ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 3
จันทรกานต์นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง เหงื่อแตกจนชุ่มตัว พิชญาเดินเข้ามาในห้อง แล้วลงนอนเคียงข้าง พลางปรายตามองจันทรกานต์ด้วยสายตายั่วยวน
จันทรกานต์รู้สึกตัวลืมตาขึ้น เห็นพิชญานอนอยู่ใกล้ๆ ก็รีบถอยไปชิดขอบหัวเตียงอีกด้าน
“ชาย่า คุณเข้ามาได้ยังไง”
พิชญากระแซะตัวเข้าใกล้ขึ้นอีก
“คุณจันทร์ คืนนี้จะเป็นคืนของเรา ชาย่ารักคุณจันทร์ รักมานานแล้วได้ยินไหมคะ”
พูดพลางเข้าไปจะปลดเสื้อจากร่างของจันทร์
“เหล้าแก้วนั้น คุณใส่อะไรลงไป”
พิชญายิ้มยั่ว “แค่ยาที่จะทำให้เราสนุกด้วยกัน”
จันทรกานต์มองหน้าพิชญา ด้วยสายตาเคลิบเคลิ้ม เพราะฤทธิ์ยา “ชาย่า”
พิชญายิ้มพอใจ พลางโน้มลงไป จะจูบปาก แต่จันทรกานต์รู้สึกตัวขึ้นมาก่อน พลางรวบรวมกำลังลุกจากเตียง เซไปที่ห้องน้ำ พิชญารีบตามเข้าไป
พิชญาหัวเราะร่าเข้ามาในห้องน้ำ ขณะที่จันทรกานต์หลบอยู่ใต้ฝักบัว
“ดีเลยค่ะ เราจะได้อาบน้ำด้วยกัน”
พูดพลางก้าวเข้าไปประกบจันทรกานต์ แล้วบิดลูกบิดน้ำฝักบัว น้ำชะโลมร่างทั้งคู่ พิชญาหัวเราะระรื่น จันทรกานต์ฉวยจังหวะจับร่างพิชญาดันไปกระแทกมุมอาบน้ำ จนทรุดลง แล้วรีบผละออกจากห้องน้ำไปทันที
พลางลากกระถางที่ปลูกต้นไม้เลื่อนมาวางหน้าประตูห้องน้ำ แล้วค่อยๆ คลานไปที่ประตูห้องของตัวเอง ก่อนจะเปิดประตูออกไป
จันทรกานต์ประคองตัวเองออกจากห้อง มาเคาะประตูที่ห้องดาริกา
ดาริกาสะดุ้งจากเตียง พลางลุกมาที่ประตู มองผ่านตาแมว เห็นจันทรกานต์ ยืนพิงหน้าประตูอยู่
“จะตามมาด่าเราต่อหรือไงเนี่ย”
จันทรกานต์เคาะประตูรัว ดาริกาเลยเปิดออก
“บอกแล้วไงว่าฉันไม่มีเรื่องจะคุยกับคุณอีก ไปให้พ้นหน้าฉันได้แล้ว”
จันทรกานต์หายใจแรง หน้าแดง ตัวแดงไปทั้งร่าง ดาริกามองงง ๆ
“ช่วยผมด้วย ช่วยด้วย พาผมไปในห้อง”
“คุณไม่สบายหรือคะ”
จันทรกานต์หายใจหอบ
“ผู้หญิงในห้องผม ช่วยที อย่าให้เธอ อย่าให้เธอเจอผม เธอวางยาผม โอ๊ย ! ร้อนๆ จริง”
ดาริกา ตกใจ“ถูกวางยา งั้นมา มาค่ะ”
ดาริกาประคองจันทรกานต์เข้ามาในห้อง
“คุณโดนยาอะไรคะเนี่ย”
“สงสัยเป็นยาปลุก เอ้อ ปลุกอารมณ์”
ดาริกาสะดุ้งโหยง พลางรีบปล่อยมือ จนร่างจันทรกานต์ร่วงลงไปกองกับพื้น
“แล้วมาเข้าห้องฉันทำไมเนี่ย ฉันอยู่คนเดียวนะ”
จันทรกานต์ร้อนรุ่มไปทั้งตัว จนต้องรีบถอดเสื้อ ถอดกางเกง เหลือแต่กางเกงขาสั้นข้างใน
ดาริกาหน้าเสีย รีบหันไปหาไม้กวาดมา
“นี่ ๆ ฉันสู้นะ อย่าลืมฉันเรียนแม่ไม้มวยไทย”
“ ห้องน้ำอยู่ไหน”
“ทางโน้น”
จันทรกานต์จะเดินไป แต่กลับเซล้มไปที่เก้าอี้
“ช่วยพาผมไปที ผมร้อน”
ดาริกาลากจันทรกานต์เข้ามาใต้ฝักบัว แล้วรีบเปิดน้ำให้ จันทรกานต์หันมามองดาริกา แล้วมองเสื้อที่เปียกน้ำแนบเนื้อของเธอ ด้วยสายตาหื่นกระหาย ดาริการีบปิดหน้าอกตัวเอง
“คุณรีบออกไป ออกไป”
“ค่ะ ออกแล้วค่ะ”
ดาริการีบวิ่งจู๊ดออกไป ปิดประตู แล้วถอนใจโล่งอยู่หน้าประตู
พิชญาที่หลุดออกมาได้ รีบวิ่งออกมามองหาจันทรกานต์ ผ่านหน้าห้องของดาริกา เห็นผ้าขนหนูตกอยู่ก็รีบเคาะประตูทันทีอย่างแรง
“คุณจันทร์ ฉันรู้นะว่าคุณหลบอยู่ในนั้น ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”
ดาริกาได้ยินเสียงเคาะประตูก็สะดุ้งโหยง ก่อนที่จะข่มใจ รีบเปิดประตูออกไปประจัญหน้ากับพิชญา ต่างคนต่างชะงัก
“คุณ”
“อะไรเนี่ย เธอ ลูกน้องคุณวรางค์ใช่ไหม นี่วางแผนจับไม่ปล่อยเลยใช่ไหม”
“คุณหมายความว่ายังไง”
พิชญายิ้มเหยียด
“ก็โอ้โลมปฏิโลมกันตั้งแต่ในงาน แล้วนี่มาต่อกันที่คอนโด ห้องนี่เขาเช่าให้เธออยู่ชั่วคราวใช่ไหม”
“คุณนี่ช่างคิดนะ”
พิชญาเชิดใส่ พลางดันร่างดาริกาถอยไป แล้วเดินเข้ามากลางห้อง มองไปที่ประตูห้องน้ำ เพราะได้ยินเสียงน้ำแว่วมา
“คุณจันทร์ ออกมาเดี๋ยวนี้นะ ไม่ต้องหลบหน้าเลย”
พูดพลางจู่โจมไปที่ห้องน้ำทันที แต่ดาริการีบเข้ามาขวาง
“ฉันจะไม่ยืนเฉย ๆ ให้คุณดูถูกอีกแล้วนะ ถ้าคุณไม่ออก ฉันจะรายงานคุณพ่อคุณแม่เขาว่าคุณวางยาเขา”
พิชญาหน้าเจื่อน แต่รีบกลบเกลื่อน
“บ้าเหรอ วางยาบ้าบออะไร เขาเมา แค่เมาน่ะ เขาเลยพูดไม่รู้เรื่อง นี่ .ไม่ต้องมาขู่ว่าจะฟ้องพ่อแม่ เพราะฉันเองก็สกุลเดียวกับเขา ฉันคือทัศนัยเหมือนกัน ฉัน ภรรยาของหม่อมหลวงจักรพัฒน์ ทัศนัย”
ดาริกาฟังแล้วก็อึ้งไป
“อุ๊ย มีสามีแล้ว แล้วคุณจะยุ่งกับคุณจันทร์ทำไมอีก ออกไปได้แล้ว”
ทันใดนั้นประตูห้องน้ำก็เปิดออก จันทรกานต์เปลือยท่อนบนยืนโงนเงนไปมา พิชญาจะเข้ามากอด แต่กลับโดนจันทรกานต์ตะเพิดกลับ
“กลับไปเดี๋ยวนี้”
“ไม่ ชาย่าไม่กลับ ถ้าจะกลับก็กลับไปที่ห้องคุณ นะคะ ชาย่าจะดูแลคุณเอง
“คุณดาวดูแลผมได้อยู่แล้ว”
พิชญาหันขวับมาทันที
“อ้อ อย่างที่คิดไว้ไม่ผิด คุณกับยายนี่แสดงว่าอยู่กินกันมานานแล้วใช่ไหม”
“ไม่ใช่นะคุณ”
ดาริกาพยายามจะอธิบาย พอดีกับที่จันทรกานต์เซ เธอจึงต้องรีบประคองไว้ พิชญาเห็นแล้วแทบอยากกรี๊ด
“ไม่ต้องมาแก้ตัว ลงทุนเช่าห้องให้มันอยู่แบบนี้ อย่างนั้นซิถึงอยากย้ายออกมาอยู่ลำพัง ที่แท้ก็มาติดนังเมียบำเรอ ราคาถูกนี่เอง ทำไมคุณ คุณใฝ่ต่ำแบบนี้”
“กลับไปได้แล้ว ถ้ายังไม่ยอม ผมจะรายงานเรื่องทั้งหมดให้พี่จักรฟัง แล้วคุณจะลำบาก”
จันทรกานต์ยื่นคำขาด พิชญามองทั้งคู่อย่างแค้นใจ
“ได้ กลับก็ได้ ขอให้มีความสุขนะ นังเมียบำเรอ”
พิชญาสะบัดออก กระแทกประตูปังใหญ่ ดาริกาอ้าปากค้าง จะด่าตอบแต่ด่าไม่ทัน
“ทำไมไม่แก้ตัวให้ฉันบ้าง ปล่อยให้แม่นั่นคิดเองเออเองว่าฉันเป็นเมียคุณอยู่ได้ยังไง”
“ผมไม่รู้เรื่อง มึนไปหมดแล้ว หิวน้ำ ขอน้ำทานหน่อยครับ”
ดาริกาประคองร่างจันทรกานต์ขึ้นนั่งที่โซฟายาว แล้วรีบไปหยิบน้ำจากตู้เย็น จันทรกานต์ยิบทั้งขวดขึ้นซด ดาริกา มองอาการแล้วเริ่มเห็นใจ
“ไปโรงพยาบาลไหมคุณ”
จันทรกานต์ส่ายหน้า “ไม่ได้ครับ เดี๋ยวจะเป็นข่าว”
พลางพยายามยันตัวขึ้น “พาผมไปที่ห้องน้ำอีกที มันยังร้อนอยู่”
ดาริการีบประคองจันทรกานต์เข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง แล้วเมื่อกำลังจะออกจากห้องน้ำ จันทรกานต์ก็เรียกไว้
“ดาริกา ขอบคุณนะครับที่ช่วย”
ดาริกาอึ้งไป เพราะเสียงนั้นดูจริงใจและน่าสงสาร
