xs
xsm
sm
md
lg

AIS Infinite SMEs เดินหน้าสร้าง Ecosystem เสริมแกร่งผู้ประกอบการไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ดร.ศรีหทัย พราหมณี
AIS เตรียมความพร้อมผลักดันผู้ประกอบการ SMEs ไทย ให้เติบโต ต่อยอดความสำเร็จกว่า 15 ปี จากโครงการ “AIS The StartUp” ผ่านแนวคิด เปลี่ยนมุมมองจาก "ช่วยเหลือ" สู่การเป็น "พันธมิตร" (Partnership) ที่จะร่วมมือและเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในทุกมิติ

ดร.ศรีหทัย พราหมณี ผู้จัดการโครงการ AIS Infinite SMEs ให้สัมภาษณ์ว่า ในอดีต คำว่า “พาร์ทเนอร์ชิป” อาจหมายถึงองค์กรใหญ่จับมือกับองค์กรใหญ่ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เอไอเอสมองเห็นว่า Startup หรือ SMEs ก็มีศักยภาพ และความเก่งที่ไม่แพ้กัน จะต่างกันเพียงแค่ขนาดของธุรกิจและกระบวนการทำงาน

“เป้าหมายของ AIS Infinite SMEs คือทำอย่างไรให้องค์กรที่เล็กกว่าสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเรามองเขาเป็นพาร์ทเนอร์กับเอไอเอส บนแนวคิดของการร่วมมือเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปด้วยกัน”

ดร.ศรีหทัย เล่าถึงตัวอย่างหนึ่งในผู้ประกอบการสตาร์ทอัปที่ผันตัวมาเป็น SMEs และประสบความสำเร็จชัดเจน คือ FlowAccount จากเดิมที่บริษัทมีพนักงานเพียง 5-6 คน ปัจจุบันได้เติบโตจนมีพนักงาน 60-70 คน และสร้างรายได้จากหลักหมื่นสู่ระดับหลายร้อยล้านบาทต่อปี

FlowAccount นับเป็นสตาร์ทอัปที่เกิดจากโครงการ AIS The StartUp ก่อนต่อยอดความร่วมมือกับทาง AIS สร้างความแตกต่างของแพลตฟอร์มบริหารจัดการบัญชีที่ทุกองค์กรสามารถเข้าถึง และใช้งานได้ง่าย ตั้งแต่ธุรกิจรายย่อย ไปจนถึงองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่


ขณะเดียวกัน ภายใต้กลยุทธ์ “3 เชื่อม และ 3 ส" AIS Infinite SMEs ได้ขยับบทบาทจากการเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล สู่ “Growth Enabler” ผ่านการ เชื่อมเทคโนโลยี นำจุดแข็งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และเทคโนโลยี เช่น Cloud และ AI เข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพให้ SMEs เกิดประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนที่คุ้มค่า

รวมถึงการเชื่อมพันธมิตร สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และเชื่อมตลาด ในการช่วย SMEs ขยายตลาดสู่เวทีโลกผ่านเครือข่ายพันธมิตรอย่าง Bridge Alliance ซึ่งมีโอเปอเรเตอร์กว่า 40 รายทั่วโลก

ตามด้วยกลยุทธ์ 3 ส คือ เสริม ในการเสริมทักษะที่ใช่สำหรับ SMEs ในการทำธุรกิจบนโลกดิจิทัล สร้าง ระบบที่เป็นมาตรฐานจากโซลูชันของ AIS เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต และ สยายปีก ผลักดันให้ธุรกิจขยาย และเติบโตไปได้อย่างก้าวกระโดด

โดยหลังจากที่เปิดตัวโครงการ AIS Infinite SMEs ได้มีผู้ประกอบการกว่า 400 ราย สมัครเข้าร่วมโครงการ Transformative Infinite SMEs ที่มุ่งส่งเสริมผู้ประกอบการ และทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ ที่ครอบคลุมทั้งด้านเทคโนโลยี กลยุทธ์ทางธุรกิจ และเชื่อมโยงกับเครือข่ายพันธมิตร โดยได้คัดเลือก 30 ผู้ประกอบการเพื่อนำร่องหลักสูตร และต่อยอดโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

“โครงการนี้เหมือนเป็นรุ่นที่ 0 ซึ่งจัดขึ้นภายใน 2 เดือน ที่เกิดขึ้นเพื่อรับฟังความต้องการของผู้ประกอบการที่เข้าร่วม ก่อนที่เราจะนำไปปรับปรุงเป็นรูปแบบหลักสูตรที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มผู้ประกอบการ อย่างกลุ่มผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้น กลุ่ม SMEs ที่เป็นผู้ก่อตั้ง หรือทายาทธุรกิจ ก่อนขยายผลต่อเนื่องในปีถัดไป”

ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ
เป้าหมายหลักของโครงการนี้ คือการทรานฟอร์มผู้ประกอบการสู่การเป็นพาร์ทเนอร์กับ AIS ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยให้เติบโตจนสามารถจดทะเบียนบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ได้ หรือการปรับตัวของกลุ่มทายาทธุรกิจที่สามารถเติบโตต่อเนื่องเมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป

ดึง SET - AFBE เปิดไอเดีย ส่งเสริม SMEs


ศุภกร เอกชัยไพบูลย์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนาบริการด้านความยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET มีภารกิจสำคัญในการสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ที่จะเติบโตกลายมาเป็นฐานรากของภาคเศรษฐกิจไทยในอนาคต ผ่านการให้ความรู้ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการ

หนึ่งในเทรนด์สำคัญที่เกิดขึ้นเวลานี้คือการให้ความสำคัญกับด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม (ESG) ที่ผู้ประกอบการควรต้องปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการปฏิบัติโดยตรง หรือการเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทาน เนื่องจากการจะเติบโตเป็นองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ย่อมต้องผ่านมาตรฐานทั้งหมด

ศุภกร เอกชัยไพบูลย์
“การให้ความสำคัญกับ ESG ยังเปิดโอกาสทางธุรกิจให้แก่ SME ที่สามารถเปลี่ยนภาระด้านความยั่งยืนมาเป็นโอกาสทางธุรกิจ ผ่านการใช้เครื่องมือที่เหมาะสม รวมถึงยังสามารถใช้เพื่อเข้าถึงแหล่งทุนสีเขียว อย่างการยื่นขอสินเชื่อที่เกี่ยวกับความยั่งยืนที่มีดอกเบี้ยต่ำ ช่วยให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้”

ขณะที่ แววตา ปราชญ์เมธีกุล กรรมการและเลขานุการสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจครอบครัว (AFBE) และ Founder & Chairman บลน. ยูเนี่ยน เว็ลธ์ จำกัด ให้ข้อมูลเสริมถึงกลุ่มผู้ประกอบการที่เป็นทายาทธุรกิจ และกำลังเผชิญกับความท้าทายในการทำให้ธุรกิจครอบครัวอยู่ได้อย่างยั่งยืน

แววตา ปราชญ์เมธีกุล
“ปัญหาหลักที่ทายาทธุรกิจในไทยเจอในเวลานี้ จะมีทั้งในเรื่องของธุรกิจเดิมที่ถึงเวลาต้องมีการเปลี่ยนผ่าน หรือปรับปรุงให้ทันสมัย แต่มักจะติดขัดในเรื่องของการทรานฟอร์มจากการที่คุยกันคนละภาษาจากความแตกต่างกันระหว่างรุ่น รวมถึงปัญหาใหญ่เลยคือพ่อแม่กลัวลูกลำบาก ไม่กล้าปล่อยให้ลูกได้ลองผิดลองถูก และไม่มีการบริหารความมั่งคั่ง”

ทางแก้ที่ทำได้ทันทีเลยคือ สร้าง Sandbox ให้ลูกหลานได้ทดลอง ด้วยการบริหารสินทรัพย์ของครอบครัวให้ชัดเจน แบ่งงบประมาณส่วนหนึ่งออกมาเพื่อลองกับโปรเจกต์ใหม่ๆ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะกระทบกับธุรกิจหลัก ถัดมาคือการแยกบทบาทของ เจ้าของ (Ownership) และผู้บริหาร ออกจากกัน และหานักบริหารมืออาชีพเข้ามาดูแลธุรกิจแทนเพื่อการเติบโตของธุรกิจอย่างมีศักยภาพและยั่งยืน

“AIS เชื่อว่าธุรกิจจะเติบโตอย่างยั่งยืนได้ ทุกภาคส่วนต้องเติบโตเคียงข้างกัน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยที่มั่นคงและแข็งแรง โดย AIS Infinite SMEs พร้อมนำศักยภาพขององค์กรใหญ่มาอัพสกิล เป็นเพื่อนคู่คิด และเคียงข้างผู้ประกอบการ SME ไทย เพื่อการเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัดร่วมกัน” ดร.ศรีหทัย กล่าวทิ้งท้าย

ผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดเกี่ยวกับการสนับสนุนและทรานส์ฟอร์ม SMEs สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ais.th/infinite-smes และ https://www.facebook.com/AISInfiniteSMEs


กำลังโหลดความคิดเห็น