xs
xsm
sm
md
lg

Meta เปิดเกมรุก AI ชูโซลูชันปั้นธุรกิจโต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



Meta ชูโซลูชันขับเคลื่อนธุรกิจด้วย AI พบหลังเปิดใช้งานเครื่องมือ AI ช่วยสร้างแคมเปญโฆษณา ปริมาณการทำแคมเปญสูงขึ้นถึง 30% รวมถึงเพิ่มระยะเวลาใช้งานทั้ง Facebook และ Instagram ของผู้ใช้เพิ่มขึ้น 7% และ 6% ตามลำดับ

แพร ดํารงค์มงคลกุล Country Director ของ Facebook ประเทศไทย ให้ข้อมูลถึงทิศทางการนำ AI มาช่วยในการทำธุรกิจ ซึ่งจากผลสำรวจที่พบว่า ภายในปีนี้ 90% ของบริษัททั่วโลก จะมีการใช้ AI เป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน จนทำให้ AI เข้ามาเปลี่ยนเกมในภาพกว้างของอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ การ์ทเนอร์ ก็คาดการณ์ว่าภายในปี 2027 จะเริ่มเห็น Generative AI กว่า 50% ที่จะถูกพัฒนาให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละอุตสาหกรรมด้วย ด้วยการมี AI ที่หลากหลาย มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งในมุมของ Meta ก็เริ่มนำ AI มาใช้ในการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง

“ปัจจุบัน Meta มีการลงทุนใน AI ไปแล้วกว่า 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อพัฒนาการใช้ AI แบบมีความรับผิดชอบ รวมถึงการพัฒนาโมเดล Llama ที่เป็นแบบ Open Source เพื่อเปิดทางให้นักพัฒนา หรือองค์กรธุรกิจสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้”

โดยที่ผ่านมา การเข้าถึง AI ของผู้ใช้งาน Meta ที่มีผู้ใช้งาน 3.43 พันล้านคนต่อวัน ถือว่าสูงมาก เพราะมีการผสมผสาน AI เข้าไปอยู่ในทุกส่วนของแพลตฟอร์ม จนถึงมีแอปฯ AI แยกออกมาเพื่ออำนวยความสะดวกของผู้ใช้งาน ที่สำคัญคือการนำ AI มาใช้ส่งผลต่อการใช้งานของผู้บริโภคที่ใช้เวลาบน Facebook เพิ่ม 7% และ Instagram เพิ่ม 6%

ในฝั่งของภาคธุรกิจ หลังจากมีการเปิดตัวเครื่องมือ Meta Advantage+ Campaigns ที่ใช้ AI มาช่วยในการหาลูกค้าเป้าหมาย พร้อมปรับงบประมาณ และช่องทางในการยิงแอด ช่วยให้สามารถใช้งบประมาณลดลง และได้ลูกค้ากลับมาเพิ่มขึ้น

“ใน Meta ตอนนี้ อยากให้ธุรกิจเริ่มนำ AI โซลูชัน มาใช้ในการทำงาน เพื่อร่วมกันพัฒนาให้เก่งขึ้น ซึ่งในอนาคต เครื่องมือ AI จะถูกพัฒนาไปจนถึงขั้นที่ผู้ประกอบการสามารถบอกได้ว่า ในอนาคตเน้นในเรื่องการสร้างรายได้ หรือเน้นผลกำไร เพื่อให้ AI เรียนรู้ และไปหากลุ่มลูกค้า เพื่อไปถึงเป้าหมายที่ธุรกิจต้องการ”

นอกจากการนำ AI มาช่วยในการทำแคมเปญโฆษณาแล้ว Meta ยังมีเครื่องมือ Generative AI สำหรับครีเอทีฟ ไปจนถึงเครื่องมือการให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ แนะนำแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม รวมถึงเครื่องมือในการช่วยจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มเป้าหมาย ที่จะช่วยสร้างมูลค่าทางธุรกิจ

ส่วนในอนาคต จะเริ่มมีการนำ Meta GEM ที่เป็นโมเดลแนะนำโฆษณาแบบสร้างสรรค์ของ Meta (Generative Ads Recommendation Model – GEM) ซึ่งสามารถประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถปรับโฆษณาให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพของโฆษณาและความแม่นยำในการกำหนดเป้าหมาย

รวมถึง Meta Andromeda โมเดลการคาดการณ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของ Meta ช่วยปรับแต่งโฆษณาให้เหมาะกับแต่ละบุคคล โดยสามารถระบุประเภทของโฆษณาและคอนเทนต์ที่มีแนวโน้มจะให้ผลลัพธ์ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้แต่ละราย


กำลังโหลดความคิดเห็น