xs
xsm
sm
md
lg

AWS ปักธงสิงคโปร์เปิดศูนย์นวัตกรรม อัดฉีดเพิ่มจากงบเดิม 3 แสนล้านบาทถึงปี 2028

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอดับลิวเอส (Amazon Web Services) หรือ AWS เปิดตัว Innovation Hub แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ณ สำนักงานบริษัทในใจกลางเมืองสิงคโปร์ อุบเงียบเงินลงทุนศูนย์ขนาด 8,000 ตารางฟุตมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ ระบุเพียงว่าเป็นส่วนเพิ่มเติมจากที่ประกาศลงทุน 12,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์หรือราว 3 แสนล้านบาทถึงปี 2028 มั่นใจฮับนวัตกรรมออกแบบมาพิเศษเพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ ทั่วภูมิภาคเร่งการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล ผ่านการสาธิตแบบลงมือปฏิบัติจริงของเทคโนโลยีคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์

สิ่งที่น่าสนใจคือศูนย์แห่งนี้มีตัวอย่างการใช้งานจริงมากกว่า 50 รูปแบบ ที่ AWS พัฒนาร่วมกับบริษัทแม่อย่างแอมะซอน (Amazon) และพันธมิตรกว่า 30 ราย ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมตั้งแต่บริการทางการเงิน เกษตรกรรม การผลิต ไปจนถึงความปลอดภัยสาธารณะ

เจมี่ วัลเลส (Jaime Vall?s) รองประธาน AWS เอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น
เจมี่ วัลเลส (Jaime Vallés) รองประธาน AWS เอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น กล่าวว่าการลงทุนใน Innovation Hub นี้ เป็นการลงทุนเพิ่มเติม (On Top) ไม่ได้รวมอยู่ในงบลงทุน 12,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ ซึ่งในขณะที่กำลังพูดถึงการลงทุนระดับหลายล้านดอลลาร์ แต่การลงทุนที่สำคัญที่สุดคือการลงทุนในอนาคตเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่ทำไปจะเกิดผลในระยะยาว

"AWS Innovation Hub ช่วยเสริมพลังให้ลูกค้าของเราเปลี่ยนแนวคิดใหญ่ให้กลายเป็นผลลัพธ์ทางธุรกิจที่เป็นจริง โดยการผสมผสานเทคโนโลยีคลาวด์และ AI ที่ครอบคลุม ความเชี่ยวชาญที่พิสูจน์แล้วจากเครือข่ายพันธมิตรกว่า 140,000 รายทั่วโลก และวัฒนธรรมนวัตกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของ Amazon"

การจัดแสดงโซลูชัน Automated Dynamic Response Operations ของ Surbana Jurong ที่สร้างด้วย AWS ที่ AWS Innovation Hub แห่งใหม่ในสิงคโปร์
เจมี่ยืนยันว่าการคัดเลือกโซลูชันมาจัดแสดงที่ศูนย์นี้ไม่ได้เกิดจากการผลักดันเทคโนโลยี แต่เกิดจากการดึงความต้องการของลูกค้า, โอกาสในอุตสาหกรรม, และข้อมูลจากพาร์ทเนอร์ มาสร้างเป็นโซลูชันต้นแบบเพื่อจุดประกายไอเดีย และไม่เพียงยึดจากความต้องการของลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญ แต่ยังเลือกจากอุตสาหกรรมหลักที่เห็นชัดว่า Generative AI กำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง รวมถึงเป็นจุดที่ AWS เห็นโอกาสในการสร้างนวัตกรรม ซึ่งบางโซลูชันก็มาจากตัวอย่างความสำเร็จจริง เช่น กรณีศึกษาของธุรกิจค้าปลีกที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ลูกค้า

AWS จึงออกแบบให้ศูนย์นี้ประกอบด้วยประสบการณ์ 3 โซนหลัก คือ Aspiration, Acceleration และ Action ซึ่งจะปิดท้ายด้วยการออกแบบแผนผังการทำดิจิทัลทรานสฟอร์เมชันที่พัฒนาโดยใช้ Vision Builder ซึ่งเป็นเครื่องมือวางแผนที่ขับเคลื่อนด้วย Amazon Nova โมเดล AI ของ AWS เอง

สำหรับเทคโนโลยีน่าตื่นตาตื่นใจที่ AWS นำมาโชว์ที่ฮับนวัตกรรมนี้ ได้แก่ ระบบตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย AI จาก ST Engineering, แพลตฟอร์มบล็อกเชนสำหรับตลาดทุนของ Goldman Sachs, การสาธิต Project Kuiper โครงการดาวเทียมของ Amazon เพื่อขยายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในพื้นที่ด้อยโอกาส