ดาริกานอนมานอนหลับปุ๋ยบนเตียง แล้วก็ฝันไปโดนจันทรกานต์ปล้ำ ดาริกาโบกมือโวยวาย แล้วก็สะดุ้งตื่น พลางนึกเป็นห่วงจันทรกานต์ขึ้นมา
ดาริกาออกมาที่โถงกลาง ถือผ้าห่มผืนใหญ่มาด้วย เห็นจันทรกานต์นอนคุดคู้เหมือนเด็กอยู่ที่โซฟายาว มีผ้าขนหนูห่มร่างท่อนบนอยู่ ดาริกามองอย่างเวทนาปนหมั่นไส้
“เฮ้อ ทำไมต้องมาเป็นภาระของเราก็ไม่รู้ อีตาหม่อมลวงโลก”
บ่นพลางเอาผ้าห่มผืนหนา ห่มร่างให้ แล้วเดินผละไป
คุณหญิงอรชรนั่งหน้าเครียดอยู่ที่โต๊ะอาหารหน้าเครียด โดยมีป้าแมว แม่บ้านสาวใหญ่รุ่นราวคราวเดียวกัน คอยบริการอยู่
อิงฟ้าในชุดผ้าถุงและเสื้อคอกระเช้า เดินเข้ามาที่โต๊ะ คุณหญิงไม่ทันหันไปมอง แต่ปากรีบสั่งงาน
“ยายแป้ง ไปหยิบยามาให้ฉันที”
อิงฟ้าแอบขำ แล้วรับสมอ้าง “วางไว้ตรงไหนคะ”
“หัวเตียง”
“คุณท่านขา คุณหนูอิงฟ้าค่ะ”
ป้าแมวรีบบอก คุณหญิงหันมามองก็ตกใจ
“ว้าย ยายฟ้า แต่งตัวเหมือนคนใช้เข้าไปทุกวันแล้วนะ”
อิงฟ้าหย่อนตัวลงนั่ง ที่เก้าอี้ “ทำไมละคะ สบายดีออก”
คุณหญิงมองค้อน
“สบายย่ะ แต่ลำบากฉัน แยกไม่ออกแล้ว ใครลูกสาว ใครคนใช้ นี่ อย่าบอกนะว่าจะออกจากบ้านชุดแบบนี้”
อิงฟ้ายิ้มหวาน
“ก็แบบนี้ละค่ะ แม่จะให้หนูใส่ชุดสุ่ม มีระบาย มีโบเหรอคะแม่”
คุณหญิงถอนหายใจ
“อ้อ เหมือนอย่างเมื่อคืนที่แกยอมใส่ใช่ไหม แปลกใจแต่แรกแล้วว่าทำไมแกยอม แท้ไว้พรางชุด
สก๊อยไว้ข้างใน ตกลง เลยชวดไม่ได้เจอหม่อมหลวงจันทรกานต์ ฉันอุตส่าห์ไปโฆษณากับคุณดารารายไว้เสียดิบดี”
“แม่ขา อย่าบังคับหนูเลยนะคะ ยิ่งแม่หาสามีให้หนูแบบนี้ หนูไม่มีวันยอมหรอกค่ะ ยิ่งบังคับหนูยิ่งออกแรงต้าน”
คุณหญิงมองค้อนอีกรอบ
“เอาน่า ให้แกเจอเขาก่อนเถอะ กลัวจะรีบคลุมถุงแล้วชน นี่ แม่นัดหมายเขาให้แล้วนะ แม่ส่งโครงการหาทุนให้ “บ้านเด็กดี” ของหนูไปให้คุณดารารายเขาแล้ว เขารับพิจารณา คุณดารารายน่ะเขาสนใจหนูมากนะ”
อิงฟ้า ลุกพรวดขึ้นทันที
“แม่คะ อะไรที่หนูไม่ได้รับรู้ด้วย หนูไม่สนค่ะ หนูไปละ”
อิงฟ้าขยับจะออกจากห้องอาหาร แต่ยังช้ากว่าคุณหญิง ที่แกล้งเปรยเสียงดัง
“งานนี้ เห็นเขาจะช่วยเป็นเงินหลายแสนเชียวนะ”
อิงฟ้าชะงัก สีหน้าอ่อนลงทันที
ทางด้านจันทรกานต์ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว กำลังทานข้าวต้มร้อน ๆ ฝีมือดาริกา
“ทั้งเผ็ดทั้งร้อนเลยครับ คุณใส่ขิงกับพริกไทยเยอะเกินนะ”
“ตาย แค่นี้ก็เผ็ดแล้วเหรอคะ แต่มันดีนะ มันช่วยขับลม ขับพิษค่ะ เดี๋ยวคุณจะสบายขึ้น ทานเสร็จแล้ว ทานยาแก้ปวดหัวหนึ่งเม็ด”
“งั้นผมทานเลย”
จันทรกานต์หยิบยาขึ้นทานพร้อมน้ำ
“ยังไงก็ขอบคุณที่ช่วยผมไว้ ทั้ง ๆ ที่คุณโกรธผมอยู่”
“ฉันแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องเซ็กส์ของคุณได้”
จันทรกานต์ส่ายหน้า
“ไม่ใช่เรื่องเซ็กส์ครับ ผมโดนวางยาต่างหาก นี่ผมยังกลัวว่าเธอจะบุกเข้ามาอีก”
“ง่ายมาก บอกความจริงเธอไปซีคะ คุณเป็นเก้งกวาง ไม่ใช่บ่างชะนี”
จันทรกานต์แทบจะสำลัก “ เออ ผมไม่เปิดเผยเรื่องส่วนตัวให้ใครทราบนะครับ”
“งั้นเธอก็ต้องตามรังควานคุณอีกแน่ ๆ เอางี้ เปลี่ยนคียการ์ดห้องคุณใหม่ เดี๋ยวฉันช่วยค่ะ งานนี้จะได้จัดการกับแม่คนรับสินบนด้วย”
จันทรกานต์มองตามอย่างสงสัย
“ดิฉันไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นค่ะ อย่ามากล่าวหากันชุ่ย ๆ” เรอเน่ปฏิเสธเสียงแข็ง เมื่อดาริกาพาจันทรกานต์มาเอาเรื่อง
“ไม่ชุ่ยมังคะ เพราะฉันเห็นกับตา คุณได้เงินสินบนก้อนใหญ่จากคุณพิชญา รีบกุลีกุจอมาเปิดห้องให้ บริการกันแบบเดอลุกซ์”
เรอเน่ยักไหล่ “ไม่มีหลักฐาน กล่าวหาฉันไม่ได้”
“หลักฐานมีแน่ค่ะ ถ้าเปิดกล้องวงจรปิดเช็คดู”
เรอเน่หน้าเจื่อนทันที
“ว่าไงครับคุณเรอเน่ ผมขอให้เปิดดูเดี๋ยวนี้เลยครับ”
“เออ เจ้าหน้าที่ไม่ว่างค่ะ มาดูตอนเย็นได้ไหมคะ”
ดาริกามองหน้าอย่างรู้ทัน
“ตอนเย็นคุณก็จะลบทิ้งไปแล้วน่ะซี ขอดูเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นเรื่องถึงคณะกรรมการตึกแน่ ๆ”
เรอเน่หน้าซีด รีบยกมือไหว้ขอโทษจันทรกานต์ อ้างว่าโดนพิชญาหลอกว่าจันทรกานต์ป่วยหนัก ให้เปิดห้องให้เธอเข้ามาดูแลจันทรกานต์ ดาริกาจึงออกคำสั่งให้เรอเน่เปลี่ยนคีย์การ์ดใหม่ให้จันทรกานต์ โดยห้ามคิดค่าใช้จ่าย จันทรกานต์ถึงขนาดชมเปาะว่า ดาริกามีความสามารถในการจัดการกับคนได้เก่ง
เมื่อจัดการกับเรอเน่เรียบร้อยแล้ว จันทรกานต์ก็อาสาจะไปส่งดาริกาที่ทำงาน แต่เธอปฏิเสธ พลางกำลังจะเดินแยกไป แต่จันทรกานต์รียกไว้อีก
“ดาริกา”
ดาริกาหันมา รู้สึกเสียงนั้นแปลกกว่าเดิม ดูจริงจังและอบอุ่น
“ยังไงก็ต้องขอบคุณที่ช่วยเหลือผม ไม่โกรธผมแล้วนะ”
ดาริกามองค้อน “ยังโกรธอยู่ค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ แต่ขออย่างเดียว ขอให้คุณยังไปช้อปปิ้งที่ห้างแกรนด์ ได้ไหม”
“ตลก ยังจะให้ฉันไปเสียเงินให้ห้างคุณอีกหรือ”
จันทรกานต์มองดาริกาแล้วยิ้มกว้าง
“ช้อปฟรีทุกอย่างที่คุณอยากได้ แทนคำขอบคุณ”
ดาริกาส่ายหน้า “ไม่ค่ะ โน ไม่ปฏิเสธค่ะ คำไหนคำนั้นนะ พูดแล้วเอาคืน มะรืนนี้ตาย”
ดาริกายิ้มร่า แล้วหมุนตัว จันทรกานต์อมยิ้มด้วยความเอ็นดู
“หา คุณจันทร์อยู่ห้องติดกันกับเธอ”
วรางค์ถึงกับตกใจ เมื่อได้ยินสิ่งที่ดาริกาเล่า
“ค่ะ ชีไม่ยอมบอกว่าชีเป็นหม่อมหลวงจันทรกานต์ เพื่อจะลองใจหนู”
อาร์ตี้พยักหน้าเห็นด้วย
“ที่จริงก็ลองใจพวกเราทุกคนแหละ งั้นซิ มาเดินสำรวจตอนพวกเราทำงาน แล้วที่ว่าเป็นเกย์เก้งน่ะ จริงรึเปล่า”
ดาริกาพยักหน้าหงึก
“เรื่องนี้คงไม่โกหกหรอกค่ะ เพราะคู่ขาคือคุณวิวิทธิ์นั่นแหละ เวลาเธออยู่ด้วยกันนะ หวานยังกะน้ำตาลเคลือบแท่งไอติม”
วรางค์ทำท่าขนลุก “พูดเสียเห็นภาพเลย”
“นั่นซี ถึงให้เป็นเลขาคนสนิท ไม่อยากเชื่อเลย ดูแมน ๆ ทั้งคู่ กลายมาเป็นแฟนกันได้”
ดาริกายิ้มขำ “น่ารักดีออก”
คุณชายจันทรกำลังอ่านหนังสือพิมพ์ธุรกิจ มีภาพจันทรกานต์ในชุดเจ้าชายสายฟ้าลงกรอบใหญ่ พร้อม
ข้อความบรรยายภาพ
“กลยุทธ์ห้างแกรนด์ ส่งลูกชายเป็นนายแบบโชว์ตัวกลางงาน”
ขณะที่ดารารายอ่านหนังสือพิมพ์เล่มอื่น ที่ลงรูปและเนื้อข่าวในเชิงจิกกัดไม่แพ้กัน
“แม่จะเอาหน้าไปไว้ไหนละเนี่ย ลงข่าวกัดเสียวิ่นขนาดนี้ ทุกฉบับเลยด้วย”
วิวิทธิ์ที่นั่งอยู่ด้วยรีบแย้ง
