“เอ็กแซ็กท์” บวงสรวง “ทอฝันกับมาวิน” เวอร์ชั่น “นิวเจน ”
ได้ “กั้ง-แพตตี้” นำทีมนักแสดงรุ่นใหม่
โด่งดังมากเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เมื่อ “ฟลุค เกริกพล มัสยวานิช” กับ “อ้อม พิยะดา” จับคู่เล่นละครด้วยกันเป็นครั้งแรก ผู้ชมติดตาม พูดถึงจนปัจจุบันนี้ ถูกนำกลับมาผลิตอีกครั้งในเวอร์ชั่นใหม่ ให้เข้ากับยุคสมัยของวัยรุ่นที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
นำแสดงโดย “กั้ง วรกร ศิริสรณ์” คู่กับ “แพตตี้ อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา” ตามติดมาด้วย “ชัชชวิศ เตชะรักษ์พงศ์, ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล, ภูมินทร์ นภาวุฒิ, ฐิติพร ชื่นจิตต์, ธีรัช จรรยาศิริกุล, ธนิดา ธนวัฒน์, พล ตัณฑเสถียร, พลวัฒน์ มนูประเสริฐ, รัชนก แสงชูโต, อลิชา หิรัญพฤกษ์, เกริก ชิลเลอร์, กนกวรรณ บุรานนท์” กำกับการแสดงโดย “วิลาวัณย์ สังฆะภิบาล”
“นิพนธ์ ผิวเณร” ผู้อำนวยการผลิต
“เรื่องแรกของพี่ยะ “พิยะดา” กี่ปีแล้วล่ะ ตอนนั้นลูกตาเปี๊ยกยังงงๆ อยู่เลย ที่เอากลับมาทำมีสองประเด็น หนึ่งคือว่า เรื่องที่มันเหมาะกับวัยรุ่นในเชิงอุดมคติ ละครวัยรุ่นที่เป็นอุดมคติไม่มี มีแต่ละครวัยรุ่นคนนี้เลว คนนั้นร้าย ในบรรดาวัยรุ่นที่มีคู่วาย คู่เกย์ เราอยากเห็นละครวัยรุ่นที่มันบวกๆ ดูแล้วอิ่มใจ ชื่นใจ แล้วก็รักเขา ไม่ใช่แซ่บ ดูแล้วให้ความหวัง กำลังใจ เดินตามฝัน เป็นการให้คุณค่าต่อการมีชีวิต การทำงาน มีความฝันในวันข้างหน้าให้ทำสิ่งดีๆ ต่อไป ไม่ใช่ ทำดีเหนื่อย ทำชั่วดีกว่า เป็นละครน้ำดี แต่ทำยังไงให้ไม่น่าเบื่อ
ในแคสทั้งหมดต้องสดใส เป็นเด็กปัจจุบัน มือถือถ่ายรูป เจนเนอเรชั่นนี้ เป็นเด็กพ.ศ.นี้ที่ไม่ใช่ส่ำสัตว์ แต่มีตัวละครแบบนั้นเหมือนกันคือแบงค์และโมน่า ให้ร่วมสมัยอยู่ สมัยก่อนที่เราทำนั่นก็ล้ำนะ เด็กมีท้อง คำถามคือ เมื่อคุณมีปัญหาในชีวิต คุณต้องมีสติที่จะเลือกทางที่ถูก อยากให้วัยรุ่นดูแล้ว เอ้อ. เราได้ทำสิ่งที่ถูกต้องหรือเปล่า ได้ฉุกคิด การมีชีวิตที่ดีต้องทำความดีนะ ต้องอยู่ในร่องรอย ไม่ใช่โป๊ๆ ไป แรงๆ เดี๋ยวก็ได้เงิน ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เพราะมันมีให้ดูเยอะแล้ว
ประเด็นที่สองก็คือว่า คุณต้องใช้คนที่นำเสนอสิ่งนั้นได้ อย่างกั้ง ร้องเพลงก็เพราะ มีเดอร์สตาร์เป็นเต้ แล้วก็น้องนิวเจน คือเหล่านี้เราบ่มเพาะเขามาเป็นปี คือในเอ็กแซกท์เราจะมีนักแสดงใหม่นิวเจน คอปเตอร์ อย่างนี้ แล้วมีแพตตี้ มีกั้ง เป็นตัวชูโรง เป็นละครวัยรุ่นหน้าใหม่ โมเดิร์น แล้วก็น่าสนใจ เราเอานักแสดงที่เป็นวัยของเขาแล้วก็เติมประเด็นที่มีแก่นสารที่เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยมี ให้มันมีแก่นสารด้วย แต่ก็ไม่ใช่เป็นชีเป็นพระ
