“ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง” ตอนที่ 1
รถยนต์สุดหรูแล่นเข้ามาจอดที่ด้านหน้า บริษัท เอส เค กรุ๊ป จำกัด รปภ. รีบเข้าเปิดประตูรถให้ และทำความเคารพอย่างขันแข็ง กร้าว ศุภกาญจน์ นักธุรกิจหนุ่มรูปงาม ผู้บริหารของบริษัทนี้ ก้าวลงจากรถ เดินเข้าไปในอาคาร
“สวัสดีครับท่านประธาน” พนักงานทุกคนต่างทักทายอย่างนอบน้อม
กร้าวยิ้มตอบบางๆ เลขาเข้ามาทักทาย
“สวัสดีค่ะ”
“เอกสารเรียบร้อยรึยัง”
“เรียบร้อยค่ะ”
กร้าวพยักหน้าอย่างพอใจ
กร้าวคุยงานกับลูกค้าชายชาวต่างชาติ แนะนำโครงการใหม่ของบริษัทเพื่อให้ลูกค้าซึ่งเป็นชาวต่างชาติร่วมลงทุน เลขาของกร้าวเป็นผู้ช่วยคอยจัดเตรียมสไลด์และเอกสารข้อมูลต่างๆ ให้ไม่นานนัก กร้าวและลูกค้าได้เซ็นต์สัญญาร่วมกัน เพราะการเตรียมงานเป็นไปอย่างเรียบร้อย
กร้าวและเลขาส่งลูกค้าชาวต่างชาติออกจากบริษัทไป ขณะเดียวกันนั้นโทรศัพท์ดังขึ้น เขาดูเบอร์ที่โทรเข้ามาแล้วรับสายทันที เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของนักสืบที่จ้างไว้ ได้นัดให้ไปพบที่ริมถนนแถวชานเมือง
เมื่อไปถึง นักสืบหยิบซองเอกสารส่งให้
“รูปถ่ายพร้อมข้อมูลสมาชิกครอบครัววิชเวทย์ครับ”
กร้าวเปิดซองเอกสารดู มีรูปถ่ายเดี่ยวๆของอสิต วิชเวทย์ พร้อมกับ ลลิตา ภรรยาของเขา และอรชา น้องสาวคนกลาง
“แต่ยังขาดน้องสาวคนเล็กที่ชื่ออนุช วิชเวทย์ กำลังเรียนอยู่ที่ลอนดอน” นักสืบอธิบาย
กร้าวยื่นซองใส่เงินให้ นักสืบรับเงินแล้วออกไป กร้าวดูรูปแล้วนึกเรื่องราวในอดีต ช่วงเวลานั้น เขาเห็นประสิทธิ์ พ่อของอสิต อรชา และอนุช ใช้กำลังข่มเหงแม่ของเขา กร้าวเจ็บปวดเมื่อนึกถึงอดีตอันโหดร้ายนั้น
“อนุช วิชเวทย์…กลับมาเมื่อไร ฉันจะลากเธอมารับกรรมที่พ่อของเธอก่อไว้ ร่วมกับพี่ๆ ของเธอ!”
กร้าวบอกอย่างมุ่งมั่น ที่จะแก้แค้นลูกๆของประสิทธิ์แทนประสิทธิ์ที่เสียชีวิตไปแล้ว
วันใหม่...ในสนามบิน อนุชเข็นรถเข็นกระเป๋าออกมาจากส่วนผู้โดยสารขาเข้า เธอกลับมาเมืองไทย พร้อมกับกรวิก พัชรกุล ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท
กรวิกมองไปที่กลุ่มคนที่รอรับ เห็นกาญจนา แม่ของเธอยืนรออยู่ก็ดีใจมาก รีบวิ่งไปหา ขณะที่คนร้ายซึ่งถูกใครบางคนจ้างมา ยืนมองอนุช แล้วเปรียบเทียบกับรูปถ่ายในสมาร์ทโฟน เมื่อเห็นว่าเป็นคนเดียวกัน จึงยกป้ายกระดาษเขียนชื่ออนุช วิชเวทย์ชูขึ้น แล้วเดินเข้ามาหา
“คุณอนุช วิชเวทย์รึเปล่าครับ”
อนุชแปลกใจ
“ใช่ค่ะ…”
“คุณสิตกับคุณอรไม่ว่าง ให้ผมมารับคุณนุชแทนครับ”
“พี่สิตกับพี่อรไม่เห็นบอกไว้นี่คะ” อนุชแปลกใจ
“รีบไปกันเถอะครับ คุณสิตกับคุณอรรออยู่”
คนร้ายเข้าไปช่วยเข็นรถเข็นสัมภาระให้
“รอเดี๋ยวค่ะ”
อนุชขัดขึ้นแล้วเดินไปหากรวิกและกาญจนา
“แม่คะ นี่นุช เพื่อนนกไงคะ ที่เล่าให้ฟังบ่อยๆ” กรวิกแนะนำ
อนุชยกมือไหว้กาญจนาอย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะ”
กาญจนารับไหว้ กรวิกหันมาหาอนุช
“จะรีบไปไหนล่ะ รอเจออากร้าวด้วยกันก่อน อากร้าวกำลังมา”
กาญจนาปรามลูกสาว
“อย่าเอาแต่ใจสิลูก เพื่อนมาเหนื่อยๆ ให้เขากลับไปพักผ่อน ไปเจอครอบครัวเขาดีกว่า วันหลังค่อยนัดเจอกันก็ได้”
“ก็ได้ค่ะ...เสียดาย ถ้านุชเจออากร้าว นุชจะต้องตะลึงในความหล่อ”
กาญจนาล้อๆ
“แม่คนนี้หายใจเข้าออกเป็นอากร้าว”
กรวิกเขิน อนุชขำเพื่อน หันไปหากาญจนา
“นุชขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ”
อนุชไหว้กาญจนาและหันไปกอดกรวิก
“เอาไว้นัดกันนะ”
อนุชเดินตามคนร้ายออกไป
คนร้ายเข็นรถเดินนำไปที่ทางออก อนุชเดินตามไป ไม่ได้สงสัยอะไร แล้วเสียงข้อความจากไอโฟนดังขึ้น อนุชเปิดดูข้อความ เป็นข้อความจากอรชาส่งมาว่า....
“พี่กำลังจะไปรับ ขอโทษที่ช้า”
อนุชเห็นข้อความแล้วแปลกใจ มองคนมารับอย่างระแวง คนร้ายเดินนำมาถึงรถที่จอดรออยู่ มีชายอีกคนเป็นคนขับรถรออยู่
“ออฟฟิศใหม่เป็นไงบ้างคะ สวยมั้ย” อนุชแกล้งถาม
คนร้ายที่มารับชะงักเพราะไม่รู้เรื่อง
“เอ่อ…ก็…ก็ดีครับ”
อนุชรู้ว่าเขาโกหกเพราะไม่มีออฟฟิศใหม่
“นุชขอเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
อนุชหันหลัง คิดหาทางหนี คนร้ายรู้ทันจับตัวและปิดปากเธอจากด้านหลัง อนุชตกใจ ดิ้นรน แต่ร้องขอความช่วยเหลือไม่ได้ คนร้ายผลักอนุชขึ้นรถและตามไปนั่งประกบ คนขับรถ รีบออกรถไป เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ และรวดเร็วจนไม่มีใครในบริเวณนั้นสังเกตเห็น
“พวกแกเป็นใคร ต้องการอะไร” อนุชตกใจมาก
คนร้ายชักปืนออกมาขู่
“อยู่นิ่งๆ ถ้าไม่อยากตาย อยากรู้อะไรไว้ถามพี่ชายแกเองละกัน”
อนุชกลัว คิดหาทางหนี ใช้สายกระเป๋าล็อกคอคนขับรถจากด้านหลัง คนขับหายใจไม่ออก รถส่ายไปมา
“เฮ้ย หยุดนะ!”
คนร้ายพยายามดึงอนุชให้ปล่อยมือจากคนขับ แต่เธอไม่ปล่อย
กร้าวขับรถพลางคุยโทรศัพท์กับกรวิก
“อาใกล้จะถึงแล้ว คิดถึงสิ คิดถึงมากเลย”
รถของคนร้ายที่ขับสวนทางมาส่ายไปมาและพุ่งข้ามเลน เกือบชนรถของเขา กร้าวตกใจ รีบหักหลบและเบรกทัน รถของคนร้ายเบรกไม่อยู่ ชนต้นไม้ข้างทาง นิ่งไป กร้าวลงจากรถ ขณะที่อนุชรีบลงจากรถ วิ่งมาหา
“นี่คุณ ขับรถยังไงเนี่ย” กร้าวโวย
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยฉันด้วย” อนุชหน้าตาตื่นกลัว
คนร้ายลงจากรถในอาการเจ็บ
“พวกมันมาแล้ว หนีเร็ว!”
อนุชดึงกร้าววิ่งหนี กร้าวงงแต่ก็วิ่งตามเธอไป คนร้ายเห็นอนุชหนีก็เจ็บใจ แต่ต้องช่วยดึงเพื่อนออกมาจากรถก่อน
อนุชดึงกร้าววิ่งหนีมาระยะหนึ่ง
“เดี๋ยว ทำไมคุณต้องหนีผู้ชายสองคนนั้นด้วย พวกนั้นเป็นใครกันแน่” กร้าวหยุดวิ่ง
“ฉันก็ไม่รู้”
“ไม่รู้ได้ยังไง” กร้าวสงสัย “คุณมีอะไรปกปิดผมรึเปล่า หรือว่าคุณทำอะไรผิดมา”
อนุชไม่พอใจ
“นี่คุณ อย่ามาปรักปรำฉันนะ ถ้าไม่อยากช่วยก็ไม่ต้อง ฉันไปเองก็ได้”
อนุชจะวิ่งหนีไป กร้าวรีบดึงไว้
“อย่าเพิ่งไป”
“เอ๊ะ นี่คุณ ปล่อยฉัน”
“ไม่”
กร้าวเป็นห่วง แต่อนุชเริ่มระแวงและไม่ไว้ใจเขา เธอกระทืบเท้าเขาอย่างแรงและผลักเซไป
“โอ๊ย!”
อนุชจะวิ่งหนี แต่กร้าวคว้าตัวไว้ ดึงมากอดไว้เลย
“จะไปไหน มันอันตราย”
อนุชยิ่งตกใจ คิดว่ากร้าวจะทำร้าย พยายามสะบัด
“คุณนั่นแหละตัวอันตราย ฉันไม่น่าหนีเสือปะจระเข้เลย ปล่อยฉัน!”
อนุชดิ้นรนและทุบตีไม่ยั้ง กร้าวจับมืออนุชไว้ทั้งสองข้าง แล้วดันไปติดต้นไม้ด้านหลัง ตั้งใจจะทำให้เธอหยุดจนทั้งสองจมูกชนกัน ใบหน้าอยู่ใกล้ชิดกันมาก ทั้งสองต่างตะลึง ขณะเดียวกันนั้นคนร้ายทั้งสองวิ่งตามมา
“มันอยู่นั่น”
กร้าวและอนุชหนีไม่ทัน คนร้ายชักปืนออกมาจะยิง กร้าวพุ่งเข้าไปแย่งปืน ยื้อแย่งกัน เขาถีบคนร้ายล้มลง ปืนหลุดมือ กระเด็นไป กร้าวตามไปชก คนขับรถเข้ามาช่วย กร้าวสู้ไป ร้องบอกอนุชไป
“หนีไป! เร็ว!”
อนุชวิ่งหนีไป คนร้ายหันไปคว้าปืนมาจะยิง เปรี้ยง! กร้าวถูกยิงที่แขนซ้ายทรุดลงไม่ห่างคนขับรถที่โดนชกจนน่วมฟุบอยู่กับพื้น คนร้ายถีบกร้าวหงายล้มลงและจะยิงซ้ำ กร้าวคิดว่าไม่รอดแน่ ทันใดนั้นอนุชมาด้านหลัง ใช้ไม้ฟาดคนร้ายล้มลง
“คุณเป็นไรรึเปล่า”
อนุชประคองกร้าววิ่งหนีกลับไปทางรถ แล้วรีบขึ้นรถ กร้าวขับรถหนีไปทันที คนร้ายที่วิ่งตามมาจะยิง แต่คนขับรถห้ามไว้
“ไม่ต้อง”
คนร้ายเจ็บใจที่กร้าวและอนุชหนีไปได้
กร้าวขับรถหนีมา เจ็บแผลที่แขน อนุชโล่งใจ
“พวกนั้นไม่ตามมาแล้ว”
กร้าวแปลกใจ
“ทำไมคุณถึงกลับมาช่วยผม”
“แล้วเมื่อกี้คุณช่วยฉันไว้ทำไม ทั้งๆ ที่ตอนแรกหาว่าฉันทำความผิดมา”
กร้าวเจ็บแขนซ้ายที่ถูกยิง
“โอ๊ย”
อนุชตกใจ
“เลือดออกไม่หยุดเลย คุณรีบไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ”
บุรุษพยาบาลเข็นเตียงที่กร้าวนอนเข้าห้องฉุกเฉินไป อนุชรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินอย่างเป็นห่วง ครู่หนึ่ง อสิตและอรชามาถึง
“นุช” อสิตเป็นห่วงน้องสาวมาก
“พี่สิต...พี่อร!”