“แต่มีหนังสือกับรายการทีวีมาขอสัมภาษณ์เยอะเลยนะครับ เห็นมีผู้จัดละครมาทาบทามด้วย”
“หวังว่าลูกคงไม่อยากเป็นดาราหรอกนะ”
จันทรกานต์มองหน้ามารดา แล้วแกล้งพูดกระเซ้า
“ก็ไม่แน่หรอกครับแม่ ทั้งดัง ทั้งรายได้ดีนะครับ”
ดาราราย ยกมือกุมขมับ
“โอ๊ย ! อย่ามาพูดให้แม่หัวเสียไปมากกว่านี้เลย นี่ โปรเจ็กต์ใหม่ที่แม่อยากให้เราทำร่วมกับเจ้าของ
โปรเจ็กต์”
พูดพลางวางแฟ้มลงตรงหน้า จันทรกานต์เปิดออกดู
“โปรเจ็กต์อะไรครับ”
“งานฝ่ายพีอาร์ งานการกุศล หาทุนให้บ้านสงเคราะห์เด็ก ชื่อว่า“บ้านเด็กดี” เจ้าของโครงการเขาชื่ออิงฟ้า”
จันทรกานต์มองหน้ามารดาอย่างแปลกใจ
“ทำไมต้องเป็นผม แล้วทำไมต้องเป็น อิงฟ้า”
“เพราะแม่อยากให้เรารู้จักกับแม่หนูคนนี้น่ะซี”
คุณชายจันทรแอบมองภรรยาอย่างใคร่ครวญ
อ่านต่อหน้า 2
ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 3 (ต่อ)
เมื่ออยู่กันตามลำพัง คุณชายจันทรก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามดารารายถึงเรื่องที่คาใจ
“หนูอิงฟ้าที่คุณว่า คือลูกสาวคุณหญิงอรชร ใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ”
“กำลังคิดอะไร จะจับคู่กับลูกชายเราเหรอ”
“ใช่ค่ะ หนูอิงฟ้านี่แหละ เหมาะที่สุดเลย ทั้งชาติตระกูล ทั้งฐานะ หน้าตาก็จิ้มลิ้ม และสำคัญที่สุดรักเด็กค่ะ”
คุณชายจันทรส่ายหน้า
“ไม่คิดจะให้ คุณจันทร์เขาหาของเขาเองเหรอ”
“กลัวค่ะ กลัวหาเองแล้วไปได้พวกหญิง “แน่นหน้าอก” หรือไม่ก็ “คันหัว” มาเป็นสะใภ้ วังทัศนัยคงไม่รอด”
คุณชายหัวเราะ พลางเดินเข้ามาโอบภรรยา
“ทำไมคิดได้ขนาดนั้น จันทร์เขาก็คงมีมาตรฐานของเขาอยู่ละ”
ดารารายถอนหายใจ
“วางใจได้ที่ไหน ดูซีคะ เด็กคุณวรางค์ที่ชื่อ ดา ดา อะไรนั่น”
“ชื่อดาวครับ”
ดารารายชักสีหน้า
“ดันมาชื่อเดียวกับฉันอีก แม่นั่นยังหลอกล่อคุณจันทร์เสียยอมแก้ผ้าแก้ผ่อน แถมยังยอมให้ล้างเนื้อล้างตัวอีก ดาวยอมไม่ได้หรอกค่ะ สะใภ้แบบนี้ คนที่แน่นอกมันคือเราเสียมากกว่า”
“แต่ถ้าลูกเขาอึดอัดที่แม่เลือกสะใภ้ให้ ก็อย่าไปบังคับลูกเลยนะ”
ดารารายยิ้มให้สามี พลางพูดอย่างมั่นใจ
“รับรองค่ะว่าไม่อึดอัดแน่นอน นี่ไงคะ รูปหนู “อิงฟ้า” น่ารักจะตาย”
พูดพลางกดรูปอิงฟ้าในคอมฯ ให้ดู คุณชายจันทรดูแล้วก็อมยิ้ม แต่ไม่พูดอะไร
จันทรกานต์กับวิวิทธิ์หอบงานมาทำต่อที่คอนโดของจันทรกานต์ จู่ๆจันทรกานต์ ก็ถอนใจ
“วิวิทธิ์ อยู่อย่างชายโสดนี่เหงาไหม”
“เหงาเหรอครับ ไม่ค่อย แต่ก็มีบ้าง ทำไมถามผมอย่างนั้น หรือว่าคุณกำลังเหงา”
จันทรกานต์ส่ายหน้า
“เปล่า แต่แม่คิดว่าผมเหงาน่ะ ถึงได้อยากจะจับคู่ให้ผม เฮ้อ ผมจะทำยังไงดี”
วิวิทธิ์มองจันทรกานต์อย่างนึกเห็นใจ
“ถ้าอึดอัดก็ปฏิเสธไปซีครับ”
“เป็นคุณจะทำยังไง” จันทรกานต์ย้อนถาม
“ต้องขอเจอตัวก่อนครับ แล้วค่อยตัดสิน ไม่แน่ คุณอิงฟ้าอาจจะสเป็กคุณก็ได้นะ”
จันทรกานต์นิ่งคิด
จันทรกานต์กับวิวิทธิ์มายืนรอลิฟท์ วิวิทธิ์แบกกล่องอาหารแช่แข็งที่วางซ้อนกันสูง จนกล่องจะร่วงลงมา จันทรกานต์รีบเข้าประคอง จนดูเหมือนอยู่ในท่าตระกองกอดกัน ประตูลิฟท์เปิดออกพอดี ดาริกาที่อยู่ในลิฟท์ มองทั้งคู่แล้วก็ชะงัก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้าง ทั้งสองหนุ่มหันมามองแล้วรีบผละจากกัน
“สวัสดียามค่ำค่ะ น่ารักจัง ช่วยกันคนละไม้คนละมือ แหม....แย่จังที่ฉันมาขัดจังหวะ แต่อย่าลืมนะคะ หน้าต่างมีหู ประตูมีตา บนหลังคามีกล้องวงจรปิด ฮิฮิ”
วิวิทธิ์เริ่มฮึดฮัด
“กลับล่ะครับ”
“อ้าว ผมไปส่งที่รถไง แบกคนเดียวไหวเหรอ”
ดาริกาทำหน้าซึ้ง “ห่วงใย”
พลางเดินกลับเข้าห้องไป วิวิทธิ์ส่ายหน้า
“เธอยังเข้าใจผิดอยู่นะครับ”
“ปล่อยเธอไปเถอะ”
วิวิทธิ์เข้าลิฟท์ไป จันทรกานต์เดินผ่านหน้าห้องดาริกา แล้วเกิดอาการปวดท้องเป็นริ้วขึ้นมา
ดาริกาเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว กำลังเอาข้าวที่ตากในกระด้งมาเก็บไว้มุมครัว พลันได้ยินเสียงกุกกัก หน้าห้อง ก็รีบเดินมาดู เห็นจันทรกานต์ยืนทำหน้าบิดเบี้ยวอยู่ ก็รีบเปิดประตูทันที
“ผมปวดท้องน่ะ คุณมียาไหม”
“หน้าซีดจัง เป็นมากไหมเนี่ย ทานอะไรรึยัง”
จันทรกานต์ส่ายหน้า ดาริกาเอามือมาอังหน้าผาก แล้วจับที่ท้อง จันทรกานต์ถึงกับสะดุ้ง
“แหม ! จับมากกว่านี้ก็เคยแล้ว ทั้งจับทั้งลูบไล้ ลมทั้งนั้นเลย เอาอย่างนี้ จะรังเกียจไหม ถ้าฉันจะเข้าไปเยี่ยมห้องคุณ”
จันทรกานต์นอนหงายอยู่บนโซฟา ดาริกานั่งอยู่ข้าง ๆ แล้วกดท้องน้อยช้าๆ จนจันทรกานต์เรอออกมาดังลั่น
“เป็นไง ดีขึ้นไหมคะ”
จันทรกานต์ยิ้มเจื่อน ๆ พลางลุกขึ้นนั่ง
“ครับ”
“ถ้ามีลมอีก ให้คุณนอนหงาย แล้วยกขาขึ้นให้เข่าแนบกับหน้าท้อง มันจะช่วยไล่ลมได้ คราวนี้จะสบายตัวเลย เพราะลมกัมมัชวาต จะพรูดออกทั้งทางทวารบาลทั้งหมด ตั้งแต่ปากไปจรดทวาร”
จันทรกานต์รีบโบกมือ “เข้าใจครับ ไม่ต้องอธิบาย”
ดาริกากวาดตามองไปรอบ ๆ ห้อง
“ฉันว่าห้องพี่พุดตานหรูแล้ว ห้องคุณหรูกว่าอีก มาค่ะ ได้เวลาทานโจ๊กของฉันแล้ว ต้องทานของอ่อนแบบนี้แหละ”
ดาริกาเดินนำมาที่โต๊ะอาหาร ที่วางชามโจ๊กปิดฝาอยู่ ข้าง ๆ วางแฟ้มบ้านเด็กดีอยู่ ทั้งสองลงนั่งด้วยกัน
“คุณวิวิทธิ์ เขาน่าจะได้อยู่ดูแลคุณ แทนที่จะเป็นฉัน”
จันทรกานต์กำลังจะอ้าปากอธิบายเรื่องเขากับวิวิทธิ์ แต่ยังเอิญดาริกา ที่มองไปที่แฟ้ม เห็นเขียนว่า “บ้านเด็กดี” พูดขัดขึ้น
“คุณรู้จักมูลนิธินี้ด้วยเหรอคะ”
“ไม่เชิงครับ ผมกำลังช่วยหาทุนให้มูลนิธินี้อยู่”
ดาริกา ยกมือไหว้
“สาธุค่ะ สนับสนุนอย่างยิ่ง เพราะครูตุ้ยทำเพื่อเด็กกำพร้า เด็กไร้โอกาสจริง ๆ ฉันเคยไปทำบุญที่นี่หลายครั้งแล้ว เด็ก ๆ น่ารักทั้งนั้นเลย”
“ผมอยากไปที่นี่ ช่วยพาผมไปหน่อยได้ไหม”
ดาริกาพยักหน้ายิ้มๆ
“เรื่องทำบุญฉันช่วยเต็มที่ อีกอย่างบ้านเด็กดี ออกไปทางบ้านฉันพอดี”
“บ้านคุณ ?” จันทรกานต์ถามย้ำ
“ค่ะ วันเสาร์นี้ฉันกลับบ้าน คุณแวะไปรับฉันก็ได้ เดี๋ยวเขียนแผนที่ให้นะ”
ดาริกายิ้มแย้ม จันทร์ยิ้มตอบ
ขณะที่คุณจักรกำลังออกกำลังอยู่ พิชญาเดินกรีดกรายเข้ามานั่งใกล้ ๆ
“มีอะไรทานบ้าง ผมหิวแล้ว”
พิชญาเบ้ปาก
“ไม่มีค่ะ ขี้เกียจทำ เราออกไปทานมื้อค่ำข้างนอกกันไหม”
คุณจักรถอนหายใจ
