่รักพ่อแม่แล้ว ซึ่งเป็นไปไม่ได้ พ่อแม่เป็นคนที่มีบุญคุณมากที่สุด พยายามปรับความเข้าใจเขา แล้วก็ปรับความรู้สึกแม่ให้เข้ากับลูก ที่ยากคือทั้งแม่และลูกดื้อมาก"
ละครเทิดพระเกียรติ ชุด “แม่ของแผ่นดิน” จะเริ่มออกอากาศเรื่องแรกวันที่ 16 สิงหาคมนี้ ทางช่อง 3