อนุชดีใจที่เจอพี่ๆ อรชาเห็นเสื้ออนุชเปื้อนเลือดก็ตกใจมาก
“นุชเป็นอะไรรึเปล่า เจ็บตรงไหนรึเปล่า”
อรชามองสำรวจไปทั่วตัว กลัวน้องบาดเจ็บ
“นุชไม่เป็นไรค่ะ มีคนช่วยนุชไว้”
อสิตและอรชาโล่งใจที่อนุชปลอดภัย
รถอสิตมาจอดหน้าคฤหาสน์มโนรมย์ของตระกูลวิชเวทย์ ซึ่งใหญ่โตหรูหรา อนุชลงจากรถ มองบ้านด้วยความคิดถึงและผูกพัน หญิงสาวนึกถึงเรื่องราวในอดีตในวัยเด็ก ตอนนั้นเธออายุ 5 ขวบเพิ่งกลับจากโรงเรียน วิ่งเข้าไปไหว้และกอดพ่อ ประสิทธิ์ลูบหัวและยิ้มให้ คนรับใช้หญิง หิ้วกระเป๋านักเรียนตามหลังอนุช คอยดูแลรับใช้ คนสวนชายคนหนึ่งกำลังทำสวน คนรับใช้หญิงอีกคนกำลังกวาดลานบ้าน
อนุชยิ้ม คิดถึงพ่อ คิดถึงบ้าน เสียงอสิตเรียกดังมา
“นุช”
อนุชตื่นจากภวังค์
“คะ”
อรชาเข้ามาหาน้องสาว
“ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อก่อนเถอะจ้ะ”
อนุชยิ้มรับ
“ค่ะพี่อร”
อสิตหน้าตาเคร่งเครียด หิ้วกระเป๋าเดินทางของอนุชเข้าบ้านเอง อรชาตามเข้าไป อนุชมองสภาพบ้าน ที่ลานหน้าบ้านมีใบไม้ร่วงเต็มไปหมด บ้านดูไม่สวยงามเหมือนเมื่อก่อน เธอเข้ามาในบ้าน หยุดมองรูปถ่ายครอบครัวที่วางตกแต่งที่มุมหนึ่งของบ้าน ขณะเดียวกันนั้นเสียงลลิตาดังมาจากมุมหนึ่ง
“ระวังหน่อยสิ”
อนุชแปลกใจ
คนงานชาย กำลังช่วยกันขนของเก่าแก่ซึ่งเป็นของสะสมออกจากบ้าน โดยมี ลลิตายืนคุมอยู่ อรชาเข้ามาเห็นก็ตกใจ
“พี่ลิต้าทำอะไรคะ ของนั่นไม่ได้นะคะ คุณพ่อท่านรักมาก”
อรชาเข้าไปขวาง
“อย่ายุ่งน่า”
ลลิตาผลักอรชาล้มลง
“โอ๊ย”
อรชาอ่อนแอ ไม่สู้คน อนุชเข้าเห็นอรชาล้มก็ตกใจ
“พี่อร”
อนุชประคองอรชาให้ลุกขึ้น อนุชเห็นคนงานขนของออกจากบ้านก็ตกใจ รีบเข้าไปแย่ง
“เอาคืนมานะ นี่ของคุณพ่อฉัน”
ลลิตาเข้าไปดึงอนุช
“เอ๊ะ นุช หยุดนะ”
อสิตเข้ามา
“เสียงดังอะไรกัน”
อนุชฟ้องทันที
“พี่สิตคะ พี่ลิต้าเอาของคุณพ่อไปขาย”
ลลิตาหันไปหาอสิต
“ถ้าไม่ขายแล้วจะเอาเงินที่ไหนใช้”
อสิตพูดไม่ออก ลลิตาบ่น
“ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากับข้าว”
คุณมีปัญญาจ่ายมั้ย ถ้ามีก็เอามาสิ เอามา”
อสิตเครียดหนัก ลลิตาพูดจี้ใจดำ
“เลิกบ่นซะที คนยิ่งกลุ้มๆอยู่”
อสิตเดินหนีออกไป อนุชผิดหวัง
“พี่สิต”
อรชาเสียใจ ที่ลลิตาชนะทุกครั้ง ลลิตายิ้มเยาะ อนุชทำใจไม่ได้ ไม่คิดว่าฐานะทางบ้านจะลำบากถึงขนาดนี้
อสิตเข้าบ้านมา กลุ้มเรื่องเงิน ขณะเดียวกันนั้นโทรศัพท์ดังขึ้น เขาเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามาก็ใจคอไม่ดี
“ครับเสี่ย”
เสี่ยยศเจ้าหนี้นอกระบบ ส่งเสียงขู่มาจากปลายสาย
“ครั้งนี้ลื้อรอดตัว แต่ถ้าไม่ยอมใช้หนี้ คราวหน้าลื้อจะไม่ได้เห็นหน้าน้องสาวอีกเลย!”
อสิตตกใจรีบขอร้อง
“อย่าทำอะไรน้องสาวผมเลย น้องสาวผมไม่เกี่ยว...”
แต่เสี่ยยศตัดสายทิ้งไปแล้ว อสิตทรุดลงนั่ง กุมขมับ เครียดจัด คิดหาทางหาเงินมาใช้หนี้ เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในบ้าน
กร้าวรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมา พบคณิตเพื่อนสนิทของเขาซึ่งเป็นหมอ ดูแลอยู่
“ฟื้นแล้วเหรอ ไปมีเรื่องกับใครมา นี่โชคดีที่กระสุนแค่เฉียด แผลไม่ร้ายแรง” คณิตยิ้ม ดีใจ
“แล้ว…ผู้หญิง…”
กร้าวมองหาอนุช
“ฉันมาถึงก็ไม่เจอใคร แต่เจ้าหน้าที่บอกว่ามีคนจ่ายค่ารักษาให้แกเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้บอกชื่อไว้ แล้วผู้หญิงที่แกว่าเป็นใครมาจากไหน”
“ฉันไม่รู้ ไม่รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับเขาเลย”
กร้าวนึกถึงอนุชอย่างเป็นห่วง
ค่ำนั้น อนุชกับอรชากราบอัฐิพ่อกับแม่ ทั้งสองหน้าเคร่งเครียดเพราะในบ้านมีปัญหา
“พ่อคะ แม่คะ นุชเรียนจบแล้ว เอาปริญญามาฝากพ่อกับแม่แล้วค่ะ”
“เสียดายที่คุณพ่อด่วนจากไปเสียก่อน ไม่ทันได้ยินดีที่นุชเรียนจบ”
อนุชกอดอรชา
“นุชไม่คิดเลยว่าบ้านเราจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้”
อนุชและอรชาเศร้าหมอง
วันใหม่...อนุชตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่พี่ชายบอก
“พี่สิตจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับนุช แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาจัดงาน”
“พี่จะยืมเพื่อนก่อน”
“พี่สิตจะสร้างหนี้อีกแล้วเหรอคะ”
อสิตถอนใจ
“ตอนนี้คนเขาลือกันให้แซดเรื่องวิชเวทย์ของเรากำลังล้มละลายจนไม่มีใครกล้าจ้างบริษัทของพี่แล้ว พี่จะจัดงานให้มันหรูเลิศเพื่อกลบข่าว”
อนุชไม่สบายใจ หันไปหาอรชา
“พี่อรคะ ช่วยห้ามพี่สิตหน่อยสิคะ”
อรชาอึกอัก ไม่กล้ามีปัญหากับใคร
“พี่สิตว่าไง พี่ก็ว่างั้น”
อนุชผิดหวัง
“พี่อร”
ลลิตาไม่พอใจ หมั่นไส้ที่อสิตจะจัดงานให้อนุช
“หมดธุระแล้วใช่มั้ย ลิต้าขอตัว”
อสิตเรียกไว้
“เดี๋ยวลิต้า วันนี้มีใครแปลกหน้ามาป้วนเปี้ยนบ้านเรารึเปล่า”
ลลิตาสงสัย
“ทำไมคะ”
“ผมสงสัยว่าเสี่ยยศรู้ได้ไงว่านุชจะกลับมาวันนี้”
ลลิตาหน้าเสีย กลัวความผิด แกล้งบีบน้ำตา วิ่งร้องไห้ออกไป อสิตตกใจ
“ลิต้า”
อสิตรีบตามไป อนุชกับอรชาแปลกใจ รีบตามไปด้วย
ลลิตาวิ่งร้องไห้หนีมาหยุดยืนอยู่มุมหนึ่ง อสิตตามมาอย่างห่วงๆ
“เป็นอะไร”
อรชาและอนุชตามมาทีหลัง ลลิตาบีบน้ำตา ออดอ้อนอสิต
“ลิต้าใจคอไม่ดีเลย พวกมันหูตาไวมาก ขนาดเรื่องนุชมันยังรู้แล้วเวลาสิตกับอรไปทำงาน ลิต้าอยู่บ้านคนเดียว ถ้าพวกมันมาทำร้ายลิต้าจะทำยังไง ลิต้ากลัวค่ะสิต”
อสิตกอดปลอบ ลลิตาแอบยิ้มร้าย
หลายวันก่อนหน้านี้...ลูกน้องเสี่ยยศจิกผมลลิตาแล้วชักมีดออกมาขู่ ลลิตาตื่นกลัว
“อย่าทำฉันเลย ไปจับตัวน้องสาวคุณสิตสิดีกว่า คุณสิตเขารักน้องมาก เขาต้องรีบหาเงินไปใช้หนี้เสี่ยแน่ๆ”
ลลิตารีบเปิดรูปอนุชในโทรศัพท์ให้ดู ลูกน้องเสี่ยยศสนใจ
อสิตสำรวจในบ้านเพื่อเตรียมจัดงานเลี้ยง พลางคำนวณค่าใช้จ่ายในการตกแต่งบ้าน ลลิตาใส่ชุดนอนเซ็กซี่ เข้ามากอดจากด้านหลัง คลอเคลียเสียงหวานออดอ้อน
“สิตขา ลิต้ายังไม่มีชุดใส่งานเลี้ยงคืนพรุ่งนี้เลย”
“เสื้อผ้าเต็มตู้ ยังว่าไม่มีใส่อีกเหรอ...ผมว่าบ้านดูโล่งไปนะ ของที่เราขายไป ถ้าไม่หาอะไรมาวางแทน คนจะสงสัย”
อสิตมัวแต่คิดค่าใช้จ่าย ไม่สนใจภรรยา ลลิตาไม่ยอมแพ้ ผลักเขาลงไปนั่งเก้าอี้ตัวหนึ่ง ลลิตานั่งตัก คลอเคลีย ยั่วยวน
“ไม่เอาน่าลิต้า ผมยุ่งอยู่ ไม่เห็นเหรอ”
ลลิตาตัดพ้อ
“นังพวกคุณหญิงคุณนายมันชอบจับผิดลิต้าขืนใส่แต่ชุดซ้ำๆ มันได้เม้าท์กันสนุกปากว่าลิต้าไม่มีปัญญาตัดชุดใหม่”
“อย่าไปสนใจพวกปากหอยปากปูเลย พวกนั้นอิจฉาที่คุณสวยกว่าน่ะสิ”
อสิตผลักลลิตาออกเบาๆ แล้วลุกหนีไป ลลิตาหงุดหงิด ขว้างหมอนอิงไล่หลัง
“ถ้ารู้ว่าลำบากอย่างนี้ ฉันไม่แต่งด้วยหรอก”
ลลิตาอารมณ์เสีย
อนุชเข้ามาในห้อง แล้วมองไปเห็นเสื้อผ้าเปื้อนเลือดที่พับวางไว้อยู่มุมหนึ่ง อนุชหยิบเสื้อผ้าเปื้อนเลือดมาดู แล้วนึกถึงกร้าว
กร้าวที่ยังเจ็บแขนซ้าย วาดรูปอนุชแล้วนั่งมอง...
“เราจะได้เจอกันอีกมั้ย”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาวางดินสอแล้วกดรับสายเมื่อเห็นเบอร์กรวิก
“อากร้าวคะ พรุ่งนี้มีปาร์ตี้ที่บ้านเพื่อน นกอยากให้อากร้าวไปด้วย อากร้าวว่างมั้ยคะ”
“ได้สิ บ้านเพื่อนอยู่ที่ไหนล่ะ”
“บ้านวิชเวทย์ค่ะ”
กร้าวอึ้ง หน้าเครียดขึ้นมาทันที
หลังจากวางสายจากกรวิก กร้าวรื้อค้นหาเอกสารที่ได้จากนักสืบ ก่อนจะโทรศัพท์หาเสี่ยยศ เจ้าหนี้ของอสิต
“เสี่ยไม่ต้องสนใจหรอกว่าผมเป็นใคร รู้แค่ว่าลูกหนี้ของเสี่ยจะจัดงานเลี้ยงสุดหรูที่คฤหาสน์มโนรมย์คืนพรุ่งนี้ก็พอ”
กร้าววางสาย ยิ้มร้าย
เย็นวันใหม่...อนุชแต่งตัวด้วยชุดเดรสสั้น สวยสดใส อรชามองทึ่งๆ
“สวยมาก งานนี้ไม่มีใครเด่นเกินน้องพี่แน่นอน”
“พี่อรชมเกินไปแล้ว เป็นเพราะชุดพี่อรสวยค่ะ ใครใส่ก็ดูดีทั้งนั้น”
อรชาหยิบกล่องเครื่องเพชรมาให้อย่างเศร้าๆ
“เครื่องเพชรของคุณแม่เหลือแค่ชุดนี้ชุดเดียว นุชเอาไปใส่สิ”
“แล้วพี่อรล่ะคะ พี่อรใส่เถอะ”
“ไม่ได้ นุชเป็นนางเอกของงาน นุชต้องเด่นที่สุด พี่ยอมให้นุชคนเดียว”
“ขอบคุณค่ะ พี่อรดีกับนุชที่สุด ไม่มีใครรักนุชเท่าพี่อรอีกแล้ว”
อรชาและอนุชยิ้มให้กัน ลลิตาแอบแง้มประตูมองดูด้วยความอิจฉา
ลลิตาหงุดหงิด ไม่พอใจ โยนเสื้อผ้าทิ้งบนเตียงจนเต็มเตียงไปหมด เธอเลือกมาหลายชุดแล้วแต่ไม่ชอบสักชุด ลลิตาร้อนรน ไม่ชอบให้ใครเด่นกว่า เธอคิดแผนได้ยิ้มร้าย มีแผนเล่นงานอนุช
อนุชแต่งตัวเสร็จ มองดูตัวเองในกระจก เสียงเคาะประตูดังขึ้น อนุชไปเปิดประตูดู แต่ไม่มีใครเธอมองซ้ายขวาเห็นเงาคนแวบผ่านไป
“ใครน่ะ”
อนุชตามไปถึงด้านหลังบ้านที่มีห้องเก็บของมองหา ไม่เห็นใคร ก็จะกลับ ทันใดนั้นมีเสียงแก้วตกแตกในห้องเก็บของ อนุชหันขวับ คิดว่าขโมย หันรีหันขวาง คว้าไม้ท่อนหนึ่งที่หน้าห้องเก็บของ เธอเห็นประตูเปิดอยู่ จึงย่องเข้าไปด้านใน แต่ไม่มีใคร ทันใดนั้นประตูปิดดังปังและมีเสียงคล้องแม่กุญแจจากข้างนอก อนุชตกใจ รีบไปเคาะประตู พยายามเปิดประตู แต่เปิดไม่ได้
“ใครอยู่ข้างนอก เปิดประตูที”
ด้านนอกห้อง แหวนสาวใช้คนสนิทของลลิตาล็อกแม่กุญแจ ลลิตายิ้มสะใจส่งเงินให้แหวนเป็นรางวัล
“อยู่ในนี้ไปจนงานเลิกนั่นแหละ”
ลลิตาและแหวนออกไป
ค่ำนั้น...โถงในคฤหาสน์มโนรมย์ตกแต่งอย่างสวยงาม แขกที่มาร่วมงานแต่งตัวหรูหรา กร้าวเข้ามากับกรวิก เธอมองหาอนุช ขณะที่กร้าวมองไปที่มุมหนึ่ง แววตาแข็งกร้าวขึ้นเมื่อเห็นรูปประสิทธิ์ ดูสง่างาม น่าเกรงขาม ประดับอยู่ที่ผนังด้านหนึ่ง กร้าวมองรูปนั้นด้วยความแค้นและเจ็บปวด เขานึกถึงอดีตในวัยเด็ก ตอนนั้นเขาเข้ามาในห้อง เห็นประสิทธิ์กำลังปลุกปล้ำชื่นแม่ของเขาอยู่ กร้าวเข้าไปชกประสิทธิ์พัลวันเท่าที่เด็กชายคนหนึ่งจะมีแรง
“ปล่อยแม่ผมนะ”
ประสิทธิ์หงุดหงิด
“เฮ้ย ใครอยู่แถวนี้ มาเอาไอ้เด็กบ้านี่ไปไกลๆ”
คนรับใช้ชายรีบเข้ามาอุ้มเขาไว้ กร้าวดิ้นรนจะไปช่วยแม่
“แม่!”
