xs
xsm
sm
md
lg

Kintone โชว์ยอดลูกค้าไทยพุ่ง 300%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วงการ Digital Transformation ในไทยแรงต่อเนื่อง ล่าสุด "Kintone ประเทศไทย" ประกาศตัวเลขผู้ใช้งานเติบโต 300% ในครึ่งแรกของปี 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

นายน้ำยา วายุภาพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Kintone (Thailand) จำกัด กล่าวว่าประเทศไทยมีความโดดเด่นในภูมิภาคอาเซียนด้วยโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่แข็งแกร่ง ประกอบกับการที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกได้เพิ่มการลงทุนในการจัดตั้งศูนย์ข้อมูล (Data Center) ในประเทศไทย ทำให้ไทยกลายเป็นจุดหมายสำคัญสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลขององค์กร แพลตฟอร์มคลาวด์อย่างคินโทนจึงกลายเป็นตัวเลือกหลักสำหรับธุรกิจที่ต้องการยกระดับระบบไอทีภายในองค์กรเหล่านี้ บริษัทภูมิใจที่โซลูชันของคินโทนได้ช่วยให้หลายองค์กรเปลี่ยนผ่านจากระบบดั้งเดิม เช่น การใช้กระดาษและแผ่นตารางทำการหรือสเปรดชีต มาสู่กระบวนการทำงานดิจิทัลที่ชาญฉลาดและคล่องตัวยิ่งขึ้น

"การเติบโตอย่างรวดเร็วของ Kintone ประเทศไทย สะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่งของตลาด เป้าหมายของบริษัทคือการนำ Kintone เข้าสู่องค์กรอย่างน้อย 500 แห่งในประเทศไทยภายในปีหน้า และ 1,000 แห่งในปี 2573 สิ่งที่ทำให้คินโทนแตกต่างคือความสามารถในการช่วยให้ผู้ใช้สร้างแอปพลิเคชันเวิร์กโฟลว์แบบกำหนดเองได้โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด บริษัทมองเห็นความสนใจที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจต่างๆ ในประเทศไทยที่มองหาเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและยืดหยุ่นเพื่อจัดการกระบวนการทำงานในหน่วยงาน และคินโทนตอบโจทย์นั้นได้"

น้ำยา วายุภาพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Kintone (Thailand) จำกัด
Kintone ถือเป็นแพลตฟอร์มการทำงานดิจิทัลบนคลาวด์ที่มาจากญี่ปุ่น พัฒนาโดย Cybozu ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้าน groupware ของญี่ปุ่น จุดเด่นคือให้คนทั่วไปสร้างแอปพลิเคชันเวิร์กโฟลว์ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด ซึ่งเมื่อประเทศไทยมีจุดแข็งเรื่องโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่แข็งแกร่ง การเติบโต 300% จึงเกิดขึ้นท่ามกลางช่วงเวลานี้ที่เทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกหลายบริษัทเพิ่มการลงทุนในศูนย์ข้อมูลในไทย

สำหรับแผนอนาคตที่ Kintone ตั้งเป้าท้าทายว่าต้องการให้บริการองค์กรในไทยอย่างน้อย 500 แห่งภายในปีหน้า และขยายเป็น 1,000 แห่งภายในปี 2573 ถือเป็นเป้าหมายที่สอดคล้องกับอุตสาหกรรมไทยที่มีการทำดิจิทัลทรานสฟอร์เมชันมากขึ้น โดยรวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารไทย เช่น เอราวัณฟูด, เจดีฟู้ด, รวมถึงเมืองนวัตกรรมอาหาร หรือ Food Innopolis ที่ได้เปลี่ยนจากการใช้กระดาษและสเปรดชีตแบบเก่า ๆ มาเป็นระบบดิจิทัลที่ชาญฉลาดแล้ว

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ Kintone พยายามปรับบริการให้เข้ากับบริบทไทย โดยพัฒนาการรองรับภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่แปลข้อความ แต่รวมถึงฟีเจอร์สำคัญอย่างระบบ CRM, การจัดการโครงการ, ใบขอซื้อ, ใบสั่งซื้อ ทั้งหมดเป็นภาษาไทย

ในอีกด้าน ฐานลูกค้าที่เติบโต 300% ไม่ใช่แค่ความสำเร็จของ Kintone เพียงอย่างเดียว แต่สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลทำให้ต้องการเครื่องมือที่ใช้งานง่าย ยืดหยุ่น และไม่ต้องมีความรู้เทคนิคซับซ้อน เชื่อว่าการแข่งขันในตลาดไทยจะรุนแรงขึ้นอีก.


กำลังโหลดความคิดเห็น