เรื่องย่อละคร “รักข้ามเส้น”
ประเภท โรแมนติก-คอมมาดี้
บทประพันธ์ ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
บทโทรทัศน์ ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
ผู้กำกับ ชูศักดิ์ สุธีรธรรม
บริษัทผู้ผลิต บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
อมร กับ นวล ค้าเจริญ เจ้าของร้านบะหมี่ลือชื่อ มีลูกชายหญิง 3 คน คือ ฟ้ามุ่ย (น้ำฝน) ฟ้าลั่น และฟ้าใส โดยอมรและนวลฝึกลูกๆ ทั้งสามให้ช่วยงานในร้านตั้งแต่เล็กจนโต จนกิจการเจริญรุ่งเรือง พวกเขาขยายร้านและยังทำโรงงานผลิตบะหมี่ขนาดเล็กๆ ส่งขายอีกด้วย โดยให้ฟ้ามุ่ยเป็นคนดูแลกิจการในร้านเป็นหลัก เธอจึงสมัครใจที่จะเรียนจบแค่ชั้นม.6 แล้วออกมาช่วยพ่อแม่ทำงานอย่างเต็มตัว เพื่อเสียสละให้น้อง ๆ ทั้งสองได้เรียนหนังสือกันเต็มที่ ดังนั้นฟ้าลั่นกับฟ้าใสจึงเรียนจบมหาวิทยาลัย พอจบแล้วฟ้าลั่นก็กลับมาดูแลโรงงาน ส่วนฟ้าใสนั้นช่วยนวลดูแลด้านบัญชีทั่วไป
ฟาก ชาคริต (เฟิร์ส) หนุ่มนักเรียนนอก ลูกชายโทนของ คุณหญิงพจนีย์ ซึ่งถูกมารดาบังคับให้คบกับ พิมพ์สิริ หญิงสาวผู้เพียบพร้อมทั้งฐานะและการศึกษา และที่สำคัญเลยก็คือ เธอสืบเชื้อสายมาจากผู้ดีเก่าเช่นเดียวกับตระกูลของชาคริตอย่างที่คุณหญิงพจนีย์ต้องการ คุณหญิงพจนีย์ต้องการให้สาวๆ ที่หมายตาชาคริตรู้ว่าชาคริตมี คนรักที่เหมาะสมอยู่แล้ว จึงบังคับเขาพาพิมพ์สิริออกงานสังคม โดยยอมแลกข้อแลกเปลี่ยนกับชาคริตว่าคุณหญิงจะยอมให้เขาไปสอนพิเศษตอนกลางคืน แต่ตอนกลางวันเขาจะต้องเข้าทำงานเป็นผู้บริหารโรงแรมที่คุณหญิงเป็นเจ้าของ ทั้งๆที่ชาคริตไม่ชอบงานบริหารเอาเสียเลย ชาคริตจึงต้องจำใจยอมไปงานสังคมกับพิมพ์สิริแทบจะรายวัน
ชาคริตอึดอัดมากเมื่อต้องอยู่ในงานสังคมสวยหรูแต่คนใส่หน้ากากเข้าหากัน ขาดความจริงใจต่อกัน ดังนั้นเมื่อพิมพ์สิริเผลอเขาจึงหลบออกมาจากงาน โดยได้รับความช่วยเหลือจาก หมอนิธิ เพื่อนสนิทของเขาที่มางานสังคมด้วย พอออกมาจากงานได้แล้วชาคริตเกิดหิวขึ้นมาจึงแวะเข้ามากินบะหมี่ที่ร้านของอมร เพราะถึงเขาจะเกิดมาในตระกูลผู้ดีเก่า แต่ชาคริตก็ชอบชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายและสงบ เมื่อฟ้ามุ่ยเห็นชาคริตก็หลงรักเขาทันที แต่เธอก็ทำได้แค่แอบมองเขา ส่วนชาคริตไม่ได้สนใจฟ้ามุ่ยเลย
