'กสทช.' มีมติ 4:3 คว่ำต่ออายุโครงการเน็ตชายขอบ-พื้นที่ห่างไกล มูลค่า 2.4 พันล้าน หลังพบขอใช้งบยูโซ่ผิดประเภท และไม่มีการประเมินว่าพื้นที่ใดยังต้องการอินเทอร์เน็ตจริง ก่อนขยายสัญญาอีก 9 เดือน
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีวาระสำคัญที่ค้างคามาหลายเดือนนั่นคือ เรื่อง งานบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ส่วนขยายบริการต่อเนื่อง การให้บริการโครงการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและปรับปรุงอุปกรณ์การให้บริการ ภายใต้โครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ (โซน C+) และ โครงการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (โซน C ) ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาภายในสิ้นปีนี้ โดยจะขอขยายระยะเวลาออกไปอีก 9 เดือน งบประมาณ 2,400 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ประชุมไม่สามารถหาข้อยุติได้ จึงนำมาซึ่งการโหวตด้วยมติ ไม่เห็นชอบ 4:3 โดยกรรมการที่ไม่เห็นชอบ 4 คน ประกอบด้วย พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ, ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต, รศ.ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย และ รศ.ดร.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ ส่วนกรรมการที่เห็นชอบ 3 คน ประกอบด้วย ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช., นายต่อพงศ์ เสลานนท์ และ พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร
สำหรับเหตุผลที่กรรมการมีมติโหวตคว่ำโครงการดังกล่าว เนื่องจาก งบประมาณ 2,400 ล้านบาทนั้น สำนักงาน กสทช. ขอใช้งบจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) หรือ กองทุนยูโซ่ บัญชีที่ 1 ซึ่งเป็นงบประมาณที่สำรองไว้สำหรับใช้โครงการอื่นๆนอกเหนือจากโครงการเดิมที่กำหนด ไม่สอดคล้องกับการใช้งบประมาณของกองทุนตามแผนยูโซ่ ที่สำคัญ สำนักงาน กสทช. ไม่ได้มีการประเมินผลการดำเนินงานว่า มีพื้นที่ไหนที่ต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบ้าง แต่เป็นการเหมารวมต่ออายุให้ทุกหมู่บ้าน จึงไม่สอดคล้องกับสภาพปัจจุบันซึ่งในบางพื้นที่อาจไม่มีการใช้งานแล้ว


