ข่าวละคร "สาปพระเพ็ง"
เจ้าจอมอินยา "จอย รินลณี" จอมมายา
มากจริต ล่มชาติ
ในเรื่องเล่นเป็นสามคาแรคเตอร์ ในอดีตเป็นเจ้านางอินยา แล้วก็มาเป็นเพชรดา เพชรดาในช่วงเก็บกดมันเป็นอารมณ์ที่น่าสงสารด้วย แล้วมีความแอบจิตนิดหนึ่ง อาตู่ก็จะคอยบอกตลอดว่าเป็นคนที่ถูกกระทำ จะว่ามันถูกกระทำแล้วก็เก็บกด แต่ก็ไม่ใช่อารมณ์ร้องไห้น่าสงสาร จะมีอะไรซ่อนอยู่ในความไม่ปกติของตัวละครค่ะ พอเฉลยก็จะเปลี่ยนไปอีกแบบ
ส่วนเจ้านางอินยาจะรู้สึกว่าเขาเป็นผู้หญิงที่อยู่มานาน เพราะฉะนั้นการวางแผนจริตต้องมีเยอะ ในแบบของคนสมัยนั้น เจ้านางอินยาเป็นอารมณ์ของคนที่ไม่รู้จักพอ มีความทะเยอทะยาน ถ้าพูดตามจริงในตำแหน่งที่เขาอยู่มันก็เป็นที่ ที่สูงมากพอแล้ว แต่เขาก็ยังมีความต้องการที่มากกว่านี้ ต้องการให้ลูกตัวเองได้ให้ถึงที่สุด มันเป็นตัวละครที่ไม่มีความสุข พยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ไม่ได้ เขาเป็นตัวละครที่ไม่ยอมแพ้ และไม่ให้อภัยใคร ทุกครั้งที่ถึงจุดจบในชีวิตเขา เขาก็ยังคิดไม่ได้ ก็ยังอาฆาตอยู่ ไม่ยอมอโหสิกรรมให้ใคร ไม่ยอมปล่อยวาง ตัวละครนี้ไม่สามารถที่จะเป็นตัวละครที่จะมีความสุขได้ซักชาติหนึ่ง ไม่ว่าจะมีภาคต่อเขาก็จะเป็นคนไม่มีความสุข เพราะเขาไม่เคยให้อภัยใคร และโทษคนอื่นอยู่ตลอดเวลาว่าคนอื่นไม่ดี คนอื่นไม่ดี คนอื่นผิด เขาไม่เคยมองว่าสิ่งที่ตัวเองทำเป็นสิ่งไม่ดี เป็นสิ่งผิด เป็นคนที่คิดผิดอยู่ตลอดเวลา โทษเหตุการณ์ โทษคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยมองตัวเอง ไม่เคยให้อภัยใคร เพราะฉะนั้นเขาจะไม่มีความสุขไม่ว่าจะอีกกี่ชาติเป็นตัวละครที่จะไม่พบความสุขแน่นอน
ประทับใจฉากที่แต่งแก่ค่ะ เพราะไม่เคยเล่น ไม่เคยเล่นเป็นตัวแก่มาก่อนเลย แล้วมันก็แก่มากๆ ด้วย ชอบค่ะ แล้วก็เป็นซีนอารมณ์ในตอนแก่ด้วย เราไม่เคยแต่ง ไม่เคยพูดแบบคนแก่ เดินแบบคนแก่ ความรู้แบบอยากลองเล่นจังเลยมันจะเป็นยังไง มันจะได้หรือเปล่า หรือเวลาที่จะตวาด คนแก่จะตวาดยังไง ต้องกดเสียงยังไง แล้วเหมือนมันจะเป็นตอนที่จะไม่มีความสุขที่สุดของเขา คนที่สวยมากๆ คนที่หลงในความสวยของตัวเองแล้วต้องมาแก่ แล้วต้องมาเก็บกด ชอบตอนแก่ค่ะ เพราะว่าไม่เคยเล่น แล้วก็มันใหม่มากในการเล่นแบบนั้น ตอนซีนที่เล่นกลับพี่อั๋น ต้องระเบิดอารมณ์ใส่พี่อั๋น จริงๆแล้วเวลาเล่นกับพี่อั๋น พี่อั๋นเขาจะช่วยอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ซีนที่รับส่งค่ะ อย่างพี่อั๋นเป็นคนที่ทำการบ้านตลอดเวลา ก่อนเข้าฉากเขาก็จะต่อๆ ถึงจะไม่ใช่ฉากที่เขาเข้า เป็นฉากที่จอยเข้าคนเดียวแล้วเยอะ แล้วเขายังไม่เข้า เขาก็จะช่วยต่อบท