นับตั้งแต่ชายหนุ่มในฝันจากไป ฟ้ามุ่ยก็เศร้าใจมาก นวล ฟ้าลั่น ฟ้าใส และฉัตร ต่างเป็นทุกข์ไปกับฟ้ามุ่ย แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ฟ้าใสจึงออกความคิดให้ฟ้ามุ่ยลองเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตประจำวันดูบ้าง เผื่อว่าสักวันที่ฟ้ามุ่ยได้เจอชายในดวงใจจะได้ไม่ต้องแห้วอีก
ฟ้ามุ่ยจึงตัดสินใจขออมรไปเรียนต่อพราะหวังจะเอาวิชาความรู้กลับมาช่วยขยายกิจการร้าน อมรยอมให้ฟ้ามุ่ยเรียนได้ เพราะใจจริงเขาก็ต้องการให้ลูกสาวมีการศึกษาไม่น้อยหน้าใครอยู่แล้ว แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องไปเรียนเมื่อปิดร้านแล้วเท่านั้น เพื่อไม่ให้งานทางร้านเสียหาย เพราะฟ้ามุ่ยเป็นตัวหลักของกิจการร้านบะหมี่อยู่ ฟ้ามุ่ยจึงตัดสินใจเลือกเรียนภาคค่ำแทนภาคปกติ
และที่เรียนภาคค่ำนั่นเอง ฟ้ามุ่ยก็ได้พบกับชาคริตอีกครั้ง เพราะชาคริตเป็นอาจารย์พิเศษสอนหนังสือที่นั่น เมื่อได้พบชายในฝันอีกครั้ง ฟ้ามุ่ยจึงคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้ชาคริตสนใจ เธอเริ่มแต่งหน้า แต่งตัวมากขึ้น โดยมีฟ้าใสและฉัตรคอยช่วยเหลือแนะนำ
จากที่เคยเป็นอีเพิ้ง ฟ้ามุ่ยก็เริ่มสวยขึ้นอย่างผิดหูผิดตาจนเป็นที่แปลกใจของอมรมาก อมรจึงพยายามซักถามฟ้ามุ่ยถึงสาเหตุของการเปลี่ยนรูปแปลงโฉมของลูกสาวในครั้งนี้ แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบ อมรจึงแอบไปจ้างพล ชายหนุ่มที่เปิดร้ายขายข้าวมันไก่อยู่ข้างๆ ร้านบะหมี่ของอมรให้คอยแอบตามดูพฤติกรรมของฟ้ามุ่ยทุกระยะ แต่พลเกิดมาหลงรักฟ้าใสเข้า จึงถูกฟ้าใสชักชวนเข้าเป็นพวกที่คอยให้ความช่วยเหลือให้ฟ้ามุ่ยได้สมหวังในรักกับชาคริต โดยตั้งเงื่อนไขว่าถ้าพลไม่ช่วยกันปิดบังเรื่องฟ้ามุ่ยกับชาคริตแล้ว ฟ้าใสจะไม่ยอมรับรักพล พลจึงกลายเป็นสายให้พวกฟ้ามุ่ยเสียแทน
ฝ่ายชาคริตเมื่อมาได้สอนหนังสือภาคค่ำให้ฟ้ามุ่ย เขาก็ได้รู้จักกับเธอมากขึ้น รู้ว่าเธอเป็นคนอ่อนโยนและจริงใจเพียงใด แล้วเขาก็ตกหลุมรักฟ้ามุ่ยในที่สุด ฟ้ามุ่ยตื่นเต้นมากที่ชาคริตหันมาสนใจเธอ แต่เธอก็กลัวว่าถ้าเขารู้ว่าเธอคือสาวร้านขายบะหมี่ที่เขาเคยมองเมินมาแล้ว เธออาจจะผิดหวังในรักครั้งนี้ก็ได้ ฟ้ามุ่ยจึงหลอกชาคริตว่าเธอเป็นลูกเศรษฐี
