สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 19
พันกรนั่งนิ่งต่อหน้ารองวิเชียร หมวดบัญญัติ จ่าพนมซุบซิบกันเบาๆ รองวิเชียรมองตำหนิพันกร
ผมเป็นคนขอให้มิวมาช่วยงานเอง ให้มาเป็นสายสืบช่วยเอกราชอีกทางหนึ่ง งานจับเสี่ยเป้มันจะได้ไวขึ้น”
พันกรอึ้ง เงยหน้ามองรองวิเชียร แล้วหันไปทางจ่าพนม หมวดบัญญัติ ทั้งสองพยักหน้ารับยิ้มๆ รองวิเชียรส่ายหัวอย่างเบื่อหน่าย
“คุณจะเอาเอกราชถึงตายเลยเหรอ มีปากไว้ทำไม ทำไมไม่ถามให้รู้เรื่องซะก่อน”
พันกรตัวลีบลงทันที
“คุณนี่ใจร้อนไม่เปลี่ยน หลายครั้งต้องเสียการเสียงานก็เพราะไอ้ความใจร้อนวู่วามของคุณเนี่ย”
พันกรยกมือไหว้รองวิเชียรอย่างสำนึกผิด
“ผมขอโทษจริงๆ ครับ”
พันกรทำหน้าเอ๋อๆ เอามือลูบหัวตัวเอง หันไปมองเอกราช พยักหน้าขอโทษเบาๆ ด้วยความจริงใจ เอกราชพยักหน้ารับคำขอโทษจากพันกรอย่างเข้าใจผู้ชายด้วยกัน
“ผมต้องขอโทษท่านรองและทุกคนจริงๆ ครับ ที่ผมใจร้อนขาดสติไปหน่อย ไม่ฟังเอกราชอธิบายซะก่อน”
“ไม่หน่อยแล้วผู้กอง” หมวดบัญญัติแซว
“เกือบต้องไปกินข้าวต้มงานศพเอกราช” จ่าพนมแซวอีก
พันกรยิ้มเจื่อนๆ หัวเราะไม่ออก หันไปมองเอกราช
“เล่นผมซะแรงเลยนะครับผู้กอง เกือบต้องตายในหน้าที่ซะแล้ว”
รองวิเชียรดูผ่อนคลายลง พูดแซวพันกร
“ดีแล้วที่ไม่มีใครเป็นอะไร ไม่งั้นคงลงข่าวหน้าหนึ่งแน่ ผู้กองคลั่งรัก ยิงเพื่อนร่วมงานตายสามศพ เฮ้อ”
หมวดบัญญัติ จ่าพนมสะดุ้งโหยง
“แฮะๆ ไม่เกี่ยวกับผมนะครับท่าน ผมยังไม่อยากตายย”
หมวดบัญญัติ จ่าพนม เอกราชก็พลอยหัวเราะไปด้วย พันกรยังยิ้มไม่ออก เพราะรู้สึกละอายใจในความคิดสั้นๆ ของตัวเอง รองวิเชียรบอกกับเอกราช จ่าพนม และหมวดบัญญัติ
“พวกคุณออกไปก่อน ผมมีเรื่องคุยกับผู้กองหน่อย”
จ่าพนม หมวดบัญญัติ แสดงความเคารพรองวิเชียร เดินออกจากห้อง เอกราชตามไป รองวิเชียรเดินมาที่หน้าต่าง มองไปที่บ้านเสี่ยเป้ แล้วหันมาบอกพันกร
“ผมเป็นคนสั่งมิวไม่ให้บอกเรื่องนี้กับผู้กองเอง”
พันกรนิ่งฟังอย่างสงบ
“คุณเป็นตำรวจ คุณก็รู้ ถ้าคำสั่งเรื่องงานที่เป็นความลับ มันก็ต้องเป็นความลับจริงๆ ห้ามบอกใคร มิวถึงบอกคุณไม่ได้”
พันกรพยักหน้า เข้าใจที่รองวิเชียรพูด
“อีกอย่าง ตอนนี้คุณก็ไม่ได้ดูเคสนี้แล้ว คุณไม่ควรมาทำให้ทุกคนต้องลำบากใจ”
พันกรอึ้ง รู้สึกแย่ที่ทำให้ทุกคนต้องอึดอัดที่เอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับงาน
“ผมขอโทษท่านรองอีกครั้งครับ ผมรู้สึกผิดกับมิวมากครับ ผมไม่น่าใจร้อนเข้าใจอะไรผิดๆ ผมมันโง่ พูดจาดูถูกมิว ผมควรให้เกียรติ เชื่อใจเขา”
