ฉายต่อเนื่องมาเป็นสัปดาห์ที่สามแล้วสำหรับซิทคอมอารมณ์ดีจากค่าย Mono “Roommate” ซึ่งแม้จะเป็นการรวบรวมความสดใหม่เข้าไว้ด้วยกัน ทั้งการผลิตซิทคอมอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกของค่ายที่มีทั้งผลงานเพลงและภาพยนตร์อย่าง Mono Group และการแสดงละครเป็นครั้งแรกของเหล่านักแสดงหน้าใหม่ของค่ายนี้ แต่เพียงแค่ไม่กี่ตอนที่ผ่านมาก็มีกระแสบอกต่อถึงความบันเทิงสนุกสนานที่ซิทคอมน้องใหม่เรื่องนี้หยิบยื่นให้แก่ผู้ชม
ถ้าหากเทียบวัดกับซิทคอมเรื่องอื่นๆ ที่แพร่ภาพอยู่ในโทรทัศน์บ้านเรา ก็ต้องยอมรับว่า Roommate นั้นไม่มีแต้มต่อในเรื่องของนักแสดงมือเก๋าที่เปี่ยมล้นไปด้วยชื่อเสียงซึ่งจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้คนไม่หยิบรีโมทขึ้นมาเปลี่ยนช่องได้ ในทางตรงกันข้าม ซิทคอมเรื่องนี้บรรจุนักแสดงหน้าใหม่ที่คอละครแทบไม่เคยเห็นหน้าค่าตา บางคนเดินมายืนตรงหน้าพร้อมบอกชื่อเล่นชื่อจริงก็ใช่ว่าจะทำให้เราร้องอ๋อได้ง่ายๆ
แต่นั่นกลับเป็นเสน่ห์ที่ซิทคอม Roommate มี นักแสดงที่ผู้ชมไม่รู้จัก จึงไม่ยึดติดบุคลิกจากละครเรื่องอื่นๆ แถมยังเต็มไปด้วยพลังในการด้นมุกสดๆ ในขณะถ่ายทำจนกลายเป็นหนึ่งในซิทคอมที่มีจังหวะขบขันครบเครื่องเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว วันนี้ ละครออนไลน์จะพาคุณไปเคาะประตูบ้านของสามนักแสดงนำจากซิทคอม Roommate เพื่อทำความรู้จักกับพวกเขาให้ใกล้ชิดกว่าที่ผ่านมา พูดคุยกันถึงเส้นทางที่ผ่านมาก่อนที่จะก้าวขึ้นมารับบทนำในเรื่องนี้ บุคลิกตัวละครที่พวกเขาได้รับ และนิยามของคำว่า Roommate ในทรรศนะของพวกเขา ถ้าพร้อมแล้วก็เปิดประตูบ้านไปทักทายกับพวกเขากันได้เลย
เราพบ "มิลค์ ณัฐนรี อนันต์ลักษณ์การ" กำลังนั่งเขียนอะไรบางอย่างอยู่ในห้องนั่งเล่น ซึ่งหากเอ่ยชื่อ “มิลค์” เฉยๆ คงไม่มีใครรู้จัก แต่ถ้ามีนามสกุลต่อท้ายว่า “แคนดี้มาเฟีย” ซึ่งแปลว่าผู้หญิงคนนี้ชื่อว่ามิลค์ มาจากวงแคนดี้มาเฟีย เชื่อว่าบางคนคงร้องอ๋อขึ้นมาได้
มิลค์เป็นหนึ่งในนักแสดงนำฝ่ายหญิงซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด(สองคน) ของซิทคอมเรื่องนี้ เธอเล่าถึงเส้นทางสั้นๆ บนถนนสายบันเทิงที่ตัวเองเดินผ่านมาให้เราฟังว่า “ก่อนที่จะมาเป็นแคนดี้มาเฟีย มิลค์ก็เคยมีผลงานโฆษณา ละครเวที แล้วก็เคยไปเล่นละครรับเชิญมาบ้างค่ะ แต่พอมาเป็นแคนดี้มาเฟียก็ไมไ่ด้มาทำงานแสดงจริงจังแล้ว แต่มิลค์เป็นคนที่ชอบสายการแสดงมากตั้งแต่เด็กๆ อยู่แล้วค่ะ มีคลาสอะไรก็เข้าไปเรียนเบสิค มีเวิร์คชอปอะไรก็เข้าไปทำหมด แล้วด้วยความที่ตอนเด็กๆ มีประสบการณ์ทางการแสดงมาบ้างก็เลยมีทักษะบ้างค่ะ"