เวอร์ชั่นนี้ อารมณ์ข้างในจะเหมือนกัน เป็นเรื่องของการเรียน การอยากดี เป็นอย่างที่เราฝัน กับความคาดหวังของพ่ออยากให้เป็นอย่างหนึ่ง มันเหมือน”Coming of Age ” คือตัวละครต้องเรียนรู้ความผิดพลาดแล้วก็แก้ไข แกนข้างในเหมือนกัน แต่เราทำให้เป็น พ.ศ.นี้ให้ได้
ผมไม่อยากให้ในจอมีแต่ตัวอย่าที่เละเทะ ซึ่งที่เห็นในจอที่เด็กเละเทะเป็นแค่ส่วนหนึ่งนะ เด็กดีเขาก็มี มันจรรโลงสังคมอีกแบบหนึ่ง ไม่ใช่เทศน์มหาชาติ ชาดก แต่เป็นละครวัยรุ่นที่เข้าถึง แล้วมีคุณค่า ไม่ให้ดูของเก่าเดี๋ยวติดมาไม่ดี เป็นเด็กใหม่ก็ต้องเล่นอย่างที่คุณเป็น แต่มีจริยธรรม อย่างทอฝันก็เป็นเด็กดีของพ่อแม่ เราต้องทำให้เชื่อในปัจจุบัน”
“วรกร ศิริสรณ์”
“เล่นเป็นมาวิน เป็นเด็กที่รักคุณพ่อมาก ทำทุกอย่างเพื่อคุณพ่อ แต่สุดท้ายเราไปเจอสิ่งที่เราชอบ ทำให้เกิดปัญหากับพ่อนิดหน่อย จริงๆ คุณพ่อวางไว้อยากให้เป็นเหมือนพ่อคือนักบัญชี มีบริษัทของตัวเอง เป็นซีอีโอ ตอนเด็กๆ เราก็เห็นว่าประสบความสำเร็จก็อยากจะเดินตาม ก็ทำไปตามที่พ่อบอก ไม่อยากให้พ่อเสียใจ เพราะพ่อเคยเสียใจมากๆ มาแล้วตอนแม่เสีย แล้วเรายังเด็ก แม่เคยบอกพ่อไว้ว่าอยากให้ลูกเดินตามความฝันของพ่อ เราก็เลยเหมือนถูกบังคับให้ไปด้านนั้นตลอด
วันหนึ่งเรามาเจอทอฝัน เป็นเด็กนิเทศ มีด้านร้องด้านเต้น ทำให้รู้ว่าจริงๆ เราชอบแบบนี้ ก็เลยเกิดเรื่องกับพ่อครับเป็นคนที่อยากทำตามฝันของตัวเอง ที่ชอบการเล่นละคร การแต่งเพลง ก็เลยเป็นเหมือนชื่อเรื่อง “ทอฝันไปกับมาวิน” ภาคที่แล้วปี 2539 ผมเกิด 37 เพิ่งจะสองขวบครับ ต้องบอกว่าไม่เหมือนกัน ยุคสมัยเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอย่างแน่นอน ไม่กดดันครับ พวกเราทำอย่างเต็มที่ อย่างน้อยพวกเราได้มิตรภาพแล้ว ไม่ได้คิดว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร ขอให้ทำอย่างเต็มที่เท่านั้นพอ
“อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา”
“เล่นเป็นทอฝันค่ะ เป็นเด็กผู้หญิงที่ร่าเริง สดใส ไม่ชอบคนอวดรวย ไม่ชอบมากๆ บรรยากาศถ่ายทำก็ดีค่ะ สนุกดีค่ะ จริงๆ ถ่ายทำไปสักพักหนึ่งแล้วค่ะ ทอฝันอยู่ในครอบครัวที่มีแต่แง่บวก เป็นเด็กที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรก็ทำตามฝันนั้น แล้วมาเจอมาวิน ก็คอยผลักดันเขา ถ่ายทำไปจนรู้จักทุกคนจนสนิทแล้ว ทุกอย่างผ่านไปราบรื่นดีค่ะ น้องๆ เก่งกันอยู่แล้ว ไม่ได้แนะนำอะไรค่ะ วันแรกที่ถ่ายจะเกร็งๆ พอถ่ายๆ ไปก็ค่อยๆ หายเกร็ง
