มโนโซเชียลฯ แห่งปี 2557
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับปีแห่ง "โซเชียลเน็ตเวิร์ก" ซึ่งเป็นปีที่ผู้คนในแวดวงละครไทยใช้โซเชียลฯ เป็นสื่อหลักในการให้ข่าว เพิ่มเรทติ้งละคร ปั่นกระแส แก้ข่าว หรือก่อสงครามกันไม่เว้นวัน แม้ว่าโซเชียลฯ จะเป็นสื่อที่บรรดาคนละครและแฟนคลับใช้ในการติดต่อสื่อสาร ติดตามข่าว และแสดงความคิดเห็นมานานหลายปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีปีไหนที่โซเชียลฯ จะร้อนฉ่าได้เท่ากับปี 2557 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเลยจริงๆ
ความร้อนแรงของคนละครที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียลฯ นั้นไม่แพ้ผู้คนในแวดวงอื่นเลย เริ่มตั้งแต่กรณีที่ผู้กำกับละครชื่อดัง "ป้าแจ๋ว ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์" ที่เปิดหน้าฉะบรรดาแฟนคลับคู่จิ้น "ณเดชน์ - ญาญ่า" ทางอินสตาแกรมส่วนตัว หลังจากที่มีกระแสแฟนคลับต่อต้านไม่ยอมให้ณเดชน์เล่นละครคู่กับ "มิว นิษฐา จิรยั่งยืน" ในละครเรื่องใหม่ โดยกระแสนี้ทำท่ารุนแรงถึงขั้นที่ไม่ยอมให้ณเดชน์เล่นคู่กับนางเอกคนอื่นนอกจากญาญ่าเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ป้าแจ๋วถึงกับปรี๊ดแตกระเบิดอารมณ์ลงอินสตาแกรมส่วนตัวโดยการโพสต์ข้อความติดแฮ็รัวๆ ว่า“บางทีก็รำคาญ#ทำไมต้อง NY ตลอดเวลา # รอยฝันยังไม่จบเลยช่วยดูกันก่อนไหม # ชาตินี้ณเดชน์คงไม่ได้เล่นคู่กับนางเอกคนไหนเพราะ FC ไม่ชอบ # สงสารน้องญ่ากับน้องแบร์ไหมที่ต้องเล่นละครกันสองคนไม่ได้ไปเจอใครใหม่ๆ # ไม่ต้องการอะไรใหม่ๆ บ้างเหรอ # บางที FC ก็เกินไปไหม # ถ้า N ไม่คู่กับ Y จะไม่ดูใช่ไหม # ขอหนวดไม่ปลอมรอให้น้องไม่มีงานเลยสักอย่างไหมจะได้ไว้หนวดเครามาเล่นละครเรื่องนี้เรื่องเดียว # บางสิ่งบางอย่างต้องมีเหตุผลเข้าใจไหม # บางทีก็เบื่อ # บางทีก็รำคาญ # ทำงานแล้วมีเรื่องไม่เป็นเรื่องมากวนใจ # จบนะ”
ซึ่งโพสต์นี้ของป้าแจ๋วกลับยิ่งทำให้กระแสคู่จิ้น “ณเดชน์ -ญาญ่า” ยิ่งรุนแรงมากขึ้น หลายคอมเมนต์เข้ามาโจมตีป้าแจ๋วว่าใช้คำรุนแรงเกินไป บางคนตอกกลับว่าป้าแจ๋วไปว่าญาญ่าทำไม เพราะนางเอกตาแป๋วคนนี้ไม่เกี่ยวอะไรด้วย สุดท้ายณเดชน์ก็ควงคู่ญาญ่าออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่ายังร่วมงานกับป้าแจ๋วตามปกติ และยอมรับว่าการได้แสดงละครร่วมกับนักแสดงคนอื่นๆ บ้างถือเป็นการได้พัฒนาฝีมือในการแสดงของตัวเองด้วยส่งผลให้กระแสสงครามระหว่างป้าแจ๋วกับแฟนคลับ NY ค่อยๆ เบาบางลงไปในที่สุด
อีกหนึ่งเรื่องร้อนไม่แพ้กันที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียลฯ ก็คือกรณีของพระเอกสุดฮอตของช่อง 3 “หมาก ปริญ สุภารัตน์” กับคุณแม่ของนางเอกร่วมช่อง “มิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง” ที่งานนี้มีการใช้โซเชียลฯ เป็นสื่อในการสู้รบกัน โดยต่างฝ่ายต่างก็แรงไม่แพ้กันหลังจากที่มีภาพหลุดการคุยไลน์ระหว่างหมากกับมิ้นต์ที่หมากพิมพ์ข้อความด่าแม่ของมิ้นต์ด้วยคำหยาบคายรุนแรงแถมลงท้ายว่าถ้าเจอหน้าจะถุยน้ำลายใส่หน้าแม่ของมิ้นต์อีกด้วย
