“หนึ่งชัชวาล” ผู้กำกับ "พอดีคำ" นำเสนอ “กุหลาบเล่นไฟ”
บวงสรวงไปเรียบร้อย สำหรับละครรีเมคเรื่อง “กุหลาบเล่นไฟ” ของ “พอดีคำ เอ็นเตอร์เทนเมนท์” โดย “ธงชัย- มณีรัตน์ ประสงค์สันติ” และ ผู้กำกับ “หนึ่งชัชวาล ศาสวัตกลูน” นำทีมงานและนักแสดงบวงสรวงเอาฤกษ์เอาชัยเอาความสิริมงคลให้บังเกิดแก่ละครและทีมงานให้ทำงานราบรื่นและได้รับความนิยมมากๆ เมื่อออกฉาย
นักแสดงนำได้แก่ “ วีรภาพ สุภาพไพบูลย์, อานัส ฬาพานิช, ธีร์ วณิชนันทธาดา, นาว ทิสานาฏ ศรศึก, โบว์ ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์, เซฟฟานี่ อาวะนิค, โม อมีนา พินิจ, หนุ่ม สุรวุฑ ไหมกัน, เปิ้ล ภารดี อยู่ผาสุข, ขวัญกวินท์ ธำรงรัฐเศรษฐ์, นาตยา จันทร์รุ่ง, เดือนเต็ม สาลิตุล, พัฒนะ พันธุ์เทวะ, ฐรินดา กรรณสูต, ประถมาภรณ์ รัตนภักดี, วิชัย จงประสิทธิ์พร, เดวิด อัศวนนท์, ปัทมา ปานทอง, สุเชาว์ พงษ์วิไล, นึกคิด บุญทอง, ประไพ สิโนทก
ผู้กำกับ “หนึ่ง ชัชวาล” พูดถึงละครเรื่องนี้ว่า
“ตอนที่พี่ธงนำเสนอมามีสองสามเรื่อง แต่เลือกเรื่องนี้ เพราะว่าอยากทำเรื่องที่ไม่ใช่คอมาดี้ ทำ”วิมานมะพร้าว”เป็นคอมาดี้แล้ว แล้วก็อยากหนีดราม่าที่เป็นแนวแสนดี เพราะว่าทำ”ลูกไม้หลากสี”ไปแล้ว ก็เลยเรื่องเอาดราม่าแบบนี้บ้าง จิ้มเรื่องนี้ ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเป็นละครรีเมค ฟังจากชื่อปุ๊บ ก็เอาเลย”
พอรู้ว่าเป็นรีเมค ได้กลับดูของเก่าไหม
"เราจะไม่ดูของเก่าเลย ปกติเรื่องไหนที่รีเมค ก็จะไม่ดูของเก่า แล้วก็เจอเรื่องรีเมคบ่อยมาก เราไม่ดูของเก่า แต่ดูจากโจทย์ที่มาถึงมือเรามากกว่า บทละครที่เขียนมา เราก็ตีความจากบทนั้น เท่านั้นเอง แล้วก็ให้ทันยุคทันสมัยปัจจุบันด้วย"
กับเวอร์ชั่นนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างไร
“ก็คล้ายๆ เดิมแต่ว่านักแสดงเป็นเจนใหม่ พยายามผลักดันให้ 3 คนนี้คาแรคเตอร์ต่างไปจากเดิม ความยากก็ต้องเกิดขึ้น เพราะในบุคลิกของ 3 คนนี้ ทุกคนได้รับบทต่างจากบทเดิมๆ ที่เขาเคยเล่น ก็ต้องทำความเข้าใจ มีการเวิร์คช็อป มีการตีความกันหนัก ตอนนี้ยังไม่ลงตัว ต้องขัดเกลากันไปเรื่อยๆ
หนึ่งคือ นอกจากเปลี่ยนคาแรคเตอร์แล้ว เรื่องราวสตอรี่ของคนเขียนบท เขาพยายามจะให้แต่ละคนมีบทบาทเท่าๆ กัน ให้คนดูลุ้นแล้วก็เอาใจช่วย ไม่เฉพาะคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นทั้ง 3 ถึงแม้ว่าจะมีตัวละครตัวหนึ่งตายตอนกลางเรื่อง ก็คุยกันว่าต้องตายอย่างที่คนดูไม่อยากให้ตาย แล้วก็รู้สึกว่าเสียดายที่ตายไป เพราะฉะนั้นทุกคนจะมีบทบาทเท่ากัน”
