ทูซีทูพี ประเทศไทย (2C2P) ประกาศลงทุนอย่างน้อย 1,500 ล้านบาท ในช่วง 3 ปีข้างหน้า เพื่อเสริมศักยภาพของระบบเทคโนโลยี คาดปริมาณธุรกรรมรวมของ 2C2P เฉพาะประเทศไทยในปีนี้ จะสูง 450,000 ล้านบาท โชว์อัตราการเติบโตของปริมาณธุรกรรมสูง 35% ต่อปี ยกนิ้วกลุ่มธุรกิจ Online Travel Agents (OTA) มีอัตราการเติบโตของธุรกรรมสูงสุด 92%
2C2P กำลังก้าวสู่ยุคใหม่ ภายใต้การนำของ “วรฉัตร ลักขณาโรจน์” ประธานกรรมการบริหารคนใหม่ที่รับตำแหน่งตั้งแต่ ก.พ. 2568 โดยหลังจากรับตำแหน่งเกิน 6 เดือน 2C2P กำลังรีแบรนด์ใหม่เพื่อให้เห็นชัดว่า 2C2P เป็นส่วนหนึ่งของ ANT International ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก และยุทธศาสตร์สำคัญคือการนำเอาโซลูชันระดับองค์กรมาให้องค์กร SME ได้เข้าถึง
ดาวรุ่งของ 2C2P ในปีนี้คือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ชื่อ qwik by 2C2P (ควิก) เพื่อนำระบบชำระเงินมาตรฐานระดับ Enterprise ไปสู่ธุรกิจ SME ด้วย qwik by 2C2P ร้านค้าไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ แต่สามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟน (iOS/Android) ให้เป็นเครื่องรับชำระเงินเสมือนจริง (EBC) ได้ คาดว่าจะตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่มีอินไซต์พบว่าการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตต่างประเทศ (International Card) ที่ใช้ในประเทศไทย เติบโตขึ้นถึง 40% เบื้องต้นตั้งเป้าหมายที่จะเห็นร้านค้า SME ไซส์กลางถึงใหญ่ ใช้ qwik by 2C2P ประมาณ 10,000 ร้านค้า ภายใน 1 ปีข้างหน้า
ปัจจุบัน 2C2P ให้บริการรองรับวิธีการชำระเงิน (payment option) ที่หลากหลายมากกว่า 400 รูปแบบ และธุรกิจกำลังขยายจากบริการรับชำระเงินแบบออนไลน์ไปสู่ธุรกิจออฟไลน์ บริษัทย้ำว่าจุดแข็งของบริษัทคือการได้มาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยมี Certificate ระดับ PCI DSS ซึ่งต้องผ่านการทดลองแฮกระบบทุกไตรมาส
***รับมือ 3 ปี 85% การชำระเงินในไทยเปลี่ยนจากเงินสดเป็นดิจิทัล
นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าการลงทุนใน 1,500 ล้านบาท จะเน้นการนำ AI และ Automation เข้ามาใช้ คาดว่าจะเป็นการลงทุยในลักษณะ Frontload คือลงทุนหนักในช่วงปีแรกเพื่อเสริมประสิทธิภาพ โดยตลอด 6 เดือนที่รับตำแหน่งมา บริษัทได้มีการวางแผนกลยุทธ์ระยะยาวและมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น โดยเน้นย้ำถึงความเชื่อในเรื่องการเติบโตอย่างยั่งยืน
“2C2P ได้ปรับเปลี่ยนโลโก้และรีเฟรชแบรนด์ใหม่ เพื่อให้มีความสดใสและทันสมัยมากขึ้น โดยโลโก้ใหม่เน้นแนวคิดของการเชื่อมโยงผู้คนและธุรกิจเข้าด้วยกันเป็นรูปตะขอเกี่ยวกัน ขณะที่โทนสีใหม่ประกอบด้วยสีฟ้า ซึ่งสื่อถึงความน่าเชื่อถือ ความทุ่มเท และสีส้ม ซึ่งสื่อถึงความสุข ความสนุกสนาน และการเริ่มต้นใหม่”
ปัจจุบัน 2C2P เป็นส่วนหนึ่งของ ANT International ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินระดับโลก ภายใต้แบรนด์ที่เรียกว่า Antom ในส่วนของ Merchant Payment โดยพันธกิจคือการเสริมศักยภาพธุรกิจทุกขนาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยโซลูชันทางการเงินที่ปลอดภัยและครบวงจร ผ่านสำนักงานใน 7 ประเทศ (ไทย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, ฮ่องกง) และให้บริการอยู่ในเกือบ 20 ประเทศ มีพนักงานมากกว่า 500 คน และรองรับรูปแบบการชำระเงินมากกว่า 400 รูปแบบ
สำหรับผลประกอบการเฉพาะในประเทศไทย (ข้อมูลถึงสิ้นเดือนกันยายน 2568) คาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีปริมาณธุรกรรมรวมสูงถึง 450,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปริมาณธุรกรรมเติบโตขึ้น 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และรายได้ของบริษัทเติบโต 25%
