“มาสเตอร์วัน” บวงสรวง 2 เรื่องรวด “นางสาวทองสร้อย-วัยแสบสาแหรกขาด”
ฤกษ์ดีรับต้นปี 58 แรกทีเดียวจะบวงสรวงเพียงเรื่องเดียว แต่แล้ว”นางสาวทองสร้อย”ปิดกล้องพอดี ก็เลยจัดพร้อมกัน เราเลยได้เห็นเหล่านักแสดงมารวมตัวกันมากมายจนแทบไม่มีที่ยืน
เริ่มจากเรื่องแรก “นางสาวทองสร้อย” นำแสดงโดย ปอ ทฤษฎี, จ๊ะ จิตตาภา, เดี่ยว สุริยนต์, นีโน่ เมทะนี, มีน อภิษฎา, วุฒิ สุรินทร, แพง ภิชาภัช, ทีน สราวุฒิ, ใบเฟิร์น อัญชิสา
ต่อด้วยเรื่องที่สอง “วัยแสบสาแหรกขาด” นำแสดงโดย อาเล็ก ธีรเดช, จ๊ะ จิตตาภา, จินนี่, คัคกิ่งรักส์,กิฟ อัญชิสา, ชาโน แพมเบอร์เกอร์, น้องแมค,น้องชาเลต, น้องจีน่า, น้องลีออน, ปรารถนา สัชฌุกร
ทั้งสองเรื่อง กำกับการแสดงโดย “อดุลย์ บุญบุตร” ดำเนินการผลิตโดย “เอิร์น ณิธิภัทร์ เอื้อวัฒนสกุล”
ผู้จัด “เอิร์น ณิธิภัทร์” พูดถึงละครทั้งสองเรื่องว่า
"เรื่อง “นางสาวทองสร้อย” ไม่ง่ายนะ เรื่องนี้จ๊ะต้องไปเทคคอร์ส เพราะว่าเขาไม่ใช่คนอีสาน ต้องกดคาแรคเตอร์เขาลงมา คู่นี้พระเอกนางเอกน่ารัก สองคนสนิทกัน เคยเล่นด้วยกันมาแล้ว คุยสนุกกันตจนต้องบอกว่าหยุดเหอะ พอเถอะ ส่วนใหญ่พี่ปอจะมีลุคเป็นคุณผู้ชาย ส่วนจ๊ะก็จะเป็นคนใช้
อีกเรื่อง “วัยแสบสาแหรกขาด”เป็นเรื่องเข้มข้นดรามา ดูเหมือนเป็นละครเบาๆ แต่จริงๆ แล้วเป็นละครสำหรับทุกเพศทุกวัยที่สำคัญ ผู้ใหญ่ควรดู สะท้อนถึงปัญหาสังคม 5 แบบ คือ เด็กที่ชอบใช้ความรุนแรง, เด็กติดโซเชียลเน็ทเวิร์ค, เด็กโกหก, เด็กทำร้ายตัวเอง, เด็กขี้ขโมย โทนเรื่องออกจะเข้มพอสมควร แล้วก็ดราม่า
เป็นเรื่องแรกที่ไม่ได้ทำแบบเบาๆ จะมีไลน์ของพระเอกนางเอกที่เข้าไปช่วยเหลือเด็กพวกนี้ที่มีแบ็คกราวน์มีปัญหาครอบครัว มาที่โรงเรียนก็มีปัญหาอีก นี่ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา ไม่ใช่การผลักปัญหาสู่สังคม ทุกคนต้องแก้เอง ต้องเข้าไปซัพพอร์ทประสานรอยร้าวของแต่ละครอบครัว
จ๊ะกับอาเล็กเรื่องนี้ต้องเวิร์คชอปเลย ได้แนวคิดจากเรื่อง”เฟิรส์คิส” แอ็คติ้งจากเกาหลีมาเวิร์คชอปกัน เป็นเรื่องที่จิตวิทยาสูง จ๊ะต้องเล่นเป็นที่ปรึกษาด้านจิตวิทยา บทเรื่องนี้ต้องส่งไปให้นักจิตวิทยา 3 คนดูเพื่อปรู๊ฟ ทำการบ้านหนักมาก
เราต้องการทำละครแนวนี้เพราะว่าสังคมไม่ค่อยมี เราต้องการทำเรื่องเด็กมีปัญหา แต่ไม่เครียดเพราะไลน์ของพระนางจะคอมาดี้ กัดกัน แต่สุดท้ายทุกคนมีไดเร็คชั่นช่วยแก้ปัญหาให้เด็กๆ ฉากกุ๊กกิ๊กมีเยอะมาก
ด้วยเรื่องที่พล็อตขึ้นมา วางตัวละครหลักเราอยากได้อาเล็ก อยากได้จ๊ะ แล้วก็เลือกนักแสดงคนอื่น ส่วนเรื่องทองสร้อยไม่ได้ตั้งใจว่าจะเป็นจ๊ะ แต่พอเข้าประชุมกับช่อง เขาลงล็อคตามคาแรคเตอร์หมดเลย เรื่องทองสร้อย เป็นเด็กใหม่ไม่ได้ยาก เด็กใหม่ประสบการณ์ไม่มี พูดภาษาฝรั่งเศสก็ไม่ได้ ไหนจะเรื่องแอคติ้ง เรื่องพูดภาษาอีสาน เป็นคนใช้อีก เหมือนเล่นสองคาแรคเตอร์ เราทำตามคาแรคเตอร์ อยู่ที่ช่องด้วย