“ลืมแล้วเหรอว่าเราต้องประหยัด นี่ก็ใกล้สิ้นเดือนแล้วด้วย”
พิชญาหน้าตึงทันที
“เฮ้อ ! เป็นม.ล. เงินเดือนไม่ชนเดือน ฉันเล่าให้ใครฟังก็คงไม่มีใครเชื่อ นี่ถ้าพ่อคุณไม่ทำโรงงานทอผ้านั่นเจ๊ง คุณคงไม่ต้องนั่งใช้หนี้หัวโตแบบนี้”
คุณจักรหน้าสลด “หยุดพูดเรื่องคุณพ่อผมได้แล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรเลย”
“ที่ฉันพูดเพราะฉัน อยากจะหาทางออกให้คุณด้วย”
พิชญาเสนอตัวว่าอยากทำงานที่เดอะ แกรนด์ เมื่อคุณจักรไม่เห็นด้วย พิชญาโมโหจึงยื่นคำขาดว่าจะหนีไปทำงานที่ต่างจังหวัด และกลับบ้านปีละครั้ง คุณจักรถึงกับสะอึกกับเงื่อนไขของภรรยา
ดาริกาอยู่ที่บ้านตาทศ กำลังเตะกระสอบทรายอย่างหนักหน่วง โดยมีตาทศช่วยยึดกระสอบไว้
ขณะที่กุสุมากำลังเก็บผักสวนครัวอยู่มุมบ้าน ได้ยินทุกอย่างที่ตาทศพูดกับดาริกา
“ต้องฝึกไว้จะได้ไว้สู้กับไอ้ผู้ชายที่มันมารังแกเรา อย่างไอ้นักร้องนั่นน่ะ”
“ค่ ะตา เจอแข้งอำมหิตของหนูเข้าไป ไอ้ซุปตาร์นั่นมันไม่กล้ามายุ่งกับหนูแล้วละ”
ตาทศหัวเราะร่วน
“ดีมาก เดี๋ยวท่าต่อไป ตาจะสอนหักงวงไอยรา แล้วต่อด้วยนาคาบิดหาง”
กุสุมารีบออกมาห้าม
“พ่อ พอเลย ลูกสาวหนูกลายเป็นทอมบอยไปแล้ว ยายดาว ไปอาบน้ำแล้วมาช่วยแม่ทำกับข้าว เขาเหมากับข้าวเราตั้งสิบกว่าอย่าง ต้องขนไปที่วัดอีก”
กุสุมากลับเข้าบ้านไป ดาริกาหันมาขยิบตากับตาทศ
กุสุมาและดาริกากำลังช่วยตักอาหารเลี้ยงคนในวัดที่มาทำบุญ ขณะที่อีกร้าน เป็นร้านขายกับข้าวของนางสุดสวาท สาวใหญ่กับสุดหล่อและสุดที่รัก ลูกชายและลูกสาววัยรุ่น ท่าทางเป็นเด็กแว้นท์และสก๊อย ทั้งหมดมองดูอาหารที่เหลือบานเบอะวางอยู่เต็มกระบะ
“แม่ เอาไง ของเหลือบานเบอะ ไม่มีคนสั่งกินเลย”
สุดที่รักหันมาถามมารดา สุดสวาทปรายตามองไปที่เต๊นท์ของกุสุมาอย่างขัดใจ
“ก็นังผีเปรตแม่ลูก มันมาอาหารฟรีแจกคนมาทำบุญน่ะซี “
“จัดการมันเลยแม่”
สุดหล่อยุส่ง จากนั้นทั้งสามแม่-ลูก ก็มองไปที่กุสุมาและดาริกาที่ตักข้าวมือเป็นระวิง ด้วยความอิจฉา พลางคิดแผนร้าย
ดาริกายกถาดมาเสิร์ฟข้าวที่โต๊ะหนึ่ง สุดที่รักตั้งใจเดินผ่าน แล้วแกล้งกระแทกดาริกาอย่างแรง
จนเซไป ข้าวในจานหกเต็มโต๊ะ คนที่โต๊ะลุกขึ้นร้องเอะอะ แล้วสุดที่รักกับสุดหล่อ ก็รวมหัวกันล้อดาริกาว่าเป็นหลานสัปเหร่อ บ้านทำด้วยไม้ฝาโลง
ดาริกาพยายามข่มใจ พลางหันไปมองหน้าแม่
“อย่าไปสนใจลูก ทำงานของเราไป”
สุดสวาทรีบออกโรงมาช่วยลูก
“นี่พี่ อย่ามัวกินข้าวฟรีร้านนังนั่นอยู่เลย มันลูกสาวสัปเหร่อ กับข้าวที่มันทำน่ะน่าขยะแขยง บ้านมันก็อยู่ติดป่าช้า บางทีกลิ่นเน่าในอาหารโชยหึ่งเลยนะพี่ กลิ่นศพน่ะ”
คนกินวางช้อนทันที ดาริกาเดินปรี่ไปเอาเรื่องทันที กุสุมาเองก็ทนไม่ไหว เข้าไปช่วยดาริกาด้วย“อ้อ ขายกับข้าวไม่ออก ไม่มีคนกินเลยพาล ก่อนมาหาเรื่องฉัน ก็ลองดูฝีมือของตัวเองก่อนนะนังหวาด ว่าสุนัขมันรับทานได้รึเปล่า”
สุดสวาทกรีดลั่น พลางพยายามนึกคำด่าตอบโต้
“ อี อีอะไรดีวะ”
สุดที่รักช่วยด่าแทน “อีผัวทิ้งไงแม่”
สามแม่ลูกเฮลั่น ดาริกาและกุสุมา กำหมัดแน่น เลือดขึ้นหน้า
ขณะที่วิวิทธิ์ขับรถของจันทรกานต์มาจอดที่หน้าวัด ก่อนที่ทั้งสองลงจากรถพร้อมกัน
“คุณจันทร์ คิดยังไงล่ะครับ ถึงจะพาคุณดาริกาไปบ้านเด็กดี”
วิวิทธิ์อดสงสัยไม่ได้
“ไม่รู้ซี ผู้หญิงคนนี้มีมุมมองที่ผมว่าแปลกดี แล้วเขาก็รู้จักมูลนิธินี้ดีเสียด้วย”
“แต่อย่าลืมว่าคุณกำลังมาดูตัวคุณอิงฟ้านะครับ”
จันทรกานต์หน้าสลด “ไม่ลืมหรอก”
“ผมอยากเห็นแล้วซีว่าหน้าตาเธอเป็นยังไง พอจำได้ไหมครับ เห็นว่าเคยพบกันตอนเด็ก ๆ”
จันทรกานต์ส่ายหน้า “ยอมรับเลยนะว่าผมจำอะไรไม่ได้เลย”
สามแม่ลูกตัวแสบ กำลังรวมหัวกันนิทากุสุมาให้คนที่มาทำบุญฟัง
“ พ่อแม่พี่น้องเจ้าขา เห็นนังกุสุมามันแสนดี ทำบุญทำทานอย่างนี้ สมัยสาว ๆ น่ะ ยิ่งกว่าโสเภณีข้ามชาติอีกนะคะ หนีออกจากบ้านไปมีผัวตำรวจ แล้วที่สุด ผัวทิ้ง หอบลูกติดท้องซมซานกลับมาบ้านพ่อมันนี่ไง”
ดาริกากับกุสุมาพยายามสะกดกลั้น ขณะที่สุดหล่อเดินส่ายอาดๆ เข้ามาหาดาริกา ที่ยืนกำหมัดแน่น
“นังดาว แกมันลูกไม่มีพ่อ เพราะฉะนั้นอย่ามาทำตัวเย่อหยิ่งนัก เห็นพวกข้าแล้วมองด้วยหางตา นึกว่าสูงส่งนักเหรอวะ ทั้ง ๆ ที่แกก็เรียนโรงเรียนเดียวกับข้า ชั้นเดียวกัน ครูคนเดียวกัน”
ดาริกาพยายามข่มอารมณ์ ตอบโต้กลับไปแบบนิ่งๆ
“ใช่ เรียนโรงเรียนเดียวกัน แต่ทำไมนะฉันรู้สึกว่าฉันสูงส่งกว่าพวกแกมาก ดูแกตอนนี้ซี ไม่ได้ขับ
วินมอไซค์ส่งคนเฉย ๆ แต่แอบส่งยาเป็นอาชีพเสริมไปด้วย”
“เฮ้ย มากไปแล้ว อย่างนี้มันต้องไฟว์”
สุดหล่อปราดเข้ามาจะตบหน้า ดาริกาหลบ แล้วสวนหมัดพุ่งเข้าเต็มหน้า สุดหล่อเสียหลักล้มไป
ดาริกาหมุนตัวเตะสุดหล่อถลาไปบนโต๊ะกลิ้งไปบนพื้นไม่เป็นท่า สุดหล่อแหกปากลั่น สุดสวาทและสุดที่รักเข้ากระชากผมดาริกาจนหน้าหงาย กุสุมาเข้ามาฟาดถากกลางหลังนางสุดสวาท แล้วจิกผมนางสวาทเข้าบ้าง
“ขอสักฉาดเถอะ นังปากสุนัข “
กุสุมาตบเต็มแรง จนสุดสวาทกระเด็นล้มไปที่ถาดกับข้าว อาหารกระจายเกลื่อน
ดาริกาเอาจานข้าวโปะลงบนหัวของสุดที่รัก แล้วเหวี่ยงโครมไปนอกเต๊นท์ จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็มะรุมมะตุ้มกันแบบไม่มีใครยอมใคร สุดท้ายดาริกาพลาดท่าถูกสุดหล่อรัดร่างไว้จากด้านหลัง สุดที่รักปราดเข้ามาจะตบซ้ำ ดาริการวมรวมกำลัง ยันเท้าขึ้นถีบสุดที่รักกระเด็นหวือไปเข้าร่างของวิวิทธิ์พอดี วิวิทธิ์รีบยึดตัวไว้
จันทรกานต์เดินตรงมาที่สุดหล่อที่กำลังรัดดาริกาไว้จนแน่น
“นาย อย่ารังแกผู้หญิงซิ ปล่อย”
“ไม่ปล่อย นอกจากไม่ปล่อยแล้ว ยังจะกรีดหน้าอีนี่ให้มันเสียโฉมด้วย มีไรมั้ย”
พูดพลางหยิบมีดพกออกมาจ่อห่าง ๆ กุสุมาและชาวบ้านกรีดร้อง จันทรกานต์พยายามรอมชอม
“วางมีดซะ แล้วเจรจากันดี ๆ ในวัดในวา เกรงใจพระ เกรงใจคนที่เขามาทำบุญบ้าง”
“เอ็งเป็นใคร ผัวอีดาวเหรอวะ”
“โน่น พระท่านเรียกตำรวจมาแล้ว”
สุดหล่อหันไปมอง แต่กลับเห็นแต่ไทยมุง จังหวะนั้นจันทรกานต์ก็ปราดเข้ามาคว้าข้อมือ แล้วบิดอย่างแรง ดาริกาสะบัดหมุนตัวออก สุดหล่อจะชกกลับ แต่กลับโดนจันทรกานต์สวนหมัด มีดหลุดจากมือ สุดสวาทรีบปราดเข้าไปประคองลูกชาย
“คุณจันทร์ คุณวิวิทธิ์ ขอบคุณค่ะที่ช่วย”
