กระหึ่มงาน Mobile World Congress Shanghai 2025 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Huawei ได้จัดงาน Mobile AI Summit โชว์ "กิกะแบนด์" (GigaBand) โซลูชันที่เริ่มใช้แล้วในฮ่องกง สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของ 5G ได้สูงถึง 2.28 เท่า ในขณะที่ยังคงรักษาประสบการณ์ผู้ใช้ 4G ให้คงเดิม
เหวิน คู่ (Wen Ku) ประธานสมาคมมาตรฐานการสื่อสารแห่งประเทศจีน (CCSA) กล่าวถึงประโยชน์ของ 5G-Advanced หรือ 5G-A ซึ่งล่าสุดมีการปรับปรุงประสิทธิภาพ uplink ของ 5G-A จนเชื่อว่าจะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาบริการปัญญาประดิษฐ์สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือ Mobile AI ในอนาคต โดยการให้บริการ AI แบบเรียลไทม์นั้นต้องการความเร็วในการส่งข้อมูลขึ้นอย่างน้อย 20 Mbps
“การรวม 5G-A และ AI เข้าด้วยกันเป็นหนึ่งในทิศทางสำคัญสำหรับการพัฒนาเครือข่ายการสื่อสาร ควรให้ความสำคัญกับการกำหนดมาตรฐาน การสร้างการรวมเครือข่ายอัจฉริยะ และการส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันผ่านระบบนิเวศ เพื่อบุกเบิกอนาคตของ AI บนอุปกรณ์เคลื่อนที่”
การผสานระหว่างเครือข่ายและบริการเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการสร้างรายได้จาก Mobile AI โดยบริษัทชั้นนำอย่าง Rokid, MiniMax และ Unitree Robotics ต่างเห็นตรงกันว่า AI agents กำลังขยายประสบการณ์จากการโต้ตอบผ่านหน้าจอสัมผัสไปสู่การโต้ตอบแบบหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสียง วิดีโอ และ spatial computing จุดที่น่าตื่นเต้นคือ AI กำลังบรรลุ bit rate ของเสียงและภาพที่สูงขึ้น รวมถึงความแม่นยำของโมเดลที่ดีขึ้น ดังนั้น 5G-A จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะผู้ให้บริการจะได้ประโยชน์จากเครือข่าย 5G-A ในการลดหน่วงเวลาระหว่างการโต้ตอบ
***นวัตกรรม GigaBand เปลี่ยนโลก
ในงานนี้ Huawei ได้เปิดตัวโซลูชัน GigaBand ที่ใช้เทคโนโลยี AIR pooling และ Optsolver สำหรับการจัดการทรัพยากร ทำให้เครือข่าย 5G-A สามารถพัฒนาไปสู่การรองรับบริการ AI ใหม่ๆ ได้อย่างราบรื่น
ตัวอย่างที่น่าประทับใจคือการใช้งาน GigaBand ในฮ่องกง ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของ 5G ได้สูงถึง 2.28 เท่า ในขณะที่ยังคงรักษาประสบการณ์ผู้ใช้ 4G ให้คงเดิม
ที่สุดแล้ว การพัฒนา 5G-A ร่วมกับ GigaBand และเทคโนโลยีนวัตกรรมอื่นๆ ประกอบกับความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมต่างๆ กำลังทำให้ Mobile AI กลายเป็นเครื่องยนต์ใหม่ที่ขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้ในอุตสาหกรรมโมบาย พร้อมมอบชีวิตดิจิทัลแบบใหม่ที่เต็มไปด้วยบริการอัจฉริยะให้กับผู้คนทั่วโลก
"ในฐานะผู้ให้บริการเทคโนโลยี 5G-A ชั้นนำ หัวเว่ยได้นำเสนอโซลูชัน GigaBand ด้วยการใช้งาน Air Interface Resource (AIR) Pooling และ Optimization Solver (Optsolver) สำหรับ AIR Orchestration ทำให้ GigaBand สามารถพัฒนาเครือข่าย 5G-A ได้อย่างราบรื่นเพื่อรองรับบริการ AI ใหม่ ๆ ซึ่งกำลังช่วยให้ผู้ให้บริการสร้างเครือข่ายที่ยืดหยุ่นซึ่งมีคุณสมบัติการรับประกัน SLA และปรับให้เข้ากับบริการที่หลากหลายและแตกต่างกัน เช่น การถ่ายทอดสด ผู้ช่วย AI บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ และคลาวด์เกมมิ่ง ตัวอย่างเช่น การปรับใช้ GigaBand ในฮ่องกงได้เปิดใช้งานการแบ่งปัน 4G/5G หลายแบนด์สำหรับความตั้งใจในการให้บริการที่แตกต่างกัน ทำให้ปริมาณงาน 5G เพิ่มขึ้นสูงสุด 2.28 เท่า ในขณะที่ยังคงรักษาประสบการณ์ผู้ใช้ 4G ที่เสถียร นี่เป็นประโยชน์อย่างมหาศาลสำหรับผู้ให้บริการเนื่องจากพวกเขาต้องการสร้างเครือข่าย 5G SA ที่มีประสิทธิภาพ อัจฉริยะ และประหยัดพลังงาน"
สำหรับงาน MWC Shanghai 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 มิถุนายน ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ในระหว่างงาน หัวเว่ยจัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันล่าสุดที่ฮอลล์ N1 ของศูนย์นิทรรศการนานาชาติแห่งใหม่เซี่ยงไฮ้ (SNIEC) ไฮไลท์คือการนำ 5G-Advanced มาใช้ในเชิงพาณิชย์ที่กำลังเพิ่มขึ้นในปี 2568.