เบื้องหลังความมั่นใจของทีมช่าง และวิศวกรที่ต้องปีนป่ายขึ้นเสาสัญญาณ หรือเสาไฟฟ้า ที่ต้องทำงานบนพื้นที่สูง คือสิ่งที่ AIS แสดงออกมาให้เห็นถึงความใส่ใจเรื่องความปลอดภัยให้แก่พนักงานทุกกลุ่ม ผ่านอุปกรณ์ป้องกันการตก ที่ออกแบบมาเพื่อเซฟชีวิตให้ทุกคนกลับบ้านอย่างปลอดภัย
เรื่องราวนี้ นับเป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์กรที่ให้ความสำคัญกับ ‘คน’ เพราะ เอไอเอส เชื่อว่าสุขภาวะที่ดี (Well-being) ของพนักงานคือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุด ทำให้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมความปลอดภัยและดูแลพนักงานในทุกมิติ
นายสรรเพชญ สรรพศิริ หัวหน้าฝ่ายงานการบริหารความเป็นเลิศด้านงานทรัพยากรบุคคล เอไอเอส เล่าว่า “เอไอเอส ได้ให้ความสำคัญในทุกมิติ โดยมุ่งยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของพนักงานอย่างรอบด้าน เราไม่ได้ดูแลเพียงเรื่องการตรวจสุขภาพประจำปีเท่านั้น แต่ยังมอบสวัสดิการประกันอุบัติเหตุและประกันชีวิตให้กับพนักงานช่างติดตั้งเน็ตบ้านทุกคน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนสามารถปฏิบัติงานได้อย่างอุ่นใจ ภายใต้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด
นอกจากนี้ เอไอเอสยังได้กำหนดมาตรฐานการทำงานด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวด พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรม Safety อย่างต่อเนื่อง และมอบรางวัลในรูปแบบ Token Reward เพื่อยกย่องและสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานที่ปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และเป็นแบบอย่างของมืออาชีพในทุกพื้นที่”
หนึ่งในนั้นคือการทำงานของ ‘ช่างติดตั้งอินเทอร์เน็ตบ้าน’ เพราะถือเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ส่งมอบบริการให้แก่ลูกค้า แต่เบื้องหลังการทำงานนั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย โดยเฉพาะ ‘การทำงานบนที่สูง’ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เอไอเอส จึงได้นำนวัตกรรมเข้ามาแก้ปัญหา เพื่อให้พนักงานทุกคนทำงานได้อย่างมั่นใจ
ระบบป้องกันการตกจากที่สูง (Fall Protection System) คือชุดอุปกรณ์ป้องกันการตกส่วนบุคคลที่ได้รับการออกแบบตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญที่ทำงานร่วมกัน ทั้ง เชือกช่วยชีวิต Lifeline เป็น เชือกนิรภัยความแข็งแรงสูง ทำหน้าที่ยึดบันไดไม้ไผ่เข้ากับเสาไฟฟ้าให้เกิดความมั่นคง และเป็นจุดยึดระหว่างปฏิบัติงานของช่างเทคนิค เพื่อป้องกันการพลัดตก
ตามด้วย Ropegrab & Carabiner มาพร้อมกลไกพิเศษที่จะล็อกเชือกอัตโนมัติทันทีหากเกิดการพลัดตก ช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายร่วงหล่นสู่พื้น และ Full Body Harness ชุดสายรัดนิรภัยแบบเต็มตัวที่ออกแบบมาเพื่อกระจายแรงกระแทกไปทั่วร่างกายหากเกิดการพลัดตก จะช่วยลดความรุนแรงของการบาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปลอดภัยกว่าเข็มขัดนิรภัยแบบคาดเอวที่ใช้กันทั่วไป
โดยนับตั้งแต่เริ่มใช้งาน ระบบป้องกันการตกจากที่สูง (Fall Protection System) เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่านวัตกรรมดังกล่าวช่วยยกระดับความปลอดภัยและลดความเสี่ยงได้อย่างเป็นรูปธรรม ทำให้พนักงานส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นและอุ่นใจในการทำงานมากยิ่งขึ้น
จะเห็นได้ว่า ความปลอดภัยจึงไม่ใช่แค่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่คือ "วัฒนธรรมร่วม" ที่เอไอเอส ปลูกฝังตั้งแต่ผู้บริหารจนถึงทีมปฏิบัติงานในพื้นที่ บนพื้นฐานความเชื่อมั่นว่า ‘ทีมงานที่มีสุขภาพกายและใจที่ดี คือพลังสำคัญในการสร้างผลงานที่มีคุณภาพและปลอดภัย’
 
                    