จันทรกานต์ กับวิวิทธิ์ตาค้าง
ตาทศและคนของวัด เป่านกหวัดเสียงดังลั่น แล้ววิ่งเข้ามา
“เฮ้ย มันเรื่องอะไรกัน อ้าว ไอ้ดาว ไอ้สุดหล่อ นี่วัดนะ ไม่ใช่คอนเสิร์ต จะได้ยกพวกตีกัน”
จันทรกานต์และวิวิทธิ์ มาที่บ้านของตาทศ ได้ยินเสียงตาทศคุยกับกุสุมาอยู่หลังครัว
“นังหวาดมันว่าแกขนาดนี้ก็สมควรที่จะโดนแล้วละ”
กุสุมาส่ายหน้าอย่างสุดจะทน
“ไม่ไหวจริงๆ นะพ่อ มันนินทาฉันมายี่สิบปีแล้วนะ ไม่เลิกรา จะจองเวรจองกรรมกันไปถึงไหน”
“มันต้องจองเวรละว่ะ ถ้าแกยังทำกับข้าวอร่อยกว่ามัน ก็ดูซิ แกทำกับข้าวเลี้ยงคนที่วัดทีไร กับข้าวนังหวาดขายไม่ออกทุกที”
“เออ จริง มันคงเจ็บใจแค้นตรงนี้แหละ”
จันทรกานต์เดินมาดูที่กระดานดำ เห็นตัวเลขที่ดาริกาจดจำนวนเงินสะสมที่จะนำมาซื้อบ้าน ขณะที่วิวิทธิ์ เดินมาที่ฝาบ้าน พลางมองอย่างสยอง
“นี่ใช่ไหมครับ ที่เมื่อกี้ ชาวบ้านเขาคุยกันว่าฝาบ้านที่นี่ทำจากฝาโลงศพ”
จันทรกานต์พยักหน้า มองฝาบ้านทั้งทึ่ง ทั้งหวาด ๆ พลางลองยื่นมือไปจับฝาโลง ไม่ทันสังเกตดาริกาที่แต่งตัวใหม่เรียบร้อย เดินลงมาจากชั้นบน มายืนข้างหลังทั้งคู่ พลางผิวปากเบาๆ รดหลังคอเบาๆ
ทำเอาจันทรกานต์กับวิวิทธิ์สะดุ้งโหยง
อ่านต่อหน้า 3
ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 3 (ต่อ)
จันทรกานต์กับวิวิทธิ์โผเข้ากอดกันแนบแน่น ขณะที่ดาริกาหัวเราะระรื่น
“แหม! กอดกันแนบชิด สมกันเหมือนกระดิ่งคู่กับกิ่งทอง”
ทั้งคู่รีบผละจากกัน จันทรกานต์หน้าซีดเผือด
“ทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะครับ บ้านคุณก็น่ากลัวพออยู่แล้ว”
ดาริกาเจื่อนลง แล้วรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ฉันพร้อมเดินทางแล้วค่ะ”
แต่วิวิทธิ์ยังไม่หายข้องใจ
“นี่ใช่ไหมครับฝาโลงที่ว่า”
“ใช่ค่ะ แผ่นนี้เรียบ ๆ แสดงว่าคนตายฐานะปานกลาง แต่แผ่นนี้สลักรูปเทพนม คงรวยขึ้นมาหน่อย แต่อันนี้คนตายคงรวยมาก สลักเป็นลายเถาไม้ซ้อนกันสามเถา”
ดาริกาเล่าพลางลูบแผ่นกระดานไปพลางอย่างรักใคร่ พร้อมๆ กับที่ตาทศและกุสุมาเข้ามาในห้อง
“ใครร้องอะไรเอะอะ”
ดาริกากลั้นยิ้ม
“ไม่มีอะไรค่ะตา คุณจันทร์และคุณวิวิทธิ์ กำลังทดสอบสภาพจิตกับฝาโลงบ้านเรากันอยู่น่ะจ๊ะ”
กุสุมามองลูกสาว แล้วส่ายหน้า
“ยายดาวนี่ ไปแกล้งคุณเขาเสียแล้ว ขอโทษด้วยนะคะ คุณจันทร์คุณวิวิทธิ์ ยายนี่มันล้นๆ ไม่ค่อยเต็ม”
“ยังไงก็ขอบคุณนะครับ ที่ช่วยหลานผม ไอ้ชาวบ้านแถวนี้มันก็ใจร้ายกันจริง ๆ”
จันทรกานต์ยิ้มให้ตาทศ “ต้องระวังหน่อยนะครับ ยิ่งทางเข้าบ้านเปลี่ยว ๆ แบบนี้”
“คุณจันทร์เรียนการต่อสู้ด้วยเหรอครับ” ตาทศอดถามไม่ได้
“ครับผม ทั้งมวยไทย สากล แล้วก็เคยฝึกเทควันโดมานิดหน่อย”
“วันหลังเชิญที่บ้านนะครับ ผมมีกระสอบทรายกับอุปกรณ์ชกมวยเก่า ๆ อยู่ อยากให้มาฝึกไอ้ดาวมันบ้าง”
“ถ้ามีโอกาส ผมจะแวะมาอีก”
ทั้งตาทศ และกุสุมามองจันทรกานต์อย่างชื่นชม
จันทรกานต์และดาริกาเดินผ่านป่าช้าด้วยกัน วิวิทธิ์เดินล่วงหน้าไปก่อนอย่างเร็ว เพราะกลัวผี
“คุณต้องระวังให้มากนะครับ ทางผ่านตรงนี้ค่อนข้างเปลี่ยว พวกบ้านนั้นอาจจะดักทำร้ายคุณก็ได้”
ดาริกาหันมาทำหน้าทะเล้น
“พวกมันไม่กล้าหรอกค่ะ เพราะแถวนี้ผีดุ”
“ผมซีเรียสนะ คุณพูดเล่นอยู่นั่นแหละ”
“ค่ะ พูดจริงก็ได้ ที่ดินแถวนี้พวกเราเช่าวัดอยู่ทั้งนั้น ตาฉันเป็นมัคนายกที่นี่ ถ้าพวกมันแกล้งฉันมาก ๆ หลวงพ่ออาจจะไล่ที่พวกมันก็ได้ มันไม่กล้าหรอกค่ะ”
ดาริกาอมยิ้ม มองดูจันทรกานต์ที่รีบสาวเท้าเดินอย่างนึกขำ
อาร์ตี้นั่งหน้าเครียด เพราะคิดงานไม่ออก บ๊วยเดินเอากาแฟเข้ามาให้
“กาแฟไหมครับ พี่อาร์ตี้”
“ไม่ล่ะ กำลังกลุ้มกับไอ้กาแฟกับครีมเทียมเนี่ย คิดภาพคิดเรื่องไม่ออก เลยไม่อยากกิน”
บ๊วยทำหน้าล้อๆ
“ไม่ได้ให้กินครับ แต่ให้เอาไว้สวนทวาร เผื่อลำไส้สะอาด คิดงานได้ปลอดโปร่ง”
“ไปไกล ๆ เลยไป เดี๋ยวเตะให้หมุนเป็นลูกข่างเลย”
บ๊วยวิ่งหนี จนเกือบชนวรางค์ ที่ถือเหยือกเบียร์เย็นเจี๊ยบมาสองเหยือก พอเดินมาหาอาร์ตี้ ก็ต้องชะงัก เพราะอาร์ตี้เอาหัวลง ยกเท้าชี้ขึ้นฟ้า
“แหม ! คิดงานไม่ออก หน้ากลายเป็นส้นเลยนะคะคุณขา แกจะเอาหัวลงทำไม อีตี้”
“นอนให้เลือดตกหัวไง จะได้คิดออก”
วรางค์ส่ายหน้ายิ้มๆ
“โธ่ ลุกมา มาดื่มกันก่อน รับรองน้ำอำพันยี่ห้อนี้ เลือดแกฉีดพล่านดีนักแล”
อาร์ตี้ลุกขึ้น เปรี้ยวปากขึ้นมาทันที พลางชนแก้วกับวรางค์ดื่มเข้าไป แล้วชะงัก
“ไม่ใช่เบียร์ น้ำเก๊กฮวยนี่”
“เออ เก๊กฮวย ต่อไปนี้ฉันจะให้แกดื่มแต่น้ำผลไม้เท่านั้น ห้ามแอลกอฮอลล์เด็ดขาด”
อาร์ตี้ทำหน้าเบ้“ไม่เหล้า ก็คิดไม่ออกนะพี่”
“อย่ามโนไปเอง เหล้านั่นแหละทำให้สมองแกตีบตัน เอางี้ คืนนี้ ไปนอนกับฉันที่บ้าน เผื่อจะคิดออก”
อาร์ตี้แอบยิ้ม
“พี่ อย่าใช้อำนาจในทางมิชอบ ผมเป็นลูกจ้างพี่พอแล้ว อย่าบังคับให้ผมต้องบริการความสุขส่วนตัว พี่เลยนะครับ ผมไม่ใช่ไอ้ตัว”
วรางค์ค้อนขวับ ก่อนจะด่าออกไปด้วยภาษาอิสาน
“ไอ้บ้า ฉันให้แกหอบเอางานไปทำที่บ้านโว้ย หนอย ไอ้พวกนี้ วันนี้ใส่เสื้อคอลึกเข้าหน่อย เลยมาทำลวนลาม แทะโลม ไม่ต้องมามองฉันแบบนั้นเลยนะ พรุ่งนี้จะปิดให้ถึงคอหอยเลย ข้อศอกก็ไม่ให้เห็น”
ด่าเสร็จ ก็เดินกลับเข้าห้องไป
ที่มูลนิธิบ้านเด็กดี จันทรกานต์ วิวิทธิ์ และดาริกา นั่งดูการแสดงของเด็กๆ ด้วยความชื่นชม ก่อนจะลุกขึ้นแจกขนม เด็ก ๆ เข้าแถวมาอย่างเรียบร้อย ดาริกาแยกไปแจกมุมหนึ่ง จันทรกานต์กับวิวิทธิ์แยกมามุมหนึ่ง จู่ๆ ข้าวตอกเด็กคนหนึ่งในบ้าน ก็มองหน้าวิวิทธิ์ แล้วเรียก
“พ่อ” พลางโผเข้ากอดวิวิทธิ์แน่น “คิดถึงพ่อที่สุดเลย ข้าวตอกคิดถึงพ่อ”
วิวิทธิ์มองอย่างงงๆ “โถ งั้นรับขนมไปนะ”
“ขอบคุณครับพ่อ”
ข้าวตอกรับขนมแล้วยิ้มแฉ่ง แล้วรีบวิ่งออกไปนอกโถงทันที
ขณะทีอิงฟ้า ที่แต่งเนื้อแต่งตัวปอนๆ แบบสาวบ้าน ๆ กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ พลันก็เห็นข้าวตอกวิ่งผ่านหน้า หายเข้าไปในพุ่มไม้ อิงฟ้าค่อย ๆ ย่องตามมาดู เห็นข้าวตอกกำลังหยิบเงินออกมาจากกระเป๋ามานับ พลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
อิงฟ้าหน้าเหี้ยมขึ้นมาทันที