นักแสดง 3 สาว มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
“นาว ปกติได้รับบทเรียบร้อย เรื่องนี้ก็มีบ้าง แต่จะสู้คนมากขึ้น ต่อปากต่อคำ ทันคน ไม่ใช่ถูกกดอยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็ลุกขึ้นมาเอาคืนบ้าง ครึ่งเรื่องหลังจะเห็นนาวเปลี่ยนไปจากเดิม จะทันสมัย เปรี้ยว เข้าวงการ ปะทะคารมกับเซฟฟานี่
เซฟฟานี่ นี่ก็เปลี่ยนจากคนเรียบร้อยมาเป็นคนทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ความรัก
ส่วนโบว์ก็คล้ายๆ คุณหนู ครอบครัวยากจน มีคุณแม่ครอบอยู่ตลอดเวลา บทบาทเด่นคือ มีช่วงหนึ่งต้องพิการนั่งรถเข็น และทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ความรักกลับคืนมา ก็จะมีความร้ายกาจในอินเนอร์ของตัวเอง แล้วเมื่อเธอตายก็เป็นต้นเหตุให้เพื่อนสองคนลุกขึ้นมาห้ำหั่นกัน
ทั้ง 3 คนก็พัฒนาขึ้นนะ แต่ยังไม่ได้ถึงจุดที่เราต้องการ เรายังมีไทมมิ่ง มีเวลาที่จะค่อยๆ ขุด ค่อยๆ แซะ เกลาไปเรื่อยๆ คิดว่าอีกไม่นาน น้องๆ ก็จะไปถึงจุดนั้น ตอนนี้ก็ต้องเริ่มปรับจูนกันนิดหนึ่ง ตอนต้นเรื่องคนดูจะได้เห็นรอยยิ้ม เห็นความสดใสของเพื่อน 3 คน
น้องแต่ละคนก็มีความแอคทีฟ มีความพยายาม อย่างโบว์ไปเรียนแอคติ้งมา เซฟฟานี่ก็ไปเรียนรู้จากการดูหนัง ส่วนนาวก็จะมีคำถามมาคุยกัน ทุกคนมีความสนใจหมด ตรงตามคาแรคเตอร์ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งต้องใช้ความสามารถการแสดงมาช่วย”
จุดเด่นของเรื่อง
“แตกต่างจากละครแย่งชิงตบตีเรื่องอื่นตรงที่ เราได้วัยรุ่น 3 คน ได้ความสดใสของเด็กมหาวิทยาลัย ความน่ารักของเด็กวัยรุ่น ให้คนดูติดแล้วรู้สึกลุ้น เอาใจช่วยเด็กๆ ทั้ง 3 คน ก่อนที่จะแยกกัน คนดูจะรู้สึกว่าทำไมต้องมาทะเลาะกัน ไม่อยากให้ทะเลาะกันเลย คนดูจะรู้สึกขัดใจตรงนั้น แล้วเขาจะตาม
ในแง่การทำงาน ก็จะซีเรียส หน่อย ตั้งใจหน่อย เพราะว่า นอกจากปั้นให้ตรงคาแรคเตอร์ ตามบทบาทที่ต้องการแล้ว สิ่งที่เราต้องไม่ลืมคือ 3 คน ต้องมีบุคลิก มีความโดดเด่นที่เท่ากัน โดยมีวีรภาพเป็นคนห่อ ต้องเข้าไปอยู่กับนางเอก 3 คน ประคองนางเอกทุกคน”
วีรภาพเป็นพระเอกแบบไหนในเรื่องนี้
“วีรภาพ โอเค.ครับกับบทนี้ เขาเก็ทเลย พอแสดงออกมาก็คอยถามว่าอย่างนี้ร้ายไปไหม แรงไปไหม ภาพลักษณ์จะดูโอเค.ไหม เขาเป็นห่วง เราเลยต้องบอกว่าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวดูภาพลักษณ์ให้