4 กลุ่มธุรกิจหลักที่เป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโต 2C2P สูงสุด ได้แก่ Online Travel Agents (OTA) เติบโต 92%, ธุรกิจประกัน (Insurance) เติบโต 42%, E-commerce เติบโต 34% และสายการบิน (Airlines) เติบโต 20%
นอกจากนี้ การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยการชำระเงินผ่าน Alipay ของนักท่องเที่ยวจีน ยังเติบโต 25% ส่วนการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตต่างประเทศ (International Card) เติบโตถึง 40%
***กลยุทธ์ 3 เสาหลัก รุก SME - ลงทุน 1.5 พันล้านบาท
ทิศทางธุรกิจใน 3 ปีข้างหน้าของ 2C2P มุ่งเน้น 3 กลยุทธ์หลัก หนึ่งในนั้นคือการเสริมความแข็งแกร่งโซลูชันระดับองค์กร ส่วนนี้ 2C2P ประกาศลงทุนในประเทศไทยอย่างน้อย 1,500 ล้านบาท ในช่วงปี 2569-2571 เพื่อเสริมศักยภาพระบบเทคโนโลยี 4 ส่วนหลัก ได้แก่ Cloud Infrastructure, การปรับปรุง Architecture ให้ทันสมัย, การนำ AI และ Automation มาใช้, และ Intelligent Fraud Monitoring ซึ่งการลงทุนด้าน AI และ Automation จะเป็นแบบ Frontload ที่ลงทุนสูงในปีแรก
ส่วนที่ 2 คือสร้างนวัตกรรมเพื่อรองรับ 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ผู้บริหาร 2C2P ย้ำว่าจะเน้นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ OTA, E-commerce, Airline และ Insurance รวมถึงการยกระดับความปลอดภัยด้วยมาตรฐานสูงสุด เช่น PCI DSS และ ISO 27001/27701 ที่รองรับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการนำเสนอโซลูชันเฉพาะทาง เช่น การรับชำระเงินแบบผ่อนชำระที่เติบโต 12% และ Card Scheme Tokenization ที่สามารถอัปเดตวันหมดอายุบัตรโดยอัตโนมัติ
ส่วนที่ 3 คือการนำโซลูชันองค์กรมาสู่ SME วรฉัตรชี้ว่านี่คือยุทธศาสตร์สำคัญในการขยายฐานลูกค้า 2C2P จะเน้นกลุ่ม SME ขนาดกลางถึงใหญ่ โดยการดึงเอามาตรฐานระดับ Enterprise มาประยุกต์ใช้
***เปิดตัว "qwik by 2C2P" โซลูชันไร้ฮาร์ดแวร์สำหรับ SME
วรฉัตรเผยว่าผลิตภัณฑ์หลักในการรุกตลาด SME คือ qwik by 2C2P ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อมอบอำนาจการรับชำระเงินเทียบเท่าองค์กรขนาดใหญ่ให้กับ SME
จุดเด่นของ qwik by 2C2P คือการลดต้นทุนฮาร์ดแวร์ ร้านค้าไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ เพียงใช้สมาร์ทโฟน (ทั้ง iOS และ Android) ที่มีอยู่แล้ว เปลี่ยนให้เป็นเครื่องรับชำระเงิน และหากเป็น Android ที่มี NFC ก็สามารถทำ Tap to Pay ได้ ร้านค้าหรือโรงแรมสามารถสมัครใช้บริการด้วยตนเองผ่านแพลตฟอร์มของ qwik by 2C2P โดยไม่ต้องส่งเอกสาร และติดตามสถานะได้แบบทันใจ Live Status Tracking
qwik by 2C2P ยังรองรับการชำระเงินทุกรูปแบบในแอปเดียว ทั้งบัตรเครดิต/เดบิต, PromptPay, e-wallet ในประเทศทั้ง TrueMoney และ Shopee Pay รวมถึงการรับชำระเงินจากนักท่องเที่ยวผ่าน Alipay Plus เช่น Kakao Pay หรือ Touch 'n Go (จากมาเลเซีย) ทั้งหมดนี้รับประกันความเสถียรของระบบ 99.9% มีระบบการชำระเงินแบบกำหนดเวลา และใช้เครื่องมือจับภัยหลอกลวงเช่นเดียวกับลูกค้าองค์กรรายใหญ่
ทั้งหมดนี้ 2C2P ตั้งเป้าหมายว่าภายใน 1 ปีข้างหน้า จะเห็นร้านค้า SME ขนาดกลางถึงใหญ่ใช้ qwik by 2C2P ประมาณ 10,000 ร้านค้า โดยรูปแบบรายได้ของ qwik by 2C2P จะมาจากการเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม (MDR) เมื่อเกิดรายการจริง เนื่องจากซอฟต์แวร์และการสมัครใช้งานเปิดให้ใช้ฟรี
สำหรับโซลูชัน qwik by 2C2P จะเปิดให้ผู้ประกอบการเริ่มลงทะเบียนออนไลน์ใช้งานใน 20 พฤศจิกายน 2568.