ทางด้านจันทรกานต์กำลังคุยกับครูตุ้ย ส่วนดาริกาและวิวิทธิ์กำลังแจกของเด็ก มีดอกไม้และข้าวตูนำทีม วิวิทธิ์ ล้วงกระเป๋าหลัง จะหยิบกระเป๋าสตางค์แต่ไม่พบ
“กระเป๋าตังค์ผมหาย”
ข้าวตูและเด็กชายอีกคนหัวเราะกันคิกคัก วิวิทธิ์เดินมาใกล้เด็กทั้งสอง
“รู้ใช่ไหมใครขโมย”
ข้าวตูและเด็กชายทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ วิวิทธิ์ดึงขนมไปจากทั้งสอง แล้วจับหูทั้งคู่
“อย่ากินเลย บอกมาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นหูยานนะ น้ำขึ้น น้ำลง”
“บอกแล้วครับ”
อิงฟ้าทำโทษข้าวตอก ด้วยการตีมือ พลางสั่งสอนไม่ให้เป็นขโมย พร้อมกับเดินนำให้ข้าวตอกเอากระเป๋าไปคืน จังหวะที่วิวิทธิ์วิ่งออกมาหาพอดี ข้าวตอกรีบวิ่งหนี แต่วิวิทธิ์วิ่งตามไปตะครุบตัวไว้ได้
ข้าวตอกบอกวิวิทธิ์ว่ากระเป๋าอยู่ที่อิงฟ้า แล้วก็ฉวยจังหวะที่วิวิทธิ์เผลอ รีบสะบัดตัว แล้ววิ่งหนีไป
วิวิทธิ์มองมาที่อิงฟ้า อิงฟ้ามองตอบคุ้น ๆ ว่าเคยเห็นหน้าที่ไหน แต่วิวิทธิ์จำได้ทันที แต่สภาพของ
เธอ ทำให้วิวิทธิ์เข้าใจว่าเป็นเด็กจรจัดของบ้าน
“เจอกันอีกแล้ว บ้านนี้เขาเลี้ยงเธอจนโต แต่ไม่สำนึกบุญคุณเลยนะ ตั้งตัวเป็นหัวหน้าแก๊ง ให้เด็กขโมยของมาให้”
อิงฟ้ารีบปฏิเสธ แต่วิวิทธิ์ไม่ยอมเชื่อแล้ว
“อย่ามาโกหกซ้ำสอง ฉันจำได้ไม่ลืมเธอแกล้งทำเสียงห้าวอ้างว่าเป็นกะเทย แล้วสลัดผ้าต่อหน้าฉันในห้องน้ำชาย”
อิงฟ้ามองหน้าวิวิทธิ์ชัดๆ แล้วก็ถึงบางอ้อทันที
“อ้อ คุณนั่นเอง”
“ตอนนั้นคงขโมยกระเป๋าตังค์ ไฮโซในงานละซิ พวกบอดี้การ์ดถึงได้ไล่ตามขนาดนั้น ไม่นึกนะว่าทำงานอยู่ที่นี่ เนียนมาก ไม่มีใครจับได้เพราะเป็นเด็กมูลนิธิ ไป ไปกับฉัน”
วิวิทธิ์จับมือจะลากไป แต่อิงฟ้าสะบัดจนหลุด แล้ววิ่งกลับมาที่สายยางรดน้ำ พลางฉีดสายยางเข้า
เต็มหน้า จนวิวิทธิ์เปียกไปทั้งตัว
จากนั้นอิงฟ้าวิ่งตัวเปียกเข้ามาในโถง พบครูตุ้ยกำลังคุยกับจันทรกานต์และดาริกา
“คุณจันทร์”
อิงฟ้ารำพึงชื่อจันทรกานต์ด้วยความแปลกใจ ขณะที่จันทรกานต์ หันมามองอิงฟ้าที่อยู่ในสภาพมอมแมม แต่ก็ปลื้มกับความสวย
ครูตุ้ยรีบแนะนำทั้งหมดให้รู้จักกัน
“อิงฟ้า นี่หม่อมหลวงจันทรกานต์ ทัศนัย และนี่คุณดาริกา และนี่ครูอิงฟ้า วรรณรัตน์ เธอเป็นกรรมการมูลนิธิครับ เป็นลูกสาวของคุณหญิงอรชร เจ้าของธุรกิจอสังหาคนดังไงครับ”
อิงฟ้ายิ้มให้ “ ค่ะ ฉันอิงฟ้าค่ะพี่ชาย”
จันทรกานต์ขมวดคิ้วแบบงงงๆ “พี่ชาย ?”
“จำน้องไม่ได้เหรอคะ ที่เคยไปเล่นที่วังทัศนัยบ่อย ๆ ตอนเราเด็ก ๆ”
“ขอโทษจริง ๆ นะครับ ผมจำไม่ได้เลย”
“ไม่แปลกหรอกค่ะ เพราะตอนนั้นพี่ชายจันทร์เล่นอยู่กับกลุ่มผู้ชาย ไม่สนใจมาเล่นกับกลุ่มผู้หญิงเลย
ยินดีค่ะที่พี่จันทร์จะช่วยมูลนิธิของเรา”
ดาริกา ลอบมองทั้งคู่อย่างสงสัย
จักรพัฒน์ พาพิชญา มาเข้าพบคุณชายจันทร กับดาราราย ในห้องทำงานที่ห้างเดอะ แกรนด์
พิชญาบอกเจตนาว่าเธออยากมาทำงานที่นี่ในฐานะเลขาฯของคุณจันทร์ แต่คุณชายจันทร และดารารายแย้งว่าคุณชายจันทร์มีวิวิทธิ์เป็นเลขาฯอยู่แล้ว
“อาว่างานที่เหมาะกับชาย่า น่าจะเป็นงานกิจกรรมพิเศษของทางประชาสัมพันธ์มากกว่า”
คุณชายจันทรสรุป ดารารายเห็นด้วย
“อืม นั่นซี งานนี้ชาย่าจะได้พบลูกค้า ได้ออกงานสังคมอย่างที่ต้องการไง”
พิชญาหน้าเจื่อน แต่ก็จำต้องรับคำ ขณะที่คุณจักรลอบมองภรรยาอย่างสงสัยอยู่ในที
อิงฟ้าเดินนำจันทรกานต์และดาริกาเข้ามาในห้องสันทนาการของเด็ก ที่มีอุปกรณ์ของเล่นมากมาย พลางหันมาบอกดาริกาถึงเจตนาของจันทรกานต์ที่ต้องการมาที่นี่เพื่อดูตัวเธอ ดาริกาถึงกับอึ้ง ที่โดนหลอกอีกแล้ว ขณะที่จันทรกานต์พยักหน้ายอมรับ
“ดีค่ะที่ยอมรับ ถ้าอย่างนั้นขอถามก่อน ที่คิดจะช่วยเด็กบ้านนี้ด้วยความบริสุทธิ์ใจหรือเปล่าคะ หรือทำเพราะขัดคุณแม่ไม่ได้”
จันทรกานต์รีบกันดาริกาออกไปก่อน
“เออ คุณดาว วิวิทธิ์หายไปไหน ช่วยตามให้ผมที”
ดาริกามองค้อนอย่างขัดใจ “ได้ค่ะ เจ้านายของบ่าว” แล้วก็เดินสะบัดออกไป
อิงฟ้ายิ้มหวานกับจันทรกานต์ ที่ทำหน้าเจื่อนหมดท่า
“ขอโทษเรื่องทั้งหมด ยอมรับว่าผมได้รับมอบหมายโปรเจ็กต์นี้จากคุณแม่ ทีแรกก็ลังเล แต่เมื่อได้มาเห็นเด็ก ๆ และความตั้งใจจริงของครูตุ้ย และของคุณ รวมทั้งข้อมูลที่ได้จากดาริกา ผมยินดีช่วยด้วยใจจริง ไม่มีอะไรเคลือบแฝงครับ”
อิงฟ้าลอบมองอย่างหยั่งเชิง แต่เมื่อรู้สึกว่าจันทรกานต์คิดแบบที่พูดจริงๆ ก็ยิ้มรับ
ดาริกาเดินหามาจนถึงแถวห้องน้ำ ก็เห็นวิวิทธิ์ ที่ใส่เสื้อกล้าม กำลังเอาเสื้อตากอยู่ โดยมีแม่บ้าน
อีกคนคอยช่วย
“คุณวิวิทธิ์ ทำอะไรคะ”
“เสื้อผมน่ะซีครับ โดนเด็กที่นี่แกล้ง เปียกหมดเลย เดี๋ยวแม่บ้านจะเอาไปอบแห้งให้”
ดาริกาไม่สนใจสิ่งที่วิวิทธิ์เล่า แต่รีบยิงคำถามที่คาใจทันที
“พูดความจริงให้ฟังหน่อยเถอะค่ะ นายคุณหลอกฉันให้พามาที่นี่ใช่ไหม เขาไม่ได้มาเพื่อจะช่วยเด็ก แต่เขามาเพื่อมามาพบครูอิงฟ้า พูดความจริงมาค่ะว่ามันเรื่องอะไร”
วิวิทธิ์พยักหน้า
“ครับ คุณแม่ทั้งสองฝ่าย เห็นดีเห็นงามอยากให้ทั้งสองรู้จักกันน่ะครับ คุณจันทร์ก็เลยอยากมาพบตัวจริงเสียงจริง ว่าแต่เธอสวยไหม”
“สวยค่ะ สวยมาก ฉลาดมากด้วย”
วิวิทธิ์ถอนใจโล่งอก “งั้นคุณจันทร์อาจจะพอใจก็ได้”
แต่ดาริกากลับเข้าใจว่าวิวิทธิ์ถอนใจเพราะต้องสูญเสียคนรัก
“ฉันเข้าใจค่ะ แต่ถ้าเรื่องมันเป็นแบบนี้ อย่าหลอกผู้หญิงดี ๆ ให้มาเป็นเหยื่อเลยนะคะ คุณเองก็ควรจะทวงสิทธิ์ในฐานะที่คุณเป็นของจริงของเขา และมาก่อนด้วย เข้าใจค่ะว่ามันเป็นเรื่องยาก แต่คุณชายกับคุณดารารายไม่ใช่คนหัวเก่า น่าจะรับได้ถ้าคุณสองคนสารภาพความจริง อดทนนะคะ อีกไม่นานกฎหมายชายแต่งชายคงออกมาแล้ว วันนั้นจะเป็นวันของคุณทั้งสองค่ะ”
ดาริกาตบไหล่วิวิทธิ์ด้วยความรู้สึกเห็นใจ ก่อนจะเดินแยกไป วิวิทธิ์มองตามอย่างงงๆ
ดารารายยิ้มแก้มปริ เมื่อทราบจากจันทรกานต์ว่าไปพบอิงฟ้ามาแล้ว พลางกระเซ้าลูกชายว่าใจร้อน
“เดี๋ยวครับแม่ ผมไม่ได้ใจร้อนรีบไปดูตัวน้องอิงฟ้านะครับ แค่อยากไปดูมูลนิธิของเธอเท่านั้นเอง
อีกอย่าง ยังไม่มีความรักอะไรทั้งนั้นละครับ”
ดารารายมองหน้าลูกชายอย่างคาดคั้น
“ไม่ปิ๊ง ไม่เกิดขนลุกซู่ หัวใจเต้นแรงอะไรบ้างเลยเหรอ เอ๊ะ หรือตัวจริงน้องเขาไม่สวย”
“สวยครับ ใช่ไหมวิวิทธิ์”