“กร้าว!”
ชื่นจะไปช่วยลูก แต่ประสิทธิ์ดึงตัวไว้ ชื่นพนมมือ อ้อนวอน
“ขอร้องเถอะค่ะ อย่าทำอะไรฉันกับลูกเลย”
“ไม่ต้องมาบีบน้ำตา แกเป็นลูกหนี้ฉัน ฉันเป็นเจ้าชีวิตแก ฉันจะทำอะไรกับแกก็ได้” ประสิทธ์สั่งคนรับใช้ “เอามันออกไป!”
คนรับใช้อุ้มกร้าวออกจากห้องไป กร้าวดิ้นรนจะไปช่วยแม่แต่สู้แรงผู้ใหญ่ไม่ได้
“แม่”
“กร้าว”
คนรับใช้อุ้มกร้าวออกจากห้องและปิดประตู กร้าวตะโกนเสียงลั่น
“แม่”
กร้าวดิ้นรน คนรับใช้จึงต้องปล่อยกร้าวทิ้งไว้หน้าห้อง
“ช่วยด้วย”
เสียงชื่นกรีดร้องดังออกมาจากในห้อง กร้าวทุบประตู พยายามจะเปิดเข้าไปช่วยแม่ แต่เปิดไม่ได้
“อย่าทำแม่นะ เปิดประตู…แม่!”
กร้าวยืนจ้องมองรูปประสิทธิ์ด้วยความแค้นและเจ็บปวด กรวิกมองอย่างแปลกใจ
“อากร้าวคะ เป็นอะไรรึเปล่า หน้าซีด ไม่สบายรึเปล่าคะ”
“ปละ เปล่า เอ่อ...อาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่านกรู้จักคนบ้านวิชเวทย์ด้วย ไม่เห็นนกเคยเล่าอาให้ฟัง”
“นกไม่ได้คบเพื่อนที่นามสกุลนี่คะ นุชไม่รับโทรศัพท์เลย นกขอตัวไปหานุชก่อนนะคะ”
กรวิกเดินแยกไปมองหาอนุช กร้าวเดินออกจากห้องโถงไป
“ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง” ตอนที่ 1 (ต่อ)
งานปาร์ตี้ถูกจัดขึ้นที่บริเวณสระว่ายน้ำ แขกมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ในงานมีดนตรีขับคลอสร้างบรรยากาศ อรชาเยื้องย่างเข้ามาในงาน สวย เด่น จนทุกคนในงานต่างหันมามองเป็นตาเดียว อรชาทักทายแขกในงาน อสิตและลลิตากำลังคุยกับเพื่อนๆ อยู่
“อร มาสวัสดีเพื่อนๆ พี่ก่อนสิ” อสิตหันมาเรียก
อรชาไหว้เพื่อนๆของอสิต
“แล้วนุชล่ะ” อสิตถาม
ลลิตาทำบ่นกลบเกลื่อน
“นุชนี่แย่จริง ปล่อยให้ผู้ใหญ่รอ ไม่มีมารยาทเลย อย่าถือสาเลยนะคะ”
อรชาไม่พอใจที่ลลิตาว่าน้องสาว
“นุชไม่ใช่คนไม่รู้มารยาทนะคะ อรว่านุชคงมีเหตุสุดวิสัยอะไรสักอย่าง อรขอตัวไปดูน้องก่อนนะคะ”
ลลิตาไม่พอใจที่อรชาขัด จึงแกล้งขัดขา อรชาไม่ทันเห็น จึงเสียหลักจะล้ม
“ว้าย!”
อรชาเซจะล้ม ปรารภซึ่งเป็นญาติของลลิตาเข้ามาประคองไว้พอดี ทั้งสองสบตากัน ปรารภตกตะลึงในความสวยหวานของอรชา
“ขอบคุณค่ะ”
ปรารภมัวแต่มองตะลึง ไม่ยอมปล่อยมือ อรชาเน้นเสียง
“ขอบคุณค่ะ”
ปรารภตื่นจากภวังค์
“หา...เอ่อ ครับ”
ปรารภรีบปล่อยมือ ลลิตาเข้ามาทัก
“อ้าวรภมาตั้งแต่เมื่อไร”
“เพิ่งมาครับ”
ลลิตาหันไปบอกอรชา
“นี่ปรารภ ญาติฉันเอง...นี่อร น้องสาวคุณสิต”
ปรารภยิ้มให้
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณอร”
อรชายิ้มบางๆ
“ยินดีค่ะ”
ลลิตาอยากจะจับคู่ให้อรชารีบบอก
“อรจ๋า ช่วยอยู่คุยเป็นเพื่อนรภหน่อยสิ เขาไม่รู้จักใครที่นี่”
“คงไม่ได้หรอกค่ะพี่ลิต้า อรต้องรีบไปตามนุช...ขอตัวก่อนนะคะ”
อรชาเดินเชิดออกไป ลลิตาหมั่นไส้ หันมาทุบปรารภ
“เราก็ไม่น่าช่วยเลย”
ปรารภงง
“ทำไมล่ะครับ”
ปรารภไม่เข้าใจลลิตา
ชายธงลูกชายคนเดียวของนายแบงก์ใหญ่ พยายามโทรศัพท์หาอนุช แต่ไม่มีใครรับสาย รอจนสายตัดไป กรวิกเข้ามาหา
“ชายธง เจอยายนุชหรือยัง”
“ยังเลย โทรไปก็ไม่รับ”
“แปลกจัง ยายนุชหายไปไหน”
กรวิกและชายธงสงสัย
ในห้องเก็บของ อนุชยกกล่องมาเรียงต่อกันและปีนขึ้นไป เธอใช้ไม้ทุบกระจกหน้าต่างแล้วปีนออกมาจากห้องเก็บของอย่างทุลักทุเล กร้าวเดินเล่นมาเห็นอนุชทำลับๆ ล่อๆ ก็สงสัย เขาถามเสียงดัง
“นั่นใคร ทำอะไร”
อนุชตกใจ เสียหลักหล่นลงมาในอ้อมแขนเขาพอดี
“ว้าย ปล่อยฉันนะ”
กร้าวเจ็บแผลที่แขน จึงปล่อย
“โอ๊ย”
กร้าวและอนุชเพิ่งเห็นหน้ากัน ต่างจำได้
“คุณ! มาทำอะไรที่นี่ อย่าบอกนะว่ามาขโมยของ”
“นี่คุณ เจอหน้าก็ปากเสียเลยนะ คราวก่อนก็ปรักปรำฉัน”
“ก็คุณชอบทำตัวน่าสงสัย คราวที่แล้วก็โดนมือปืนตามล่าคราวนี้ยังมาทำตัวลับๆ ล่อๆ บ้านคนอื่นเขาอีก”
“บ้านคนอื่นที่ไหนกัน ที่นี่บ้าน…”
ยังไม่ทันที่เธอจะพูดคำว่าฉัน กรวิกก็วิ่งมาหาเสียก่อน
“อากร้าว!”
กร้าวและอนุชหันไปมอง กรวิกแปลกใจ
“นุช! นี่รู้จักกันแล้วเหรอ...นุชจ๊ะ นี่อากร้าว...อากร้าวคะ นี่เพื่อนนก อนุช วิชเวทย์ไงคะ”
กร้าวตกใจมาก หน้าเครียดขึ้นมาทันทีไม่อยากเชื่อ
“อนุช วิชเวทย์!”
กร้าวหน้าเครียด ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นอนุช วิชเวทย์ อนุชสังเกตเห็นแววตาของเขาที่มองเธอเปลี่ยนไป รู้สึกประหลาดใจและสงสัย
ทันใดนั้นมีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นหน้าบ้าน อนุชและกรวิกต่างตกใจ
“เสียงอะไรน่ะ”กรวิกหันมาถาม
อนุชรีบออกไป กรวิกแปลกใจ กร้าวยืนนิ่งอึ้ง ไม่คิดว่าจะเป็นคนเดียวกัน
พวกลูกน้องของเสี่ยยศ 4-5 คนอาละวาดพังข้าวของในบ้าน อนุชเข้ามาเห็นก็ตกใจ ลูกน้องเสี่ยยศจะเข้าไปอาละวาดในงาน
“หยุดนะ”
อนุชหันไปคว้าร่มมาตั้งท่าจะสู้ ลูกน้องจะฝ่าเข้าไป อนุชเหวี่ยงร่มฟาดใส่ แต่โดนลูกน้องจับไว้ได้ แย่งมา แล้วจับตัวเธอไว้ อนุชดิ้นรน
“ปล่อยฉันนะ...ปล่อย”
อนุชกระทืบเท้ามัน ลูกน้องคนนั้นโกรธ จิกผมเธอ
“โอ๊ย”
อสิต ลลิตาและปรารภคุยกับแขกอย่างสนุกสนาน อรชาเข้ามา
“หาจนทั่วแล้วไม่เจอนุชเลยค่ะ”
แหวนวิ่งหน้าตื่นเข้ามา กระซิบ ลลิตาตกใจ
“ว่าไงนะ!”
อสิตเดินนำลลิตา อรชา และปรารภตามแหวนไป ชายธงเห็นพวกอสิตก็รีบตามไปด้วย
ลูกน้องเสี่ยยศจะตบอนุช กร้าวเข้ามาฉวยมือไว้ ชกจนมันล้มลง กรวิกมาหาอนุช
“นุชเป็นไรรึเปล่า”
อนุชส่ายหน้า พวกลูกน้องมารุม กร้าวชกต่อยกับพวกลูกน้อง ลูกน้องคนหนึ่งเล่นทีเผลอ ฟาดเข้าที่แขนซ้ายข้างที่เป็นแผล กร้าวเจ็บร้องลั่น
“โอ๊ย!”
กรวิกตกใจกรี๊ดลั่น
“อากร้าว!”
อสิตและทุกคนที่เข้ามาต่างตกใจ
“นุช!”
ชายธงห่วง รีบไปหาอนุช
ลูกน้องเสี่ยยศยิ้มหยัน
“โผล่หัวมาแล้วเรอะไอ้อสิต”
พวกลูกน้องเข้าไปรุมอสิต อรชาขวาง
“พี่สิตระวัง”
ลูกน้องจะตบอรชา ปรารภช่วย ชกลูกน้องล้มไปคนหนึ่ง อีกคนเข้ามาชกปรารภเซไป ลูกน้องจับตัวอสิตได้
“ปล่อยนะ”
“เสี่ยยศมีเรื่องอยากคุยกับแก”
อสิตตกใจ
ลูกน้องที่อยู่ด้านนอก เปิดประตูรถตู้ เสี่ยยศลงจากรถ เข้ามาในบ้าน มาดนิ่ง น่ากลัว เสี่ยยศเข้ามาในโถงด้านหน้า
“สะ เสี่ย!” อสิตหน้าซีด
“ลื้อกล้ามากที่โกหกอั๊ว บอกว่าไม่มีเงิน แต่จัดงานเลี้ยงใหญ่โตเห็นอั๊วเป็นไอ้โง่เรอะไง!”
อสิตตื่นกลัว
“ยะ...อย่าทำอะไรผมเลย ผมจะรีบหาเงินคืนให้เสี่ย”
“วันนี้อั๊วไม่กลับไปมือเปล่าแน่...สั่งสอนให้มันรู้ว่าอย่าล้อเล่นกับอั๊ว”
ลูกน้องจับแขนอสิตยื่นออกมา ชักมีดออกมาจะตัดมือ
“พี่สิต”
อนุชตกใจมากจะเข้าไปห้าม แต่โดนลูกน้องคนหนึ่งจับตัวไว้
“อย่าทำพี่สิต ฉันขอร้อง”
“เฮ้ย...ปล่อยนุชนะ”
ชายธงจะช่วยอนุชก็โดนลูกน้องอีกคนจับตัวไว้
“หรือเธอจะไปกับเสี่ยแทน” ลูกน้องคนหนึ่งจ้องหน้าอนุช
อสิตห่วงน้อง
“อย่ายุ่งกับน้องผม น้องผมไม่เกี่ยว อย่า!”
“งั้นแกก็ต้องรับผิดชอบ”
ลูกน้องเงื้อมีดจะตัดมืออสิต กร้าวตะโกนขึ้นเสียงเข้ม
“หยุดก่อน”
เสี่ยยศและลูกน้องชะงัก
“คุณอสิตติดเงินพวกคุณเท่าไร”
เสี่ยยศจ้องหน้า
“เฉพาะดอกเบี้ยที่มันขาดส่งอั๊วก็สิบล้านแล้ว ลื้อถามทำไม จะใช้หนี้แทนมันเรอะ”
กร้าวเซ็นเช็คให้
“สิบล้าน…หวังว่าจะพอซื้อเวลาได้บ้าง”
ลลิตาตาโต เสี่ยยศรับมา มองแล้วไม่เชื่อ
“อั๊วจะเชื่อลื้อได้ไง”
กร้าวยื่นนามบัตรให้
“ถ้ามีปัญหา คุณไปหาผมที่บริษัทตามที่อยู่นี้ได้เลย ผมไม่หนีไปไหน”
เสี่ยยศจ้องหน้า กร้าวไม่หลบตา
“ก็ได้...” เสี่ยยศหันไปหาอสิต “วันนี้ถือว่าลื้อโชคดี ดวงยังไม่ถึงฆาต!...กลับ!”