มิลค์พูดถึงคาแรกเตอร์ “ฝน” ที่เธอแสดงใน Roommate ว่าเป็นนักศึกษาที่บ้ากิจกรรมและไม่ใช่ผู้หญิงที่เรียบร้อยนักซึ่งค่อนข้างใกล้เคียงกับชีวิตจริงของเธอ "ฝนนี่จะเป็นหญิงที่มีความบู๊และความห้าวในตัว เป็นเด็กบ้าๆ บอๆ กิจกรรมที่หนึ่งเลย เป็นคนที่ลุยมาก ถ้าดูในเรื่องก็จะเห็นคาแรกเตอร์ของฝนค่อนข้างจะเป็นคนที่ขี้โวยวายนิดนึง ขี้เหวี่ยงนิดนึง ออกแนวแอบเอาแต่ใจเล็กๆ มีความเป็นผู้หญิงอยู่แต่ไม่ได้เป็นผู้หญิงจ๋า เป็นผู้หญิงที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงว่าอย่างนั้นเถอะค่ะ"
“ระหว่างมิลค์กับฝนเป็นคาแรกเตอร์ที่แทบจะเหมือนกันมากเลยล่ะค่ะ ถ้าสมมุติคนดูคาแรกเตอร์มิลค์ รู้จักมิลค์จากแคนดี้มาเฟียมองจากภายนอกจะดูเป็นผู้หญิงหวานๆ ลุ๊คน่ารักๆ แต่คนที่รู้จักมิลค์จริงๆ แล้วคือมิลค์ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะมานั่งพับผ้าอะไรแบบนั้น มิลค์จะเป็นคนที่ค่อนข้างจะ ถ้านึกอยากจะเต้นตรงนี้มิลค์ก็สามารถที่จะเต้นได้ มีความบ้าๆ บอๆ สูงมาก"
เมื่อพูดถึงคำว่า Roommate มิลค์บอกว่าเธอนึกถึงการอยู่ร่วมกันที่ต้องมีความเข้าใจเป็นเหมือนกาวที่คอยประสานให้คนที่แตกต่างกันอยู่ด้วยกันได้
"อย่างในเรื่องเนี่ยเรามาอยู่ร่วมกันแล้วเป็นคาแรกเตอร์ที่แตกต่าง แต่พอมาอยู่ด้วยกันแล้ว เข้าใจซึ่งกันและกันแล้ว ทุกอย่างมันผ่านไปได้ไม่ว่าเราจะเจออะไร จะเกิดอะไรขึ้นก็ตามมันเป็นความสัมพันธ์ที่จะค่อยๆ พัฒนาขึ้นๆ ไปเรื่อยๆ ในแต่ละตอนที่ซิทคอมเรื่องนี้ฉายออกไป เราจะได้เห็นพัฒนาการในด้านความสัมพันธ์ของตัวละครค่ะ เราจะได้เห็นตั้งแต่เกลียดขี้หน้ากันไปจนถึงตอนสุดท้ายที่อาจจะมากุ๊กกิ๊กลงเอยอย่างนู้นอย่างนี้ ก็ต้องลองติดตามกันไปค่ะ คือครบรสแน่นอนในบ้านนี้ มันมีทุกความเพี้ยน ความบ้า ความเอาแต่ใจ ความงอแง มันมีทุกอย่างจริงๆ อยู่ด้วยกันได้ยังไงก็ไม่รู้น่ะค่ะ"
เดินผ่านห้องนั่งเล่นไปสู่ห้องครัว “น้ำ ชลนที อักษรสิงห์ชัย” หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งและมีท่าทีมั่นใจกำลังทำอาหารอยู่ในนั้น น้ำเคยเป็นพิธีกร เคยแสดงมิวสิควีดีโอให้กับวงดนตรีในค่ายโมโน มิวสิค และเคยเฉียดการแสดงมาบ้างเมื่อครั้งที่ไปเป็นนักแสดงรับเชิญในคลับฟรายเดย์ เดอะ ซีรี่ย์ รวมถึงการขึ้นไปแสดงละครเวทีเมื่อตอนที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย
น้ำพูดถึงตัวละครที่เธอแสดงในเรื่อง Roommate ว่า “ตัวละครที่ได้รับก็ชื่อน้ำค่ะ ชื่อเหมือนกันเลย คาแรกเตอร์ของน้ำก็คือเป็นผู้หญิงที่ติ๊งต๊อง รั่วๆ แล้วก็ซุ่มซ่ามค่ะ แต่ว่าเป็นผู้หญิงที่หวานๆ ใสๆ โลกสวยแล้วก็เป็นคนที่มีความฝันว่าอยากเปิดร้านกาแฟ เพราะไปแอบชอบรุ่นพี่อยู่คนนึงตอนอยู่มหาวิทยาลัย แล้วพี่คนนี้เคยพูดว่าผู้หญิงทำกาแฟน่ารักดีนะ พอเราได้ยินเราก็เลยเกิดแรงบันดาลใจที่จะทำเพราะว่าอยากให้พี่เขามาสนใจเราน่ะค่ะ ก็เลยเปิดร้านกาแฟ แต่เปิดมากี่ร้านก็เจ๊งทุกร้านเลยนะคะ เพราะว่ารสชาติกาแฟของเราแย่มากๆ คนกินี่ไม่ท้องเสียก็เข้าโรงพยาบาลค่ะ แล้วก็เพื่อนๆ จะไม่กล้าบอกว่ากาแฟขอวเรารสชาติแย่มาก เพราะว่าเราเป็นผู้หญิงโลกสวยไงคะ จะรับความจริงไม่ได้"
ถึงจะบอกว่าตัวละครน้ำติ๊งต๊อง แต่น้ำก็ยอมรับว่าน้ำในชีวิตจริงก็มีสภาพไม่ต่างกันเท่าไหร่ และนั่นก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ผู้กำกับเลือกเธอให้มารับบทนี้
“จริงๆ แล้วน้ำคิดว่ามันก็ต่างนะคะ แต่ว่าทุกคนลงความเห็นว่าเหมือนค่ะ(หัวเราะ) น้ำก็เลยเริ่มสับสนว่าคิดไปเองหรือเปล่าว่าต่าง เรื่องความเพี้ยนนี่มาเต็มค่ะ ปกติเป็นคนติ๊งต๊องอยู่แล้ว แล้วก็รั่วๆ ซุ่มซ่ามนี่ใช่เลยค่ะ แต่ว่าอย่างน้ำในเรื่องจะเป็นผู้หญิงที่หวานกว่าน้ำตัวจริงหน่อย เพราะจะเป็นคนที่ชอบสีชมพูมาก สมมุติว่าจะกินน้ำก็ต้องดูดหลอดสีชมพูเท่านั้น ถ้าไม่ใช่หลอดสีชมพูน้ำในเรื่องจะไม่กินเลยค่ะ ก็อาจจะต่างตรงที่หวานกว่า แบ๊วกว่านิดนึงน่ะค่ะ"
คำว่า Roommate ถูกยกขึ้นมาเป็นหัวข้อในการสนทนา เมื่อเราคุยถึงคำว่า Roommate น้ำก็บอกกับเราว่าคำว่า Roommate ในนิยามของเธอก็คือ ““น้ำรู้สึกว่าคนเดียวหัวหาย ห้าคนเพื่อนตาย อะไรประมาณนี้เลยค่ะ(หัวเราะ) แล้วถ้าเป็นในละครก็ต้องมีผีอยู่ในบ้านด้วยนะคะ(หัวเราะ) รู้สึกว่าน่าจะไม่ตายกันทั้งหมด(หัวเราะ) เพราะถ้าอยู่รวมกันทุกคนรู้สึกว่าจะอุ่นใจกว่า มันเป็นเพื่อน มีทั้งมิตรภาพ มีทั้งความฝัน มีทั้งความสนุกสนานของการอยู่ร่วมกันน่ะค่ะ เพราะถ้าอยู่คนเดียว บางทีเราจะผ่านปัญหาอะไรไปไม่ได้ แต่ถ้าเราอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ทุกคนจะคอยช่วย แล้วก็แก้ปัญหาไปพร้อมกันได้ค่ะ"
พูดคุยกับน้ำยังไม่ทันจะจบดี เสียงเพลงจังหวะคึกคักก็ดังออกมาจากห้องนอนห้องหนึ่งที่อยู่ชั้นบน เราเดินขึ้นบันไดไปตามที่มาของเสียง ก่อนจะเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไปพบกับ “แอนดรูว์ ศรันยู ศรุติสุต” ที่กำลังทั้งฟัง ทั้งร้องเพลงจากเครื่องเล่นซีดีที่วางอยู่บนชั้น แอนดรูว์เป็นนักร้องนำในวงอีโวนาย ในสังกัดโมโน มิวสิค ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็คืออีกคนที่เพิ่งมีผลงานการแสดงซิทคอมเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก แต่ต่างจากสาวทั้งสองคนเล็กน้อยตรงที่แอนดรูว์ไม่เคยผ่านงานแสดงอะไรมาเลย แถมยังไม่สันทัดภาษาไทยสักเท่าไหร่อีกด้วย
