'ดีป้า' เผยดัชนีเชื่อมั่นดิจิทัล Q3/68 วูบเหลือ 46.9 ซอฟต์แวร์รอดกลุ่มเดียว เอกชนกังวลเศรษฐกิจฝืด นโยบายรัฐไม่ชัด จี้เร่งปั้นคน-อัดทุนดอกเบี้ยต่ำ หนุน SME ฝ่าวิกฤต
เมื่อวันที่ 18 ก.ย.68 ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล (Digital Industry Sentiment Index) ประจำไตรมาส 2 และ 3 ของปี 2568 โดยครอบคลุม 5 กลุ่มอุตสาหกรรมย่อย ได้แก่ กลุ่มฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ, กลุ่มซอฟต์แวร์, กลุ่มบริการด้านดิจิทัล, กลุ่มดิจิทัลคอนเทนต์ และกลุ่มโทรคมนาคม
ทั้งนี้ ดัชนีในไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ระดับ 46.9 ลดลงเล็กน้อยจาก 47.2 ในไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนถึงภาวะไม่เชื่อมั่น โดยมีปัจจัยลบหลายด้านที่กดดันดัชนี ไม่ว่าจะเป็นผลประกอบการที่ลดลง ปริมาณการผลิตและคำสั่งซื้อที่หดตัว รวมถึงการจ้างงานและการลงทุนที่ชะลอลง อย่างไรก็ตาม ต้นทุนในการประกอบการกลับปรับตัวดีขึ้น จึงเป็นปัจจัยบวกเพียงไม่กี่ประการในภาพรวม
ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่า การหดตัวของดัชนีในภาพรวมเป็นผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ประกอบกับหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ขณะเดียวกัน ประเทศไทยยังเผชิญการแข่งขันแย่งชิงการลงทุนในระดับภูมิภาค ขาดแคลนบุคลากรดิจิทัล และเผชิญความท้าทายจาก AI Disruption ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนบั่นทอนศักยภาพของภาคเอกชน ยิ่งไปกว่านั้น ความไม่มั่นใจในเสถียรภาพของนโยบายภาครัฐ และข้อพิพาทบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ก็ยิ่งซ้ำเติมความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนให้ลดต่ำลงอีก
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเชิงบวกที่ช่วยพยุงความเชื่อมั่นไม่ให้ทรุดหนักจนเกินไป เช่น มาตรการตรึงราคาพลังงาน การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เริ่มฟื้นตัว และความคืบหน้าในการเจรจาภาษีนำเข้ากับสหรัฐอเมริกา ซึ่งช่วยคลี่คลายความกังวลของภาคธุรกิจได้ระดับหนึ่ง
เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่ม พบว่า ในไตรมาส 3/2568 มีเพียงกลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เท่านั้นที่มีดัชนีสูงกว่าระดับ 50 โดยอยู่ที่ 52.7 ขณะที่อีก 4 กลุ่มที่เหลือล้วนต่ำกว่า 50 ทั้งสิ้น ได้แก่ กลุ่มฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ 39.0, กลุ่มบริการด้านดิจิทัล 48.1, กลุ่มดิจิทัลคอนเทนต์ 46.8 และกลุ่มโทรคมนาคม 46.5
ขณะเดียวกัน หากย้อนดูไตรมาส 2/2568 จะพบว่า มี 2 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีดัชนีเกินระดับ 50 ได้แก่ กลุ่มซอฟต์แวร์ 52.3 และกลุ่มโทรคมนาคม 51.8 ส่วนอีกสามกลุ่มยังคงต่ำกว่าระดับ 50 ไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือ กลุ่มฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ 38.5, กลุ่มบริการด้านดิจิทัล 48.1 และกลุ่มดิจิทัลคอนเทนต์ 46.4
"ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยคาดหวังให้ภาครัฐเร่งพัฒนากำลังคนดิจิทัลภายในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมนี้โดยตรง พร้อมทั้งเสนอให้รัฐส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางธุรกิจ และเปิดโอกาสให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง นอกจากนี้ ยังควรเร่งเพิ่มขีดความสามารถของกลุ่มธุรกิจ SME เพื่อให้ปรับตัวได้ทันต่อโครงสร้างเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ควบคู่ไปกับการผลักดันกิจกรรมทางการตลาด และการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ" ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าว
ผู้สนใจสามารถติดตามผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล ไตรมาส 2 และ 3 ประจำปี 2568 ผ่านช่องทางการสื่อสารของ ดีป้า ไม่ว่าจะเป็น www.depa.or.th/th/depakm/digital-indicators, LINE OA: depaThailand และเพจเฟซบุ๊ก depa Thailand