ชาคริตชวนฟ้ามุ่ยออกเดทหลายครั้ง ความรักของฟ้ามุ่ยกับชาคริตดูเหมือนจะงอกงามดี แต่ฟ้ามุ่ยก็ไม่สบายใจเรื่องที่โกหกชาคริตว่าเธอคือใคร จนเธอเกือบจะหลุดปากบอกวามจริงก็หลายครั้งแต่ก็ไม่กล้าพอ
นวลเห็นลูกสาวมีทุกข์จึงบอกฟ้ามุ่ยว่าก่อนที่ความรักของเธอจะก้าวไปไกลกว่านี้ ฟ้ามุ่ยควรจะบอกความจริงกับชาคริตเสีย เพราะคนเราถ้าคิดจะเป็นคู่ชีวิตกันแล้วก็ควรจะยอมรับตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายให้ได้ ไม่เช่นนั้นชีวิตคู่ไม่มีทางไปรอด ฟ้ามุ่ยจึงตัดสินใจบอกความจริงกับชาคริตในวันออกเดทกันวันหนึ่งว่าเธอคือยายเพิ้งที่ขายบะหมี่ที่ชาคริตเคยมองเมินคนนั้น และเมื่อได้รู้ความจริงอย่างงี้แล้วชาคริตยังอยากจะคบเธอต่อไปหรือไม่ ชาคริตอึ้งไป ฟ้ามุ่ยจึงคิดว่าชาคริตผิดหวังเมื่อรู้ความจริงว่าเธอคือใครจึงวิ่งหนีไป
เหล่าพี่น้องและแม่ต้องพากันช่วยปลอบใจฟ้ามุ่ยกันเป็นการใหญ่ แต่อาการของเธอก็ไม่ดีขึ้น วันๆเอาแต่เศร้าซึม ทำบะหมี่ให้ลูกค้าๆ ผิดๆ ถูกๆ จนถูกลูกค้าต่อว่า ยิ่งทำให้ฟ้ามุ่ยเครียดมากขึ้นไปอีก ในที่สุดฟ้ามุ่ยก็ตัดสินใจจะย้ายไปเรียนที่อื่นเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอหน้าชาคริตให้ช้ำใจอีก
ฝ่ายชาคริตหลังจากหายตกใจแล้วก็พยายามจะตามหาฟ้ามุ่ยเพื่อปรับความเข้าใจ แต่กลับพบว่าฟ้ามุ่ยย้ายไปเรียนที่อื่นเสียแล้ว ชาคริตก็เศร้าใจมาก แต่ก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขาจึงตัดสินใจแอบค้นที่อยู่ของฟ้ามุ่ยจากใบสมัครเข้าเรียนจนรู้ว่าฟ้ามุ่ยอยู่ที่ไหน แล้วแอบไปดักเจอฟ้ามุ่ยที่หน้าบ้าน ฟ้าลั่นกับพลเห็นชาคริตมาด้อม ๆ มอง ๆ อยู่แถวบ้านก็คิดว่าเป็นโจร จึงช่วยกันรุมซ้อมชาคริต แต่ฟ้ามุ่ยกลับมาเจอจึงห้ามไว้
ฟ้ามุ่ยตกใจมากที่เห็นว่าคนที่ถูกรุมซ้อมจนสะบักสะบอมนั้นคือชาคริตจนทำอะไรไม่ถูก ชาคริตจึงรีบบอกว่าเขาไม่ได้นึกรังเกียจลูกร้านขายบะหมี่อย่างเธอเลย แต่วันนั้นที่เขาเงียบไปหลังจากรู้ความจริงว่าฟ้ามุ่ยคือใครแล้วนั่นก็เป็นเพราะว่าเขาโกรธตัวเองที่มองผ่านเลยผู้หญิงดีๆอย่างฟ้ามุ่ยไปได้ และชาคริตขอโอกาสให้เขาได้กับมาคบกับฟ้ามุ่ยอีกสักครั้ง ฟ้ามุ่ยอึ้งไป ชาคริตเลยคิดว่าฟ้ามุ่ยยังโกรธเขาอยู่ จึงตัดสินใจพิสูจน์รักแท้ของเขาด้วยการขอฟ้ามุ่ยแต่งงาน !