หลังจากเกิดเรื่องนี้ หมากก็ปิดปากเงียบไม่ยอมพูดอะไรนอกจากออกมายกมือไหว้และกล่าวขอโทษแม่ของมิ้นต์ไปตามระเบียบ สุดท้ายก็ไม่มีใครรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไรแต่หากพิจารณาที่ความเคลื่อนไหวสามารถแบ่งได้เป็นสองฝั่งสองฝ่ายนั่นคือฝั่งของหมากกับฝั่งของแม่มิ้นต์ ดังนี้
ฝั่งหมาก : เริ่มต้นจากการที่หมากอัพรูปตัวเองอุ้มสุนัขลงในอินสตาแกรม จากนั้นมีคนใช้ชื่อ @damrong888 เข้ามาคอมเมนต์ด่าหมากด้วยถ้อยคำหยาบคายรุนแรง ซึ่งนักสืบพันทิปก็ทำงานจนรู้ว่าเจ้าของอินสตาแกรมนี้คือแม่แท้ๆ ของสาวมิ้นต์ นางเอกสาวที่เคยคบหากับหมากนี่เอง
ฝั่งแม่ของมิ้นต์ : เริ่มต้นจากภาพการคุยไลน์กลุ่มนักแสดงรุ่นใหม่ของช่องสามที่มีหมากและคิมเบอร์รี่ แอน เทียมศิริ นางเอกช่องสามที่ตกเป็นข่าวว่ากำลังกุ๊กกิ๊กกับหมากหลังจากที่ฝ่ายชายเริ่มห่างจากมิ้นต์อยู่ในกลุ่มด้วย ในการคุยไลน์นั้นหมากโพสต์ภาพข้อความธรรมะที่ว่า “ไม่มีอะไรน่าเกลียดเท่ากับการวางท่าทำให้น่ารักชนิดตบตาผู้อื่น” ซึ่งณเดชน์ก็ถามว่า “ใครวะ” ก่อนที่คิมจะเข้ามาตบมุกว่า “พี่แบ” แล้วประเด็นดังกล่าวก็เงียบหายไป
แต่ดูเหมือนว่าข้อความนี้จะไปสะกิดความรู้สึกของมิ้นต์ เพราะสาวเจ้าเอาสิ่งที่หมากโพสต์ไปให้แม่ดู หลังจากนั้นยอดคุณแม่ก็ปรี๊ดแตกโพสต์ภาพต้นงิ้วพร้อมคำบรรยาย “คนทุกคนไม่สามารถปีนต้นงิ้วได้ทุกคน แต่คนบางจำพวกผิดสามีภรรยาผู้อื่น ต้นงิ้วคงรอทิ่มแทงในไม่ช้า เวรกรรมมีจริง” ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว ต่อจากนั้นแค่วันเดียวน้าแท้ๆ ของมิ้นต์ก็โพสต์มุกตลกสามบรรทัดที่เป็นข้อความสนทนาโต้ตอบว่า “ชั้นว่าแกก็หน้าเหมือนผู้หญิงนะ” "หน้าตัวเมียน่ะ” นำไปสู่การสนทนาในไลน์อันดุเดือดระหว่างหมากกับมิ้นต์ที่มีข้อความดุเดือดจากหมากว่า “แม่มึงเป็นอะไรมากป่ะ” และ “ถ้ากูเจอแม่มึง กูจะถุยน้ำลายใส่หน้าแม่มึง”
สุดท้ายเรื่องนี้จบลงโดยการที่หมากออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวขอโทษแม่มิ้นต์โดยพูดสั้นๆ แค่ว่าทำไปเพราะาชั่ววูบ และวอนขอให้ยุติเรื่องดังกล่าว โดยไม่พูดถึงที่มาที่ไปว่าทำไมถึงโมโหเดือดดาลแม่มิ้นต์ขนาดนั้น
ปิดท้ายด้วยเรื่องเข้มข้นถึงขนาดที่ทำให้นางเอกดาวรุ่งอย่าง “วาววา ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด” กลายเป็นนางเอกตกกระป๋องปิดท้ายปีม้า เมื่อผู้จัดละครชื่อดังแห่งวิกสาม “ตู่ ปิยวดี มาลีนนท์” โพสต์ข้อความดราม่าผ่านอินสตแกรมส่วนตัวของเธอ “คุณสามารถหลอกคนทุกคนใน บางเวลา และ บางคน ได้ตลอดเวลา แต่คุณไม่สามารถหลอก ทุกคน ได้ตลอดเวลา...อุทิศแด่น้องสาวที่เคยรักกัน”