ส่วนเรื่องวัยแสบนั้นเราวางจ๊ะไว้แต่แรกแล้ว ต้องเป็นนักแสดงที่โตหน่อย ไม่ใช่เด็กใหม่ ต้องมีความเป็นจิตวิทยาสูง เป็นคนที่เข้าหาเด็กแล้วเด็กไม่กลัว คาแรคเตอร์แวบแรกจะมีความอ่อนโยน แต่ก็สามารถเป็นคนที่เข้มขึ้นมาได้
ฝากละครโรแมนติกคอมาดี้ “นางสาวทองสร้อย” และละครสะท้อนสังคม “วัยแสบสาแหรกขาด” ละครที่ผู้ใหญ่ควรดู ช่วยติดตามชมกันด้วยครับ"
จ๊ะ จิตตาภา
“วันนี้บวงสรวงละคร รับบททั้งสองเรื่องเลย “นางสาวทองสร้อย”จะเป็นอะไรที่เบาสมองกว่า เป็นละครโรแมนติกคอมาดี้ มีความป่วนอยู่เยอะ เป็นตัวละครที่มีสีสันค่อนข้างเยอะ ส่วน”วัยแสบสาแหรกขาด”เป็นละครดราม่า โดยมีจ๊ะกับอาเล็กทำให้เรื่องมันซอฟท์ลง สองเรื่องแตกต่างกันชัดเจนมาก
ได้เล่นสองเรื่อง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ทางช่องค่ะ กดดันเรื่องแอคติ้งและการแสดงมากกว่า อย่างที่พี่ปอบอกว่าทองสร้อยเป็นอะไรที่ต้องหลุดเยอะมาก แล้วต้องเล่นแบบไม่แคร์ว่าจะหน้าตาออกมาเป็นยังไง
แล้วกดดันอีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องภาษา ต้องพูดภาษาอีสานทั้งเรื่อง ค่อนข้างทำการบ้านหนักเพราะอยากให้ออกมาแล้วใกล้เคียงที่สุด ฝากดูทั้งสองเรื่องเลยนะคะ “นางสาวทองสร้อย คุณแจ๋วหมายเลขหนึ่ง” กับ “วัยแสบสาแหรกขาด” ออนปีนี้แน่นอน สองเรื่อง”
ปอ ทฤษฎี
“เรื่องนางสาวทองสร้อยต้องใช้จ๊ะ เพราะว่าเป็นการแสดงที่ไม่ห่วงสวย เป็นการแสดงที่จะหาคนมาทำอย่างนี้ยาก อยากให้ทุกคนได้ชม ละครนางสาวทองสร้อยไม่มีตัวร้ายนะฮะ เป็นละครเบาสมอง ไม่มีพิษไม่มีภัย ไม่มีการแสดงพฤติกรรมที่รุนแรง อยากฝากให้ทุกคนได้ชมกัน ให้พ่อแม่ได้นั่งดูกับลูกๆ เป็นละครคลายเครียด
เรื่องนี้ผมเล่นเป็นเจ้านายนะครับ เป็นละครที่เหมือนกับชีวิตจริงๆ ของพวกเรา ที่เราตื่นมาก็เจอกับสิ่งที่วุ่นวายในบ้านเรา เป็นปัญหาจริงๆ ที่เราอาจจะมองข้ามไป หยิบยกมาทำเป็นละคร ปัญหาการไม่คุยกัน ปัญหาของคนคนเดียวที่สั่งคนทั้งบ้าน มันก็จะมีปัญหาแบบนี้ ก็เลยเอามาทำให้ดูสนุก แล้วก็มีวิธีแก้ไขด้วย”
อาเล็ก ธีรเดช
“เล่นเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ครอบครัวมีปัญหา ต้องมารับหน้าที่บริหารโรงเรียน “วัยแสบสาแหรกขาด” เป็นละครที่สื่อถึงปัญหาสังคม เป็นละครเด็กสำหรับผู้ใหญ่ เพราะว่าจะสะท้อนปัญหาของสังคมให้เห็น ในที่สุดแล้วเราควรจะมองที่ครอบครัว เพื่อแก้ปัญหา เรื่องนี้ดูได้ทุกเพศทุกวัย สอนทุกคน แต่คนที่อยากให้ดูมากที่สุดคือพ่อแม่ เพราะปัญหาสังคมทุกวันนี้อยากให้ย้อนกลับไปดูที่ตัวเองด้วยครับ”
ละครดีๆ ที่น่าดูทั้งสองเรื่อง พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง ติดตามชมได้ทางช่อง 3
