ปี 2568 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับทุกธุรกิจ โดยเฉพาะบทบาทของ CIO ที่ไม่ได้เป็นแค่คนดูแลระบบ IT อีกต่อไป แต่ต้องเป็น “ผู้นำเชิงกลยุทธ์” ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนองค์กร
ในมุมของฟูจิตสึ ตอนนี้คือเวลาของ CIO ที่ต้องลุกขึ้นมานำองค์กรอย่างมีเป้าหมาย ใช้เทคโนโลยีเป็นพลังขับเคลื่อน เปลี่ยนความท้าทายให้เป็นโอกาส แล้วพาธุรกิจไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนให้ได้
*** พลิกโฉมอนาคตธุรกิจ: ภารกิจสำคัญของ CIO ในปี 2568
การปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลอย่างรวดเร็วทั่วโลก ทำให้ปีนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับ CIO และผู้นำธุรกิจในเอเชียรวมถึงประเทศไทย ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงและนวัตกรรมที่เกิดขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง “เทคโนโลยี” ไม่ได้ทำหน้าที่แค่เพียงเครื่องมือสนับสนุนอีกต่อไป แต่เปรียบเสมือนเครื่องยนต์ที่ช่วยขับเคลื่อนกลยุทธ์ ความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน และการเติบโตในระยะยาวของธุรกิจ
ปัญหาและความท้าทายที่ฟูจิตสึพบบ่อยในองค์กรต่างๆ
จากประสบการณ์การทำงานร่วมกับลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ ตลอดกว่า 35 ปี ในประเทศไทย ฟูจิตสึได้พบ 4 ความท้าทายที่เกิดขึ้นในองค์กรต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง:
1. ระบบ IT ที่กระจัดกระจาย ไม่เชื่อมโยงกัน: ระบบ IT ที่ไม่เชื่อมต่อกันทำให้ไม่มีประสิทธิผล ข้อมูลไม่สอดคล้องกัน และจำกัดความสามารถในการเห็นภาพรวมเชิงธุรกิจอย่างรอบด้าน
2. ระบบ IT ที่ล้าสมัย: ฉุดรั้งธุรกิจและเปิดช่องโหว่สู่ความเสี่ยง การยึดติดกับระบบ IT เก่า คือ การแบกรับภาระที่หนักอึ้ง ทั้งความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เป็นภัยคุกคาม และข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพที่ฉุดรั้งการดำเนินงานและนวัตกรรมให้ล่าช้า
3. ความสับสนเรื่อง Multicloud: หลายองค์กรสามารถย้ายสู่ Multicloud ได้ แต่กลับล้มเหลวในการเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าสูงสุดจากการลงทุนเหล่านั้น
4. แหล่งข้อมูลที่กระจัดกระจาย: เมื่อข้อมูลกระจัดกระจายอยู่ในหลายระบบโดยไม่มีแหล่งข้อมูลจริงอยู่ที่แห่งเดียว ทำให้การตัดสินใจและการวิเคราะห์ขั้นสูงเป็นไปได้ยาก ความท้าทายเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงอุปสรรคทางเทคนิค แต่เป็นอุปสรรคเชิงกลยุทธ์ที่ขวางกั้น ทำให้องค์กรไม่สามารถใช้ศักยภาพได้อย่างเต็มที่ในตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงสูง
*** 5 ประเด็นสำคัญเชิงกลยุทธ์ สำหรับผู้นำ IT ที่พร้อมขับเคลื่อนอนาคตธุรกิจ:
จากรายงาน Gartner's 2025 CIO Agenda Global Data ได้สรุป 5 ประเด็นเชิงกลยุทธ์หลัก ที่จะช่วยให้ผู้นำด้าน IT สามารถสร้างผลลัพธ์ที่สำคัญและเป็นตัวขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กรในปี 2568
1. สร้างกลยุทธ์ IT แห่งอนาคต: พัฒนาแผนงานแบบองค์รวมเพื่อขจัดความซับซ้อนของระบบปัจจุบัน วางจุดยืนองค์กรให้พร้อมสำหรับการขยายตัวและสร้างสรรค์นวัตกรรม ด้วยการผสานรวมระบบอย่างราบรื่นและโครงสร้างพื้นฐานที่เปี่ยมประสิทธิภาพ
2. การจัดการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี: สร้างกรอบการทำงานที่แข็งแกร่ง ป้องกันภัยคุกคามที่เกิดขึ้นใหม่ ควบคู่ไปกับการใช้นวัตกรรม โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อม Multicloud ที่ซับซ้อน
3. การแสดงมูลค่าทางธุรกิจของการลงทุนด้าน IT: แปลงการลงทุนด้าน IT ให้เห็นผลลัพธ์ทางธุรกิจที่สามารถวัดผลได้อย่างชัดเจนผ่านตัวชี้วัดที่แม่นยำ คำนวณผลตอบแทนการลงทุน และวางแนวทางร่วมกันระหว่างโครงการต่างๆ ด้านเทคโนโลยีกับเป้าหมายทางธุรกิจ
4. ปรับโฉมและรวมระบบแอปพลิเคชันระดับองค์กร: ทะลายการทำงานแบบ silos ของ IT ด้วยแอปพลิเคชันที่ทันสมัย ที่ช่วยให้แพลตฟอร์มขององค์กรรวมเป็นหนึ่งเดียว สนับสนุนศักยภาพของธุรกิจให้ก้าวล้ำ พร้อมความท้าทายในอนาคต
5. พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลแบบโมดูลาร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI: ออกแบบระบบที่ยืดหยุ่น ขยายขนาดได้ และเป็นแบบโมดูลาร์ เพื่อสนับสนุนทั้งการดำเนินงานในปัจจุบัน นวัตกรรมในอนาคต โครงการ Modernization รวมถึงความสามารถด้าน Data & AI อย่างเต็มศักยภาพ
ประเด็นข้างต้นสอดคล้องกับความสำคัญในการลงทุนทางด้านเทคโนโลยีจากรายงานของ Gartner คือ การลงทุนด้าน Generative AI, Cybersecurity, Cloud Platforms, Application Modernization และ Business Intelligence & Data Analytics
***บทบาทเชิงกลยุทธ์ของ CIO: จากการเป็น “ผู้เปิดใช้งานระบบ” สู่การเป็น “ผู้นำ”
CIO ในยุคปัจจุบันก้าวข้ามบทบาทของผู้ดูแลเทคโนโลยีไปสู่ผู้นำเชิงกลยุทธ์ที่มีความสำคัญยิ่ง พวกเขาต้องรับภารกิจในการนำพาองค์กรฝ่าฟันความท้าทายอันซับซ้อน ผสานรวมกลยุทธ์ด้าน IT เข้ากับเป้าหมายทางธุรกิจอย่างลงตัว และสร้างมูลค่าที่วัดผลได้จริง นี่คือการมองการลงทุนด้านเทคโนโลยีในระยะยาว และการตั้งคำถามเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ เพื่อให้องค์กรพร้อมรับมือกับอนาคต
***คำถามสำคัญที่ CIO ต้องหาคำตอบ:
การขยายระบบคลาวด์: แพลตฟอร์มระบบคลาวด์ขององค์กรจะสามารถขยายขนาดได้และลดการกระจายตัวของระบบในขณะเดียวกันได้อย่างไร
การใช้ประโยชน์อย่างมีจริยธรรม: เราจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและข้อมูลอย่างมีความรับผิดชอบ และมีจริยธรรมได้อย่างไร
ความปลอดภัยทางไซเบอร์: องค์กรมีความพร้อมและปลอดภัยเพียงใดในการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง
ความพร้อมของแอปพลิเคชัน: แอปพลิเคชันขององค์กรมีความพร้อมที่จะรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในอนาคตหรือไม่
ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ: เราจะสร้างแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือเพียงแห่งเดียว (Single Source of Truth) เพื่อให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างแม่นยำได้อย่างไร
ฟูจิตสึ ประเทศไทย ทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อตอบคำถามเหล่านี้ ด้วยการนำเสนอโซลูชันที่ใช้งานได้จริงและขยายผลได้อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการนำ SAP มาใช้เพื่อช่วยขับเคลื่อนการปรับเปลี่ยนองค์กรและช่วยลดการกระจัดกระจายของระบบ การเชื่อมต่อ ServiceNow ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเวิร์กโฟลว์ดิจิทัลและปรับปรุงประสิทธิผลการดำเนินงาน แพลตฟอร์มระบบคลาวด์ที่มีความยืดหยุ่นและใช้ประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนใน Multicloud และการพัฒนา Data & AI ที่ช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดจากแหล่งข้อมูลจริงเพียงแห่งเดียวและการวิเคราะห์ขั้นสูง
***นวัตกรรมที่มีจุดมุ่งหมาย: เพื่อความยั่งยืนในอีก 100 ปีข้างหน้า
ตลอด 90 ปีของการทำงานในระดับโลก ฟูจิตสึ เชื่อว่าเทคโนโลยีควรช่วยสร้างผลประโยชน์มากกว่าการนำมาใช้งานเพียงอย่างเดียว นั่นคือ การยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างโอกาส และขับเคลื่อนสังคมที่ยั่งยืนมากขึ้น ฟูจิตสึสนับสนุนลูกค้าในประเทศไทยด้วยการแปลงแนวโน้มเทคโนโลยีระดับโลกให้เป็นกลยุทธ์ที่สร้างผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนและใช้งานได้จริง ผ่านการผสานความเชี่ยวชาญในระดับท้องถิ่นกับนวัตกรรมระดับโลก
ฟูจิตสึเชื่อว่าการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของการแก้ไขความท้าทายที่ขัดขวางองค์กร พร้อมทั้งสร้างความสำเร็จทางธุรกิจผ่านโซลูชันที่มุ่งเน้นผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง
***ถึงเวลาของการลงมือทำอย่างมีเป้าหมาย
ตอนนี้คือเวลาที่ CIO ต้องเป็นผู้นำด้วยการมีเป้าหมายที่ชัดเจน องค์กรที่จะเติบโตได้อย่างยั่งยืนในปี 2568 นี้และปีต่อไป คือ องค์กรที่จัดการกับความท้าทายได้พร้อมกับการสร้างศักยภาพสำหรับอนาคต
ด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะสม พันธมิตรที่เชื่อถือได้ และ การเผชิญหน้ากับความท้าทายอย่างมุ่งมั่น CIO สามารถเปลี่ยนความท้าทายทางเทคโนโลยีให้เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ พลิกโฉมองค์กรสู่การเติบโตที่ยั่งยืนและสร้างมูลค่าในระยะยาวได้อย่างแท้จริง.