แต่งแล้วจ้า “น้ำฝน-จอร์ดอน”
แพ้ใจหนุ่มมะกัน คนนี้แม่ปลื้ม!!
ล่วงรู้กันมาก่อนจากอินสตาแกรมร่วมเดือนว่า น้ำฝนแต่งงานแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ประกาศชัดเจน ในวันนี้ (23 พ.ค.) ที่ “เดอะ สยาม” มีงานฉลองแต่งงานของ “น้ำฝน กุลณัฐ ปรียะวัฒน์” กับ “จอร์ดอน วินเทอร์” หนุ่มอเมริกัน จัดงานแถลงข่าวให้ทราบโดยทั่วกัน
คู่บ่าวสาว จูงกันเดินมายังโซฟาที่นั่งรอของนักข่าว แต่เจ้าบ่าว “จอร์ดอน” ค่อนข้างเขินอาย ก็เลยใส่แว่น ปิดบังสายตา น้ำฝนป้องปากบอกว่า ถ้าหายเขินแล้วจะถอดแว่นออก ภาพแรกๆ ก็เลยจะได้เห็นเจ้าบ่าวใส่แว่นตาคู่กับเจ้าสาว อย่าได้แปลกใจไป
อยากให้พูดถึงงานแต่งงานที่ผ่านมา
“ฝนว่าหลายๆ คนคงจะงงเพราะว่าฝนโพสต์รูปในอินสตราแกรมไปวันที่ 26 เมษายน จริงๆ แล้ว ฤกษ์แต่งงานคือ 26 เมษายน แต่เนื่องจากว่าญาติเขาทางอเมริกาไม่สามารถมาได้ เราก็เลยคิดว่าต้องทำอะไรเพื่อรับฤกษ์ก่อน แล้วค่อยมาจัดงานอีกทีหนึ่งวันนี้ ประจวบกับว่าก่อนวันที่ 26 เมษา แม่ฝนป่วยหนักมาก เข้าโรงพยาบาล ยอมรับเลยว่า รู้สึกกลัว
ฝนปรึกษากับพี่ชาย ฝนอยากให้แม่รดน้ำฝนก่อน หลังจากทำบุญทางศาสนาเสร็จ ในวันที่ 26 ก็เลยให้คุณแม่รดก่อนแล้วในวันนี้พี่กอบสุข (จารุจินดา) ไม่สามารถมาได้ก็เลยให้พี่กอบสุขรดน้ำในวันนั้นด้วย ภาพก็ออกมาอย่างที่เห็น ตามฤกษ์วันที่ 26 แล้วเราก็เซ็ทวันนี้ไว้เพราะญาติส่วนใหญ่มาได้วันนี้ งานวันนี้ก็จะเป็นครอบครัว เพื่อนๆ ผู้ใหญ่ๆ จะมีรดน้ำพิธีไทยง่ายๆ ไม่ได้มีแห่ขันหมากอะไร ตอนเย็นก็เป็นพิธีทางศาสนายิวค่ะ”
คบหากันมานานแค่ไหน
“ฝนกับจอร์ดอนคบกันมา 4 ปีแล้วค่ะ เขามีความประทับใจให้ฝนหลายอย่างมากเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเข้าอกเข้าใจ ปัญหาต่างๆ ในชีวิตของเรา ที่เรามีมาไม่ว่าจะมาจากอดีตหรืออะไรต่างๆ นานา ยิ่งพอมาซื้อใจได้ก็เรื่องของคุณแม่ ตอนคุณแม่ป่วยเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ฝนมีความรู้สึกว่าเขาคือคนที่... ฝนเคยคิดว่าจะไม่แต่งงาน แต่คนนี้ทำให้ฝนรู้สึกว่าแต่งก็ได้ ก็คงต้องเป็นคนนี้ค่ะ”
ตอนจอร์ดอนขอแต่งงานเป็นอย่างไรบ้าง
“ก็รู้สึกเซอร์ไพรส์นะ ทั้งๆ ที่เราก็เคยพูดคุยกันมาแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี ขอแต่งงานที่เชียงใหม่ค่ะ ไม่คุกเข่าค่ะ นั่งอย่างนี้ค่ะ นั่งข้างๆ แล้วก็หยิบแหวนขึ้นมา “Will you marry me ?”
