“อาหลอง-แอ๊ด-บานเย็น” นำทีม”ศิลปินแห่งชาติ”ขึ้นเวทีเชิดชูเกียรติ

“อาหลอง-แอ๊ด-บานเย็น” นำทีม”ศิลปินแห่งชาติ”ขึ้นเวทีเชิดชูเกียรติ
 
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จัดงานนิทรรศการเชิดชูเกียรติ “ศิลปินแห่งชาติ” ปี 2556 เพื่อเผยแพร่ผลงานของศิลปินแห่งชาติปีล่าสุด โดยมีผู้บริหารระดับสูง และ ศิลปินแห่งชาติ ร่วมแสดงความยินดีมากมาย
 
ในงานมีนิทรรศการเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย, นิทรรศการเทิดพระเกียรติ”อัครศิลปิน”พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นิทรรศการเทิดพระเกียรติ “อัคราภิรักษศิลปิน” สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, นิทรรศการเทิดพระเกียรติ “วิศิษฏศิลปิน” สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ นิทรรศการเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2556 ที่แสดงผลงานของศิลปินแห่งชาติทั้ง 9 ท่าน
 
“บุญฉลอง ภักดีวิจิตร” หรือ “ฉลอง ภักดีวิจิตร” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ผู้กำกับ-ผู้สร้างภาพยนตร์และละครโทรทัศน์) แสดงความคิดเห็นกับรางวัลนี้ว่า
 
“รู้สึกเป็นเกียรติ แล้วก็ภูมิใจเป็นครั้งที่สอง จากครั้งแรกที่ได้รับพระราชทานรางวัลตุ๊กตาทอง จากพระหัตถ์ในหลวง 4 ครั้งด้วยกัน 2 ครั้งแรกถ่ายภาพยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง”ผู้พิชิตมัจจุราช” และ”ละอองดาว” อีก 2 ครั้งได้รับรางวัลผู้ลำดับภาพยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง “ทอง” และ “ตัดเหลี่ยมเพชร” นี่เป็นครั้งที่สองที่เราภูมิใจที่สุดที่ได้รับอีกครั้งหนึ่ง ในฐานะศิลปินแห่งชาติ เป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลของเราอย่างยิ่ง 

ตอนนี้ก็ยังทำงานอยู่ แต่เปลี่ยนจากภาพยนตร์มาเป็นละคร ทำให้ช่อง 7 ดูแลทุกส่วนเลย เป็นผู้กำกับเหมือนเดิม เป็นผู้จัดด้วย ลูกชายก็ทำของเขา แยกกันทำ เขาเป็นตัวของเขาเองแล้ว กำลังทำเรื่อง”หวานใจนายจิตระเบิด” ตามประสาวัยรุ่นเขาก็สนุกดี
 
การทำงานจากภาพยนตร์มาเป็นละครต้องปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง 
 
“ปรับเปลี่ยนเรื่องสคริปต์ให้มีความละเอียดเพิ่มขึ้นอีก ทำเหตุการณ์ให้ได้ตอน ตามที่ช่องต้องการ การสร้างหนังคือสรุปเหตุการณ์ทั้งหมด เข้าไปในเวลา 2 ชั่วโมง 50 หรือถ้าเป็นหนังยาว เรื่องเขาจะยาวมาก เหมือนเรื่อง”ลอร์ดออฟเดอะริง” นั่นเขาทำตั้งสามภาค 
 
แนวภาพยนตร์ที่ผมเคยทำจะได้ดูอีกครั้งจากละครเรื่อง “ทอง” ภาค 10 จะต่างจากที่เคยทำตรงที่ผมสร้างและคิดเหตุการณ์ขึ้นมาใหม่ๆ เพื่อให้ประชาชนได้ดูอะไรแปลกๆ บ้าง แต่ยังคงรสชาติเดิม คือ แอ็คชั่น เข้มข้น บทรักมีโป๊ๆ บ้าง พอคนดูบู๊มาเยอะแล้วก็ต้องมีภาพโป๊มาเล้าโลมใจให้คน ใจเย็นขึ้น อ้าว เดี๋ยวบู๊อีกแล้ว จะสังเกตได้ว่าหนังเจมส์บอนด์ ทิ้งไม่ได้เรื่องโป๊ ต้องมีสาวบอนด์ ถ้าทำซีเรียสหมดคนก็ไม่ดู แล้วก็เร็วๆ นี้จะมีละครเรื่อง”แข่งรักนักซิ่ง” ออกแนววัยรุ่น บู๊ แข่งรถ เป็นละครวัยรุ่นเราก็ทำได้ แต่ทำในแบบผู้ใหญ่ ออกมาให้ชมกัน ตอนนี้กำลังถ่ายทำ”
 

“ยืนยง โอภากุล” หรือ “แอ๊ด คาราบาว” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล) พูดถึงรางวัลที่ได้รับว่า
 