พันกรรู้สึกเสียใจมากจนพูดไม่ออก รองวิเชียรมองอย่างเข้าใจ
“รู้สึกผิดมาก ก็รีบไปขอโทษเขาซะ ไปเอาใจมิวเขามากๆ โทษหนักจะได้เป็นเบา”
รองวิเชียรหัวเราะเบาๆ พันกรมีรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก
“ครับท่านรอง เอ่อ งั้นผมขอตัว”
“ไม่ต้องขอ รีบไปเลย”
“ขอบคุณครับ”
พันกรยิ้มดีใจที่จะได้กลับไปขอโทษประภาพรรณ
บุหงาออกมาเดินเล่นรอพันกรกลับมา อย่างอารมณ์ดี ดวงแก้วเดินออกมาหาลูกสาว
“แกมายืนทำอะไรนังแพน เข้าไปเจ๊าะแจ๊ะกับนังคุณหญิงสิ ฉันเบื่อคุยกะมันละ”
“ฉันก็มาซ้อมรอรับคุณสามีน่ะสิแม่ คุณสามีไปจัดการชู้เดี๋ยวคงมา”
สองแม่ลูกหัวเราะเริงร่า โดยไม่สนใจกล้าที่โผล่เข้ามายืนฟังอย่างน้อยใจ กล้าเข้ามาใกล้ๆ บุหงา
“สามีเหรอ แล้วเค้าอ่ะ”
ดวงแก้วรีบขยิบตาให้บุหงาปลอบใจกล้า บุหงามองซ้าย มองขวา ไม่เห็นใครรีบเล่นละครเอาใจกล้า เข้าไปควงแขนกล้าไว้
“แพนต้องยอมทำทุกอย่างทั้งๆ ที่ต้องฝืนใจตัวเอง พี่กล้ายังไม่เข้าใจแพนอีกเหรอ”
บุหงาแกล้งทำเป็นสะอึกสะอื้น แอบเอามือเขี่ยตาน้ำตาก็ไม่ยอมไหล กล้าตกใจที่หญิงสาวเสียใจ
“โอ๋ๆ ไม่โกรธเค้านะเตง เค้าก็น้อยใจบ้าง อะไรบ้างง่ะ”
“แพนรักพี่กล้าคนเดียว เชื่อสิอีกไม่นานเราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว”
กล้ายิ้มออกที่ได้ยินแผนลวงๆ จากปากบุหงา
“จริงนะ”
“จริงสิจ้ะ แพนไม่โกหกหรอก เชื่อแพนนะ แต่ตอนนี้แพนขอไปทำคะแนนกับนังคุณหญิงก่อนนะ”
กล้ายิ้มแก้มตุ่ย พยักหน้าให้บุหงา บุหงาคว้ามือดวงแก้วเดินเข้าไปในบ้าน ถอนใจด้วยความโล่งอกที่หลอกกล้าได้
พันกรเดินกลับลงมาที่ล็อบบี้คอนโด มองไปมาหาเอกราช แล้วก็เห็นเอกราช หมวดบัญญัติ จ่าพนม ยืนคุยกันอยู่ที่มุมหนึ่ง จึงเดินเข้าไปหา เอกราชเห็นพันกรเดินมาหา รีบสะกิดจ่าพนม หมวดบัญญัติ พันกร ทำหน้าไม่ค่อยถูก ยิ้มแห้งๆ ให้เอกราช
“ผมขอโทษ ที่เข้าใจผิด ผมไม่รู้จะพูดยังไงคุณถึงจะ”
พันกรทำท่าจะยกมือไหว้ขอโทษเอกราช เอกราชรีบห้ามไว้
“เฮ้ยๆๆ ผู้กอง ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก ผมไม่โกรธหรอกครับ”
พันกรยิ้มอ่อนๆ
“ขอบคุณมากนะ”
“ผมเข้าใจผู้กองครับ เราผู้ชายเหมือนกัน หึงแฟนเรื่องปกติ”
พันกรยิ้มออกมาได้ เอกราชยิ้มตอบ
“ถ้าผมมีเมียดีๆ น่ารักๆ อย่างมิว เห็นไปกับผู้ชาย ผมคงหึงเป็นหมาบ้ากัดไม่เลือกยิ่งกว่าผู้กองอีกมั้ง”
สองหนุ่มหัวเราะกันขึ้นมา หมวดบัญญัติเอาศอกกระทุ้งจ่าพนมเบาๆ
“ดูผู้กองเอาไว้นะ ลูกผู้ชายผิดก็ยอมรับผิดแบบแมนๆ ปัญหาก็จบ เข้าใจ”