วิวิทธิ์ส่ายหน้า “เออ บอกไม่ได้ครับ เพราะผมยังไม่ได้เห็นหน้าเลย”
“ผมเอ็นดูเหมือนน้องสาวมากกว่าครับ”
ดารารายนิ่งไป “ไม่เป็นไร เดี๋ยวมาจัดงานที่นี่ ก็จะสนิทสนมจนดอกรักบานเองล่ะลูก”
พูดพลางก็ยิ้มอย่างมีความสุข ขณะที่คุณชายจันทรลอบสังเกตลูกชาย
อ่านต่อหน้า 4
ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 3 (ต่อ)
ระหว่างที่จันทรกานต์เดินอยู่ตามลำพังตามทางเดิน ในตึกสำนักงาน พิชญาแอบย่องเดินตามมา แล้วเข้าสวมกอดทางด้านหลัง พลางบอกว่าเธอกำลังจะเข้ามาทำงานที่นี่ ทำเอาจันทรกานต์ถึงกับถอนหายใจอย่างอึดอัด พลางพยายามดันร่างพิชญาออก
จังหวะนี้จักรพัฒน์เดินเลี้ยวมาเห็นเข้า ก็รีบหลบเข้ามุมซุ่มดู จันทรกานต์ขู่พิชญาว่าถ้ายังไม่เลิกตามรังควาน จะฟ้องจักรพัฒน์ พิชญาเบ้ปาก
“เชิญฟ้องไปเลยค่ะ เพราะฉันก็อยากจะหย่ากับเขาอยู่แล้ว”
จันทรกานต์ถึงกับอึ้ง “นี่มันเรื่องอะไรกัน พี่จักรรักคุณนะ”
“คุณจันทร์ ฉันไม่ได้รักเขาเลย” พิชญาเสียงเครือ “ยิ่งอยู่กับเขานานเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้ตัวว่าฉันไม่ได้รักเขา แต่ฉันรักคุณค่ะ รักคุณคนเดียว ยิ่งตอนนี้ ฉันยิ่งรัก ยิ่งหลงใหลคุณ”
พลางกระชับกอดจันทรกานต์แน่นขึ้น จักรพัฒน์ที่ซุ่มดูอยู่ ถึงกับหน้าซีด
ขณะเดียวกัน วิวทธิ์ก็ถูกคุณชายจันทรเรียกเข้าไปคุยเป็นการส่วนตัวในห้องทำงาน พลางมอบหมายหน้าที่ใหม่ให้ทำ
“ต่อไปนี้คุณต้องคอยกันพิชญาให้ห่างคุณจันทร์ไว้”
“ทำไมครับ”
“คุณคงไม่รู้ พิชญารักคุณจันทร์ตั้งแต่สมัยเรียนที่นี่ ถึงขนาดตามจันทร์ไปเรียนต่อที่อเมริกา”
วิวิทธิ์อึ้งไป คุณชายจันทรบอกว่าจำเป็นต้องให้พิชญาทำงานที่นี่ เพราะไม่อาจขัดดารารายได้ และอีกประการหนึ่งก็คือ
“ผมอยากดูว่าคุณจันทร์จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร อ้อ เรื่องนี้ห้ามรู้ไปถึงคุณดาวเด็ดขาดนะ”
วิวิทธิ์รีบรับคำ “รับรองครับ”
คุณชายยิ้มพอใจ พลางรีบบอกให้วิวิทธิ์ไปดูแลจันทรกานต์ เพราะมั่นใจว่าพิชญาต้องดักรอพบจันทรกานต์แน่นอน
ทางด้านจันทรกานต์ก็พยายามกันพิชญาออกไป
“พอที กลับไปเถอะครับ กลับไปหาพี่จักร ไม่มีใครรักคุณมากเท่ากับพี่จักรอีกแล้ว อีกอย่างผมไม่ได้รักคุณ”
พูดพลางจะเดินแยกไป แต่พิชญาวิ่งตามเข้ามากอดหลังอีก
“ไม่นะ อย่าทิ้งชาย่าแบบนี้ ชาย่าไม่เหลือใครแล้ว มีคุณคนเดียวที่เป็นความหวัง ชาย่าจะหย่ากับคุณจักร แล้วเรามาเริ่มต้นกันใหม่เหมือนสมัยที่เราเรียนไงคะ”
พิชญาเคลื่อนหน้าเข้ามาจะจูบริมฝีปากจันทรกานต์ จักรพัฒน์ซุ่มดูอยู่อย่างประเมินท่าที พลันได้ยินเสียงวิวิทธิ์เดินเข้ามา
“คุณจันทร์ครับ”
พิชญารีบผละออกมาทันที จันทรกานต์ถอนหายใจโล่งอก ที่วิวิทธิ์มาได้จังหวะ พลางเดินกันเข้าไปห้องทำงานไปด้วยกัน พิชญายืนนิ่ง น้ำตาซึม แล้วเดินกลับไปอีกทาง ในขณะที่จักรพัฒน์มองตามไปด้วยสีหน้าเจ็บปวดไม่แพ้กัน
อาร์ตี้หอบของเต็มไม้เต็มมือ เพื่อมาทำงานต่อที่บ้านวรางค์ ขณะที่เจ้าของบ้านนั่งหากุญแจที่ซ่อนอยู่ใต้กระถางหน้าประตู แต่พอจะลุกขึ้นแล้วเกิดอาการเซ อาร์ตี้รีบทิ้งของแล้วเข้าประคอง หน้าของทั้งคู่แนบชิดกันพลางประสานสายตากันหวานใส่จนวรางค์เขิน
ทันใดนั้น ป๊อบก็เปิดประตูบ้านออกมาพอดี ทั้งสองรีบผละจากกัน
“หน้าบ้านนะ กลางวันแสก ๆ ด้วย ถ้าไม่อายผีสางก็อายน้องนุ่งบ้าง”
วรางค์ค้อนน้องชาย
“ไอ้ป๊อบ ปกติกลับตีสอง ทำไมวันนี้กลับแต่วัน”
“วันนี้ไม่ได้เรียนครับ”
“งั้นซี ฉันนึกว่าฉันลืมกุญแจอีกแล้ว”
ป๊อบมองหน้าพี่สาวล้อๆ “กุญแจอยู่ที่ผม นี่ อย่าเปลี่ยนเรื่อง ทำไมต้องกอดกันด้วย”
“เจ๊เขาเซน่ะ พี่ก็เลยประคอง ไอ้บ้า คิดมาก ช่วยขนของหน่อย”
ป๊อบช่วยอาร์ตี้ขนของ วรางค์เดินตามเข้าบ้าน สีหน้ายังวาบหวิวกับการกอดของอาร์ตี้
จันทรกานต์นั่งอ่านเอกสารอยู่ที่โถงกลางในคอนโด พลางครุ่นคิดเรื่องพิชญาและอิงฟ้า พลันก็ได้ยินเสียงเพลงยอยศพระลอแว่วมา จันทรกานต์ยิ้มน้อยๆ แล้วลุกขึ้นเดินไปที่ระเบียง เห็นดาริกา กำลังรดน้ำต้นคุณนายตื่นสายอยู่
ดาริกาหันมาเห็นจันทรกานต์ก็รีบโวยวายเรื่องที่หลอกให้เธอพาไปที่มูลนิธิฯ
“โธ่ ถ้าหมายถึงเรื่องอิงฟ้า ผมไม่ได้หลอกคุณนะ”
จันทรกานต์เสียงอ่อย
“แต่ก็พูดความจริงไม่หมด ทำเป็นพ่อพระช่วยเหลือเด็กยากไร้ ที่แท้จะไปดูหน้าว่าที่คู่หมั้น”
“เฮ้อ ที่อยากมาคุยด้วยก็เรื่องนี้แหละ จะทำยังไงดี ผมยังไม่อยากแต่งกับคนที่ผมไม่ได้รัก มีคำ ปรึกษาบ้างไหม ตอนนี้ชาย่าก็เข้ามารุกผมอีกแล้ว”
ดาริกาเบ้ปาก
“นี่คุณหม่อมหลวง มีผู้หญิงมาให้จีบตั้งสองคน คุณก็บอกไปซีว่ารสนิยมทางเพศของคุณมันแบบไหน
ไม่กล้าบอกความจริงใช่ไหม ก็ใช่ซี้ หลอกคนจนติดเป็นนิสัย อ้อ แล้วเรื่องครูอิงฟ้า หวังว่าคงไม่หลอกแต่งงานกับเธอนะ ถ้ารู้ว่าคุณหลอกเธอละก้อ ฉันจะบอกคุณอิงฟ้าว่าคุณมันเกย์เก้งของแท้ และคุณวิวิทธิ์ก็เป็นหวานใจของคุณ พระเอกคนนี้ไม่ต้องการนางเอก เขาต้องการแต่ “นายเอก” เท่านั้น ”
พูดจบก็สะบัดหน้าพรึ่ดเดินกลับเข้าห้องไป
อาร์ตี้นั่งคิดงานจนหัวเป็นกระเซิง มีขวดกาแฟและครีมเทียมวางไว้ตรงหน้า กระดาษร่างสตอรี่บอร์ด และเอกสารของสินค้าวางกระจายเต็มโต๊ะ พลางมองกระดาษ ที่เขียน คำว่า “ความแตกต่าง” ตัวใหญ่เห็นชัด
“ความแตกต่าง อืม เราต้องนึกความหมายของคำว่าความแตกต่างให้ได้”
วรางค์อยู่ในชุดเสื้อคลุมนอน เอากาแฟมาให้
“เป็นไงคิดออกไหม”
อาร์ตี้ส่ายหน้า“พี่ ไอ้คนที่แตกต่างกันมากๆ ถ้าคิดจะคบกัน มันจะเป็นยังไงพี่”
“เอางี้” วรางค์ชี้ที่แก้ว “กาแฟ ดำ ขมใช่ไหม แล้วครีมล่ะ”
“ขาว มัน”
วรางค์เอาครีมเทใส่ “เมื่อมันผสมกัน เห็นไหม ต้องละลายหลอมรวม ความต่างก็จะละลายหลอมเป็นเนื้อเดียวกัน”
พูดจบก็ยื่นแก้วให้ อาร์ตี้รับมาชิม
“อืมม์ ขมกำลังดี ประสานกับหอมมันกำลังเหมาะ”
“นึกออกรึยังว่าความต่างมันหลอมรวมกันได้”
อาร์ตี้เริ่มยิ้มออก
“นึกออกแล้วครับ นึกออกอีกด้วยว่าทำไมเราไม่หลอมรวมกันเสียตอนนี้”
อาร์ตี้เอียงหน้าจนแทบจะชนกับวรางค์ ป๊อบเดินเข้ามาพอดี
“อ้าว หน้าจะชนกันแล้ว”
ทั้งสองผละจากกันทันที ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
วรางค์แยกออกไปนอกห้อง ป๊อบตามมาดึงวรางค์ไว้ พลางคาดคั้นว่าวรางค์แอบกิ๊กกับอาร์ตี้ แต่วรางค์ปฏิเสธ