หลังจากข้อความนี้ออกสู่สาธารณะ หลายต่อหลายคนก็เดากันไปต่างๆ นานา ว่าตู่หมายถึงใคร สุดท้ายไม่ต้องเดาให้ปวดกบาลเพราะตู่ออกมาเฉลยเองแบบไม่ต้องใช้อักษรย่อว่าเธอหมายถึง “วาววา ณิชารีย์” ที่เธอขอปลดจากการเป็นนางเอกซีรีส์ "จุดนัดภพ" แบบสายฟ้าแลบเนื่องจากมีพฤติกรรมไร้วินัยสุดจะทน ไม่อ่านบทมา ไม่ซ้อมบท ไม่ทำการบ้าน ติดมือถือตลอดเวลาทำงาน มาสาย เจอผู้ใหญ่ในกองถ่ายไม่เคยยกมือไหว้ ชอบชักสีหน้า และเหวี่ยงวีนใส่คนในกองถ่ายไม่เว้นหัวหงอกหัวดำ และสุดท้ายที่ทำให้ตู่ปรี๊ดมากคือการนำชื่อตู่ ปิยวดี ไปแอบอ้างในการขอยืมเสื้อผ้ากับร้านเสื้อชื่อดังหลายร้าน และหลายครั้งก็เป็นการยืมลืมแบบไม่เคยนำกลับไปคืนอีกต่างหาก ซึ่งเรื่องสุดท้ายนี้ตู่พูดหนักแน่นว่าเธอไม่เกี่ยวข้องกับนางเอกสาวคนนี้แต่อย่างใด
ความบาดหมางรุนแรงครั้งนี้จบลงด้วยการต่างคนต่างอยู่ระหว่างตู่กับวาววา ทั้งที่เมื่อก่อนสองคนนี้เป็นพี่น้องคนสนิทที่รักกันมากคู่หนึ่งในวงการละคร วาววาดอดไปขอโทษตู่ตามระเบียบ แต่ไม่ใช่การขอโทษเพื่อให้ได้กลับมามีที่ยืนในวงการละคร แต่เป็นการขอโทษเพียงเพื่อให้เรื่องจบให้สวยที่สุด เพราะไม่ว่าจะอย่างไรตู่ก็คงไม่มีพื้นที่ให้สาววาววาอีกต่อไปแล้ว สำหรับเรื่องนิสัยไร้ระเบียบ ไม่มีสัมมาคารวะ และชอบแอบอ้างชื่อของผู้จัดชื่อดังนั้นวาววาปิดปากเงียบไม่ยอมพูดถึง พูดเพียงแค่ว่าไม่อยากตอบ เพราะไม่ว่าจะตอบว่าจริงหรือไม่จริงสุดท้ายก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นอยู่ดี
บทสรุปของเรื่องนี้คือวาววากลายเป็นนางเอกละครตกกระป๋องหรือดาวรุ่งตกกระป๋องที่แฟนละครในโลกโซเชียลฯ พร้อมใจกันโหวตให้ บางกระแสบอกว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำเพราะตัวจริงวาววาไม่ใช่คนหยิ่งหรือมนุษย์สัมพันธ์ไม่ดีอย่างที่ตู่บอก บางกระแสลงลึกถึงขั้นที่ว่าวาววามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแฟนของตู่เลยทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องต้องขาดสะบั้นเลยทีเดียว
หลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียลฯ ไม่อาจค้นหาความจริงแท้ได้ แต่ที่แน่ๆ แทบทุกเรื่องส่งผลกระทบในโลกความเป็นจริงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าบางกรณีจะเป็นการระเบิดระบายด้วยอารมณ์ชั่ววูบแต่ก็ส่งผลอย่างใหญ่หลวงในชีวิตจริง ซึ่งหลายต่อหลายครั้งผลลัพธ์ของอารมณ์ชั่ววูบเหล่านั้นก็ถูกแคปเจอร์เก็บบันทึกเอาไว้กลายเป็นตราบาปของเจ้าตัวไปนานแสนนานอีกด้วย และนี่คือส่วนหนึ่งของเรื่องราว “มโนโซเชียลฯ” ที่เป็นเรื่องราวทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ที่ละครออนไลน์รวบรวมมาให้แฟนละครอ่านกัน ปีหน้าฟ้าใหม่โลกโซเชียลฯ จะทำให้โลกละครร้อนระอุขนาดไหนคงต้องติดตามกันต่อไปนะจ๊ะ
