"สมเกียรติ" เฟ้นเข้มจนได้ "เพชร-เพลง-น้ำแข็ง"
รับบท "ขรัวโต" 3 รุ่นประชัน "เศรษฐา"
หลังจากที่เลือก อาต้อย - เศรษฐา ศิระฉายา มารับบท สมเด็จพุฒาจารย์โต หรือ ขรัวโต ในภาพยนตร์เรื่อง “ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์” และเจ้าตัวตอบตกลง ผู้กำกับ สมเกียรติ เรือนประภัสร์ ก็สบายใจไปหนึ่งขั้น แต่ความหนักใจยิ่งกว่าที่ตามมาก็คือ การที่ต้องหานักแสดงมารับบท “สมเด็จโต” อีก3รุ่น นั่นคือ วัยเด็ก (ด.ช.โต.), วัยรุ่น (สามเณรโต) และ วัยหนุ่ม (พระโต) ที่ต้องยอมรับว่าเป็น โจทย์ที่หินมาก สมเกียรติ เรือนประภัสร์ เปิดใจถึงโจทย์ท้าทายที่น่าหนักใจนี้ว่า
“ผมสบายใจมากกับการที่ผมเลือก อาต้อย-เศรษฐา มารับบท สมเด็จโต แล้วทีมงานทุกคนยอมรับอย่างพร้อมเพรียงกัน แต่โจทย์ที่หนักหนาที่ตามมาก็คือ การเฟ้นหาผู้ที่จะมารับบท “สมเด็จโต” อีก 3 รุ่นคือ วัยเด็ก, วัยรุ่น และ วัยหนุ่ม คือ การที่เราจะเลือกใครสักคนมารับบทเป็น พระอริยะสงฆ์ผู้เป็นที่นับถือศรัทธาของชาวไทยทั้งประเทศ เราต้องพิถีพิถันอย่างมาก เพราะว่าถ้าเราเลือกไม่ดี ก็จะถูกตำหนิจากมหาชนที่ชื่นชมศรัทธาต่อ สมเด็จโต ซึ่งอาจจะส่งผลต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
ผมจึงให้โจทย์กับฝ่ายจัดหานักแสดงไปว่า หนึ่ง ต้องเป็นคนที่มีความประพฤติดี แบ็คกราวทางครอบครัวดี สอง เจ้าตัวต้องไม่มีเรื่องเสื่อมเสีย เช่น ถ่ายภาพโป๊ ภาพหวิว ต้องไม่มีคลิปหลุด คลิปฉาว สาม ต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดร้ายแรง สี่ ต้องมีความเป็นนักแสดงเต็ม ที่พร้อมจะทุ่มเทเต็มที่ ทั้งในเรื่องของ เวลา และ ความตั้งใจทำงาน อีกทั้งในช่วงวัยรุ่น กับ วัยหนุ่ม นักแสดงจะต้องโกนศรีษะเพื่อรับบท สามเณร และ พระ ตามลำดับ
ด.ช.โต ได้มาก่อนใคร เมื่อฝ่ายจัดหานักแสดงพา น้องเพชร (ด.ช.ชัยธวัฒน์ เนื่องจำนงค์) มาให้ดูตัว ทันทีที่ได้เห็นหน้าเขา ผมก็บอกเลยว่า “คนนี้ใช่เลย!” น้องเพชร นี่ถือเป็น เด็กอัจฉริยะที่เกิดมาเพื่อเล่นบทนี้เลยทีเดียว เขาเป็นเด็กที่ฉลาดเฉลียว ช่างพูดช่างจา ไม่กลัวคน ไม่เขินอาย ที่ผมประทับใจคือ หลังจากที่ได้ถ่ายทำไปแล้ว ก็พบว่า น้องเพชร มีความเป็น “มืออาชีพ” อยู่ในตัว เวลาปกติเขาก็จะวิ่งเล่นสนุกสนานเหมือนเด็กๆ ทั่วไป แต่ทันทีที่เข้าฉาก เขาจะกลายเป็นนักแสดงมืออาชีพทันที ตั้งใจทำงาน มีสมาธิ พร้อมที่จะทำอย่างที่ผู้กำกับต้องการตลอดเวลา กี่เทคก็ไม่มีงอแง แต่จริงๆ เขาเล่นไม่กี่เทค เขาเป็นที่เอ็นดูของทีมงานทุกคน
