xs
xsm
sm
md
lg

กสทช.ออกกฎห้ามครอบครองโดรนก่อนขึ้นทะเบียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กสทช.คุมเข้มโดรน ออกกฎใหม่ห้ามครอบครองก่อนขึ้นทะเบียน ล่าหมายเลขเครื่องบี้เจ้าของตัวจริง สกัดลอบใช้ก่อเหตุพื้นที่เสี่ยง-สอยโดรนเถื่อนพ้นน่านฟ้า

เมื่อวันที่ 25 ส.ค.68 พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกฎหมาย เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการแนวทางในการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีโทรคมนาคมและความมั่นคงของรัฐ โดยมีวาระสำคัญคือการหารือมาตรการรับมือภัยคุกคามจากการใช้โดรน และเครื่องบินบังคับที่ถูกดัดแปลงในลักษณะเดียวกัน ซึ่งอาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ

พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางการควบคุมการซื้อขายโดรนรูปแบบใหม่ โดยห้ามผู้ขายส่งมอบโดรนให้ผู้ซื้อทันทีหลังการชำระเงิน แต่ผู้ซื้อต้องนำใบเสร็จหรือใบสั่งซื้อไปยื่นขอขึ้นทะเบียนกับสำนักงาน กสทช. ก่อน หากผ่านการรับรองแล้วจึงสามารถนำใบรับรองกลับมารับสินค้าได้ภายหลัง มาตรการนี้ถูกเสนอขึ้นภายใต้สถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีการพบโดรนต้องสงสัยจำนวนมากบินในพื้นที่ชั้นใน และรบกวนการปฏิบัติงานของกองทัพ

มาตรการนี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบหมายเลขประจำเครื่อง (Serial Number) เพื่อเชื่อมโยงกับตัวตนเจ้าของที่แท้จริงของโดรนแต่ละลำ พร้อมทั้งเป็นกลไกควบคุมและกวาดล้างโดรนผิดกฎหมายที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญในการประชุม คือ ปัญหาเครื่องบินบังคับที่ถูกดัดแปลงให้มีลักษณะใช้งานเช่นเดียวกับโดรน โดยมีการปรับเพิ่มความถี่ให้ไกลขึ้น เสริมอุปกรณ์ถ่ายภาพ จนเข้าข่ายเดียวกันกับโดรน ซึ่งตามกฎหมายต้องมีการขึ้นทะเบียนเช่นเดียวกัน หากตรวจพบว่าครอบครองโดยไม่มีใบอนุญาตหรือขึ้นทะเบียน จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 มาตรา 6 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท

สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อโดรน ยังคงสามารถใช้ช่องทางการลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์สำนักงาน กสทช. ที่ https://anyregis.nbtc.go.th/ ได้เช่นเดิม โดยต้องสแกนใบเสร็จหรือใบสั่งซื้อ และรอรับผลการรับรองทางอีเมล เมื่อได้รับใบรับรองแล้วจึงสามารถนำไปขอรับสินค้าได้จากผู้จำหน่าย

พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงมาตรการควบคุมการใช้งาน ซิมแบบเติมเงินล่วงหน้า (Prepaid) หลังพบพฤติกรรมผิดปกติจากผู้ใช้งานจำนวนมาก ที่มีการเติมเงินเข้าไปในซิมระดับ 5,000-10,000 บาท และไม่นานหลังจากนั้นได้ขอคืนเงินกลับ โดยสงสัยว่าเงินเหล่านี้อาจเป็นเงินที่ได้จากการหลอกลวง หรือเป็นเงินผิดกฎหมายที่พยายามจะฟอกผ่านระบบของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่

เพื่อสกัดช่องโหว่นี้ ที่ประชุมได้หารือแนวทางป้องกันและตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย โดยหากพบเหตุอันควรสงสัย อาจมีการระงับการคืนเงินไว้ก่อนเพื่อตรวจสอบว่ามีเจตนาฟอกเงินหรือไม่ นอกจากนี้ยังอาจมีการเสนอให้ปรับกระบวนการคืนเงิน ให้ดำเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น ห้ามจ่ายคืนเป็นเงินสด เพื่อให้สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินได้อย่างโปร่งใส และสกัดการฟอกเงินของเครือข่ายมิจฉาชีพในอนาคต

สำหรับการประชุมครั้งนี้ มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ได้แก่ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB), ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และสมาคมธนาคารไทย








กำลังโหลดความคิดเห็น