“ผมภูมิใจมากนะครับ ต้องขอบคุณ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ที่จัดงานนี้ ให้ผมได้รับตำแหน่งนี้ ผมจะนำเอาความภาคภูมิใจกลับคืนสู่สังคม สิ่งใดที่จะทำได้ ก็อยากจะทำเต็มที่ครับ
 
จริงๆ เพลงเพื่อชีวิตก็คือเพลงธรรมดา ส่วนใหญ่เพลงจะเขียนแต่เรื่องความรัก แต่เพลงเพื่อชีวิตจะเขียนเรื่องสังคม เรื่องส่วนรวม เรื่องปรัชญา อย่างเพลง”ทะเลใจ” ก็เป็นเพลงปรัชญา สะท้อนถึงคนเราจะมีความสุขแท้จริงไม่ต้องไปหาที่อื่น หาที่ตัวเรานี่ล่ะ ถ้าใจเราสงบ หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข ถ้าเปรียบเป็นเรื่องศาสนาก็คือพบนิพพาน
 
ส่วนเพลง”คนล่าฝัน” เป็นเพลงให้กำลังใจ แฟนเพลงคาราบาวหลายๆ คนชอบเพลงนี้ เพราะเพลงมันเสริมให้คนลุกขึ้นมาสู้ ให้กำลังใจ มีฝัน แล้วเราไปล่าฝัน เคยล่าหรือยัง เคยฝันไหม
 
ส่วนอัลบั้มที่สะท้อนความเป็นคาราบาวมากที่สุดน่าจะเป็น “เมดอินไทยแลนด์” เป็นอัลบั้มที่ผมทำเต็มที่ แล้วเพื่อนๆ ตอนนั้นก็ยังสดกันอยู่ ตอนนี้ไม่สดแล้ว “เมดอินไทยแลนด์”เป็นอัลบั้มที่ผมใช้พลังเต็มที่ กินนอนกับมัน ถึงขนาดเช็คชื่อเพื่อนๆ ให้มาทำงานสิบโมงเช้า ใครไม่มาผมตัดเลย คอนเซปท์ของเพลงคือ อยากให้คนไทยอุดหนุนสินค้าไทย ภูมิใจกับความเป็นไทย เพราะถ้าประเทศเราไม่ภูมิใจไทยไปภูมิใจฝรั่งเศส กระเป๋าหลุยส์วิคตอง ใบละสองแสน มันก็ยังไงอยู่นะ
 
เร็วๆ นี้ จะได้ไปสอนเรื่องเพลงเพื่อชีวิตที่ ม.รามคำแหงด้วย คือที่นี่มีคณะศิลปกรรมศาสตร์ดุริยางค์ เกี่ยวกับดนตรี นอกจากดนตรีสากลแล้วก็มีเพลงลูกทุ่งด้วย พอดีปีนี้เขาสนใจเพลงเพื่อชีวิต เพราะเพลงเพื่อชีวิตก็มีไม่น้อย ที่มีบทบาทในสังคม มีบทบาทในบ้านในเมือง พอดีผม บ้านอยู่ใกล้ๆ ราม ได้รับดุษฎีบัณฑิตจากที่นั่นด้วย ก็อยากตอบแทน ได้ทำอะไรให้กับเขาบ้าง ร่างหลักสูตรร่วมกับคณาจารย์ที่นั่น จะเริ่มสอนเดือนหน้า”
 
จะกระทบกับงานเพลงที่รับแสดงไหม
 
“ไม่กระทบกับงาน เพราะส่วนใหญ่งานแสดงของผมจะกลางคืน แล้วการสอนจะเป็นกลางวัน 2—3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง ไม่ได้สอนทุกวัน เทอมแรกจะ 15 ครั้ง เป็นประวัติศาสตร์ดนตรี แบ่งเป็นเพลงเพื่อชีวิตไทย แล้วก็เพลงเพื่อชีวิตสากล ผมได้เชิญอาจารย์ทิวา สาระจูฑะ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านเพลงต่างประเทศมาช่วยสอนด้วย คือเพลงเพื่อชีวิตนี่ไม่ได้มีเฉพาะประเทศไทยนะ ของเขาไม่ได้เรียกแบบเราว่า”เพื่อชีวิต” เรื่องเรียกไม่เป็นไร เรื่องคำนามไม่เป็นไร แต่เรื่องเนื้อหาเป็นแบบเดียวกัน แสดงออกถึงสังคม มีบทบาทในสังคม
 
