xs
xsm
sm
md
lg

ผ่อนมือถือใช้แค่บัตรประชาชน ไขกับดักดอกเบี้ยที่ผู้บริโภคต้องรู้ทัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในยุคดิจิทัลที่สมาร์ทโฟนกลายเป็นปัจจัยที่ห้า ข้อเสนอ “ผ่อนมือถือแค่ใช้บัตรประชาชนใบเดียว” กลายเป็นคำเชิญชวนผู้บริโภคที่ต้องการเข้าถึงเทคโนโลยี แต่เบื้องหลังความสะดวกสบายนั้น อาจมีกับดักทางการเงินที่ทำให้คุณต้องจ่ายแพงกว่าที่คิดหลายเท่าตัวซ่อนอยู่


กระแสการผ่อนสินค้าโดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิตกำลังได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเฉพาะในตลาดสมาร์ทโฟน อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า บริการผ่อนมือถือกับร้านค้าบางแห่งที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสถาบันการเงิน กำลังสร้างภาระหนี้สินให้กับผู้บริโภคอย่างไม่เป็นธรรม ผ่านอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินกว่ากฎหมายกำหนดไปมาก

ดอกเบี้ยมหาโหด ทะลุ 300% ต่อปี

สิ่งที่ผู้บริโภคจำนวนมากอาจมองข้ามไปคือ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Effective Interest Rate: EIR) ที่แฝงอยู่ในสัญญา ผู้ให้บริการนอกระบบบางรายในประเทศไทยคิดอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 300% ต่อปี หรือมากกว่านั้น ซึ่งสูงกว่าเพดานสินเชื่อส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดไว้ (ปัจจุบันอยู่ที่ 25% ต่อปี) ถึงกว่า 10 เท่า

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น หากคุณผ่อนสมาร์ทโฟนราคา 10,000 บาท เมื่อรวมดอกเบี้ยจนครบสัญญา ยอดชำระทั้งหมดอาจพุ่งสูงถึง 30,000 บาท ซึ่งหมายความว่าคุณต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยมากกว่าราคาเครื่องถึงสองเท่า

ช่องโหว่ทางกฎหมายที่ผู้บริโภคเสียเปรียบ

บริการผ่อนมือถือด้วยบัตรประชาชนส่วนใหญ่มักดำเนินการโดยร้านค้าโดยตรง ซึ่งไม่ได้มีสถานะเป็นสถาบันการเงินที่ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้ไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลตามกฎหมายสินเชื่อ

ส่งผลให้ผู้ให้บริการเหล่านี้สามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขต่างๆ ได้อย่างอิสระ เมื่อลูกค้าตกอยู่ในสัญญาที่ไม่เป็นธรรม จึงแทบไม่มีอำนาจในการต่อรองหรือได้รับการคุ้มครองที่เพียงพอ

เปิดกลโกงที่พบบ่อยและกลยุทธ์ที่ต้องระวัง

เพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจเร็วขึ้น ร้านค้ามักใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่ชวนให้หลงเชื่อ เช่น “ดอกเบี้ย 0%” โดยโฆษณาว่าปลอดดอกเบี้ย แต่กลับบวกราคาเครื่องให้สูงกว่าราคาตลาดทั่วไป เมื่อคำนวณยอดผ่อนทั้งหมดแล้ว กลับต้องจ่ายแพงกว่าการซื้อด้วยเงินสด

รวมถึงมีการทำสัญญาซ่อนเงื่อน ที่เต็มไปด้วยเงื่อนไขที่เอาเปรียบ เช่น ค่าปรับกรณีผิดนัดชำระที่สูงเกินจริง ไปจนถึงการทวงหนี้ผิดกฎหมาย เนื่องจากบางกรณีมีการใช้ข้อมูลส่วนตัว เช่น การกำหนดให้ผู้ซื้อต้องมีเพื่อนใน Facebook จำนวนมาก เพื่อใช้เป็นเครื่องมือกดดันหรือประจานหากผิดนัดชำระ

นอกจากนี้ ยังมีการล็อกเครื่องจากระยะไกล (Remote Lock) สิ่งนี้นับเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากที่สุด หากผู้ซื้อขาดการชำระแม้เพียงงวดเดียว ร้านค้าสามารถใช้ระบบสั่งปิดการใช้งานสมาร์ทโฟนได้ทันที ทำให้ผู้ซื้อสูญเสียทั้งเงินที่ผ่อนไปแล้ว ไม่สามารถใช้งานตัวเครื่อง และเข้าถึงข้อมูลสำคัญที่อยู่ในนั้น

ผ่อนอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อ

ก่อนตัดสินใจใช้บริการผ่อนมือถือด้วยบัตรประชาชน ผู้บริโภคควรตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นตรวจสอบใบอนุญาต ผู้ให้บริการเป็นสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับของ ธปท. หรือไม่?

- ถามหา EIR: อย่าเชื่อคำว่า "ดอกเบี้ย 0%" ให้สอบถาม "อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี" และคำนวณยอดชำระรวมทั้งหมด
- อ่านสัญญาก่อนเซ็น:ตรวจสอบค่าปรับและเงื่อนไขการผิดนัดชำระให้ละเอียด
- สอบถามเรื่องกรรมสิทธิ์: เมื่อผ่อนครบแล้ว กรรมสิทธิ์ในตัวเครื่องจะตกเป็นของผู้ซื้อ 100% ทันทีหรือไม่?
- เงื่อนไขการล็อกเครื่อง หากมีระบบล็อกเครื่อง ควรสอบถามให้ชัดเจนว่าเป็นระบบของผู้ให้บริการรายใด และมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไร

ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า

สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องผ่อนและไม่มีบัตรเครดิต ควรพิจารณาเลือกใช้บริการจากผู้ให้กู้ที่น่าเชื่อถือและได้รับอนุญาต เช่น บริการอย่าง Samsung Finance+ หรือ SG Finance+ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล คิดอัตราดอกเบี้ยตามกฎหมาย และใช้ระบบความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐาน

ท้ายที่สุดนี้ ความสะดวกสบายไม่ควรแลกมากับความเสี่ยงทางการเงินที่ซ่อนอยู่ การผ่อนชำระไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องทำอย่างมีสติและรอบคอบ ความรู้เท่าทันคือ "อาวุธ" ที่ดีที่สุดที่จะปกป้องผู้บริโภคจากสัญญาที่ไม่เป็นธรรม เพื่อให้การเข้าถึงเทคโนโลยีเป็นไปอย่างอิสระและไม่สร้างภาระในระยะยาว


กำลังโหลดความคิดเห็น