วางแผนมีน้องเลยไหม
“เรื่องมีน้อง ปล่อยมานานแล้ว ตั้งแต่วันที่ 26 ก็ยังไม่สำเร็จสักที หลักๆ เลยเขาอยากมีมากกว่าฝน ฝนคิดว่าเป็นสิ่งที่เติมเต็มให้กับครอบครัว ส่วนตัวฝนชอบผู้หญิง เขาชอบผู้ชาย คิดว่าหมดละครล็อตนี้จะเบรกสักหนึ่งปี ถึงพฤษภาปีหน้า ถ้ายังไม่ท้อง ก็กลับมารับงานใหม่ ส่วนถ้ามีลูกแ ล้วจะเบรกงานเลยไหม ไม่สามารถตอบได้ เพราะยังไม่เคยท้อง เท่าที่เราเห็นมาก็ยังทำงานไม่ได้นะ ต้องรอลูก ขวบสองขวบก่อน เราก็เป็นผู้จัดละครให้ทางช่อง 8 ไปเหมือนเดิม”
เรือนหออยู่ที่ไหน ฮันนีมูนต่อเลยไหม
“เป็นคอนโด ที่สุขุมวิทค่ะ เรื่องฮันนีมูนไม่ได้แพลนอะไรกันเพราะว่า เที่ยวบ่อยอยู่แล้วค่ะ อย่างหนึ่งหลังจากงานนี้ญาติเขามาจากอเมริกาก็จะพาไปเที่ยวบาหลี หลังจากนั้นเราก็ไปเที่ยวต่อ”
แต่งงานแล้วย้ายไปอยู่อเมริกาเลยไหม
“ไม่ได้ย้ายไป เพราะว่าคุณแม่ฝนยังอยู่ที่นี่ ฝนก็อยากอยู่กับท่านก่อน แต่ถ้าเกิดมีลูก เขาอยากให้ไปคลอดที่โน่น ที่อเมริกา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขอดูองค์ประกอบรวมก่อน”
พูดถึงสินสอดนิดหนึ่ง
“สินสอดขอเก็บเอาไว้ได้ไหมคะ แต่ถ้าเป็นแหวน โดยรวมประมาณ 3 กระรัตค่ะ” (จอร์ดอน อธิบายเรื่องแหวน ได้ความว่า) ฝนชอบสี่เหลี่ยม ไปดูมาเยอะมาก อันกลาง 2 กระรัต ซ้ายขวาข้างละ 50 ดีไซน์เอง ช่วยกันดีไซน์กับเพื่อนที่อเมริกา เป็นสิ่งที่ชอบ แล้วก็รู้ว่าฝนชอบเพชรเหลี่ยม ถ้าเป็นเพชรเม็ดเดียววางอยู่ มันดูธรรมดาไป ก็เลยดีไซน์เพิ่ม”
เรื่องจดทะเบียน ?
“เดี๋ยวเราขอขมาเสร็จ เราก็จดทะเบียน แล้วก็รดน้ำ เสร็จแล้วก็รอเวลาเป็นพิธียิว ค่ะ
ต้องเปลี่ยนนามสกุลไหม
“ไปบวกลบคูณหารแล้วยังไม่ได้ เพราะว่านามสกุลเขาวินเทอร์ พอเขียนเป็นภาษาไทย มันไม่เข้ากับชื่อจริงอัญรินทร์ หลังจากปรึกษาอาจารย์ๆ บอกว่ารอเปลี่ยนตอนย้ายไปอยู่อเมริกาทีเดียวเลยละกัน เป็นภาษาอังกฤษ ชื่อในวงการแสดงยังใช้น้ำฝน กุลณัฐเหมือนเดิม ไม่มีนามสกุลเพิ่มท้าย”
พิธียิวต้องทำอย่างไรบ้าง
“พิธียิวจะแตกต่างมากกว่าคริสต์ แต่ว่าเราจะทำแตกต่างเลยไม่ได้ เพราะว่าฝนไม่ใช่ยิว เราก็ไม่สามารถเชิญคนทำพิธีมาได้ ถ้าจะเชิญมาได้ฝนต้องย้ายศาสนา เรามีแพลนว่าจะไปแต่งแบบยิวที่อเมริกา น่าจะอีก 1-2 เดือน แม่ฝนไปด้วยไม่ได้ เราก็เลยทำเท่าที่เราทำได้ ใช้ตัวแทน เป็นเพื่อนของเขา เป็นคนยิวมาทำพิธีให้ ทำให้เหมือนที่สุดเท่าที่จะทำได้ มีสวมแหวน, กล่าวภาษาฮิบรู, แลกแหวน, เหยียบแก้ว (รำลึกถึงเยรูซาเล็ม) ค่อนข้างเรียบง่ายค่ะ หลังจากพิธีเสร็จก็ทานข้าว แล้วก็อ๊าฟเตอร์ปาร์ตี้”