ฟ้ามุ่ยตกใจมาก ! เพราะรู้ว่าพ่อของเธอไม่ชอบลูกคนรวยอย่างชาคริต แต่ชาคริตไม่หวั่น เขากลับบอกฟ้ามุ่ยว่าเมื่อเขารักแล้ว เขาจะไม่ยอมเปลี่ยนใจเป็นอันขาด และเขาจะต้องเอาชนะใจว่าที่พ่อตาของเขาให้ได้ไม่ว่าจะต้องใช้ความพยายามสักแค่ไหนก็ตาม
ฟ้ามุ่ย นวล ฟ้าลั่น ฉัตร ฟ้าใส และพลจึงช่วยกันออกอุบายให้ชาคริตปลอมตัวเป็น "ชาติ" หนุ่มกำพร้าเข้าไปเป็นคนงานในโรงงานบะหมี่ของอมร ยอมทำงานใช้แรงงานอย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน ชาคริต ตอบตกลง
เอาละสิ !!! เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป แรงงานโรงงานบะหมี่อย่าง “ชาคริต” จะสามารถเอาชนะใจ ว่าที่พ่อตาแม่ยาย ได้หรือไม่ และการฟันฟ่าอุปสรรคนานับประการของทั้งคู่ จะประสบความสำเร็จหรือเปล่า ติดตามรับชมละคร “รักข้ามเส้น” ทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 18.45 - 20.00 น. เริ่ม วันศุกร์ที่ 22 มีนาคมนี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3 จ้า
ตัวละคร “รักข้ามเส้น”
1. พัชรินทร์ จัดกระบวนพล รับบท “ฟ้ามุ่ย”
อายุประมาณ 25 เป็นลูกสาวคนโตของอมรและนวล เป็นคนรักครอบครัวมาก ขยันขันแข็ง เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญของบ้าน มีหน้าที่หลักคือทำบะหมี่ในร้าน จึงเรียนจบแค่มัธยมปลายเท่านั้นความจริงฟ้ามุ่ยนั้นนับว่าเป็นคนสวยคนหนึ่ง แต่ด้วยความที่ไม่เคยใส่ใจในตัวเอง จึงปล่อยปละละเลยตัวเองให้หน้ามัน ผมยุ่ง เป็นเพิ้ง อยู่หน้าหม้อต้มบะหมี่ทุกวัน ตราบจนกระทั่งถูกความรักจู่โจมหัวใจ ยายเพิ้งจึงลุกขึ้นปฏิวัติตัวเองแปลงโฉมเป็นสาวสวยขึ้นมา แต่รักของเธอก็มีอุปสรรคนานัปการกว่าจะแฮ้ปปี้เอ็นดิ้งได้
2. เอกพงศ์ จงเกษกรณ์ รับบท “ชาคริต”
อายุประมาณ 26-27 แถมยังร่ำเรียนจนจบปริญญาโท 2 ใบอีกด้วย โดยใบหนึ่งจบด้านบริหารธุรกิจมาเพื่อตามใจแม่ ส่วนอีกใบไปแอบเรียนวิชาดนตรีมาเพื่อตามใจตัวเองโดยแม่ไม่รู้ เป็นคนจิตใจอ่อนโยน แต่ก็มุ่งมั่นจริงจังกับเรื่องชีวิต หนักเอาเบาสู้ และไม่ยอมย่อท้อต่ออุปสรรคที่พบเจอง่ายๆ แม้จะถูกเลี้ยงดูมาอย่างลูกคุณหนูแท้ๆ เพราะพ่อตายตั้งแต่ยังเล็กๆ แถมยังเป็นลูกโทนอีกต่างหาก คุณหญิงแม่จึงรักและหวงแหนเป็นอย่างมาก