ลูกน้องปล่อยอสิต
“พี่สิตเป็นอะไรรึเปล่าคะ” อนุชรีบถาม
“พี่ไม่เป็นไร นุชเจ็บตรงไหนรึเปล่า”
อนุชส่ายหน้า
“ไม่ค่ะ”
พวกเสี่ยยศกลับไป กรวิก ชายธงและปรารภโล่งอก
กรวิกและอนุชช่วยกันทำแผลให้กร้าว ลลิตาทำแผลให้ปรารภ แต่สายตามองแต่กร้าว ลลิตาเผลอทายาที่มุมปากแรงไปหน่อย
“โอ๊ย เบาๆ หน่อย ผมเจ็บ” ปรารภสะดุ้ง
อสิตไม่สบายใจ บอกกับกร้าวอย่างเกรงใจ
“ผมต้องขอโทษคุณกร้าวที่ทำให้เดือดร้อนเพราะผม”
“อย่าคิดมากเลยครับ สถานการณ์คับขันอย่างนั้น เป็นใครก็ต้องช่วย” กร้าวยิ้มเย็น
“ผมจะรีบหาเงินมาคืนให้เร็วที่สุด”
“ไม่ต้องรีบหรอกครับ เราคนกันเองอยู่แล้ว”
อสิตและลลิตาต่างทึ่ง
“เสี่ยยศหูตาไวจริงๆ งานนี้ผมเชิญเฉพาะคนสนิทแท้ๆ ไม่รู้ว่ามันรู้ได้ยังไง” อสิตหน้าเครียดยังสงสัยไม่หาย
“ต่อไปนี้พวกคุณต้องระวังตัวให้มากนะครับ” กร้าวแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงห่วงๆ
อสิต ลลิตา และอรชาต่างชื่นชมกร้าว มีเพียงอนุชที่รู้สึกไม่สบายใจ
กร้าวเดินมากับกรวิก ท่าทางเขาอารมณ์ดีจนกรวิกแปลกใจ
“อากร้าวดูท่าทางอารมณ์ดีจังนะคะ”
“อาเหรอ คงเพราะได้ช่วยเหลือคนก็เลยรู้สึกสบายใจล่ะมั้ง”
“อากร้าวใจดีเสมอ”
“ว่าแต่…ผู้ชายที่ชื่อชายธงเป็นเพื่อนนกเหรอ”
“ค่ะ”
“เพื่อนคนพิเศษรึเปล่า”
“พิเศษค่ะ แต่ไม่ใช่ของนกนะคะ ของนุชเขาค่ะ”
กร้าวเปิดประตูให้กรวิกขึ้นรถ พอกรวิกขึ้นไปแล้วหน้าเขาเปลี่ยนเป็นไม่พอใจเรื่องชายธงกับอนุชขึ้นมาทันที
อนุชมาส่งชายธง หญิงสาวซึมๆ
“ผมจะขอให้พ่อช่วย”
“อย่าเลยชายธง นุชไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร”
ชายธงกุมมืออนุช
“ถึงนุชจะไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากผม แต่ขอให้นุชรู้ไว้ว่าผมจะอยู่ข้างๆ นุชเสมอ ถ้ามีปัญหาอะไร ขอให้นึกถึงผมเป็นคนแรก”
อนุชยิ้มให้ ซาบซึ้งในน้ำใจของชายธง
อสิตนอนลงบนเตียง ก่ายหน้าผากกลุ้ม คิดหาเงินมาใช้หนี้ ลลิตานอนอยู่ข้างๆ แต่นอนยิ้ม ตาเป็นประกายเมื่อนึกถึงกร้าว
คณิตทำแผลให้กร้าวอยู่ในห้องรับแขกบ้านของกร้าว คณิตตกใจกับสิ่งที่กร้าวเล่าให้เขาฟัง
“สิบล้าน! แกยอมลงทุนขนาดนั้นเลยเหรอ”
“เงินแค่สิบล้าน แลกกับความไว้วางใจของพวกวิชเวทย์มันคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม”
“แกคิดจะทำอะไรกันแน่”
“ตอนนี้พวกวิชเวทย์เห็นเงินเหมือนเห็นขนมหวาน ฉันจะยื่นให้มันกินเรื่อยๆ ทำให้พวกมันตายใจ กว่าจะรู้ตัว ก็กลายเป็นลูกไก่ในกำมือฉันแล้ว”
กร้าวยิ้มร้าย
หลังจากที่คณิตกลับไปแล้ว กร้าวนอนอยู่ในห้องนอนหยิบรูปอนุชขึ้นมามอง นึกถึงคำพูดของกรวิก
“เพื่อนนกเอง อนุช วิชเวทย์”
กร้าวเสียใจที่ผู้หญิงที่รู้สึกดีด้วยกลายเป็นลูกของศัตรู
อนุชนั่งเขียนจดหมายถึงผู้มีพระคุณที่ให้ทุนเรียนหนังสืออยู่ในห้อง
“สวัสดีค่ะป๋า ก่อนอื่นนุชต้องขอโทษที่เขียนจดหมายถึงป๋าช้าไป ตั้งแต่กลับถึงเมืองไทย มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายเลยค่ะ ตอนนี้นุชกำลังหางานทำเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของพี่ๆ ป๋าเป็นกำลังใจให้นุชด้วยนะคะ”
หลายวันต่อมา...ชาติ นิติชัย ลุงของกร้าว เจ้าของไร่ทานตะวัน ไร่องุ่นแถบสระบุรี ซึ่งพิการเพราะอุบัติเหตุ และต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็น นั่งอ่านจดหมายของอนุช
“นุชกราบขอบพระคุณป๋าที่กรุณาให้ทุนการศึกษาจนนุชเรียนจบ แม้ว่าป๋าจะไม่เรียกร้องสิ่งตอบแทน แต่ถ้ามีทางไหนที่นุชสามารถทำเพื่อตอบแทนพระคุณของป๋าได้ นุชยินดีทำเพื่อป๋าทุกอย่างค่ะ สุดท้ายนี้นุชขอให้ป๋ารักษาสุขภาพด้วยนะคะ รักและเคารพ…จากนุช”
ชาติอ่านจดหมายจบแล้วนั่งยิ้ม อิ่มใจ ไม่ทันสังเกตว่ากร้าวเข้ามาในห้อง จนกร้าวพูดขึ้น
“ลุงไม่คิดจะบอกผมบ้างเหรอว่าอนุช วิชเวทย์ เรียนจบกลับมาเมืองไทยแล้ว”
ชาติตกใจ
“กร้าว! มาตั้งแต่เมื่อไร” ชาติชักกังวล “แล้ว…แกรู้เรื่องอนุชได้ยังไง”
“ผมไปเจอเขามาแล้วที่บ้านวิชเวทย์...ลุงปิดบังผมทำไม อย่าบอกนะว่าลุงเกิดรักและเอ็นดูเด็กคนนี้
ขึ้นมาซะแล้ว”
ชาติอึกอัก เพราะแพ้ความดีของอนุช
“ผมหวังว่าลุงจะไม่ลืมว่าผู้หญิงคนนี้เป็นลูกของศัตรู คนที่ฆ่าแม่ของผม น้องสาวของลุง อย่าลืมว่าการให้ทุนการศึกษากับเธอ เป็นแค่ส่วนหนึ่งของแผนการแก้แค้นครอบครัววิชเวทย์เท่านั้น!”
ชาติไม่สบายใจ เตือนกร้าวด้วยความหวังดี
“กร้าวกำลังมีชีวิตที่ดี ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานลุงอยากให้กร้าวลืมอดีตซะ…และอยู่กับปัจจุบัน”
กร้าวเจ็บปวด
“ลืม”
“ใช่...อย่าให้ความแค้นมาทำลายชีวิตที่กำลังรุ่งเรืองของกร้าวเลย”
“ลุงไม่เป็นผม ลุงไม่เข้าใจหรอก การตายของแม่ยังติดตาผมทุกครั้งที่ผมหลับตา ยังชัดเจนเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน”
ในอดีต...กร้าวคว้าแก้วน้ำหวานบนโต๊ะจะดื่ม ชื่นตกใจ รีบแย่งแก้วจากลูกชาย
“อย่าลูก”
กร้าวงงๆ
“ทำไมล่ะแม่”
ชื่นอึกอัก
“ดื่มไม่ได้ มะ มันเป็น เป็น ยา มันขมนะ”
“แม่กินยาทำไม แม่ไม่สบายเหรอ”
กร้าวใช้มืออังหน้าผากแม่ ชื่นจะร้องไห้ลูบผมลูกชายแล้วสั่งเสีย
“กร้าว สัญญากับแม่นะลูก กร้าวต้องเป็นเด็กดีนะ”
“ครับ”
“กร้าวต้องตั้งใจเรียน และอย่าดื้อกับพ่อนะลูก”
“ครับ”
“กร้าว…ไปหยิบกระเป๋าสตางค์ให้แม่หน่อยลูก แม่ลืมไว้ในห้อง”
“ครับแม่”
“เดี๋ยวกร้าว”
ชื่นดึงกร้าวมากอดแน่น
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม่อยากให้กร้าวรู้ว่าแม่รักกร้าวนะลูก”
“กร้าวก็รักแม่ครับ”
กร้าวออกไป
กร้าวหากระเป๋าในห้อง แล้วร้องบอก
“แม่คร้าบ ไม่เห็นมีเลย”
ชื่นหยิบแก้วขึ้นมาดื่ม...กร้าวหาของเท่าไรก็ไม่เจอ เสียงแก้วแตกดังขึ้นนอกห้อง กร้าวสะดุ้ง ออกไปดูแต่แม่ไม่ได้อยู่ที่โซฟาแล้ว เขาแปลกใจ มองหา
“แม่”
กร้าวเดินมาถึงโซฟาเห็นชื่นนอนดิ้นพล่าน น้ำลายฟูมปากอยู่กับพื้น กร้าวตกใจ
“แม่ครับ เป็นอะไร แม่”
กร้าวทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่ ชื่นน้ำตาไหลพราก เอื้อมมือมาแตะแก้มลูกชายแล้วหมดแรง มือของเธออ่อนแรง ตกลงข้างตัวตาเหลือก แน่นิ่งไป กร้าวตกใจช็อค
“แม่ เป็นอะไร แม่!”
กาญจน์เพิ่งกลับมาบ้าน เข้ามาเห็น
“ชื่น!”
กาญจน์วิ่งมาประคองชื่น เห็นกระป๋องยาฆ่าแมลงใกล้ๆ ก็หยิบขึ้นมาดูแล้วตกใจสุดขีด
“ชื่น! ทำไมทำแบบนี้ ชื่น!”
ชื่นนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง บุรุษพยาบาลรีบเข็นเตียงเข้าห้องฉุกเฉิน กาญจน์และกร้าวรอที่หน้าห้อง ใจคอไม่ดี
แพทย์ออกมาจากห้องฉุกเฉิน ส่ายหน้า กาญจน์กอดกร้าวร้องไห้
“ชื่น!”
แพทย์ออกไป กาญจน์โรคหัวใจกำเริบ ทรุดล้มลง กร้าวตกใจ
“พ่อครับ พ่อ!”
กร้าวเจ็บปวด น้ำตาคลอเมื่อนึกถึงอดีต
“ลุงจะให้ผมลืมง่ายๆ ได้ยังไง ผมไม่มีวันลืมความเลวร้ายที่มันทำกับแม่ แม่ทั้งเจ็บปวดทั้งอับอายจนไม่อาจอยู่สู้หน้าใครได้ ทั้งหมดก็เพราะไอ้คนชั่วที่ชื่อประสิทธิ์ วิชเวทย์!”
ชาติสงสารหลานรักมาก
“แต่เรื่องมันผ่านมานานแล้ว นายประสิทธิ์ก็ประสบอุบัติเหตุเสียไปแล้ว…”
กร้าวสวนทันควัน
“แต่ลูกๆ ของมันยังอยู่! พวกมันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคม พวกมันจะต้องชดใช้กรรมที่พ่อของมันทำไว้กับครอบครัวผม พวกวิชเวทย์จะต้องเจ็บปวดยิ่งกว่าผมหลายร้อยเท่า!”
ชาติไม่สบายใจ แต่รู้ว่าห้ามหลานชายไม่ได้
อนุชออกจากบ้าน กร้าวจอดรถรออยู่ เห็นอนุชออกมาจึงขับเข้าไปใกล้ ก่อนจะลงจากรถเข้าไปหา
“คุณนุชจะไปไหนครับ”
“ไปสัมภาษณ์งานค่ะ”
“ไปด้วยกันสิครับ เดี๋ยวผมไปส่ง”
อนุชอึกอัก
“ไม่ไว้ใจผมเหรอ”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ”
“งั้นเชิญครับ”
อนุชขัดไม่ได้ เลยขึ้นรถไปกับเขา
อนุชสัมภาษณ์งานเสร็จ เก็บเอกสารตัวอย่างงานที่นำมาให้ดู หัวหน้าถือวิสาสะจับมือเธอ
“ผมดีใจที่ได้คนเก่งๆ มาร่วมงานกัน”
อนุชรู้สึกไม่ดี แต่รักษามารยาท ดึงมือออกอย่างนุ่มนวล ยกมือไหว้
“สวัสดีค่ะ”
อนุชลุกไป จะเปิดประตู หัวหน้ารีบตามมา ทำทีเป็นเปิดประตูให้ แต่เข้ามาใกล้และกระซิบข้างหู
“ผมชอบน้ำหอมคุณจัง”
อนุชโกรธ กระทืบเท้าหัวหน้าอย่างแรง
“โอ๊ย!”
เธอผลักเขาไปห่างๆ
“ทุเรศ!”
อนุชรีบร้อนออกมาจากห้องที่สัมภาษณ์ โกรธมาก กร้าวรออยู่ แปลกใจ อนุชเดินหนีออกไปเลย กร้าวจึงรีบตามไป
อนุชยืนสงบสติอารมณ์ในสวนสาธารณะ กร้าวเข้ามาหา
“สบายใจขึ้นรึยังครับ”
“ดีขึ้นแล้วค่ะ สัมภาษณ์งานแรกก็เจอดีเลย แย่จริงๆ”
กร้าวยื่นนามบัตรให้
“บริษัทผมรับสมัครพนักงานอยู่ เผื่อคุณสนใจ”
อนุชไม่รับนามบัตร
“ฉันไม่ชอบใช้เส้น อยากหางานด้วยความสามารถของตัวเองมากกว่า ถ้ายังคิดจะเป็นเพื่อนกันอยู่ อย่าทำแบบนี้อีกนะคะ”
อนุชเดินหนีไป ไม่พอใจ กร้าวเครียดที่ไม่เป็นไปตามแผน เขาอยากให้เธอมาทำงานที่บริษัทเพราะจะหาทางใกล้ชิด
อสิตคุยโทรศัพท์กับกร้าวอยู่ในห้องโถงคฤหาสน์มโนรมย์
“วันนี้ผมมีนัดลูกค้า ขอเป็นวันอื่นได้ไหมครับ” อสิตฟังแปลกใจ “อรชาน่ะเหรอครับ ได้ครับ ผมจะให้อรเอาไปให้”
อสิตสงสัยว่าทำไมกร้าวรีบนัก แต่ก็ตัดสินใจไปบอกอรชาที่แปลกใจเช่นกัน
“ให้อรไปเนี่ยนะคะ แต่อรไม่รู้เรื่องเลย แล้ววันนี้อรก็ต้องทำงานด้วย”
“ลาครึ่งวันได้ไหม โปรเจ็กต์ใหญ่ขนาดนี้ ถ้าได้งาน เราก็จะสบาย”
อรชาคิดหนัก
“ก็ได้ค่ะ แค่เอาไปส่งให้ก็พอใช่มั้ยคะ”
อสิตโล่งอกที่อรชายอมช่วย
อรชาเข้ามาในห้องทำงานยื่นพอร์ตงานให้กร้าว
“พอร์ตงานตกแต่งโรงแรมของบริษัทค่ะ”
กร้าวรับไปดู
“ถ้าต้องการทราบรายละเอียดอะไร ก็ให้ถามพี่อสิต ฉันคงตอบอะไรคุณไม่ได้เพราะไม่ได้ทำงานด้านนี้โดยตรง”
กร้าวขำ อรชาสงสัย
“ขำอะไรคะ”
“คุณน่าจะพูดหวานๆ เอาอกเอาใจผมสักหน่อย ไม่กลัวจะไม่ได้งานเหรอ”
อรชาเชิดใส่
“ฉันทำหน้าที่ของฉันดีที่สุดแล้ว พี่สิตให้นำมาให้เฉยๆ หมดหน้าที่ของฉันแล้ว ฉันขอตัวกลับไปทำงานต่อนะคะ”
“เดี๋ยวสิ อยู่คุยกันก่อนไม่ได้เหรอครับ”
“เสียใจค่ะ ฉันมีงานต้องทำ”
อรชาลุกขึ้น จะออกจากห้อง กร้าวรีบตามไป แล้วจับลูกบิดประตูไว้ แล้วจับมือเลย อรชาตกใจ รีบชักมือออกอย่างถือตัว หยิ่งไม่พอใจ
“คุณทำอะไร”
“ผมไม่ชอบโดนขัดใจ”
“ดิฉันก็ไม่ชอบเอาใจใคร และดิฉันไม่ใช่พนักงานของคุณ คุณไม่มีสิทธิ์สั่ง หลีกทางด้วยค่ะ”
อรชาจะออกจากห้อง กร้าวหมั่นไส้ท่าทางเชิดหยิ่งของอรชา ดึงตัวเธอมากอด อรชาไม่ทันตั้งตัว ตกใจมาก
“คุณทำอะไร”
กร้าวดึงอเข้ามาจูบอย่างเร่าร้อน อรชาตกใจ ดิ้นรน ทุบตี แต่กร้าวกอดแน่นและยิ่งจูบรุนแรงขึ้น อรชาดิ้นรนสักครู่ก็นิ่งไปในอ้อมกอดของเขา กร้าวจูบจนพอใจแล้วจึงปล่อยให้เธอเป็นอิสระ อรชาน้ำตาคลอ โกรธจนตัวสั่นที่กร้าวดูถูกศักดิ์ศรี
“ฉัน…ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่คุณคิดจะทำอะไรก็ได้นะ”
“เหรอครับ”
อรชาโกรธมาก
“เลวที่สุด!”
