xs
xsm
sm
md
lg

‘3Ps’ ปัจจัย พาไทยสู่ผู้นำดิจิทัลอาเซียน /  ซิกเว่ เบรกเก้ กรุ๊ปซีอีโอ ทรู

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อความก้าวหน้าของ AI ที่มีศักยภาพสูงขึ้น และจะเข้ามาเป็นเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนนิยามการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกใหม่บน ‘เส้นทางดิจิทัล’ แล้วประเทศไทย ต้องเตรียมความพร้อมอย่างไร เมื่อโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่มีอยู่รองรับแล้ว ปัจจัยที่ต้องการความกล้าคือ 3Ps นโยบาย-คน-ความร่วมมือ (Policy People Partner)

ซิกเว่ เบรกเก้ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมและดิจิทัล เครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้แชร์มุมมองถึงการพัฒนาดิจิทัลของไทย จากการเปลี่ยนแปลงทางภูมิทัศน์ของเศรษฐกิจโลกทำให้ประเทศต่างๆ แข่งกับเวลาเพื่อหาความได้เปรียบบนเส้นทางของเศรษฐกิจดิจิทัล

ข้อมูลอ้างอิงจากรายงานการจัดอันดับความสามารถทางการแข่งขันทางดิจิทัลของนานาประเทศ ของ IMD พบว่า ไทยอยู่ในสถานะอันดับต้นๆ ของโลกในมิติความพร้อมต่ออนาคตด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล โดยมีสัดส่วนการลงทุนต่อจีดีพี รวมถึงความเร็วแบนด์วิดท์อินเทอร์เน็ตเป็นอันดับ 8 ของโลก

ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นความความมุ่งมั่นและความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลให้แข็งแกร่งทัดเทียมนานาประเทศ ใม่ว่าจะเป็นโครงข่าย เสาสัญญาณ ดาต้าเซ็นเตอร์ และระบบคลาวด์ ซึ่งถือเป็นกระดูกสันหลังทางดิจิทัล (Digital Backbone) เพื่ออำนวยให้เกิดการพัฒนาของระบบนิเวศ AI 
ทั้งนี้ ความสำเร็จของการควบรวมกิจการของทรู คอร์ปอเรชั่น เป็นอีกหนื่งแรงผลักดันที่สำคัญต่อการวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลไทย สะท้อนได้จากการรวมเสาสัญญาณให้ทันสมัยและเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในอาเซียน ให้บริการ 4G และ 5G ครอบคลุม 99% และ 94% ของพื้นที่ประเทศไทย ตามลำดับ 
ความก้าวหน้าทางดิจิทัลของไทยไม่ได้เกิดในมุมของโครงสร้างเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นในระดับสังคม จากข้อมูล Digital Wallet Intelligence Report 2025 พบว่า อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซของไทยเติบโตถึงปีละ 19% ซึ่งเป็นเกือบเท่าตัวของค่าเฉลี่ยในภูมิภาค ขณะที่การใช้ธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางดิจิทัลคิดเป็นครึ่งหนึ่งของธุรกรรมทั้งหมด 
เช่นเดียวกับ ความตื่นตัวของการใช้เทคโนโลยี AI ที่ได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง สะท้อนจากตัวเลขที่ระบุว่า 75% ของคนไทยได้ลองใช้เครื่องมือ AI อย่าง ChatGPT หรือเครื่องมือที่คล้ายกันแล้ว และการใช้นั้นไม่ได้กระจุกตัวอยู่ในเพียงเมืองใหญ่เท่านั้น แต่รวมถึงคนในชนบทหรือกลุ่มเกษตรกรอีกด้วย 
“ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นต่อการใช้ AI ในระดับบุคคลเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความเร็วของคนไทยในการปรับตัว”

***คนไทยเข้าถึง AI แต่อุตสาหกรรมปรับใช้น้อย


อย่างไรก็ตาม รูปแบบการใช้งานที่ว่ามีลักษณะที่อยู่ในฐานะผู้บริโภคเสียมาก ขณะที่อุตสาหกรรมหลักของไทยอย่างภาคการผลิต เกษตร และค้าปลีก ยังไม่เห็นการนำ AI ไปประยุกต์ใช้เชิงลึกที่ส่งผลต่อผลิตภาพการผลิตและประสิทธิภาพของซัพพลายเชน และกลายเป็นความท้าทาย


ด้วยปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น ส่งผลให้ประเทศไทยอยู่ในภาวะที่ต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับเส้นทางดิจิทัลข้างหน้านี้ ท่ามกลางการพัฒนาอย่างรวดเร็วของ AI คำถามจึงไม่ได้อยู่ที่ การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นเมื่อไร แต่อยู่ที่ เราจะเปลี่ยนให้เร็วแค่ไหนถึงจะช่วงชิงความเป็นผู้นำดิจิทัลของภูมิภาคมาได้

***3Ps - Policy People Partner (นโยบาย-คน-ความร่วมมือ)


สำหรับความท้าทายเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญที่จำเป็นต่อการต่อสู่บนสมรภูมิ AI อันประกอบด้วย 1.นโยบาย (policy) 2. บุคลากร (people) และ 3. ความร่วมมือ (partnership) ‘ซิกเว่’ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า


