xs
xsm
sm
md
lg

ทรูบิสิเนส จับมือ SymptomTrace พลิกโฉมการดูแลผู้ป่วยเรื้อรังแบบเชิงรุก ติดตามสุขภาพได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทรูบิสิเนส เดินหน้าทรานสฟอร์มอุตสาหกรรมสาธารณสุขไทยสู่ดิจิทัล ผนึกกำลังร่วมกับ SymptomTrace สตาร์ทอัพด้านเฮลท์เทคสัญชาติไต้หวันที่มุ่งใช้ AI ขับเคลื่อนการบริหารจัดการโรคเรื้อรัง พัฒนานวัตกรรมโซลูชัน 5G Patient Digital Twin ผสานอัจฉริยภาพเครือข่ายทรู 5G และ AI เปลี่ยนวิถีการดูแลผู้ป่วยเรื้อรัง ชูเทคโนโลยีอุปกรณ์เซ็นเซอร์ตรวจวัดค่าสุขภาพได้แบบไร้การสัมผัสขั้นสูงดูแลและเฝ้าระวังผู้ป่วยได้อย่างใกล้ชิด รวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ต้องรบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วย

ครอบคลุมทั้งการวัดสัญญาณชีพและการเคลื่อนไหวของร่างกาย ส่งข้อมูลสุขภาพแบบเรียลไทม์ผ่านเครือข่ายทรู 5G เพื่อวิเคราะห์และประมวลผลด้วย Edge AI Analytics พร้อมเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการดูแลผู้ป่วยโดยรวมผ่านแพลตฟอร์มศูนย์กลาง สามารถแจ้งเตือนบุคลากรทางการแพทย์ทันทีเมื่อพบความผิดปกติหรือเหตุฉุกเฉิน ทั้งยังเอื้อประโยชน์ในการใช้ข้อมูลสุขภาพ ภายใต้ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลขั้นสูง เพื่อวางแผนฟื้นฟูดูแลรักษาผู้ป่วยเฉพาะรายอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการแพทย์เฉพาะบุคคลให้เกิดขึ้นได้จริงในประเทศไทย เผยเตรียมส่งโซลูชัน 5G Patient Digital Twin เข้าสู่ตลาดผู้ให้บริการด้านสาธารณสุข ทั้งโรงพยาบาลศูนย์ดูแลผู้ป่วย และสถาบันดูแลสุขภาพ ในปี 2569


นวัตกรรม 5G Patient Digital Twin ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี 5G และระบบตรวจวัดแบบไร้การสัมผัสผ่านอุปกรณ์เซ็นเซอร์ ผสานการทำงานร่วมกับ AI เปลี่ยนรูปแบบการดูแลและเฝ้าระวังผู้ป่วยจากเชิงรับไปสู่เชิงรุก ด้วยระบบติดตามสุขภาพที่มีความปลอดภัยสูง ต่อเนื่อง และมีความเป็นส่วนตัว สร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความปลอดภัยของผู้ป่วย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรการแพทย์ และความคุ้มค่าด้านต้นทุนสำหรับโรงพยาบาล ศูนย์ดูแลผู้ป่วย และสถาบันดูแลสุขภาพ


ดร.ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกลุ่มธุรกิจองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำบริการสื่อสารและดิจิทัลโซลูชันครบวงจรสำหรับลูกค้าธุรกิจ ทรูบิสิเนสบูรณาการเครือข่ายทรู 5G คลาวด์ เทคโนโลยี AI และอุปกรณ์เซ็นเซอร์อัจฉริยะที่สามารถตรวจจับแบบไร้สัมผัสพัฒนานวัตกรรม 5G Patient Digital Twin ที่จะช่วยให้โรงพยาบาลและศูนย์ดูแลผู้ป่วยสามารถเฝ้าระวังและส่งมอบบริการดูแลรักษาและฟื้นฟูสุขภาพของผู้ป่วยแบบเฉพาะบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

