xs
xsm
sm
md
lg

เจาะภารกิจ Jump Thailand Hackathon 2025 นวัตกรรมเพื่อผู้สูงอายุและคนพิการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตตอบรับการที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และการนำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยกลุ่มเปราะบางในสังคม โดยเฉพาะผู้พิการ กลายเป็นโจทย์ที่สร้างความท้าทายคนรุ่นใหม่ ให้เข้ามามีส่วนร่วมสร้างผลกระทบเชิงสังคม กลายนับเป็น

เวที JUMP THAILAND HACKATHON 2025 เป็นส่วนหนึ่งของงาน AIS ACADEMY for THAIs | LIFE FEST 40+ ที่จัดขึ้นมาเปิดพื้นที่ให้เยาวชนไทย ได้แสดงศักยภาพ สร้างสรรค์โซลูชันที่ตอบโจทย์สังคม โดยเฉพาะนวัตกรรมเพื่อผู้สูงอายุและคนพิการ ที่มีผู้สมัครเข้าร่วมกว่า 295 ทีม และคัดเลือก 10 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกมาแสดงผลงาน

นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจองค์กร เอไอเอส กล่าวว่า ในปีนี้เราได้เห็นพลังของนิสิต นักศึกษา ที่จับมือกับพนักงานอุ่นใจอาสาสร้างสรรค์นวัตกรรม ที่ไม่ได้หยุดแค่ไอเดีย แต่ตั้งใจจะเปลี่ยนคุณภาพชีวิตของผู้คน ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ และรับมือกับโจทย์ท้าทายระดับประเทศ

“นวัตกรรมจากเวทีนี้เปรียบเสมือนแสงไฟเล็กๆ ที่พร้อมส่องประกาย และเมื่อแสงไฟเหล่านี้ถูกรวมกัน จะกลายเป็นพลังที่ส่องสว่างให้สังคมไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแรงและยั่งยืน เพราะเรามั่นใจว่าทุกความคิด ทุกโอกาส และทุกการลงมือทำ จะกลายเป็นก้าวสำคัญที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศได้จริง”

ผู้ชนะเลิศในปีนี้ ได้แก่ทีม ‘Teletubbies’ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี IoT มาใช้ร่วมกับประมงเพาะเลี้ยง เพื่อลดภาระ และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเกษตรกรสูงวัย ที่ได้รับถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท และยังได้รับรางวัล Popular vote พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท

***นวัตกรรมประมงเพื่อผู้สูงวัย


ตัวแทนจากทีม Teletubbies ให้ข้อมูลถึงการพัฒนาโซลูชันนี้ขึ้นมาจากคุณป้าของเพื่อนในทีมมีการทำประมงพื้นบ้านอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และต้องตื่นตอนเที่ยงคืน หรือตีหนึ่งเพื่อไปเปิดเครื่องตีน้ำ หรือแบกอาหารไปหว่าน ซึ่งเป็นงานที่หนักมาก จึงอยากพัฒนาระบบที่คล้ายกับ Smart Farm เพื่อช่วยให้ทำงานได้สะดวกขึ้น

สำหรับนวัตกรรมของ Teletubbies คือเป็นระบบอัตโนมัติครบวงจร ตั้งแต่การให้อาหาร การเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อเติมออกซิเจน ไปจนถึงการวัดค่าต่างๆ ในบ่อเลี้ยงปลาผ่านเซ็นเซอร์ สามารถควบคุมได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน พร้อมนำ AI มาช่วยควบคุมปริมาณอาหารให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการกินของปลา ช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกร

โดยระหว่างที่พัฒนาพบว่า ความท้าทายหลักคือเรื่องของเวลา จากการที่โครงการค่อนข้างใหญ่ และกลุ่มเป้าหมายอยู่ในต่างจังหวัดทำให้ต้องมีการบริหารจัดการในการลงพื้นที่ ประกอบกับความกังวลด้านต้นทุนของของเกษตรกร ทำให้มีการวางแผนในการทำตลาดทั้งการขายขาดเริ่มต้นที่ 20,000 บาท รวมถึงระบบเช่าใช้รายเดือนเพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วย

"เราอยากเห็นเกษตรกรผู้สูงอายุสามารถประกอบอาชีพที่พวกเขารักต่อไปได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องข้อจำกัดทางร่างกาย อยากให้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเป็นต้นแบบที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการเกษตรด้านอื่นๆ ได้ในอนาคต"

***แอปฯ แปลภาษามือ พาคนพิการสู่ไลฟ์คอมเมิร์ซ


ขณะที่ทีมรองชนะเลิศอันดับ 1 ‘ตัวจี๊ดพร้อมจั๊มพ์’ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้พัฒนาเครื่องมือช่วยให้คนพิการทางการได้ยินสามารถไลฟ์ขายของได้ คว้ารางวัล 60,000 บาท ไปครอง และยังได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากทางสสส. อีกด้วย

ตัวแทนทีม ตัวจี๊ดพร้อมจั๊มพ์ ระบุว่า โอกาสในตลาดออนไลน์มีมูลค่ามหาศาล และต้องการเชื่อมโยงโอกาสเข้ากับผู้พิการทางการได้ยิน จึงเกิดเป็นการพัฒนาแอปพลิเคชัน "แปลภาษามือเป็นเสียง" แบบเรียลไทม์ ที่สำคัญคือรองรับภาษามือที่เป็นภาษาไทยด้วย