"ตอนที่เป็นนักร้อง ผมเป็นแรปเปอร์ เรื่องภาษาเป็นอะไรที่ไม่จำเป็นต้องใช้มากขนาดนี้เพราะว่าผมแร็ปเป็นภาษาอังกฤษ แล้วพอมาเล่นละคร ต้องพูดภาษาไทย โดยที่ตัวละครเป็นลูกครึ่ง ก็จะต้องฝึกฝนตัวเองให้มากขึ้นน่ะครับ แต่เทคนิค การวางตัวเป็นนักร้องเราต้องเก๊กหล่อตลอด ต้องมีฟอร์มของตัวเองอะไรแบบนั้น แต่พอมาเล่นซิทคอมมันปล่อยเต็มที่ได้น่ะครับ ถ้ามองภายนอกคนจะคิดว่าผมเป็นคนขรึมๆ หน้าดุๆ อะไรประมาณนั้น แต่คนที่ได้มารู้จักผมจริงๆ จะรู้ว่าผมเป็นคนที่ติ๊งต๊อง บ้าๆ บอๆ มาก(เน้นเสียง) พอได้มาเล่นในซิทคอมผมก็ได้แสดงออกเต็มที่ เต็มร้อย ก็เลยรู้สึกว่าได้ปลดปล่อย ไม่ต้องมาเก๊กหล่อน่ะครับ"
เพราะด้วยความที่ไม่ต้องห่วงหล่อ แอนดรูว์จึงยอมรับว่าตัวละคร “เคิร์ท” ที่เขารับบทบาทนั้นใกล้เคียงกับตัวตนของเขามากกว่าการเป็นนักร้องเสียอีก "ตัวละครเคิร์ทกับชีวิตจริงของผมคล้ายกันมากก็คือติ๊งต๊องมาก แล้วก็เป็นคนบ้าๆ บอๆ น่ะครับ แค่ไม่เล่นดนตรี ชีวิตจริงไม่เล่นกีตาร์ ไม่ร้องเพลงแบบในละคร เพราะในละครเคิร์ทเขามีวงชื่ออินดี้อวกาศ แล้วพอเห็นอะไร สมมุติเห็นประตูหรือทีวีก็แต่งออกมาสดๆ เลย ตัวพระเอกเขาจะติ๊งต๊องนิดนึงน่ะครับ(หัวเราะ)”
แอนดรูว์ยอมรับว่างานแสดงครั้งแรกเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับเขา เพราะว่าเขารู้สึกตื่นเต้นกับทีมงานและลักษณะการถ่ายทำซึ่งต่างไปจากการถ่ายมิวสิควีดีโออย่างสิ้นเชิง
“ด้วยความที่เป็นครั้งแรกที่ผมต้องมาแสดงออกกล้อง มันคนละฟิลกับเวลาถ่าย MV เพราะ MV จะเป็นคนละอย่างกันเลย พอมาออกกล้องจะตื่นเต้นเกิน บทก็จะจำไม่ได้ ช่วงแรกๆ ก็เลยจะไม่ค่อยเป็นธรรมชาติครับ แต่พอเริ่มชินกับสถานที่ เริ่มสนิทกับทุกคน เราเริ่มไม่ค่อยเกร็งเท่าไหร่ พอหลังๆ เราก็เริ่มพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ครับ"
“อยากจะฝากให้ทุกคนติดตามชมซิทคอมเรื่องรูมเมทนะครับ เราตั้งใจที่จะทำกันมากๆ โดยเฉพาะพระเอกครับ เพราะว่าอย่างที่เห็นน่ะครับ พระเอกเป็นคนที่พูดอะไรไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่ ก็เลยต้องมาฝึกฝนเยอะๆ น่ะครับ ก็ตั้งใจมากๆ หวังว่าทุกคนจะเปิดเข้าไปดูนะครับ" แอนดรูว์ทิ้งท้ายด้วยการแอบกัดตัวเองเล็กๆ