สมกับเป็นไทยแลนด์แดนล้านแอป เพราะโครงการใหม่เริ่มเมื่อไร คนไทยต้องลงแอปใหม่ถ้วนหน้า ล่าสุดคือแอป Amazing Thailand ที่จะเป็นพื้นที่ใหม่สำหรับโครงการ "เที่ยวไทยคนละครึ่ง" แทนแอปเดิมอย่าง "เป๋าตัง" ที่เคยมีบทบาทในโครงการคนละครึ่งรอบก่อนหน้านี้
มหกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทยปี 2568 กลับมาอีกครั้งในชื่อ "เที่ยวไทยคนละครึ่ง" แต่ครั้งนี้เป็นหน้าที่ของแอปพลิเคชัน Amazing Thailand ภายใต้การดูแลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ร่วมกับ ThaID ซึ่งเป็นแอปพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลของกรมการปกครอง
ก่อนอื่นจะไปดูรายละเอียดเรื่องแอป เราควรรู้ไฮไลท์ของโครงการกันคร่าวๆ โดย ครม. เปืดไฟเขียวผ่านงบ 1,750 ล้านบาท มอบ 5 แสนสิทธิ์ที่รัฐจะเข้ามาช่วยจ่ายค่าที่พัก ร้านอาหารสูงสุด 50% ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน แถมมีเงื่อนไขจูงใจให้เที่ยวเมืองรอง-วันธรรมดา เพื่อรัฐจะช่วยจ่ายเต็มที่ 50% ขณะที่การเที่ยวเมืองหลัก-วันหยุด รัฐจะช่วย 40%
การออกเงื่อนไขลักษณะนี้ถือเป็นการใช้ Data มาออกแบบโปรโมชันที่น่าสนใจ เป็นการกระตุ้นให้คนกระจายตัวไปเที่ยวเมืองรองและเที่ยวในวันธรรมดา ลดความแออัดได้
สำหรับการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญจากแอป "เป๋าตัง" ที่ถูกพัฒนามาเพื่อเป็น Wallet ของภาครัฐโดยเฉพาะ มาสู่แอป Amazing Thailand จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่าแอปนี้ไม่ใช่แอปที่สร้างมาเพื่อโครงการนี้โดยเฉพาะ แต่มันคือแอปทางการหรือ Official App ของ ททท. ที่เป็นเหมือนไกด์บุ๊คดิจิทัลอยู่แล้ว มีข้อมูลที่เที่ยว ร้านอาหาร ที่พักครบครัน การนำโครงการรัฐมาผูกกับแอปนี้ จึงเป็นกลยุทธ์ที่หวังผลักดันให้คนโหลดและใช้งานแอปท่องเที่ยวของ ททท. ไปในตัว เป็นการยิงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว
ขั้นตอนการลงทะเบียนบน Amazing Thailand อาจจะวุ่นวายกว่าเดิม เนื่องจากข้อมูลที่ออกมาชี้ว่าผู้ใช้จะต้องมี 2 แอปในเครื่องก่อน หนึ่งคือแอป Amazing Thailand และสองคือแอป "ThaID" (ไทยดี)
นี่คือจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจ การยืนยันตัวตนในครั้งนี้ จะทำผ่านแอป ThaID ซึ่งเป็นแอปพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลของกรมการปกครองโดยตรง เปรียบเสมือนบัตรประชาชนดิจิทัลของคนไทย ซึ่งทางเทคนิคแล้ว ถือเป็นการยกระดับความปลอดภัยและอาจจะลดขั้นตอนที่เคยยุ่งยากในการสแกนใบหน้าในแอปเป๋าตังสมัยก่อนได้ และใครที่ยังไม่มีแอป ThaID แนะนำให้ไปโหลดและลงทะเบียนยืนยันตัวตนรอไว้เลย
สำหรับ Amazing Thailand ข้อมูลในมุมความปลอดภัยหรือ Data Safety ที่นักพัฒนาแจ้งไว้ให้ผู้ดาวน์โหลดทราบ ระบุว่า "No data collected" และ "No data shared with third parties" คือไม่มีการเก็บข้อมูลและไม่แชร์ข้อมูลให้บุคคลที่สาม แถม "Data is encrypted in transit" ข้อมูลถูกเข้ารหัสระหว่างส่ง ส่วนนี้ถือว่าดีมาก สร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้ แต่ก็ยังมีจุดหนึ่งที่ต้องจับตา คือการระบุไว้ว่า "Data can’t be deleted" หรือข้อมูลไม่สามารถลบได้ ซึ่งก็น่าจะเป็นไปตามข้อกำหนดของโครงการภาครัฐ แต่ประเด็นนี้น่าคิดต่อว่าข้อมูลที่คนไทยลงทะเบียนไปจะถูกจัดเก็บอย่างไรในระยะยาว และคนไทยมีสิทธิ์ในการจัดการข้อมูลส่วนตัวแค่ไหน ถือเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป
หากมองอีกมุม การเปลี่ยนผ่านจากเป๋าตังมาสู่ Amazing Thailand ในครั้งนี้เป็นทิศทางที่น่าจับตา เพราะอาจเป็นสัญญาณว่าภาครัฐกำลังพยายามสร้าง Single Gateway หรือ Super App ด้านการท่องเที่ยว ที่รวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว ทั้งข้อมูล โปรโมชัน และการใช้จ่าย ดังนั้น เราจะต้องติดตามกันต่อว่า Amazing Thailand จะทำหน้าที่ได้ดีแค่ไหน จะเป็นแค่ทางผ่านสำหรับลงทะเบียน หรือจะกลายเป็นแอปคู่ใจนักท่องเที่ยวไทยได้จริงๆ.