"ในประเทศไทยมีคนหูหนวกเกือบ 400,000 คน แต่สามารถเข้าถึงอาชีพได้แค่ประมาณ 21% เท่านั้น ในขณะที่ตลาดออนไลน์เติบโตอย่างมหาศาล จึงคิดว่าจะทำอย่างไรให้คนหูหนวกสามารถเข้าถึงตลาดนี้ได้ จึงพัฒนาแพลตฟอร์มที่จะเข้ามาทลายกำแพงภาษา ทำให้คนทั่วไปสามารถเข้าใจและซื้อสินค้าจากผู้ขายที่ใช้ภาษามือผ่านไลฟ์สดได้"

โดยแอปพลิเคชันแปลภาษามือนี้ มีการนำ AI มาช่วยทำให้ไม่ได้เป็นการแปลแบบคำต่อคำ แต่มีการแปลงเป็นประโยคที่สมบูรณ์และเป็นธรรมชาติ โดยนำความรู้จากงานวิจัยในต่างประเทศมาปรับใช้กับบริบทของภาษามือไทย และเท่าที่ศึกษามายังไม่มีใครทำแพลตฟอร์มในลักษณะนี้ในประเทศไทย

เมื่อเป็นเช่นนั้น ทำให้เกิดความท้าทาย ในเรื่องของ ข้อมูล ภาษามือในไทย ที่ยังไม่มีคำศัพท์ที่เป็นสากลมากนัก และภาษาก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงต้องทำงานร่วมกับสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อรวบรวมข้อมูลและสร้างพจนานุกรมภาษามือให้มีความถูกต้องและครอบคลุมมากที่สุด

สำหรับการต่อยอดในอนาคต ทาง AIS ได้เข้ามาสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น Cloud และเทคโนโลยี 5G ที่มีค่าความหน่วงต่ำ ซึ่งสำคัญมากกับการไลฟ์สด ส่วนโมเดลธุรกิจ จะให้บริการในรูปแบบสมาชิกเพียงเดือนละ 99 บาท เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าถึงได้ง่ายและสร้างรายได้จากการขายของได้จริง

***แพลตฟอร์มปั้น ‘หมอนวดตาบอด’ มืออาชีพ


ปิดท้ายที่ รองชนะเลิศอันดับ 2 ทีม ‘Eye Touch’ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย & มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่นำ AI มาช่วยฝึกอาชีพหมอนวดตาบอด ให้กับคนพิการทางการมองเห็น พร้อมรับเงินรางวัล 40,000 บาท

โจทย์ของทีม Eye Touch เกิดขึ้นจากเพื่อนสนิทใกล้ตัวที่เป็นผู้พิการทางสายตา และภูมิใจกับฝีมือในการนวด ทำให้เกิดไอเดียว่า ถ้าสามารถพัฒนาทักษะให้กลายเป็นอาชีพที่มั่นคงจะเป็นส่วนช่วยผู้พิการในกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างมาก ประกอบกับการศึกษาถึงตลาด Wellness ที่กำลังเติบโต พบว่ามีปัญหาในการขาดแคลนหมอนวดที่มีฝีมือ

"ปกติการฝึกหมอนวดตาบอดใช้เวลานาน และผู้สอนหนึ่งคนดูแลนักเรียนได้ไม่กี่คน แพลตฟอร์มของ Eye Touch จะใช้ AI ที่มีกล้องตรวจจับท่าทางการนวด และให้คำแนะนำด้วยเสียงแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้สอนหนึ่งคนสามารถเพิ่มขีดความสามารถ ในการดูแลนักเรียนได้มากขึ้น และยังคงรักษาคุณภาพการสอนไว้เช่นเดิม ส่วนผู้เรียนก็สามารถฝึกฝนได้ด้วยตนเองและได้รับใบรับรองเพื่อไปประกอบอาชีพ"

Eye Touch ยังมีรูปแบบการทำธุรกิจที่น่าสนใจ เพราะจะเปิดให้ผู้พิการทางการมองเห็นเข้ามาเรียนได้ฟรี และเลือกที่จะสร้างรายได้จากค่าบริการสมาชิกของร้านนวดที่ต้องการพนักงานในช่วงฤดูท่องเที่ยว รวมถึงบริษัทขนาดใหญ่ที่ต้องการจ้างงานผู้พิการตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมอาชีพคนพิการ ซึ่งค่าบริการที่คิดจะถูกกว่าค่าปรับที่บริษัทต้องจ่าย ถือเป็นโมเดลที่ได้รับประโยชน์ในทุกฝ่าย"

เรื่องราวของทั้ง 3 ทีมสะท้อนให้เห็นว่า พลังของคนรุ่นใหม่เมื่อผนวกเข้ากับเทคโนโลยีและความเข้าอกเข้าใจในปัญหาสังคม สามารถสร้างสรรค์การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างแท้จริง และเวทีอย่าง JUMP THAILAND HACKATHON ก็พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ไอเดียเหล่านี้เกิดขึ้นจริง เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของทุกคนในสังคม


กำลังโหลดความคิดเห็น