‘ซี” ถึงฝัน! เล่นบู๊ระเบิดภูเขาเผากระท่อม
การันตี “ดุจตะวันดั่งภูผา” ถูกใจแฟน 7 สี
หลังจากที่นั่งแท่นเป็นผู้กำกับละครเย็น ด้วยเรตติ้งทะลุจอมาแล้ว 3 เรื่อง อาทิ ฝนเหนือ, ผ่าโลกบันเทิง และ อุบัติรักเกาะสวรรค์ ผู้กำกับตัวเล็กฝีมือโต “เฉิด ภักดีวิจิตร” ลูกไม้หล่นใต้ต้นของผู้กำกับระดับปรมาจารย์ “ฉลอง ภักดีวิจิตร” ก็ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ของช่อง 7 สี ให้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้กำกับละครหลังข่าวเรื่องแรก ประเดิมด้วยผลงานเรื่อง “ดุจตะวัน ดั่งภูผา” ในนามของ บริษัท อาหลอง จูเนียร์ จำกัด สำหรับละครเรื่องนี้สร้างจากบทประพันธ์และบทโทรทัศน์ของ “ภูมิแผ่นดิน” เป็นละครที่มีครบทุกรสชาติของละครไทย ทั้งรัก บู๊ ดราม่า และ โรแมนติก โดยเฉพาะเรื่องภาพนั้นหายห่วง เพราะถ่ายทำในระบบ HD ซึ่งจะมีความคมชัดและสวยงามมากขึ้น เพราะการถ่ายทำคล้ายกับการถ่ายทำภาพยนตร์ ซึ่งแฟนๆละครจะได้เห็นภาพที่ดูแปลกใหม่ ไม่เหมือนกับละครทั่วไปแน่นอน
“ดุจตะวัน ดั่งภูผา” เป็นเรื่องราวของไท ชายหนุ่มที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนด้วยตัวเองมาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อถูกยิงตายโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังจากนั้นแม่ก็ตรอมใจตายไปอีกคน จากปมปริศนาการตายของพ่อ เป็นปมที่อยู่ในใจของไทมาโดยตลอด เขาต้องสืบรู้ให้ได้ว่า ใครเป็นคนฆ่าพ่อของเขา ในที่สุดเขาก็มีโอกาสไปทำงาน กับเจ้าพ่อ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของพ่อ และยังใกล้ชิดสนิทสนมกับลูกสาวเจ้าพ่ออีกด้วย ในขณะที่หัวใจของเขาก็ยังมีความผูกพัน กับเด็กสาวกำพร้าสู้ชีวิตเช่นเดียวกับเขาด้วย สุดท้ายไทต้องลำบากใจที่จะตัดสินเลือกใคร ระหว่างผู้หญิงทั้งสองคน
สำหรับโลเกชั่นของละครเรื่องนี้จะอยู่ที่จังหวัดชลบุรีเป็นส่วนใหญ่ ทั้งศรีราชา พัทยา สัตหีบ เพราะเรื่องราวต่างๆจะเกิดขึ้นที่นี่แทบทั้งสิ้น ในกรุงเทพฯและปริมณฑลก็มีถ่ายทำบ้างนิดๆหน่อยๆ เพราะฉนั้นแฟนๆละครจะได้เห็นน่ารักของสัตว์นานาชนิด และความสวยงามของท้องทะเลไทย ด้านอ่าวไทยมากพอสมควร นอกจากจะได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนแล้ว ยังได้รับความร่วมมือจากภาครัฐบาลอีกด้วย โดยเฉพาะกองทัพเรือที่อนุญาตให้ใช้เรือรบ และสถานที่ของกองทัพเรือ ในการถ่ายทำ รวมไปถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ เพราะเป็นเรื่องราวของเจ้าพ่อระดับมหาเศรษฐี ของที่ใช้ประกอบฉากจึงต้องดูหรูหรา เพื่อให้เหมาะสมกับความเป็นจริง ทั้งเรื่องบ้าน รถ และของใช้ต่างๆ ส่วนเรื่องแอ็คชั่นนั้นหายห่วง เรียกว่าบู๊กันกระจายถูกใจผู้ชายแน่นอน ส่วนผู้หญิงก็คงถูกใจฉากดราม่า และฉากโรแมนติกหวานๆของพระ-นางเช่นกัน ฉากขำๆก็มีให้คลายเครียดเป็นช่วงๆ แบบเหตุการณ์พาไป ไม่ได้ยัดเยียดให้คนดูต้องหัวเราะแต่อย่างใด
ถึงแม้จะผ่านงานแสดงมาหลาย 10 เรื่อง แต่คงไม่มีละครเรื่องไหนที่ “ซี-ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์” จะได้โขว์ฝีมือหลากหลายอาชีพเหมือนกับเรื่องนี้แน่นอน โดยเฉพาะการเป็นครูฝึกสอนแมวน้ำในการโชว์การแสดง เพราะก่อนที่พระเอกจะผันตัวเองมาเป็นบอดี้การ์ด เขาได้เป็นผู้จัดการดูแลสวนสัตว์แห่งหนึ่ง งานนี้หนุ่มซี-ศิวัฒน์ ได้พูดถึงบทบาทของตัวเองให้ฟังว่า