1. นโยบาย – ภาครัฐ = ผู้กำกับดูแล (Regulator) และผู้ส่งเสริมระบบนิเวศ (Ecosystem Enabler) รัฐบาลต้องออกแบบนโยบายที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรม ทั้งในด้านความเร็ว ความยืดหยุ่นของกฎเกณฑ์และเงินทุน

นอกจากนี้ รัฐควรกำหนดนโยบายฐานรากเพื่อเป็นหลักประกันต่อทุกคนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียม (Equitable Access) การสร้างความเชื่อมั่นผ่านระบบธรรมาภิบาลที่มีจริยธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ (Ethical Digital & AI) ตลอดจนสภาพแวดล้อมที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อผู้ประกอบการและนวัตกรรม (Entrepreneurial Opportunity)

2. บุคลากร – สร้างวัฒนธรรมที่เกื้อหนุน เพื่อดึงศักยภาพการทำงานร่วมระหว่างคนและ AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดจะไร้ซึ่งความหมายหากขาดบุคลากรที่รู้จักใช้มัน World Economic Forum ประมาณการณ์ว่า ในปี 2573 ตำแหน่งงาน 92 ล้านตำแหน่งทั่วโลกจะสูญหายไป แต่จะถูกทดแทนด้วยตำแหน่งงานใหม่ที่ต้องอาศัยทักษะใหม่อีกว่า 170 ล้านตำแหน่ง

เพื่อเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงาน ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญกับการอัพสกิลดิจิทัลอย่างเท่าเทียม (Inclusive Digital Upskilling) พัฒนาและสนับสนุนการวิจัย เพื่อสร้างผู้เชี่ยวชาญ AI รุ่นใหม่ผ่านการศึกษาเชิงลึก (AI Leadership & Expertise)

รวมถึงส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานร่วมระหว่างคนกับ AI (Human-AI Collaboration Culture) ทั้งนี้ เป้าหมายไม่ใช่เพื่อการแข่งขันกับ AI แต่คือการเรียนรู้ที่จะดึงศักยภาพของ AI มาใช้ทำงานร่วมกันให้ก่อประโยชน์สูงสุด โดยผสานความสามารถของ AI เข้ากับความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์

3. ความร่วมมือ - เปิดประเทศสู่ความร่วมมือระดับโลก งบลงทุนด้านการวิจัยของไทยคิดเป็น 1% ของจีดีพี ซึ่งมีสัดส่วนต่ำกว่าประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมกว่าเท่าตัว อย่างไรก็ตาม ช่องว่างนี้สามารถทำให้แคบหรือปิดลงได้ผ่านความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน ส่งเสริมความร่วมมือข้ามพรมแดนผ่านมาตรการกระตุ้นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และบุคลากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือระดับภูมิภาคระหว่างสถาบันการศึกษาและเอกชน

ทั้งนี้ การใช้ศักยภาพ AI ให้เป็นประโยชน์สูงสุด จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้งาน กระบวนการ และเทคโนโลยีอยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการคำนึงถึงบริบททางวัฒนธรรมและสังคมท้องถิ่น เพื่อทำให้มั่นใจว่าเทคโนโลยี AI ที่เกิดขึ้นนี้ โอบรับ เป็นธรรม และเข้าถึงทุกคนในสังคมไทย

“หน้าที่ของ AI คือการช่วยเหลือ โอบรับ และผสานความร่วมมือ ไม่ใช่มาแทนที่ศักยภาพของมนุษย์ หากอินเทอร์เน็ตได้ทำให้ทุกคนในสังคมเข้าถึงโอกาสในศตวรรษที่แล้ว AI ก็จะต้องทำหน้าที่เป็นถังความรู้ให้ทุกคนเข้าถึง เพื่อผลิตภาพในศตวรรษที่ 21 นี้”

***ช่วงสำคัญกำหนดทิศทางแห่งอนาคต

ประเทศไทยในวันนี้มาเกินกว่า “ความพร้อม” แต่เป็นเรื่องของ “สถานะ” ที่จะช่วงชิงความเป็นผู้นำ ท่ามกลางปัจจัยเกื้อหนุนต่างๆ ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ความตื่นตัวของผู้ใช้ และตำแหน่งที่ตั้งยุทธศาสตร์ อันเป็นหัวใจของภูมิภาค ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้คือ “ทำอย่างไร”

วันนี้ ประเทศไทยยืนอยู่ในจุดเดียวกันกับที่ลอนดอนเคยอยู่ในครั้งปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 แสงสว่างส่องให้เห็นทางเดินต่อไปข้างหน้าแล้ว สำหรับไทย สิ่งที่เหลือคือ “ความกล้า” ที่จะลุยต่ออย่างไม่หยุดยั้ง

“การแข่งขันบนสนามดิจิทัลได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว มันไม่ใช่เพียงแค่การไล่ตาม แต่คือการเดินนำ” ซิกเว่ เบรกเก้ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น