xs
xsm
sm
md
lg

'ไชยชนก' รมว.ดีอี สักการะศาลพระพรหม ก่อนเข้าทำงาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



'ไชยชนก' รมว.ดีอี ป้ายแดง สักการะศาลพระพรหม ศูนย์ราชการ ก่อนเข้าทำงาน ขีดเส้น 4 เดือน เร่งทำเพื่อประชาชน โฟกัสแพลตฟอร์ม-ค่าธรรมเนียม รับมือภัยธรรมชาติ ดึงเทคโนโลยีเสริมด่านศุลกากร

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ก.ย.68 ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้เดินทางมาสักการะศาลพระพรหมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคาร บี เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง โดยมีศาสตราจารย์วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักงานปลัดกระทรวงดีอี ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัด และเจ้าหน้าที่ ร่วมให้การต้อนรับและแสดงความยินดี ทั้งนี้ ทีมงานได้ชี้แจงว่า การเดินทางดังกล่าวเป็นเพียงการสักการะเท่านั้น หลังเสร็จพิธีได้เดินทางกลับโดยยังไม่ได้เข้าสำนักงานที่กระทรวงดีอี อาคาร ซี แต่อย่างใด

นายไชยชนก กล่าวภายหลังว่า การมาดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี ถือเป็นการปฏิบัติตามการตัดสินใจของผู้ใหญ่ในพรรคที่มีประสบการณ์ ไม่ได้เลือกเองว่าจะไปทำงานตรงไหนหรืออย่างไร แต่สิ่งสำคัญคือไม่ว่าหน้าที่จะอยู่ตรงไหน ก็พร้อมทำอย่างสุดความสามารถ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเวลามีจำกัด จึงต้องเลือกทำสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

สถานการณ์ปัจจุบันไม่ปกติ มีภัยรุมเร้าหลายด้าน จึงจำเป็นต้องเน้นมาตรการป้องกันและช่วยเหลือประชาชน ควบคู่กับการประคับประคองเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในความรับผิดชอบของกระทรวงดีอีให้ผ่านพ้นวิกฤติในช่วง 4 เดือนนี้ โดยเฉพาะปัญหาความมั่นคงระหว่างประเทศและภูมิรัฐศาสตร์โลก ซึ่งไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเป็นโจทย์ใหญ่ที่ไทยต้องเผชิญ ไม่ใช่เพียงเฉพาะประเด็นไทยกับกัมพูชาเท่านั้น


ทั้งนี้ นายไชยชนก ระบุถึงความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ โดยการเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยครั้งย่อมกระทบต่อเสถียรภาพการบริหารและอาจสะเทือนเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น สิ่งที่จะเร่งดำเนินการคือการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มออนไลน์และค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บ ซึ่งจากการศึกษาพบว่าสามารถดำเนินการได้ และอาจไม่จำเป็นต้องแก้ไขกฎกระทรวง

พร้อมกันนี้ นายไชยชนก ให้ความสำคัญกับภัยธรรมชาติ โดยยอมรับว่า น่าเสียดายที่ไม่สามารถวางแผนระยะยาวเรื่องปัญหาน้ำท่วมหรือน้ำแล้งได้ทันเวลา แต่สิ่งที่ยังสามารถทำได้คือการนำระบบที่เคยถูกวางไว้ในสมัย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ครั้งดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กลับมาใช้ ซึ่งเป็นการใช้ข้อมูลเชิงคาดการณ์ เพื่อลงพื้นที่ก่อนเกิดน้ำท่วมจริงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ขณะเดียวกัน ยังต่อยอดจากประสบการณ์การจัดตั้งศูนย์อพยพ เพื่อเป็นแนวทางให้ข้าราชการปฏิบัติงานและเป็นที่พึ่งพิงแก่ประชาชนยามเกิดเหตุ

"ทุกมาตรการต้องอาศัยการบูรณาการร่วมกับหลายกระทรวง และจะเห็นความชัดเจนของการดำเนินการในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนอย่างเป็นรูปธรรมและมุ่งเน้นประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก" นายไชยชนก กล่าว












กำลังโหลดความคิดเห็น