พิชญากลับมาบ้านดึกดื่น ในสภาพมึนๆ พลางเปิดไฟในห้องโถง แล้วก็สะดุ้ง เมื่อเห็นจักรพัฒน์ นั่งดื่มอยู่ จักรพัฒน์คาดคั้นเรื่องที่พิชญาอยากไปทำงานที่ห้างเดอะ แกรนด์
“ความจริงเหรอ ได้ เพราะฉันอยากมีรายได้ ไม่ต้องมานั่งแบมือขอเศษเงินคุณแต่ละเดือน นี่ล่ะค่ะความจริง”
พิชญาสะบัดมือออก จะแยกไป
“ผมไม่ห้ามถ้าคุณจะทำงาน แต่ไปทำที่อื่นได้ไหม ไม่ใช่ที่แกรนด์”
พิชญาชะงัก พลางรวบรวมสติ ก่อนจะหันมาเผชิญหน้า
“อีกที่ที่ฉันจะไปก็คือภูเก็ตไงคะ ดีไหมล่ะ ได้เจอกันปีละหน ไม่งั้นฉันก็จะไปทำงานต่างประเทศ จะได้ไม่ต้องเจอกันอีกเลย”
พูดจบก็สะบัดหน้าเดินขึ้นชั้นบน จักรพัฒน์ทรุดลงนั่งด้วยความเจ็บปวด น้ำตาค่อย ๆ ไหลออกมา
ขณะที่จันทรกานต์นอนหลับอยู่ในห้องภายในวังทัศนัย ช้างก็เปิดประตูเข้ามาอย่างเงียบเชียบ พลางเดินมาข้างเตียง แล้วค่อย ๆ เลิกผ้าห่มที่คลุมช่วงล่าง
จันทรกานต์สะดุ้งตื่น ลุกพรวด เตะช้างโครม จนล้มไปที่พื้น เพราะเข้าใจว่าช้างแอบเข้ามาดูของสงวน ช้างรีบปฏิเสธ บอกว่ามาตามคำสั่งของดาราราย
ดารารายและน้อยเดินเข้ามาพร้อมสูทหรู จันทรกานต์รีบดึงหมอนมาปิดส่วนล่าง
“แม่ครับ ให้นายช้างทำแบบนี้ทำไม”
“ก็แม่กลัวลูกจะนอนเปิดอล่างฉ่างอย่างคราวก่อนน่ะซี แม่ล้างตาอยู่หลายวัน แม่เลยให้นายช้างมาดูความเรียบร้อยก่อน เรียบร้อยนะช้าง”
“ครับ อยู่ในหีบห่อเรียบร้อยครับ”
จันทรกานต์ถึงกับส่ายหัว
“โธ่ แล้วแม่มีอะไรครับ ถึงต้องมาปลุกผม”
ดารารายยิ้มให้ลูกชาย “แม่เอาสูทตัวใหม่มาให้ลูกใส่วันนี้ไง เราจะต้องหล่อเป็นพิเศษ เพราะวันนี้เราจะต้องพบหนูอิงฟ้าลืมแล้วเหรอ”
จันทรกานต์ถอนใจเฮือกใหญ่
ทางด้านอิงฟ้า ก็กำลังให้ช่างหน้าช่างผมอยู่หน้ากระจก ขณะที่คุณหญิงอรชรมองอย่างพอใจ ป้าแมวเตรียมกล่องใส่ภาพวาดของอิงฟ้ามาวางให้
“อย่าลืมนะลูก เอารูปที่ลูกวาด ดอกไม้สวย ๆ น่ะ ไปให้พี่เขาดู เขาจะได้เห็นความสามารถของเรา เราอ่อนหวาน รักธรรมชาติรักเด็ก”
อิงฟ้าส่ายหน้าเบาๆ อ่างเบื่อหน่าย
“โลกสวยอีกแล้วนะคะแม่ หนูไปล\ะ”
“เดี๋ยว” คุณหญิงอรชรรั้งไว้ “ป้าแมว จัดการ”
ป้าแมวค่อย ๆ เลิกกระโปรงอิงฟ้า ก้มดู
“ดูให้แน่ใจว่าคุณหนูไม่ได้แอบใส่ชุด “เสมอหู” ซ่อนไว้ข้างในน่ะซีคะ” พลางแหวกอกเสื้อ “ ท่อนบนก็ไม่มีชุด “แน่นอก” ค่ะ “
คุณหญิงอรชรยิ้มพอใจ
หลังจากที่โทร.นัดแนะกับคุณหญิงอรชรเรียบร้อยแล้ว ดาราราย ก็เดินมาสมทบกับจันทรกานต์ที่กำลังแต่งตัวอยู่ โดยมีช้าง และน้อยเป็นผู้ช่วย พลางเอ่ยปากชมเปาะว่าลูกชายหล่อ แล้วก็โน้มแก้มมาหอมฟอดใหญ่ ทำเอาจันทรกานต์เขิน
“แม่ครับ บอกแล้วไงว่าอย่าทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น”
“อดไม่ได้นี่ลูก คุณชายขา เป็นไงบ้าง”
ดารารายหันมาถามสามี คุณชายจันทรยิ้มรับ
“หล่อแพ้พ่อนิดนึง”
เมื่อดารารายแยกตัวออกไปเตรียมอาหารต้อนรับอิงฟ้า จันทรกานต์ก็หันมาปรึกษาบิดา
“พ่อครับ แล้วถ้าผมไม่ได้คิดอะไรกับน้องอิงฟ้าล่ะครับ”
คุณชายจันทรยิ้มให้ลูกชาย “ก็ไม่เป็นไรนี่ลูก ไม่ได้รักได้ชอบ พ่อไม่บังคับอยู่แล้ว”
จันทรกานต์โผเข้ากอดพ่อแนบแน่น “ถ้าผมมีลูก ผมจะเป็นพ่ออย่างที่พ่อเป็นครับ”
คุณชายจันทรยิ้ม “หาสะใภ้มาให้พ่อก่อนนะลูกนะ”
จักรพัฒน์เดินมาส่งพิชญาที่ห้องทำงาน ของฝ่ายพีอาร์ ที่เป็นห้องรวม มีพนักงานสาวนั่งอยู่ประปราย ทุกคนหันมามองชุดพิชญา ที่คว้านคอลึกเป็นตาเดียว จนคุณจักรแอบเครียด
“ นี่ไม่น่าเป็นชุดทำงานเลยนะ มันล่อสายตาเกินไปน่ะซี แต่งตัวจะยั่วใครรึเปล่า”
พิชญายักไหล่
“ฉันเป็นพีอาร์นะคะ ต้องต้อนรับลูกค้าระดับวีไอพีทั้งนั้น ก็ต้องสวยสะดุดตาเป็นธรรมดา อย่าหึงเลยค่ะ เราหมดเวลาเรื่องพวกนั้นไปนานแล้ว”
จักรพัฒน์เดินออกไปอย่างฉุนเฉียว พิชญายิ้มสะใจ ยุพาเดินมา ทำอกตั้ง ยิ้มแย้ม
“คุณชาย่าคะ เด็กจาก “มูลนิธิบ้านเด็กดี” มารอพบแล้วค่ะ”
พิชญาเปิดดูแฟ้ม “เด็กข้างถนนนี่ หน้าที่ของฉันเหรอคะ”
“ประชาสัมพันธ์กิจกรรมพิเศษ หน้าที่คุณโดยตรงเลยค่ะ”
พิชญารับคำ พลางปรายตามองยุพาแบบเหยียดๆ
“กรุณาอย่าเรียกฉันว่าชาย่า ชื่อจริงพิชญาค่ะ ชาย่าไว้ให้คนสนิทเรียก”
พิชญาคว้าแฟ้ม แล้วเดินแยกไป ยุพาแสยะปาก
“โถ อย่านึกนะว่าไม่รู้กำพืด ลูกเถ้าแก่โรงสีที่เจ๊งสิ้นเนื้อประดาตัว มาได้ผัวหม่อมหลวงหวังจะฟื้นฐานะ แต่แล้วก็เจ๊งอีก”
พิชญาอ่านเอกสารของทางมูลนิธิอย่างเซ็ง ๆ อิงฟ้านั่งอยู่ตรงข้าม แอบสังเกตกิริยา ปุ๊และเป้ายืนเฝ้าอยู่มุมห้อง ทั้งสองมองอกอิ่มของพิชญาไม่วางตา
“ ตกลงฉันจะพบคุณจันทรกานต์ได้รึยัง”
พิชญามองอิงฟ้าแบบยิ้มเยาะ
“พบคุณจันทรกานต์ ? เรื่องอะไรไม่ทราบ”
“จะพูดเรื่องงานที่ทางแกรนด์จะช่วยหาทุนให้มูลนิธิไงคะ”
“อย่างเธอน่ะเหรอจะพบระดับผู้บริหาร เธอแค่เด็กในบ้าน กล้ามากนะ ไปเรียกครูตุ้ยมาดีกว่า หรือไม่ก็เนี่ย คุณอิงฟ้า วรรณรัตน์”
ปุ๊กำลังจะอ้าปากท้วง แต่อิงฟ้าหันไปส่งสายตาปรามไว้
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันมาวันหลังแล้วกันนะ โทษนะ พี่ชื่ออะไรอ่ะ”
“ทำไมเหรอ” พิชญาย้อนถาม
“แหม ชอบการทำงานของพี่จัง เป็นประชาสัมพันธ์ซะด้วย ชุดก็ซวย ซ้วย สวย ตู้ ตู้ม ตู้ม”
พิชญาหน้าตึง
“นี่ อย่ามาลามปามนะ .ออกไปได้แล้ว”
อิงฟ้าออกมาจากห้องรับรอง ปุ๊ กับเป้าถือกล่องรูปเดินตามประกบ
“คุณหนูครับ ทำไมไม่บอกความจริงว่าคุณหนูเป็นใคร”
อิงฟ้าส่ายหน้าแบบไม่ใส่ใจ
“ไม่จำเป็นหรอก สำหรับคนแบบยายนั่น กลับเถอะ”
“อย่าเพิ่งกลับครับ เดี๋ยวคุณหญิงท่านจะตามมา”
อิงฟ้าถึงกับชะงัก “หา แม่จะมา”
“ครับ ทางนี้ก็เตรียมต้อนรับคุณหนูไว้แล้วด้วย”
อิงฟ้าพยักหน้า พร้อมเตรียมแผนหนี
“อ้อ นี่แม่วางแผนไว้หมดแล้ว ก็ได้ อยู่ก็ได้ แต่ขอเข้าห้องน้ำก่อน”
อิงฟ้าแยกไปครู่หนึ่ง กว่าที่ปุ๊กับเป้าจะนึกออก
“เฮ้ย เดี๋ยว ทำไมเราปล่อยคุณอิงฟ้าเข้าห้องน้ำอีกแล้ววะ”
“ทำไมล่ะ”
“ก็มุขเดิม แกหนีได้ทุกที”
ทั้งสองวิ่งตรงไปห้องน้ำทันที ขณะที่อิงฟ้ากำลังวิ่งกระเจิงเข้าไปในส่วนห้าง
อิงฟ้าวิ่งหนีงเข้ามาในแผนกเสื้อผ้าสตรี เห็นดาริกา ในชุดสก๊อยออกมาจากห้องลองเสื้อพอดี
อิงฟ้าวิ่งผ่านดาริกาไป แล้ววิ่งกลับเข้าอีกครั้ง พลางจ้องหน้าดาริกาเขม็ง
อ่านต่อตอนที่ 4