“ครับหมวด คราวหน้าผมต่อยหน้าหมวดแล้วผมขอโทษหมวดแบบแมนๆ หมวดห้ามโกรธผมนะ”
“อ้าว ไหงงั้น”
เอกราช พันกรหัวเราะหมวดบัญญัติกับจ่าพนมที่คุยเล่นกัน เอกราชหรี่ตาเหมือนคิดอะไรได้หันไปหาพันกร
“ผู้กองรีบกลับไปขอโทษมิวดีกว่าครับ เดี๋ยวจะยุ่งไปกว่านี้”
“ครับ ผมไปก่อนนะ”
พันกรผลุนผลันออกไป เขาขับรถไปที่ร้านขายดอกไม้ เลือกซื้อดอกไม้อย่างมีความสุข ยิ้มมีความหวังที่ประภาพรรณจะยกโทษให้
สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 19 (ต่อ)
ประภาพรรณยังโดนล่ามกุญแจมือไว้กับเตียง เธอนั่งน้ำตาซึม เหม่อลอย ยิ้มอ่อนๆ ปลอบใจตัวเองครุ่นคิดถึงภาพในอดีตดีๆ ที่มีกับพันกร แต่พอกลับมามองกุญแจมือที่ล่ามอยู่ ก็ร้องไห้เสียใจ
บุหงากระซิบกับดวงแก้วอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นพันกรกลับเข้ามา
“แม่ พี่กรกลับมาแล้ว ดูสิ”
ดวงแก้วยิ้มพยักเพยิดกับลูกสาว พันกรถือช่อดอกไม้เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น บุหงายิ้มแก้มปริคิดว่าชายหนุ่มจะเอาดอกไม้มาให้ ลุกขึ้นยืนหลับตาพริ้มเตรียมรับดอกไม้ พันกรเดินเลยปทุมวดี บุหงา ดวงแก้วไปจนดวงแก้วต้องสะกิดให้บุหงานั่งลง บุหงาหน้าเสีย
“ตากร จะไปไหน หนูแพนอยู่นี่ไง จะให้ดอกไม้หนูแพนไม่ใช่เหรอ”
บุหงาหันไปยิ้มหวานให้พันกร ดวงแก้วก็ยิ้มตามไปด้วย พันกรหันมายิ้มให้ทุกคน เดินกลับไปหาบุหงา บุหงาดีใจมากที่พันกรเดินมาหา แล้วชายหนุ่มก็เดินเลยไปหาปทุมวดี กระซิบที่หูเบาๆ อย่างอารมณ์ดี
“ผมไม่ว่างครับคุณแม่ มีธุระด่วน”
พันกรเดินขึ้นไปข้างบนโดยไม่สนใจใครๆ บุหงาอึ้ง มองดวงแก้ว ปทุมวดีอย่างงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพันกร
“พี่กรเขาเป็นอะไรคะ”
ปทุมวดีหน้าบึ้ง ส่ายหัว หยิบพัดขึ้นมากรีดพัดที่หน้าตัวเองอย่างหงุดหงิด
“ลูกคนนี้มันผีเข้าผีออก”
บุหงากระซิบกระซาบกับดวงแก้ว
“เมื่อกี้จะออกไปจัดการชู้ แต่ไหงกลับมาง้อนังมิว”
“นั่นสิ”
“ถ้าเขาดีกันฉันจะทำยังไงล่ะแม่”
ดวงแก้วพยักหน้าเซ็งๆ ถอนหายใจหนักๆ
“อือ ทำใจไงนังแพน”
“แม่”
บุหงาหันไปหาปทุมวดี
“คุณหญิงป้าขา แพนว่าวันนี้แพนขอตัวไปเลียแผลใจก่อนดีกว่าค่ะ คุณหญิงป้าจะได้พักผ่อนด้วย พรุ่งนี้แพนค่อยมาใหม่นะคะ”
ปทุมวดีมองบุหงาอย่างเห็นใจและเข้าใจ
“เอางั้นก็ได้จ้ะหนูแพน”
ปทุมวดีหนักใจ
พันกรเปิดประตูเข้ามาในห้องนอน เห็นประภาพรรณนอนลืมตาเหม่อลอย เขารู้สึกผิดและเสียใจมาก รีบวิ่งไปหาภรรยา หยิบลูกกุญแจในกระเป๋าออกมาถอดกุญแจมือให้ คว้ามือประภาพรรณมากอดไว้แนบอก
“มิว ผมขอโทษ ผมรู้เรื่องหมดแล้ว”
