“ณเดชน์” แจง “จบป.ตรี เกียรตินิยม เพราะขยันไปเรียน มีเพื่อนช่วย”
กลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาจนได้ สำหรับนักแสดงฮอทฮิท “ ณเดชน์ คูกิมิยะ” ที่กำลังมีผลงานละครเรื่อง “รอยฝันตะวันเดือด” ออกอากาศอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากมีข้อกล่าวหาว่า “ณเดชน์เรียนจบปริญญาตรีได้เกียรตินิยมในเวลา 4 ปี (คณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ มหาวิทยาลัยรังสิต) ทั้งที่ไม่เคยไปเรียน” ความจริงคืออะไร ไปฟังจากปากณเดชน์เลยดีกว่า
“ สำหรับเรื่องฟีดแบคเรื่องเรียนที่เป็นข่าว ก็ได้ทราบข่าวแล้ว ไม่ได้คิดอะไร จริงๆ ได้เกียรตินิยมอันดับ 2 แล้วได้เกรด 3.31ตรงนี้มาจากส่วนหนึ่งที่เราพยายามทำเต็มที่ที่สุดแล้ว เพราะเราก็อยากจะจบ 4 ปี แล้วเราไม่ได้หวังแต่แรกว่าจะได้เกียรตินิยม แต่เมื่อมันได้ เราก็คว้าโอกาสนี้ไว้
จริงๆ แล้วผมเรียนนี่เราได้เพื่อนด้วย ได้อาจารย์ด้วย แล้วก็มีเพื่อนช่วยค่อนข้างเยอะมากๆ เวลาตามงานต่างๆ เวลาจับเราเข้ากลุ่ม เป็นผลพลอยได้จากเพื่อนๆ ที่แต่ละคนช่วยกัน รวมทั้งเราที่แบ่งเวลาเป็นสัดเป็นส่วนไปมหาวิทยาลัย ทุกครั้งที่มีงานจำเป็นหรืองานสำคัญ ชนกับละคร บางทีก็ไปช่วงเช้าบ้าง ช่วงบ่ายบ้าง คือพยายามจะไปให้ได้มากที่สุดที่จะไปได้”
ถูกกล่าวหาว่าไม่ไปเรียน เทํ็จจริงอย่างไร
"ผมดีใจมากกว่าที่ผมจบ 4 ปี มันก็เป็นส่วนหนึ่งที่เราทำให้ครอบครัวเราแล้วก็ตัวเองด้วย (ส่วนเรื่องจบเร็วเพราะเป็นดาราแล้วก็โปรโมทมหาวิทยาลัย) ผมว่าไม่น่าจะใช่ ทางมหาวิทยาลัยไม่น่าจะเข้ามาเสี่ยงกับผมหรอกครับ ผมก็แค่นักศึกษาคนหนึ่งเท่านั้นในภาพการมองของเขา
ตอนที่ผมเรียนก็ทุ่มเทมากพอสมควรนะครับ บางทีตื่นเช้าๆ ก็ไป คือแม่จะปลุกตลอด ถ้าใครเป็นเพื่อนๆ ก็จะรู้ ก็จะบอก ก็จะรู้กันตลอด มีเวลาเมื่อไรก็ไปเรียนทุกตอนเลยครับ สมมติว่ามีงานตอนบ่ายก็ไปเรียนตอนเช้า แล้วก็อาทิตย์หนึ่งย้ายงานไปตอนเช้าแล้วก็มาเรียนตอนบ่ายแทน เราจัดคิวค่อนข้างที่จะดีทีเดียวฮะ"
บางคนว่า มหาวิทยาลัยมีสองมาตรฐาน คิดอย่างไร
“ไม่ได้คิดอะไร ก็ปล่อยๆ ไปเถอะครับ ได้คุยกับทางมหาวิทยาลัย เขาก็บอกว่า ไม่ต้องคิดมาอะไร ไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่เครียดเลย (มีอาจารย์ออกมาชี้แจงด้วย) ต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้คุยกับผู้ใหญ่สักคนเลยนะฮะ ส่วนมากจะคุยกับเพื่อนมากกว่า ได้ข่าวว่าทางผู้ใหญ่ก็ออกมา ก็ขอบคุณมากๆ ที่เป็นกำลังใจให้”
คิดว่า การเรียนสำคัญแค่ไหน
“การเรียนสำคัญมากนะครับ เป็นเหมือนการวัดความรับผิดชอบของคนคนหนึ่งเหมือนกัน เราต้องแบ่งเวลาให้เป็น ผมก็ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ก็เหมือนคูณ 2 เลยล่ะ ทั้งการทำงานและการเรียน เพราะฉะนั้นเราต้องอดทนมาก เหมือนกันกว่าจะผ่านมาได้ หนึ่งคือ ปี 1 ปี 2 ผมลงค่อนข้างเต็มมากๆ ปี 3 ปี 4 เลยมีช่วงเวลาที่เราได้ผ่อนคลายตัวเอง
แล้วอีกอย่างหนึ่งนิเทศศาสตร์เป็นวิชาสาขาที่ปฏิบัติเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่นั่งอยู่ในคลาสแล้วจดโน้ต เพราะฉะนั้นผมจะเป็นการออกกองกับเพื่อน เป็นการทำงานนอกสถานที่มากกว่า ภาพในมหาวิทยาลัยก็จะไม่ได้เห็นกันสักเท่าไร ที่ผ่านมาก็มีหนังสั้น แล้วล่าสุดก็เพิ่งทำวิทยานิพนธ์ไป ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการตัดต่ออยู่ จบตามเกณฑ์พอดีครับ ไม่ได้เร็วเกินไป ไม่ได้ช้าเกินไป พอดี เรื่องเรียนต่อยังไม่ได้คิดต่อ”
คนบันเทิงเรียนสายนี้ถือว่าได้เปรียบกว่าคนอื่นไหม
“ผมว่ามันค่อนข้างจะเข้าใจง่ายกับรายละเอียดของโปรดักชั่นต่างๆ เพราะว่าเราก็ทำงานอยู่ตรงนี้ ทั้งกองโฆษณา กองละคร กองหนัง ก็เคยผ่านมาหมดแล้ว มันก็เลยจะทำให้เนื้อหาซาบซึมเข้าไปในสมอง ทำให้เราอธิบายออกมาได้ง่ายแล้วก็ละเอียดครับผม
จริงๆ เพื่อนหลายคนก็ได้เกียรตินิยมเยอะ ส่วนหนึ่งคือเขาก็เรียนปฏิบัติ ไปออกกอง ไปทำโฆษณากันต่างๆ ก็มีคนที่มีความรู้ค่อนข้างเยอะ คนเก่งเยอะมากๆ เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้ ไม่ได้มีคนรู้จักก็เลยไม่ได้เป็นข่าว”
จากการได้สัมผัสกับ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ตัวจริงหลังกองถ่าย ไดัเห็นว่า ณเดชน์สนใจการเรียน เอาการบ้านมาทำ เอากล้องถ่ายภาพตัวเองมาถ่ายในกอง ชอบมาถามกับอาๆ ช่างภาพรุ่นเก๋าว่าอะไรอย่างไร ใครที่เป็นแฟนคลับ ณเดชน์รับปริญญา 22 กุมภา ปีหน้าจ้า