3. ตั้ม ศรันย์ แก้วจินดา รับบท “ฟ้าลั่น”
เป็นน้องชายคนเดียวของฟ้ามุ่ย พอเรียนปริญญาตรีก็ออกมาช่วยกิจการของครอบครัว โดยได้รับมอบหมายให้เป็นคนดูแลโรงงานทำบะหมี่เป็นหลัก เป็นคนรักครอบครัวและค่อนข้างกลัวพ่อ เมื่อมีคนรักและอยากแต่งงานด้วย แต่ก็ไม่สามารถจะแต่งได้เพราะอยากเห็นพี่สาวมีความสุขก่อน ฟ้าลั่นจึงต้องเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญที่จะต้องช่วยให้ฟ้ามุ่ยได้สมหวังในรักและแต่งงานไปเสียที ตนเองจะได้แต่งงานบ้าง
4. การัญชิดา คุ้มสุวรรณ รับบท “ฉัตร”
เป็นแฟนสาวของฟ้าลั่น สุภาพเรียบร้อย ไม่มีหือมีอือกับใคร รักฟ้าลั่นมาก เป็นลูกสาวร้านขายผักในตลาด
5. ปารีณา บุศยศิริ รับบท “ฟ้าใส”
เป็นน้องสาวคนเล็ก กำลังเรียนอยู่ม.ปลาย ใกล้จะจบแล้ว และอยากเรียนต่อมหาวิทยาลัยตามเพื่อน ฟ้าใสร่วมมือกับฟ้าลั่นช่วยเหลือฟ้ามุ่ยให้ได้เรียนหนังสือต่อ ถ้าปฏิบัติการนี้สำเร็จ ตนก็คงจะได้เรียนบ้าง เป็นคนที่ค่อนข้างจะแก่นแก้วและเป็นจอมวางแผนคนหนึ่งเลยทีเดียว
6. คิน คนินสิทธิ์ รับบท “พล”
หนุ่มจอมซื่อที่ขายข้าวมันไก่อยู่ร้านข้างๆ แอบหลงรักฟ้าใสมานานแต่ไม่กล้าจีบ ได้แต่แอบมอง พออมรมาจ้างให้ไปตามสืบพฤติกรรมของฟ้ามุ่ย ก็รีบตกลงเพื่อหวังจะได้ใกล้ชิดกับฟ้าใส แต่แล้วก็ต้องมาเป็นพวกฟ้าใสช่วยปิดบังความลับต่างๆของฟ้ามุ่ยอย่างเต็มใจ ฟ้าใสให้ทำอะไรก็ทำทุกอย่างไม่มีหือเลยแม้แต่น้อย
7. โกสินทร์ ราชกรม รับบท “เจตน์”
เป็นลูกชายโทนของจรัญ นักเลงประจำถิ่น รับเอาความเลวของพ่อมาอยู่ในตัวได้อย่างครบถ้วนกระบวนความ เมื่อแรกเจอฟ้ามุ่ยก็ไม่สนใจเพราะเห็นว่าฟ้ามุ่ยไม่สวย แต่หลังจากฟ้ามุ่ยแปลงโฉมขึ้นมา เจตน์ก็หลงรักฟ้ามุ่ยอย่างหัวปักหัวปำและพยายามทำทุกวิถีทางที่จะได้ครอบครองและเชื่อว่าถ้าอมรพ่อของฟ้ามุ่ยหมดเนื้อหมดตัว ฟ้ามุ่ยจะหมดที่พึ่งและต้องหันมาหาตนอย่างแน่นอน เจตน์จึงกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของอมรไปโดยปริยาย
8. มนตรี เจนอักษร รับบท “อมร”