ประภาพรรณชันตัวขึ้นมานั่ง สายตาเย็นชา ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ พันกรหยิบดอกไม้ที่เตรียมมายื่นให้
“ให้อภัยผมนะ”
ประภาพรรณรับดอกไม้จากพันกร ยิ้มแห้งๆ ชื่นชมดอกไม้ที่พันกรเอาให้ แล้วเขวี้ยงทิ้งไปอย่างไม่ใยดี
“มิว”
ประภาพรรณจ้องหน้าพันกร แววตาแสดงถึงความเสียใจ น้อยใจอย่างที่สุด
“แค่นี้ยังน้อยไป เทียบกับสิ่งที่คุณทำกับฉัน”
ประภาพรรณน้ำตาเอ่อล้นออกมา พันกรมองหญิงสาวด้วยความสงสารจับใจ
“ผมรู้ ผมขอโทษ”
“มิวไม่อยากได้คำขอโทษ มิวอยากได้ศักดิ์ศรีของมิวคืนมา”
พันกรหน้าเศร้า เอามือปาดน้ำตาบนใบหน้าของหญิงสาว แต่ถูกประภาพรรณปัดมือออกอย่างไม่ใยดี
“ใครจะพูดว่ามิวคบชู้ มิวไม่สน แต่มันเจ็บตรงที่คุณกรเชื่อเขา”
ประภาพรรณเบือนหน้าไปทางอื่นด้วยความน้อยใจ พันกรรู้สึกแย่มากๆ คว้ามือของหญิงสาวเข้ามากอดอย่างทะนุถนอม
“ผมเสียใจที่ไม่ไว้ใจมิว ผมรู้แล้วว่ามิวไม่เคยนอกใจผม ผมยอมรับผิดทุกอย่าง ยอมให้มิวลงโทษ จะให้ผมทำอะไรไถ่โทษชดใช้ก็ได้ ให้เราดีกันเหมือนเดิมนะ”
ประภาพรรณจ้องหน้าพันกรอย่างชั่งใจ ชี้นิ้วไปที่ประตูหน้าห้อง พันกรมองตามนิ้วชี้หญิงสาวไปตาละห้อย
“ไปคุกเข่าที่หน้าห้อง”
พันกรเดินไปคุกเข่าที่หน้าประตู ตามที่หญิงสาวสั่งอย่างเชื่อฟัง
“นอกห้อง ไม่ใช่ข้างใน”
“จ้ะ”
พันกรค่อยๆ ลุกเดินออกไปคุกเข่าที่หน้าห้อง ประภาพรรณเดินมายืนอยู่ตรงหน้าพันกร ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
“ก้มหน้าสำนึกผิดด้วย”
พันกรก้มหน้าตามคำสั่ง
ตอนเช้า ประภาพรรณนอนอยู่บนเตียง พันกรนอนลืมตาโพลงอยู่บนพื้น
“คนสวยหายโกรธรึยังครับ ถ้าหายแล้วเรา”
ประภาพรรณอดยิ้มไม่ได้ แต่รีบเก๊กหน้าตามเดิม กลอกตาไปมาคิดอะไรออก ทำเสียงดุ
“เราห้ามมีอะไรกันเป็นเวลาหนึ่งปี เพื่อเป็นการไถ่โทษ”
พันกรผงกหัวขึ้นมามองประภาพรรณอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“อะไรนะ หนึ่งปี นรกชัดๆ”
พันกรรีบทำหน้าเศร้า สายตาออดอ้อนภรรยาเพื่อให้สงสาร
“นานไปมั้ยครับมิว ผมต้องเฉาตายแน่ๆ เลย”
ประภาพรรณจ้องหน้าพันกร ทำเป็นไม่สนใจที่เขาโอดครวญ
“แค่นี้ยังน้อยไป”
พันกรสูดหายใจเข้าเต็มปอด พยายามยอมรับให้ได้ที่ประภาพรรณบอก แล้วก็อดไม่ได้ ทำหน้าเศร้าอีก
“ฮือๆ มิวใจร้าย ลดให้หน่อยไม่ได้เหรอ เหลือสักสามวันก็พอ”
ประภาพรรณกัดฟันกรอดที่พันกรจะมาขอลดโทษ
“ไม่ลด 365 วัน หนึ่งปีเต็ม”
พันกรเหวอ อ้าปากค้าง
“จะรอหรือจะเลิกกันดี”
พันกรกลัวประภาพรรณเลิก รีบตอบลนลาน
“อย่าขู่สิครับ รอก็ได้”
ประภาพรรณยิ้มอย่างมีชัย
สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 19 (ต่อ)
ประภาพรรณยังไม่ลุกจากเตียง พันกรย่องขึ้นบนเตียง แกล้งเข้าไปทำเนียนกอดหญิงสาว ประภาพรรณหรี่ตา รู้ว่าพันกรมากอดอยู่ใกล้ๆ
ชายหนุ่มเห็นประภาพรรณไม่ตื่น ก็ค่อยๆ ก้าวขาขึ้นคร่อมบนตัวอย่างย่ามใจ หญิงสาวได้จังหวะหงายตัวขึ้น ผลักไหล่ทั้งสองข้างของพันกรไว้ แล้วยกเข่าทั้งคู่ ขึ้นมายันไว้ที่ท้องของชายหนุ่ม ตะโกนสุดเสียง พร้อมกับออกแรงถีบพันกรสุดแรงเกิด พันกรไม่ทันระวังตัวโดนภรรยาถีบกระเด็นไปไกล
“โอ๊ย”
พันกรลงไปนอนครวญครางที่พื้น แต่ก็รีบยันตัวขึ้นมานั่ง
“อูย มิวจ๋า ผมต้องทนไม่ไหวแน่ๆ เลย ขอกอดนิดหนึ่งนะ”
ประภาพรรณหน้าบึ้งลุกมานั่งที่ปลายเตียง
“ถ้าคุณกรไม่รู้จักที่จะอดทนซะบ้าง คุณกรก็จะเลิกนิสัยใจร้อนไม่ได้”
พันกรลุกขึ้นมานั่งหน้าเศร้า
“ก็ได้จ้ะเมียจ๋า ผมจะเลิกใจร้อนได้ก็คราวนี้แหละ”
ประภาพรรณยิ้มสะใจ
บุหงาอยู่ในสวนบ้านพันกร โทรศัพท์เรียกน้ำออกมาเจอ
“แกออกมาเจอฉันด่วนๆ ฉันมาถึงแล้ว”
น้ำเดินออกมาหันซ้ายแลขวา เห็นบุหงากวักมือเรียกให้เข้าไปหา บุฟงารีบดึงแขนน้ำไปมุมที่ลับตาคน
“มานี่เลย ทำไมปล่อยให้พี่กรกลับมาดีกับนังมิวได้ หา ฉันบอกแล้วใช่มั้ย ให้ใส่ไฟมันกับนังคุณหญิงเยอะๆ มันจะได้เลิกกับพี่กรเร็ว แล้วแกมัวไปทำอะไรอยู่”
น้ำชักโมโหบุหงาที่เรียกมาด่าฉอดๆ
“นี่คุณแพน น้ำทำดีที่สุดแล้วนะ มาสั่งนู่นสั่งนี่อยู่ได้ ช่วยก็ไม่ช่วย”
บุหงาชักโมโหที่น้ำ
“นี่แก แกเป็นคนบอกฉันเองว่าจะช่วยฉันจับพี่กร แล้วทำไมมาพูดหมาๆ แบบนี้”
“คุณแพน คุณแพนให้น้ำทำทุกอย่างอยู่คนเดียว ใครจะไปทำไหว น้ำก็ช่วยได้เท่านี้แหละ มีอะไรมั้ย”
“งั้นแกก็ไม่ต้องอาสามาช่วยฉันตั้งแต่แรก แล้ว”
“ถ้ามัวแต่ช้าเป็นเต่าแบบนี้นะ อย่าหวังจะจับคุณกรเป็นผัวเลย มีผู้หญิงฉลาดๆ รอเข้าแถวมาเป็นสะใภ้บ้านนี้อีกเยอะ ระวังให้ดีเถอะ”
บุหงาอึ้งไป ยังงงกับที่น้ำพูด
“แกพูดเรื่องอะไร ผู้หญิงที่ไหนจะมาเป็นสะใภ้บ้านนี้”
น้ำไม่พูดอะไร สะบัดหน้าเดินหนีไป
“นังน้ำ”
บุหงารีบเอามือปิดปากเพราะตะโกนเสียงดังกลัวคนจะได้ยิน ได้แต่แยกเขี้ยวยิงฟันด่าน้ำลับหลัง น้ำเดินมาหน้าตาวีนเหวี่ยง หงุดหงิดที่ทะเลาะกับบุหงา เลยออกมาหาที่สติอารมณ์ กล้าเพิ่งเช็ดรถให้บุหงาเสร็จ ยืนชื่นชมผลงานของตัวเอง แล้วเหลือบไปเห็นน้ำเลยเดินเข้าไปทักทายอย่างอารมณ์ดี
“สวัสดีจ้ะน้องน้ำคนสวย อะไรดลใจให้มาเดินเล่นแถวนี้เหรอจ้ะ”
น้ำมองกล้าด้วยความรำคาญ จะเดินหนีไปอีกทาง กล้าวิ่งเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังกันไม่ให้น้ำเดินหนี