จริงๆ แล้วเพลงมันไม่ได้แยกเป็นเพลงเพื่อชีวิต เพลงลูกกรุง เพลงมันก็คือเพลง เพียงแต่ว่าเนื้อหาของเพลงเพื่อชีวิตส่วนใหญ่จะเขียนสะท้อนสังคม คิดว่าการที่เขาเปิดรับเพลงเพื่อชีวิต อย่างพี่”หงา คาราวาน” ก็เป็นคนเพลงเพื่อชีวิต เป็นอาจารย์ใหญ่ของพวกเรา ก็ได้ศิลปินแห่งชาติมาแล้ว ผมเป็นคนที่ 2 ถือว่ากรมส่งเสริมวัฒนธรรมไม่ได้คัดจากประเภทของเพลง แต่คัดจากว่าใครมีผลงาน มีบทบาทต่อบ้านเมือง ก็ต้องขอขอบคุณที่พิจารณาตรงนื้ จริงๆ ก็เป็นคนรักชาติรักประเทศเหมือนกัน ผมก็จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ในฐานะของศิลปินแห่งชาติที่ได้รับเกียรติจากกรมส่งเสริม กระทรวงวัฒนธรรม จะทำให้ชื่อเสียงของศิลปินแห่งชาติ ทำเต็มที่ ทำสุดความสามารถ เพื่อรักษาเกียรติภูมิที่สูงค่านี้ไว้ตลอดไปครับ”
 

“นิตยา รากแก่น” หรือ “บานเย็น รากแก่น” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (การแสดงพื้นบ้าน-หมอลำ) ผู้หญิงคนเดียวในสาขานี้ พูดถึงความรู้สึกที่ได้เป็นศิลปินแห่งชาติให้ฟังว่า
 
“ดีใจค่ะ ดีใจมากเลยค่ะ เหมือนฝันแล้วเป็นจริงค่ะ เราก้าวแรกมาสู่วงการจนมาได้รับรางวัลนี้ก็เหมือนกับก้าวถึงบันไดขั้นสุดท้ายแล้ว ก็คือสูงสุดรางวัลนี้ของศิลปิน ภาคภูมิใจมาก”

จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างไหม หลังจากได้รับรางวัลแล้ว
 
“ก็ยังคงทำหน้าที่เหมือนเดิม แต่มีการบ้าน คือทำให้มากขึ้น เมื่อก่อนนี้เราอาจจะคอนเสิร์ตเยอะ ตอนนี้ก็จะมีงานทางศิลปิน ศิลปะเข้ามา แล้วเราก็จะคิดค้นหาทำนอง การรำ เพื่อเอาไปสอนลูกศิษย์ เยาวชนรุ่นหลัง เขาอาจจะอยากจะมาเรียนกับเรา เราก็ต้องสอน ต้องรับ
 
เมื่อก่อนนี้ติดงานคอนเสิร์ต ไม่ได้เปิดสอนเท่าไร แต่ตอนนี้อยากจะเปิดเป็นคอร์สๆ ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้กับลูกหลาน
อยากจะหาเวลาให้ได้สอนมากๆ ขึ้นค่ะ อยากจะให้ลูกหลานได้เรียนด้วย อยากจะถ่ายทอดวิชาความรู้ที่เรามีอยู่ให้ลูกหลานมาสืบทอด ถ้าไม่มีเรา ก็ยังมีผลงานของเรา”
 
กับผลงานล่าสุด ตอนนี้มีอะไรบ้าง
 
“ตอนนี้เพลงชุดใหม่กำลังจะออกนะคะ พอดี ทีแรกคิดว่าจะอนุรักษ์เพลงเก่า จะเอาเพลงเก่าสมัยรุ่นเราแรกเกิด เกิดมาก็ได้ยินเลย ที่คนลืมๆ ไป เราอยากเป็นผู้สืบทอด ก็อยากจะอัดเพลงพวกนี้เอาไว้ เสียดาย เพลงเพราะๆ เยอะเลย แต่ยังไม่มีคนเอามาก็มี ก็จะไปหา ค้นหา แล้วเอามาร้องให้ลูกหลานรุ่นหลังได้ฟัง เพลงเพราะๆ เสียดายค่ะ”
 
ยกตัวอย่างให้ฟังหน่อย
 
“อย่างเพลงทำนองลำตาไหว ภูไท หรือกล่อมทุ่ง ขับทุ่ง หลวงพระบาง หรือ ลำพื้น สมัยโบราณ ลำกลอน ลำอะไรมีเยอะค่ะ คนที่รู้จักก็น้อยลง แต่คนรุ่นหลังรุ่นใหม่จะไม่รู้เลย”
 
 
ศิลปินแห่งชาติ แทบทุกคนที่ได้ซักถาม มักจะพูดถึงตัวเองว่า เวลาทำงานไม่ได้คิดอะไร นอกจากทุ่มเทงานให้เต็มที่ ให้มากที่สุด ทำด้วยจิตบริสุทธิ์ ไม่ได้คิดหวังรางวัลหรือต้องจะได้อะไร เมื่อเราทำเต็มที่ ทำดีที่สุดแล้ว ทุ่มเทที่สุดแล้ว ก็จะมีผู้เห็นเอง