“เป้” เข้าทาง กุ๊กกิ๊ก “มิน” ฉลุย
เมินข่าวคู่จิ้นซ้ำรอยอดีตรัก “แพนเค้ก”
“เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ” เปิดใจแฮปปี้ผุดๆ กับบท “บื้อ” ในละคร “ซินเดอเรลล่ารองเท้าเตะ” ที่ค่ายโพลีพลัสจัดให้ แม้จะเป็นบทที่ยากและท้าทายเพราะต้องเล่นอย่าไงให้ขำและสนุก ยิ่งต้องเล่นให้เป็นคู่จิ้นกับ “มิน-พีชญา วัฒนามนตรี” เจ้าตัวแอ่นอกออกตัวเลยว่าหินกว่า
“บื้อเขาเป็นหนุ่มมาดเซอร์แต่แอบปากเสียแต่เป็นคนดีมีน้ำใจสุดๆซึ่งตัวบื้อเขาเองเขาฝันอยากเป็นนักร้องแนวอินดี้มีอัลบั้มของตัวเอง เหมือนตัวจริงๆ ผมมั้ยล่ะ ในคาแร็กเตอร์เขาจะเห็นชอบตะโกนร้องเพลงโหวกเหวก สร้างความรำคาญให้ห่าน (มิน-พีชญา วัฒนามนตรี) เพื่อนบ้านที่ไม่ค่อยลงรอยมากๆ ทั้งคู่เลยไม่ชอบหน้ากันเหมือนเป็นไม้เบื่อไม้เมากันแหละ แต่ที่อยากให้ติดตามกันต่อไปว่าจะกรรมเวรหรือพรหมลิขิตก็ไม่รู้ ทำให้บื้อต้องมาช่วยห่านสร้างภาพเป็นไฮโซกำมะลอคอยดินเนอร์กับคุณชาย แค่ฟังคาแร็กเตอร์ผมเบาะๆ แค่นี้ก็น่าจะสนุกแล้วใช่มั้ยครับ”
ชอบอะไรในบทของ “บื้อ” บ้าง
“ผมว่าบทบื้อเขาเองมีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเองสูงนะ ถึงแม้จะดูไม่อยู่นิ่งชีวิตวุ่นวายแต่ลึกๆ ก็ไม่ได้เป็นคนที่ทำร้ายใคร กลับดูแล้วรู้สึกว่าถ้าค้นหาคนแบบนี้ดีๆ จะอบอุ่นซะด้วยซ้ำ ซึ่งผมเองก็ต้องเล่นให้โอเวอร์กว่าตัวจริงของผมซึ่งก็ยากอยู่ แต่โชคดีที่มีผู้กำกับอย่างพี่ปลา (พีรพล เธียรเจริญ) จะคอยเบรกให้ว่าตรงนี้ไม่ต้องเล่นเยอะนะ ตรงนี้พอดีๆ ซึ่งก็ทำให้ผมรู้ว่าบทตรงไหนผมต้องเบรก ส่วนไหนต้องเล่นเวอร์ไว้ก่อน”
ตอนนี้เข้าที่เข้าทางหรือยังเพราะบทแบบนี้ยากอยู่
“ยอมรับเลยครับว่ายากเลยทีเดียว เพราะผมเพิ่งจะเล่นละครมาไม่กี่เรื่องเอง พอมาเล่นเรื่องนี้ผมต้องปรับตัวเองเยอะขึ้นมาก ๆ ครับเรียกว่าต้องมีเข้าคอร์สเรียนการแสดงเพิ่มเติมเลย แต่ก็ประกอบกับช่วงนั้นต้องมีถ่ายหนังด้วย ก็เลยอาจจะไม่ค่อยสม่ำเสมอสักเท่าไร ซึ่งผมว่าโชคดีมากกว่าที่อยู่ในกองละครมีแต่ละคนที่รักและคอยช่วยเหลือ”
เล่นเรื่องนี้ถูกจับจ้องเป็นคู่จิ้นเขินมั้ย
“จากตอนแรกๆ เขินนะพูดผิดๆ ถูกๆ ให้สัมภาษณ์จะเห็นว่าผมเกร็งๆใช่มั้ย แต่ตอนนี้ตั้งหลักได้แล้ว (หัวเราะ) แล้วก็มองเห็นเลยพอละครออกได้ 2 วันแรก เพราะด้วยเนื้อเรื่องและการนำเสนอ เลยทำให้คนดูรู้สึกความเป็นคู่จิ้นของผมและน้องมิน ก็ดีครับถือว่าเป็นต้นทุนในการทำให้ละครเปรี้ยงปร้าง แต่ให้ละครดังในมุมที่คนชอบถึงความเหมาะสมแค่ในละครพอนะครับ (ยิ้ม) ไม่ต้องเกินนอกจอเดี๋ยวเรื่องยาวอีก ซึ่งถ้าคนดูเห็นเหมาะสมกันก็อยากเป็นคู่จิ้นแค่ในจอล่ะกัน”
พูดถึงน้อง “มิน” หน่อยเล่นด้วยกันเรื่องแรกเป็นไง
“ก่อนหน้านี้เคยเจอกันตามงานอีเว้นท์และช่องบ้าง พอทราบว่าจะได้มีโอกาสเล่นละครด้วยกันก็แอบถามโน่นนี่ ประวัติเล็กๆ น้อยๆ ของน้องเขาจากผู้จัดการผมเหมือนกัน ก็ทำให้ได้ความรู้มาระดับหนึ่ง ซึ่งพอมาเล่นด้วยกันน้องเก่งมากๆ ถือเป็นนักแสดงฝีมือฉกาจอีกคนก็ว่าได้ เล่นแล้วพลิ้วทีเดียวชอบนะแอ็คติ้งน้องแล้วก็เทคนิคการเล่น ผมเองในฐานะนักแสดงหน้าใหม่นะต้องดูการแสดงของน้องเขาไว้เป็นแนวทางด้วยซ้ำ”
คิดว่าคนดูจะได้รับประโยชน์อะไรจากละครเรื่องนี้
“ผมมองว่าตัวละครในเรื่องนี้เป็นเหมือนการจำลองเหตุการณ์ของทุกคนที่มีชีวิตจริงๆ ในสังคมไทยมีทั้งเรื่องความฝัน มีชีวิตจริงๆ ที่อยากจะตามหาฝันหรือแม้แต่ดิ้นรนให้ตัวเองได้มุ่งสู่จุดหมายในอนาคต สิ่งเหล่านี้พอถูกนำมาจำลองให้คนดูได้สนุกสนานในแง่ของละคร ก็อยากให้ดูสาระและความสุขที่ได้ดูละครแล้วอมยิ้มผ่านตัวละครที่พวกผมเล่นก็พอนะครับ อย่านำกลับไปคิดเยอะทำให้รกหัว แต่ถ้ามีมุมไหนดีๆ ที่ต้องต่อสู้เพื่ออนาคตก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ครับ ขอให้มีความสุขกับการชมละครกันเยอะๆ “