กสทช.ตีตกบทลงโทษ 'AIS-TRUE' หากปูโครงข่ายไม่ครอบคลุมใน 5 ปี สภาผู้บริโภคเศร้า คนซื้อคลื่นจ่ายแล้ว แต่คนใช้ยังเสี่ยงไม่มีสัญญาณ
เมื่อวันที่ 30 ก.ค.68 ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กสทช. พิจารณาข้อเสนอจากอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้เพิ่มเงื่อนไขแนบท้ายในประกาศ กสทช. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่าน 850 MHz, 1500 MHz, 2100 MHz และ 2300 MHz ภายหลังการประมูลเมื่อวันที่ 29 ก.ค.68 แต่ผลลงมติไม่ผ่าน เนื่องจากมีเสียงเห็นชอบเพียง 3 รายจากกรรมการทั้งหมด
ข้อเสนอดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะสภาองค์กรของผู้บริโภคที่เคยเรียกร้องให้ใส่บทลงโทษ กรณีผู้รับใบอนุญาตขยายโครงข่ายไม่ครอบคลุมตามกำหนดใน 5 ปี และให้กำหนดอัตราค่าปรับรายวันอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ในที่ประชุมมีกรรมการลงคะแนนเห็นชอบเพียง 3 ราย ได้แก่ รศ.ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช.ด้านกิจการโทรทัศน์, รศ.ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย กรรมการ กสทช.ด้านเศรษฐศาสตร์ และ พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กสทช.ด้านกิจการกระจายเสียง
ขณะที่ กรรมการอีก 4 รายงดออกเสียง ได้แก่ ประธาน กสทช., พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการ กสทช.ด้านกฎหมาย, นายต่อพงศ์ เสลานนท์ กรรมการ กสทช.ด้านการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน และ รศ.ดร.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการ กสทช.ด้านกิจการโทรคมนาคม ทำให้คะแนนเห็นชอบไม่ถึงครึ่งขององค์คณะ จึงไม่สามารถผ่านมติได้
ทั้งนี้ รศ.ดร.สมภพ ให้เหตุผลในประชุมว่า กฎหมายและประกาศเดิมเปิดช่องทางให้ กสทช. ใช้มาตรการทางปกครองหรือเพิ่มบทลงโทษได้อยู่แล้วหากผู้รับใบอนุญาตไม่ปฏิบัติตาม ขณะเดียวกันกรรมการบางรายจะจัดทำคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรส่งภายหลัง
สาระของเงื่อนไขที่เสนอ คือ หากผู้ได้รับใบอนุญาตไม่ให้บริการครอบคลุมมากกว่า 90% ของประชากรในแต่ละตำบลภายใน 5 ปี จะถูกปรับเป็นรายวันในอัตรา 0.05% ของราคาประมูลสูงสุดตลอดช่วงเวลาที่ล่าช้า แนวทางนี้เคยใช้ในช่วงปี 2555–2562 แต่ไม่ได้ระบุในประกาศปี 2568 แม้ท้ายประกาศจะเปิดทางให้คณะกรรมการเพิ่มเติมภายหลังได้
สำหรับผลการประมูลครั้งล่าสุด ผู้ได้รับใบอนุญาต ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) ในเครือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ได้คลื่นย่าน 2100 MHz จำนวน 3 ชุด มูลค่ารวม 14,850 ล้านบาท และบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TUC) ในเครือบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ได้คลื่นย่าน 2300 MHz จำนวน 7 ชุด มูลค่า 21,770 ล้านบาท และย่าน 1500 MHz จำนวน 4 ชุด มูลค่า 4,653 ล้านบาท ทั้งสองบริษัทชำระค่าคลื่นความถี่งวดแรก 50% แล้วเมื่อวันที่ 29 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ใบอนุญาตมีอายุตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.68 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม แม้ กสทช. มีนโยบายคุมอัตราค่าบริการขั้นสูง (net tariff cap) และกำกับค่าบริการเสริม (VAS) อย่างเข้ม การไม่ผ่านข้อเสนอเพิ่มบทลงโทษในใบอนุญาตอาจกระทบความเชื่อมั่นของสาธารณะต่อกลไกคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคในระยะยาว โดยเฉพาะประเด็นความครอบคลุมโครงข่ายตามกรอบเวลา 5 ปีข้างหน้า