กับกั้ง เป็นครั้งแรกที่ร่วมงานกัน แรกๆ เขาจะเงียบ แต่หลังๆ คุยเก่งมากเลย ส่วนมากจะถ่ายกับครอบครัว แล้วก็เพื่อนๆ กับละครรีเมคก็มีกดดันบ้าง แต่เรื่องนี้ผ่านมา 20 ปีแล้วมีปรับบทปรับอะไรบ้าง ให้มันทันยุคทันสมัยมากขึ้น ไม่มีโอกาสดูเวอร์ชั่นเก่าเลยไม่รู้ว่าแตกต่างกันแค่ไหน เรื่องนี้คาแรคเตอร์ทอฝันจะสดใสกว่าเวอร์ชั่นก่อน คิดว่าได้ชมปีนี้แน่นอนค่ะ ฝาก “ทอฝันกับมาวิน” ไว้ด้วยนะคะ
“ชัชชวิศ เตชะรักษ์พงศ์”
“รับบทเป็นน็อต เป็นเพื่อนสนิทกับมาวิน เป็นคนที่คอยซัพพอร์ททุกๆ เรื่อง ไม่ว่าเรื่องความรัก ชีวิต ปัญหาครอบครัว แต่น็อตปรึกษาไม่ได้สองอย่างคือเรื่องเรียนกับเรื่องตังค์ครับผม อย่ามายืมตังค์นะ แล้วอย่ามาปรึกษาเรื่องเรียนนะครับ ส่วนเรื่องราวแล้วก็คาแรคเตอร์ในเรื่องอยากจะให้ไปดูเองเพราะว่า น็อตเป็นคนที่นอกจากซัพพอร์ทมาวินแล้วยังซัพพอร์ทเพื่อนๆ ในกลุ่มด้วยเช่นเดียวกัน
จะเป็นคู่กัดกับลูกแพร์ มาวินเป็นศัตรูกับใคร น็อตก็เป็นศัตรูกับคนนั้น คนดูตอนต้นเรื่องจะคิดว่าผมเป็นอะไรกับมาวินหรือเปล่า เป็นคาแรคเตอร์ท้าทาย ที่ผ่านมาผมเล่นแต่ซีรีส์ แต่เรื่องนี้เป็นคนเซนสิทีฟอ่อนไหว มั่นใจในตัวเอง รับความทุกข์ของเพื่อนเอาไว้ คอยซัพพอร์ทมาวินแล้วก็เพี่อนๆ อยากจะให้ติดตามกัน ตัวผมเองก็ทำอย่างเต็มที่ มีเวิร์คช็อปกันทุกคน”
“ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล”
“รับบทเป็นลูกแพร์ค่ะ ลูกแพร์เป็นน้องสาวพี่แบงค์ค่ะ แล้วก็ที่บ้านเรากับบ้านพระเอกทำธุรกิจร่วมกัน ก็จะชอบพระเอกตั้งแต่เด็กจะคอยติดตาม ร้องเรียก “พี่มาวินนนน” แต่เขาก็ทำหน้ารำคาญอย่างที่เห็นน่ะค่ะ เราก็จะคอยตามตื้อ เป็นนักเรียนนานาชาติ แล้วก็เซลฟ์ๆ ก็กุ๊งกิ๊งๆ มีคาแรคเตอร์แสบๆ ซนๆ ค่ะ”
“ธีรัช จรรยาศิริกุล”
“ผมรับบทเป็นกวีครับ เป็นเพื่อนนางเอกก็จะอคติกับพระเอกนิดหน่อย แต่พอตอนหลังๆ เริ่มเปิดใจมากขึ้น ยอมรับพระเอกเป็นเพื่อนด้วยครับ กวีทั้งเรื่องใส่แต่กางเกงยีนส์เสื้อช็อป มีวันนี้ล่ะที่ได้ใส่สูทกวี เราชอบนางเอกตั้งแต่ตอนรับน้อง พอมารู้ว่าบ้านใกล้กันก็ไปรับไปส่งจนสนิทกับที่บ้าน พ่อกับแม่เขาก็โอเค. แต่เราแสดงออกว่าเป็นเพี่อนมากกว่า มีหึงพระเอกนางเอก เพราะตอนหลังนางเอกรักกับพระเอกเราก็นอยด์
เป็นแนวดราม่า กวีเป็นคนตรงๆ ขวานผ่าซาก แข็งๆ ไม่ค่อยแสดงออกทางอารมณ์ จะเก็บอยู่ข้างใน เป็นคู่กัดกับหมวย หมวยชอบเราตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว ใกล้ชิดกัน เราสนใจแต่นางเอกอย่างเดียว หลังๆ มาเห็นความสนใจที่เขามีให้กับเรา จะเล่นเป็นตัวของตัวเอง มีพี่ๆ ทีมงานคอยซัพพอร์ทตลอดเวลา ทุกคนคุยกันเลยรู้ว่าตรงไหนเป็นจุดไหน”
ถ่ายทำไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว คาดว่าจะได้ดูภายในปีนี้ ทางช่อง ONE