EMS ปัง! ไปรษณีย์ไทยรายได้พุ่ง 10% ครึ่งปีแรก ตีตลาด e-Commerce แตก กลยุทธ์แม่น ขยายบริการเฉพาะทาง กวาดลูกค้าครองใจทั้งประเทศ
เมื่อวันที่ 13 ส.ค.68 ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริการเรือธงอย่างส่งด่วน EMS ในประเทศ ในช่วงครึ่งปีแรกปี 2568 มีทิศทางการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้เติบโตจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 ถึง 10% และคิดเป็น 43.31% ของรายได้รวมองค์กรทั้งหมด ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงความมั่นใจด้านการส่งด่วนของภาคประชาชน และภาคธุรกิจในหลายๆ พื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ส่งส่วน EMS ในประเทศเติบโตขึ้นมาจากการให้ความสำคัญด้านคุณภาพบริการ โซลูชันตอบโจทย์ผู้ใช้บริการที่หลากหลาย การออกแบบระบบขนส่งให้สอดคล้องกับพัสดุ ตั้งแต่แพ็กเกจจิ้งจนถึงระบบการขนส่ง เช่น ส่งของชิ้นใหญ่ ส่งต้นไม้ ส่งของสดการให้บริการที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะจากกลุ่มอีคอมเมิร์ซ และกลุ่มตัวแทนที่ให้บริการรับฝากส่งสิ่งของ (Consolidator / Agent) ราคาที่ช่วยให้ผู้ใช้บริการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาบริการรองรับสิ่งของมูลค่าสูง (High Value) เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าในตลาดใหม่ เช่น กลุ่มธุรกิจค้าขายทองคำ การพัฒนาระบบการให้บริการขนส่งผลไม้ พันธุ์ไม้ และผลผลิตทางการเกษตร
"แม้การแข่งขันในตลาดขนส่งพัสดุจะยังคงรุนแรง แต่การที่ไปรษณีย์ไทยสามารถสร้างรายได้ EMS เติบโตถึง 10% จากการปรับกลยุทธ์ด้านคุณภาพ ราคา บริการ และระบบสนับสนุนในครึ่งปีแรก 2568 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลง และกลายเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่เข้าใจตลาดอย่างแท้จริง ซึ่งมาจากการวิเคราะห์เชิงลึกว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มต้องการอะไรและจะวางระบบบริการและราคาที่เหมาะสมอย่างไรเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนมากกว่าการแข่งขันด้านต้นทุนเพียงอย่างเดียว" ดร.ดนันท์ กล่าว
สำหรับแนวทางการดำเนินงานในไตรมาส 3 และ 4 ไปรษณีย์ไทยยังมุ่งรักษาการเติบโต และความเป็นผู้นำบริการส่งด่วนที่เข้าใจตลาดอย่างแท้จริง โดยเตรียมดำเนินกลยุทธ์ดังนี้
• ขยายการให้บริการ EMS ที่ออกแบบเฉพาะกลุ่มพร้อมพัฒนาแพ็กเกจบริการที่สอดคล้องกับลักษณะสินค้าเฉพาะทาง เช่น ยาและเวชภัณฑ์ สินค้าในกลุ่มที่ต้องการการจัดส่งแบบปลอดภัย หรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานสั้น รวมทั้งกลุ่มสินค้าเกษตรและผลไม้ซึ่งปัจจุบันกำลังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
• ขยายจุดบริการ EMS Point ตามแหล่งชุมชนและคอมมูนิตี้ที่เป็นแหล่งรวมธุรกิจอีคอมเมิร์ซเพื่อเพิ่มช่องทางการฝากส่งที่สะดวกและรองรับการเติบโตในระดับพื้นที่ ทั้งรูปแบบของร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าชุมชน คาเฟ่ เป็นต้น
• ตอกย้ำจุดแข็งด้านต้นทุนและมาตรฐานความรวดเร็ว ผ่านการพัฒนาแพ็กเกจบริการ EMS ที่ช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายให้ภาคธุรกิจโดยปรับโครงสร้างราคาที่คิดตามน้ำหนักจริงในอัตราเดียวทั่วประเทศ พร้อมอัตราพิเศษสำหรับกลุ่มผู้ค้าออนไลน์และภาคธุรกิจที่มีปริมาณการส่งสูง โดยคงจุดเด่นด้านความรวดเร็วในการจัดส่งภายใน 1–2 วัน พร้อมมาตรฐานการบริการเดียวกันทั่วประเทศ