มาถึงช่วงวัยรุ่น ที่ต้องรับบท สามเณรโต เป็นช่วงที่ต้องพิถีพิถันมาก เนื่องจากชีวิตของนี้ของ สมเด็จโต เป็นช่วงที่ค่อนข้างมีอารมณ์ดรามาเข้มข้น ต้องการนักแสดงที่ต้องสามารถเล่นบทร้องไห้ได้ เป็นช่วงที่ท่านจะละทางโลก เพื่อบวชเรียน และไม่ได้สึกอีกเลย เราได้ น้องเพลง (เจษฏาพร ชมศรี) มารับบทนี้ น้องเพลงอาจจะโตกว่าวัยจริงนิดนึง เพราะสมัยก่อนเขาจะบวชเณรกันตอนอายุ12ปี แต่น้องเพลงตอนแรกที่มาเขาอายุ16ปี แต่ที่เลือกเขา เพราะว่าตัวจริงของเขา เขามีความเป็นเด็กในตัว เป็นเด็กที่ในชีวิตจริงเขาถูกเลี้ยงดูมาตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทยโบราณ เขาจะชอบความเป็นไทย ชอบเรื่องของเก่า ชอบเรื่องราวประวัติศาสตร์ ชอบศึกษาเรื่องราวความรู้รอบตัว พูดจาฉะฉาน ซึ่งตรงกับ นิสัยของ สมเด็จโต เพราะท่านเป็นคนที่ฉลาดเฉลียว รักการเรียนรู้ พูดเก่ง เทศน์เก่งจนเป็นที่เลื่องลือ และเมื่อโกนศรีษะ น้องเพลง ก็ดูเป็นเด็กอายุ12ได้เพราะตัวเขาไม่ได้สูงมากมาย ที่สำคัญคือ ทางครอบครัวเขาประกอบอาชีพ ทำโรงหล่อพระ นั่นทำให้เขาซึมซับเรื่องราวของ พระ ศาสนา มาอยู่แล้ว ส่วนเรื่อง ร้องไห้ ไม่มีปัญหา เพราะเขาสามารถร้องไห้ได้ในทุกฉากที่ต้องการ เชื่อว่าผู้ชมทุกท่านจะต้องเสียน้ำตาให้กับ สามเณรโต ในเรื่องนี้อย่างแน่นอน
บท พระโต เราได้เป็นคนสุดท้าย ฝ่ายจัดหานักแสดงเอารูปมาให้ดู พาตัวจริงมาให้ดูหลายคน ผมก็เห็นว่า ยังไม่ใช่ จนกระทั่งก่อนหนังจะเปิดกล้องถ่ายทำไม่กี่วัน ฝ่ายจัดหานักแสดงก็พา น้องน้ำแข็ง(ปรัชญา ประทุมเดช) มาให้ดูตัว ผมชอบที่เขาหน้าตาไทยๆ ดี พูดจาสุภาพ ผมลองให้เขานั่ง ขัดสมาธิ เขาก็ทำได้ เขาบอกว่า เขานั่งสมาธิเป็นประจำ พูดคุยกันไม่นาน ผมก็ตกลงใจที่จะเลือกเขามารับบท พระโต ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง เพราะเขาเป็นคนที่ตั้งใจทำงานมาก มีใจที่พร้อมทุ่มเทให้กับงานเต็มที่ เพราะในช่วงของเขา ต้องเป็น พระ ต้องออกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ ต้องผจญภัย ผ่านร้อนผ่านหนาว ต้องเจอกับเหตุการณ์มากมาย ซึ่งเขาก็ตั้งใจทำงานจนสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และที่คิดว่าเลือกได้ไม่ผิดคนแล้วคือ เมื่อโกนหัวแล้วทั้ง น้องเพลง และ น้ำแข็ง ใบหน้าละม้ายคล้ายกันมาก ยิ่งเวลาที่แต่งเป็น พระ เหมือนกัน ทุกคนจะลงความเห็นว่า ทั้งสองใบหน้าคล้ายกันมาก รวมทั้งหน้าตาไทยๆ พูดจาสุภาพ เรียบร้อย มีความเป็นไทยอยู่ในตัวทั้งสองคน และเมื่อได้นักแสดงครบ ผมก็เดินเครื่องถ่ายทำทันที”
“ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์” ภาพยนตร์สนองคุณแผ่นดิน ผลงานกำกับเปี่ยมศรัทธาโดย สมเกียรติ เรือนประภัสรร์ อำนวยการสร้างโดย พันเอกศักดิ์สุธี - จรัลรัตน์ คงพ่วงพันธ์ และ สุพัทชฏา พ่วงพันธ์ รับบท สมเด็จโต ในแต่ละช่วงวัยโดย เศรษฐา ศิระฉายา ศิลปินแห่งชาติ ปี54 (ขรัวโต วัยชรา), น้ำแข็ง - ปรัชญา ประทุมเดช (พระโต),น้องเพลง-เจษฏาพร ชมศรี (สามเณรโต) และ น้องเพชร-ด.ช.ชัยธวัฒน์ เนื่องจำนงค์ (ด.ช.โต) พร้อมนักแสดงอีกคับคั่ง ความรัก บารมี ความเมตตา จะแผ่พลังศรัทธาทั่วแผ่นดินสยามเร็วๆ นี้