“เรื่องนี้ผมชอบทุกฉากเลยนะ เพราะทุกฉากจะไม่ซ้ำกันเลย ที่ผมชอบเพราะเขาจะมีการเล่า background ของไทที่ผมเล่น ว่าไททำอะไรมาบ้าง ทั้งเป็นนักดำน้ำ เป็นไกด์พาทัวร์ เป็นนักแข่งรถ เป็นทหารรับจ้าง เป็นครูสอนแมวน้ำ และอะไรอีกมากมาย ซึ่งคนดูจะได้เห็นเลยว่าผู้ชายคนนี้ เขาเป็นคนที่สู้ชีวิตมาอย่างจริงๆ คือที่ไหนมีตั้งค์ก็ไปที่นั่น มีความเป็นลูกผู้ชาย เป็นนักเลงอย่างจริงๆ คือเราดูแลตัวเอง เราไม่เบียดเบียนใคร ตอนที่ผมจะมารับเล่นละครเรื่องนี้ ผมรู้อยู่แล้วว่ามันต้องใช้เวลาถ่ายทำนานแน่ๆ เพราะผมก็อยากจะใช้ชีวิตครั้งหนึ่ง ในการมาเล่นละครระเบิดภูเขาเผากระท่อมกับเขาบ้าง มันเหมือนผมได้ผ่านงานไปอีกสเต็ปหนึ่งแล้ว ถึงแม้จะถ่ายนานแต่เขาก็มีเรตติ้งดีมากทุกเรื่อง ถึงแม้นักแสดงจะบ่นกันอย่างไรว่าถ่ายนาน แต่พอละครออนแอร์แล้วก็ไม่เคยทำให้ใครผิดหวังเลย และเรื่องนี้ผมขอบอกว่าภาพสวยจริงๆ เพราะเขาจะถ่ายทำไม่เหมือนกับละครเรื่องอื่น ผมอยากให้ทุกคนติดตามชมกันครับ” หนุ่มซีพูดทิ้งท้ายเอาไว้
ทางด้าน “แนท-ณัฐชา นวลแจ่ม” อดีตนางเอกหนังฮิต “ซักซี๊ด ห่วยขั้นเทพ” ที่มีโอกาสเป็นนางเอกละครเรื่องแรก ได้พูดถึงผลงานเรื่องนี้ด้วยความตื่นเต้นว่า
“แนทเล่นละครเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก แต่เรื่องอื่นอาจจะออนแอร์ก่อน (ลูกผู้ชายไม้ตะพด) แนทยอมรับว่าแนทดีใจมาก ที่ได้เล่นละครเรื่องนี้และได้เป็นนางเอกด้วย ถามว่ากดดันมั้ยก็กดดันนะ เพราะแนทไม่เคยเล่นละครมาก่อน และซีนที่ทำให้แนทรู้สึกกดดันมากๆและจำได้ไม่ลืมเลย เป็นซีนที่แนทกับพี่ซันทะเลาะกัน ตอนที่พระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน และเป็นซีนแรกๆที่แนทเพิ่งจะมาถ่ายด้วย ซีนนั้นแนทถ่ายเป็น 10 เทคเลย เพราะเล่นยังไงมันก็ยังไม่ดี ถ่ายจนพระอาทิตย์ตกดินไปเลย วันนั้นทำเอาแนทร้องไห้เพราะทำให้ทุกคนเสียเวลา และทางผู้กำกับก็ต้องยกกองมาถ่ายใหม่อีก เพราะเขาอยากได้ภาพตอนที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน พอมาถ่ายใหม่แค่เทคเดียวก็ผ่านแล้ว เพราะแนทไปเตรียมตัวมาอย่างดีเลย และเรื่องนี้แนทก็ได้ทำอะไรหลายๆอย่างทั้งเล่นดนตรี เป็นคนเลี้ยงสัตว์ ให้อาหารสัตว์ อาบน้ำให้สัตว์ด้วย พอไปถ่ายที่สวนสัตว์บ่อยๆแนทก็รู้สึกชอบ และมีความสุขทุกครั้งที่ไปถ่ายทำที่สวนสัตว์ เพราะทำให้เราได้เห็นสัตว์ป่าที่หายาก ได้เล่นกับสัตว์ ถ้าเราไม่มาถ่ายทำละครเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าเราจะมีเวลาได้มาหรือเปล่า พอมีเวลาว่างจากการถ่ายทำแนทก็จะเดินดูสัตว์ต่างๆ เพราะสัตว์บางตัวแนทไม่คิดว่าบ้านเราจะมีให้ดูด้วย ใครที่ได้ดูละครเรื่องนี้จะต้องชอบแน่ๆ เพราะมีอะไรให้ดูและน่าติดตามเยอะมาก โดยเฉพาะภาพแนทขอบอกว่าสวยจริงๆ ยังไงอย่าลืมเป็นกำลังใจให้แนทด้วยนะคะ” นางเอกละครคนใหม่วัยใสพูดไปหัวเราะไปด้วย
ติดตามชมละครเรื่อง “ดุจตะวัน ดั่งภูผา” ได้ทุกคืนวันจันทร์-อังคาร หลังข่าวภาคค่ำ ทางช่อง 7 สี เริ่มวันจันทร์ที่ 26 พ.ย.นี้ เป็นต้นไป