อรชาจะเหวี่ยงกระเป๋าฟาดใส่ แต่กร้าวฉวยมือเธอไว้
“อย่าแม้แต่จะคิดเชียว คุณอรชา คนอย่างผม ใครทำให้เจ็บเท่าไร ผมเอาคืนเป็นร้อยเท่า คิดให้ดีก่อนที่จะฟาดกระเป๋าใส่หน้าผม เพราะคุณโดนหนักกว่าเมื่อกี้แน่”
กร้าวจ้องตาอรชาอย่างเอาจริง ขยับเข้าใกล้ ทำท่าจะจูบอีก อรชากลัว รีบสะบัดมือออก โกรธจนตัวสั่น น้ำตาคลอ ทำอะไรไม่ถูก
“คนเลว หยาบคายที่สุด! ฉันเกลียดคุณ!”
อรชารีบออกจากห้องไป กร้าวแตะริมฝีปากตัวเองแล้วยิ้มร้าย สะใจ
อรชาออกมาจากห้อง เห็นคนเยอะ ก็วางมาดนิ่ง รีบเดินไปอย่างเร็วแต่ก็ยังมีมาด เลขากร้าวมองตามอย่างแปลกใจ
ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 1 (ต่อ)
อรชารีบร้อนเข้าบ้าน สวนกับลลิตาที่แต่งตัวสวย กำลังจะออกจากบ้าน
“อ้าว...อร วันนี้ทำไมกลับเร็ว ไม่ทำงานเหรอ”
อรชาตาแดงก่ำ
“เป็นอะไร ตาแดงอย่างกับร้องไห้มา”
อรชาไม่ตอบ สะบัดหนีไป ลลิตาแปลกใจ ไม่พอใจ
“อะไรของเขา พูดด้วยก็ไม่พูด”
อรชาเข้ามาในห้องนอนนั่งลงบนเตียง แตะปากตัวเองที่ถูกกร้าวจูบ ทั้งโกรธ เจ็บใจ เสียใจระคนกัน
“กร้าว ศุภกาญจน์ คุณดูถูกฉัน ทำเหมือนฉันเป็นผู้หญิงง่ายๆ คิดจะทำอะไรก็ได้ คนเลว! หยาบคาย! บ้าที่สุด!”
อรชาร้องไห้โฮออกมา
ลลิตาเดินดูของอยู่ในห้างสรรพสินค้า พนักงานทำความสะอาดกำลังทำความสะอาดพื้นอยู่ สวนกับลลิตา พนักงานมองลลิตาเหลียวหลัง จำได้
“นังตา!”
ลลิตาสะดุ้งเมื่อถูกเรียกชื่อเก่า ลืมตัว หันขวับไปมองพนักงานทำความสะอาด พนักงานเข้ามาจับแขน
“แกจริงๆ ด้วย ต๊าย...ดูแต่งตัวเข้า ตั้งแต่มีผัวรวย เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ”
คนรอบข้างหันมามองลลิตาเป็นตาเดียว เธออายมาก
“ปล่อยฉันนะ ฉันไม่รู้จักแก แกจำคนผิดแล้ว”
ลลิตาโกรธ ตบหน้าพนักงาน รปภและผู้จัดการเข้ามาเคลียร์
“มีอะไรกันครับ”
“พนักงานคนนี้ไม่มีมารยาทเลย พูดจาเพ้อเจ้อ ไม่รู้เรื่องไล่ออกไปเลยนะ คนแบบนี้ ไม่งั้นฉันจะไม่มาเหยียบห้างนี้อีกเลย”
ลลิตาสะบัดเดินหนีไป อับอายขายหน้ามาก รปภ. รีบดึงตัวพนักงานไว้ ไม่ให้ตามไป
ลลิตารีบร้อนเดินหนีมา อายมากไม่ทันมอง เดินมาชนกร้าว
“ว้าย”
“ขอโทษครับ อ้าว...คุณลิต้า”
“คุณกร้าว”
ลลิตาทั้งดีใจและแปลกใจมากที่เจอเขา
“มีอะไรเหรอครับ ทำท่าทางอย่างกับหนีอะไรมา”
“เอ่อ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” ลลิตารีบปรับสีหน้า ท่าทีให้เป็นปกติ
กร้าวเดินเลือกของแต่งบ้านกับลลิตา
“ผมกำลังแต่งคอนโด เลยมาเลือกของครับ ถ้าคุณลิต้าพอมีเวลา รบกวนช่วยผมหน่อยได้มั้ยครับ ผมไม่ค่อยถนัดด้านนี้ ผู้หญิงน่าจะเลือกเก่งกว่า”
ลลิตาหยิบของชิ้นหนึ่ง กร้าวก็หยิบชิ้นเดียวกัน มือเขาจับมือเธอทั้งสองหันมาสบตากัน กร้าวยิ้มให้
กร้าวและลลิตาเดินแยกกันดูของตกแต่งบ้าน กร้าวมองไปเห็นอนุชนั่งกินข้าวกับชายธงในร้านอาหารน่ารักๆ ในห้าง เขาเห็นชายธงกุมมืออนุช ก็หึง ไม่พอใจ ลลิตามาเรียก
“คุณกร้าว”
กร้าวชะงัก
“ครับ”
“มาดูทางนี้สิคะ คุณกร้าวต้องชอบแน่”
กร้าวอึกอัก อยากไปขัดจังหวะอนุชกับชายธง แต่ต้องทำตามแผน เลยต้องไปกับลลิตา แต่ยังแอบหันกลับมามองอนุชกับชายธงด้วยความหึงหวง
ชายธงกุมมือ อนุชจะดึงมือออก แต่ชายธงไม่ยอมปล่อย
“ผมรักนุช รักมานานแล้ว”
อนุชไม่ทันตั้งตัว
“ชายธง…”
“แล้วนุชล่ะ รักผมบ้างรึเปล่า”
“นุชอยากให้เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอย่างนี้ตลอดไป”
ชายธงผิดหวัง
“เป็นมากกว่าเพื่อนไม่ได้เหรอ นุชมีใครในใจรึเปล่า”
“นุชยังไม่คิดถึงเรื่องนั้น ตอนนี้นุชคิดแค่ว่าอยากทำงานหาเงินใช้หนี้ก่อน ชายธงก็รู้ว่าตอนนี้ที่บ้านุชมีแต่ปัญหา”
ชายธงเข้าใจ
“ผมรอได้ ไม่ว่านานแค่ไหน ความรู้สึกของผมก็จะไม่เปลี่ยนแปลง ผมรักนุชคนเดียว รักหมดหัวใจ ไม่มีวันรักใครได้อีก”
อนุชฟังอย่างลำบากใจ
ค่ำนั้น...รถกร้าวมาจอดหน้าประตูรั้วคฤหาสน์มโนรมย์ ลลิตาจะลงจากรถ แต่กร้าวเอื้อมมือไปจับประตูไว้
“เดี๋ยวครับคุณลิต้า”
ลลิตาหันมาหน้าใกล้กับหน้ากร้าวมาก ทั้งสองมองตะลึง กร้าวมองลลิตาด้วยแววตาเสน่หา ราวกับจะกลืนกิน เขามองริมฝีปากเซ็กซี่ของเธอแล้วเหมือนมีแรงดึงดูดเข้าใกล้กัน เหมือนจะจูบกัน ทันใดนั้นเสียงแตรรถดังปี๊น พร้อมกับแสงไฟจากหน้ารถอีกคันสาดส่องเข้ามาตรงหน้า ลลิตาและกร้าวตกใจ หันไปมองรถที่สวนมาคือรถของชายธงที่มาส่งอนุช
“นุช!” ลลิตาตกใจ
กร้าวหน้าเครียด กลัวแผนแตก
รถของกร้าวและรถของชายธงเข้ามาจอดหน้าบ้านด้วยกัน กร้าว ลลิตา ชายธงและอนุชลงจากรถ ลลิตาไม่สบายใจรีบบอก
“พี่…บังเอิญเจอคุณกร้าว”
กร้าวทำเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ผมจะมาคุยธุระกับคุณสิตพอดี”
อนุชไม่คิดอะไร ยังไม่ได้สงสัยอะไร
“เชิญคุณกร้าวข้างในสิคะ”
กร้าวและลลิตาโล่งอก เดินตามอนุช กับชายธงเข้าบ้าน
“เอ่อ ลิต้าไปบอกสิตให้นะคะ นุชช่วยบอกให้แหวนหาน้ำท่ามารับแขกหน่อยสิจ๊ะ” ลลิตาหันมาบอกอนุช
“ค่ะพี่ลิต้า”
ลลิตาและอนุชออกเไป เหลือกร้าวอยู่กับชายธง
“ท่าทางคุณกับคุณนุชสนิทกันมาก” กร้าวแกล้งพูดขึ้นมา
“ใช่ สนิทมาก ทำไมเหรอครับ”
“ไปถึงขั้นไหนกันแล้วล่ะ”
ชายธงอึ้ง
“คุณว่าอะไรนะ”
กร้าวจงใจกวน
“โธ่ ของแบบนี้ รู้ๆ กันอยู่ ผู้ชายเหมือนกัน คุณนุชน่ารักขนาดนี้ แถมยังเรียนเมืองนอก ผู้หญิงหัวสมัยใหม่ ท่าทางไม่น่าจะยาก ถ้าผมเป็นคุณ ผมไม่ปล่อยไว้หรอก”
“นุชไม่ใช่ผู้หญิงอย่างที่คุณคิด”
“แปลว่าเป็นมากกว่าที่ผมคิดอีกเหรอ”
ชายธงโกรธมาก กระชากเสื้อกร้าว
“หุบปากพล่อยๆ แกไม่มีสิทธิ์ดูถูกนุชแบบนี้”
“ดูถูกอะไร ผมก็พูดตามที่เห็น”
“ไอ้ชั่ว!”
ชายธงโกรธจัด ชกกร้าวล้มลง อนุช อสิต ลลิตามาเห็นตอนชายธงชกกร้าวพอดี ทั้งสามต่างตกใจ ลลิตาหน้าตื่น
“ว้าย คุณกร้าว”
อนุชชะงัก
“ชายธง”
อสิตกับลลิตารีบไปประคองกร้าว
ชายธงจะเข้ามาชกอีก อนุชรีบห้าม
“ชายธง หยุดนะ ทำอะไร”
“นุชหลีกไป ผมจะสั่งสอนไอ้คนปากเสีย มันดูถูกนุช”
กร้าวตีหน้าซื่อ
“ผมเปล่านะครับ คุณชายธงเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว”
“โกหก! เมื่อกี้แกพูด ฉันได้ยินเต็มสองหู”
อสิตตัดบท
“นุชรีบพาเพื่อนไปก่อน”
“ชายธง มานี่”
อนุชดึงชายธงออกไปอย่างยากลำบาก กร้าวแอบยิ้มที่ทำให้ชายธงดูแย่ในสายตาคนอื่นได้
อนุชดึงชายธงออกมา
“ทำไมไปทำคุณกร้าวเขาแบบนั้น”
“มันพูดดูถูกนุช มันหาว่านุช” ชายธงอึกอัก “เอ่อ ใจง่าย”
อนุชแปลกใจมาก
“คุณกร้าวเนี่ยนะ เข้าใจผิดรึเปล่า เขาจะพูดแบบนั้นทำไม”
“ไม่รู้ แต่มันพูดจริงๆ เชื่อผมนะ อยู่ห่างๆ ไอ้คนนี้ไว้ ผมว่ามันไม่ใช่คนดี”
“จ้ะๆ แต่ตอนนี้ชายธงกลับก่อนเถอะนะ เขาเป็นแขกของพี่สิต นุชไม่อยากให้มีเรื่องกัน”
ชายธงพยักหน้าและออกไป อนุชครุ่นคิดเรื่องกร้าวสงสัย ไม่แน่ใจ
ลลิตาทายาให้กร้าว อสิตหน้าเสีย
“ผมต้องขอโทษด้วยที่ทำให้เกิดเรื่อง ยายนุชไม่น่ามีเพื่อนอันธพาลแบบนี้เลยผมจะบอกให้ยายนุชเลิกคบเพื่อนคนนี้”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เด็กๆ ก็เลือดร้อนเป็นธรรมดา”
“แล้วคุณกร้าวมาหาผมมีธุระอะไรครับ...หรือว่า…เรื่องงานตกแต่งโรงแรม”
“ผมจะมาบอกคุณสิตว่าผมตกลงให้บริษัทคุณตกแต่งโรงแรมของผมครับ”
อสิตกับลลิตาดีใจที่ได้งานใหญ่
“ขอบคุณมากครับคุณกร้าว”
อรชาตาบวมช้ำ เดินมาใกล้ห้องรับแขก กำลังจะเข้าไป แต่ชะงักเพราะได้ยินเสียงกร้าว อรชารีบหลบ แอบมองเข้าไปในห้องรับแขกเห็นกร้าวก็อึ้งไป
“มาทำไม”
อรชาทำตัวไม่ถูก กำลังจะหนีกลับขึ้นห้อง หันมาเจออนุชก็ตกใจ
“นุช!”