ความโดดเด่นของละครสาปพระเพ็งที่ทุกคนเห็นก่อนหน้านี้เลยก็คือ ความอลังการของเสื้อผ้า โลเคชั่นสถานที่ เชื่อว่าทุกคนคงอยากดู แต่งตัวสวยจังเลย ฉากสวยจังเลย อันนี้อาจจะมาก่อน แต่ที่คนดูยังไงไม่รู้คือ เรื่องมันสนุกมากจริงๆ ทั้งอดีต ทั้งปัจจุบัน มันสนุกพอๆกัน เหมือนมีอะไรซ้อนอยู่ตลอดเวลา เป็นบทที่เข้มข้นมาก ตอนเราอ่านยังรู้สึกว่ามันสนุกดีอะไรแบบนี้ค่ะ นอกจากความสวยอลังการแล้ว บทน้ำหนักมันค่อยข้างจะเยอะมากค่ะ เป็นเรื่องที่สนุกค่ะ เป็นเรื่องที่เหมือนต้องติดตามตลอดเวลา ไม่งั้นอาจจะพลาดอะไรไป เหมือนเป็นละครที่ต้องดูทุกตอนทุกฉาก แล้วจะสนุก
จอยชอบในระบบการทำงานทั้งหมดเลย เพราะอาตู่เป็นผู้กำกับที่ค่อนข้างมีจิตวิทยาในการจะบอกอะไร ดูอะไร ดูรอบด้าน ไม่ว่าจะแสงมันจะช่วยส่งกันในเรื่องของอารมณ์ หมายถึงว่าดูอารมณ์แล้ว บ้างทีแสงก็มีส่วนช่วยในการส่งอารมณ์ ให้อารมณ์แล้วฉากนั้นมันไปด้วยกัน มันจะช่วยเสริมกันค่ะ
จอยเชื่อเรื่องของกรรมมากกว่าโชคลางอีก จอยจะเชื่อว่ากรรมเป็นเรื่องของการกระทำค่ะ คือเราทำอะไรไว้ก็ต้องได้แบบนั้น จอยเชื่อแบบร้อยเปอร์เซ็นเลย เหมือนที่คนพูดว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว จริงๆ มันเป็นประโยคที่ธรรมดามากๆ แต่จอยเชื่อในสิ่งนั้นมากๆ คนที่ดีกับพ่อแม่ ถ้าเขามีลูก ลูกๆก็จะดีกับเขา แต่ถ้าเราไม่ดีกับพ่อแม่ ลูกๆก็ไม่มีทางดีกับเรา จอยเชื่อแบบนั้นเพราะอยู่ที่การเลี้ยงดู ปลูกฝัง มันเป็นอะไรที่เห็นง่ายมาก ถ้าว่าพ่อแม่เลี้ยงเรามาดี เราดีกับพ่อแม่ ลูกก็จะดีกับเราเช่นกัน ทุกอย่างมันคือลูกโซ่กันไป คือกรรม ทุกอย่างมันถูกผูกไว้ด้วยกัน จอยเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปตามกรรม ถูกต้องอยู่แล้ว ด้วยหลักของตรรกะ ทางวิทยาศาสตร์ ทั้งในแง่ของความเชื่อ ปรัชญา ก็ต้องเกิดจากกรรมการกระทำอยู่แล้ว เหมือนตัวละครที่ดี เขาก็จะอโหสิกรรม แต่ใครที่ไม่ยอมให้อภัยใครไม่ยอมรับรู้ ไม่ยอมรับในความเป็นจริงของโลก ก็คงเป็นคนที่ไม่มีความสุข นั้นก็คือกรรมของเขาเองค่ะ