อีลอน มัสก์ (Elon Musk) มหาเศรษฐีนักนวัตกรรม ส่งสัญญาณท้าทายฐานข้อมูลความรู้ระดับโลกอย่างวิกิพีเดีย (Wikipedia) ด้วยโปรเจ็กต์ที่ชื่อว่า "กรอกิพีเดีย" (Grokipedia) เดินหน้าพัฒนาโดย xAI สตาร์ทอัปปัญญาประดิษฐ์ในมือ เพื่อเป้าหมายแจ้งเกิดสารานุกรม AI ที่ “แม่นยำและลึกกว่า”
ข้อมูลระบุว่า Grokipedia ถูกออกแบบบน Grok แชตบอทหลักของ xAI โดยมัสก์วางจุดยืนให้เป็นสารานุกรมยุคใหม่ที่สามารถมอบข้อมูล “แม่นยำกว่าและมีบริบทลึกกว่า” เมื่อเทียบกับ Wikipedia จุดนี้เจ้าพ่อคนดังย้ำว่าระบบ AI นี้สามารถวิเคราะห์ข้อเท็จจริง ตรวจจับความไม่สอดคล้อง และสร้างบทความที่เป็นกลางมากขึ้นกว่าการอาศัยทีมอาสาสมัครแก้ไขเนื้อหาแบบเดิม
แนวคิดนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ของมัสก์ที่มักบอกว่าเป้าหมายสูงสุดของเขาคือ “เข้าใจจักรวาล” และการสร้างฐานข้อมูลระดับโลกที่ไม่ถูกจำกัดด้วยข้อครหาทางการเมือง หรืออคติของผู้เขียน
ความเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่าไม่น่าแปลกใจ เนื่องจากอีลอน มัสก์เคยมีภาพลักษณ์วิจารณ์ Wikipedia มาก่อนก่อนหน้านี้โดยเคยเสนอเงิน 1 พันล้านดอลลาร์ให้หาก Wikipedia ยอมเปลี่ยนชื่อเป็น “Dickipedia” เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งสะท้อนทั้งอารมณ์ขันและการตั้งคำถามต่อความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มเก่าแก่แห่งนี้
หากมองที่ Grokipedia การวางตัวเป็นสารานุกรมที่ไม่อิงระบบบรรณาธิการแบบดั้งเดิม แต่ใช้การประมวลผลของ AI เป็นแกนหลัก อาจทำให้เกิดคำถามใหญ่เรื่องความน่าเชื่อถือ ว่าใครจะเป็นคนกำหนด? ซึ่งแม้โปรเจ็กต์จะดูทะเยอทะยาน แต่ยังเต็มไปด้วยคำถามเชิงปฏิบัติ เช่น การดูแลความถูกต้องของข้อมูล การอ้างอิงแหล่งที่มา และความเสี่ยงที่ AI เองอาจสร้างข้อผิดพลาดหรือเสริมอคติที่ซ่อนอยู่
การประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Wikipedia เผชิญแรงกดดัน ทั้งจาก "แลร์รี่ แซงเกอร์" (Larry Sanger) ผู้ร่วมก่อตั้งที่ออกมาเตือนเรื่องอคติภายในแพลตฟอร์ม และนักวิจารณ์ที่กังวลว่าการพึ่งพาอาสาสมัครแก้ไขอาจทำให้เกิด “echo chamber” ที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจเรื่องราวแค่ด้านเดียว
ไม่ว่าอย่างไร โลกกำลังเห็นสัญญาณเปลี่ยนผ่านยุคใหม่ของสารานุกรม โดยหาก Grokipedia เดินหน้าจริง ย่อมเป็นอีกก้าวสำคัญของการเปลี่ยนผ่านจากสารานุกรมที่ขับเคลื่อนด้วยมนุษย์ ไปสู่สารานุกรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI
สำหรับ Wikipedia นั้นครองบทบาทสารานุกรมออนไลน์อันดับ 1 มานานเกิน 2 ทศวรรษ จุดแข็งของ Wikipedia คือชุมชนอาสาสมัครที่ทำงานแก้ไข ปรับปรุง และตรวจสอบกันเอง แต่จุดอ่อนคือความล่าช้า ความไม่สม่ำเสมอ และข้อครหาว่าเต็มไปด้วยอคติด้านการเมืองหรือวาระซ่อนเร้น ซึ่งหาก Grokipedia ใช้ AI ในการสกัด วิเคราะห์ และอัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้จริง ก็อาจดึงดูดผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความแม่นยำมากกว่า มีโอกาสทำให้ Wikipedia สูญเสียอิทธิพลไปได้.