หลายงานวิจัย* เกี่ยวกับ 5G Patient Digital Twin ได้ระบุผลการศึกษาเชิงประจักษ์ว่า การตรวจวัดสัญญาณชีพระยะไกลช่วยให้ตรวจพบภาวะทรุดลงได้เร็วยิ่งขึ้นและในหลายกรณีสัมพันธ์กับการลดการกลับมารักษาซ้ำภายใน 30-60 วัน ทั้งยังสามารถตรวจพบความเสี่ยงได้เร็วขึ้น ช่วยพัฒนาผลลัพธ์ด้านการรักษาลดอัตราการเข้ารักษาในโรงพยาบาล 9.6% และลดอัตราการเสียชีวิต 3% นอกจากนี้ ระบบเฝ้าระวังสัญญาณชีพระยะไกลแบบอัตโนมัติ ช่วยลดเวลาในการดูแลตามขั้นตอนประจำและการประสานงานได้ประมาณ 45.9% ทำให้พยาบาลมีเวลามากขึ้นในการดูแลผู้ป่วยโดยตรง”

“ความร่วมมือกับ SymptomTrace ครั้งนี้ ตอกย้ำวิสัยทัศน์การเป็นพันธมิตรในเส้นทาง Digital & AI Transformation ขององค์กรไทย ยกระดับบริการสาธารณสุขยุคใหม่ทั้งด้านประสิทธิภาพและความคุ้มค่า เพื่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนของคนไทย” ดร.ธีรเดช กล่าวเสริม


นายจอร์จ ไท ประธานกรรมการบริหาร บริษัท SymptomTrace เปิดเผยว่า “ด้วยโครงสร้างพื้นฐานขั้นสูงของทรูบิสิเนส เสริมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สุดล้ำของอินเทล (Intel) เราสามารถขยายการให้บริการเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ Digital Twin ให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทย เพื่อช่วยให้โรงพยาบาลต่างๆ ติดตามอาการของผู้ป่วยเรื้อรังได้อย่างปลอดภัยและชาญฉลาด”


เทคโนโลยีเบื้องหลัง 5G Patient Digital Twin 5G Patient Digital Twin ทำงาน 2 ฟังก์ชันหลัก คือ การวัดสัญญาณชีพ และ การตรวจจับความเคลื่อนไหว ตลอดจนแนวโน้มการพลัดตกเตียงและการล้ม โดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจวัดแบบไร้การสัมผัสขั้นสูง และเรดาร์ (Radio Detection And Ranging) เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวและสร้างข้อมูลแผนที่ 3 มิติของอัตราการเต้นของหัวใจ การหายใจ และลักษณะการเคลื่อนไหวของร่างกาย ขณะที่ยังคงความเป็นส่วนตัว ด้วยการตรวจจับเพียงโครงร่างและรูปแบบการเคลื่อนไหวเท่านั้น สามารถดูแลและเฝ้าระวังได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องรบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วย


ข้อมูลสัญญาณชีพและการเคลื่อนไหวต่างๆ ของผู้ป่วยจากเซ็นเซอร์ จะถูกประมวลผลบนอุปกรณ์ปลายทางด้วยความสามารถของ Edge AI และส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายทรู 5G แบบเรียลไทม์ รวดเร็ว เต็มประสิทธิภาพ และปลอดภัย เพื่อจัดเก็บบนแพลตฟอร์มส่วนกลางที่มาพร้อมโซลูชันช่วยบริหารข้อมูลแบบศูนย์กลาง เพิ่มศักยภาพการวิเคราะห์และประมวลผลอย่างต่อเนื่องผ่านชุดซอฟต์แวร์สำหรับการสร้างแบบจำลอง AI ที่ปรับให้เหมาะสมกับเทคโนโลยีของอินเทล (Intel) และศูนย์ข้อมูล AI คลาวด์ของทรู เพื่อให้แน่ใจว่า ความสามารถในการตรวจจับความผิดปกติจะมีการพัฒนาต่อยอดเพิ่มขึ้น และมีความแม่นยำมากขึ้นในการแจ้งเตือนไปยังบุคลากรทางการแพทย์ทันทีที่พบความผิดปกติหรือมีเหตุฉุกเฉิน ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระ ยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพการดูแลโดยรวม โดยเฉพาะสำหรับการดูแลผู้ป่วยจำนวนมาก

นอกจากนี้ โรงพยาบาลหรือศูนย์ดูแลผู้ป่วยยังสามารถใช้เทคโนโลยี AI ช่วยวินิจฉัยข้อมูล เพื่อวางแผนฟื้นฟูดูแลรักษาผู้ป่วยเฉพาะรายได้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลขั้นสูง ซึ่งเป็นการสนับสนุนการแพทย์เฉพาะบุคคลให้เกิดขึ้นจริง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการแพทย์และสาธารณสุข ตลอดจนส่งเสริมยุทธศาสตร์สุขภาพดิจิทัลของประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น