Ledger ผู้ให้บริการด้านโซลูชันการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล ประกาศรุกตลาดสกุลเงินดิจิทัลในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้ง อาร์ทีบี เทคโนโลยี (RTB) เป็นตัวแทนจำหน่าย หวังยกระดับความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนชาวไทย พร้อมเปิดตัวฮาร์ดแวร์วอลเล็ต 4 รุ่น ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานทุกระดับ
ดร.บรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดคริปโตในไทยเติบโตอย่างมีนัยสำคัญและคาดว่าจะมีผู้ถือครองเพิ่มขึ้นกว่า 2 ล้านรายภายในปี 2568 ทำให้ผู้ใช้งานตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้อง Private Key ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์เพิ่มสูงขึ้น
“การได้รับความไว้วางใจจาก Ledger ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เป็นอีกก้าวสำคัญของอาร์ทีบีฯ ในการขยายพอร์ตโฟลิโอสู่กลุ่มเทคโนโลยีความปลอดภัยดิจิทัล เราพร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและบริการหลังการขายที่ดีที่สุด เพื่อให้นักลงทุนชาวไทยมั่นใจในการปกป้องสินทรัพย์"
เอียน โรเจอร์ส (Ian Rogers) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสบการณ์ลูกค้า Ledger กล่าวเสริมว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญอย่างยิ่ง ด้วยอัตราการถือครองคริปโตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 40% ความร่วมมือกับอาร์ทีบีฯ จะช่วยให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของเราได้ง่ายขึ้น และสามารถจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยจากภัยคุกคามทุกรูปแบบ
สำหรับ 4 ผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์วอลเล็ตจาก Ledger ประกอบด้วย Ledger Stax มาพร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ E Ink โขนาด 3.7 นิ้ว ดีไซน์พรีเมียม ปรับแต่งหน้าจอด้วย NFT สริมความปลอดภัยขั้นสูงสุดด้วยชิป Secure Element ระดับ CC EAL6+ รองรับการชาร์จไร้สาย Qi ใน ราคา 16,800 บาท
ตามด้วย Ledger Flex ดีไซน์กะทัดรัด พร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับสูงเทียบเท่ารุ่น Stax (ชิป CC EAL6+) รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุดในขนาดที่พกพาสะดวก
ราคา 10,480 บาท
ส่วน Ledger Nano X เน้นตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และแบตเตอรี่ในตัวมาพร้อมชิปความปลอดภัย CC EAL5+ ราคา 6,280 บาท และ Ledger Nano S Plus รุ่นคุ้มค่ามาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ และชิปความปลอดภัยระดับสูงสุด CC EAL6+ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น ราคา 3,320 บาท
ทั้งนี้ ฮาร์ดแวร์วอลเล็ต Ledger ทั้ง 4 รุ่น วางจำหน่ายผ่าน Dot Life (.Life) สาขาสยามพารากอนและเซ็นทรัลเวิลด์, Tech House by Dotlife, King Power, B2S เมกาบางนา และช่องทางออนไลน์อย่างเป็นทางการที่ Bitkub Academy, NocNoc, Lazada LazMall, Shopee Mall และเว็บไซต์ของอาร์ทีบี เทคโนโลยีฯ