อายุ 40 ปลายๆ เป็นคนก่อร่างสร้างตัวอย่างปากกัดตีนถีบอีกคนหนึ่ง เป็นคนกตัญญูรู้คุณคน ไม่เคยกลัวงานหนัก รักครอบครัวมาก แต่ค่อนข้างเป็นคนจอมบงการชีวิตของลูก แต่ก็ไม่เคยมีใครโกรธอมรจริงจังเพราะลึกๆแล้วทุกคนก็รู้ดีว่าทุกสิ่งที่อมรทำ ก็เพื่อครอบครัวทั้งนั้น
9. อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ รับบท “นวล”
เป็นเมียอมร อายุใกล้เคียงกัน อยู่ในโอวาทของสามีทุกอย่าง ขณะเดียวกันก็รักลูกมาก เมื่อเห็นลูกมีทุกข์และขัดแย้งกับอมร ก็อดช่วยเหลือไม่ได้ หลายครั้งนวลจึงกลายเป็นคนต้นคิดสำคัญในการช่วยเหลือฟ้ามุ่ยเสียเอง
10. ต่อง สาวิตรี สามิภักดิ์ รับบท “คุณหญิงพจนีย์”
อายุ 40 ปลายๆ เป็นคุณหญิงสามีตายตั้งแต่ยังสาว และมีลูกชายเพียงคนเดียวคือชาคริต จึงรักและหวงลูกชายเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับให้คนคอยตามดูพฤติกรรมของชาคริตอยู่เป็นระยะๆ แต่ชาคริตก็รู้ตัวและหลบหลีกได้ทุกครั้ง เป็นเจ้าของกิจการโรงแรมใหญ่โต และหวังจะให้ลูกชายเข้ามาบริหารต่ออย่างเต็มตัว จึงผลักดันให้ชาคริตไปเรียนต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจแม้จะรู้ว่าลูกไม่ชอบ และยังต้องการให้ชาคริตแต่งงานกับผู้หญิงที่เลือกสรรให้ มีโรคประจำตัวยอดนิยมของคนรวยคือโรคหัวใจ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำชาคริตไม่กล้าขัดใจแม่
11. จิราวัฒน์ วชิรศรัณย์ภัทร รับบท “จรัญ”
เป็นนักเลงในคราบนักธุรกิจ มีที่ดินตาบอดติดกับโรงงานบะหมี่ของอมร
จึงอยากได้ที่ดินโรงงานของอมรมาก เพราะต้องการเอามารวมกับที่ดินของตนแล้วสร้างห้างสรรพสินค้า แต่เมื่ออมรไม่ยอมขาย จึงต้องใช้เล่ห์เพทายเพื่อให้ได้มา มีลูกชายคนเดียวคือเจตน์ แต่แม่ของเจตน์ตายไปนานแล้ว หลังจากนั้นจรัญก็ไม่เคยแต่งงานใหม่อีก แต่มีเมียเล็กเมียน้อยไปทั่ว
12. ออย มิรา โกมลวณิช รับบท “พิมพ์สิริ”
เป็นสาวไฮโซคนสวยและโด่งดังของวงสังคม เป็นลูกสาวเพื่อนของคุณหญิงพจนีย์ ซึ่งคุณหญิงเห็นว่าเหมาะสมทุกประการที่จะมาเป็นสะใภ้ ในขณะเดียวกันพิมพ์สิริก็หลงใหลได้ปลื้มชาคริตอยู่พอตัวเหมือนกันเพราะเห็นเป็นคนมีชาติมีตระกูล ฐานะการงานและการเงินใกล้เคียงกัน แถมยังหล่อเหลาอีกต่างหาก แต่เธอก็เป็นเหมือนใครอีกหลายคนในยุคนี้ที่หลงใหลได้ปลื้มผู้คนก็แต่เพียงเปลือกนอกเท่านั้น พอรู้ว่าชาคริตเป็นอัมพาตจึงตีจากทันที
