เดลล์ เทคโนโลยีส์ (Dell) ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน AI ประกาศความร่วมมือเชิงลึกกับเอ็นวิเดีย (NVIDIA) พัฒนา Dell AI Factory with NVIDIA ที่อัปเกรดครั้งใหญ่ วางเป้าแก้ปัญหาหลักขององค์กรที่ต้องการเดินหน้าจากการทดลองใช้ AI สู่การใช้งานจริงในวงกว้าง โดยไม่ต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ทั้งระบบ
ข้อมูลจากการวิจัยระบุว่า 95% ขององค์กรเชื่อว่าการร่วมงานกับพันธมิตรเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้อย่างเดลล์จะช่วยลดความเสี่ยงจากการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้งาน ขณะที่ 90% มองว่าการประยุกต์ AI กับข้อมูลองค์กรสร้างมูลค่าเพิ่มได้สูง ทั้งจากการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ การได้ข้อมูลเชิงลึก และความปลอดภัยในการเข้าถึงระบบ
***เร่งความเร็วระบบ AI
เจฟฟ์ คลาร์ก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เดลล์ เทคโนโลยีส์ ระบุว่า Dell AI Factory with NVIDIA ช่วยแก้ปัญหาที่ทุกองค์กรกำลังเผชิญ นั่นคือการเปลี่ยนจากการทดลองใช้ AI ไปสู่การใช้งานจริงโดยไม่ต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ทั้งหมด
"เราดำเนินการผสานรวมระบบให้เรียบร้อยแล้ว ลูกค้าจึงไม่ต้องทำเอง"
การเปิดตัวครั้งนี้สะท้อนการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโครงสร้างพื้นฐาน AI ระดับองค์กร โดยเดลล์วางตำแหน่งเป็นผู้ให้บริการแบบครบวงจรที่ผสานฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการที่ปรึกษา ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งที่มักมุ่งเน้นเฉพาะด้าน
จุดแข็งสำคัญคืออัตราเร็ว Time to First Token ที่เหนือกว่ามาตรฐานถึง 19 เท่า และความหนาแน่น GPU สูงสุดในอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มประสิทธิภาพให้องค์กรที่ต้องการใช้ AI ในระดับผลิตภาพจริง
ในเชิงเทคนิก หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือการผสานระบบจัดเก็บข้อมูล Dell ObjectScale และ PowerScale เข้ากับไลบรารี NVIDIA NIXL ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ NVIDIA Dynamo ทำให้สามารถจัดเก็บ KV Cache พร้อมรองรับการแชร์และนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ส่งผลให้โมเดลเริ่มตอบสนองได้ภายใน 1 วินาที (Time to First Token) พร้อม context window ที่ 131,000 โทเคน ซึ่งเร็วกว่ามาตรฐาน vLLM ถึง 19 เท่า
การพัฒนานี้ช่วยลดต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานและก้าวข้ามข้อจำกัดด้านความจุของ GPU ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญของการใช้งาน AI ในองค์กรขนาดใหญ่
***เสริมแกร่งด้วยเซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูง-ระบบอัตโนมัติ
เดลล์ชี้ว่า Dell AI Factory ขยายครอบคลุมเซิร์ฟเวอร์ Dell PowerEdge XE7740/XE7745 ที่มาพร้อม NVIDIA RTX PRO 6000 Blackwell Server Edition GPUs และ NVIDIA Hopper GPUs รองรับตั้งแต่โมเดลหลายโหมดขนาดใหญ่ Agentic AI การอนุมานผลลัพธ์ระดับเอ็นเตอร์ไพรส์ ไปจนถึงการฝึกโมเดล
"Dell Automation Platform ได้รับการขยายสู่ Dell AI Factory ช่วยมอบประสบการณ์อัตโนมัติที่ปรับใช้โซลูชันที่ผ่านการตรวจสอบและปรับให้เหมาะสมบนกรอบการทำงานที่ปลอดภัย ลดความคลาดเคลื่อนจากการคาดเดา พร้อมเครื่องมือขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์อย่าง AI Code Assistant จาก Tabnine และแพลตฟอร์ม Agentic AI จาก Cohere North" เดลล์ระบุ
สำหรับเซิร์ฟเวอร์ Dell PowerEdge XE8712 ที่จะวางจำหน่ายในเดือนธันวาคมนี้ สร้างมาตรฐานใหม่ด้วยความหนาแน่นของ GPU สูงสุดในอุตสาหกรรม รองรับ NVIDIA Blackwell GPUs สูงสุด 144 ตัวต่อ Dell IR7000 Rack พร้อมความสามารถด้านการทำงานร่วมกันและมอนิเตอร์ผ่าน iDRAC, OpenManage Enterprise และ Integrated Rack Controller สำหรับการควบคุมความร้อนขั้นสูง
ด้านเครือข่าย Enterprise SONiC Distribution by Dell Technologies รองรับแพลตฟอร์ม NVIDIA Spectrum-X นอกเหนือจาก Cumulus OS ผสานความยืดหยุ่นของโอเพนซอร์สเข้ากับคุณสมบัติระดับองค์กร ช่วยให้ลูกค้าสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI แบบเปิดตามมาตรฐานได้อย่างมั่นใจ
สำหรับความพร้อมวางจำหน่าย เดลล์ระบุว่า Dell AI workload blueprints พร้อมใช้งานแบบ tech preview ขณะที่ Dell Services AI use case pilots พร้อมให้บริการทั่วโลก เช่นเดียวกับ Dell AI Factory with NVIDIA บน PowerEdge XE7740/XE7745, Dell ObjectScale และ PowerScale พร้อม NVIDIA Dynamo และเซิร์ฟเวอร์ Dell PowerEdge XE8712 ที่พร้อมจำหน่ายทั่วโลกเดือนธันวาคม
ขณะที่ Enterprise SONiC Distribution รองรับ NVIDIA Spectrum-X และ Dell SmartFabric Manager รองรับ NVIDIA Spectrum-X พร้อมให้บริการครึ่งปีแรก 2026
ที่สุดแล้ว เซิร์ฟเวอร์ใหม่ของ Dell ยังรองรับ Red Hat OpenShift และ Enterprise SONiC ซึ่งแสดงถึงกลยุทธ์ Open Standard ที่ลดการล็อคผู้ใช้ในระบบเดียว ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะองค์กรที่ใช้ระบบหลากหลาย ทั้งหมดนี้จะตอบรับแนวโน้มที่คาดว่าตลาด AI ระดับองค์กรจะเติบโตเร็วขึ้นจากโซลูชันแบบครบวงจรนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจการเงิน สุขภาพ และการผลิต ที่ต้องการความเร็ว ความปลอดภัย และการควบคุมข้อมูลสูง.