คนดูจะได้เห็นวีรภาพในอารมณ์ที่แตกต่างไป ได้เห็นอีกมุมหนึ่งการแสดงออกของความร้ายกาจ เป็นมุมของพระเอกในปัจจุบันที่ต้องมีบ้าง ร้ายก่อน แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยเริ่มรู้สึกสงสาร ในขณะที่ตอนต้นให้คนดูสงสารผู้หญิงก่อน แล้วค่อยมาสงสารวีรภาพตอนท้ายๆ
วีรภาพใช้ความแพรวพราวและสิ่งที่ตัวเองมีเอาออกมา มีความร้ายกาจชัดเจน แรกเริ่ม เป็นผู้ชายที่มีความรัก แต่แสดงออกไม่เป็น ใช้วิธีรุนแรง ใช้วิธีที่ตัวเองอยากจะได้ นอนกับผู้หญิงคนนี้ก็ใช้วิธีผิดๆ ปล้ำ หรือ การหลอกล่อทั้งหลายแหล่
ไม่ใช่พระเอกแสนดี เปิดฉากมาก็ปล้ำนางเอกเลย ถูกนางเอกตั้งแง่ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายที่เปอร์เฟค นางเอกเลยพยายามจะหนี แต่วีรภาพพยายามจะเข้าใกล้ ก็เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ว่าวิธีการแสดงความรักที่ถูกเป็นอย่างไร ตอนกลางเรื่องเขาเริ่มๆ จะดีขึ้น หลังจากที่ตัวโบว์เสียชีวิตเขาก็ให้บทเรียนทุกคน
ซึ่งปมทั้งหมดของตัวละครทั้ง 4 ตัวมาจากการเลี้ยงดูที่ต่างกัน เรื่องนี้นอกจากเป็นเรื่องของผู้หญิงที่แย่งผู้ชายแล้ว เป็นเรื่องของครอบครัวที่แตกต่างกัน การเลี้ยงดูทำให้แต่ละคนประสบปัญหาที่ต่างกัน”
หนักใจอะไรกับละครเรื่องนี้
“ตรงที่เป็นละครดราม่ามีผู้หญิงเป็นหลัก ความอ่อนหวาน ความนุ่มนวล ก็ต้องปรึกษากับผู้ช่วยผู้หญิง คอยดู คอยอะไร อีกอย่างหนึ่งก็ให้น้องๆ ผู้หญิงที่เล่นคอยบอก ผลัดกันเรียนรู้ โชคดีที่น้องๆ ทุกคนพร้อมแชร์ ไม่ว่าวีรภาพ หรือน้องทั้งสามคน”
สิ่งที่คนดูจะได้รับจากเรื่องนี้
“อย่างแรกเลย การเลี้ยงดูที่ถูกและผิดเป็นอย่างไร แล้วสอง การแสดงออกเรื่องความรัก ไม่ว่าเพศไหน ถ้าเราแสดงออกอย่างถูกวิธีมันก็จะไม่เกิดผลเสียเกิดขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ สติ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ การแก้ปัญหา ก็จะไม่เกิดเหตุร้ายเกิดขึ้น
ข้อดีของละครเรื่องนี้คือ มันมีมิติ พระเอกไม่ได้มีมีด้านเดียว มีร้ายด้วย ตัวนางเอกก็เหมือนกัน ทุกองค์ประกอบมีดีมีร้ายหมด เรื่องนี้เป็นเรื่องของมนุษย์จริงๆ คนจริงๆ ในชีวิตประจำวัน ก็เลยอยากให้คนดูติดตามแล้วนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันว่า จะทำให้เกิดผลดีผลเสียกับตัวเองยังไงบ้าง”
เป็นละครที่น่าดูอีกเรื่องหนึ่ง ด้วยชื่อของ “พอดีคำ” รับประกันได้เลยว่าไม่ผิดหวัง สมกับที่รอคอย