อนุชยิ้มให้
“พี่อรมายืนทำอะไรตรงนี้คะ เข้าไปข้างในสิคะ”
“พี่ เอ่อ”
อรชาอึกอัก อนุชดึงอรชาเข้าไปในห้อง อสิตหันไปหาน้องสาวยิ้มแย้มดีใจ
“อ้าว...อร มาพอดี มาฟังข่าวดีเร็ว”
อรชาเลยต้องนั่งร่วมวงด้วย โดยอรชานั่งข้างอนุช กร้าวยิ้มให้ อรชาอายมาก ไม่กล้าสบตา
“คุณกร้าวตกลงร่วมงานกับพี่แล้วนะ งานนี้ต้องยกความดีให้อร...ไม่รู้น้องสาวผมไปเสนองานยังไง คุณกร้าวถึงตอบตกลงรวดเร็วขนาดนี้ เก่งกว่ามืออาชีพอีกนะเนี่ย”
อรชาอึกอัก กร้าวแกล้ง
“คุณอรเขามีทีเด็ดที่ทุกคนคาดไม่ถึงน่ะครับ”
อรชาหันขวับ ทั้งอายและเจ็บใจ กร้าวยิ้มกวน
“อรรู้สึกไม่ค่อยสบาย ขอตัวก่อนนะคะ”
อรชารีบเดินหนีไป อสิต อนุช ลลิตาแปลกใจ
“พี่อรท่าทางแปลกๆ นุชขอตัวไปดูพี่อรก่อนนะคะ”
กร้าวยิ้มพอใจที่แกล้งปั่นหัวอรชาได้
อรชาเข้าห้องมา โกรธ เดินไปที่เตียงนอนแล้วคว้าหมอนมาขว้างๆๆ ระบายอารมณ์
“คนบ้า! สกปรก! ทุเรศ! ฉันเกลียดคุณ เกลียด!”
อรชาร้องไห้ด้วยความเจ็บใจที่โดนดูถูก อนุชมาเคาะประตู
“พี่อรคะ พี่อรเป็นไรรึเปล่า”
อรชาพยายามปรับเสียงให้เป็นปกติ
“พี่ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ รู้สึกเหนื่อยๆ นอนพักเดี๋ยวก็หาย”
อรชาทรุดลงนั่ง ทุบเตียงนอนด้วยความเจ็บใจที่โดนดูถูก...อนุชอยู่หน้าห้อง เป็นห่วงอรชา แต่ก็ปล่อยให้พักผ่อน
กร้าวดื่มเครื่องดื่ม ลลิตาบอกอย่างเอาใจ
“ลิต้าไปบอกให้เด็กเอาของว่างมาเติมนะคะ”
ลลิตาออกไป กร้าวแอบมองตาม โดยที่อสิตไม่ทันสังเกตเห็น
“ผมขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะครับ”
“เชิญครับ”
กร้าวออกไป
ลลิตาเดินออกมาจกครัว เจอกร้าวดักรออยู่
“คุณกร้าว มีอะไรเหรอคะ”
กร้าวดึงลลิตามาที่มุมลับตาคน แอบคุยเบาๆ
“ผมจะกลับแล้ว แต่ก่อนกลับ ผมมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณลิต้า วันนี้ผมมีความสุขมาก เป็นวันที่มีความหมายกับผม…”
ลลิตาดีใจ
“ถึงแม้มันจะไม่มีความหมายสำหรับคุณลิต้าก็ตาม”
กร้าวตีหน้าเศร้า
“คุณลิต้าไม่ต้องลำบากใจนะครับ ผมแค่อยากให้คุณลิต้ารู้ความรู้สึกของผมเท่านั้น ผมไม่ได้คาดหวังอะไร เพราะรู้ว่าคุณมีคุณอสิตอยู่แล้วทั้งคน”
“ลิต้าก็…มีความสุขมากเหมือนกัน” ลลิตารีบบอก
กร้าวดีใจ
“จริงเหรอครับ ได้ยินแบบนี้ คืนนี้ผมก็นอนหลับฝันดีแล้ว”
กร้าวกุมมือลลิตาสบตาซึ้งอย่างมีความหมาย ลลิตาสะเทิ้นเอียงอาย
กร้าวยกมือลลิตาขึ้นมาจูบอย่างอ่อนโยน ขณะที่อนุชเดินมาใกล้ยิ่งขึ้น
อนุชเดินมาใกล้เกือบเห็นกร้าวจูบมือลลิตาแล้ว แต่เสียงอสิตดังขัดขึ้นเสียก่อน
“นุช”
อนุชชะงักหันไปหาอสิต ลลิตากับกร้าวตกใจ รีบปล่อยมือออกจากกันแล้วเดินมาสมทบ
“อ้าว นุช สิต”
กร้าวรีบกลบเกลื่อน
“ผมกำลังถามคุณลิต้าพอดีว่าคุณอรเป็นยังไงบ้าง”
ลลิตาอึ้งไปนิดหนึ่งแล้วรีบรับมุก
“ใช่ค่ะ ใช่...คุณกร้าวถามลิต้าอยู่พอดี”
อนุชหันมาบอก
“พี่อรไม่เป็นไรค่ะ เห็นบอกว่าไม่สบายนิดหน่อย นอนพักก็หายค่ะ”
กร้าวยิ้มให้อสิตและอนุชเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่แอบสบตาและยิ้มให้ลลิตา
อนุชมาส่งกร้าวที่หน้าบ้าน
“ผมขอโทษด้วยนะครับ...เรื่องคุณชายธง”
“ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษแทนชายธงที่เสียมารยาท”
“ผมเข้าใจคุณชายธงครับ มีแฟนสวยขนาดนี้ก็ต้องหวงเป็นธรรมดา”
กร้าวส่งสายตาหวานให้
“ฉันกับชายธงเป็นเพื่อนกันค่ะ”
อนุชมองหน้ากร้าวด้วยความสงสัย เพราะกร้าวไม่เหมือนวันแรกที่เจอกัน
“ทำไมคุณนุชมองผมแบบนั้น”
“วันแรกที่เจอกัน คุณว่าฉันทำความผิดจนโดนตามล่า แต่วันนี้กลับปากหวานใส่ฉัน อย่างกับคนละคน”
“ผมขอโทษ ถ้ารู้ว่าคุณเป็นวิชเวทย์ ผมคงไม่พูดกับคุณอย่างนั้น”
“ทำไมคะ คนเราจะดีหรือชั่วอยู่ที่นามสกุลด้วยรึคะ”
กร้าวไม่ตอบ เปลี่ยนเรื่อง
“แล้วคุณชอบให้ผมเป็นแบบไหนมากกว่ากัน”
“แบบไหนก็ได้ที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของคุณน่ะค่ะ”
กร้าวอึ้ง คำพูดของอนุชแทงใจดำ
“ฉันส่งแค่นี้นะคะ”
อนุชออกไป กร้าวยิ้มให้แล้วมองขึ้นไปที่ชั้นสองของบ้าน...อรชาแง้มม่านแอบมองกร้าว พอเห็นเขามองขึ้นมาก็ตกใจ รีบหลบความรู้สึกของเธอคือโกรธที่เขาล่วงเกินและสงสัยว่าเขาทำไปเพื่ออะไร กร้าวยิ้มอย่างเป็นต่อ รู้ว่าอรชาเริ่มให้ความสนใจเขาแล้ว
วันใหม่...เมื่อไปถึงที่ทำงาน กร้าวเรียกเลขามาสั่ง
“แจ้งไปที่บริษัทในเครือทุกแห่ง และบริษัทที่ผมมีหุ้นอยู่ด้วยห้ามรับผู้หญิงที่ชื่อ อนุช วิชเวทย์เข้าทำงาน”
“ค่ะ คุณกร้าว”
เลขาออกไป กร้าวยิ้มอย่างมีแผน อยากเอาชนะอนุชให้ได้
อนุชไปสมัครงานที่บริษัทต่างๆหลายแห่ง แต่ไม่มีที่ไหนรับเธอทำงานเลยสักแห่ง อนุชทั้งเหนื่อยทั้งผิดหวัง มานั่งปรับทุกข์กับชายธงที่ร้านกาแฟ
“ทำไมงานหายากขนาดนี้ ไปที่ไหนๆ ก็บอกว่าไม่มีประสบการณ์”
“แต่นุชฝึกงานบริษัทใหญ่ๆ ตั้งหลายแห่ง ไม่ช่วยอะไรเลยเหรอ”
อนุชส่ายหน้า ท้อใจ ชายธงเห็นใจ คิดหาทางช่วย แล้วนึกได้
“ผมจะให้คุณพ่อช่วยหางานให้”
อนุชลำบากใจ
“ขอบคุณนะชายธง แต่นุชอยากหางานด้วยตัวเองมากกว่า”
ชายธงเป็นห่วงอยากช่วย แต่เมื่อเห็นเธอปฏิเสธจึงไม่พูดอะไรอีก
กร้าวกับอสิตคุยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“คุณกร้าวมีอะไรรึครับ” อสิตถามอย่างแปลกใจที่อยู่ๆกร้าวก็นัดพบ
“ผมเห็นว่าคุณนุชกำลังหางาน บริษัทผมมีตำแหน่งว่างอยู่พอดีแต่ผมเกรงว่าคุณนุชจะไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากผม”
“ไม่ยอมแน่นอน รายนี้เกลียดการใช้เส้นสายที่สุด ชอบทำอะไรด้วยตัวเองตั้งแต่เด็กแล้ว”
“นั่นสิครับ ผมถึงอยากให้คุณสิตช่วย” กร้าวยิ้มอย่างมีแผน
เมื่อตกลงกันได้อสิตจึงบอกให้อนุชไปสมัครงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในตำแหน่งเลขา โดยที่เธอไม่รู้ว่าเป็นบริษัทของกร้าว รู้เพียงแต่ว่าเป็นบริษัทของเพื่อนอสิตเท่านั้น
ค่ำนั้น...อนุชคุยโทรศัพท์มือถือ อยู่ที่โถงบ้าน
“ไม่มีปัญหาค่ะ เริ่มงานได้เลย ขอบคุณค่ะ”
อนุชกดวางสาย หันไปดีใจกับอสิตและอรชา
“เขารับนุชเข้าทำงานแล้วค่ะ”
อรชาดีใจกับน้องด้วย
“น้องพี่เก่งอยู่แล้ว”
อนุชกอดอสิตและอรชา
“นุชจะตั้งใจทำงานหาเงินช่วยพี่สิตอีกแรง”
อสิตลูบผมน้องสาวคนเล็กอย่างเอ็นดู
“พี่ขอโทษที่ไม่เอาไหน ทำให้น้องๆ ต้องเหนื่อย”
“อย่าคิดมากนะคะ พี่สิตเป็นพี่ชายที่ดีที่สุดค่ะ ถ้าคุณพ่อยังอยู่ คุณพ่อก็ต้องภูมิใจในตัวพี่สิตแน่นอน”
อสิตโอบอรชาและอนุชคนละข้าง ทั้งสามพี่น้องมองรูปประสิทธิ์ ที่แขวนอยู่บนผนัง
วันใหม่...อรชาเดินเหม่อ ไม่สบายใจเรื่องกร้าว ทันใดนั้น กร้าวมาพร้อมช่อดอกไม้สวย อรชาเห็นหน้าเขาก็โกรธมากจะเดินหนี กร้าวคว้ามือไว้ อรชาตกใจ กลัวเขาฉวยโอกาสอีก
“ปล่อยฉัน”
กร้าวแกล้งยื่นหน้าเข้าใกล้จ้องตา ตั้งใจแกล้ง อรชาตกใจ หลับตาปี๋ คิดว่าเขาจะจูบ กลัวจนตัวสั่น กร้าวยิ้ม ไม่จูบ ตั้งใจจะปั่นหัวอรชาเล่นเท่านั้น
“ตาคุณบวม คิดถึงผมจนนอนไม่หลับเหรอครับ”
อรชาลืมตา มองหน้าเขา อับอาย หน้าชา สะบัดมือแต่เขาไม่ปล่อย
“คุณยังไม่ได้รับดอกไม้จากผมเลย”
อรชาจำต้องรับดอกไม้ แล้วหันไปทิ้งถังขยะที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนจะรีบเดินหนีไป กร้าวรีบตามไปอย่างไม่ยอมแพ้
“ตามฉันมาทำไม”
ขณะเดียวกันปรารภหอบข้าวของพะรุงพะรัง เข้ามาหาอรชา
“คุณอร”
“คุณปรารภ”
อรชานึกได้ รีบควงแขน ส่งเสียงหวาน
“อรมีเรื่องจะคุยกับคุณอยู่พอดี ไปกันเถอะค่ะ”
อรชาดึง ปรารภงงๆไม่เข้าใจ
“คุณอรจะคุยเรื่องอะไร คุยกันตรงนี้ก็ได้นี่ครับ”
อรชาไม่ตอบ รีบดึงเขาหนีไป
“ไปกันเถอะค่ะ”
กร้าวมองตาม รู้ทันว่าอรชาหลบหน้า ไม่กล้าสู้หน้าตน ชายหนุ่มยิ้มอย่างเป็นต่อ
อรชาดึงปรารภหนีมาพ้นจากกร้าว เห็นเขาไม่ตามมาก็โล่งอก รีบปล่อยมือจากปรารภ
“คุณอรมีอะไรจะคุยกับผมรึครับ”
“ไม่มีแล้วค่ะ อรไปทำงานก่อนนะคะ”
อรชาสะบัดจะหนีไป ปรารภดึงไว้
“เดี๋ยวครับ ผมมีของมาฝากคุณอรเยอะแยะเลย นี่ครับ กุ้งแห้ง ปลาหมึกแห้ง กะปิ น้ำปลาอย่างดีจากโรงงานของผมเองครับ รับรองหอมอร่อย”
ปรารภยิ้มซื่อ อรชาเห็นของฝากแล้วรังเกียจ แต่พยายามรักษากิริยา
“เอ่อ ขอบคุณค่ะ”
กร้าวแอบมองอรชาและปรารภอยู่ ยิ้มสะใจที่ได้แกล้งปั่นหัวอรชา
เย็นนั้นปราบ ชายธง และปรารภมาพร้อมหน้ากันที่คฤหาสน์มโนรมย์ ชายธงนั่งข้างอนุชมองกร้าวอย่างเขม่นเต็มที่ เพราะไม่ชอบหน้าตั้งแต่เจอกันครั้งก่อน อรชาก็แอบมองกร้าวเป็นระยะๆ อึดอัดใจที่หนีเขาไม่พ้น ปรารภถามขึ้นมาลลิตา
“ตกลงวันนี้เลี้ยงฉลองเนื่องในโอกาสอะไรครับ”
ลลิตายิ้มอารมณ์ดี
“เนื่องในโอกาสที่สิตจะชนะประมูลงานใหญ่ไงจ๊ะ ถ้าได้งานนี้ก็สบายเลย”
กร้าวยิ้มขำๆ
“ฉลองล่วงหน้าอย่างนี้จะดีรึครับ”
อนุชสงสัย
“คุณกร้าวหมายความว่าไงคะ”
กร้าวแก้ตัว
“อะไรๆ มันก็ไม่แน่นอนน่ะครับ”
ลลิตามั่นใจ
“แต่งานนี้แน่นอนค่ะ เพราะสิตรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่หลายคน”
ขณะเดียวกันนั้น รถอสิตมาจอดหน้าบ้าน ลลิตารีบออกไปหา อสิตเดินถือกระเป๋าเอกสารหน้าเครียดเข้ามา
“ดีใจด้วยนะคะสิตขา เราจะรวยแล้ว! เย้!”