“จะไปไหนล่ะจ๊ะ อยู่คุยกับพี่กล้าก่อนสิ”
น้ำหันมาหากล้า จ้องหน้ากล้าอย่างไม่เกรงใจ
“อย่ามายุ่งกับฉัน ฉันรู้เรื่องแกกับนังแพนนะ”
“ใครๆ ก็รู้ ว่าพี่เป็นคนขับรถให้คุณแพนไงจ๊ะ”
กล้าหัวเราะอย่างมีความสุข น้ำส่ายหน้าให้กับความโง่ของกล้า
“นี่ จะไปไหนก็ไป ฉันรำคาญ เมื่อกี้เพิ่งเจอเมียโง่ๆ ของแก ตอนนี้ต้องมาเจอผัวงี่เง่าของมันอีก โอ๊ย”
กล้ายิ้มให้น้ำอย่างไม่รู้สึกโกรธอะไร
“เออ พี่กล้าชักงง น้องน้ำไปเจอใครเหรอ แล้ว ใครผัวใครเมียจ๊ะ ผัวโง่ หรือเมียโง่กว่าผัว แล้วใครงี่เง่า”
กล้าชักงง
“น้องน้ำเล่าให้ฟังอีกทีได้มั้ย”
“ไม่มีอะไรจะเล่าแล้ว ไป”
น้ำโมโหกล้า ไม่อยากพูดด้วย เดินเลี่ยงไปทางอื่นแทน
พันกรเข้ามาในครัว เพื่อหาเครื่องดื่มเย็นๆ แก้เครียด เขาเดินหาแก้วน้ำ เปิดตู้เย็นดูนั่นดูนี่ น้ำแอบมองชายหนุ่มอยู่ใกล้ๆ เหลียวมองดูรอบๆ เห็นทางสะดวกรีบเดินเข้าไปหาพันกร ยืนใกล้ๆ จนตัวแนบไปกับร่างกายพันกร พันกรตกใจหันมามอง เห็นเป็นน้ำก็รีบขยับตัวออก
“น้ำ ทำอะไรเนี่ย มายืนซะชิดเลย”
น้ำแกล้งทำหน้าไม่สบายใจ เข้าไปคล้องแขนพันกร
“น้ำเป็นห่วงคุณกร เป็นห่วงความรู้สึกคุณกรค่ะ”
พันกรพยายามแกะแขนน้ำออก แต่น้ำก็เกาะแน่น
“เดี๋ยวๆๆ เป็นห่วง ห่วงเรื่องอะไร”
น้ำพยายามเอนหัวไปซบพันกร
“ก็เรื่องที่พี่มิวมีชู้ไงคะ น้ำต้องขอโทษคุณกรนะคะที่ต้องพูด มันอดไม่ได้จริงๆ น้ำไม่คิดว่าพี่มิวจะเป็นคนแบบนี้ไปได้”
พันกรหรี่ตาด้วยความสงสัยว่าทำไมน้ำพูดถึงเรื่องประภาพรรณมีชู้ เลยปล่อยให้พูดต่อ
“เหรอ แล้วไง”
น้ำแอบยิ้มที่พันกรยอมให้กอดแขน เงยหน้าทำตาหวานใส่ชายหนุ่ม
“น้ำก็อยากเป็นคนดูแลคุณกรไงคะ น้ำบอกคุณกรแล้วนี่”
พันกรอึ้งไป แต่ก็ฟังที่น้ำจะพูดต่อ
“น้ำจะดูแลคุณกรให้ดีกว่าที่พี่มิวดูแล ช่วงนี้พี่มิวไม่สนใจคุณกรเลย มัวแต่ไปเที่ยวนอกบ้านกับผู้ชาย”
พันกรมองหน้าน้ำอย่างแปลกใจ สงสัยว่าน้ำเป็นคนอย่างไรกันแน่ถึงพูดใส่ร้ายประภาพรรณ
“ทำไมพูดถึงพี่มิวแบบนั้นล่ะ”
น้ำฮึดฮัด หน้าบึ้ง
“ก็พี่มิวไม่ดีกับคุณกรนี่คะ น้ำไม่ชอบ”
พันกรรีบแกะแขนของน้ำออกจากตัวอย่างไม่สบายใจ
“แล้วคิดว่าผมชอบเหรอ ที่น้ำพูดถึงมิวแบบนี้”
พันกรเดินออกจากห้องครัวไปนิ่งๆ น้ำมองเจ็บใจ
“จะบูชานังมิวไปถึงไหน หงุดหงุดโว้ย”
น้อยยืนอีกมุมหนึ่งใกล้ๆ ได้ยินที่น้ำคุยกับพันกร โมโหน้ำมาก
ประภาพรรณจะเดินไปในครัว เห็นน้อยยืนหน้าบึ้งอยู่
“น้อย เห็นคุณกรมั้ย”
น้อยดีใจที่เห็นประภาพรรณ รีบจูงแขนประภาพรรณออกมาตรงที่ปลอดคน
“คุณมิวมาก็ดีแล้ว น้อยมีอะไรจะฟ้อง”