13. ณัฐนันท์ จันทรวิโรจน์ รับบท “สารวัตรสุเมธ”
เป็นเพื่อนสมัยเรียนอีกคนหนึ่งของชาคริต ทั้งสามยังคงติดต่อกันอยู่เสมอแม้ว่าชาคริตจะไปเรียนต่อที่เมืองนอกก็ตาม
14. ลิฟท์ สุพจน์ จันทร์เจริญ รับบท “หมอนิธิ”
เป็นเพื่อนสมัยเรียนของชาคริต จึงคอยเป็นผู้ช่วยของชาคริตมาตลอด และเขายังเป็นชายหนุ่มที่ก้องภพหมายปองอยู่ลึกๆ อีกด้วย แต่หมอนิธิไม่ได้มีรสนิยมรักไม้ป่าเดียวกัน
15. จิราวัฒน์ ธนกิตติ์ธนานนท์ รับบท “ก้องภพ”
เป็นลูกชายเพื่อนของอมรที่ถูกวางตัวให้เป็นเจ้าบ่าวของฟ้ามุ่ย โดยที่ทั้งอมรและพ่อของก้องภพไม่เคยรู้ระแคะระคายเลยสักนิดเดียวว่าก้องภพเป็นเกย์ และชอบเที่ยวบาร์เกย์มาก
16. บี วัลวิภา โยคะกุล รับบท “คุณหญิงศจี”
เป็นเพื่อนในวงสังคมเดียวกันกับคุณหญิงพจนีย์ ชอบความ
หรูหราไฮโซ อยากให้ลูกสาว-พิมพ์สิริ-ได้กับลูกผู้ลากมากดีฐานะเดียวกัน ชอบแต่งตัวเว่อๆ บางครั้งจึงเหมือนแฝดต่างวัย มีความเป็นเพื่อนกับลูก มากกว่าความเป็นแม่ ไม่ทำงานอะไร แค่เก็บค่าเช่าที่กินก็สบายแล้ว
17. พุดเดิ้ล ปาจรีย์ ณ นคร รับบท “แกงส้ม”
พนักงานในโรงงานทำบะหมี่ เป็นเพื่อนรักกับต้มยำ หลงรักเจตน์(ตัวร้าย)
18. ธงธง ม๊กจ๊ก รับบท “ต้มยำ”
เป็นเด็กที่อยู่ในชุมชน ใกล้โรงงาน เรียนจบ ปวช.ใฝ่ดี รักครอบครัว รักพวกพ้อง กตัญญู มีความใฝ่ฝันจะทำงานเก็บตังค์เพื่อมีบ้านเล็กๆของตัวเอง เป็นเพื่อนกับแกงส้มตั้งแต่เด็ก เลยจะขัดคอกับแกงส้ม และกระตุกให้เพื่อนอยู่ในโลกแห่งความจริง เพราะรู้ว่าเพื่อนหลงรักเจตน์(ตัวร้าย)
19. สมจิตร จงจอหอ รับบท “ฉ่ำ”
สมุนมือขวาของเจตน์ ความจริงฉ่ำเป็นเด็กข้างบ้านที่โตมาด้วยกันกับเจตน์ ไปไหนไปด้วย คลุกคลีอยู่บ้านจนเหมือนคนในครอบครัวคนหนึ่ง มีความกวนโอ๊ยอยู่ในตัวสูงมาก ขณะเดียวกันก็ฉลาดกว่าเจตน์ จึงเป็นลูกน้องที่คอยให้สติลูกพี่อยู่เป็นประจำ รู้ทางกันจนเจตน์ทำอะไรไม่ได้ และลึกๆแล้วก็รักกันประหนึ่งพี่น้อง