ลลิตากระโดดกอดจูบแก้มซ้ายขวา อสิตโกรธจี๊ด ผลักลลิตาออก
“งาน เงิน อะไร ไม่มีทั้งนั้น!”
อสิตเดินหนีเข้าบ้านไป ลลิตางง รีบตามไป
“สิตคะ สิต”
อสิตเข้ามาในบ้าน หน้าตาท่าทางหงุดหงิด อรชายิ้มให้
“พี่สิตคะ”
อสิตไม่สนใจ เดินผ่านไปไม่ทักใครทั้งนั้น ลลิตาวิ่งตามมา อนุชหันไปถาม
“เกิดอะไรขึ้นคะพี่ลิต้า”
ลลิตาหงุดหงิด
“ถามฉันแล้วฉันจะไปถามใครล่ะ”
อรชา อนุช งง ทั้งหมดจึงตามอสิตไป ชายธงและปรารภเป็นห่วง ขณะเดียวกันนั้นโทรศัพท์มือถือของกร้าวดังขึ้น เขาดูเบอร์แล้วออกไป...กร้าวเดินหนีมามุมหนึ่งที่ปลอดคน จึงกดรับสาย
“ผมรู้ข่าวแล้ว ทำดีมาก”
กร้าววางสาย ยิ้มพอใจ
อสิตอาละวาดปัดเอกสารบนโต๊ะทำงานหล่นกระจาย ลลิตา อรชาและอนุชตามเข้ามา ต่างตกใจ
“เกิดอะไรขึ้นคะพี่สิต”อนุชเข้าไปถาม
“ไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มันเป็นม้ามืด จู่ๆ ก็โผล่มาชนะประมูล แย่งงานไปหมดกันที่นี้”
ลลิตา อรชาและอนุชตกใจ
“หมายความว่าที่ลงทุนพาผู้หลักผู้ใหญ่ไปเลี้ยง หมดเงินไปเป็นแสนๆก็จบกัน เราเสียเงินเปล่ารึคะนี่” อรชาหน้าเสีย
อสิตพยักหน้า เครียด ลลิตาโวยวาย
“ตายๆๆ แล้วทีนี้จะเอาอะไรกิน”
ลลิตาเสียใจ ทุบตีอสิตไม่หยุด อสิตโกรธ ผลักออก
“แล้วคิดว่าผมอยากให้เป็นแบบนี้รึไง ไป! ออกไปให้หมด คนยิ่งกลุ้มๆ อยู่ ออกไป ไป!”
ลลิตา อรชาและอนุชรีบเผ่นออกจากห้องแทบไม่ทัน อสิตเครียด กุมขมับ
ลลิตาออกมาโวยวาย
“ทั้งสร้อยเพชร ทัวร์ยุโรป ทุกอย่างที่ฝันไว้ พังหมด”
อนุชมองพี่สะใภ้อย่างไม่พอใจ อรชาปรามลลิตา
“พอเถอะค่ะพี่ลิต้า แค่นี้พี่สิตก็เครียดพอแล้ว”
“แล้วคิดว่าฉันไม่เครียดรึไง”
อรชากับอนุชรำคาญ เดินหนีกันไปคนละทาง ลลิตากรี๊ดลั่น ขัดใจ
“อ๊าย!”
อรชาเข้ามาในห้องรับแขกแล้วหน้ามืดเป็นลม
“คุณอร!”
ปรารภประคองอรชาไปนั่งพักที่โซฟา
“เดี๋ยวผมไปหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเผื่อจะดีขึ้น”
ปรารภรีบออกไป กร้าวเข้ามาดูแลอรชาแทน
“คุณอร”
อรชาฟื้นขึ้นมา เห็นหน้ากร้าวก็ตกใจและกลัว พยายามจะลุกหนีแต่ไม่มีแรง กร้าวประคองให้นั่งพักก่อน
“ปล่อยฉัน”
“ผมว่าคุณนั่งพักเฉยๆ ก่อนดีกว่า”
ปรารภเอาผ้าชุบน้ำเข้ามาให้
“มาแล้วครับ เช็ดหน้าสักหน่อย น่าจะดีขึ้น”
กร้าวยื่นมือไปรับ
“มาครับ ผมทำเอง”
ปรารภส่งให้
“เอ้อ ฝากดูคุณอสิตด้วยนะครับคุณปรารภ”
“เอ่อ...ครับ”
ปรารภออกไปด้วยความซื่อ
ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 1 (ต่อ)
อนุชยืนหน้าเครียดอยู่มุมหนึ่งของบ้าน เธอไม่สบายใจเรื่องพี่ชาย ชายธงเข้ามาหา
“พี่สิตเป็นไงบ้าง”
อนุชมองชายธง หน้าตาหนักใจ ไม่ตอบอะไร
กร้าวเอาผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ แล้วมาซับหน้าให้อย่างอ่อนโยน อรชาเบือนหน้าหนี กร้าวกุมมือ
“ผมขอโทษที่ทำไม่ดีกับคุณ ผมก็เป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ เวลาอยู่ใกล้ผู้หญิงที่ผมรัก”
อรชาแปลกใจ
“รัก”
กร้าวสบตาจริงจัง
“ใช่ ผมรักคุณ รักตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น”
อรชาไม่เชื่อ
“โกหก”
“ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าผมรักและจริงใจกับคุณ ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้คนที่ผมรักมีความสุข”
อรชามองตากร้าว สับสน ไม่เข้าใจ อนุชและชายธงเข้ามาด้วยกัน
“พี่อร เป็นไรคะ” อนุชตกใจ
“คุณอรเป็นลมครับ”
กร้าวส่งผ้าเช็ดหน้าให้ อนุชมารับมาเช็ดหน้าให้พี่สาวแทน กร้าวออกไป อรชามองตามไปด้วยความสับสน...กร้าวออกมา แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ ที่พูดไปไม่ได้จริงใจ แต่เป็นแผน
ลลิตาหงุดหงิดอาละวาด ทำลายข้าวของ กร้าวเข้ามาลลิตากำลังเงื้อของจะขว้างพอดี เห็นกร้าวก็ตกใจ รีบวางของ
“คุณกร้าว”
“คุณลิต้า เป็นไงบ้างครับ ผมเป็นห่วงคุณมากรู้มั้ย”
ลลิตาทำเป็นอ่อนแอ ร้องไห้
“ลิต้ากลัวค่ะ กลัวพวกเจ้าหนี้มาทำร้ายลิต้า”
กร้าวซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน
“อย่าร้องไห้นะครับ ไม่ต้องกลัว”
ลลิตาซึ้งใจที่เขาดีกับตน กร้าวดึงเธอมากอด
“ผมอยากให้คุณลิต้ารู้ไว้ว่าผมจะอยู่ข้างๆ ไม่มีวันทิ้งคุณไปไหน”
ลลิตามีความสุข อบอุ่นใจ
อนุชเช็ดแขนให้อรชา ส่วนชายธงให้ดมยาดม อรชาดีขึ้น
“พี่ไม่เป็นไรแล้ว”
“หน้ายังซีดอยู่เลย ทานยาหอมสักหน่อยนะคะ”
อนุชรีบออกไป
อนุชมาเห็นลลิตากอดกับกร้าว เธอตกใจ รีบหลบ แอบฟัง...กร้าวปล่อยลลิตา
“คุณกร้าวดีกับลิต้าเหลือเกิน ขอบคุณนะคะ”
กร้าวกุมมือยกมือขึ้นมาจูบ อนุชเห็นท่าทางที่กร้าวมีต่อลลิตาแล้วตกใจ ดูออกว่าเกินเพื่อน ปรารภเข้ามา ทะเล่อทะล่า ไม่รู้เรื่อง
“ลิต้า!”
ลลิตากับกร้าวชะงัก รีบผละออกจากกัน
“คุณสิตเป็นไงบ้าง”
ลลิตาหงุดหงิด
“เก็บตัวอยู่แต่ในห้องโน่น”
ลลิตา กร้าวและปรารภออกไป อนุชยืนอยู่ที่เดิมหน้าเครียด เริ่มสงสัยลลิตากับกร้าว แต่ยังไม่แน่ใจ
อนุชส่งแก้วยาหอมให้อรชา ขณะที่ตัวเองไม่สบายใจเลย เมื่อคิดเรื่องกร้าวกับลลิตา
“ขอบใจจ๊ะ”
อรชารับไปดื่ม ลลิตา ปรารภและกร้าวเข้ามา
“คุณอรดีขึ้นรึยังครับ” ปรารภรีบมาหาอรชา
“อรไม่เป็นไรแล้วค่ะ”
กร้าวถือโอกาสลา
“งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ คุณลิต้าไม่ต้องส่งหรอกครับ”
“ขอโทษด้วยนะคะ ชวนมาเลี้ยงฉลองแท้ๆ กลับกลายเป็นหมดสนุก” ลลิตาตีหน้าเศร้า
“ไม่เป็นไรครับ”
กร้าวกับลลิตาทำท่าทางห่างเหินเหมือนไม่สนิทกัน กร้าวเดินออกไป อนุชมองทั้งสองอย่างจับผิด
อนุชคุยกับชายธงอยู่หน้าบ้าน หญิงสาวครุ่นคิดเรื่องกร้าวกับลลิตา
“นุช” ชายธงเห็นเธอเงียบไปก็เรียกเบาๆ
อนุชยังเหม่อ ชายธงเสียงดังขึ้น
“นุชครับ”
อนุชสะดุ้ง
“คะ ชายธงว่าไงนะคะ”
ชายธงสงสารกุมมือคิดว่าเธอไม่สบายใจเรื่องเงิน
“นุชไม่ต้องกังวลนะ เรื่องหนี้สินของครอบครัวนุช ผมจะหาทางช่วย”
“ขอบคุณค่ะ แต่นุชไม่อยากรบกวน”
“คราวนี้ไม่ว่านุชจะว่ายังไง ผมก็ยืนยันจะช่วย จะให้ผมทนเห็นนุชไม่มีความสุขได้ยังไง”
ชายธงบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ค่ำนั้น เมื่อกลับมาถึงบ้าน ชายธงตัดสินใจขอเงินพ่อ เธียรตกใจ โวยเสียงดัง
“แกจะเอาเงินไปทำอะไรเยอะแยะ ตั้งห้าสิบล้าน!”
“เพื่อนผมมีปัญหา ผมจะเอาไปช่วยเพื่อน”
“ผู้หญิงล่ะสิ”
ชายธงอึกอักที่พ่อรู้ทัน
“ลูกเต้าเหล่าใคร”
“ชื่ออนุช วิชเวทย์ครับ เป็นลูกของคุณประสิทธิ์ วิชเวทย์ ตระกูลผู้ดีเก่า คุณพ่อคงเคยได้ยินนามสกุลนี้”
“ได้ยินมาเยอะเลยแหละ ตอนนี้พวกวิชเวทย์มีหนี้สินรุงรัง แต่ยังทำวางท่าเป็นผู้ดี ตีหน้าตายลวงโลกว่าเป็นเศรษฐี!”
ชายธงไม่สบายใจ เธียรสั่งเสียงเข้ม
“แกเลิกยุ่งกับผู้หญิงคนนี้ซะ ก่อนที่จะหมดตัว!”
“นุชเป็นคนดีนะครับ”
“เขาต้องดีกับแกมากเป็นพิเศษ เพราะหวังจะจับแกไงล่ะ ฉันขอสั่งให้แกเลิกยุ่งเกี่ยวกับคนบ้านนี้เด็ดขาด!”