“มีอะไร”
น้อยชะเง้อดูซ้ายขวา หน้าหลังอีกที
“คุณมิวต้องระวังน้ำให้ดีๆ นะคะ”
“ทำไม ทำไมต้องระวังน้ำ น้ำเป็นอะไร”
“น้อยเห็นน้ำมันเข้าไปคุยกับคุณกร ทำตัวสนิทสนมกันจนน่าเกลียดเลยค่ะ”
“น้อยเห็นเมื่อไหร่”
“เมื่อกี้นี้เองค่ะ น้อยยังได้ยินน้ำมันพูดให้ร้ายคุณมิวต่อหน้าคุณกรด้วยนะคะ”
“น้ำเขาจะทำแบบนั้นทำไมล่ะน้อย”
“น้อยก็ไม่รู้ค่ะ แต่น้อยรู้สึกว่าน้ำไว้ใจไม่ได้ คุณมิวต้องเชื่อน้อยนะคะ”
น้อยบีบแขนประภาพรรณอย่างลืมตัวเพราะเป็นห่วงหญิงสาว
“น้อยกลัวน้ำมันจะทำอะไรไม่ดีกับคุณมิว คุณมิวต้องระวังน้ำให้ดีๆ นะคะ”
ประภาพรรณคิดเรื่องที่น้อยพูด เริ่มลังเลว่าน้ำเป็นคนดีหรือไม่
สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 19 (ต่อ)
ปรีชาชาญนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ บุหงา ดวงแก้ว นั่งเซ็งๆ ไม่รู้จะทำอะไร มองหน้ากันไปมา ปทุมวดีก็นั่งหน้าเครียด คิดโน่นนี่ ปรีชาชาญวางหนังสือพิมพ์ลงอย่างอึดอัด ที่ไม่มีใครพูดอะไรกัน
หนูแพน คุณดวงแก้วมาบ้านนี้ทุกวัน จนหมดเรื่องคุยกันแล้วเหรอครับ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะท่าน แพนเกรงใจ กลัวท่านรำคาญต่างหากค่ะ”
ปรีชาชาญหัวเราะ
“งั้นตามสบายกันนะ ผมขอตัวไปเดินย่อยหน่อย”
“ค่ะคุณพี่”
ปรีชาชาญเดินตัวปลิวออกไปจากห้องนั่งเล่น บุหงารีบขยับมานั่งข้างๆ ปทุมวดี
“คุณหญิงป้าขา เช้านี้พี่กรยังไม่ลงมาเลยเหรอคะ”
“นั่นซิ ไม่รู้จัดการนังมิวไปถึงไหนนะ”
“ค่ะ ไม่รู้จัดกันถึงเช้ามั้ยเนี่ย”
“นั่นสิคะจัดกันจนเคลิ้มกันทั้งคู่แล้วมั้งคะคุณพี่หญิง”
“โอ๊ย ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ตากรเขาคงเคลียร์ให้จบทีเดียวเลย จะได้มาหาหนูแพนอย่างสบายใจไงจ๊ะ”
“แพนว่าคงไม่ใช่หรอกค่ะ พี่กรเขาเห็นแพนเป็นก้อนกรวด ไม่มีค่าในสายตาเขาหรอกค่ะ”
“หนูแพนอย่าคิดมากสิจ๊ะ”
“คุณหญิงป้าก็เห็น มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ”
ปทุมวดียิ้มแหยๆ ถอนหายใจหนักๆ แต้วเดินเอาของว่างเข้ามาเสิร์ฟ ปทุมวดีบอกกับบุหงา และดวงแก้ว
“กินของว่างกันนะคะ”
สองแม่ลูกพยักหน้าให้กันอย่างเซ็งๆ
“ไม่ค่ะ แพนไม่มีอารมณ์ แพนขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ”
บุหงายกมือไหว้ปทุมวดีเร็วๆ สะบัดตัวลุกออกไปอย่างงอนๆ ดวงแก้วลุกตาม
“เดี๋ยวซิจ๊ะหนูแพน คุณดวงแก้ว อย่าเพิ่งกลับสิ”
“คุณแพนไม่กินเหรอคะ แต้วอุตส่าห์ยกมาให้”