นอกจากนี้ยังมี Amazon Rufus ผู้ช่วยช้อปปิ้ง AI ที่ใช้งานได้ในสหรัฐอเมริกา อินเดีย และญี่ปุ่น, ระบบเกษตรเทคโนโลยีจาก Netatech ของสิงคโปร์, โรงงานอัจฉริยะที่มีเทคโนโลยี digital twin และผู้ช่วย AI ในพื้นที่การผลิต รวมถึงระบบหุ่นยนต์ Amazon Robotics ที่ใช้ในศูนย์กระจายสินค้า โดยบริษัท Deloitte ยังได้นำเสนอโซลูชัน AI ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับหน่วยงานกฎหมายและการกำกับดูแลอีกด้วย

โชว์เคส “e-Bike Smart Factory“ ขณะสาธิตลักษณะการทำงานของสายพานการผลิตไฮเทคของ AWSe-Bikes ที่สามารถลดปัญหาสินค้าผลิตไม่ทันและไม่ได้คุณภาพ ด้วยเทคโนโลยีของ AWS
เบื้องต้น AWS วางแผนจะต้อนรับผู้นำธุรกิจกว่า 1,000 คนและนักศึกษาระดับอุดมศึกษา 200 คนต่อปี โดยการจัดแสดงจะหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงเป็นประจำเพื่อสะท้อนเทคโนโลยีใหม่และความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป เชื่อว่าศูนย์แห่งนี้จะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับ AWS ที่ได้สร้างสตูดิโอ Builders Studio แล้วในเมลเบิร์น รวมถึงศูนย์ Generative AI Innovation Center และ Gen AI Lofts ในเบงกาลูรูและโซล ซึ่งอาจมีการขยายไปยังโอซาก้าในอนาคต

ต้นไม้ AWS Innovation Tree ในศูนย์ AWS Innovation Hub แห่งใหม่ที่สิงคโปร์
แม้ว่าฮับแห่งนี้เป็นศูนย์กลางสำหรับทั้งภูมิภาค APJ (เอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น) แต่ก็ดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก จุดนี้ เจมีย้ำว่าฮับนี้เรียกความสนใจจากหลายประเทศ โดยเป้าหมายสูงสุดของการเยี่ยมชมศูนย์นี้ไม่ใช่แค่ให้ลูกค้ามาดูแล้วกลับไป แต่คือการให้ทุกคนเข้าสู่กระบวนการระดมสมอง เรียนรู้ และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องรู้ว่าจะกลับไปทำให้มันเกิดขึ้นจริงได้อย่างไร เรียกว่าเมื่อกลับไปแล้วควรต้องมีแผนงานที่ชัดเจนเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง

"เรามีลูกค้าจากสิงคโปร์, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ นี่คือ Hub สำหรับทั้งภูมิภาค APJ ทั้งหมด เรามีลูกค้าที่จองคิวมาจากเกาหลี, ญี่ปุ่น และมีลูกค้าจากเยอรมนีด้วยซ้ำที่จะเดินทางมา ทุกคนไม่ได้ต้องการมาดูแค่เทคโนโลยี แต่ต้องการมาคุยกับเราเรื่องปัจจัยด้านคน (People Factor) และวัฒนธรรมองค์กร (Culture Factor) ด้วย"

ระบบ Smart Stores โซลูชั่นคลาวด์ AWS สำหรับร้านค้าอัจฉริยะ
เมื่อถามว่าทำไมต้องเป็นสิงคโปร์? ผู้บริหาร AWS ยกฐานะศูนย์กลางภูมิภาค (Regional Hub) มาเป็นคำตอบ โดยบอกว่าสิงคโปร์คือหัวใจของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น (APJ) เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เชื่อมต่อกับตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ขณะเดียวกันก็มีระบบนิเวศเศรษฐกิจ Ecosystem ที่แข็งแกร่ง มีความพร้อมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล, บุคลากรที่มีทักษะ, และการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเต็มที่

ที่สำคัญ สิงคโปร์ยังเป็นประตูสู่เอเชีย เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคของบริษัทชั้นนำมากมาย ทำให้ง่ายต่อการสร้างความร่วมมือและเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ล่าสุด สิงคโปร์เป็น 1 ใน 3 ตลาดที่ AWS วางแผนลงทุนมากที่สุด 3 อันดับแรกหรือ Top 3 ของโลก โดย AWS วางแผนลงทุน 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในญี่ปุ่นภายในปี 2027 รองลงมาคือ 12,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ AWS วางแผนลงทุนในอินเดียภายในปี 2030 และอันดับ 3 คือ 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในสิงคโปร์ ซึ่งเทียบเท่ากับ 12,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 3 แสนล้านบาท.

ระบบทดลองสวมใส่เสมือนจริง Virtual Try-on ถูกนำมาโชว์ในศูนย์นวัตกรรมล่าสุดของ AWS


กำลังโหลดความคิดเห็น