สำนักงาน กสทช. คุมเข้มอุปกรณ์ ซิมบ๊อกซ์-เกตเวย์ หวังสกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้ซิมเกิน 4 เบอร์ ต้องขอใบอนุญาตภายใน 90 วัน ฝ่าฝืนโทษคุก 5 ปี ปรับ 1 แสน ขีดเส้นห้ามเชื่อมเครือข่ายหากไม่ลงทะเบียน เสี่ยงร่วมผิด พ.ร.ก.อาชญากรรมไซเบอร์
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ กสทช. เรื่อง เครื่องวิทยุคมนาคมและสถานีวิทยุคมนาคมที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องได้รับใบอนุญาตตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 (ฉบับที่ 3) โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568 โดยสาระสำคัญของประกาศฉบับนี้ กำหนดให้ผู้ที่ถือครอง ซิมบ๊อกซ์ (SIM BOX) หรืออุปกรณ์เกตเวย์ (Gateway) ที่ใส่ซิมการ์ด ตั้งแต่ 4 ซิมขึ้นไป ไว้ในครอบครองอยู่แล้วก่อนวันที่ประกาศบังคับใช้ ให้มาขอรับใบอนุญาตให้มี ใช้ นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม หรือใบอนุญาตให้ตั้งสถานีวิทยุคมนาคม แล้วแต่กรณีกับ สำนักงาน กสทช. ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ หากไม่ดำเนินการ มีความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายไตรรัตน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ สำนักงาน กสทช. ได้มีประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการเพื่อป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสำหรับผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค. 2568 ที่กำหนด 8 มาตรการ เพื่อเป็นการคุ้มครองประชาชนและป้องกันยับยั้งความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมทั้งมาตรการที่สำนักงาน กสทช. กำชับกับผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ตามข้อสั่งการของที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
โดยประกาศ สำนักงาน กสทช. เรื่อง มาตรการเพื่อป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ ได้กำหนด ห้ามมิให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอนุญาตให้อุปกรณ์ simbox ที่ไม่ได้ลงทะเบียนกับสำนักงาน กสทช. เชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมของผู้ให้บริการฯ หากไม่ดำเนินการต้องมีส่วนร่วมรับผิดตามมาตรา 4/1 แห่งพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 และที่แก้ไขเพิ่มเติม