สองแม่ลูกเดินฉับๆ โดยไม่ฟังคำทัดทานของปทุมวดีและแต้ว ปทุมวดีอึ้ง ยิ้มแหยๆ ที่ทำให้สองแม่ลูกโกรธ แล้วก็ถอนหายใจเบาๆ ไม่รู้จะทำอย่างไร ปรีชาชาญเดินกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่น เข้าไปนั่งใกล้ๆ ปทุมวดี
“กลับซะที”
ปทุมวดีค้อนสามี
“แหม หนูแพนกับคุณดวงแก้วเขาไปทำอะไรให้คุณรำคาญนักรึไง”
“เปล๊า”
พันกรเดินเข้ามาหาพ่อแม่ ประภาพรรณเดินตามมาห่างๆ ปทุมวดีเห็นลูกชายลูกสะใภ้ ก็รีบเก๊กหน้าเครียด
“มาก็ดีแล้ว แม่มีอะไรจะคุยด้วย”
“ผมก็มีอะไรจะคุยกับคุณแม่ครับ”
พันกรเข้าไปนั่งใกล้ปทุมวดี
“คุณแม่รักผมมั้ยครับ”
“รักสิลูก ถามอะไรแปลกๆ”
“ถ้าคุณแม่รักผม ก็ต้องเชื่อสิ่งที่ผมกำลังจะพูดนะครับ”
พันกรหันไปมองประภาพรรณแล้วหันกลับมาบอกปทุมวดี
“มิวไม่ได้ทำอะไรผิดอย่างที่คุณแม่เข้าใจ ไม่ได้ทำอะไรเสื่อมเสียกับครอบครัวเรา แต่สิ่งที่มิวทำ มันเป็นเรื่องที่ผมยังบอกคุณแม่ไม่ได้ตอนนี้ มิวทำในสิ่งที่ดี น่ายกย่องที่สุด ผมรับประกันด้วยเกียรติของผม”
ปทุมวดีมองลูกชายด้วยสายตาของความรัก พันกรจับมือแม่ขึ้นมากุมไว้เบาๆ
“ผมขอร้องคุณแม่ได้มั้ยครับ เอ็นดูมิวบ้าง สักนิดหนึ่ง ไม่ต้องมากก็ได้ มิวอาจจะแก่นๆ ดื้อกับคุณแม่บ้าง แต่ไม่เคยคิดร้ายกับคุณแม่เลย มิวเอาใจคุณแม่ทุกอย่าง ถึงจะโดนด่าโดนว่าสารพัด มิวก็ทนได้ มิวแค่อยากให้คุณแม่รักเธอบ้าง แค่นั้นเองครับ”
ปทุมวดีค่อยๆ หันไปมองลูกสะใภ้ด้วยสายตาที่อ่อนโยนลง ประภาพรรณลงมานั่งคุกเข่าลง
“คุณแม่สามีขา ถ้ามิวทำอะไรให้คุณแม่สามีโกรธ รำคาญ หมั่นไส้ มิวขอโทษนะคะ”
“ผมก็ขอโทษคุณแม่ด้วยนะครับ ถ้าทำอะไรให้คุณแม่ไม่สบายใจ”
ประภาพรรณก้มลงกราบที่เท้าของปทุมวดี แต่ปทุมวดีรีบเอามือมารับไว้
“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกย่ะ ถ้าลูกมั่นใจว่าไม่มีเรื่องนอกลู่นอกทางจริงๆ”
ปรีชาชาญ พันกรมองหน้ากัน ยิ้มดีใจที่ปทุมวดีเริ่มใจอ่อน ปทุมวดีลืมตัวแอบยิ้มให้ประภาพรรณ แล้วก็รีบหุบยิ้ม
“แม่จะลองคิดดูก็ได้ เรื่องนี้สงบศึกชั่วคราว เพราะฉันเห็นแก่ความสุขของตากรนะเนี่ย”
“ขอบคุณนะคะคุณแม่สามี”
ปทุมวดีทำเชิดหน้าแต่แววตาอ่อนลงมาก
น้อย แต้วแอบฟังเจ้านายคุยกัน น้อยยิ้มแก้มแทบปริ ผิดกับแต้วที่หน้าหงิก
“ในที่สุด คุณหญิงก็เอ็นดูคุณมิวแล้ว”
“แกอย่าเพิ่งฝันหวานนังน้อย คุณหญิงเขาสับขาหลอกให้นังมิวตายใจโว้ย”
“ทำไมแกไม่ยอมรับซะทีวะ ว่าคุณมิวเป็นคนดีจริงๆ”
แต้วค้อนประหลับประเหลือกใส่น้อย
“ฉันเป็นขี้ข้าคุณหญิง คุณหญิงเกลียดใคร ขี้ข้าอย่างฉันก็ต้องเกลียดด้วยสิวะ”
“แล้วถ้าคุณหญิงรักคุณมิวล่ะ แกจะรักด้วยมั้ย”
แต้วอึ้ง พูดไม่ออก
จบตอนที่ 19