ชายธงไม่ยอม
“ผมจะคบใครก็เรื่องของผม พ่อไม่มีสิทธิ์บังคับ”
ชายธงโกรธเดินหนี เธียรคิดหนักไม่สบายใจ
อสิตดื่มเหล้าเมามาย ร้องโวยวาย อนุชพยายามห้าม
“พี่สิตคะ พอเถอะค่ะ”
“พี่มันไม่เอาไหน พี่อยากตาย”
อรชาหนักใจ
“พี่สิตดื่มตั้งแต่เย็นแล้ว เดี๋ยวจะไม่สบายนะคะ ไปนอนพักเถอะค่ะ”
อรชากับอนุช ช่วยกันห้ามและช่วยกันประคองออกจากห้องไป ลลิตามองอย่างเบื่อหน่าย
อรชาและอนุชเช็ดตัวให้อสิตจนหลับไป แต่ยังเมาๆละเมออยู่ อรชาและอนุชจะออกจากห้อง อรชาหันไปบอกลลิตา
“ฝากดูพี่สิตด้วยนะคะพี่ลิต้า พี่สิตคงจะเสียใจมากที่พลาดงานนี้”
ลลิตาพยักหน้ารับอย่างขอไปที อรชาและอนุชออกจากห้องไป ลลิตามองสภาพสามีแล้วส่ายหน้า ระอาใจ เธอนั่งลงบนเตียง ข้างๆเขานึกถึงกร้าว เธอยิ้ม มีความสุขเมื่อนึกถึงเขา อสิตดิ้น มือมากอด ลลิตาสะดุ้ง ตื่นจากฝัน ยกมือสามีออกไปด้วยความหงุดหงิด
วันใหม่...เธียรไปที่ร้านเพชรของรัตนาซึ่งเป็นเพื่อนกันมานาน ขณะที่ธาริน ลูกสาวของเธอนั่งอยู่ด้วย
“เราเคยคุยกันไว้ว่าจะให้ชายธงกับธารินดองกัน ตอนนี้เจ้าชายธงก็เรียนจบแล้ว ฉันมาทวงสัญญา หวังว่ายังไม่ลืม” เธียรพูดอย่างตรงไปตรงมา
“เรื่องนี้ต้องแล้วแต่เด็กๆ” รัตนาหันไปถามธาริน “ว่าไงลูก”
ธารินอายๆ เพราะชอบชายธงมานานแล้ว
“แล้วแต่คุณแม่สิคะ”
เธียรยิ้มดีใจที่ทางบ้านนี้ไม่ขัดข้อง
เลขาพาอนุชเข้าไปหาประธานบริษัทที่เธอมาทำงานด้วย
“สวัสดีค่ะท่านประธาน”
ประธานที่นั่งหันหลังอยู่ หันมากลายเป็นกร้าว
“นี่คุณ!” อนุชตกใจ
เลขาออกจากห้องไป เหลือแต่อนุชกับกร้าว
“นี่มันอะไรกัน พี่สิตกับคุณร่วมมือกันหลอกฉันรึ”
“ผมหาเลขาอยู่ แล้วคุณสิตก็แนะนำคุณมา ไม่มีเส้นสาย ใช้ความสามารถล้วนๆ อย่างที่คุณต้องการ”
อนุชเสียงแข็ง
“ฉันขอลาออก”
กร้าวหน้านิ่ว ไม่เข้าใจ
“เหตุผลล่ะ”
“ไม่ชอบหน้าประธานบริษัท”
กร้าวจับหน้าตัวเอง
“หน้าตาผมไม่ดีตรงไหน ใครๆก็ชอบทั้งนั้น”
อนุชหมั่นไส้ สะบัดจะออจากห้อง
“ผมว่าคุณกลัวมากกว่ามั้ง”
อนุชชะงัก หันกลับมา
“คุณกลัวผมจะรู้ว่าคุณไม่มีความรู้ติดตัว ที่ไปเรียนเมืองนอกเมืองนาก็แค่ไปชุบตัวเท่านั้น”
กร้าวยิ้มกวนประสาท อนุชโกรธที่โดนดูถูก
“อย่าเอาตัวเองมาตัดสินคนอื่น”
“ผมไม่ชอบคนดีแต่พูด ถ้าอยากให้ผมเชื่อ ก็พิสูจน์ให้เห็นสิ”
กร้าวยื่นแฟ้มเอกสารให้
“งานแรก ตอบอีเมล์ลูกค้าต่างชาติ รายละเอียดตามเอกสารนี้”
อนุชโกรธ ไม่ชอบให้ใครดูถูก จะต้องพิสูจน์ให้กร้าวเห็นรับงานไปทันที
อนุชทำงานเสร็จยื่นแฟ้มเอกสารคืนให้กร้าว
“เรียบร้อยแล้วค่ะท่านประธาน”
กร้าวรับแฟ้มเอกสารมา แล้วเปิดเมล์อ่านอย่างทึ่งๆ
“ใช้ได้”
อนุชยิ้ม จะออกจากห้อง
“จะไปไหน ผมให้คนย้ายโต๊ะทำงานคุณเข้ามาแล้ว”
“ย้ายเข้ามาทำไมคะ”
“ผมแค่เห็นว่าจะสั่งงานอะไรก็สะดวกดี ผมไม่พิศวาสคุณหรอก”
อนุชไม่พอใจ จำต้องไปนั่งที่โต๊ะทำงาน
“อีกอย่าง ไม่ต้องเรียกท่านประธาน มันดูห่างเหินชอบกล เรียกคุณกร้าวเหมือนเดิมก็ดีแล้ว ไม่งั้น…”
“ทำไมคะ คุณจะไล่ฉันออกรึไง”
“ผมไม่ไล่คุณออก แต่จะหักเงินเดือนคุณ”
อนุชไม่พอใจ เพราะทางบ้านกำลังมีปัญหาเรื่องเงิน
“ค่ะ คุณกร้าว!”
ค่ำนั้น เมื่อกลับมาถึงบ้าน อนุชโกรธมากจะมาโวยอสิตที่ไม่บอกว่าเป็นบริษัทของกร้าว อสิตนั่งหันหลังอยู่ที่บาร์เครื่องดื่ม อนุชไม่รู้ว่าพี่ชายยังเมาไม่เลิก
“พี่สิตคะ!”
อสิตฟุบหน้าลง เมาไม่ได้สติ อนุชแปลกใจ
“พี่สิต”
อนุชเข้าไปดูใกล้ๆ ถึงเห็นว่าอสิตเมาหลับไปแล้ว อนุชไม่สบายใจที่พี่ชายเอาแต่เมา
เช้าวันใหม่ เสียงอสิตโวยวายดังลั่นบ้าน
“แหวน...นังแหวน...เอาเหล้ามา”
ลลิตาปิดหูอย่างรำคาญสุดๆ
“ตื่นขึ้นมาก็ร้องหาแต่เหล้า เมาแล้วมันได้อะไรขึ้นมามั้ย”
อรชาและอนุช กำลังจะออกไปทำงาน ต่างไม่สบายใจ ห่วงพี่ชาย กร้าวเข้ามา ลลิตาดีใจ
“คุณกร้าว!”
อนุชไม่พอใจ อรชาอาย ไม่กล้าสู้หน้ากร้าวรีบบอก
“พี่ไปก่อนนะ”
อรชารีบออกไป กร้าวเข้ามาบอกลลิตา
“ผมขอคุยกับคุณสิตหน่อยครับ”
“เชิญทางนี้ค่ะ”
ลลิตาพากร้าวไป อนุชมองตามสงสัย ไม่ไว้ใจ
อสิตเทเหล้าดื่มจนหมด ไม่ทันมองว่ากร้าวเข้ามา
“ไปเอามาอีก เร็ว”
กร้าวดึงขวดเหล้าไปจากมืออสิต
“อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้สิ คิดถึงคนที่รักคุณบ้าง ทั้งคุณลิต้า คุณอร คุณนุช พวกเขาจะอยู่ยังไง ถ้าคุณเป็นอะไรไป”
อสิตปิดหน้า ร้องไห้
“คนที่ประสบความสำเร็จอย่างคุณ ไม่เข้าใจผมหรอก”
“ผมก็เคยเจอเรื่องหนักหนาสาหัส เคยคิดอยากตายเพื่อหนีปัญหาเหมือนกัน แต่ผมตายไม่ได้ ผมต้องมีชีวิตอยู่ ต้องสู้เพื่อคนที่ผมรัก คุณก็เหมือนกัน ต่อให้ล้มก็ต้องลุกขึ้นมาสู้ต่อ เพื่อคนที่คุณรัก”
อสิตมองกร้าวพูดไม่ออก
“ผม…”
กร้าวตบไหล่
“ผมพูดได้แค่นี้ ที่เหลือเป็นหน้าที่ของคุณ”
กร้าวออกจากห้องไป อสิตมองตามแล้วหันมามองแก้วเหล้าในมืออย่างรู้สึกผิด
อนุชกระวนกระวาย แอบฟังอยู่หน้าห้อง สงสัยว่ากร้าวจะพูดอะไรกับพี่ชาย กร้าวเปิดประตูออกมาเจอพอดี อนุชตกใจ
“คุณทำอะไร”
“ฉันต่างหากที่ต้องถาม คุณทำอะไรพี่สิต”
ลลิตารีบตามมา
“สิตเป็นไงบ้างคะคุณกร้าว”
“ผมก็ไม่รู้ว่าเขาจะคิดได้รึเปล่า ผมทำได้แค่เตือนสติ ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของเขา เขาต้องลุกขึ้นเอง”
ลลิตาซึ้งใจ
“ขอบคุณนะคะคุณกร้าว คุณช่วยพวกเราอีกแล้ว”
กร้าวยิ้มบางๆ
“มันเป็นหน้าที่ของเพื่อนที่ดีไม่ใช่รึครับ ผมไปทำงานก่อนนะครับ”
กร้าวยิ้มให้ลลิตาและอนุช ก่อนจะเดินออกไป ลลิตามองตามตาเป็นประกาย อนุชมองอย่างระแวง
อนุชออกมาจากบ้าน เห็นกร้าวจอดรถรออยู่
“คุณยังไม่ไปอีกเหรอ”
“ผมรอคุณ”
“ฉันไปเองได้”
อนุชจะเดินหนี กร้าวขวางไว้
“ไหนๆก็ไปที่เดียวกันอยู่แล้ว ไปด้วยกัน ประหยัดพลังงานลดโลกร้อน คุณนี่ไม่รักโลกเลยนะ”
อนุชเถียงไม่ออก กร้าวเปิดประตูรถให้ยิ้มกวนๆ...ลลิตาเห็นอนุชขึ้นรถไปกับกร้าวก็มองอย่างไม่พอใจและสงสัย
ในห้องประชุม มีการประชุมมาได้พักหนึ่งแล้ว กร้าวสรุปการประชุม
“แก้ไขรายละเอียดโครงการตามที่คุยกันมาให้ผมดูอีกที วันนี้พอแค่นี้”
พนักงานรับคำ
“ครับ”
พนักงานชายหญิง 2-3 คนที่ร่วมประชุมออกจากห้องไป อนุชกำลังเก็บเอกสาร ลลิตาเคาะประตูห้องที่เปิดอยู่ กร้าวตกใจ
“คุณลิต้า”
อนุชแปลกใจ
“พี่ลิต้า”
อนุชเหลือบมองกร้าวนิดหนึ่ง คิดว่าเขานัดลลิตาไว้
“ฉันก็แค่อยากมาดูว่าเธอทำงานเป็นยังไงบ้าง”
อนุชสงสัย
“พี่ลิต้ารู้ได้ยังไงว่านุชทำงานที่นี่”
ลลิตาอึกอัก
“เอ่อ...คุณกร้าวบอก ใช่มั้ยคะคุณกร้าว”
กร้าวพูดไม่ออก ไม่ตอบอะไร ลลิตาหันมาสั่ง
“ขอกาแฟสักถ้วยสิจ๊ะนุช”
อนุชออกจากห้องไป ไปที่ห้องกาแฟอย่างนึกกังวล เพราะเธอสงสัยในความสัมพันธ์ของกร้าวกับลลิตามาก
ลลิตามองกร้าวอย่างจับผิด
“ทำไมคุณถึงให้ยายนุชมาทำงานที่นี่คะ”
“คุณสิตขอให้ผมช่วยหางานให้คุณนุชครับ”
ลลิตารู้สึกหึงขึ้นมา แต่ไม่กล้าพูดอะไรมากกว่านี้ เพราะกร้าวมีเหตุผล
“ลิต้าไปดูนุชหน่อยนะคะ รายนั้นทำอะไรไม่เป็นไม่รู้ชงกาแฟเป็นไงบ้าง”
ลลิตาออกจากห้องไป กร้าวเครียดที่ผิดแผน
อนุชชงกาแฟเสร็จ กำลังจะยกไป ลลิตาเข้ามา ทำเป็นพูดยิ้มๆ
“ตั้งใจทำงานนะ แล้วอย่าทำตัวสนิทสนมกับคุณกร้าวมากนัก เดี๋ยวคนเขาจะว่าเอาได้...ว่าใช้งานบังหน้า แต่ใจจริงหวังจับผู้ชาย”
อนุชไม่พอใจ นึกรู้ว่าลลิตาหลอกด่าเพราะหึงหวงกร้าว
“นุชยังโสด ไม่มีใครว่าหรอกค่ะ แต่ถ้ามีสามีแล้ว ยังมายุ่งกับผู้ชายอื่น คนเขาจะดูถูกว่าไร้ยางอาย”
ลลิตาโกรธแต่ฝืนยิ้มให้
“ขอบใจสำหรับกาแฟ”
ลลิตารับถ้วยกาแฟจากถาดในมืออนุช แล้วแกล้งทำหกลวกมือจนถาดหลุดมือหล่นพื้น
“โอ๊ย”
ลลิตาเสแสร้ง
“อุ๊ย ตายจริง พี่ไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นอุบัติเหตุ”
ลลิตายิ้มร้าย ออกจากห้องไป อนุชไม่พอใจ แต่ไม่อยากก่อเรื่องในบริษัท
อนุชเปิดประตูเข้ามา เจอลลิตากำลังอ้อนกร้าว
“เอ่อ เที่ยงแล้ว ไปทานข้าวด้วยกันสิคุณนุช” กร้าวหันมาชวน
“ค่ะ”
อนุชแกล้งกดโทรศัพท์
“พี่สิตเหรอคะ ทานข้าวกลางวันด้วยกันมั้ยคะ พอดีคุณกร้าวมีแขกพิเศษ อยากแนะนำให้พี่สิตรู้จัก”
ลลิตาร้อนใจกลัวอสิตรู้เรื่องตนกับกร้าว
“ลิต้าไม่ว่าง กลับก่อนนะคะ”
ลลิตาสะบัดหนีไป อนุชเก็บโทรศัพท์ ไม่ได้โทรจริง กร้าวขำ
“คุณนี่ร้ายไม่เบา”
อนุชโกรธ
“อย่างฉันเรียกว่าร้าย แล้วคนที่ยุ่งกับภรรยาคนอื่น เรียกว่าอะไรคะ”
อนุชจ้องหน้าเขาไม่พอใจ กร้าวเครียดที่เธอรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับลลิตา
อนุชเพิ่งกลับจากทำงานเข้าบ้านมา เจอลลิตาก็มองเขม่นกัน อรชาที่กลับมานานแล้วเดินมาคุยด้วย
“กลับมาแล้วเหรอนุช”
อสิตเดินมา ปวดหัว มึน จะล้ม อนุชและอรชารีบประคอง
“พี่สิต!”
“พี่ไม่เป็นไร”
อสิตยื่นแก้วเหล้าให้ ลลิตาเซ็ง อนุชไม่สบายใจ
“พอเถอะค่ะ พี่สิตดื่มมากเกินไปแล้วนะคะ”
อสิตยิ้ม
“พี่ขอน้ำเปล่าสักแก้ว”
ลลิตา อรชาและอนุชต่างแปลกใจ
อสิตดื่มน้ำเปล่า อรชาและอนุชดีใจ
“พี่ขอโทษที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง พี่ควรจะดูแลน้องๆ แต่กลับทำตัวเป็นภาระทุกคนแบบนี้ แย่ที่สุดเลย”
อนุชกุมมือพี่ชาย
“อย่าคิดมากนะคะ พี่สิตเป็นพี่ชายที่ดีที่สุดค่ะ”
อสิตซึ้งใจ กอดลลิตา อรชาและอนุช
“ต่อไปนี้พี่จะเข้มแข็ง พี่จะไม่ทำให้ทุกคนต้องลำบากเพราะพี่อีก”
อรชามองพี่ชายแล้วถามอย่างสงสัย
“อะไรทำให้พี่สิตคิดได้คะ”
“คุณกร้าวช่วยพูดเตือนสติให้พี่คิดได้ พี่จะอ่อนแอไม่ได้ พี่ต้องสู้เพื่อทุกคนที่พี่รัก”
อสิตยิ้ม อนุชไม่ค่อยเชื่อ เช่นเดียวกับอรชาที่ไม่สบายใจขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงกร้าว
ค่ำนั้น อรชาเข้ามาในห้องนอน นึกถึงคำพูดของกร้าว
“คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อ แต่ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าผมรักและจริงใจกับคุณ ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้คนที่ผมรักมีความสุข”
อรชาไขว้เขวยกนิ้วแตะริมฝีปากตัวเอง เริ่มหวั่นไหวคิดว่ากร้าวจูบเพราะความรัก
ติดตาม “ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง” ตอนที่ 2