ให้พูดถึงความประทับใจระหว่างกันและกัน
(จอร์ดอน) (Why do I love her ? ) “She very smart , very sweet , very funny and beautiful”
“เขาเป็นคนดี พร้อมจะเปิดรับอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา อย่างพิธีที่ฝนทำบุญที่บ้าน ศาสนาเขาไม่ต้องยกมือไหว้ เขาก็ยกมือไหว้ ฝนถามว่าไหว้ทำไม เขาบอกว่ารู้สึกแปลกๆ ที่ทุกคนยกมือไหว้หมด คือเขาไม่ได้ดูถูกอะไร พยายามเข้าใจเรื่องที่เราทำบุญ หรือเรื่องแม่ เรื่องพ่อ วิธีใช้ชีวิตแบบคนไทยจริงๆ อย่างอาหาร ก็ทานง่ายมาก แม่ทำน้ำพริกกะปิก็ลองชิม อย่างน้อยๆ ก็กินแกงอ่อมได้ ถือว่าแอ๊ดว๊านซ์พอสมควร บวกกับความมีน้ำใจพร้อมจะช่วยเหลือครอบครัวฝนตลอดเวลา ถ้าสมมติว่าเขาทำได้ เวลาเขารู้ว่าฝนมีปัญหาหรือกลุ้มใจเรื่องแม่ สิ่งหนึ่งเลยจะได้ยินจากเขา “มีอะไรให้ผมช่วยได้ไหม” เขาพร้อมหยิบยื่นเสมอ”
คุณแม่ว่าอย่างไรบ้าง
“คุณแม่ปลื้มมาก คุณแม่เลือกก่อนฝนอีก ก่อนที่ท่านจะป่วย ตอนไปฮ่องกง ไปวัด แม่บอกว่าจะเอาคนนี้ ตอนไหว้ก็บอกจะเอาคนนี้ๆ ให้ได้ ฝนก็ยังขำๆ อยู่ค่ะ ตัวเองไม่ได้คิดอะไร แม่ฝนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ มันเป็นความน่ารักที่ประหลาดอย่างหนึ่งคือ เวลาแม่ฝนเจอเขาก็จะกอดเลย อยู่ดีๆ ก็เดินเข้าไปกอดเขา แล้วฝนก็ไม่เคยบังคับว่าวันแม่ต้องมาหาแม่เรานะ พอเขารู้ว่าวันนี้วันแม่ “ยูอยู่ไหน” อยู่บ้านแม่ “เดี๋ยวไปกินข้าวที่ไหนจะตามไป” ทำงานเสร็จจะไปเจอ
ความน่ารักอีกอย่างหนึ่งคือ บ้านฝน ไม่พูดภาษาอังกฤษ พูดภาษาไทย ก็จะมีฝนกับหลานที่พูดภาษาอังกฤษ เมื่อไม่มีคนพูด เขาก็ไม่ได้นั่งเฉยๆ เขาเห็นอะไรก็จะพูด หลานฝนก็คอยแปล ทำให้บรรยากาศไม่เงียบ ไม่อึดอัด พูดไปแปลไปก็สนุกดี แต่สิ่งที่เพิ่มมาคือ ต้องปรับตัวล้วนๆ เลยค่ะ เขาแบบหนึ่ง เราก็อีกแบบหนึ่ง ต้องทำความเข้าใจ”
(จอร์ดอน) “ผมรักฝน”
(ฝน) “ชั้นก็รักคุณ”
มีคำมั่นสัญญาระหว่างกันอะไรบ้างไหม
“ไม่มี ไม่ได้คิดอะไรกันขนาดนั้น ณ วันนี้ ณ ปัจจุบันนี้ ณ ขณะนี้ ทำให้ดีที่สุด ทำให้แฮปปี้ที่สุด”
หวานชื่น เรียบง่าย เป็นไปตามเงื่อนไขของชีวิตและความพร้อม เป็นความงามของชีวิตคู่ที่น่าประทับใจ